วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. Good_oom

    Good_oom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +562
    ขอบคุณ ครับ พี่ ผมจะลองไปเที่ยว วัดปทุมดู ผมชอบไปวัดอยู่แล้ว ครับ

    พี่ คณานันท์ ครับ ผมชื่อ อุ้ม นะครับ เขียนภาษาอังกฤษ อาจอ่าน เพี้ยนไปไม่เป็นไรครับ
     
  2. cochiga

    cochiga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +228
    ขอบคุณพี่คณานันท์มากๆค่ะ (ขออนุญาติเรียกพี่เหมือนน้องอุ้มนะคะ แต่ใจจริงๆอยากเรียกอาจารย์เลยค่ะ) ที่ให้ความเมตตาตอบข้อสงสัย พร้อมให้คำแนะนำต่างๆ โคชิกะเพิ่งอ่านความรู้ที่คุณคณานันท์โพสไว้ก่อนหน้านี้ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ดีจริงๆ อ่านไปแล้วเหมือนทำสมาธิไปด้วย ขออนุโมทนาในความดีงามของการเผยแพร่ความรู้ทางศาสนาและการปฏิบัติธรรมของพี่คณานันท์นะคะ ส่วนเรื่องร่างอาการสะเทือนของกายทิพย์ สังเกตุจากเมื่อวานหลังจากที่โพสคำถามไป จนมาอ่านคำตอบในวันนี้รู้สึกว่าอาการแทบจะไม่เกิดเลยค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดสะดุ้งครั้งเดียว) โคชิกะกล่าวคำอธิษฐานถึงครูบาอาจารย์ ก่อนทำสมาธิตามที่คุณคณานันท์บอกแล้วค่ะ ส่วนเรื่องแผ่เมตตาถวายบุญให้ครูบาอาจารย์ทำเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ

    ส่วนน้องอุ้ม แมวตัวนี้ไม่ใช่ของเราค่ะ จริงๆเรามีแมวอยู่ 6 ตัว แต่ตอนสมัครสมาชิกนี่ยังไม่ได้สแกนรูปน้องแมวที่บ้านเอาไว้ คือรูปที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลหรือมือถือมันไม่น่ารักเท่ารูปที่เคยถ่ายเก็บไว้ที่เป็นฟิล์มน่ะค่ะ ก็เลยเอารูปนี้ลง ตอนนี้ภาพน้องแมวที่บ้านสแกนไว้แล้ว แต่คงใช้รูปเดิมรูปนี้ต่อไปเรื่อยๆค่ะ (แน่นอนว่าแมวตัวนี้น่ารักสู้แมวที่บ้านไม่ได้เลย..ในสายตาพี่นะคะ ... อิอิ)

    ขอโมทนา สาธุ กับน้องอุ้มที่สนใจธรรมมะตั้งแต่เด็กๆค่ะ
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ก็ขอให้ก้าวหน้าในธรรมกันทุกๆคนครับ

    ขอให้ทุกๆท่านคิดเหมือนว่าเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องที่มีแต่ความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดี ให้กันและกันเสมอ ยินดีในความเจริญรุ่งเรืองของทุกคนทุกท่านครับ ถ้าคิดกันได้แบบนี้ทุกคนในสังคมจะมีความสุขขึ้นครับ

    ดูเหมือนมี"ชมรมคนรักแมว" แล้วนะครับ บ้านพี่ก็มีน้องแมวอยู่สามตัวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2006
  4. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +29,753
    คุณคนานันท์ เป็นศิษย์วัดปทุมฯเหรอครับ


    เมื่อกลางปี ผมลงไปทำธุระที่กรุงเทพฯ มีโอกาสได้ไปกราบพระที่วัดปทุม

    เหมือนกัน คืนก่อนไปแปลกใจที่เห็นตัวเองนุ่งขาวแบบพราหมณ์(อีกแล้ว)

    นั่งแถวหลังสุดเลย ในศาลากว้างๆ แล้วจีบมือทำมุทธรา และก็ฯลฯ.....


    การไปวันนั้นได้มีโอกาสทำสังฆทาน หลวงพ่อถาวรท่านนั่งเขียนหนังสืออยู่

    ขณะเราถวายกับพระรูปอื่น จู่ๆท่านก็พูดเรื่องเราขึ้นมา (แบบว่า เทศน์สอนเรื่องที่ติดขัดอยู่นั่นเอง ) ครูอาจารย์เราท่านบอกว่า หลวงพ่อถาวรท่าน
    มีภูมิธรรมในชั้นนี้ๆ แล้วนะ เราจึงหายสงสัยในสิ่งที่ท่านสอนเรา

    ที่มาเฉลยนิมิตก็คือ เพื่อนพาเราไปสวนป่าด้านหลัง พอเห็นพระพุทธรูปสีขาวที่จีบพระหัตถ์ปางธรรมจักร์ ก็เข้าใจเลย และศาลาที่เห็นมาก่อน ก็คือศาลาที่นี่เอง.....

    " สุปฏิปันโณ สาวกสังโฆ สังฆังนมามิ "....
     
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ผมนับถือในปฏิปทาของพระสุปัฏฏิบันโนทุกๆองค์ทุกๆท่านครับผม

    ที่มีโอกาสไปวัดปทุมเพราะไปแถวนั้นบ่อยครับเลยมีโอกาสได้ไปทำสมาธิที่ศาลาพระราชศรัทธา ซึ่งในหลวงเราท่านสร้างถวายในพระศาสนาไว้เพื่อให้ประชาชนได้มีที่ปฏิบัติธรรมกลางกรุงครับ

    หลวงพ่อถาวรท่านมีเจโตครับ เป็นธรรมดา ที่ท่านเมตตาคุณคงเพราะเคยมีวาสนาผูกพันกันมาในอดีต

    ส่วนพระพุทธรูปสีขาวที่เห็น เป็นพระพุทธรูปที่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านสร้างถวายเพื่อนำไปประดิฐฐานที่วัดถาวรพุทธคยา ประเทศอินเดียครับ เป็นบุญที่ได้ไปสักการะครับ


    คณานันท์
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันนี้นั่งสมาธิ พระท่านบอกผมว่าช่วงนี้ให้เน้นตอบปัญหา ในการปฏิบัติให้มาก การแนะนำเรื่องการปฏิบัติให้ขยับๆดันกันขึ้นมาหน่อย ท่านว่าอย่างไร ผมก็ทำตามนั้นครับ แล้วแต่ท่านจะสั่งครับ ดังนั้น ท่านที่มีข้อติดขัดในการปฏิบัติ ขอเชิญได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจกันครับ มีอะไรให้ผมช่วยได้ถ้าไม่เกินวิสัยผมเต็มใจและยินดีแบ่งปันความรู้ที่มีให้เสมอครับ
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    พรุ่งนี้หลวงพ่อวิชญ์ ที่ท่านทำโครงการพระซ่อมพระจะไปที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ที่บูทของรายการคนค้นคน ทีวีบูรพา ท่านที่สนใจไปสนทนากับท่านได้ครับ
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=505><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD>วิธีคิดและการใช้ชีวิตของเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก </TD></TR><TR><TD vAlign=top>[SIZE=+2]บิ[/SIZE]ลล์ เกตส์ ออกมาประกาศว่าภายในปี 2551 จะค่อยๆ วางมือและถ่ายโอนอำนาจบางส่วนจากการเป็นประธานบริษัทไมโครซอฟต์ โดยจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้
    เกตส์บอกว่าเขาไม่ได้คิดที่จะเกษียณหรือลาออกจากตำแหน่งประธาน แต่ต้องการจัดลำดับความสำคัญเรื่องส่วนตัวซะใหม่

    เรื่องส่วนตัวที่สำคัญของเกตส์นั้นคือการดูแลมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ที่ร่วมกันก่อตั้งกับเมลินด้าภรรยาเมื่อปี 2543 มูลนิธิมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบริจาคทุนการศึกษาแก่สถาบันการศึกษาทั่วโลกที่ขาดแคลนเงิน และตั้งทุนวิจัยเพื่อป้องกันและรักษาโรคเอดส์

    เพียงแค่ 6 ปีมูลนิธิของเกตส์และภรรยาบริจาคเงินช่วยเหลือคนทั่วโลกไปแล้วกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ1 ล้านล้านบาท มากเป็นที่ 2 รองจากมูลนิธิ Stichting INGKA Foundation ก่อตั้งโดย อิงก์วาร์ คามพราด มหาเศรษฐีใจบุญชาวสวีเดน เจ้าของห้างขายเฟอร์นิเจอร์ไอเคีย (IKEA) ที่ตั้งมูลนิธินี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมการประดิษฐ์คิดค้นงานด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน ที่ผ่านมาได้บริจาคเงินช่วยเหลือไปแล้ว 36,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.4 ล้านล้านบาท

    แต่ในอนาคตเชื่อว่ามูลนิธิของเกตส์และภรรยาจะเป็นมูลนิธิที่บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมสูงที่สุดในโลก เพราะ วอร์เรน บัฟเฟ็ทท์ มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพิ่งออกมาประกาศว่า

    จะบริจาคเงินจำนวน 37,000 ล้านดอลลาร์เข้ามูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation

    นิตยสารฟอร์บ จัดอันดับให้ อิงก์วาร์ คามพราด เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก มีทรัพย์สิน 28,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.1 ล้านล้านบาท

    บิลล์ เกตส์ และ อิงก์วาร์ คามพราด นอกจากจะร่ำรวยและใจบุญเหมือนกันแล้ว ยังมีอีกอย่างที่เหมือนกันคือเป็นคนประหยัด

    เกตส์ยังชอบทานฟาสต์ฟู้ดราคาถูก เวลาออกรอบเล่นกอล์ฟกับ วอร์เร็น บัฟเฟ็ทท์ เพื่อนร่วมก๊วนขาประจำ ทั้งคู่เล่นพนันกันหลุมละ 1 ดอลลาร์

    ส่วนคามพราด วัย 80 ปีประหยัดยิ่งกว่าเกตส์ เมื่อเดือนมีนาคม เพิ่งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยความภาคภูมิใจในความประหยัดและอยากให้พนักงานร้านไอเคีย 90,000 คน จาก 202 ร้านใน 32 ประเทศทั่วโลกถือเป็นแบบอย่าง

    คามพราดบอกว่าเขายังขับรถวอลโว่คันเก่าที่ใช้มา 15 ปี นั่งเครื่องบินชั้นประหยัด และแนะนำให้พนักงานของไอเคียใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า ไม่ใช่พิมพ์หรือเขียนหน้าเดียวแล้วทิ้ง

    แม้เกตส์และคามพราดจะเข้าข่ายมหาเศรษฐีขี้เหนียว แต่ทั้งคู่ก็ประหยัดเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ขี้เหนียวในการช่วยเหลือสังคม เงินที่เกตส์บริจาคผ่านทางมูลนิธิของเขาคิดเป็น 52% ของทรัพย์สินที่เขามี แม้บางคนจะมองว่าทั้งสองคนตั้งมูลนิธิเพื่อเลี่ยงภาษีและสร้างภาพ แต่ยังไงซะก็ดีกว่าการหลบเลี่ยงภาษี

    ปัจจุบัน บิลล์ เกตส์ มีทรัพย์สินมากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยก็เฉียดๆ 2 ล้านล้านบาท แต่เขาบอกว่าจะไม่ยกเงินทั้งหมดที่มีให้กับลูกทั้ง 3 คน แต่จะยกให้คนละประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ หรือ 790 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 95% จะยกให้กับมูลนิธิ

    มีคนเคยถามเกตส์ว่าทำไมถึงไม่ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับลูกทั้ง 3 คน

    เกตส์ตอบว่าเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้หากยกให้ลูกจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและกับลูกทั้งสาม เพราะปรัชญาในการดำรงชีวิตของเขาก็คือนำทรัพย์สมบัติที่มีคืนให้กับสังคม

    ได้ฟังแง่คิดในการดำรงชีวิตของ บิลล์ เกตส์ แล้วทำให้ไม่แปลกใจที่เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกที่ไม่เคยมีใครพูดถึงเขาในทางไม่ดี หรือพูดถึงด้วยความหมั่นไส้อิจฉา

    ที่มา: คลุกวงใน/พิษณุ นิลกลัด, วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1350
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>
    15-07-2006 Views: 343
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    การสร้างกำลังบุญกุศลให้เกิดขึ้น นอกจากเรื่อง ปัจจัยการเงินช่วยเหลือแล้วก็มีเรื่องของ กำลังสติปัญญาและกำลังกาย นี่ละครับ..การมีจิตใจมุ่งมั่นกระทำสิ่งดีๆให้บังเกิดผล..การเข้าช่วยเหลือผู้มีทุกข์ให้ทุเลาทุกข์..ให้ธรรมะและเติมเต็มจิตใจกันและกันในครอบครัวและบุคคลรอบข้างให้เบิกบาน การคิดดี พูดดี ทำดี..เมตตาและละเว้นความรุนแรงทั้งหลาย เหล่านี้ล้วนสร้างพลังงานด้านบวกทั้งสิ้น..ถ้าได้ลงมือกระทำสร้างพลังด้านบวกแล้ว เราจะใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด จะถูกเติมเติมให้เสมอ เหมือนคลื่นที่สะท้อนกลับคืนมาเป็นละลอกๆครับ..

    ช่วงนี้น้ำเริ่มลดลงบ้างแล้วครับ..เข้ามาทักทายครับไม่ได้หายไปไหนแต่ไม่สะดวกเรื่อง net ครับ..ขอบคุณครับคุณคนานันท์..
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอบคุณมากครับ สำหรับทุกๆท่านที่ได้เข้าใจในวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ การติดตามอ่าน ให้ข้อคิดเห็นดีๆ รวมทั้งให้กำลังใจกระทู้นี้มาตลอด

    ขอให้ท่านที่ประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่นี้ กลับสู่ภาวะปรกติและฟื้นตัวในทุกๆด้านโดยเร็วพลันนะครับ กำลังใจ ความคิดในแง่บวกและความเชื่อมั่นในความดีอย่างมั่นคงสำคัญที่สุดครับ ที่จะทำให้ทุกคนผ่านพ้นปัญหาที่เกิดขึ้นไปได้ครับ

    ที่นำเรื่องราวของมหาเศรษฐีระดับที่รวยที่สุดของโลกมาให้อ่านกันนั้นเพราะผมอยากชี้ให้ทุกท่านได้เห็นว่า "ถ้าคนที่มีความพรั่งพร้อมในทรัพยากรทุกอย่างอยู่ในมือ มีจิตใจที่ดีงามและมองเห็นประโยชน์ในการตอบแทนคืนกลับสู่สังคมโดยส่วนรวม โลกนี้ก็จะมีความสุขขึ้นจากการเผื่อแผ่ ช่วยเหลือ สงเคราะห์จากผู้ที่แข็งแรงกว่า พร้อมกว่า สู่ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า อ่อนแอกว่า ขาดแคลนกว่า ที่จริงนั้นโลกมนุษย์นั้น จะมีความสุขอย่างแท้จริงได้ จากรอยยิ้มแห่งความสุข ความเมตตา ความสำนึกในความดี ของคนทั้งโลกครับ " และอีกประการหนึ่งเรามาพิจารณามองย้อนดูในมุมกลับดูนะครับ อัครมหาเศรษฐี ทั้งสามคนนี้ ล้วนแต่สร้างตัว สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งสามคนครับ ไม่ใช่ความรวย ความมั่งคั่งจากมรดก ครับ ที่จริงแล้วสาเหตุที่มาแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ของอัครมหาเศรษฐีเหล่านี้ เกิดขึ้นจาก ความผลักดันเบื้องลึกในจิตใจอันยิ่งใหญ่ของเขาที่อยากจะช่วยเหลือสังคม ส่วนรวม อยากเปลี่ยนเเปลงสังคมโดยรวมให้ดีขึ้น ใช่หรือไม่ครับ จิตใจที่มีความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ย่อมมีพลังที่จะดึงดูดสิ่งดีๆทั้งหลายได้มหาศาล รวมไปทั้งความมั่งคั่งร่ำรวยด้วย

    เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ ที่มีปรากฏการณ์ที่แสดงถึงพุทธภูมิวิสัยขึ้นในหลายๆ ส่วนหลายๆภูมิภาคของโลกไปนี้ครับ ที่อยากยกตัวอย่างท่านอื่นให้ท่านได้ฟังอีก ได้แก่
    ผู้ได้รับรางวัลโนเบลไพรซ์ สาขา สันติภาพ ชาวบังคลาเทศ ผู้เป็นผู้ต้นคิดและก่อตั้ง ธนาคารคนจนขึ้นเป็นครั้งแรก และมีการแพร่ขยายแนวคิดดีๆของโตรงการนี้ไปยังประเทศยากจน ต่างๆทั่วโลกครับ
    ผู้ก่อตั้งกูเกิล seach engine ชื่อดังระดับโลก บริจาคเงินเพื่อลงทุนและวิจัยในโครงการNano SolarCell ซึ่งเป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่สะอาดที่สุด เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนครับ
    มหาเศรษฐีดอทคอม ทั้งหลายแห่งซิลิกอนแวลเลย์ ลงขันกันก่อตั้งกองทุนเพื่อให้เงินอุดหนุนและช่วยเหลือในโครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี่ที่สะอาด ด้วยความรับผิดชอบที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของโลกครับ

    มาดูในเมืองไทยกันบ้างครับ มีเศรษฐีไทยหลายคนเริ่มที่จะมีโครงการดีๆในลักษณะนี้กันบ้างแล้ว ก็ขอโมทนาในความดีของทุกท่านครับ ส่วนพวกเราทั้งหลาย จะมี จะจนอย่างไร ก็ตามขอให้มีความมั่นคงในความดี ทรงอารมณ์ใจในการให้ การสงเคราะห์ ความเมตตา ปรารถนาดีต่อผู้อื่นไว้ให้เป็นปรกติครับ หนทางแห่งความดีงามนั้นสามารถทำได้ในทุกๆทาง ทุกเวลาครับ

    ขอกราบโมทนาความดีงามของทุกท่านด้วยครับ
     
  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สังคมที่เราทุกคนอยู่ร่วมกันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐี คนมี คนจน ก็ต้องอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยกันทั้งนั้น ถ้าต่างคนต่างอยู่ต่างเอารัดเอาเปรียบกัน สังคมนั้นย่อมไร้ซึ่งความสุข ความสงบ

    แต่ถ้าสังคมใด ผู้คนเผื่อแผ่จุนเจือกัน ไม่เฉพาะเพียงเงินทอง หรือวัตถุภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น นั่นคือ ความรู้สึกดีๆ ความเมตตา ความเอื้ออาทร ความรัก การแบ่งปันสติปัญญา คุณธรรม ความหวังดี สังคมนั้น ย่อมเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ความสุขใจ ความอิ่มเอมใจ น่าอยู่ยิ่งกว่า สังคมใด ดังสรวงสวรรค์บนพื้นพิภพ สังคมแห่งสันติสุขแบบนี้ ไม่ไกลเกินจริง เพียงแต่เราเริ่มต้นที่ตัวเราเอง คนรอบๆตัวเรา สังคมใกล้ตัว ค่อยๆขยายออกไปประดุจการต่อเทียนให้สว่างไสวออกไปทีละเล่มจน แสงสว่างแห่งความดีงามของจิตใจ เปล่งแสงอยู่ในหัวใจของทุกคนในสังคมจนกลายเป็นสังคมแห่งความสุข ความดีงาม

    ผมอยากเห็นสังคมไทยของเราเป็นอย่างนั้นครับ และตอนนี้ผมได้ลงมือทำสิ่งนั้นแล้วครับ คุณล่ะ อยากอยู่ในสังคมที่แสนสุข งดงามหรือไม่ ช่วยกันเถอะครับ ช่วยกันในทุกดวงใจของเราเพื่อ เมืองไทยของเรา เพื่อในหลวงของเราครับ
     
  12. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,386
    ค่าพลัง:
    +22,313
    อยากเห็นเมืองไทย และ โลกเราเป็นแบบนั้นค่ะ
    ขอเป็นเทียนที่จุดสว่างเล่มหนึ่งด้วยค่ะ
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ ยิ่งค่ะพี่คณานันท์
    (อ่านแล้วปลาบปลื้มจริงๆ)
     
  13. Good_oom

    Good_oom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +562
    หลายคนช่วยกันคงทำได้นะครับ
    ผมคิดว่าผมก็กำลังเริ่มอยู่ครับ พี่
    ผมคิดว่าปัจจุบัน คนเราชอบขวนขวายหาแต่เงินอย่างเดียวโดยไม่คิดว่าจะได้มาโดยผิดหรือถูก และเอามาใช้ในสิ่งที่ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก
    ซึ่งตอนนี้เกิดปัญหาน้ำท่วมแล้วก็เกิดมาจากความอยากได้เงินเหมือนกัน
    ผมคิดว่า เงินตรา คือต้นเหตุความเห็นแก่ตัวของคนเราครับ
    ผมเคยไปขาย ซีดีเถื่อน(ตอนนี้เลิกแล้วครับ)ผมจึงได้เห็นว่า สังคมที่ไม่สงบสุขเป็นอย่างไร คือพอขายของเถื่อนก็ต้องหนีภาษี และคอยหลบๆซ่อนๆ ทางรัฐบาล และก็มีพวกเป็นตำรวจที่ยอมให้ขาย เพราะเขาก็รับเงินจากทางเราไป
    ผู้ซื้อ นั้นก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันเป็นของฟุ่มเฟือย ผมเคยเห็นซื้อไปตั่ง สิบกว่าแผ่น และนายทุนผม ก็ ทุกวันนี้ อยู่กันอย่างไม่เป็นสุข เพราะมีปัญหาทางบ้านเกือบทุกวัน เกี่ยวกับเรื่องขายของนี้

    จากการที่ผมได้ผ่านตรงนี้มาผมคิดว่า การกระทำที่เห็นแก่ได้จนลืมคิดว่าผิดหรือถูกนั้น ทำให้สังคมเดือดร้อน และทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วย ถึงแม้จะได้เงินมาเยอะ แต่มันก็ได้มาจากการทำอาชีพไม่สุจริต ไม่นานก็หมดและความทุกข์ก็ตามมา
    ในสังคมเรายังมี คนพวกนี้เยอะนัก

    จนพอผมอ่านข้อความ พี่ คณานันท์แล้ว ผมอยากให้สังคมทุกสังคมเป็นอย่างคำกล่าวครับ ผมกำลังเริ่มทำให้ มันเป็นจริงอยู่ครับ
     
  14. Good_oom

    Good_oom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +562
    ลืมบอกไป บ้านผมก็มีน้องแมวอยู่ตัวหนึ่ง
    เรื่องนี้ไม่รู้เกี่ยวข้องกับธรรมมะรึเปล่านะครับ
    คือตอนแรก บ้านผมเลี้ยงแมวตัวผู้ อยู่หนึ่งตัว สีขาวน่ารัก
    แล้วตัวนี้ ไปได้กับแมวนอกบ้าน จนมีลูกแมว ออกมาสองตัว
    ตัวหนึ่งน่ารัก อีกตัวลาย สกปรกเหมือนตัวแม่ที่เป็นแมวนอกบ้าน
    จนครั้งหนึ่งแมวตัวพ่อ ของผม ได้หายไปจากบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ
    และ ผมจึงต้องเลี้ยงแมวตัวลูกสองตัวนี้มา
    จนในบ้านผมมีกองขี้แมวอยู่ แม่ผมก็เลยคิดว่า ตัวลายสกปรกเป็นตัว ขี้ไว้
    แต่กลับเป็นตัวน่ารักที่ ขี้ไว้
    และแล้วเจ้าตัวน่ารักก็จากไปด้วยฝีมือ สุนัขข้างบ้าน
    ปัจจุบัน แมวลายสกปรกได้เติบโตขึ้น และเหมือนกับ ปาฎิหาร มันขาวขึ้นและหน้าตา ดูดี น่ารักขึ้น แถมแสนรู้อีก (เวลาขี้ก็ เข้าห้องน้ำด้วยนะครับแปลกดี)
    ยักกับ เจ้าเงาะถอดหัวแล้วกลายเป็นพระสัง
    เรื่องนี้เรื่องจริงครับ ถ้าไม่มีสาระก็เอาไว้อ่านเล่นๆคลายเครียดก็ได้
     
  15. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,386
    ค่าพลัง:
    +22,313
    N-Good oom,

    ไม่ไร้สาระหรอกค่ะน้อง.. อ่านโพสหลายโพสของน้องก็ชื่นชมค่ะ
    เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ขออนุโมทนาด้วยนะคะ
    และเป็นกำลังใจให้ค่ะในทุกๆ เรื่อง(ปกติไม่ค่อยได้โพส)

    (verygood)

    คุยเรื่องแมวนิดนึงจ๊ะ พี่ก็เคยเลี้ยงแมว และ แสนรู้..
    เข้าไปถ่ายในห้องน้ำเหมือนกันค่ะ..
    เวลาเช้าๆ ก็มาข่วนๆ ประตูห้องนอน และ ร้องเรียกให้ตื่น
    แสนรู้ - มีระเบียบวินัยค่ะ บางทีก็นึกถึงแมวตัวนี้เหมือนกัน.. ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2006
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอชื่นชมทั้งน้องมะลิและน้องอุ้มครับ น้องทั้งสองยังอายุน้อย แต่รู้จักที่คิดในสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นอีกด้วย ชีวิตของน้องๆยังอีกยาวไกลที่จะเรียนรู้และปฏิบัติธรรมครับ หนทางข้างหน้า และอนาคตที่ดีของสังคม อยู่ในการสืบต่อธรรมมะ ความดีงาม จากรุ่นสู่รุ่นครับ ขอให้มั่นคงในความดี หมั่นดูแลรักษาต้นไม้แห่งความดีงามในหัวใจของเราให้งอกงาม ออกดอกสวยอร่าม ส่งกลิ่นหอมตลอดไปนะครับ

    ขอโมทนาในความดีของน้องทุกคนด้วยครับ
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ส่วนแมวของพี่มันขอมาอยู่ด้วย ตั้งแต่เล็กๆ ขาวสวยน่ารักขี้อ้อนเป็นที่สุด แต่อนิจจา พอโตขึ้นดันกลายเป็นแมวหง่าวไปซะนี่ แถมชอบฉี่เลอะเทอะ รูปพระรูปเจ้าก็พิเรณชอบไปฉี่รดอีก เวรกรรมหนอ ก็ต้องเลี้ยงกันไป ตามวิสัยสมาคมคนรักแมวครับ
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ผมมีความเชื่อว่านอกเหนือจากการฝึกฝนจิตใจปฏิบัติธรรมโดยการเจริญวิปัสนากรรมฐาน การทำความดี การทำประโยชน์ต่อส่วนรวมแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น คือ"การพัฒนา วิธีคิดและกระบวนการคิด"ครับ เพราะจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ศักยภาพของตัวเราให้เพิ่มขึ้นในทุกๆด้านครับ ทั้งในทางโลกและทางธรรม ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือแท้ที่จริง เทคนิคการพัฒนาวิธีคิดนั้น แฝงไว้ในคำสอนของพระพุทธศาสนาในหลายๆวิธีครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีสติปัญญานำไปประยุกต์ใช้ได้มากแค่ไหน ผมขออนุญาตทะยอยมาเล่าให้ฟังนะครับ ถ้าเป็นประโยชน์ก็จงนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่เห็นจะเป็นประโยชน์หรือน่าสนใจก็คิดเสียว่าอ่านเพลินๆแล้วผ่านไปครับ

    1. การใช้รูปแบบของ"ไตรภูมิ"ในการวิเคราะห์เหตุการณ์ สถานการณ์ ผ่านรูปแบบ ของการมองภาพแบบองค์รวมมหภาค ( Big Picture) รวมทั้งการใช้ความแตกต่างในภาวะ ความคิดและพฤติกรรม ในแต่ละภพภูมิในการแยกแยะความแตกต่าง ของความน่าจะเป็นในเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการมองสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง ตลอดจน การค้าระหว่างประเทศ ถ้าเรามองแคบๆในมิติ ของเรา เราอาจจะไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจริงๆ แต่ถ้าเรามองสถานการณ์นั้นๆอย่างเปิดกว้างใน มุมมองที่กว้างขึ้น หลากมิติขึ้น ก็จะทำให้เราได้เห็นภาพ แท้จริงและเข้าใจปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น แต่จุดสำคัญของวิธีคิดแบบนี้ บางครั้งอาจจะยากที่จะทำความเข้าใจให้ผู้ที่ได้เห็นภาพรวมที่เล็กกว่าเข้าใจกับภาพรวมใหญ่ที่ปรากฏ แต่ถ้าในสังคมใดมีผู้ที่รู้จักวิธีคิดแบบนี้มากๆ สังคมนั้นก็จะอุดมไปด้วยผู้ที่รอบรู้ละเอียดถี่ถ้วนและมีวิสัยทัศน์

    ลองค่อยๆไปฝึกคิดครับ เริ่มจากการวิเคราะห์ความเชื่อมโยง เหตุผลของ ภพภูมิต่างๆ ในไตรภูมิ พระร่วงก่อนก็ได้ครับ จากนั้นจึงค่อยๆฝึกคิดฝึกวิเคราะห์ การมองเห็นภาพรวมใหญ่ของเหตุการณ์ เช่น ปรากฏการณ์โลกร้อน และผลที่จะตามมา เป็นต้นครับ ค่อยๆฝึกดูครับ วันนี้อาจจะค่อนข้างยากไปนิด เพราะเป็นวิสัยพุทธภูมิ แต่พรุ่งนี้จะแนะนำวิธีคิดแบบอื่นที่ง่ายขึ้นครับ
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    กระทู้นี้อ่านแล้วชื่นใจครับ..เห็นความตั้งใจดีของทุกๆคนที่จะสร้างสรรค์สังคมให้ฟื้นฟูกลับมามีสันติสุข บนความสับสนวุ่นวายของกระแสโลกในขณะนี้..

    ขอให้ความตั้งใจดีของแต่ละท่านจงสำเร็จผลให้ได้มากที่สุดครับ เริ่มด้วยการปลูกฝังทัศนคติที่ดีของคนหนึ่งคน สู่ครอบครัวของแต่ละคน เมื่อครอบครัวดีแล้ว ก็ออกสู่สังคมภายนอกให้กว้างขึ้น..ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ..
    ถึงจะใช้เวลามากหน่อยที่จะเปลี่ยนแปลง และการเริ่มต้นจากที่นี่หรือที่ไหนๆก็ล้วนมีอุปสรรคทั้งนั้น ขอให้มั่นคงทำกันต่อไปครับ ดีมากๆครับ..
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    รายงานผลค่ะ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ระหว่างที่ลองแผ่เมตตาอัปปันนาณญาณตามที่คุณ kananun แนะนำ รู้สึกเหมือนร่างกายถูกตรึงอยู่กับที่ จิตใจแช่มชื่นและมีสติดี ประมาณนี้แหล่ะค่ะ พอถอนออกมาก็รู้สึกงง แปลกๆ คล้าย ๆ กับที่คุณ kananun เคยเขียนไว้ แล้วต้องแผ่เมตตาอัปปัณนาณฌาณทุกวันรึเปล่าค่ะ
    ส่วนเป้าหมายในการทำสมาธินี่เหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่างแต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ต้องลองดูอีกซักพัก
    รู้สึกว่าตัวเองยังจับลมสบายไม่ได้ทุกครั้ง คงต้องฝึกไปเรื่อย ๆ
    ขอบคุณนะคะ

    ดีครับ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->การทำเมตตาอัปปันนาณญาน ได้ทุกวันยิ่งดีมากๆครับ จุดสำคัญที่ต้องการคือ "ความสุข ความปิติจากการให้ ความอิ่มใจที่ผลิบานเต็มหัวใจของเรา " ซึ่งถ้าเด็ก หรือคนส่วนใหญ่ ได้มีประสบการณ์ตรงนี้ ผมรับรองว่า สังคมมีสันติสุขแน่นอนครับ
    ส่วนอาการ งงๆ แปลกๆ นั้นเกิดขึ้นจากภาวะที่จิตแยกจากกาย นานๆ และเมื่อกลับมาสู่กายใหม่อีกครั้งจึงรู้สึกแปลกๆครับ ดังนั้นการถอนจิตออกจากสมาธิจึงต้องค่อยๆออกช้าๆ และมีสติครับ
    ส่วนลมสบายนั้น เมื่อจับหลักได้แม่นยำแล้วจะคล่องขึ้นเองครับ และจะสามมารถเข้าได้ทุกครั้งทุกเวลาที่ต้องการครับ

    ขอโมทนาในความขยันและความตั้งใจทำความดี การปฏิบัติสมาธิธรรมด้วยครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________


    <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...