หลงในอาการปีติทำอย่างไรดีคะ??

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย aomice, 25 กรกฎาคม 2010.

  1. aomice

    aomice สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +13
    สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ ฝากตัวด้วยค่ะ ^^

    ไปปฏิบัติธรรมที่สถานที่แห่งนึงค่ะ ระหว่างที่นั่งๆอยู่ก็ขนลุกซู่ แล้วน้ำตาก็ไหล
    นึกว่าจะหาย แต่พอกลับมาที่บ้านก็เป็นอยู่ค่ะ เค้าบอกว่ามันคืออาการปีติ
    แล้วเราก็รู้สึกชอบใจในอาการนั้น คือ อยากให้มันเป็นอีกเวลานั่งสมาธิ
    ช่วงนี้ไม่ค่อยได้นั่งสมาธิแต่อาการพวกนี้จะเป็นเวลาอ่านหนังสือธรรมะหรือได้ฟังธรรม
    แต่พอศึกษาไปเรื่อยๆเค้าบอกว่า ถ้าเราหลงชอบใจในอาการพวกนี้จะทำให้การปฏิบัติของเราไม่ก้าวหน้า
    แล้วจะต้องทำยังไงคะ เราจะกำหนดหรือต้องอธิษฐานอะไรหรือเปล่าเพื่อให้อาการเหล่านี้หายไป

    ถ้ามีคำพูดอะไรไม่เหมาะสมขออภัยนะคะ ยังเด็กอยู่ แหะๆ

    อนุโมทนาสาธุกับท่านที่กรุณาตอบค่ะ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ส่วนที่เขาบอกว่า เราจะไม่ก้าวหน้า อันนี้ หมายถึง เราจะไม่เจอมันอีก
    และอาจจะไม่เจอที่แปลกว่านี้อีก

    ดังนั้น การเจอปิติ สุข ที่แปลกๆกว่านี้ จะถือเป็นความก้าวหน้า ดังนั้น
    เธอต้องทำความเข้าใจใหม่ให้ดีๆว่า

    ความก้าวหน้า คือ การเจอ และ เจอยิ่งกว่า และ ยิ่งกว่าเจอ คือเจอ
    หรือไม่เจอก็ไม่อาจทำให้ใจเราเคลื่อนได้

    นอกจากจะต้องทำความเข้าใจ เรื่อง ความก้าวหน้าแล้ว ก็ต้องมาทำ
    ความเข้าใจเรื่องจิตเคลื่อน อันนี้ก็หมายถึงมันเคลื่อนไปจากปัจจุบัน
    ที่กำลังเจอต่อหน้าต่อตา เช่น เคลื่อนไปในอดีต ไปหวลในสภาวะที่
    เคยเจอในอดีต หรือ เคลื่อนไปในอนาคต ไปละเมอเพ้อหาว่าในอนาคต
    จะเจออีกไหมในอารมณ์นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น


    อันนี้คือ อาการจิตมันเคลื่อนไปข้างหน้า มันไประลึกว่า คราวหน้าขอเจออีก มันฝุ้ง
    ไปเพราะ มันเคยเจอ เคยเห็น เคยรู้ อาการเคยเห็นเคยรู้ ก็เรียกว่ามีประสบการณ์
    มีการหมายรู้ มีปัญญาก็เรียก แต่มีปัญญาแบบนี้แล้วมันพาฝุ้งซ่านไปข้างหน้า จึง
    เป็นปัญญาที่ถูกนิวรณ์ครอบงำ ทำให้ขวางการเจริญ

    ก็จะเห็นว่า การเคลื่อนของจิต ก็คือ การเห็นผิดไปจากปัจจุบัน ไปนึกคิดในอารมณ์
    ข้างหน้า หรือข้างหลัง คำว่า ปฏิบัติ คำนี้ก็แปลว่า ซึ่งๆหน้า ต่อหน้าต่อตา ดังนั้น
    การปฏิบัติก็คือการรู้อยู่เฉพาะหน้า ที่กำลังเจอ ณ ปัจจุบัน

    อธิษฐานที่ถามถึง จึงเป็น การตั้งมั่น ในการรู้กาย รู้ใจ ลงเป็นปัจจุบัน อย่างเป็น
    กลาง ไม่เคลื่อนไปในอดีต หรืออนาคต อันเนื่องมากจากความชอบใจในรส
    อันเป็นตัณหา หรือการครอบงำของนิวรณ์(ฝุ้งไปหน้า ไปหลัง , หลงไหลรูป
    รส กลิ่น เสียง สัมผัส รู้สึก นึกคิด , โกรธ ไม่ชอบใจไปในรูป รส กลิ่น เสียง
    สัมผัส รู้สึก นึกคิด , ท้อแท้ถอยใจ , ลังเลสงสัย )

    เครื่องประกัน ให้งานอธิษฐาน และ งานปฏิบัติ ดำเนินได้ก้าวหน้า และส่ง
    ผลดีกับเราด้วย คือ ศีล5 ดังนั้น เวลาชักสงสัยขึ้นมาว่า ที่ปฏิบัติมานั้น
    ก้าวหน้าหรือเปล่า หากรู้ทันสงสัยได้(นิวรณ์)ก็รู้ทันมัน แต่ถ้าเห็นไม่
    ทันว่าเรากำลังโดนสงสัยครอบงำ ก็ตรวจที่ข้อศีล5 ถ้าไม่พร่องก็ไม่เห็น
    จะต้องตกใจอะไร แต่ถ้าปฏิบัติไปแล้ว กร่างขึ้น ใหญ่ขึ้น เจอใคร
    ไม่เคยเจออย่างเรา ก็ไปโกรธเขา ไปเหยียดเขา อันนี้คือ ผิดศีล5 ไป
    แล้ว ก็ต้องดูให้ทัน ไม่งั้น ปฏิบัติไปแล้ว มันไม่ใช่ไม่ก้าวหน้าแต่มันจะ
    เป็นเร่งเต็มสตีมลงนรก ดังนั้น ก็ให้ดูข้อ ศีล5 ไว้ให้ดี เป็นพอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2010
  3. aomice

    aomice สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุณคุณนิวรณ์มากๆค่ะ

    จะนำไปเป็นแนวทางนะคะ

    สาธุ .. สาธุ .. สาธุ
     
  4. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ตอนเเรกก็เป็นเช่นกันครับ มันไม่มีอะไรมากครับ
     
  5. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    การปฏิบัติของผมจะเน้นไปที่ปัญญาเพื่อเอามาดับทุกข์
    ความสุขนั้นหาง่ายเราหากันได้อยู่แล้ว ปัญญญาการเพิ่มพูลสติปัญญาเป็นของหาอยาก การปฏิบัติทั้งทีจึงควรสนใจปัญญาที่เป็นของหายากก่อน
    หากมีกำลังสมาธิดีแล้วไม่อยากหลงไปในปิติ ลองทำอานาปาณสติสูตรที่ได้ชื่อว่าเป็นการเจริญสติไปด้วยทุกลมหายใจ เข้าออก อาจจะช่วยให้ปิติแทรกได้ยากขึ้นครับ
     
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ปีติทำให้จิตคุณไม่นิ่ง ปีติเกิดรู้แล้วแต่คุณไม่ละ

    จิตก็หวั่นไหว ไปตาม รัก โลภ โกรธ หลง

    เมื่อใดคุณเข้าไปสงบละงับดับปีติ ได้ จิตคุณก็จะตั้งมั่น

    เป็นจิตหนึ่ง มีอารมณ์เดียว


    [​IMG]

    เป็นจิตหนึ่ง มีอารมณ์เดียว​
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    กำหนดรู้ตามอาการทุกๆครั้งทุกๆขณะ ที่เกิดอาการนั้น
     
  8. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ยังไม่เคยมีโอกาสได้ทำเหมือนกันค่ะ
     
  9. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ปิติ ก็ติดขัดกันได้ อาการของที่เรียกว่าติด คือ เวลาเรานั่งสมาธิ มักชอบเอาปิติเป็นเป้าหมาย ใจมันอยากได้แต่ปิติ อาจจะชอบในอาการนั้น เพลินในอาการนั้น หรือเข้าใจว่ามันแสดงออกถึง ด่านที่ต้องผ่านใจการเข้าสมาธิ แรก ๆ ทำไปกว่าจะได้ก็นานหน่อย แต่พอทำบ่อย ๆ จนชำนาญ นั่งปุ๊ป ไม่ถึงนาทีก็ได้เลย

    ไม่ได้มีโทษอะไรมากมาย เป็นเสมือนทางเดินที่ต้องผ่าน ไม่ต้องไปสนใจมัน เดี๋ยวก็ข้ามพ้นไปได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2010
  10. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    ก็เป็นกันทุกคนนั่นละครับ

    ขออนุญาติครับ
    ในช่วงหนึ่งของการปฏิบัติก็จะมีอาการ น้ำตาใหลแบบกลั้นไม่อยู่
    ก็เห็นเป็นกันทุกๆคนนั่นละครับ ไม่นานก็จะหายไปได้เอง
    ปฏิบัติไปๆอาจจะมีอาการแบบน้ำตาใหลพร้อมลมดันไปทุกทิศทั่วร่างอืกก็มี
    เดี๋ยวเป็นเดียวหาย เป็นเรื่องปรกติครับ
    สำคัญให้สังเกตุว่า พอเป็นแล้วจิตจะดิ่งลงรู้สึกว่านิ่งมากขึ้น สงบมากขึ้นเป็นใช้ได้
    ภาวนาไป จิตมันก็ก้าวหน้าไปก็ดีแล้วนี่ครับ พยายามหาเวลาให้ได้เพิ่มเวลาให้มากขึ้น อยากไปเร็วต้องอย่างน้อย สี่ ช.ม ต่อวันและหาเวลาไปปฏิบัติตามวัดที่เขาอำนวยความสดวกให้ไม่ต้องทำอะไรปฏิบัติอย่างเดียว อย่างเวลามีวันหยุดคล่อมเสาร์ อาทิตย์เป็นต้น อย่าให้ใกลมากจะได้ไม่ต้องเดินทางเหนื่อย สมัยนี้มีบริการรถตู้สดวกสบาย หรือหากลุ่มญาติธรรมสำหรับแชร์ค่าเดินทาง หรือหาญาติธรรมที่เขาไปประจำแล้วบริการรถตู้ไปด้วยก็ได้ ลองสอบถามพวกๆดูเดี๋ยวก็เจอ
    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกท่านครับ
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  11. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ผมก็เป็นเช่นที่คุณ jinny95 บอกเหมือนกันครับ

    แรก ๆ ทำไปกว่าจะได้ก็นานหน่อย แต่พอทำบ่อย ๆ จนชำนาญ นั่งปุ๊ป ไม่ถึงนาทีก็ได้เลย
     
  12. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ต้องเจริญให้มากให้หนัก ให้สมบรณ์ จึงค่อยวางเฉยปล่อยวาง จะเจริญครึ่งๆกลางๆ แล้วละไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่ก้าวหน้าขึ้นไปอีก คุณต้องเจริญให้สมบูรณ์ไปตามลำดับดังนี้

    กุศลศีลทั้งหลาย มีอวิปฎิสาร(ความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ)เป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีอวิปฎิสารเป็นอานิสงส์,
    อวิปฎิสาร มีความปราโมทย์เป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีความปราโมทย์เป็นอานิสงส์,
    ความปราโมทย์มีปิติเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีปิดิเป็นอานิสงส์,
    ปิติ มีปัสสัทธิ(ความสงบกายสงบใจ)เป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์,
    ปัสสัทธิ มีสุขเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีสุขเป็นอานิสงส์,
    สุข มีสมาธิเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีสมาธิเป็นอานิสงส์,
    สมาธิ มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มียถาภูตญาณ
    ทัสสนะเป็นอานิสงส์, ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะเป็น
    ประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีนิพพิทาวิราคะเป็นอานิสงส์, นิพพิทาวิราคะ
    มีวิมุติญาณทัสสนะเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมาย มีวิมุตติญาณทัสสนะ
    เป็นอานิสงส์
     
  13. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อาการที่ติดปิตินั้น....จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องธรรมดานะ...

    แก้ง่ายๆคือ ไม่ต้องไปให้ความสนใจมัน...เท่านั้นเอง....
     
  14. tah-trial

    tah-trial เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +107
    สนใจ กะ สงสัย ครับ.?
    แล้ว อาการปิตินี้ เช่น บางคนนํ้าตาใหล บางคนตัวโยกไปมา บางคนรู้สึกว่าตัวลอยได้ก็มี
    แต่ละคนมีอาการปิติแตกต่างกันเป็นเพราะอะใรครับ รึว่ามีจริตต่างกัน??
    ขอโทษที่ถามแทรกเข้ามานะครับ.^-^
     
  15. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ที่เขาบอกว่าติดแล้วจะไม่ก้าวหน้า ก็อย่างที่คุณบอกว่าอยากให้เป็นอย่างนั้นอีก .....นี่ไง มันอยากได้ มันก็จะติดอยู่กับที่นี่ไง ไม่ก้าวหน้าแน่นอน นั่งทีไร อยากได้ ทุกที แต่มันก็จะไม่ได้ แล้วก็หงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจ สมาธิก็ไม่มีทางเกิด

    พอเห็นประตูอยู่ไกล ๆ แหม...ทำเป็นดีใจ น้ำตาไหล เผลอ ๆ หัวใจวาย ไปไม่ทันถึงที่ ในประตูยังมี สุข บรมสุข ตั้งมากมาย แค่ปิติ ดีใจอยากได้อีก ...........ก็ไม่ก้าวหน้าอย่างที่เขาว่าแหละ เข้าใจหรือยัง?????????????

    ยังดีนะที่รู้ตัวว่าหลง .......พอให้อภัยได้ วิธีแก้ไข นึกย้อนไปในตอนที่ก่อนได้ปิติ อารมณ์ ความคิด เป็นเช่นไร ???? นึกให้ออก แล้วทำใหม่ อย่าไปสนใจกับการปิติ จิ๊บจ๊อย ต่อไปนี้มันก็ไม่มีทางเกิดอีกแน่นอน เพราะคุณอยากให้มันเกิดอีก ความอยาก มันก็ทำให้ใจคุณวุ่นวาย ไม่ว่าง แล้วมันก็ไม่มีทางเกิดอีก จนกว่าจะ .............ไม่อยาก.
     
  16. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    ตอบคุณ tah-trial ปิติ กับ อาการของการผ่านภวังค์

    สนใจ กะ สงสัย ครับ.?
    แล้ว อาการปิตินี้ เช่น บางคนนํ้าตาใหล บางคนตัวโยกไปมา บางคนรู้สึกว่าตัวลอยได้ก็มี
    แต่ละคนมีอาการปิติแตกต่างกันเป็นเพราะอะใรครับ รึว่ามีจริตต่างกัน??
    ขอโทษที่ถามแทรกเข้ามานะครับ

    ขออนุญาติครับ
    อาการเกิดปิติ ที่น้ำตาใหล หรือ เกิดลมดันไปทั่วร่างกายด้วยจนต้องผ่อนออกทางปากนั้น ครูบาอาจารย์บางท่านอธิบายว่า "กายทิพย์ดีใจที่ท่านปฏิบัติธรรมจึงเกิดปิติใหญ่"
    ส่วนอาการที่ว่า บางท่านตัวโยก บางท่านตัวลอย บางท่านตัวเล็กลง บางท่านตัวใหญ่ขึ้น บางท่านหล่นวูปเหมือนตกหน้าผา นั้นเป็นอาการที่จิตกำลังผ่านภวังค์เพื่อเข้าสู่สมาธิ
    ส่วนสาเหตุที่เป็นไม่เหมือนกันเพราะจริตต่างกันนั้นถูกต้องแล้ว
    ส่วนท่านที่เป็นหลายๆรูปแบบ ครูบาอาจารย์สอนว่าพวกนี้เคยเกิดเป็นนักบวช
    ที่ฝึกการผ่านภวังค์หลายๆแบบ เพื่อจะได้สอนลูกศิษย์รุ่นต่อไปได้ถูก
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  17. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,454
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    เข้ามาอ่านเเละฟังกระทู้เหล่านี้ได้เลยครับคุณ aomice นําไปปฏิบัติจะได้ไม่หลงทางครับ เจริญในธรรมครับ

    วิธีนั่งสมาธิขั้นเบื้องต้นของหลวงพ่อฤาษีลิงดํา

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=420

    อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ

    http://www.buddhism-online.org/board/index.php?topic=891.0

    ชั้นของสมาธิ ( ฟังกันหลงเรื่องนิมิตในสมาธิ )

    http://palungjit.org/threads/ขั้นของสมาธิ.1589/

    http://palungjit.org/threads/อาการของปีติ.1649/

    อาการของปีติ<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">
    Artist: ศจ.อุบาสิกา คุณรัญจวน อินทรกำแหง
    <fieldset class="fieldset"> <legend>ไฟล์ แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td width="20"><input id="play_8721" onclick="document.all.music.url=document.all.play_8721.value;" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=8721" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>035 อาการของปีติ.mp3 (2.48 MB, 3695 views)</td></tr> </tbody></table> </fieldset>
    <!-- google_ad_section_start -->อาการของปีติ โดย ศจ.อุบาสิกา คุณรัญจวน อินทรกำแหง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...