ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เตือนภัยคลื่นความร้อนหลายประเทศ​

​

หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยที่แคนาดาประชาชนแห่ใช้เครื่องปรับอากาศจนหม้อแปลงระเบิด ขณะที่สหรัฐฯและอิตาลี ทางการประกาศเตือนให้ระวังสุขภาพ

โดยที่นครโตรอนโต้ของแคนาดา ประชาชนได้พร้อมใจเปิดแอร์เพื่อดับความร้อนหลังจากอุณหภูมิพุ่งทะลุ 30 องศาเซลเซียส ทำให้หม้อแปลงระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ที่สถานีจ่ายไฟไฮโดรวัน เมื่อเย็นวานนี้ ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วพื้นที่ตะวันตกของนครโตรอนโต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธนาคารหลายแห่ง ทำให้ต้องหยุดซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ยังทำให้ไฟจราจรดับเกือบหมด สร้างความปั่นป่วนไปทั่ว ผู้ขับขี่จำนวนมากต้องลงจากรถเพื่อกำกับการจราจรกันเอง ขณะที่รถไฟใต้ดินและรถบัสประจำทางต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซม และเริ่มจะมีไฟใช้ได้ในบางพื้นที่แล้ว

ส่วนพื้นที่ตะวันออกของสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐเมนเรื่อยไปจนถึงรัฐเท็กซัส ซึ่งอยู่พื้นที่ตอนกลางก็กำลังเผชิญกับอากาศที่ร้อนจัด โดยอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปถึง 32 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ทางการต้องประกาศเตือนให้ประชาชนดื่มน้ำมากๆและหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนานเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาโรคทางเดินหายใจ ทั้งนี้กรุงวอชิงตันได้ประกาศเตือนภัยถึงระดับ Code Red พร้อมเตือนว่าอุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้นถึง 39 องศาเซลเซียสในวันพรุ่งนี้

ขณะที่อิตาลีเตือนภัยคลื่นความร้อนในหลายเมือง รวมทั้งกรุงโรม มิลานและเวนิส หลังจากอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ทำให้ทั้งชาวอิตาเลี่ยนและนักท่องเที่ยวต้องหาทางคลายร้อนกันหลายวิธี ทั้งดื่มน้ำและกินไอสครีม ขณะที่พ่อค้าเกาลัดหลายคนออกมาอ้างว่าเกาลัดมีสรรพคุณช่วยคลายร้อนได้ดี ทั้งนี้อุณหภูมิที่ร้อนจัดได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คนที่เมืองเวเนโต้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 คนล้วนเป็นผู้สูงอายุ

อย่างไรก็ตาม กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลัน หลังจากเกิดฝนตกอย่างหนักนาน 1 ชั่วโมงเมื่อคืนนี้ ทำให้น้ำในแม่น้ำชาคูจิ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็วมากกว่า 35 หลังเป็นระยะทางถึง 400 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งอพยพพนักงานจากบริษัทแห่งหนึ่งออกจากอาคารหลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยังมีอีก 90 คนติดอยู่ข้างใน ล่าสุดมีรายงานผู้สูญหาย 1 คน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหา

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สหรัฐฯ-ยุโรป เผชิญคลื่นความร้อน ส่วนละตินเผชิญพายุ​

​

หลายพื้นที่ในรัฐตะวันออกของสหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับคลื่นความร้อนอย่างต่อเนื่อง หลังจากอุณหภูมิพุ่งสูงกว่าปกติ โดยที่กรุงวอชิงตันอุณหภูมิตอนเที่ยงวัน เมื่อวานนี้ พุ่งขึ้นไปถึง 37.7 องศาเซลเซียส

แต่ก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวหวั่นวิตกแต่อย่างใด ขณะที่นครนิวยอร์คก็ร้อนจัดพอกัน ส่งผลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องหาทางคลายร้อน บ้างก็เข้าไปหลบแดดตามใต้ต้นไม้ในเซนทรัล พาร์ค ขณะที่น้ำเย็นและไอศกรีมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศพุ่งสูงทำลายสถิติในรอบ 4 ปี และที่เมืองฟิลลาเดลเฟีย อุณหภูมิทะยานขึ้นไปถึง 35 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนพากันเปิดแอร์จนหม้อแปลงฟิวส์ขาด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับ กระทบประชาชนราว 1,900 คน

ส่วนที่ยุโรป อุณหภูมิในกรุงมาดริดของสเปน สูงถึง 35 องศา ประชาชนจำนวนมากพากันคลายร้อนที่บริเวณน้ำพุ และที่กรุงลิสบอนของโปรตุเกสนั้นร้อนยิ่งกว่า โดยอุณหภูมิพุ่งถึง 39 องศา และ 42 องศาที่เมืองซานตาเร็ม ซึ่งอยู่ตอนกลางของประเทศ ทางการต้องประกาศเตือนให้ประชาชนรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สุงอายุ

ข้ามไปที่อเมริกาใต้ โดยเมืองท่าวาลปาไรโซ่ ของชิลี กำลังเผชิญกับพายุรุนแรง ทำให้คลื่นยักษ์พัดเอาเรือสินค้าลำหนึงขึ้นมาเกยตื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือลูกเรือออกมาได้อย่างปลอดภัย พายุลมแรงทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และทำให้เสาไฟจราจรหักโค่นจำนวนมาก

ขณะที่ทางเหนือของเม็กซิโก แม้เฮอริเคนอเล็กซ์ จะสลายตัวไปแล้วแต่ก็ทิ้งซากปรักหักพังเอาไว้ ทั้งทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนเกือบ 18,000 คน ออกจากพื้นที่ หลังจากระดับน้ำในเขื่อนกั้นแม่น้ำบราโว่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความวิตกว่าจะเขื่อนจะรับปริมาณน้ำไม่ไหวและพังถล่ม ขณะที่อิทธิพลของพายุอเล็กซ์ยังทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องที่เมืองซาบินาสและนวยโว่ ลาเรโด้ ทำให้ต้องประกาศเตือนภัย

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คลื่นความร้อนในจีน​

​

คลื่นความร้อนที่พาดผ่าน 16 จังหวัดในจีน ส่งผลให้อากาศร้อนจัด บางพื้นที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

โดยเมื่อวานนี้ ท่าน้ำตอนเหนือของเทียนจินมีอุณหภูมิสูงถึง 40.7 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าร้อนที่สุดของเดือนกรกฎาคมในรอบ 60 ปี นิตยสาร Beijing Times รายงานว่า นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยส่งไปโรงพยาบาลเนื่องจากอากาศร้อนจัดในปักกิ่งแล้วถึง 59 คน และเมื่อวานนี้ ชายจีนวัย 27 ปี เสียชีวิตที่สถานีรถไฟปักกิ่งเพราะทนกับอากาศที่ร้อนมากไม่ไหว การใช้น้ำและไฟฟ้าก็พุ่งขึ้นสูงจนทางการจีนต้องสั่งให้บริษัทที่ใช้พลังงานน้ำ และไฟฟ้าสูงกว่า 1,000 บริษัท เช่น บริษัททำกระดาษ และ บริษัทถลุงเหล็ก ต้องลดการผลิตลงเป็นเวลา 15 วัน นับจากเดือนนี้เป็นต้นไป เพื่อที่จะให้มีพลังงานไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนตามบ้านเรือน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

เขย่าแอลเอ ดินไหว5.4ริกเตอร์ คนไทยผวา

<table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">
</td></tr></tbody></table> แผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย แรงสั่นสะเทือนรู้สึกไกลถึงแอลเอ ส่งผลให้สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ต้องหยุดเครื่องเล่นผาดโผนชั่วคราว ขณะที่คนไทยจำนวนมากต่างตื่นตระหนก...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับปานกลาง วัดระดับความรุนแรงได้ 5.4 ริกเตอร์ เมื่อเวลาประมาณ 16.53 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ศูนย์กลางอยู่อยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 28 ไมล์ บริเวณเมืองปาล์ม สปริงส์ ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียหรือราว 130 ไมล์ทางตะวันออกของลอสแองเจลิส

แผ่นดินไหวครั้งนี้แรงสั่นสะเทือนรูสึกได้ถึงกลางมหานครลอสแองเจลิส

เจ้าหน้าที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในแคลิฟอร์เนียต้องสั่งหยุดเครื่องเล่นผาดโผนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันคนไทยที่อยู่ในแอลเอจำนวนมากต่างตกใจ โทรศัพท์สอบถามกันวุ่นวาย แต่ไม่มีใครได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บ

<center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</center>

 

เย็นวานนี้ก็ได้เห็นเมฆแผ่นดินไหวที่บ้าน ประเทศเบลเยี่ยมเหมือนกัน อยู่มาสิบปีไม่เคยเห็นท้องฟ้าแบบนี้ พยายามจะเอารูปมาลงแต่ทำไม่เป็น ได้แต่เก็บไว้ดูคนเดียว

ขอให้พี่น้องทุกท่านอย่าได้ประมาทกับภัยทั้งหลายนะค่ะ ดูเหมือนว่าทั่วโลกกระทบและต้องปรับตัวกันมากๆ ที่ยุโรปตอนนี้ร้อนมากๆ มาเป็นเกือบสองอาทิตย์แล้ว วันนี้ก็๒๙องศาค่ะ

บุญรักษาทุกท่านค่ะ

 

เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆครับ ช่วงนี้ สำหรับภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก

 

ล่าสุดแผ่นดินไหวอันดามัน 5.2 ริกเตอร์



http://earthquake.usgs.gov<wbr>/<wbr>earthquakes/<wbr>recenteqsww/<wbr>Quakes/<wbr>quakes_all.php


Update time = Thu Jul 8 15:22:07 UTC 2010


<table style="width: 1166px; height: 468px;" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr> <th>
</th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </th> <th align="center">LAT
deg </th> <th align="center">LON
deg </th> <th align="center">DEPTH
km </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.2 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 13:46:59 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 14.361 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 93.241 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 36.3 </td><td valign="top"> ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.4 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 12:48:20 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -23.963 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -179.792 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top">490.3 </td><td valign="top"> SOUTH OF THE FIJI ISLANDS</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 12:32:53 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 33.441 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -116.413 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 7.8 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 3.6 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 12:26:27 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 52.683 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -172.731 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 41.3 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 12:23:27 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 42.801 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 144.360 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 32.1 </td><td valign="top"> HOKKAIDO, JAPAN REGION</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.5 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 11:19:09 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 32.465 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -115.649 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 1.7 </td><td valign="top"> BAJA CALIFORNIA, MEXICO</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 10:03:14 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 32.942 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -116.300 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 7.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 05:49:45 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -34.382 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -71.822 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 35.0 </td><td valign="top"> LIBERTADOR O'HIGGINS, CHILE</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.8 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 04:55:18 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -5.632 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 153.802 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 82.0 </td><td valign="top"> NEW IRELAND REGION, PAPUA NEW GUINEA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.8 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 04:03:40 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 51.053 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -176.868 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 25.6 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 03:35:55 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 32.694 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -115.957 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.0 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 03:15:49 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 61.850 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -150.473 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 20.8 </td><td valign="top"> SOUTHERN ALASKA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.8 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 03:14:02 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 48.340 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 148.784 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top">388.3 </td><td valign="top"> NORTHWEST OF THE KURIL ISLANDS</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.5 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 02:36:18 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 46.172 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -123.415 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.5 </td><td valign="top"> OREGON</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 3.4 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 02:34:36 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 33.454 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -116.485 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 10.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 4.5 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 02:19:13 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 10.996 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -86.407 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 35.0 </td><td valign="top"> OFF THE COAST OF COSTA RICA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 01:12:56 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 33.384 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -116.451 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 11.4 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 3.0 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 01:07:11 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 33.443 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -116.415 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 6.9 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 3.0 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2010/07/08 01:01:44 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 19.158 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -66.923 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 15.9 </td><td valign="top"> PUERTO RICO REGION

</td></tr></tbody></table>

 

เอเลี่ยนสปีชีส์ คุกคามไทย ระบบนิเวศล่ม

วันที่ 8 กรกฎาคม 2553


นักวิชาการ แฉ สารพัดเอเลี่ยนสปีชีส์นับร้อยชนิด กำลังเป็็นภัยคุกคามสิ่งแวดล้อมไทยหนัก ทำลายสัตว์พื้นเมืองและระบบนิเวศ จนใกล้สูญสิ้น เตือนทุกฝ่ายเร่งหาทางแก้ไข...

ศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยในการเสวนาเรื่อง “เอเลี่ยนสปีชีส์ ภัยร้ายความหลากหลายทางชีวภาพ” ว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ ปี 2553 เป็นปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ขณะที่ปัจจุบัน การรุกรานของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ถือเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก เพราะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของชนิดพันธุ์พื้น เมือง ทั้งยังอาจนำเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคต่อคน สัตว์ และพืช เข้ามาแพร่ระบาดด้วย

สำหรับชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ที่เข้ามารุกรานในประเทศไทยรุนแรง ได้แก่ หอยเชอรี่ แพร่ระบาดในพื้นที่ทุกจังหวัดในทุกภาคของประเทศ สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตร และพืชน้ำต่างๆ มากมายและกว้างขวางโดยเฉพาะข้าว หอยทากยักษ์แอฟริกา มีการแพร่กระจายไปออกไปทั่วประเทศและการที่กินอาหารได้หลายอย่างทำให้เป็นปัญหากับพืชหลายชนิด หอยกะพงเทศ มีรายงานการระบาดบริเวณ ทะเลสาบสงขลา จ.สงขลา เต่าแก้มแดงหรือเต่าญี่ปุ่น กิน ทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร พืชผัก ผลไม้ และสัตว์น้ำขนาดเล็ก ทั้งพืชสด พืชเน่า สัตว์เป็น และสัตว์ตาย อาศัยอยู่ได้ในน้ำเน่า หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีได้ดีกว่าเต่าไทย แพร่พันธุ์ได้เร็วและมากกว่าเต่าไทย วางไข่ได้แม้แต่ในสนามหญ้า เนื่องจากสามารถสะสมน้ำเอาไว้ในกระเพาะได้เยอะ มีส่วนให้เต่าไทยตกอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์

ศ.ดร.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตะพาบไต้หวัน มีมากที่ จ.ระยอง ชลบุรี ตราด และเพชรบุรี มีนิสัยที่ดุร้าย ปลากดหลวง ต้นสาบหมา มีการระบาดโดยส่วนใหญ่ขึ้นปกคลุมเป็นพื้นที่ ทำให้พืชอื่นขึ้นได้ยาก และเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงในลำต้นและใบมีสารยับยั้งการงอกและชะลอการเจริญ เติบโตของพืชหลายชนิด ผักตบชวา ไมยราบยักษ์ แพร่ กระจายจากภาคเหนือสู่ประเทศและจังหวัดใกล้เคียง ตั้งแต่ตอนเหนือของแม่น้ำโขง เข้าไปในลาว และพม่า ทางตอนใต้เข้าสู่จังหวัด ลำปาง ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และกระจายสู่ทุกภาคของประเทศ นากหญ้า หอยข้าวสาร ปลาซัคเกอร์ American Bullfrog ไส้เดือนยักษ์มีขนาดตัวใหญ่ เส้น ผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร และยาวมาก ชนิดที่ยาวที่สุดสามารถยาวได้กว่า 7เมตร การเคลื่อนที่ใต้ดินทำให้เกิดการพังทลายขอองหน้าดิน หรือ Land slide ซึ่งถ้าหากเกิดในเขตชุมชน หรือที่อยู่อาศัยของมนุษย์ จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก แมงมุมแม่หม้ายสีน้ำตาล แพร่กระจายในแถบชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลองและอ่าวไทยตอนบน พบมากที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

สำหรับ สถานการณ์การระบาดตอนนี้ยังมีเอเลี่ยนสปีชีส์อีกหลายชนิดที่ยังไม่เป็นที่ รู้จักแพร่หลาย แต่จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ได้แก่ หอยม้าลาย, กระรอกสีเทา, คางคกไร่อ้อย, ผึ้งเพชฌฆาต และไส้เดือนยักษ์แอฟริกา

อย่าง ไรก็ดีหากยังคงมีการนำเข้าเอเลี่ยนสปีชีส์ โดยไม่มีการควบคุม เชื่อว่าในอนาคตจะก่อให้เกิดการล่มสลายของระบบนิเวศ รวมถึงสร้างผลกระทบทั้งในด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของคนไทยด้วย ทั้งนี้ ในเดือน ต.ค.นี้ จะมีการรวบรวมบัญชีรายชื่อชนิดพันธุ์ต่างถิ่นอย่างเป็นระบบอีกครั้ง

ด้าน น.ส.โสมวรรณ สุขประเสริฐ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานมักเกิดจากความไม่รู้ การขาดความเข้าใจที่ชัดเจน ส่งผลให้ความตระหนักในการดูแลชนิดพันธุ์ต่างถิ่นลดน้อยลง เมื่อชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่มีศักยภาพรุกรานบางชนิดแพร่ออกสู่ธรรมชาติ จะก่อให้เกิดปัญหาทั้งด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสุขอนามัยมนุษย์ จนยากเกินกว่าจะแก้ไข ปัจจุบันประเทศไทยได้รวบรวมข้อมูลชนิดพันธุ์ที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นไว้ประมาณ 3,500 ชนิด แต่ที่มีศักยภาพรุกรานในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 182 ชนิด



ทีมา : http://news.giggog.com

 

ต้องเตรียมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง!!!​

​

​

บทความพิเศษเขียนโดย สิริอัญญา
วันจันทร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๐:๒๒ น.

เมืองไทยของเรากำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายทางเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง แต่ขณะนี้คนไทยยังตีกันเองไม่เลิก หลายหน่วยงานยังทะเลาะเบาะแว้งและขัดแย้งกัน จนแทบจะบริหารบ้านเมืองไปไม่ได้

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องบอกกล่าวเตือนภัย ให้คนไทยทั้งหลายได้เตรียมตัวเตรียมใจ เผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่

จะต้องหยุดทะเลาะ หยุดขัดแย้ง หยุดแตกแยก กันไว้สักพักหนึ่ง แม้นักการเมืองก็ต้องหยุดโกง หยุดบ้าบอคอแตก และหยุดแก้รัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อน หาไม่แล้ววิกฤตคราวนี้จะทำเอาบ้านเมืองและทุกภาคส่วนของสังคมยับเยินป่นปี้ จนยากที่จะแก้ไขให้ฟื้นคืนดีได้อีก

วิกฤตทางเศรษฐกิจรอบที่แล้วที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2551 เป็นวิกฤตที่ไม่ได้เกิดจากประเทศไทย เพราะเกิดขึ้นและเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกา ที่ฟองสบู่ทางเศรษฐกิจแตกระเบิดเถิดเทิงแล้วส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย

ต้องใช้เงินและทรัพยากรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเพื่อบรรเทาเบาบางวิกฤตนั้น แม้ในบ้านเมืองของเราที่ได้รับผลกระทบชั้นปลายแถว แต่ความหนักหน่วงของวิกฤตก็รุนแรงไม่แตกต่างอันใดกับเมื่อครั้งวิกฤตปี 2540

มันเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลปัจจุบันเพิ่งตั้งไข่ใหม่ ๆ และยังผสมโรงด้วยการป่วนบ้านป่วนเมืองเพื่อไม่เปิดโอกาสให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับกันว่ารัฐบาลได้รับมือกับวิกฤตรอบนั้นให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

แต่แลกมาด้วยการทุ่มเทเงินทองและทรัพยากรครั้งใหญ่ที่สุดและมากกว่าเมื่อครั้งวิกฤตปี 2540 เสียอีก แม้กระทั่งการเอาเงินไปแจกแก่ประชาชนก็ต้องฝืนใจและจำใจทำ ท่ามกลางเสียงติฉินนินทาของผู้ที่ไม่เข้าใจ และในวันนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามาตรการทั้งหลายที่รัฐบาลได้ใช้ไปนั้นได้ผล และสามารถหยุดยั้งวิกฤตไม่ให้ลุกลามบานปลายจนกระทั่งเศรษฐกิจไทยเริ่มตั้งตัวได้

แม้ว่าตั้งตัวได้ แต่ยังคงเปราะบางยิ่งนัก หากประมาทพลาดพลั้งและเผชิญหน้ากับคลื่นลมแรงทางเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง โชคก็อาจไม่ดีเหมือนรอบที่ผ่านมา

วันนี้ไม่ต้องเถียงกันหรอกว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะเป็นไปในรูปตัว L หรือตัว V หรือตัว W หรือตัว M เพราะนักเศรษฐศาสตร์นั้นย่อมมีข้อโต้เถียงกันได้ไม่มีวันจบสิ้น ก็เหมือน ๆ กับนักกฎหมายนั่นแหละ ลงไม่ได้โต้ไม่ได้เถียงกันแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไร้คุณค่าหมดราคาไปเสียเลย

เพราะไม่ว่าจะเถียงกันไปในทางไหน ความจริงมันก็เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่ารัฐบาลนี้ได้หยุดยั้งวิกฤตทางเศรษฐกิจเอาไว้ แต่สภาวการณ์ยังคงเปราะบางยิ่งนัก หากจะเผชิญหน้ากับวิกฤตรอบใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงเป็นปัญหาที่บรรดาผู้ทรงปัญญาวิชาคุณทั้งหลายจะต้องร่วมจิตร่วมใจกันคิดอ่านป้องกันแก้ไข ไม่ใช่เอาแต่โต้เถียงกันเพื่อความเพลิดเพลินบันเทิงใจ

วิกฤตทางเศรษฐกิจรอบใหม่ที่ก่อเค้าและใกล้ระเบิดแล้วนี้ก็เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาอีกนั่นแหละ และจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเช่นเดิม แต่อาจจะหนักหนาสาหัสกว่าเดิมหลายเท่า

เหตุที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐก็เป็นวิบากกรรมของสหรัฐเอง ที่ทั้งรัฐบาลและประชาชนต่างกระตุ้นเศรษฐกิจกันตามวงจรชีวิตแห่งโลกทุนนิยม หรือลัทธิบริโภคนิยม จนเกิดหนี้สินล้นพ้นตัว

หากเปรียบเทียบเป็นคนธรรมดาหรือนิติบุคคลธรรมดาแล้วก็กล่าวได้ว่าสหรัฐอเมริกาทั้งประเทศและชาวอเมริกันทั้งประเทศขณะนี้ตกอยู่ในภาวะล้มละลายแล้ว เป็นหนี้สินล้นพ้นตัวจนไม่มีทางที่จะชำระหนี้สินได้อีกเลย

และได้รับผลกระทบจากการทุ่มเทเงินทองและทรัพยากรจำนวนมหาศาลไปในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจรอบที่แล้ว จึงซ้ำเติมให้ระบบเศรษฐกิจย่ำแย่หนักลงไปกว่าเก่า จนเจ้าหนี้รายใหญ่ ๆ ไม่ไว้ใจ ถึงกับต้องเรียกหนี้คืนด้วยวิธีการขายคืนพันธบัตรและตราสารต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

ในกลางปีนี้ จีนก็ได้ถอนเงินฝากในรูปของการขายพันธบัตรคืนเป็นเงินกว่า 800,000 ล้านบาท และลูกหนี้ไม่มีเงินจ่าย ต้องไปอ้อนให้อังกฤษและญี่ปุ่นเข้าไปรับซื้อหนี้แทน แล้วภาวะอย่างนี้ก็ได้ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐต่อไปด้วย ทำให้จำนวนหนี้ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายทั้งหลายก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

มาตรการแก้ไขวิกฤตทางเศรษฐกิจแบบโลกทุนนิยมนั้นไม่มีอะไรมาก คือเร่งใช้จ่าย เพิ่มหนี้ และกระตุ้นการบริโภคกัน จนท้องแตกไปตาม ๆ กัน เพราะฉะนั้นบรรดาหนี้เสียหนี้สูญจึงเพิ่มพูนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

ขณะนี้สถาบันการเงินตามรัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศร่วม 400 แห่งกำลังใกล้เจ๊งเต็มทีแล้ว สถาบันการเงินเหล่านี้มีทรัพย์สินรวมกันกว่า 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ที่จีนเป็นเจ้าหนี้ของสหรัฐอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีจำนวนถึง 748,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

คนฝากเงินก็พากันไปถอนเงิน ในขณะที่สถาบันการเงินเหล่านั้นไม่มีปัญญาจ่ายคืนให้แก่ผู้ฝากเงิน สภาพเช่นนี้กำลังเกิดขึ้นโดยทั่วไป แต่มันเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลกลางได้ใช้จ่ายเงินไปแทบสิ้นประดาตัวแล้ว และจะก่อหนี้ใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหนี้เก่าที่มีอยู่เจ้าหนี้เขาก็ไม่ไว้วางใจ กำลังทวงถามไถ่ถอนกันจ้าละหวั่น

ดังนั้นจึงเป็นที่คาดหมายกันได้แล้วว่า 400 สถาบันการเงินจะเจ๊งเป็นเงินถึง 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะกลายเป็นระเบิดลูกโซ่ที่ระเบิดตูมตามไม่หยุดไม่หย่อน จนพังพินาศไปทั้งระบบ

เพราะสถาบันการเงินทั้ง 400 แห่งนี้ ด้านหนึ่งก็มีผู้ฝากเงินที่จะต้องได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการถอนเงินฝากไม่ได้ แล้วจะเกิดภาวะขาดสภาพคล่อง และความไม่สามารถชำระหนี้หรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ตามมาอีกต่อหนึ่ง

ในอีกด้านหนึ่ง สถาบันการเงินทั้ง 400 แห่งนี้ก็มีลูกหนี้ที่ได้รับสินเชื่อไปในการประกอบธุรกิจและในกิจการต่าง ๆ แม้กระทั่งเงินกู้ส่วนบุคคล ที่เมื่อสถาบันการเงินขาดสภาพคล่องแล้วก็จะไม่มีวงเงินใช้สอยอีกต่อไป หรือไม่ก็ถูกเร่งรัดเรียกหนี้สินคืน และทำให้กระแสของเงินที่หมุนเวียนต้องหยุดชะงักตามไปด้วย

เป็นสภาพเดียวกันกับการปิด 56 สถาบันการเงินเมื่อครั้งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ในประเทศไทย ซึ่งเกิดผลกระทบทั้งด้านผู้ฝากเงินและกระทบทั้งด้านผู้ประกอบการและผู้ใช้สินเชื่อที่ต้องได้รับผลกระเทือน กระทั่งล้มละลายไปตาม ๆ กัน

แต่เหตุการณ์ปิดสถาบันการเงิน 56 แห่ง ในครั้งนั้นจะเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยแค่หยิบมือเดียวเมื่อเทียบกับการล่มสลายของ 400 สถาบันการเงินของสหรัฐ แรงระเบิดและผลกระทบที่ต่อเนื่องนั้นเทียบกันไม่ได้

มันจะส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนและทุกมลรัฐในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลกลางก็จะรู้ตัวดี ดังนั้นจึงต้องจำใจทำในสิ่งที่สหรัฐไม่เคยทำมาก่อนนับตั้งแต่สถาปนาสหรัฐอเมริกา

นั่นคือการเลิกโครงการเกราะป้องกันการโจมตีจากอวกาศที่จะดำเนินการในยุโรป การลดค่าใช้จ่ายทางการทหาร ที่ถึงกับต้องชะลอการตัดสินใจทางการทหารในหลายภูมิภาคของโลก แม้กระทั่งในภาคแปซิฟิค ฝ่ายทหารของสหรัฐอเมริกาก็วิตกกังวลว่าจะไม่สามารถพัฒนาได้ทันกับความเติบใหญ่ทางแสนยานุภาพทางนาวีของจีน ซึ่งจะคุกคามต่อปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในภาคแปซิฟิคในอนาคต

ก็ในธนบัตรสหรัฐนั้น แม้ไม่มีเงินสำรองหนุนหลัง แต่ก็มีของหนุนหลังอยู่อย่างหนึ่งนั่นคือแสนยานุภาพทางการทหาร ดังที่พิมพ์ไว้ในธนบัตรนั้นเองว่า In God We Trust โดยความหมายที่แท้จริงก็คือ In Gun We Trust

ดังนั้นเมื่อจำเป็นและจำใจที่จะต้องหยุดโครงการและปฏิบัติการมากหลายทางการทหาร เพื่อรับมือกับวิกฤตครั้งใหม่ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อภาคการเงินและคุณค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นสิ่งที่แก้ไขให้ฟื้นคืนดีได้ยากที่สุด

ประเทศไทยของเราแม้อยู่ปลายลมทอร์นาโดทางเศรษฐกิจลูกนี้ แต่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบย่อมไม่พ้น ดังนั้นในภาวะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังเปราะบางนัก จึงเป็นเรื่องที่จะต้องเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วน โดยรัฐบาลต้องเป็นผู้นำในการเตือนภัยและเตรียมการระวังภัยในครั้งนี้

สำหรับรัฐบาลเอง จำเป็นที่จะต้องทบทวนแผนการใช้เงินตามงบประมาณและโครงการเงินกู้ต่าง ๆ โดยต้องชำเลืองมองเค้าเมฆใหญ่แห่งวิกฤตที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามาทุกทีด้วย

เพราะถ้าหากมัวแต่กระตุ้นเศรษฐกิจ มัวแต่ทุ่มงบประมาณ และใช้จ่ายเงินเกินตัว แถมยังกระตุ้นให้ประชาชนเพิ่มการบริโภคให้มากขึ้น ก่อหนี้สินให้มากขึ้นแล้ว เมื่อวิกฤตนั้นมาถึงก็จะสิ้นไร้เรี่ยวแรงในการรับมือ และเมื่อนั้นความล่มสลายทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศและภาคธุรกิจตลอดจนประชาชนก็จะมาถึง

หมายเหตุ : บทความเรื่องนี้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2552

ที่มา http://www.paisalvision.com/content/88-features/3087-2009-09-28-03-28-09.html

 

คลื่นยักษ์และสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกา​

​

​

ไบเบิลโค้ดปีนี้ถูกหมดทุกรายละเอียด เกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เฮติและชิลี

BIBLE CODE: GEN:6:3: HAITI - JANUARY 2010-
EARTHQUAKE - DESTRUCTION - MASS DEATH

BIBLE CODE: GEN:1:14: CHILE- FEBRUARY 2010
MAJOR EARTHQUAKE- DESTRUCTION -DEATH

และที่สำคัญคำเตือนว่าประเทศที่จะโดนต่อไปคือ อเมริกา และ อิหร่าน ดังนี้
Matthew 27:54-Phil. 2:19 ANDREAS (ELS=58201) คือรอยเลื่อนที่อยู่ผ่านแถบชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา หรือรัฐแคลิฟอเนียร์เป็นส่วนใหญ่ LA จะถล่ม

-- EARTHQUAKE
-- EIGHT
-- TWO TEN (year 2010?)
-- BE DIVIDED, HE CANNOT STAND, SAND, THRUST US OUT
-- BE BROKEN, THE DEAD (the
-- YEAR, FROM BENEATH

BIBLE CODE 2010 (5770)- SEPTEMBER- IRAN - MAJOR EARTHQUAKE

ครั้งต่อไป วันที่เกิด - วันที่ 3 กันยายน 2010 เิกิดเล็กประมาณ 7.4 ริกเตอร์
บริเวณเกิิด - ฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ

วันที่เกิด - วันที่ 10-11 กันยายน 2010
บริเวณเกิิด - เกิดใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิค และทำให้เกิดคลื่นซึนามิยักษ์สูงหลายร้อยฟุตพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกา

ถ้าผิดก็อย่าว่ากันเพราะไม่มีใครทำนายแผ่นดินไหวได้ ถึงบอกว่าทำนายได้ก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี ถ้าถูกตามนี้ก็ค่อยถามแ้ล้วกันว่า รู้ได้ยังไง เอาข้อมูลมาจากไหน SAVE กระทู้นี้เก็บไว้เป็นหลักฐานหน่อยก็ดี เพื่อรอดูผลว่าจะิเกิดหรือไม่ (วันตั้งกระทู้ วันที่ 13 มีนาคม 2010)

เพิ่มเติมครับ เรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ที่แปซิฟิกครั้งนี้ ใหญ่หลวงมากขนาดทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงเป็นร้อยฟุตถล่มชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาเหนือ คือกวาดลอสแองเจลิส และเมืองใหญ่ชายฝั่งตะวันตกเรียบเลยทีเดียว ไม่ใช่ซึนามิแบบเด็ก ๆ ที่เคยเกิดที่เมืองไทยน่ะ ที่มาทำนายนี้ มาจากนิมิต ไม่ใช่ Bible Code และที่สำคัญต่อมาคือ เขาทำนายว่า

จะเกิดกลียุคหรือสงครามกลางเมืองในอเมริกาพร้อม ๆ กับการใช้ Martial Law หรือ พรก. ฉุกเฉิน + กฎอัยการศึก แบบบ้านเรานั่นแหละ และ รัสเซียกับจีนอาจจะถือโอกาสบุกอเมริกา เกิดสงครามโลกครั้งที่สามได้ในปีนี้ 2010 เรื่องสงครามนิวเคลียร์นี้ กำลังแปลนิมิตที่เขาเห็นมาให้อ่าน อเมริกาจะถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ในเมืองใหญ่ ๆ คนตายเป็นล้าน ๆ

และหลายฝ่ายทำนายคล้ายกันว่าปี 2012 จะมีผู้มาจากต่างแดนไกลหรือมนุษย์ต่างดาวมาเพื่อยุติสงครามโลกนิวเคลียร์นี้ และประกาศตัวเป็นจ้าวโลกควบคุมมนุษย์ทั้งหมด

แต่ที่แน่ ๆ แผ่นดินไหวใหญ่ใน กันยายน ปีนี้ต้องจับตาดูอย่ากระพริบตา รับรองว่าช๊อกกันทั้งโลกแน่ ๆ เพราะอาจะทำให้โกลาหลวุ่นวายทั้งโลกเพราะมันจะทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่าหายนะ 2012 คงเกิดจริงแน่ ๆ !

โดยคุณ 1P2M

ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jesuscomingverysoon&date=06-04-2010&group=1&gblog=11

 

ภูเขาไฟใต้ทะเลอาจจะระเบิดนะ

It’s likely to cause a giant explosion with the change in the ocean floor and a Tsunami that they estimate could between 80 to 200 feet high going four to six hundred miles an hour. It could carry 50 to 100 miles inland.

Methane Explosions:
There’s hundreds of millions of tons of methane hydrates. Hundreds of millions of tons. It’s all frozen, but what happens is that it doesn’t need oxygen because of the actual chemistry down there. Some of the things they’re doing could ignite the methane hydrates and cause itself, without these other events like the volcanic Tsunami, could cause also a Tsunami. So we have two possible mechanisms that could cause a Tsunami and push oil and debris and boats and oil rigs. This is the other danger. It could destroy 40% plus of the production rigs in the United States and kill millions of people.​

 

อ้าวแผ่นดินไหวที่ดอยสะเก็ดหรือนี่ แวะมาพักที่นี่ด้วยสิ
สงสัยเมื่อคืนมัวแต่ปะทะคารมกับอาจารย์สอนธรรม
เลยไม่รู้สึกเลย


catt3

 

Flights diverted, delayed as UFO detected hovering

By Yang Yijun (China Daily)
Updated: 2010-07-09 07:39


<TABLE style="BORDER-TOP: #999999 1px dashed; FONT-SIZE: 11px; MARGIN-LEFT: 20px; PADDING-TOP: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD align=right width=220><SCRIPT language=javascript src="../../../js/2009tools_e_1.js" type=text/javascript></SCRIPT><LINK href="http://www.chinadaily.com.cn/css/2009style_e.css" type=text/css rel=stylesheet> Comments(7) PrintMail
</TD><TD></TD><TD class=black width=248>Large Medium Small<SCRIPT language=JavaScript type=text/javascript><!--//<![CDATA[function GetObj(objName){ if(document.getElementById){ return eval('document.getElementById("' + objName + '")'); **else if(document.layers){ return eval("document.layers['" + objName +"']"); **else{ return eval('document.all.' + objName); ****//========================= 设置字体大中小 start ============= function doZoom(size){ var artibody = GetObj('Content'); if(!artibody){ return; ** var artibodyChild = artibody.childNodes; artibody.style.fontSize = size + 'px'; //再对artibody div内的直接html节点设置fontSize属性 for(var i = 0; i < artibodyChild.length; i++){ if(artibodyChild.nodeType == 1){ artibodyChild.style.fontSize = size + 'px'; ** ** **//========================= 设置字体大中小 end ============= //]]> --></SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<!--enpproperty <date>2010-07-09 07:39:13.0</date><author>Yang Yijun</author><title>Flights diverted, delayed as UFO detected hovering</title><keyword>UFO,Hangzhou,Xiaoshan,air traffic</keyword><subtitle></subtitle><introtitle></introtitle><siteid>1</siteid><nodeid>158963</nodeid><nodename>Society</nodename><nodesearchname>2@webnews</nodesearchname>/enpproperty--><!--enpcontent--><TABLE style="FONT-SIZE: 14px" border=1><TBODY></TBODY><TBODY></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; FONT-SIZE: 14px; BORDER-LEFT-COLOR: #ffffff; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #ffffff; WIDTH: 80px; BORDER-TOP-COLOR: #ffffff; HEIGHT: 20px; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT-COLOR: #ffffff" cellSpacing=2 borderColorDark=#ffffff cellPadding=1 align=center borderColorLight=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD style="MIN-HEIGHT: 16px; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" vAlign=center align=middle>

​

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ufo โผล่ที่จีน จะมีอะไรป่าวเนี่ย

 

<table id="post3520879" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 01:38 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #24 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->fernezzo<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3520879", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2008
อายุ: 24
ข้อความ: 269
Groans: 12
Groaned at 9 Times in 7 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 30
ได้รับอนุโมทนา 363 ครั้ง ใน 141 โพส
พลังการให้คะแนน: 62


</td> <td class="alt1" id="td_post_3520879" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->จาก ข้อมูลใหม่ของกลุ่มผม (ANWOA) และ NAU Resistance (North American Union Resistance) ทราบว่าดาวเนบิรุถูกทำลายไปแล้ว โดยที่อะนุนนากิสร้างยานอวกาศลำยักษ์ไว้อยู่แทนดาวบ้านเกิด และมีอาณานิคมใหญ่อยู่ที่กลุ่มดาวอัลฟา ดราโคนิส ครับ และพวกเค้าจะกลับมาจริงในเร็วๆนี้ แต่อาจไม่ใช่เนบิรุ !! แต่เป้าหมายคือ re-take โลกนี้อีกครั้ง เพื่อสร้างมนุษย์เจนเนอเรชั่นที่ 4 ต่อไป<!-- google_ad_section_end --> โดยที่มีพวกอะนุนนากิที่ถูกทิ้งไว้บนโลกในข้อหากบฎคอยตั้งรับการมา reset โลกของผู้ปกครองใหญ่ของพวกเขาเองในรูปแบบให้มนุษย์เป็นตัวล่อและตัวชน โดยหวังว่าสงครามครั้งที่สองนี้ (ครั้งแรกเรียกว่า อมาเกดดอน และพวกเซมยาซ่าและซาตานเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อจอมทัพมิคาเอล) พวกเขาจะเป็นฝ่ายเอาชนะผู้ปกครองใหญ่ของพวกเขาได้ พวกนี้คือ the fallen angels ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของ The illuminati ส่วนผู้ที่กำลังจะมานั่นคือ Anunnaki ซึ่งมาพร้อมกับ เนบิรุ (ตัวดาวได้ถูกทำลายไปแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นยานแม่ที่มีขนาดโตเท่ากับดาวดวงหนึ่ง)<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Anti New World Order Alliance (ANWOA)
</td></tr></tbody></table>

 

วันที่ 09 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17:05 น. ข่าวสดออนไลน์


สเปนเฮอีก หมึกพอลชี้แชมป์โลก

ปลอบใจเยอรมันได้ที่ 3

<STYLE> P { margin: 0px; ** </STYLE>
เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 9 ก.ค. สวนสัตว์ทะเลในเมืองโอเบอร์เฮาเซน เยอรมนี ทำพิธีเสี่ยงทายผู้ชนะฟุตบอลโลก 2010 โดยปลาหมึกยักษ์ ชื่อ พอล ซึ่งสร้างชื่อเกรียวกราวในการทายผลถูกติดต่อมา 6 นัด ล่าสุดเจ้าพอลทายว่า สเปนจะชนะฮอลแลนด์ในนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 11 ก.ค. ส่วนเยอรมันจะชนะอุรุกวัยในนัดชิงที่ 3 วันที่ 10 ก.ค.

หมึกพอลสร้างชื่อยิ่งกว่าเมื่อครั้งทายผลฟุตบอลยูโร 2008 ที่ทายถูก 80 เปอร์เซนต์ ผิดไป 2 นัด เพราะครั้งนี้ พอลทายถูกว่า สเปนชนะเยอรมัน 1-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ จึงถือเป็นการทายถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้แฟนบอลเยอรมันจำนวนมากพากันแค้นเจ้าหมึกตัวนี้ พากันไปเขียนข้อความในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เช่นขู่จะไปทอดกิน ทำบาร์บีคิว หรือนำไปทำสลัด ขณะที่นายโฮเซ่ ลูอิซ โรดริเกซ ปาปาเตโร่ นายกรัฐมนตรีสเปน ปล่อยมุขด้วยว่า ห่วงความปลอดภัยของเจ้าพอล





ซากโลมาอิรวดีเกยหาดมุกเมฆ

ชี้ตัวที่ 21 ในรอบ 5 เดือน

<STYLE> P { margin: 0px; ** </STYLE>
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ค. นายไพรวัลย์ สะอิ้น ประธานกลุ่มอ่าวตราด ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากโลมาตายอยู่ที่บริเวณหาดมุกเมฆ หมู่ 6 ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด จึงเดินทางไปตรวจสอบพบซากโลมาพันธุ์อิรวดี อยู่ในสภาพเน่าเปื่อย หางหลุดหาย ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน วัดความยาวได้ประมาณ 2.10 เมตร อายุประมาณ 5-6 ปี ลอยมาเกยอยู่บริเวณริมหาด จึงแจ้งไปยังศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ให้ทราบเพื่อนำซากโลมาไปตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต

นายไพรวัลย์ กล่าวว่า โลมาที่เสียชีวิตตัวนี้เป็นตัวที่ 21 ในรอบ 5 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาพบโลมา เสียชีวิตบ่อยมาก ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเพราะติดอวนจากเรือประมงอวนลากที่เข้ามาทำประมงในฝั่งอ่าวบ้านแหลมกลัดหรืออาจตายตามธรรมชาติ ทั้งนี้ตนพร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ ได้เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการ จ.ตราด เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตั้งทีมวิเคราะห์หาสาเหตุการตายและแก้ปัญหา เพราะโลมาอาจจะตายจนหมดหากไม่มีการดำเนินการ ขณะนี้ทางสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์วางโครงการทำบุญอุทิศให้แก่โลมา เพราะโลมาเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับชาวประมง และขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรหาทางช่วยเหลือเพื่อไม่ให้โลมาสูญพันธุ์จากอ่าวตราด




เขื่อนป่าสักวิกฤตน้ำแห้งขอด

<STYLE> P { margin: 0px; ** </STYLE>
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายวัชระ ทิพย์พิลา รองผู้ว่าฯลพบุรี เดินทางไปตรวจดูสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เมื่อเดินทางไปถึงและพบว่า พื้นที่ภายในเขื่อนซึ่งเคยมีน้ำท่วมขัง ปัจจุบันน้ำเหลือน้อยมาก พื้นที่บางแห่งมีพื้นดินโผล่ขึ้นมา และพื้นดินบริเวณติดกับสันเขื่อนฯซึ่งเคยถูกน้ำท่วมมีต้นหญ้าขึ้นเต็มบริเวณ
นายวัชระกล่าวว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์หลังก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มกักเก็บน้ำกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลาหน้าแล้ง น้ำในเขื่อนก็จะไม่แห้งเหมือนในปีนี้ ซึ่งน่าที่จะพูดได้ว่าอยู่ในภาวะวิกฤตเลยทีเดียว คิดแล้วน่าใจหายอย่างมาก ซึ่งไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะถึงแม้ว่าจะเร่งดำเนินการทำฝนเทียม ฝนที่ตกลงมาก็ไม่ตกเหนือเขื่อน แต่กลับไปตกท้ายเขื่อนแทน ซึ่งต้องเร่งดำเนินการหาทางแก้ไขต่อไป

นายบุญชอบ หอมเกสร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กักเก็บน้ำได้ระดับสูงสุด 960 ล้านลบ.ม. แต่ขณะนี้เหลือน้ำ 75.30 ล้าน ลบ.ม. หรือ 7.81 % ของปริมาณเก็บกักทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกท้ายเขื่อนได้กว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่า จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกพืชผักหรือทำไร่ได้อย่างไร เพราะไม่มีน้ำไหลลงเขื่อนเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวต่อว่า สำหรับประตูระบายน้ำออกท้ายเขื่อนมี 3 ประตู ทุกประตูปิดหมดเนื่องจากไม่มีน้ำที่จะระบาย โดยสภาพพื้นที่ภายในเขื่อนปัจจุบัน มองดูแล้วเหมือนกับแม่น้ำป่าสักในอดีตเป็นอย่างมาก คือเป็นแม่น้ำและสองฝั่งเป็นพื้นดิน สภาพไม่เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำแต่อย่างใด



เหยื่อวันวินาศ7/7เผยโฉมปิ๊ง



บีบีซีรายงานวันที่ 7 ก.ค. ว่า เดวิเนีย เทอร์เรล หญิงชาวอังกฤษวัย 29 ปี เหยื่อที่รอดตายจากเหตุการณ์วินาศกรรมกรุงลอนดอน วันที่ 7 เดือน 7 เผยโฉมให้สัมภาษณ์เนื่องในวาระครบรอบ 5 ปีเหตุการณ์ดังกล่าวที่ผู้ก่อการร้าย 4 รายกระจายกำลังจุดระเบิดในเขตขนส่งมวล ชนในเมืองหลวง ว่า แผลบนใบหน้าหายไปหมดแล้ว ด้วยฝีมือการรักษาของผู้เชี่ยวชาญมหาวิทยาลัยเชลซีแอนด์เวสต์มินสเตอร์ หญิงสาวยังบริจาคเงินให้โรงพยาบาล 50,000 ปอนด์ หรือราว 2.45 ล้านบาทเพื่อไปช่วยเหยื่ออื่นๆ ในเหตุการณ์นี้รักษาบาดแผล

เดวิเนีย ปัจจุบันใช้นามสกุล ดักลาส หลังแต่งงานไปเมื่อปีก่อน เป็นสัญลักษณ์ของเหยื่อในเหตุ การณ์ 7/7 ปี 2548 ที่มีผู้เสียชีวิต 52 ราย ใบหน้าของหญิงสาวถูกสะเก็ดระเบิดที่สถานีเอดจ์แวร์โร้ด ช่างภาพบันทึกภาพเดวินา ขณะใช้หน้ากากสีขาวปิดใบหน้าไว้ มีหน่วยกู้ภัยพยุงข้ามถนน

"ฉันยังจำเหตุการณ์ได้ วันนั้นฉันเดินตรงดิ่งตลอดเส้นทางเดินในรถไฟ ได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก ฉันเดินไปจนสุดตู้ขบวนสุดท้าย ไม่รู้ตัวเลยว่าบาดเจ็บ เพราะว่ายังช็อกอยู่ ฉันยังจำได้เลยว่า ยังพูดกับคนอื่นอยู่เลยว่า ต้องรีบไปทำงาน" เดวิเนีย กล่าว

เหยื่อสาวเล่าต่อว่า พอเห็นใบหน้าตนเองเป็นแผลหนัก ยิ่งกลัวสุดชีวิตว่า ชีวิตจะพังทลาย แต่ทีมแพทย์ดูแลอย่างดีจนตอนนี้กลับมาเหมือนเดิมแล้ว นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังจัดตั้งหน่วยพิเศษที่คอยดูแลด้านจิตใจให้คนไข้

 

ฝนตกหนัก-น้ำท่วม ในจีน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน

จีน 9 ก.ค. - สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมทางใต้ของจีนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน ขณะที่ชาวบ้านนับแสนคนต้องอพยพ

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในมณฑลเจียงซู ฝูเจี้ยน และเทศบาลนครฉงชิ่งทางภาคใต้ของจีนวิกฤติหนักขึ้น และมีผู้เสียชีวิตไปอีกอย่างน้อย 12 คน ชาวบ้านราว 1 แสนคน ต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่รถไฟทั้งหมดต้องระงับการให้บริการในวันนี้ นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักในมณฑลหูหนานและหูเป่ย์ทางภาคกลางยังทำให้ถนนชำรุดเสียหาย ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ สถานการณ์ฝนตกหนักตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทางภาคใต้ของจีนคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 400 คน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้วราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3 แสน 2 หมื่นล้านบาท. -สำนักข่าวไทย


เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น 2 ระลอกนอกชายฝั่งไต้หวัน

ไทเป 9 ก.ค. - นักแผ่นดินไหวรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับปานกลาง 2 ระลอกห่างกันภายในไม่กี่ชั่วโมงที่บริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันในวันนี้

ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งแรก ขนาด 5.2 ริคเตอร์ เกิดขึ้นห่างจากกรุงไทเปไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร เมื่อเวลา 03.43 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 02.43 น.ตามเวลาในไทย ที่ระดับความลึก 21 กิโลเมตร และแผ่นดินไหวอีกระลอกหนึ่ง ขนาด 5.3 ริคเตอร์ ห่างจากกรุงไทเปไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 115 กิโลเมตร เมื่อเวลา 08.41 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 07.41 น.ตามเวลาในไทย ที่ความลึก 130 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถรู้สึกได้ในกรุงไทเป แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือการบาดเจ็บแต่อย่างใด .- สำนักข่าวไทย


ที่มา MCOT - NEWS

 

บ้านน้ำเค็มร้าง ผวาสึนามิ ผู้ว่ายันเตือนทัน​

​

บ้านน้ำเค็ม ร้างผู้คนจากการที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ ยังทยอยอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัย หลังยังหวาดผวากับคำเตือนอาจเกิดคลื่นสึนามิ ช่วงระหว่างวันที่ 7 - 10 กรกฎาคม ของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช...

วันที่ 8 ก.ค. 2553 บรรยากาศในพื้นที่บ้านน้ำเค็ม ตำบลบ่วงม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ยังมีความเงียบเหงา และยังมีประชาชนยังคงทยอยขนข้าวของทรัพย์สินเครื่องใช้ ออกจากหมู่บ้านเพื่อพักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัย หลังจากพบว่าชาวบ้านจำนวนกว่าครึ่งหมู่บ้าน ได้ทยอยอพยพออกนอกพื้นที่ ซึ่งพบว่าในพื้นที่ยังคงมีคลื่นสูงและลมพัดแรง ยิ่งทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณหมู่บ้านตื่นตกใจ บางรายเห็นเพื่อนบ้านขนข้าวของเครื่องใช้หนี จึงให้ครอบครัวขนย้ายข้าวของเพื่อเตรียมอพยพ

โดยนางบุญมณี จันทร์เอียด อายุ 52 ปี ชาวบ้านน้ำเค็ม กล่าวว่า ตนเองได้ขนของไว้ที่ปลอดภัยแล้วเนื่องจากหวั่นว่าจะเกิดเหตุสึนามิจริง ตามคำทำนายของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช และมีชาวบ้านจำนวนหลายรายได้อพยพไปอาศัยอยู่บริเวณบ้านพักชั่วคราว หรือหมู่บ้านร่วมมือร่วมใจ ตนเองกับครอบครัวจึงหวาดกลัวไปด้วย และคิดว่าจะออกไปอาศัยอยู่กับญาตินอกหมู่บ้านจนพ้นช่วงคำทำนายคือ ตั้งแต่วันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2553 โดยเฉพาะคืนวันที่ 8 กรกฎาคม 53 นี้ กลัวว่าจะเกิดในค่ำคืนนี้

ด้านนางศิริลักษณ์ พัฒนศิริ อายุ 63 ปี ชาวบ้านน้ำเค็ม กล่าวว่า ไม่กลัวกับข่าวลือที่เกิดขึ้นแต่ยอมรับเตรียมที่จะอพยพอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ได้อพยพออกมาก่อนนั้น เนื่องจากย้ายตามลูกสาวมาเพราะเป็นห่วงว่าลูกสาวออกมาตามลำพัง จึงขอย้ายออกมาด้วย

สำหรับ นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้กล่าวเตือนประชาชนว่า จากข่าวที่ได้รับฟังพบว่าประชาชนยังคงตื่นตระหนก ซึ่งขอบอกว่าให้มั่นใจกับข้อมูลของทางราชการ หากพบว่ามีแผ่นดินไหวจริงก็สามารถอพยพประชาชน ได้ทันท่วงทีแน่นอน จึงอย่าตื่นตระหนกกับเรื่องนี้มากนัก แต่ก็สั่งการเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านไว้เรียบร้อยแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2553

โลมาเกยตื้น ได้สมุนไพรไทย อาการดีขึ้น​

​

รองผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เข้าไปเยี่ยมอาการที่กระชังพักฟื้น โดยสัตว์แพทย์รักษาการติดเชื้อด้วยรางจืด กับฟ้าทะลายโจร จนน้ำหนักเพิ่ม แจ่มใส รอให้แข็งแรงก่อนปล่อยกลับทะเล...

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบปลาโลมา พันธุ์ฟันห่าง ลำตัวยาวประมาณ 2.6 เมตร หนัก 80 กิโลกรัม เกยตื้นบริเวณป่าชายเลน ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี โดยปลาโลมามีอาการอ่อนแรง ร้องครวญครางตลอดเวลา จึงช่วยนำส่งให้ นางสมจิตร พันธุ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รับปลาโลมาดังกล่าวไปรักษาที่กระชังปลา หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เวลา 13.30 น. นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าเยี่ยมและให้อาหารปลาโลมา โดยนายดนัยนันท์ โนคำ สัตวแพทย์ผู้ดูแลรายงานว่า ปลาโลมาไม่ยอมกินอาหารในช่วง 3 วันแรกที่นำมารักษา จึงให้น้ำเกลือก่อนเจาะเลือดไปตรวจ พบมีเชื้อโรคที่ติดจากการเกยตื้น ทำให้อ่อนเพลีย ตับอักเสบ ติดเชื้อในช่องท้อง โดยให้กินยารักษาโรคมาโดยตลอด และได้ให้ยาสมุนไพรรางจืดและฟ้าทลายโจรควบคู่ไปด้วยทำให้อาการโดยรวมดีขึ้นมาก มีอาการแจ่มใสขึ้น น้ำหนักตัวโดยรวมเพิ่มขึ้น

นายดนัยนันท์ กล่าวว่า สำหรับโลมาชนิดนี้ ไม่ค่อยพบในฝั่งทะเลภาคตะวันออก ส่วนมากพบในทะเลฝั่งอันดามัน ภาคใต้ ตอนนี้ยังคงต้องให้การรักษาพยาบาลไปอีกสักระยะให้แข็งแรงกว่านี้จึงจะปล่อย ลงทะเลปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงต่อไป

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2553

ฃาวนครพนมท้องร่วงฉับพลัน พบกิน 'เนื้อวัว' ติดเชื้อ​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

หามชาวนครพนม 7 รายส่งโรงหมอ พบกิน "เนื้อวัว" ติดเชื้อ ทำให้ท้องร่วงฉับพลัน ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ปศุสัตว์เร่งตรวจสอบหวั่นเกิดโรคระบาดในสัตว์แพร่สู่คน เตือนห้ามบริโภคเนื้อสัตว์ป่วย...

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม มีชาวบ้านโชคอำนวย ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม จำนวน 7 ราย เกิดอาการผิดปกติหลังจากบริโภคเนื้อวัว จนเกิดอาการท้วงร่วงฉับพลัน ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์พยาบาลได้เร่งให้การช่วยเหลือไว้ได้ทัน อยู่ในอาการที่ปลอดภัยทั้งหมด

ทั้งนี้ เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุทราบว่า ชาวบ้านได้นำวัวที่ป่วยเป็นโรคโดยไม่ทราบสาเหตุ นำมาชำแหละ ไปประกอบเป็นอาหารรับประทาน จนกระทั่งเกิดอาการติดเชื้อทางเดินอาหาร ท้องร่วง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจเพื่อหาสาเหตุต่อไป

ด้านนายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า ขอประกาศเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ควรระมัดระวังในการบริโภคเนื้อสัตว์ในช่วงนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสจากสัตว์ที่เป็นโรคระบาด โดยให้บริโภคเนื้อสัตว์ที่มีการชำแหละ ในโรงฆ่าสัตว์ มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ และห้ามนำเนื้อสัตว์ที่ป่วยไม่ทราบสาเหตุมาประกอบอาหารรับประทาน เพราะเชื้อบางชนิดถึงแม้นำมาปรุงให้สุกก็ยังเกิดอันตรายได้

นายไพรัช กล่าวอีกว่า หลังจากมีข่าวการติดเชื้อไวรัสของสุกรในพื้นที่ จ.หนองคาย ที่มีอาณาเขตติดต่อกัน ทางสำนักงานปสุสัตว์ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกจุด รวมถึงแนวชายแดน ให้ตรวจสอบคุมเข้มห้ามมีการเคลื่อนย้ายสุกร รวมถึงสัตว์อื่นๆ ก่อนได้รับอนุญาต ป้องกันการเกิดโรคระบาด

เบื้องต้นในพื้นที่นครพนม ยังไม่มีรายงานสุกรป่วยตาย ที่สำคัญในพื้นที่นครพนมไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีฟาร์มเลี้ยง รวมถึงโรงฆ่าสัตว์ที่มาตรฐาน จึงไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง หากพบสัตว์เลี้ยง สุกร โค กระบือ หรือสัตว์ปีก มีอาการผิดปกติ รีบแจ้งปสุสัตว์ใกล้บ้านทันที เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวน อาจเอื้อต่อการเกิดโรคระบาดได้ แต่ไม่ให้เกิดวิตกกังวลจนเกิดไป และให้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกก่อนทุกครั้ง เป็นการป้องกันอันตรายจากการติดเชื้อ

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2553

อาหารชะลอวัย​

​

กระเทียม เป็นเครื่องเทศคู่ครัวคนไทยมานานแสนนาน ขณะเดียวกัน ก็มีสรรพคุณเป็นยาที่มีคุณประโยชน์ อเนกอนันต์ด้วย ในกระเทียมมีสารอัลลิซิน ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้กระเทียมมีกลิ่นฉุน ช่วยฆ่าเชื้อ ป้องกันอาหารเป็นพิษและยังมีสารบางชนิดช่วยกระตุ้นฮอร์โมน สมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น

ทานกระเทียมแล้ว ร่างกายจะอุ่นขึ้น เนื่องจากเส้นเลือดฝอยขยายตัว การไหลเวียน ของเลือดสะดวกขึ้น และยังช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ปรับสภาพ ลำไส้ บรรเทาหวัด ที่สำคัญช่วยลดคอเลสเทอรอลในเลือดได้ การกินกระเทียมสดวันละ 1-3 กลีบ จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันเลือดจับตัวเป็นลิ่ม ตัวการที่ก่อให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด

ปลาทะเล อย่างเช่น ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน, ปลาแมคเคอเรลไปป์ และปลา ทูน่า มีกรดไขมัน โอเมก้า-3 ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ช่วยการทำงานของระบบสมอง ลดความดันโลหิต และไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มระดับคอเลสเทอรอลดี และรักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้ปกติ ปลาทะเลยังมีซีลีเนียม และโคเอนไซม์คิว-10 ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ทำงานผิดปกติ มีสถิติพบว่า ทานปลาแมคเคอเรลไปป์วันละตัวจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก เพราะช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นขึ้นไม่แข็งตัว การไหลเวียนของเลือดสะดวกขึ้น ป้องกันการอุดตันของเลือด

เต้าหู้ มีโปรตีนสูงและย่อยง่าย มีการวิจัยพบว่า โปรตีนจากถั่วเหลืองช่วยลดระดับคอเลสเทอรอลร้ายในเลือด และเพิ่มคอเลสเทอรอลดี ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ในถั่วเหลืองยังอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งแคลเซียม, เหล็ก, สังกะสี และวิตามินบี ชา โดยเฉพาะชาเขียว ทำให้อายุยืนและช่วยชะลอความแก่ ขณะเดียวกันก็ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดคอเลสเทอรอล ต้านมะเร็ง และรักษาอนามัยในช่องปาก การจิบชาร้อนๆช่วยคืนความสดชื่น และเติมน้ำให้ร่างกาย สำหรับคนวัย 40 อัพ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ เช่น น้ำอัดลม เพราะจะส่งผลให้กระเพาะลำไส้ดูดซึมไม่ได้ สูญเสียความสมดุลของน้ำในร่างกาย ถ้ากระหายน้ำขอให้เลือกดื่มชาร้อนๆ เพื่อคลายร้อนจะดีที่สุด

ผักและผลไม้ การทานผักผลไม้เป็นประจำ รวมถึงธัญพืชและถั่วชนิดต่างๆ ช่วยให้เซลล์ร่างกายแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อกระชับ ผิวหนังเต่งตึง และมีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องการขับถ่าย โดยเฉพาะผักใบเขียวให้สรรพคุณทางยา เพราะอุดมด้วย เกลือแร่และวิตามินสารพัด ช่วยป้องกันโรคได้ คนที่ทานผักน้อยเกินไป ทำให้ฮีโมโกลบินไม่พอ หน้าซีด สมองขาดออกซิเจนและอ่อน เพลียง่าย อย่างไรก็ดี อย่าทานแต่ผักใบเขียว จนลืมทานผักตระกูลหัว เพราะผักตระกูลหัว มีเส้นใยอาหารมาก หากนำมาปรุงถูกวิธีจะช่วยป้องกันท้องผูก ชาวจีนยังเชื่อว่า การทานรากบัวเป็นประจำช่วยป้องกันผมขาว และลดอาการท้องอืด ซึ่งมักเกิดกับคนมีอายุ

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

หมายเหตุ

อาหารจากเนื้อสัตว์ ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ กำลังจะมีพิษจากโรคระบาดและมลพิษต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาแล้วปล่อยลงไปตามแหล่งน้ำต่างๆ เราจึงควรงดเว้นจากการทานเนื้อสัตว์ หันมารับประทานอาหารมังสวิรัติ เพื่อหลีกเลี่ยงจากโรคระบาดที่อาจจะติดมากับเนื้อสัตว์เหล่านี้

เพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกายของเรา ให้คุ้นชินกับอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ ในยามที่เกิดการอดอยากขาดแคลนอาหาร เมื่อตอนที่เกิดภัยพิบัติต่างๆ และเพื่อเป็นการเจริญเมตตาจิตให้แก่ตัวเราเองและเหล่าสรรพสัตว์ทุกชีวิต ที่เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จะได้ไม่ต้องมีการจองเวรจองกรรมกันอีกต่อไปครับ