เว็บพลังจิต เหตุเกิดตอนตีสาม...ที่ลาส เวกัส

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 9 มิถุนายน 2008.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    บทความต่อไปนี้ข้าพเจ้านำมาจาก web ธรรมมะเวบหนึ่ง อ่านแล้วได้แง่คิดทางธรรมดี เลยคัดลอกนำมาฝากให้อ่านกัน จะได้เห็นอานุภาพของกิเลส

    เนื้อหาของบทความเริ่มดังนี้...

    เมื่อช่วงปิดเทอมใหญ่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เดือนนี้มีวันหยุดเยอะ ฉันอยากไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่แอลเอ ซึ่งไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว ประกอบกับเพราะซื้อตั๋วได้ถูก ฉันจึงตัดสินใจไปแบบปุบปับ กระโดดขึ้นเครื่องบินไปกับลูกๆ ทั้งสองพร้อมกับหลานอีกหนึ่งคนรวมสี่ชีวิต ปร๋อไปอยู่แอลเอเรียบร้อย ใจจริงอยากจะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้เจาะจงอยากจะไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า เพื่อนก็ดีใจหายที่เราไปเยี่ยม เตรียมจัดทริปพาพวกเราทั้งสี่ไปนอนเล่น 3 คืนที่ลาสเวกัสในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ไปถึงทันที

    ฉันเองเมื่อรู้ว่าเพื่อนจะพาไปลาสเวกัสและจัดเตรียมที่พักไว้ให้ถึง 3 คืน ฉันถึงกับอึ้ง เพราะไม่รู้จะไปอยู่ทำอะไรที่นั่นนานขนาดนั้น อีกทั้งฉันและลูกก็เคยไปมาแล้ว แต่ขัดเพื่อนไม่ได้ เพราะเพื่อนอุตส่าห์จัดเตรียมทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ..เตรียมลางาน ..เตรียมโรงแรม ..เตรียมขนอาหารทั้งสดทั้งแห้ง ขนมนมเนยใส่ลังขนาดยักษ์ชนิดที่ราวกับว่าจะไปอยู่ได้เป็นเดือน เพราะคนที่นั่น เขาถือว่าลาสเวกัสเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สุดยอดของเขา ที่พักก็ถูก อาหารก็อร่อย แหล่งช้อปปิ้งครบครัน มีโชว์อลังการงานสร้าง เพียงแค่เดินดูความอลังการของแต่ละโรงแรมก็ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เพื่อนฉันคงอยากจะต้อนรับเพื่อนเก่าจากเมืองไทยให้สมศักดิ์ศรีซักหน่อย เห็นเพื่อนตั้งใจต้อนรับขนาดนี้ ฉันเองถึงกับพูดไม่ออก เพราะใจจริงไม่อยากไปในสถานที่อย่างนั้นเลย แต่ก็ต้องขอบคุณในความหวังดีของเพื่อน เอ๊า..ไปก็ไป

    เมืองลาสเวกัส ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ เป็นเมืองแห่งการพนันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายในรัฐเนวาด้า แต่ก็มีผู้คนหลั่งไหลไปยังเมืองนี้จากทุกมุมโลก ดังนั้น ผู้คนที่ไปจึงมีทั้งไปเพื่อเล่นการพนันและไปเพื่อไปดูเขาเล่นการพนัน ไปดูความยิ่งใหญ่อลังการของโรงแรมและบ่อนต่างๆ ที่แข่งกันสร้างให้ยิ่งใหญ่งดงามตระการตา เพื่อดึงดูดผู้คนให้มาเล่นการพนันที่โรงแรมของเขา

    จากแอลเอไปเวกัส ใช้เวลาขับรถประมาณ สี่ชั่วโมง ถนนในอเมริกาดีมาก ขับสบายปลอดภัย เมื่อเริ่มเข้าสู่เขตทะเลทราย เราก็รู้ว่าเริ่มเข้าเขตเนวาด้าแล้ว หลานสาวที่ไม่เคยไป บอกว่า เหมือนในหนังคาวบอยเลย ที่มีพุ่มหญ้าเป็นก้อนกลมๆ แห้งๆ กระจายอยู่สุดลูกหูลูกตา ภูเขามีแต่เขาหิน ดูแห้งแล้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่า ในดินแดนที่อยู่กลางทะเลทรายอย่างนี้ จะมีใครมาเปิดบ่อนการพนันจนสามารถสร้างเป็นเมืองแห่งการพนันที่ยิ่งใหญ่ของโลกได้ และดึงดูดผู้คนมาจากทุกมุมโลก รวมทั้งพวกเราด้วย ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่นี่

    หากจะถามว่า เขาเอาเงินมาจากที่ไหน มาสร้างโรงแรมสุดหรู ..มาจ้างโชว์สุดยอดไว้ให้ความบันเทิงกับลูกค้า ..มาแข่งกันตกแต่งออกแบบว่าของใครจะมีไอเดียที่แปลกแหวกแนว ดึงดูดลูกค้าได้มากกว่ากัน ก็คงตอบได้ว่า ก็เอามาจากเงินของนักพนันนั่นเอง คราวนี้ถ้าจะถามต่อว่า นักพนันที่มาเล่นนั้น เล่นได้ หรือ เล่นเสีย? ก็คงตอบได้ทันทีว่าต้องมีคนเสียมากกว่าได้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นเขาจะไปเอาเงินมาจากไหนมาแข่งกันสร้าง? จริงมั้ยคะ..

    ที่พักซึ่งเพื่อนจองให้นั้นเป็นแบบอพาร์ตเม้นท์อย่างเริ่ด มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ตอบสนองต่อครอบครัวแบบอเมริกัน มีโทรทัศน์จอมหึมาทุกห้อง มีห้องรับประทานอาหาร ครัว เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้เย็นขนาดยักษ์ เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า วิทยุเครื่องเสียง MP3.. มีทู้กกอย่าง ไปจนถึงอ่างอาบน้ำจากุซซี่! ทันทีที่ไปถึง เพื่อนก็ไม่ยอมให้เสียเวลา เริ่มพาพวกเราออกเดินดูความอลังการของแต่ละโรงแรม เธอคล่องมาก แม้เธอจะไม่ใช่นักเล่นพนัน แต่การมาลาสเวกัส ถือว่าเป็น Holidays ของเธออย่างแท้จริง

    ฉันได้แต่สงสัยว่า เรามีเวลาตั้งสามคืนสี่วัน แล้วเราจะทำอะไรกันบ้าง แต่ปรากฏว่าฉันคาดผิด เมืองนี้มีสิ่งที่เป็นศูนย์รวมของความบันเทิงทุกอย่างจริงๆ ขนาดร้านรวงธรรมดา เขาก็ยังมีการประกวดประชันการออกแบบตกแต่งให้โดนใจลูกค้าไปกับเขาด้วย ลูกๆ สนุกกับการช้อปปิ้งมาก เราเดินดูความสวยงามของแต่ละโรงแรม เข้าโรงแรมโน้นออกโรงแรมนี้กันอย่างเพลิดเพลิน น่าเสียดายที่เป็นการแข่งกันเชิญชวนให้ผู้คนมาเล่นการพนัน




    <TABLE style="WIDTH: auto; DISPLAY: inline" id=ipb-attach-table-17172-0-46545500-1213017457 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>


    post-11987-1212855484_thumb.jpg



    มีต่อครับ...​



     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2010
  2. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    เราต้อง กะเวลาให้ดีๆ จะได้ดูโชว์ของแต่ละโรงแรมได้ทัน มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริงๆ ขนาดฉันเคยไปมาแล้ว มาครั้งนี้โชว์ต่างๆ ก็เปลี่ยนไปอีก กว่าจะกลับถึงที่พักก็เกือบเที่ยงคืนทุกวัน แต่แม้จะหมดแรงแค่ไหน ก็พยายามจะนั่งสมาธิให้ได้ก่อนล้มตัวลงนอน หรือจะเรียกว่าเลื้อยตัวลงนอนก็คงจะได้

    ผ่านไปจนถึงคืนที่สามอย่างรวดเร็ว เจ้าความเพลินทางโลกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันต้องสารภาพว่าไม่ได้รักษาใจไว้ที่ศูนย์กลางกายเลย...แต่คืนนี้ เราอยู่กันดึกมาก โรงแรมสุดท้ายที่เราไปดูเป็นโรงแรมที่เปิดใหม่ล่าสุดเมื่อตอนต้นปีนี้เอง ที่สะดุดใจคือไนท์คลับหรือผับของโรงแรมที่ใช้ชื่อว่า เต๋า (Tao) ได้มีการตกแต่งด้วยพระพุทธรูปองค์มหึมา ที่จริงฉันเคยอ่านเจอข่าวที่มีการออกมาท้วงติงว่าเป็นการไม่สมควร แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นกับตาตัวเอง

    ที่หน้าผับมีหญิงชายยืนเข้าคิวออกันแน่น ผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวนอย่างสุดฤทธิ์ ทุกคนส่วนใหญ่มีแก้วเหล้าและบุหรี่อยู่ในมือ ยืนรอเข้าผับแห่งนี้ ซึ่งต้องเข้าคิวถึงสามชั่วโมง กว่าจะได้เข้าไป ฉันมองเข้าไปข้างในเห็นพระพุทธรูปางไสยาสอยู่หลังบาร์ ส่วนพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่เกือบจรดเพดานสไตล์คล้ายพระพุทธรูปทางภาคเหนือของเราประดับอยู่ข้างฝา


    post-11987-1212855608.jpg


    ฉันสลดใจอย่างบอกไม่ถูก มองดูผู้คนเหล่านั้น เหมือนกับพวกเขากำลังรอคิวลงนรก..คืนนั้นฉันกลับโรงแรมด้วยใจที่แห้งกว่าทุกคืน เกือบตีสองแล้วแต่รถราบนถนนยังแน่นขนัด บอกแล้วไงว่าเวกัสเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล

    กว่าเราจะอาบน้ำเข้านอนกันก็ตีสอง คืนนี้ฉันไม่ง่วงเลย อยากนั่งสมาธิเป็นที่สุด เพราะตลอดวันนั้น ใจฉันเสพแต่ภาพความบันเทิงทางโลก ยิ่งต้องมาเห็นภาพสลดใจที่เขาทำต่อพระพุทธรูป ยิ่งมีความรู้สึกว่าอยากจะชำระล้างใจให้สะอาดเสียเร็วๆ ดังนั้นพอทุกคนเข้านอนปิดไฟหมด ฉันจึงออกมานั่งสมาธิที่โต๊ะอาหาร ใช้เวลารวมใจนานพอควร แต่พอรวมใจได้ ฉันก็เป็นสุขสว่างอยู่ในกลางเป็นนาน อย่างนี้สิ จึงจะเรียกว่าสุขอย่างแท้จริง

    ฉันนั่งอยู่นานเท่าไรไม่ทราบ รู้แต่ว่าใจสะอาด สว่างขึ้นมาก แล้วก็นึกขึ้นมาแว้บนึงว่า ณ เวลานี้ ตีสาม ที่เมืองลาสเวกัสจะมีใครทำสมาธิอยู่บ้างมั้ยนะ? ดูเหมือนว่าจะมีคำตอบขึ้นมาเองทันทีว่า “ไม่มีเลย..” แล้วก็นึกต่อไปว่า จะมีสักกี่คนที่ต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ ด้วยหัวใจที่ร้าวรานและเศร้าหมองเพราะหมดเนื้อหมดตัวจากการเสียพนัน ใครที่กรรมหนักก็คง..ไปเลย แต่ก็คงมีวิญญาณที่เร่ร่อนตกค้างอยู่ที่เมืองนี้อีกเยอะ ฉันจึงนึกขยายองค์พระสว่างไสวคลุมเมืองลาสเวกัสเอาไว้ เมืองที่ได้ฉายาว่า Sin City (เมืองบาป) และนึกให้สัมภเวสีที่เร่ร่อนเหล่านั้นมาอนุโมทนาบุญ ว่าแต่ว่า..พวกเขาจะโมทนาบุญเป็นมั้ยน้อ

    กำลังนึกสงสัยว่าเขาจะรับบุญเป็นมั้ย ฉันก็ลืมตาขึ้นมา มองไปเห็นเงาโซฟารับแขกที่ว่างเปล่าในความมืด ก็รีบละล่ำละลักบอกในใจว่าไม่ต้องมาให้เห็นก็ได้นะ เพราะในใจก็แอบหวั่นเหมือนกัน ว่าถ้ามาให้เห็นจริงๆ จะทำยังไงนะเรา.. อย่างน้อยก็ใจชื้นที่มองไม่เห็นอะไร! แต่เอ..ก็อยากรู้เหมือนกันนะ ว่าวิญญาณเหล่านั้นจะรับบุญได้จริงมั้ย เพราะถึงแม้ฉันจะไม่เห็นแต่ก็มั่นใจว่า อย่างน้อยก็ต้องมีพวกเขา ซึ่งอยู่ในอีกมิติหนึ่งที่ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา

    เวลานั้น ฉันรู้สึกเบิกบานกับสมาธิ ธรรมะสว่างไสว จึงนึกแผ่อุทิศส่วนบุญเจาะจงให้จิตวิญญาณที่นี่ และบอกพวกเขาว่า ถ้ารับบุญได้ ไม่ต้องมาให้เห็นหรอกนะ แต่สื่อให้รู้สักนิดก็ดี (อยากรู้จริงๆ น่ะ)

    ทันทีที่คิดอย่างนั้น..พลันก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องเสียงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างผนังห้อง เป็นเสียงดังเหมือนคลื่นโทรศัพท์มือถือที่แทรกเข้าไปในไมโครโฟน เป็นเสียงดังแอ่ด..แอ่ด..แอ่ด พร้อมกับที่ปุ่ม Power มีไฟแดง วาบขึ้นมา 3 ครั้ง ในความมืด

    มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่เครื่องเสียงจะมีอารมณ์มาดังเองตอนตีสาม และดังทันทีหลังจากที่ฉันนึกอยากรับรู้ถึงการมาของพวกเขาโดยช่องทางใดช่องทางหนึ่ง พวกเขาคงพยายามสื่อให้ฉันรู้จริงๆ ว่าพวกเขารับบุญได้

    น่าแปลกที่ฉันไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ใจยังหยุดนิ่งสว่างไสว บอกกับพวกเขาว่า เอาละจ้ะ รู้แล้ว..รู้แล้ว ว่ารับบุญได้ ฉันนึกสงสารเหล่าวิญญาณที่นี่เสียจริง เพราะคงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ที่จะมีชาวพุทธสักคนมานั่งสมาธิที่ลาสเวกัสและอุทิศส่วนบุญให้สรรพวิญญาณเหล่านั้น

    ฉันนั่งหลับตานิ่งอีกพักใหญ่ จึงออกจากสมาธิและลุกไปเข้านอนอย่างเป็นสุข

    เรื่องนี้.. พอจะมีใครบอกฉันได้บ้างว่า ถ้าไม่ใช่เสียงตอบรับจากวิญญาณ แล้วจะเป็นเสียงอะไร?

    จาก http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=16345
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2008
  3. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    [​IMG]

    ภาพนี้เห็นแล้วสลดใจครับ
    สงสารเจ้าของไอเดียนี้จัง ไม่น่าเลย
     
  4. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    ขออนุโมทนา สาธุ

    เกสรช์ขอนำบทความดีดีนี้เผยแพร่ต่อไปเพื่อเป็นธรรมทานนะคะ

    ขอบคุณคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2008
  5. เวฬุวัล

    เวฬุวัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,843
    ค่าพลัง:
    +505
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ พวกเราควรปลงอย่าไปถือโทษโกรธเขา ปล่อยวางแล้วปล่อยให้กรรมดำเนินไปตามวาระของมันนะคะ
     
  6. jittima_chamchalerm

    jittima_chamchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +178
    เมื่อขับผ่านทะเลทรายที่ ลาสเวกัส เราบอกได้เลยว่ามีแต่วิญญาณที่ทะเลทรายนี้ เราไม่อยากไปเข้าเมืองนั้นเลย เรากลัวมั่ก ๆ เรายังคุยกับเพื่อน ๆ เลย แต่..อ่ะนะ นัดเพื่อนแล้ว

    เฮ้อ ... ไปถึงก็เจอผีที่โรงแรมแรกเลย วิ่งกันตับแล่บเลย เพราะอีกคนเขามีเซนท์ มองหน้ากำเหรียญหลวงพ่อโกย เพื่อนอีกคนพอเห็นหน้าเรา ถามคำเดียว มีอะไร พอมองหน้าเราสองคน เหยียบคันเร่งออกไปเลย เล่าแบบขำ ๆ เพราะเวลาไปเที่ยวในกลุ่มประมาณ 8-10คน จะแบ่งคนไปจองโรงแรมที่เคาร์เตอร์ เมื่อขึ้นไปดูห้องเราจะไปดู เชคก่อนว่าโอป่ะ แล้วค่อยขึ้นไปพัก เฮ้อ ... จบ
     
  7. AuNgCrO

    AuNgCrO Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +53
    อนุโมทนาด้วยคะ

    สุดยอดเลยดีนะคะที่คนมีบุญไปแผ่สวนกุศล

    ได้อ่านแล้วรู้สึกดี แต่เห็นภาพพระพุทธรูปแล้ว

    ก็แอบสลดใจ
     
  8. taxrefund

    taxrefund เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +234
    ที่ u.s.a. เขาเอาพระพุทธรูปมาขายเป็นเครื่องประดับสวนวางกับพื้นไปทั่วเห็นแล้วรู้สึกเสียใจ
     
  9. taroma

    taroma Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +48
    คุณมีสติมากนะคะ ที่นั่งสมาธิในสถานที่แบบนั้น เหมือนเป็นแสงสว่างให้คนที่ลุ่มหลงมัวเมา อนุโมทนาค่ะ

    ป.ล. สลดใจเหมือนกันค่ะ ที่คนอื่นเห็นสิ่งที่พวกเราเคารพบูชาเป็นเพียงสิ่งประดับ แต่บางทีก็ต้องทำใจว่าคนเราคิดไม่เหมือนกันนะคะ
     
  10. indear

    indear เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +733

    สลดใจในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และการไม่ให้เกียรติศาสนาของเรา

    แต่คงไม่มีใครอุตริเอาไม้กางเขนไปปักกลางสวนเล่นๆเหมือนที่ทำกับพระพุทธรูปเรานะคะ บ้านคงกลานเป็นสุสานฝรั่งไปเลย
     
  11. รักดีทำดี

    รักดีทำดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +238
    ฝรั่งเขาไม่ถือ แต่เขาคงไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันไม่สมควรและชาวพุทธอย่างเราจะสลดใจแค่ไหน หรือเขาอาจจะรู้แต่เขาก็คงไม่สนใจหรอกค่ะ
    ------------------------------
    บาปอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนก่อ
     
  12. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    เห็นรูปพระพุทธรูปในสถานที่บรรเทิงเเล้ว สลดใจ ทำให้นึกถึงซานติก้าเลย สไตล์การตกเเต่งประมาณเดียวกันเลยยกเว้นว่าของสำคัญของคนละศาสนา

    พูดถึงเรื่องเเผ่เมตตาเเละอุทิศส่วนกุศล วันๆหนึ่งเราทำไปเยอะเหมือนกัน เมื่อก่อนไม่เคยทำเเบบนี้จะเเผ่เมตตาก็ตอนนั่งสมาธิสวดมนต์ เเต่เดี้ยวนี้ถ้ามีวิญญาณมาเราจะปวดหัวตุ๊บๆเล็กๆเเล้วก็จะเเผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลไป วันหนึ่งไม่ต่ำกว่าสิบราย ตอนเเรกคิดว่าเราอาจจะป่วยปวดหัวไปเองเเต่หลังจากทดลองเเล้วทุกครั้งหลังเเผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลจะหายปวดทันที เเปลกๆดีเหมือนกัน
     
  13. นะภะ

    นะภะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +54
    โลกคือสัตว์ สัตว์คือโลก
     
  14. man20040

    man20040 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +74
    คุณทำถูกแล้วครับ เราควรแผ่เมตตาให้ทุกดวงจิต ทั้งที่มีและไม่มีชีวิต
    ลองดูสิครับ แม้จะอยู่ในที่ ๆ วุ่นวาย แต่พระพุทธองค์ ท่านก็วางเฉย ไม่สนใจใยดี
    กับสิ่งรอบตัว ท่านปรับตัวให้อยู่ร่วมกับเขาได้ครับ ไม่ต้องห่วง
    กรรมใคร กรรมมัน สาธุ
     
  15. chayanant

    chayanant Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +75
    มันก็เหมือน ที่ประเทศเรา
    เอา โลงศพแบบฝรั่ง กับ ไม้กางเขน
    มาตกแต่ง ซานติก้า อ่ะแหละ
     
  16. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    [​IMG]

    ตั้งชื่อภาพว่า
    ความสงบ สุข ท่ามกลางกระแสโลกธรรม....

    คิดเสียว่าพระท่านไปอยู่ที่นั้น ก็เพื่อเตือนใจใครบางคน(อาจจะมีอีกหลายคน) ..ดังเรื่องที่เล่ามา....
     
  17. maewnoy

    maewnoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +131
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ เห้อ เห็นแล้วก็สลดใจจังที่นำพระพุทธรูปไปตั้งไว้ในที่แบบนั้น
     
  18. mu-nice

    mu-nice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +650
    ความสุขในโลกนี้มีเพียงชั่วครู่น่าสงสารที่เขาไม่มีทางรู้ว่าความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นนานแสนนาน ขอแผ่ส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าตั้งใจบำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติให้กับวิญญาณทั้งหลายที่ลาสเวกัสด้วยเทอญ สาธุ
     
  19. ayaiya

    ayaiya Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +49
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ อะไรแปลกๆ ที่ไม่เคยพบเคยเห็นมันมีอยู่ทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงแต่ กรรมผูกพันธ์นั้นนั้นจะขับเคลื่อนให้สรรพสัตว์แต่ละตัวตนได้ไปพบไปสัมผัส
    มีสมาธิ สติ รู้เท่าทันเกมส์ปัญญาก็จะเกิด ทุกสิ่งมันก็คือสูญญตาครับ ปล่อยวาง ปล่อยวาง
    ความสะอาด สว่าง สงบแห่งจิตพระนิพพานก็บังเกิด สาธุ สาธุ
     
  20. ปานรดา Phimdee

    ปานรดา Phimdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +359
    สำหรับหนู หนูว่าเป็นวิญญาณจริงๆนั้นเเหละค่ะ และก็คงเป็นไปตามที่คุณแม่คิดเลยนะคะ
    ที่ว่า เค้าพยายามที่จะเเสดงให้รู้ว่าเขาได้รับบุญจากการที่คุณแม่แผ่ส่วนบุญให้ และเขาอยู่บริเวณนั้นจริง ^o^
     

แชร์หน้านี้

Loading...