แถบดาวพฤหัสบดีหายไปไหน..นักวิทย์ฯยังมึน !!

นักวิทย์มึนแถบวงแหวนดาวพฤหัสบดีหายไป





ทำเอานักวิทยาศาสตร์ ตะลึงกันถ้วนหน้าเมื่ออยู่ๆ ลวดลายวงแหวนที่เคยอยู่บนดาวยักษ์ใหญ่อย่างดาวพฤหัสบดี หรือ จูปิเตอร์ หายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่ทราบสาเหตุ

ปกติแล้วดาวเคราะห์ใหญ่ ที่สุดในระบบสุริยจักรวาลของเราดวงนี้จะต้องมีแถบสีเข้มอยู่บนชั้นบรรยากาศ ที่ปกคลุมดาวอยู่ 2 แถบ โดยแถบหนึ่งอยู่ทางเหนือ และอีกแถบหนึ่งอยู่ทางใต้




แต่เมื่อเร็วๆ นี้ บ็อบ คิง หรือฉายา แอสโตร บ็อบ นักข่าวและนักดาราศาสตร์สมัครเล่นได้ออกมาเปิดเผยข่าวที่ทำให้นักวิทยา ศาสตร์พิศวงงงงวยกันถ้วนหน้า เมื่อพบว่า แถบสีเข้มบริเวณซีกล่างของดาวพฤหัสบดีได้อันตรธานหายไปแล้ว


ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว แถบสีเข้มของดาวพฤหัสบดียัง คงอยู่ดี ก่อนที่เจ้ายักษ์ใหญ่ของระบบสุริยะจะเข้าสู่วงโคจรไปหลบหลังดวงอาทิตย์ จนกระทั่งอีก 3 เดือนต่อมา มันกลับโผล่มาในสภาพไม่มีแถบสีเข้มนั้นแล้ว
"การที่ดาวพฤหัสบดีมีแถบสีเข้มเพียงเส้นเดียว ก็เหมือนกับมองดาวเสาร์ที่มองไม่เห็นวงแหวนนั่นแหละ" คิงกล่าว

ทั้งนี้ ดาวพฤหัสบดีเป็น ลักษณะของกลุ่มก๊าซก้อนใหญ่ที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆหนาสีแดง น้ำตาล เหลือง และสีขาว เป็นการผสมกันระหว่างสารเคมีที่อยู่บนความสูงต่างกัน โดยโซนสีขาวบนสุดนั้นเต็มไปด้วยคริสตัลที่เกิดจากแอมโมเนียที่เย็นจนเป็นน้ำ แข็ง ขณะที่สีเข้มนั้นเกิดจากสารเคมีเช่นซัลเฟอร์ และฟอสฟอรัส ขณะที่อัตราการเคลื่อนที่ของเมฆเหล่านี้เร็วเกือบ 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันเป็นผลจากการหมุนรอบตัวเองด้วยความรวดเร็วของดาวพฤหัสบดี


อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะดาวพฤหัสบดีมักจะเสียแถบสี หรือได้แถบสีกลับคืนมากทุกๆ 10-15 ปี แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่


แอนโทนี เวสลีย์ นักสังเกตการณ์ดาวพฤหัสบดี ให้ความเห็นว่า สิ่งที่ทำให้แถบสีหายไปนั้นอาจเป็นเพราะเกิดพายุบนชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดี จึงทำให้มันสลายตัวไป


"แต่คำถามก็คือ เมื่อใดที่แถบสีเข้มซีกใต้จะกลับมาเคลื่อนไหว และปรากฏตัวอีก" เวสลีย์กล่าว โดยอธิบายว่า สิ่งที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาได้คือการที่แถบสีขาวบนดาวพฤหัสบดีเริ่ม พัดฝุ่นสีเข้มขึ้นมายังชั้นบรรยากาศอีกด้วยลมความเร็วสูง ซึ่งจะทำให้เกิดแถบสีเข้มขึ้นมาอีกครั้ง และอาจจะกลับมาเป็นแถบสีเข้ม 2 เส้นเหมือนเดิม


นอกจากนี้ ผู้ที่ชื่นชอบดาราศาสตร์ทั้งหลายยังมีโอกาสจะได้เห็นดาวพฤหัสบดีในสภาพไร้แถบสีเข้มด้านล่าง ระหว่างที่มันจะโคจรมาใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 24 กันยายนนี้ด้วย


ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ที่เอื้อเฟ้อข้อมูล

 

หรือว่ามันเป็นอีกด้านหนึ่งหว่า -..-

ผมไม่เคยเห็นของจริงง่ะ?!

 

แปลกดีครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล

 

จำข่าวได้ว่า
มีปรากฏการณ์ดาวหางลูกใหญ่พุ่งชนดาวพฤหัส ไม่นานมานี้
มวลสารที่ระเบิดอาจเกิดปฏิกิริยาส่งผลกระทบ ต่อชั้นบรรยากาศของดาว
ซึ่งรูปดาวใหม่นี้ ไม่ปรากฏ แถบวงกลมแดง
ซึ่งเป็นพายุขนาดยักษ์ด้วยครับ

 

มันไม่เที่ยงเลยหนอ

 

*** พฤหัสบดี ****



วันพฤหัส เป็นวันครู

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

มันก็เปนปกตินิ

 

...(ผมกำลังคิด ว่าท่านหนุมาน ต้องการจะบอกอะไร -..-)
คิดช่วยกันหน่อยครับ ^^

 

ปรมณูของธาตุน้ำกำลังจะหายไปจากสุริยจักรวาฬนี้ในอีกไม่นานต่อแต่นี้ไป เรื่องตำนานน้ำท่วมโลกนั้นมันเป็นอดีตเสียแล้ว มีผู้ประสงค์จากดาวดวงอื่นต้องการธาตุน้ำจากโลกนี้ และสุริยจักรวาฬนี้ และกำลังคิดที่จะแย่งชิงธาตุน้ำนี้ไป

อนาคต จะเกิดการณ์แห้งแล้งจนหาสิ่งมีชีวิตไม่ได้ในสุริยจักรวาฬนี้ เหมือนดั่งที่มนุษย์ชาวดาวอังคารที่อพยพประชากรบางส่วนไปอยู่ที่ดาวพฤหัสบดีแล้ว และกำลังจะเผชิญยถากรรมเรื่องน้ำอีก ... เหมือนเช่นดาวอังคารอันเป็นที่ก่อกำเนิดชาติพันธุ์

นอกเสียจากว่า จะมีการเติมเต็มธาตุน้ำเข้ามาใหม่ โดยสารธารแห่งทางช้างเผือก ในเร็ววัน!

 

ดาวเคราะห์ก๊าซอย่างดาวพฤหัส ไม่ใช่ดาวที่สิ่งมีชีวิตจากดาวอื่นจะลงไปอยู่ได้ในทุกกรณี เพราะก๊าซบนดาวจะเป็นพิษต่อร่างกายภายนอกของรูปธรรมชีวิตส่วนใหญ่ รวมถึงการหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อของมันเพราะความเบา ถึงผมจะรู้สึกแปลกใจเรื่องที่มันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในตอนนี้ แต่ความคิดที่ผูกเรื่องนี้เข้าไปสู่เรื่องของภัยพิบัติ อันจะทำให้สุขภาพจิตของคนหลายๆคนรวมถึงตัวคุณเองแย่ลงไป นับว่าเป็นบาปจากวาจานะครับ แค่รับรู้ว่ามันหายไปก็คงพอแล้วล่ะ แบบนี้มันก็สวยไปอีกแบบเหมือนกันนะครับ ^^

 

ใกล้มากแล้วสินะครับ สิ่งที่กระผมคิดบางอย่างได้คือ โลกของเรากำลังถูกจับตามอง

ในแง่ของดวงดาวที่มีปริมาณน้ำมากที่สุดในบริเวณแถบกลุ่มดาวแถว ๆ นี้

น่าคิดต่อไปมั้ยครับ .....

 

ท่าน ooghost กล่าวได้ถูกต้องแล้ว

ดาวเคราะห์โลกนี้มีธาตุที่สมบูรณ์พร้อมทั้ง ๔ ธาตุหลักใหญ่ อันได้แก่ปฐพีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ และ อาโปธาตุ ซึ่งจะแตกธาตุออกไปอีกเป็นพันเป็นหมื่นธาตุย่อยอีกเหลือคณานับ และมีโอกาสที่มนุษย์ธาตุจะนำมาใช้ได้อีกมากมาย ทั้งที่เป็นธาตุที่ค้นพบแล้วในตารางธาตุ และอีกหลายธาตุที่ยังไม่ได้ค้นพบ และสิ่งที่สำคัญก็คืออาจจะไม่มีโอกาสได้พบเลยก็เป็นได้

สิ่งมีชีวิตหลายกลุ่มจากดวงดาวที่ไกลโพ้น ต้องการในทรัพยากรนี้มาก ถึงกับมีการแย่งชิงกันเกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่มนุษย์เรานี่แหล่ะ เพราะเขาต้องการให้สูญพันธุ์ จะมีเฉพาะสัตว์เดรัจฉาน และพืชเท่านั้น

พูดง่ายๆ คือต้องการกำจัดประชากรมนุษย์ออกไปให้พ้นจากโลกใบนี้ และจะไม่มีใครกีดขวางในการขนทรัพยากรอันมีค่าอเนกอนันต์นี้กลับไปนั่นเอง

แต่อย่าลืมว่า ยังมีมนุษย์ใต้โลกอีกพวกหนึ่งที่คอยจับตามองดูอยู่ ผมไม่อยากเห็นโลกของเราเป็นเชื่้อในสงครามจักรวาฬนี้ เพราะมันเศร้าเกินกว่าที่จะรับได้ ....

(cry) ... น้ำตาแห่งมวลโลกมนุษย์กำลังหลั่งริน ... พูดแล้วเศร้าชะมัดเลยแฮะ ...!

 

เกิดแต่เรื่องประหลาดขึ้น ขอบคุณกับความรู้ดีๆครับ

 

*** แหล่งน้ำ ****

ทางช้างเผือก... คือ แหล่งน้ำของจักรวาล
น้ำ...ที่เพิ่มขึ้นบนโลก
ถูกส่งมาจาก....ทางช้างเผือก
ลอยมาตาม...กระแสลมจักรวาล
เพื่อ...เติมน้ำในโลกให้ครบสัดส่วน
ทุกอณูของสรรพสิ่งบนโลก....จึงจะสมบูรณ์

ที่กล่าวมา...คือ การจัดสรรของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ โลกุตตระ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
20-07-2007, 01:47 PM
http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A5.84749/

 

มึน - -" วิทยาศาสตร์ก็ได้แค่คาดเดา

 

อาจจะเป็นเพราะว่า เพิ่งเปิดเทอม มั้งท่าน เปิดเทอมทีอย่าว่าแต่แหวนดาวเสาร์ แถบดาวพฤหัสเลยท่าน
สร้อยคอที่เห็นใส่ๆกันก็หายแว๊ปกันมานักต่อนัก

 

พฤหัส หญ้าแพรก หายไปหมด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ไม่เข้าใจกับคนที่เข้ามาอนุโมทนากับเรื่องวิทยาศาตร์เเบบนี้ พร่ำเพรื่อที่สุด

 

อะไรจะเกิดก็เกิด