****ภาพถ่ายหลวงพ่อดาบส (ตอนหนุ่ม) ดูให้รู้จริง ท่านเป็นท่าน ใช่ใครอื่น..ลือกันไปใย?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ณัฐธยาน์, 18 มกราคม 2008.

  1. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    (rose) (f) ข้าพเจ้า อัญเชิญภาพ หลวงพ่อดาบส ตอนที่ท่านเป็น พระหนุ่ม วันนี้นำมาภาพเดียว :)

    จริงๆแล้ว ภาพท่านตอนหนุ่ม มีเยอะมากๆ เป็นอัลบั้ม ( แต่ตอนนี้ที่ข้าพเจ้าไม่มีแล้ว )

    ข้าพเจ้า ทราบว่าคนที่มีรูปท่าน( ภาพต้นฉบับ)อยู่ที่พะเยา - แพร่ เพราะวันที่พระราชทานเพลิงสรีระท่าน ที่เชียงราย เขานำมาให้ชม - จำหน่าย ด้วย

    (rose) ข้าพเจ้าขอให้ ท่านที่มีรูปท่านกรุณา ช่วยกันนำมาลง ให้คนได้เห็น จักขอบพระคุณยิ่ง :cool:

    เพราะ จะได้ลด เสียงลือว่าท่านเป็นผู้อื่น ซึ่งท่านเคยบอกแล้ว ว่า ไม่ใช่ พระไม่โกหก แต่..คนก็ยังไม่เชื่อ เฮ่อ....

    ทั้งนี้....หากคนเห็นรูปท่านตอนหนุ่ม จะหายสงสัยทันที เพราะไม่เหมือนเลย

    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ(f)
     
  2. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    ทำได้แล้วค่ะ (รูปภาพหลวงพ่อค่ะ)

    หลวงพ่อดาบส ขณะเป็นพระหนุ่ม หลวงพ่อดาบสหนุ่ม.jpg
     
  3. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    ภาพท่าน ณ อาศรมไผ่มรกต เชียงราย

    ภาพท่านก่อนละสังขาร ไม่นานนัก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. sornchai-k

    sornchai-k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +672
    ไม่ใช่หรอกครับที่ลือกัน ผมพอมีรูปบ้างที่แตกต่างกัน แต่สแกนไม่เป็น ตอนท่านหนุ่มๆ นะครับ ช่วงนี้วัดเหงามากครับ มีแม่ชีอาศัยอยู่ไม่มากประมาณสิบท่าน พระที่ประจำไม่ค่อยมี ส่วนมากมาอยู่ไม่นานก็ธุดงค์ไปต่อ สงสารเหมือนกันครับ นานๆเข้าไปที ตอนนี้คนเข้าไปกราบหัวใจท่านก็มีมาบ้างแต่ไม่ค่อยมากนักครับ(หัวใจที่เผาไม่ไหม้)และรว่มทำบุญบ้าง ช่วยซื้อวัตถุมงคลบ้าง เห็นแล้วก็พิจารณา เห็น กฏไตรลักษณ์นะครับ ที่วัดจะทานมังสวิรัติครับจะเป็นชีอยู่ 90 % ครับส่วนใหญ่อายุมากครับ หากใครมีโอกาสมาเชียงรายเชิญได้นะครับ สงสารครับ สถานที่สงบ สัปปายะมากครับ เขียนแล้วสงสัยต้องแวะไปทำบุญสักหน่อยแล้ว ครับ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ที่เห็นความสำคัญ นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2008
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สมัยท่านยังอยู่ ผมเคยไปกราบท่าน
    อาศรมท่านอยู่ท้ายไร่บุญรอด
    ของบริษัท ผลิตเบียร์
    เข้าไปค่อนข้างลึก ข้างทางเป็นไร่ข้าวมอลล์,บาเร่ย์

    วัดท่านสงบ น่าอยู่เพื่อการปฏิบัติจิตภาวนาเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  6. DDS3334

    DDS3334 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +398
    น่าสงสารครับมัวแต่สนใจแต่เรื่องของคนอื่น ทีตนเองไม่สนใจ ใครจะเป็นอะไรก็เรื่องของเค้า ตัวเองเป็นอะไร กำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะทำอะไรต่อไป จะสำเร็จหรือไม่ ทำไมไม่สนใจ มนุษย์หนอมนุษย์(พยามยามทำอยู่เหมือนกันครับ)
     
  7. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    เรียนคุณ sornchai-k

    รูปหลวงพ่อ รบกวนใช้กล้องดิจิตอลถ่าย (เป็นjpeg ที่ความละเอียดต่ำ)

    อยากให้คุณช่วยนำมาลงไว้ที่นี่ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ถือเป็นการช่วยคลี่คลายความกังขาของคนที่เข้าใจผิด..

    ...ที่ผ่านมา ขณะที่ท่านยังอยู่ บางคนที่ไปกราบท่าน ที่จริงแค่อยากไปเห็นท่าน ว่าหน้าเหมือนจริงใหม ใช่คนเดียวกันหรือไม่

    แทนที่จะไปเพื่อกราบพระอริยสงฆ์ ข้าพเจ้ารู้สึก.. ...คงเข้าใจนะคะ

    ที่สำคัญ..ข่าวลือ ที่รบกวนถึงเบื้องสูง นั้น..มันเกินไปนะ ช่วยกันนะคะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  8. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    หลวงพ่อดาบส คือใครหรอครับยช่วยแถลงไขที
     
  9. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    ท่านเป็นพระอรหันต์ องค์หนึ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยได้พาลูกหลานไปกราบสักการะท่าน

    และหลังๆข้าพเจ้าเห็นไปกันเป็นคณะหลายครั้ง
    ท่านมีเมตตากับลูกหลานหลวงพ่อเหลือเกิน
    เห็นว่าครั้งนั้นมีการอัดเสียงท่านไว้เป็น vcd น้ำเสียงท่านเหมือนน้ำทิพย์

    หลวงพ่อท่านสอนเรื่อง นิโรธสัญญา ค่ะ
     
  10. นัทชี่

    นัทชี่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +62
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
    เคยมีโอกาสไปกราบสักการะหลวงปู่ฤาษีดาบสประมาณปี 2540
    ท่านเป็นพระอริยสงฆ์โดยแท้ ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก
    ยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอ ท่านพูดน้อย น้ำเสียงเบา รูปร่างสูง
    หลวงปู่ท่านมีลักษณะงดงามมาก รู้สึกเป็นบุญเหลือเกินที่มีโอกาส
    ได้พบและกราบท่าน
     
  11. ราเซฟารัส

    ราเซฟารัส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +200
    ขอโมทนาสาธุ ด้วยนะครับ
    ผมขออนุญาตแนะนำนะครับ ให้ท่านเจ้าของกระทู้ถ่ายจากกล้องมือถือ 2 ล้าน pixcle ก็พอจะได้นะครับ แล้วแนบ file JPG. มาเลย
     
  12. ผงธุลี

    ผงธุลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ท่านเป็นพระที่พูดน้อย ได้แต่ยิ้ม และเป็นพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ทานมังสวิรัตตลอดชีวิต

    ผมโชคดีที่มีโอกาสกราบท่าน เนื่องในปี2535-2537 ได้ไปทำงานอยู่เชียงราย ก็เลยไปกราบท่านบ่อยมากๆ
    ท่านเป็นพระที่ไม่มีปลุกเครื่องรางของขลัง มีแต่ยันต์ที่ท่านเขียนด้วยมือ หรือแกะองค์พระจากไม้ (ส่วนมากในสมัยที่ท่านอยู่แพร่) ผมยังมีท้าวเวสสุวรรณไม้แกะที่ท่านแกะ
    ท่านเป็นพระที่ไม่มีการทำน้ำมนต์ ผมยังจำได้ว่า ในวันปีใหม่ปีหนึ่ง พาครอบครัวไปกราบขอพรจากท่าน ขอให้ท่านพรมน้ำมนต์ ท่านก็หยิบกาน้ำใส่ในแก้ว แล้วก็เอามาพรมให้
    ท่านเป็นพระที่พูดน้อยมากๆ ขนาดผมไปบ่อยๆ ยังกราบท่านไม่ถึง 5 นาทีเลยครับ เพราะท่านก็คงไม่รู้ว่าจะถามอะไร ผมเองก็ไม่กล้าถามอะไรเช่นเดียวกัน
    ท่านเป็นพระที่พบได้ง่าย ไม่ถือตัว ไม่ว่าใครจะรวยจะเป็นยังไงก็ตาม ก็พบท่านได้ตลอด
    เพราะท่านจะแขวนระฆังไว้ตรงชานเรือน ใครมาก็เคาะระฆัง สักพักท่านก็จะออกมาต้อนรับ
    เขียนถึงท่านแล้ว ก็ระลึกถึงท่านมากๆครับ ท่านไม่ใช่ที่ผู้คนกล่าวว่าเป็น.... ประวัติท่านเป็นชาวจังหวัดจันทบุรีครับ
    ภาพที่1 รูปหล่อหลวงพ่อดาบส สุมโน
    ภาพที่2 ท้าสเวสสุวรรณไม้แกะ (ยุคที่ท่านอยู่แพร่)
    ภาพที่3 วัตถุมงคลของท่าน ที่ลูกศิษย์ทำไปถวาย (มีบางส่วนที่ท่านทำในสมัยอยู่แพร่ เช่นพระรอดหรือจันทร์ลอยหรือพระพุทธไม้แกะจากไม้ไผ่ตันองค็ขนาดห้อยคอ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2010
  13. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    นิโรธสัญญาโดยหลวงพ่อ ดาบส สุมโน

    นิโรธ แปลว่า ดับความทุกข์ ความชั่ว บาป ดับรูปกาย นามซึ่งมีในกายดับจากวัตถุธาตุดิน

    น้ำ ลม ไฟ มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า นิพพาน ดับหรือว่างจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก

    นรก สวรรค์ พรหม ไม่เหลือการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเป็นสาเหตุของความทุกข์ยากลำบาก

    อีกต่อไปสัญญา แปลว่า ความจดจำ หมายจำเอาไว้หรือจำได้ นิโรธสัญญา จึงแปลว่า

    ความจำได้หมายรู้ในการดับความทุกข์ยากลำบากทั้งปวง ดับธาตุทั้งหมด ดิน น้ำ ลม ไฟ

    ให้เหลือแต่ความว่างเปล่า การปฏิบัตินิโรธสัญญานี้เป็นทางลัด รวดเร็ว ทำง่ายมาก เป็น

    การปฏิบัติได้ผลรวดเร็วไม่ยากนักเพียรเฝ้าทำ จิตให้ว่างจากสิ่งที่เป็นของหนักคือ ร่างกาย

    เราเขาหรือขันธ์ ๕ ขจัดสิ่งวุ่นวายวิตกกังวลเรื่องต่างๆออกจากจิตเท่านั้นทางปฏิบัตินิโรธ

    สัญญา ก็เริ่มด้วยตัดจิตให้มีเมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั่ว ๓ โลก นรกโลก เทวโลก รักษาศีล ๕

    ให้ครบถ้วน

    การ เฝ้ากำจัดความคิดที่ ไม่ดีไร้สาระออกจากจิตก็เป็นสมาธิอย่างหนึ่ง การเฝ้าพิจารณา

    ทุก สิ่งทุกอย่างในโลกในที่สุดก็แตกสูญสลายกลายเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นอากาศ แยก

    กระจายจากอณูเป็นอะตอมเล็กๆ ละเอียด เป็นธาตุว่างคือวิปัสสนาญาณ ผู้มีศีลเจริญสมาธิ

    ภาวนานิดเดียวตั้งจิตทำเพื่อจิตเข้าสู่ความสุขอย่างยิ่ง คือ พระนิพพาน ก็เข้าถึงเมืองแก้ว

    พระนิพพานได้ง่าย

    พระ นิพพานนั้นไม่ใช่ไกลเกินเอื้อมออกไป อยู่ในจิตในใจเรานี่เอง เรียกว่า สอุปาทิเส

    สนิพพาน ทั้งที่ขันธ์ ๕ กายยังไม่แตกสลาย ถ้าร่างกายตายจิตสะอาดหมดความยึดติดใน

    ขันธ์ ๕ จิตก็จะเคลื่อนเข้าเสวยความสุขยอดเยี่ยมแดนทิพยนิพพาน เรียกว่า อนุปาทิเส

    สนิพพาน

    นิโรธ สัญญา คือการเพียรพยายามทำจิตให้ว่างจากสิ่งที่เป็นของสมมุติทั้งปวงในโลก

    รวมถึงชีวิต คนและสัตว์ ทรัพย์สิ่งของเป็นของสมมุติเป็นของชั่งคราวทั้งสิ้นเป็นของปลอม

    พระนิพพานธาตุ พุทธิธาตุ ภูตะธาตุ อสังขธาตุ ทั้งหมดนี้เป็นของจริง เป็นธาตุอะตอมไม่

    ตายไม่สูญสลายเหมือนธาตุของโลก ถึงตาจะมองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง เป็นธาตุบริสุทธิ์มีอยู่

    แล้วโดยธรรมชาติ ไม่มีใครสร้างเปรียบธาตุ นิพพานอมตะนี้ก็เหมือนเมืองหรือฝั่งข้างโน้น

    ที่เราจะข้ามไป จิตเป็นนามธรรม อาศัยอยู่ในกายในขันธ์ ๕ ที่เป็นของสมมุติชั่วคราว จิต

    เป็นธาตุบริสุทธิ์ โดยธรรมจากในจิตนั้น มีธรรมกายหรือพุทธิกาย หรือนามกายทิพย์

    นิพพานกายอยู่ มีตา หู จมูก ลิ้น กายทิพย์ จิตทิพย์ ไม่ต้องทำขึ้น มีอยู่แล้ว ไม่ตายเป็น

    อมตะ ในกายทิพย์นิพพานไม่มีประสาท ไม่มีอวัยวะภายใน โปร่งใสเบา เย็นสบายเป็นจิตรู้

    ฉลาดสะอาดบริสุทธิ์ อิสระจากกฎทั้งปวงอยู่เหนือกฎของกรรมหรือกฎของธรรมชาติ หรือ

    เรียกอีกอย่างว่า จิตของพระอรหันต์ จิตของพระขีณาสพ ผู้หมดกิเลสอวิชชาตัณหา

    อุปาทานบาปทั้งปวง

    รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อารมณ์ดีร้ายทั้ง ๖ นี้ เป็นผู้มาทีหลัง เป็นของผ่านไปมา เป็นของ

    สมมุติ เป็นของปลอม ไม่ใช่ของจริง เป็นของร้อนเป็นของหนัก ถ้าจิตเราไปคิดเอาเป็นจริง

    ก็ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ผิดหวังเป็นทุกข์ใจมิได้หยุดหย่อน รูปเสียง กลิ่น รส สัมผัส

    อารมณ์ทั้งหลายเป็นของสกปรกของชั่วคราวเป็นฝ่ายดำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องรู้เท่าทัน และ

    กำจัดออกจากจิตทันที คือให้ว่างเปล่าจากของที่เป็นทุกข์เป็นโทษ จิตจะอยู่ว่างเปล่าเฉยๆ

    ไม่ชินก็นึกถึงพระคุณความดีขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า นึกถึงฝั่งแดนทิพย

    นิพพานเป็นสุขเลิศล้ำ นึกถึงร่างกายสมมุตินี้ตายโดนเผาทิ้งแน่นอน แบบนี้จิตจะว่างจาก

    ของหนัก ว่างจากความเครียด ความฟุ้งซ่าน ความวุ่นวายหรือปลอดภัยจากอันตรายได้

    เพราะจิตว่างสะอาด ปราศจาก โลภ โกรธ หลง เพราะมีแต่พระรัตนตรัย พระนิพพานเต็ม

    เปี่ยมอยู่ในจิต แถมอีกนิดมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้ง ๓ โลก ต้องการให้ทุกผู้ทุกคนพ้นทุกข์

    ได้เหมือนเรา

    วิธีปฏิบัตินิโรธสัญญา หรือ ทำจิตให้ว่างจากกิเลส ตัณหา อุปาทาน บาปกรรม มี ๓ อย่าง

    ๑) โน้ม ใจเข้าหาความว่าง ด้วยการนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระมหา

    เมตตา มีพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ นำสัตว์ชี้ทางเข้าสู่พระนิพพาน เริ่มระลึกถึง

    ความว่างเปล่าไม่มีอะไร ทั้งโลกอากาศว่างเปล่า ธาตุว่างอยู่รอบตัวเราเอิบอาบไปทั่ว เป็น

    ธาตุอะตอม โอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นธาตุเบา ธาตุเย็น ธาตุสงบ ธาตุพอเพียง ธาตุแท้

    ๒) ทำจิตว่างด้วยสลัดขจัดทิ้งความคิดไม่ดีไร้สาระออกจากจิต หรือปล่อยวางอารมณ์ดีชั่ว

    ทั้งปวงออกจากจิตให้มีเพียงแต่คำว่ารู้ แต่ไม่นำเอามาคิดปรุงแต่งเป็นตัวเราตัวเขา เป็นแต่

    เพียงธาตุของโลก จิตเป็นธาตุเบาไม่เอาไปปนกับธาตุหนักๆของโลก กายก็เป็นธาตุของ

    โลกไม่ใช่ของจิต แต่จิตก็เพียงให้รู้ว่าจิตมาอาศัยอยู่ในกายบ้านสมมุติชั่วคราว ไม่เอามา

    ปนกับจิต จิตส่วนจิต กายส่วนกาย ไม่ใช่อันเดียวกัน มีกายแล้วจิตก็ทำเป็นว่าไม่มี เพราะ

    ไม่ช้ากายก็ตายสูญสลาย ไม่มีกายอีก เป็นของว่างๆ เพียรคิดสลัดกาย อารมณ์ทั้งหลาย

    ออกจากจิต จิตจะสว่างสะอาดจากกิเลสเฝ้าผูกพันยึดมั่นกายเรากายเขา แต่ก็ยังคงทำ

    หน้าที่การงาน สังคมครบถ้วน จิตใจสะอาดผ่องใส ร่างกายก็ไม่มีโรคหรือโรคน้อย จิตก็จะ

    แปรสภาพจากหนักเป็นเบา โปร่งสบาย จิตหยาบก็จะกลายเป็นจิตละเอียดสะอาดผ่องใส

    ไม่มีความวุ่นวายจิตสงบนิ่งมีปัญญาดี

    ๓) วิธีทำจิตให้สะอาดว่างจากกิเลสแบบให้สังเกตหรือจับดูอารมณ์ตามความเป็นจริง แต่มิ

    ใช่ให้จับแบบยึดมั่นถือมั่น คือจิตมันชอบคิดเรื่องต่างๆอยู่เสมอ มันคิดอะไรก็เอาเรื่องนั้น

    แหละมาพิจารณาดูให้ลึกและไกลออกไป ให้เห็นความไม่คงที่ จะเป็นไปในทางที่ดีหรือไม่

    ดีก็เท่ากันไม่มีอะไรเป็นจริงเป็นจัง เป็นแก่นสารย่อมถึงความแปรผันดับสูญเสมอกัน เงาใน

    กระจกหรือเงาในน้ำมิใช่ของจริงฉันใด สรรพสังขาราทั้งหมดก็ไม่ใช่ของจริงฉันนั้น หรือ

    จะมองชีวิตทั้งหมดนี้เหมือนความฝันก็ได้ เพราะจุดจบของชีวิตคือความตาย ความตาย

    ของชีวิตร่างกายของคนนี่แหละ คือการตื่นจากความฝัน คือจิตออกจากร่างไปหาที่อยู่

    ใหม่ ที่อยู่ใหม่ของเราท่านเที่ยงแท้แน่นอนไม่ยอมแปรผันอีกต่อไปคือ แดนอมตะทิพย

    นิพพาน

    เมื่อ มาพิจารณารู้ความจริงของชีวิตร่างกายทุกผู้ทุกนามแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่มีอยู่เป็น

    อยู่ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ มีก็เท่ากับไม่มี คือว่างเปล่านั่นเอง เพราะสูญสลายไม่ช้าก็เร็วเมื่อ

    กำหนดจิตเห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเป็นของ ว่างเปล่า จิตก็จะเข้าถึงความว่าง ธาตุว่าง

    จากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เมื่อพิจารณาทบทวนถึงความไม่มีในร่างกายเรากายเขา ขันธ์

    ๕ เรา ขันธ์ ๕ เขา มันมีแล้วก็เหมือนกับไม่มี เพราะแปรปรวนไม่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่จริง

    เป็นของปลอมของสมมุติ หาตัวตนตัวเราตัวเขาไม่ได้ เพราะทุกอย่างมีแต่เดินทางหาความ

    ทรุดโทรม ผุพังสลายตายกันในที่สุด จิตก็จะหลุดจากกิเลสคือว่างจากความทุกข์ยาก จิต

    จะเป็นอิสรเสรี ไม่ยึดเกาะในสิ่งของจอมปลอมอีกต่อไป

    ถึง แม้จิตจะยังอาศัยอยู่ในกาย แต่จิตไม่หลงรักว่าเป็นอันเดียวกับจิต อย่าเอาจิตไปนึกว่า

    มันมี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ปล่อยไปเพียงแต่ผ่านมาผ่านไปเท่านั้น ถ้าทรงอารมณ์อยู่

    จิตไม่สนใจขันธ์ ๕ ของใครวางเฉยไม่ทุกข์ร้อน ทำงานทุกอย่างตามหน้าที่ อารมณ์เฉย

    เป็นเอกัคตารมณ์ เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสำหรับเรา เราไม่มีสำหรับกาย จิตจะสะอาด

    เบิกบานผ่องใสพ้นจากความยึดมั่นในของปลอมของทุกข์ของร้อนพระท่าน เรียกว่า จิต

    ของพระอรหันต์

    วิธี ทำจิตให้ว่างจากกายเรากายเขาแบบนี้ เป็นวิธีลัดแบบง่าย มีแต่พรหมวิหาร ๔ ไม่ยึด

    ถืออารมณ์ใดๆมาไว้ในจิตมีความจำได้หมายรู้ก็เหมือนไม่มีความจำ เพราะความจำอยู่ได้

    ไม่นานไม่ช้าก็ลืม ประสาทสมองลืมง่าย ความคิดความจำ ความฟุ้งซ่าน วิตกกังวลเป็น

    เรื่องของกายให้สลัดทิ้ง ให้จิตเต็มไปด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จิตจะเบา

    บริสุทธิ์สะอาด จิตอันนี้เราจะตามรอยพระพุทธบาทเมื่อกายพังแตกสลาย ผู้เพียรทำจิตให้

    ว่างจากร่างกาย หรืออารมณ์ต่างๆแบบนี้เป็นแบบของพระอริยเจ้า เป็นสมาธิเป็นวิปัสสนา

    ญาณอยู่ด้วยกัน ทำได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ทำได้ทั้งที่อยู่คนเดียวและ

    อยู่แบบหมู่คณะ เป็นทางหลุดพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน เป็นทางลัดตรงไปสู่จุดหมายปลาย

    ทางคือ พระนิพพาน

    นิพพาน ธาตุ คือ นิโรธธาตุ อันเดียวกัน มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แม้ในจิตเราท่านที่อยู่ในร่าง

    กายที่สกปรกนี้ ทำจิตให้เข้าถึงพระนิพพานได้ทันทีทั้งๆที่ยังไม่ตาย นิพพานไม่ใช่มนุษย์

    โลก เทวโลก พรหมโลก แต่อยู่เหนือโลกทั้งสิ้น มีอยู่ทั่วไปถ้าจิตจิตดับทุกข์ดับขันธ์ ๕ ว่าง

    จากกิเลสจะรู้สภาวะพระนิพพานทันทีนิโรธสัญญา คือทำจิตให้ว่างไม่มีอารมณ์ใดๆทั้งปวง

    คือเฉยๆ จิตจะสะอาดปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลก รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จิตจะเ

    เข้าสู่ภาวะ ที่เป็นจิตพุทธะดั้งเดิม จิตประภัสสรนิโรธสัญญา ทำจิตให้ว่างจากพันธะใดๆใน

    โลก จะทำวิชชาให้สำเร็จด้วยฤทธิ์ก็ย่อมได้ เพราะจิตสงบทรงตัว แต่ท่านที่เจริญความ

    ว่างทางจิตแบบนี้ ท่านไม่ต้องการอิทธิฤทธิ์ใดๆ ความรู้พิเศษใดๆอีก ทั้งสิ้น เพราะจิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
  15. water_

    water_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +278
    ข่าวลือที่ว่า หลวงพ่อดาบส คือ รัชกาลที่ ๘ ครับ แต่จะจริง หรือ ไม่จริง ก็อีกเรื่องนึงครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ไม่คล้ายเลย
     
  17. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ก็พวกบ้านั่นละครับที่ไปบอกว่าหลวงพ่อดาบสคือในหลวงรัชกาลที่ 8
    หลวงพ่อดาบสพ้นโลก บรรลุมรรคผลแล้ว ก็จบ
    อีกอย่างหลวงพ่อท่านมีประวัติชัดเจน แน่นอน ก็ยังไม่เชื่อ ไปเอามาชับแพะชนแกะ มั่วไปหมด
    ไม่รู้ว่ารวมพวกคิดว่าตัวเองได้ตาทิพย์ ได้ญานอะไรอีกหรือเปล่ามั่วจริง ๆ หลงแล้วยังไม่รู้อีกเน้อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...