อภิญญาต้องเริ่มด้วย กสิณ เท่านั้นหรือ ?????

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย PalmPlamnaraks, 30 กันยายน 2006.

  1. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    แนวทางวิธีการปฏิบัติ ในโลกียอภิญญานั้น ต้องปฏิบัติเข้าด้วยการเริ่มที่กสิน ทั้ง 10 กอง เท่านั้นหรือ หรือว่ามีวิธีอื่นหรือไม่


    อภิญญาสำหรับท่านที่เป็นบุคคลซึ่งไม่เคยได้ ไม่เคยมีมาเลย นั้น ต้องเริ่มต้นด้วยกสิน 10 กองแน่นอน อันนี้รู้มานานแล้ว

    แต่ขาพเจ้าต้องการทราบว่า มีวีธีย้อน เพื่อดึงเอาของเก่ามาใช้ หรือไม่สำหรับผู้ที่เคยได้มาแล้วในกาลก่อน

    อย่างเช่นเคยได้มา ในชาติที่ผ่านมา นานๆ แล้ว


    แต่ชาตินี้ยังฟื้นกลับของเก่ายังไม่ได้

    เขาผู้นั้นต้องย้อนกลับไปฝึก กสินทั้ง 10 กองใหม่หรือ จึงจะได้อภิญญา กลับคืนมา


    หรือว่ามีแนวทางใด ที่ไม่ต้องไปเริ่มฝึกกสินใหม่


    ท่านผู้รู้โปรดชี้แนะ ด้วย


    ท่านผู้ไม่รู้ อย่า.........

    ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
     
  2. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ฌาน4
    ตูไปฌาน8แล้ว
    แต่ไปไม่ได้ เค้าไม่ให้ไป
    โม้แล้วเสื่อม ก็ให้มันเสื่อมไป
    ปล.ไม่เชื่อก็ไม่ต้อง อย่ามาด่า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 กันยายน 2006
  3. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,057
    ความคิดส่วนตัว คงไม่เริ่มจากกสิณทั้ง 10 กองเสมอไปหรอกนะครับ.....คาถาบางบทท่องภาวนาแล้วอาจดึงความสามารถในอดีตได้...เกิดอภิญญาได้....บางทีก็ภาวนาธรรมดา หรือจับลมหายใจเข้าออกธรรมดา หรือนั่งนับลมหายใจเข้าออก ...พอถึงจุดหนึ่งก็เกิดอภิญญาเฉยเลย....

    ถ้าสามารถเข้าฌานสี่ได้ตามต้องการ กำหนดการออก การเข้าได้...การเกิดอภิญญาก็สามารถทำได้ทุกเวลา.....แต่ถ้าไม่สามารถเข้าฌานสี่ได้ หรือเข้าได้เป็นบางครั้ง การเกิดก็เกิดเป็นบางครั้งและก็ยังไม่สามารถควบคุมการเกิดอภิญญาได้ตามความต้องการ.....

    บอกแล้วความคิดเห็นส่วนตัว....จริง ๆ แล้วผมไม่ใช่ผู้รู้หรอกนครับ...ต้องขออภัยด้วย.
     
  4. motana

    motana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +233
    พระพุทธองค์ท่านก็ทำมาก่อนในสมัยการเรียนที่สำนักตักสิลาและนักปราชญ์ต่างๆ
    เพียงแต่ท่านทรงเป็นได้เร็วเพราะทำมามาก
    แม้พระอัครสาวกท่านก็พึงเจริญกสิณมากแล้วจนคล่องในวสีจึงทำอิืืทธิวิธีได้
    ส่วนอภิญญานั้นมีหลายจำพวกตั้งแต่วิชชา3เป็นต้น
    ไม่จำต้องเจริญกสิณก็มีได้หากเข้าถึงระดับฌานแต่อิทธิวิธีต้องทำกสิณก่อน
    เพราะจะแสดงอิทธิธาตุใดให้เกิดก็ต้องเข้าใจในธาตุนั้นเสียก่อนหากยังไม่เข้าใจจะดึงอันใดให้เกิดเล่า
    อนึ่งผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ละซึ่งความเพียรในการปฏิบัติธรรมแม้ว่าจะคิดรู้ว่าตนเคยทำได้มา
    หากมีคาถาอันใดพร่ำสวดแล้วได้อภิญญาเลยคงไม่ต้องปฏิบัติธรรมกันแล้วกระมัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2006
  5. ขิก

    ขิก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,338
    ค่าพลัง:
    +18,756
    เอาอย่างนี้ ซิ ปฏิบัติธรรมให้ได้เป็นพระอรหันต์เสียก่อน คุณธรรมเก่า ๆ ก้จะบังเกิดขึนมาเองตามวิสัยของเราที่ได้บำเพ็ญมา ปฏิบัติมาแนวไหนก็ไดแนวนั้น ๆ ตอนนี้ความดีของเราอาจยังรับความดีในอดีตไม่ได้ เพราะอาจเนื่องด้วยอกุศลกรรมมาขัดขวางมาริดรอน ถ้าเรามัวแต่ไปดันทุรังจะเอาอิทธิฤทธิ์ให้ได้ ก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสได้ในชาตินี้ สู้เราทำจิตของเราให้ละวางให้ได้มากที่สุดที่เราจะทำได้ เพื่อปิดอบายภูมิไว้ก่อน

    คิดง่าย ๆ แบบนี้ดีกว่า ได้ก็เอาไม่ได้ก็แล้วไป
     
  6. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,015
    กสินมีมากกว่า ๑๐ อย่าง
    แต่ขอให้ยึดกับ๑๐นี้ตามแบบพุทธ

    ฝึกกสินทำให้จิตรวมตัวที่สิ่งเดียว ทำให้เกิดสมาธิ จิตรวมตัวเป็นอารมฌ์เดียวจะเกิดพลังมหาศาล พอเกิดพลัง ก็เอาพลังนั้นไปทำอะไรต่างๆได้

    เหมือนเอาเลนส์นูนไปไว้กลางแสงแดดที่กระจาย แล้วเราปรับจุดโฟกัสของเลนส์ให้เล็กลงเป็นจุดเดียวเล็กๆ จุดเล็กๆนั้นก็จะมีพลังงานความร้อนมาก สามารถเอาไปเผากระดาษได้

    จะได้อภิญญาต้องได้ฌาณ๔

    ถ้าอดีตชาติ เคยได้อภิญญามาก่อน ชาตินี้พอเข้าฌาน๔ อภิญญาเก่าๆจะมาเอง
    ไม่ต้องไปเริ่มฝึกกสินใหม่

    ถ้าเคยไดฝึกกสินและได้อภิญญามาแล้ว แต่เป็นอดีตชาติที่ห่างไกลมากๆ นานมากๆ
    แบบนี้ต้องฝึกกสินใหม่หนึ่งกอง

    หลังจากได้แล้วจะเรียนรู้ได้เร็ว สามารถใช้เทคนิคต่างๆทางอภิญญาได้อย่างเร็วกว่าคนที่ไม่เคยฝึกมาก่อน

    เปรียบได้กับ คนที่เคยเรีียนตรีโกณมิติ สมัยม๔
    พอเรียนจบตรี และทำงาน ไป๑๐ปี และวิชาตรีโกณมิต ไม่ได้ใช้เลย ทำให้ลืมสูตร ใช้ไม่เป็น

    อยู่มาวันนนึงอยากจะใชเป็น
    พอจะใช้ใหม่เราก็ไปเปิดอ่านแบบคร่าวๆก็จำได้แล้ว แบบก้าวกระโดขั้นต่างๆได้เลย เพราะว่าเคยเรียนเคยเข้าใจมาแล้ว
    ไม่ต้องไปเริ่มเรียนใหม่ทุกขั้นตอน ไม่ต้องมีครูอธิบายเหมือนครั้งแรกที่เราเรียนตอน ม๔

    สำหรับคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนเลย ต้องเริ่มเรียนแบบขั้น ๑๒๓
     
  7. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +2,268
    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
    (ศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงปู่มั่น)



    ท่านได้เปิดเผยความจริงว่า....

    แก่นแท้ของ อภิญญา คือ พลังจิต

    เพราะ
    ต้องมีพลังจิตสะสมไว้สูงมากเพียงพอแล้วเท่านั้น จึงจะทำให้เกิดอภิญญาได้<O:p</O:p

    ถ้าพลังจิตยังมีไม่มากพอ ก็ทำให้เกิดอภิญญาไม่ได้

    <O:p</O:p

    อภิญญา เป็นการนำเอาพลังจิต (ที่สะสมไว้ในจิต) ออกมาใช้งาน <O:p</O:p
    จึงทำให้พลังจิตที่สะสมอยู่ลดลง (เสียพลังจิต) ครับ



    การทำสมาธิ / เข้าฌาน เป็นวิธีการเพิ่มพลังจิต แล้วเก็บสะสมเข้าไปไว้ในจิต (ได้พลังจิต)

    ถ้าใช้อภิญญาบ่อยๆ แต่ไม่หมั่นทำสมาธิ
    (เพื่อชดเชยพลังจิตคืนกลับให้เพียงพอ)<O:p</O:p
    ก็จะทำให้พลังจิตลดลงไปเรื่อยๆ
    นถึงจุดที่เหลือไม่มากพอที่จะทำให้เกิดอภิญญาได้ (อภิญญาเสื่อม) ครับ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    -----------------------------------------------------------------------

    เมื่อเข้าใจความจริง เช่นนี้แล้ว

    สมถะกรรมฐาน (สมาธิ) ทั้ง 40 กอง
    เป็นเครื่องมือเพิ่มพลังพลังจิต ได้ทุกกอง ครับ

    คุณจึงสามารถเลือกกองใดก็ได้ มาแค่ 1 กอง
    (ที่คุณถนัด/ชอบที่สุด ในขณะนี้)

    <O:p</O:p


    แล้วใช้กองนั้นเพิ่มพลังจิต
    จนกว่าจะถึงจุดที่มากเพียงพอที่จะใช้พลังจิตทำให้เกิดอภิญญาได้
    (สังเกตจาก คือ อย่างน้อยต้องมี วสี5ในฌานที่4) ครับ


    <O:p</O:p<O:p</O:p
    ยกตัวอย่าง เช่น…….

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน (ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น)
    เคยเล่าไว้ว่า......


    หลวงปู่ฝั้น เคยสอนให้ท่านพิจารณาเข้าไปในร่างกาย
    ใช้ตาทิพย์ให้เห็นตับไตปอดน้ำเลือดน้ำเหลือง อวัยวะภายในทุกอย่าง
    และก็แยกพวกมันออกเป็นกองๆ (ธาตุ4)
    แล้วพิจารณาให้ทุกกองสลายตัว-หายไปทั้งหมด
    จนเหลือแต่จิตดวงเดียวอันบริสุทธิ์ลอยเด่นในที่สุด
    เสร็จแล้วทำให้รวมกลับเป็นร่างกายขึ้นมาใหม่อีก
    แล้วก็แยกออก-รวมใหม่อีก ทำแบบนี้วนไปมาๆ (อิทธิบาท4)

    หลวงพ่อพุธบอกว่า
    เมื่อทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ท่านหายอาพาธอย่างรวดเร็วแล้ว
    ท่านยังเคยทดลองชี้นิ้วไปที่กิ่งไม้และปรารถนาให้มันหัก
    กิ่งนั้นก็หักตกลงมาทันที (อภิญญา)

    เรื่องนี้น่าสนใจมากเพราะ
    แสดงว่า ท่านได้ทั้ง อภิญญา + วิปัสสนาญาณ ในคราวเดียวกัน
    โดยการเจริญ มหาสติปัฏฐานหมวดกายบรรพ(ธาตุ4)
    ซึ่งมีฌาน4 และ อิทธิบาท 4 เป็นฐาน ครับ

    <O:p</O:p

    -----------------------------------------------------------------------

    <O:p
    ถ้าจะถามต่อไปว่า <O:p
    <O:p
    เมื่อเพิ่มพลังจิตด้วยสมถะกรรมฐาน 1 ใน 40 กอง
    จนได้พลังจิตมากเพียงพอแล้ว<O:p
    จะสามารถทำให้เกิดอภิญญาได้ทันที โดยไม่ต้องใช้กสิณ10 จะทำได้หรือไม่ ?

    <O:p
    ตอบว่า<O:p
    โดยส่วนตัวผมเองแล้ว ก็ยังไม่ทราบชัด ครับ

    <O:p
    <O:p
    -----------------------------------------------------------------------

    <O:p
    ขอให้ลองไปพิจารณาใคร่ครวญด้วยตนเองก่อน
    พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ คนที่ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงเชื่อ ครับ


    ขอให้โชคดีทุกท่าน ครับ<O:p

    (verygood) <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2006
  8. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +2,268
    (ต่อจากความเห็นที่แล้ว)



    เมื่อคุณเลือกสมถะกรรฐานกองใดก็ได้ใน 40 กอง เอามาแค่ 1 กอง
    (ที่คุณถนัด/ชอบที่สุด ในขณะนี้)


    <O:p</O:p
    แล้วใช้กองนั้นเพิ่มพลังจิต
    จนกระทั่งถึงจุดที่มากเพียงพอที่จะใช้พลังจิตทำให้เกิดอภิญญาได้แล้ว
    (สังเกตจาก คือ อย่างน้อยต้องมี วสี5ในฌานที่4)


    ถ้าฝึกถึงขั้นนี้แล้ว
    อภิญญาเก่าก็ยังไม่กลับมารวมตัวให้ปรากฏ

    ขอแนะนำดังนี้

    - ให้นึกบริกรรมในใจด้วยคำว่า "สัมปะจิตฉามิ" จนกระทั่งจิตเป็นฌาน
    คาถานี้เป็น คาถาเรียกอภิญญาเก่ากลับมารวมตัว


    - ถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนจากกรรมฐานกองเดิม ไปเป็นกสิณ10
    แล้วไปฝึกตามแบบมาตรฐาน คือ สลับฌานทั้ง4+สลับกสิณทั้ง10
    เพื่อจะทำให้เกิดอภิญญาต่อไป คุณก็สามารถทำได้อย่างสบาย

    เพราะ ผู้ที่มีวสี5ในฌานที่ 4 (ไม่ว่าจะเป็นกรรมฐานกองใดก็ตาม)
    ก็คือ ผู้ที่มีพลังจิตสะสมไว้มากแล้ว
    เมื่ออยากจะเปลี่ยนเป็นกองใหม่ จึงทำได้อย่างสบาย

    อุปมา
    คุณคุ้นเคยกับการยก ข้าวสารหนัก 100 กิโลกรัม จนชำนาญ
    ก็แสดงว่า คุณมีกำลัง(พลัง)กายที่มากมายอยู่แล้ว

    ถ้าเปลี่ยนจาก ข้าวสาร เป็น ถังน้ำ (100 กิโลกรัมเท่ากัน)
    ก็คุณก็ยกได้สบายๆ เช่นกัน

    เพราะ เปลี่ยนแค่เปลือกนอก เท่านั้น
    แต่เนื้อแท้ ก็คือ น้ำหนัก 100 กิโลกรัม เท่าเดิม
    ซึ่งกำลัง(พลัง)กายของคุณที่มีอยู่แล้ว ก็สามารถใช้ยกได้แน่นอน



    ขอให้โชคดี ครับ (i)
     
  9. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    กำลังจิตดี..ก็ทำกสิณได้..

    ไม่จำเป็นต้องกสิณ แต่กำลังจิตต้องระดับกสิณเทียบเท่าหรือมากกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...