Congratulation!องค์หญิงแห่งภูฏาน

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>Congratulation! องค์หญิงแห่งภูฏาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤษภาคม 2553 22:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>องค์หญิงยีหวาง พินดาริกา แห่งภูฏาน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>องค์หญิงยีหวางทรงรับปริญญา</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พระอาจารย์สตีเฟน เลย์ คณบดี คณะวารสารศาสตร์ ถวายปริญญา</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>องค์หญิงยีหวาง พินดาริกา (กลาง) ทรงรับดอกไม้ถวายแสดงความยินดีจากพระเชษฐาองค์ที่ 2 และด้านขวา คือองค์หญิงนัมเซคู่แฝดของพระองค์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>องค์หญิงยีหวาง พินดาริกาทรงฉายพระรูปร่วมกับพระสหายและพระอาจารย์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>งานปาร์ตี้ฉลองปริญญากับพระสหาย</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ฐิติมา โอภาสวงการ พระอาจารย์ของพระองค์หญิง</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>องค์หญิง “ยีหวาง พินดาริกา” พระญาติในกษัตริย์แห่งภูฏานที่หนุ่มที่สุดในโลกอย่าง “สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก” กษัตริย์ผู้ซึ่งเคยทำปรากฏการณ์ “จิกมี ฟีเวอร์” และน้อมรับแนวพระราชดำริของในหลวงของคนไทยไปปรับใช้ที่ภูฏานมาเมื่อหลายปีก่อน องค์หญิงยีหวางทรงมีพระกรุณาธิคุณให้ M-Lite ได้เข้าเฝ้าและประทานสัมภาษณ์ และ ณ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวโรกาสที่พระองค์ทรงตื่นเต้น กับการสำเร็จศึกษา และเข้ารับปริญญาบัตร (16 พ.ค.) จากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (ประเทศไทย) ที่พระองค์เลือกศึกษาในศาสตร์ด้านสื่อสารมวลชน ซึ่งพระองค์มีปณิธานแน่วแน่ต่อการกลับไปพัฒนาแผ่นดินเกิดภายใต้การศึกษาหาความรู้ในประเทศไทยที่พระองค์ภาคภูมิพระทัย
…..

“ดอกไม้ยามรุ่งอรุณ” ความหมายตามคำแปลนามสกุลขององค์หญิง “ยีหวาง พินดาริกา” แปลไว้อย่างลงตัวและถูกจังหวะ เมื่อวันนี้ของพระองค์การสำเร็จปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่พระองค์เลือกมาศึกษาที่นี่ ทั้งที่เว็บสเตอร์ฯมีสาขามากมายทั่วโลก จนถึงวันนี้พระองค์หญิงฯ กำลังเปลี่ยนบทบาทพระองค์จากนักศึกษาเป็นผู้ใหญ่ในวัยทำงาน อีกทั้งมุมมองของพระองค์ผ่านชุดครุย และพระปณิธานของพระองค์ในการทำงานด้าน “สื่อ” เพื่อนำกลับไปพัฒนาแผ่นดินเกิดอย่างภูฏานยังคงแน่วแน่ไม่เสื่อมคลาย

ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่เวียนมาครบ พระองค์หญิงยีหวางประทานวโรกาสสัมภาษณ์ หลายสิ่งในพระองค์ ทั้งความยิ้มแย่มแจ่มใส ความเรียบง่ายในเรื่องต่างๆยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่เปลี่ยนคงมีเพียงน้ำหนักของพระองค์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพระองค์รีบตรัสว่า เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ออกกำลังกายทำให้น้ำหนักขึ้นและดูอ้วนท้วนในช่วงนี้ บวกกับเวลาแห่งความสุขที่กำลังเข้ามาทำให้พระองค์ทรงปีติมากทีเดียวกับการเรียนจบในระดับปริญญาตรี

1.
ตื่นเต้นวันรับปริญญา

องค์หญิงยีหวาง เดินทางเข้ามาเรียนในประเทศไทยกว่า 3 ปี จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (ประเทศไทย) ใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แต่พระองค์ประทับอยู่ในตัวเมืองหัวหินโดยไม่มีพระพี่เลี้ยงดั่งเช่นอยู่ในภูฏาน เว็บสเตอร์ฯ ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้ มีสาขาอยู่ทั่วโลก เป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติ เรียนสไตล์นักเรียนอเมริกันที่มีนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาศึกษามากมาย ณ วินาทีนี้ พระองค์จบการศึกษาด้านการสื่อสารมวลชน เอกโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ และมีความสนใจในสื่อไม่น้อย และนั่นคือสิ่งที่พระองค์ตรัสย้ำว่าตื่นเต้นและดีใจกับใบปริญญา และนี่คือสัญญาณที่มาพร้อมเป้าหมายของพระองค์ที่ต้องปรับตัวกับการเป็นผู้ใหญ่ เพื่อเป็นหนึ่งในผู้ที่พร้อมกลับไปพัฒนาให้กับภูฏานในด้านต่างๆ

“ฉันยอมรับเลยว่าการจะรับปริญญาครั้งนี้ ดีใจและตื่นเต้นมาก (พระเนตรเป็นประกาย) สิ่งที่ร่ำเรียนมาทั้งหมด จะได้รับปริญญาแล้ว ที่ภูฏานก็จะทราบเฉพาะในแค่พระญาติกันเท่านั้น ส่วนประชาชนหรือคนอื่นก็ไม่ค่อยทราบว่าเราจะรับปริญญา ส่วนท่านจิกมีพระองค์ทราบว่าจะรับปริญญา ส่วนของขวัญหรือพรใดๆ คิดว่าถ้ากลับไป สิ่งที่คิดว่าพระองค์ต้องตรัสกับเราคือ พระองค์ภูมิใจในตัวเรามาก”....

องค์หญิงยีหวางตรัสถึงการรับปริญญาครั้งนี้ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. นี้เอง พระองค์เล่าว่าพระญาติที่จะเสด็จพระราชดำเนินมาในงานรับปริญญา จะมีพระมารดา พี่สาว พี่ชายทั้งสองพระองค์ และน้องสาวฝาแฝดที่เรียนอยู่ที่แคนาดา อีกทั้งพระพี่เลี้ยงก็จะเดินทางมาแสดงความยินดีด้วย

“ท่านแม่เดินทางมาด้วย แต่ไม่โปรดการถ่ายภาพ แล้วก็มีพี่ชายทั้งสองพระองค์ มีน้องสาวฝาแฝดของเราเองที่ตอนแรกนึกว่าจะมาไม่ได้เพราะว่าลงเรียนซัมเมอร์ที่แคนาดาไว้แล้วตรงกันพอดี แต่สุดท้ายเดินทางมาได้เพราะเซอร์ไพรส์พี่สาว ที่ว่าลงทะเบียนนั่นคืออำฉัน ซึ่งฉันเป็นพี่นัมเซ5 นาที เราคลอดออกมาก่อนเลยเรียนจบก่อนนัมเซปีหนึ่ง (ทรงยิ้ม)”

2.
เมื่อองค์หญิง “ยีหวาง” ต้องฝึกงาน

การพบเจอครั้งนี้ของพระองค์หญิงยีหวาง ดูพระพักตร์สดใส หน้าที่ต่อจากนี้ หลังจบการศึกษาจะสมบูรณ์ต่อเมื่อนักศึกษาเลือกที่ฝึกงานในที่ที่ตนเองต้องการ หรือทางมหาวิทยาลัยของพระองค์มีสถานที่ให้พระองค์ทรงเลือกอยู่ไม่น้อย สำหรับพระองค์หญิงแล้ว พระองค์ตรัสว่า ยังคงเลือกฝึกงานที่ประเทศไทย ส่วนจะเป็นองค์กรสื่อหรือมูลนิธิ ใด ยังคงอยู่ในช่วงการตัดสินใจ

“หลังจากที่วันรับปริญญา ต้องไปฝึกงานแล้วก็คิดว่าจะฝึกงานที่ประเทศไทย ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจแต่ยังดูอยู่ว่าจะฝึกงานที่ไหน ต้องดูว่าอาจารย์จะจัดให้ที่ไหนบ้าง ทางเว็บเสตอร์ฯจะมีลิสต์อยู่ เลือกเองก็ได้ ถ้าเว็บสเตอร์ประเทศไทยจะมีลิสต์อยู่ในเรื่องของการฝึกงานจะทำให้ง่ายขึ้น ที่มองไว้อาจจะเป็นองค์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารทางด้านของต่างๆพวกมีเดีย ทั้งหลาย หรือองค์กรแบบ UN ที่ช่วยเหลือคน มีสองทางเลือกที่อยากทำในตอนนี้”

“ฝึกงานเสร็จแล้วอาจจะไปทำงานสักนิดหนึ่งก่อนแล้วก็อาจจะกลับมาเรียนปริญญาโทที่ประเทศไทยอีกเหมือนกัน ถามว่ากลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทยชัวร์มั้ยคือประเทศไทยก็เป็นช้อยส์หนึ่งเลยที่คิดไว้ 90 เปอร์เซ็นต์อยากจะเรียนต่อที่ประเทศไทย แต่ว่าอนาคตมันก็ไม่แน่นอน ฉันรักประเทศไทยและรักคนไทยมาก แล้วก็อยากจะอยู่ที่นี่ เรียนที่นี่ ทำงานที่นี่สักพักก่อน”

3.
เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างง่าย

ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ที่หัวหินพระองค์ประทับอยู่คอนโดฯในตัวเมืองเพียงลำพัง ไม่มีพระพี่เลี้ยง และเรียนรู้จะอยู่อย่างเรียบง่าย และมีวิถีชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นปกติธรรมดาทั่วไป ฉลองพระองค์ พระภูษา เครื่องประดับ หรือเรื่องเสวย พระองค์ไม่ได้โปรดปรานความหรูหรา เนื่องจากสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พระมารดาพร่ำสอนมาตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ หากแต่พระองค์บอกว่าการย้ายถิ่นฐานจากหัวหิน เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ในช่วงฝึกงานหรือทำงาน ไม่เป็นอุปสรรคใดๆต่อพระองค์แน่นอน เนื่องจากพระองค์ได้รับการเลี้ยงดูมาแล้วในทุกรูปแบบ

“ถ้าวันหนึ่งฉันต้องเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ว่าฉันถูกฝึกมาให้คุ้นกับการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ สลัมก็อยู่ได้ ฉันโดนฝึกมากับการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เรียนรู้จะอยู่ได้ทุกรูปแบบ”

4.
นักเรียนเกรด B

ทันทีที่ตรัสถามพระองค์หญิงฯว่า เกรดเฉลี่ยที่สำเร็จการศึกษามานั้น จัดว่าเป็นคนที่เรียนดีหรือไม่ พระองค์พระสรวลเสียงดัง พร้อมตรัสตอบว่า ไม่ได้อายแต่เกรดที่จะบอก หากแต่สำหรับพระองค์แล้วระดับการเรียนจัดอยู่ในเกรด B พระองค์ตรัสว่าที่ตรัสเช่นนี้เพราะว่าพระองค์สนใจเรื่องกิจกรรมควบคู่กับเรื่องเรียนไปด้วย จึงไม่ใช่นักเรียนเกรด A

“ฉันไม่ใช่คนเรียนเก่งมาก ไม่ใช่เด็กเกรด A แต่จะประมาณ B ซึ่งจริงๆB เนี่ยกำลังดีเลย เพราะถ้าA นี่แปลว่าเรียนอย่างเดียว (ทรงสรวล) แต่ในเวลาเรียนฉันก็จะสนใจให้เต็มที่ แต่ก็มีเวลาว่างไปทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย เพราะคิดว่าน่าจะได้ประสบการณ์ในหลายๆรูปแบบ ซึ่งสำคัญไม่แพ้กันกับการเรียน”...ตรัสจบพระองค์ทำพระพักตร์สดใส และดูพอใจกับเกรดเฉลี่ยที่พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษามา

5.
สุข-เศร้า ในเวลาเดียวกัน

เมื่อเราถามถึงการรับปริญญาพระองค์ยอมรับว่าตื่นเต้นมากทีเดียวกับการสำเร็จการศึกษา แต่สิ่งหนึ่งที่พระองค์ตรัสต่อจากนั้น พระองค์ยอมรับว่าความสุขที่ได้มา ก็มาพร้อมกับความเศร้าที่ต้องจากพระสหาย พระอาจารย์ และคนไทยสังคมที่น่ารักของพระองค์

“ความรู้สึกตอนนี้อย่างหนึ่งมันต้องพร้อมทีเดียวที่ต้องออกสู่โลกภายนอก ตอนนี้ยังไม่ได้ไปสัมผัสงานจริงๆก็ยังคิดไม่ออกจะอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เศร้าเหมือนกันคือ ต้องจากกับเพื่อน กับเพื่อนๆก็จะมีความรู้สึกว่าดีใจได้รับปริญญา แต่การลาจากก็ถือเป็นเรื่องเศร้า ฉันกับเพื่อนจะอยู่ด้วยกันจนถึงเดือนกรกฎาคม แต่คิดว่าก็คงมีการเซ็นอำลากันบนเสื้อ”

6.
องค์หญิงฯโปรด โซเชียลเน็ตเวิร์ก

ทรงศึกษาด้านการสื่อสารแน่นอนว่า การใฝ่รู้ด้านเทคโนโลยี พระองค์ก็ไม่แพ้ใคร และโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Social Network) อย่างเฟซบุ๊ก (Face Book) ทวิตเตอร์ (Twitter) พระองค์หญิงฯ ก็โปรดปรานเช่นเดียวกัน หากแต่ไม่ใช่การใช้อินเทอร์เน็ตจนติด แต่พระองค์บอกว่านี่คือการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนที่ดีทางหนึ่งในวันที่ต้องห่างกัน อีกทั้งมือถือแบล็กเบอรีที่เลือกใช้ก็สามารถอำนวยประโยชน์ให้พระองค์ในหลายๆเรื่องในเมืองไทย

“กับเพื่อนฉันจะมีเฟซบุ๊กนี่ก็ช่วยให้ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก จะเข้าทุกวัน มีแบล็กเบอรีไว้ติดต่อกับเพื่อนช่วยฉันได้หลายอย่าง เป็นคนชอบเทคโนโลยีมั้ยก็ต้องบอกว่าพยายามศึกษามากกว่า เพราะส่วนใหญ่ก็เอาไว้ติดต่อสื่อสารในทวิตเตอร์ก็จะบอกว่าตอนนี้รู้สึกอะไร ทำอะไร ในเฟซบุ๊กก็ใส่เพลง ใส่อะไรลงไปที่ฉันชอบ”

พอถามว่าพระองค์ทรงมีเพื่อนเยอะหรือไม่ในเฟซบุ๊ก พระองค์ตรัสว่า มีไว้ใช้ 2 ชื่อ สำหรับคนสนิทและเพื่อนที่ไม่รู้จัก
“เฟซบุ๊กก็มีสองอัน ทั้งที่เป็นเพื่อนและคนทั่วไป สำหรับคนที่ไม่รู้จักเลยก็เป็นอีกอันหนึ่ง ส่วนอีกอันหนึ่งก็สนิทกันจริงๆ เพื่อนในนั้นไม่เยอะมาก ไม่ป็อปเท่าไหร่ (พระสรวล) ถามว่าถึงขั้นติดมั้ย ไม่ติด ที่ฉันเข้าเนี่ยคืออยากรู้ว่าเพื่อนเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้ติดว่าต้องเขียนความรู้สึกทุกวัน เอาไว้ติดต่อกับเพื่อนเท่านั้นเองนั่นคือจุดประสงค์หลักของฉัน”

7.
ส้มตำ เครื่องเสวยรสเลิศ

พระองค์หญิงยีหวาง ประทับอยู่ในหัวหิน และมีกิจกรรมตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ทรงโปรดกีฬาหลายอย่าง เช่น ขับรถโกคาร์ท เล่นบีบีกัน แต่ในช่วงที่ผ่านมาพระองค์ตรัสว่าไม่ค่อยได้ออกไปเล่นมากนัก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด แต่หัวหินถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความพร้อมสรรพในทุกด้านสำหรับพระองค์ทั้งวัดวาอาราม ชายหาด อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นอกจากการโปรดกีฬาความเร็ว เครื่องเสวยที่โปรดปราดมากที่สุด ยังคงเป็นส้มตำไทย ซึ่งพระองค์เผยว่าโปรดความกรอบของมะละกอและรสชาติเปรี้ยวจี๊ดของมะนาว

“ฉันชอบส้มตำมาก ยังชอบอยู่ชอบรสมะนาวแล้วมะละกอมันกรอบๆ ส่วนปลาร้ายังไม่เคยลองแต่รู้จัก ตำปูก็ไม่ได้ชอบปูดอง ชอบตำไทย มากที่สุด ที่จริงหัวหินมีหลายที่ให้เราไป แต่จริงๆชอบเล่นกีฬาแนวบู๊ เข้มแข็ง ขับรถโกคาร์ท บีบีกัน เพนต์บอล ที่หัวหินมีกิจกรรมเยอะมาก นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติ มีหาดชะอำ วัดต่างๆมีกิจกรรมเยอะแยะ แต่ก่อนชอบออกไปขับโกคาร์ท เล่นบีบีกัน แต่ตอนนี้อากาศร้อนมากฉันเลยพักไปก่อน”

8.
หลักพุทธกับการเมืองไทย

ตั้งแต่พระองค์เข้ามาประทับในเมืองไทย ประเทศไทยเริ่มมีภาวะขัดแย้งจากกลุ่มคนหลายสีเสื้อ อีกทั้งภาวะการเมืองในหลายๆรูปแบบ กระทั่งความแตกแยกในสังคมด้านความคิดเรื่องการเมือง พระองค์หญิงในฐานะนักศึกษา พระองค์ตรัสว่าติดตามข่าวสารของประเทศไทยอยู่พอสมควร และทราบข่าวในฐานะที่เรียนด้านนิเทศศาสตร์ สำหรับในภูฏานประเทศของพระองค์ไม่มีความขัดแย้งเช่นนี้ หากแต่สำหรับพระองค์แผ่นดินไทยยังคงมีความงดงามในหลายๆด้าน และเชื่อในพระบารมีของในหลวง และพระองค์ในฐานะผู้นับถือศาสนาพุทธ พระองค์ทรงเสนอแนวทางการมีชีวิตอยู่ในสังคมที่มีความแตกแยกด้านความคิดในเรื่องการเมืองไว้อย่างน่าสนใจ และทิ้งท้ายว่า ...“เงินไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความสุขได้เสมอไป”

“ภูฏานเป็นประเทศเล็ก และสงบ ยังไม่มีเหตุการณ์คล้ายประเทศไทย ในกลุ่มฉันกับเพื่อนก็พูดถึงการเมืองไทย แต่ไม่ได้พูดว่าอยู่สีไหนนะ คือฉันกับเพื่อนก็เป็นกลางไม่ได้ว่าเข้าข้างสีไหน แต่ก็ฟังข้อมูลเอาไว้ ฉันเองเป็นคนพุทธอาจไม่ได้นั่งสมาธิเคร่งครัด แต่ก็สวดมนต์บ่อยๆ มีพระติดตัว และบูชาที่ห้องตลอด อยากให้ทำตามที่พระพุทธเจ้าสอน ก็คือการให้อภัย แล้วก็ยอมรับความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างมันเปลี่ยนได้ทุกเวลา ไม่ยาวนานไม่ยั่งยืน ที่พระพุทธองค์ท่านสอนเราต้องยอมรับการปลี่ยนแปลง ให้ทุกคนทำตามที่พระพุทธองค์ท่านตรัสและสอนไว้ อีกอย่างหนึ่งคือเงินไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความสุขได้ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นให้อภัยซึ่งกันและกัน แล้วก็ให้ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์”

…..

“อยากทำอะไรที่ทำให้ชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นความฝันอยู่ แต่วันหนึ่งฉันจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้นที่ภูฏาน บ้านเกิดของฉัน”...ความฝันของพระองค์หญิง “ยีหวาง พินดาริกา”


พระพี่เลี้ยงขององค์หญิงคือผู้ชาย

ปกติพระพี่เลี้ยง หรือแม่นม ของคนไทยจะเป็นผู้หญิง แต่สำหรับพระพี่เลี้ยงขององค์หญิงยีหวางและคนในครอบครัวของพระองค์ องค์หญิงตรัสว่าเป็นผู้ชาย และท่านพูดสำนวนไทยว่าเป็นผู้ชายจริงๆ ไม่ใช่เพศที่สาม องค์หญิงตรัสว่าปัจจุบันพระพี่เลี้ยงอายุมากแล้ว เนื่องจากดูแลมาตั้งแต่ลูกคนโตจนถึงคนเล็ก แต่จะมีพยาบาลคอยดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งพระพี่เลี้ยงจะทำหน้าที่คล้ายราชองครักษ์ควบไปอีกหนึ่งหน้าที่ ซึ่งพระพี่เลี้ยงของพระองค์หญิงก็เดินทางมางานรับปริญญาของพระองค์ด้วย

เมื่อวันต้องสอน “องค์หญิงยีหวาง”

“ฐิติมา โอภาสวงการ” หรือ “แดง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบรนด์เอเชีย จำกัด และอาจารย์คนไทยผู้สอนองค์หญิงในรายวิชาต่างๆ ได้พูดถึงประสบการณ์ที่มีโอกาสได้สอนนักศึกษาที่เป็นเจ้าหญิงแห่งภูฏาน และภายใต้มหาวิทยาลัยของอเมริกัน องค์หญิงจึงไม่มีสิทธิเทียบเท่านักศึกษาทั่วไป ซึ่งในฐานะพระอาจารย์ คุณแดงเผยพระองค์เป็นลูกศิษย์ที่มีความตั้งใจสูงในการเรียน

“ในฐานะอาจารย์ก็เคยสอนพระองค์อยู่หลายวิชา พระองค์ก็น่ารักลงทุกวิชาที่เราสอน ติดตามลงตั้งแต่การสื่อสารการตลาด กลยุทธ์ครีเอทีฟ การโฆษณานานาชาติ ถึงแม้ว่าไม่ใช่วิชาบังคับพระองค์ก็ลงทะเบียนเรียนตลอด พระองค์เป็นนักศึกษาที่ดีมาก สอนง่าย ให้ความสนใจ”

“แต่เคยมีโดดเรียนอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ท่านสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ ท่านเสด็จขึ้นครองราชย์ ท่านหายไป 2 อาทิตย์ เราตกใจเลย ตอนนั้นไม่ทราบว่าท่านเป็นเชื้อพระวงศ์ เลยไปที่สำนักทะเบียนแล้วไปบอกว่า เด็กคนนี้โดดร่มหายไป เราไม่ทราบเลยว่าพระองค์เป็นใคร เราไปบอกว่าจะทำอย่างไรดี หายไปสองอาทิตย์ มีพระอาจารย์อีกท่านหนึ่งดูแลองค์หญิงด้วยคืออาจารย์ สตีเฟน เลย์ ท่านเป็นหัวหน้าเราอีกทีหนึ่งก็บอกว่า อย่าไปดุพระองค์เลย พระองค์เสด็จกลับไปร่วมงานฉลองขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ จนถึงวันนั้นเราถึงรู้ว่าองค์หญิงยีหวางคือเชื้อพระวงศ์ของภูฏาน”

“ถามว่ากดดันมั้ยสอนองค์หญิง ไม่กดดันนะ ที่เว็บเสตอร์เป็นมหาวิทยาลัยอเมริกัน นักศึกษามาจากรอบโลก อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน เนปาล อินเดีย ภูฏาน สวิตเซอร์แลนด์ฯ เยอะมาก ในการสอนก็เป็นแบบอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนก็ตามเมื่อเข้ามาในเว็บสตอร์ ก็เป็นเหมือนกันหมด จะไม่มีว่าคนนี้พิเศษ แล้วคิดว่าพระองค์คงสบายพระทัยมากกว่าด้วยที่ทุกคนปฏิบัติกับพระองค์แบบนั้น”

พระอาจารย์คนสนิทขององค์หญิงยีหวาง หรือ “พี่แดง” ล่ามคนสำคัญของเราในครั้งนี้เอ่ยถึงลูกศิษย์ที่มีชีวิตเรียบง่ายและทรงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดี ก่อนที่พระอาจารย์แดงจะขอตัวกลับไปสอนหนังสือ เธอยังกล่าวอีกว่าลูกศิษย์คนนี้นอกจากกิริยามารยาท และมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแล้ว พระองค์หญิงยังเรียนภาษาไทยและพูดได้หลายประโยค อีกทั้งทุกครั้งที่เข้าห้องเรียนพระองค์จะทักทายด้วยการ “ไหว้” ซึ่งเธอรับรองว่าพระองค์ไหว้สวยไม่แพ้คนไทยเช่นกัน

พระประวัติ

“ ยี” หมายถึงโชคดี “หวาง” หมายถึงพรที่ให้โชคดี “ยีหวาง” แปลว่า “พรแห่งความโชคดี” ส่วน “ พินดาริกา” คือดอกไม้ยามรุ่งอรุณ พระชันษา 22 ปี มีพระเชษฐภคินีหนึ่งพระองค์พระเชษฐาสองพระองค์ และพระขนิษฐาฝาแฝดอีก 1 พระองค์ องค์หญิงยีหวางเป็นพระธิดาของเจ้าหญิงเดกี้ เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 2 ของภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จิ วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 และสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 4 ซึ่งเป็นพระราชบิดากษัตริย์ภูฏานองค์ปัจจุบัน เป็นพระปิตุลา (ลุง) ขององค์หญิง ดังนั้นองค์หญิงจึงเป็นพระญาติเรียงพี่เรียงน้องในกษัตริย์ภูฏานองค์ปัจจุบัน

ข่าวโดยทีมงาน M-Lite
ภาพโดย วรงค์กรณ์ ดินไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
Daily News - Manager Online

 

:z2 :z2 :z2


ขอแสดงความยินดีกับองค์หญิงยีหวาง พินดาริกา แห่งภูฏาน ด้วยครับ




.