ใครจะทานเจในปีนี้ระวัง อย่าซื้อกิน ผงชูรสอื้อ!!! อาจถึงตายได้!

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Paravatee, 5 ตุลาคม 2006.

  1. Paravatee

    Paravatee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +2,970
    ทานเจ เข็ดแล้วครับ ปีที่แล้วซื้อมากิน จนครบ แต่เข็ดไปอีกนาน ผงชูรสเยอะมาก ผมกินเข้าไปแล้ว คอแห้ง ตาบวม เป็นคนแพ้ผงชูรสอยู่แล้ว แล้วรู้สึกร้านที่ซื้อจะเทผงชูรสใส่เป็นถุงๆๆเลยมั้ง คอผมถึงแห้งกระสับกระส่าย ตาบวมแดงมีอาการมาก วันต่อมาผมก็ไปซื้อกินอีกที่ร้านอื่น เปลี่ยนมา 5 ร้าน ใส่ผงชูรสทั้งนั้น แต่ก็ยังฝืนกินด้วยหวังที่จะได้บุญ วันเกือบๆๆสุดท้ายเลยซื้อ อาหารเจกระป๋องของ อสร.มากิน ปรากฏพอๆๆกันเลยครับผงชูรสอื้อ ทานแล้วตาบวม เจ็บคอ นอนก็กระสับกระส่าย ผมซื้อร้านอื่นที่ขายมา 5 ร้าน ภายใน 7 วัน ใส่ชูรสทั้งนั้น สังเกตุจากอาการแพ้ผงชูรสของผม คอแห้ง กระสับกระส่าย ตาบวมแดง นอนไม่หลับ แถมยังใส่ชูรสระดับ ถุงๆๆ
    ผมทำงานตื่น 7.00 เลิกเกือบๆๆ 3 ทุ่มทั้งรถติด ทั้งงาน จะให้มานั่งทำทานเองคงไม่ไหว ถ้าทำเองกลางวันจะทานอะไร ขับรถเกือบ 5 โลไปทำข้าวทานที่บ้านแล้วขับกลับมาบริษัทคงไม่ไหว คงต้องยอมรับกันซะทีละครับ
    เลยอยากเตือนเพื่อนๆๆ ใครจะทานเจ ทำทานเองดีกว่าครับ อย่าไปซื้อกินเด็ดขาด ผงชูรสอื้อซ่า ผมลองสำรวจมาแล้ว ขายมา 5 ร้าน ใส่ชูรสทั้ง 5 ร้าน ร้านอื่นๆๆก็คงใส่ แต่ถ้าไปกินโรงแรมหรูๆๆ ราคาแพงๆๆ เป็นพันๆๆไม่แน่อาจไม่ใส่ชูรสมั้งครับ แต่จะมีปัญญากินมื้อละ พัน ครบ 9 วันหรือเปล่าละนี่ เฮ้อ
     
  2. motana

    motana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +233
    ข้าพเจ้าคิดว่าอาหารเจเนื่องจากมีรสชาติจืดชืดจึงไม่น่าจะอร่อยลิ้นสำหรับคนที่ทานเนื้อสัตว์อยู่แล้วเขาจึงอาจใส่ผงชูรสเพื่อทำให้รู้สึกเหมือนว่าอร่อยขึ้นก็เป็นได้เพราะช่วงเทศกาลเจคนทานเนื้อนิยมมาถือเจเพราะคิดว่าได้ทำบุญกันมากแต่ปากยังติดรสเนื้อสัตว์อยู่
    การทานเจหรือมังสะวิรัตินั้นพระพุทธเจ้าท่านมิได้ห้ามสำหรับฆราวาสแต่ห้ามพระภิกษุสงฆ์เพียงแต่เป็นการเลือกอาหารที่จะรับบิณฑบาตรแต่มิได้ห้ามหากเลือกไม่ฉันเนื้อสัตว์ในบาตรของตน
    แต่พระพุทธเจ้าท่านก็มิได้ทรงสรรเสริญว่าการทานมังสะวิรัติ ทานเจเป็นกุศลแต่อย่างใด มีเพียงแต่นิกายมหายานของจีนที่คิดว่าทานแล้วได้บุญและพระภิกษุของมหายานที่ห้ามทานเนื้อเท่านั้นอาจจะเพราะถือเป็นการฝึกความอดทนก็ได้
    ซึ่งหากจะคิดว่าทานแล้วได้กุศลท่านก็คงต้องพิจารณาเสียใหม่ จงทานเพื่อละซึ่งการติดรสชาติในอาหารและพิจารณาต่อไปถึงอาหาเรปฏิกูล ก็จะเป็นวิปัสสนาอย่างนึง หรือทานเพราะแสดงซึ่งเมตตาต่อสรรพสัตว์ก็เจริญพรหมวิหารอย่างนึง หรือถือโอกาสปฏิบัติธรรมถือศีลอุโบสถ ดังนี้จึงเรียกว่าทานแล้วเกิดกุศลขึ้น
    อนึ่งการทานมังสะวิรัติหรือทานเจยังได้อานิสงค์อีกประการคือเป็นผู้ปลอดจากโรคร้ายที่จะเบียดเบียนหากท่านทานเป็นประจำ ถ้าให้อธิบายคงต้องยกหลักทางแพทย์มากล่าวอ้าง แต่หากท่านติดตามข่าวด้านสุขภาพคงพอเข้าใจได้บ้างว่าอย่างน้อยจะทำให้ปลอดจากมะเร็งต่างๆเป็นอันมาก และจะทำให้จิตสงบไวไม่ฟุ้งซ่านมากทำให้ปฏิบัติธรรมง่ายขึ้น บางท่านอาจหน้าตาผ่องใสขึ้นเพราะตามหลักธรรมชาติบำบัดถือว่าเป็นการล้างพิษ
    สุดท้ายจะทำอะไรอย่าฝืนจนต้องเบียดเบียนตนเองหากฝืนใจตนมากก็กลับกลายเป็นเบียดเบียนตนเองอีกแทนที่จะได้สร้างกุศลกลับกลายเป็นสร้างทุกข์ให้ตนโดยแท้ อนึ่งข้าพเจ้ามิได้สนับสนุนให้ทานและมิได้ต่อต้านด้วยเพียงแต่ต้องการแสดงข้อคิดเพิ่มเติมเท่านั้น หากรบกวนจิตใจท่านใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วย ด้วยข้าพเจ้านั้นก็ทานมังสะวิรัติอยู่จึงค่อนข้างจะเข้าใจเรื่องที่อธิบายมาข้างต้นบ้างมิได้มีภูมิธรรมสูงแต่ประการใดหากข้อใดขัดข้องผู้รู้ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
    สุดท้ายขออนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2006

แชร์หน้านี้

Loading...