ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการอุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย TK-789, 23 พฤษภาคม 2010.

  1. TK-789

    TK-789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +324
    ผมอยากทราบว่าผมจะอุทิศส่วนกุศลอย่างไรจากผลบุญที่ผมได้กระทำ

    ให้แผ่ไปให้กับทุกๆท่าน

    ผมจำได้ว่าผมเคยอ่านเจอว่า สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมานั้นมี 4 จำพวก

    คือ ชะลาพุชะ อัณฑะชะ สังเสทะชะ และโอปปาติกะ

    หากผมแผ่กุศลโดยกล่าวว่า ข้าพเจ้าขออุทิศให้ผลบุญที่ได้กระทำนี้ จงสำเร็จ แด่ผู้ที่เกิดเป็น ชะลาพุชะ อัณฑะชะ สังเสทะชะ และโอปปาติกะ ด้วยเทอญ

    แบบนี้จะได้รับกุศลผลบุญทุกท่านไหมครับ ผมไม่อยากเจาะจงแต่อยากให้ทุกๆท่านที่เขาสามารถรับได้ตั้งแต่สัตว์ไปจนถึงเทวดา

    โปรดให้คำแนะนำด้วยนะครับ และขออภัยหากผมมีความรู้ที่ผิด

    ขอบคุณครับ

     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คำอุทิศส่วนกุศล วัดท่าซุง อุทัยธานี


    <DD>อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    <DD>และข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้า ในครั้งนี้ด้วยเถิด

    <DD>และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    <DD>ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เถิด
    </DD>
     
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ด้วยบุญนี้จงสำเร็จแก่ เวไนยสัตว์ทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลด้วยเทอญ.......
    ได้ครบหมดเลยตามที่ท่าน จขกท.....ต้องการครับ
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    คำอุทิศส่วนกุศล
    "อิทัง ปุญญะผะลัง" ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    บทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรกนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หลวงปู่โตท่านมาบอก


    และบทอุทิศส่วนกุศลอีก ๓ ท่อน ท่านพระยายมราชท่านมาบอก มีดังนี้

    ท่อนที่สอง
    และข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    ท่อนที่สาม
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    ท่อนที่สี่
    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด.


    .....................

    อ้างอิงจาก
    เรื่องที่ ๑๗๖ การอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย

    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน
     
  5. วิสัจชนา

    วิสัจชนา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +20
    สวัสดีค่ะญาติธรรม
    การทำบุญทุกครั้งควรระลึกถึงคุณบิดา มารดา ก่อนทุกครั้งที่ทำบุญ เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิต แล้วค่อยน้อมขอกุศลที่ทำแล้วอุทิศให้ครูบาอาจารย์ แล้วให้เจ้ากรรมนายเวร และเทวดาที่ดีทั้งปวง หรือสรรพสัตว์ทั้งหลายก็ได้
     
  6. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    กำเนิดทั้ง 4 ก็ครอบคลุมสรรพสัตว์ทั้งหมดอยู่แล้วครับ จะอุทิศบุญแบบนี้ก็ได้ครับไม่ผิดกติกาแต่อย่างไร ส่วนที่คุณต้นละบอกให้แก่เวไนยสัตว์หมื่นโลกธาตุแสนโกฎิจักรวาลอันนี้ไม่ครอบคลุมครับ เพราะวัฎฎะมีมากกว่าหมื่นโลกธาต และมากกว่าแสนโกฎิจักรวาลอีกมากมายนัก แต่ไม่ว่าจะใช้คำพูดแบบไหน สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือความผ่องใสของจิต เพราะยิ่งผ่องใส การอุทิศก็ยิ่งกว้างไกล
     
  7. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    แล้วถ้าอย่างนั้นจะใช้คำว่าอย่างไร ?
     
  8. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ก็ใช้คำดั้งเดิมแบบโบราณที่ปรากฏในบทแผ่เมตตานั่นแหละดีแล้ว คือให้แก่ สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น เรียกว่าแผ่เมตตาไปพร้อมกับอุทิศส่วนกุศลไปด้วยในตัว
    หรือจะเอาแบบบาลีก็ "อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตาโหตุ ญาตโย" (ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของ<WBR>ข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายจงมีความสุขกายสุขใจเถิด" อันนี้ก็ครอบคลุมครับ เพราะในวัฏฏะอันยืดยาวนี้ ผู้ที่ไม่เคยเป็นญาติของเราไม่มี
     
  9. TK-789

    TK-789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +324
    ขอบพระคุณมากครับ สำหรับทุกความเห็นนะครับ

    ผมจะนำไปปฏิบัติครับ
     
  10. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เพราะฉะนั้น คำว่า "ครอบคลุม"หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำว่า หมื่นจักรวาล แสนจักรวาล เพราะแม้ใช้คำว่า "สรรพสัตว์ทั้งหลาย" ก็ยังได้ สาระสำคัญอยู่ที่ว่า จิตที่คิดจะให้ และกำลังส่งที่จะส่งไป ถ้าเป็นใจที่บริสุทธิ์หรือมีสมาธิก็เรียกว่า มีกำลังส่งสูง อย่างนั้นก็แผ่ได้ไปได้ไกล ส่วนจะไปได้กี่จักรวาลอะไรนั้น เราๆท่านๆก็คงไม่มีญาณหยั่งรู้
     
  11. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ถูกต้องที่สุดครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือใจ ส่วนคำพูดก็มีประโยชน์ในฐานะเครื่องมือที่ชักจูงใจให้เป็นสมาธิและขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขต ซึ่งจะแผ่ได้ไกลแค่ไหนก็อยู่ที่กำลังแห่งสมาธิอย่างที่ท่านว่าไว้จริงๆ แต่ว่าใจเป็นธาตุสำเร็จ สามารถครอบคลุมภพ 3 หรือแสนโกฏิจักรวาลได้อยู่แล้ว จะให้ครอบคลุมหรือไม่ก็อยู่ที่ว่าหยุดใจได้หรือยัง
     
  12. pichairit

    pichairit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +16
    รบกวนสอบถามครับ
    ถ้าพ่อแม่เราที่ถึงแก่กรรมไปหลายปีแล้ว ขณะนี้เกิดเป็นเด็กอยู่
    เราอุทิศบุญกุศลให้ ท่านจะได้รับหรือไม่ อย่างไร
    ขอบคุณครับ
     
  13. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369

    อนุโมทนาด้วยครับ ดีแล้วครับ สนทนาธรรมกันในหลายๆแง่มุม จะได้ทำให้คนอื่นที่เค้าไม่รู้ได้รู้ด้วย

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป
     
  14. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เดี๋ยวผมค่อยมาตอบให้นะครับ ช่วงเที่ยงเวลาไม่เยอะ
     
  15. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เข้าใจหัวอกคนที่เป็นลูกนะครับ ถ้าถามผมว่า บิดามารดาของคุณจะได้รับผลบุญหรือไม่นั้น ก็ต้องตอบตรงๆว่าไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีญาณพิเศษอะไรกับใครเค้า เพียงแต่อยากแนะนำเป็นประเด็นอย่างนี้นะครับ

    1 เราจะมีโอกาสรู้ได้มั้ยว่า ตอนนี้พ่อแม่เราจะได้รับหรือไม่ได้รับ หรือไปอยู่ภพภูมิไหน

    ก็ต้องบอกว่าพอมีโอกาส มีแนวทางดังต่อไปนี้คือ

    1 พึ่งตนเองด้วยการนั่งสมาธิ ถ้าใจสงบและมีวาสนา ก็จะทำให้เกิดญาณรู้ความเป็นไปของญาติมิตรที่ล่วงลับ แต่ก็ไม่แน่ อาจจะไม่รู้ไม่เห็นอะไรก็ได้ ที่สำคัญถ้าคุณมีความอยากจะเห็นโน่นเห็นนี่ ก็อาจจะไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย เพราะฉะนั้น ทางนี้ก็มีทางเป็นไปได้อยู่ แต่อาจต้องใช้เวลา โชควาสนา

    2 ถามคนอื่น ซึ่งการถามคนอื่น ก็อาจจะถามจากผู้มีญาณหรือร่างทรงอะไรทำนองนี้ ซึ่งแนวทางนี้ ก็ไม่แนะนำ เพราะว่าของจริงก็มี แต่ของปลอมเยอะกว่า ที่สำคัญเราพิสูจน์ไม่ได้ สมมติว่านายคนนั้นคนนี้บอกว่า ข้ารู้ ข้าเห็น แต่ถามว่าเราจะพิสูจน์ด้วยตัวเราเองได้อย่างไร ถูกมั้ย ? เพราะฉะนั้น น้ำหนักก็จะอ่อนไป เกิดโชคร้ายไปเจอเค้าหลอกเข้า ก็ถือว่าเป็นความซวยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นช่องทางนี้ มีความเสี่ยงอยู่เยอะ ไม่ขอแนะนำ

    เอาอย่างนี้ซิครับ ถ้าอยากรู้จริงๆ ลองอธิษฐานดูว่า ถ้าบิดามารดาเราอยู่ในวิสัยที่รับผลบุญได้ และสามารถมาแสดงให้เรารับรู้ได้ ก็โปรดมาแสดงนิมิตให้เราทราบด้วยเทอญ หรือจะลองไปอธิษฐานต่อหน้าองค์พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ได้ว่า ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อ โปรดช่วยดลบันดาลให้ลูกได้รู้ได้เห็นความเป็นไปของบิดามาดาหรือรับรู้ว่าบิดามารดาได้รับผลบุญหรือไม่ด้วยเทอญ พูดง่ายๆคือ ขอพึ่งอำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ดีกว่า

    แล้วไปวัดไหน ขอวัดนั้น อันนี้คือถ้าอยากรู้อยากเห็นจริงๆ ชนิดแบบทนไม่ไหวนะครับ

    2 สมมติว่าคุณรับรู้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งว่าบิดามารดาคุณได้รับผลบุญหรือไม่ ซึ่งก็จะมีอยู่ 2 กรณีคือ

    - รู้ว่ารับผลบุญได้และตอนนี้กำลังเสวยผลบุญอยู่ อย่างนี้คือจบ ถูกมั้ย คุณก็มีแต่ความปิติยินดี เกิดพลังที่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อีก

    - รู้ว่าไม่สามารถรับผลบุญได้ และตอนนี้กำลังทนทุกข์ทรมานอยู่ ถ้าอย่างนี้ทำอย่างไร คำตอบก็คือ "ต้องอุเบกขา" ถามว่าเราคนเป็นลูก อยากให้ท่านพ้นทุกข์มั้ย เราก็ต้องอยากให้ท่านพ้นทุกข์อยู่แล้ว แต่เราไม่อยู่ในวิสัยที่จะช่วยท่านได้ เพราะท่านกำลังเสวยผลกรรมอยู่ นั่นแหละถึงบอกว่าต้องอุเบกขา

    การอุเบกขานั้น ไม่ใช่ว่าเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ แต่เราพร้อมจะช่วยท่านเมื่อมีโอกาส อย่างที่หลวงพี่เล็ก ท่านสอนว่า มีเมตตาในอุเบกขานั่นแหละ (ขออภัยหลวงพี่เล็กด้วย ถ้าจำมาผิด) เพราะฉะนั้น ไม่ว่าท่านจะสุขหรือจะทุกข์ก็ดี สิ่งที่เราควรทำเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ เราจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่านแบบสม่ำเสมอ เราไม่สนว่าท่านจะรับหรือไม่รับ เหมือนอย่างกรณีของผม ผมก็อุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติที่ล่วงลับ ซึ่งผมก็ไม่รู้แน่ชัดว่า ทุกรายจะไปดีหรือเปล่า แต่ใจไม่ได้เป็นทุกข์ตรงนั้นไง คือจะให้ผลบุญอย่างเดียว ตัดความกังวลไปเสีย ก็อาจจะมีนึกสงสัยบ้างบางครั้ง แต่สุดท้ายก็วางลง

    หรือถ้าคุณจะนึกสงสัย ก็ลองใช้วิธีอย่างนี้คือ ตอนที่เราอุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดา พรหม พญายมราชทั้งหลาย เราขอฝากผลบุญของเราให้กับญาติคนนั้นคนนี้ของเราด้วย ถ้าท่านทั้งหลายพบญาติของเราที่ล่วงลับไปแล้ว และรู้ว่าอยู่ในวิสัยที่จะอนุโมทนาได้ ไม่ว่าญาติของเราจะสุขหรือทุกข์ก็ดี (ขอเพียงให้อยู่ในวิสัยที่สามารถอนุโมทนาได้) ก็ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดเมตตาบอกให้พ่อแม่หรือญาติเราอนุโมทนาด้วยเทอญ

    เรื่องการฝากผลบุญไว้กับพญายมราชเนี่ย เคยอ่านเจอในหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมของวัดท่าซุง ก็เก็บเป็นความรู้ มีอยู่ช่วงหนึ่งไปบวชพระที่วัดแห่งหนึ่ง ก็ได้ไปค้นหนังสือเก่าในห้องสมุดของทางวัด ไปเจอหลักเรื่องการฝากผลบุญไว้กับพญายมราชเหมือนกัน เรียกว่าตรงกับของวัดท่าซุงเป๊ะ ทั้งๆที่หนังสือเล่มที่ผมอ่าน ไม่ได้เป็นของวัดท่าซุงเลย เป็นหนังสือเก่าชนิดที่เหลืองกรอบ ใครแต่งก็ไม่ทราบ แสดงว่าเรื่องนี้คนโบราณเค้ารู้ดี เค้าถึงเขียนไว้ในตำรับตำรา

    ก็เลยเกิดความคิดว่า เอ๊ะ อย่างนี้เราก็น่าจะฝากผลบุญไว้กับเทวดาองค์อื่นๆได้เนี่ย ผมก็เลยใช้วิธีอย่างนี้เรื่อยมา อย่างบางครั้งไปเจอหมูหมากาไก่ เราไม่อยู่ในวิสัยที่จะช่วยได้ ก็อุทิศส่วนกุศลให้ นึกในใจว่า เออ ชาติหน้าอย่ากลับมาเกิดเป็นสัตว์อีกนะ ขอให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย และขอฝากผลบุญนี้ไว้กับเทวดาทั้งหลายด้วย เผื่อท่านทั้งหลายพบเค้า ก็โปรดเมตตาบอกให้เค้าอนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  16. วิสัจชนา

    วิสัจชนา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอตอบคุณญาติธรรมPichairit ทุกครั้งที่ทำบุญแล้วขอกุศลให้บิดา มารดาที่ล่วงลับไปแล้ว ท่านย่อมได้แน่นอนค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2010
  17. TK-789

    TK-789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +324

    อนุโมทนาสาธุครับ รบกวน แนะนำการนั่งสมาธิเริ่มต้นหน่อยได้ไหมครับ

    ผมนั่งทีไรใจคิดไปเรื่องต่างๆนานาทุกทีเลยครับ แก้อย่างไรดีครับ
     
  18. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    อาจจะเริ่มจากให้ทานเพื่อให้จิตใจจะได้ชุ่มชื่น จากนั้นสมาทานศีล อาจพิจารณาอานิสงส์ของศีล แล้วสวดมนต์บูชาคุณของพระรัตนตรัย เจริญพรหมวิหารสี่ กายคตาสติ มรณัสสติ และไตรลักษณ์ ครั้นนั้นสมาทานพระกรรมฐาน

    วิธีข้างบนเหมาะกับผู้ปฏิบัติที่มีเวลาและอยู่บ้าน จะช่วยให้จิตเย็น ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่วุ่นวาย

    ถึงอย่างไร ก่อนทำสมาธิ ผู้ปฏิบัติต้องเลือกสถานที่ที่เหมาะสม คือเงียบสงบ และตัดความกังวลต่างๆ ทั้งจากเรื่องงาน คนรัก ครอบครัว เพื่อนฝูง บ้านเรือน ครั้นนั้นจึงเริ่มนั่งสมาธิ

    บางคนอาจคิดว่าเรื่องแยะจัง เราก็ต้องประยุกต์กันครับ เช่น สถานที่สงบ เราก็ไปคิดว่าควรที่วัด จริงแล้วที่บ้านก็ได้ ห้องนอนก็ได้ จริงแท้คือสถานที่เป็นเพียงอุบาย จะที่ไหนก็ตาม ใจเราต้องสงบ สถานที่นั้นจึงคือใจของเรานั่นเอง

    หากอยู่ข้างนอก จะทำสมาธิได้ไหม? ทำได้ครับ เริ่มโดยให้สติอยู่กับกาย โดยเบื้องต้นดูที่ลมหายใจ และอย่าสนใจเรื่องภายนอก ให้สนใจที่กายก่อน โดยอาจพิจารณาไตรลักษณ์ของกาย ที่ต้องเสื่อมสลายไป คู่กันไป ใจจะได้สงบเร็วขึ้น

    คุณอาจจะถามว่าแล้วอย่างนี้ก็ทำงานทางโลกไม่ได้นะสิ? ทำได้ครับ เป็นการนำสติอยู่กับกายก่อน เริ่มจากกายแล้วขยายไปยังการงานของเรา บางทีเราอาจใช้คำว่าสัมปชัญญะคือความรู้ตัว เมื่อเรารู้ตัว เราก็จะรู้ว่าจะจัดการสิ่งต่างๆ อย่างไรให้ดี

    เจริญในธรรม ครับ
     
  19. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เรียนคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->TK-789<!-- google_ad_section_end -->

    เรื่องนั่งสมาธิทีไรแล้วจิตมันคิดฟุ้งซ่านนะ มันเป็นกันทุกคนแหละ เป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ เพียงแต่หลักง่ายๆของการนั่งสมาธิคือ

    ต้องทำปะติดปะต่อ จะกำหนดว่านั่งเวลาไหน เวลาเท่าไหร่ ก็ทำ และพยายามทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ทำไปทุกวันๆจะเกิดความเคยชิน แล้วจะมีความเจริญก้าวหน้า เรื่องความคิดฟุ้งซ่านก็จะลดน้อยถอยลง อาการเมื่อยล้าต่างๆก็จะน้อยลง เพราะมันเกิดความเคยชิน ชินทั้งสภาพจิตและชินทั้งสภาพร่างกาย

    ในระหว่างที่เริ่มต้นนั้น เราก็กำหนดลมหายใจไปตามที่เราเคยเรียนนั่นแหละ มีฟุ้งซ่านแทรกมา ก็ต้องดึงความสนใจกลับมาที่ลมหายใจ แต่ถ้าฟุ้งซ่านจริงๆ ชนิดว่าเรารู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว มันมีเรื่องรบกวนจิตใจตลอด อาจจะเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของเรา อย่างนั้นก็ต้องปล่อยวาง คือ เลิกจับลมหายใจชั่วคราว แต่ให้จิตเหมือนแมวจ้องจับหนูนะ คือ พอความคิดฟุ้งซ่านเกิดปุ๊ป จิตรู้ปั๊ป แล้วมันก็จะตัดปั๊ปเหมือนกัน
     
  20. nutt_nst

    nutt_nst เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,470
    อนุโมทนาด้วยครับที่อยากจะนั่งสมาธิ แม้เพียง สมถะกรรมฐาน ก็มีบุญมากมายมหาศาลแล้วครับ แต่ถ้าวิปัสนาด้วยเรียกได้ว่ากำลังบุญสูงมากครับ

    นิดหนึ่งครับ ถ้าจะอุทิศให้พวกสัภเวสี หรือเปรต ควรเจาะจงให้ชัดๆลงไปนะครับเจาะจงตัวเลย เค้าจะได้เต็มๆ ถ้าอุทิศหว่านแบบนั้น จะช่วยได้ไม่เต็มที่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...