เรื่องเล่าจากนิมิต...ขอให้อ่านให้จบก่อนโพสตอบนะครับ

จากนั้นเด็กสองคนก็แยกออกจากเครื่องเล่นนั้นและไม่กล้าแม้แต่จะจ้องหน้ากัน แต่ว่าเด็กตัวโตกลับมาเล่นอย่างเป็นประจำอย่างสนุกสนาน ซึ่งแต่เดิมถ้าเด็กน้อยสองคนถูกเด็กตัวโตโกงก็ช่วยกันไล่ไปได้ ซึ่งตอนนี้เด็กน้อยทั้งสองไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ากัน

 

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเด็กโตไม่น่าคบตั้งแต่ต้น
ประเด็นคือ เด็กโตมักจะหาเรื่องยุ ให้อีกฝ่ายแยกกันอยู่ให้ได้ เพราะรู้ดีว่ายังไงพวกทั้งชาติจะไม่มีวันคุยกันแน่นอน

 

ผมว่าเป็นการเตือนที่ดีมาก แล้วตรงมากครับ ถ้าย้อนมาดูตอนนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีทางหวนคืนมาใหม่ ก็ต้องช่วยกันสู้ต่อไป

 

ดีครับบ .............................

 

เมื่อแรงกรรมส่งผลมาแล้ว ก็ไม่มีใครจะฝืนได้

แต่ปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แรงกรรมในขณะปัจจุบันนี้ ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปยังอนาคต

ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกให้เกิดแรงกรรมประการใดในอนาคต

หยุด ตัดพ้อต่อว่าใคร แล้วร่วมกันสร้างแรงกรรม ที่จะส่งผลบวกให้บ้านเมือง จะดีกว่าไหม?

 

...หมดภารกิจในพื้นที่ชุมนุม เหลือเพียงแต่เถ้าธุลี ผู้ชนะย่อมเขียนประวัติศาสตร์ แต่ความจริง...จะไม่มีวันจางหายไป....ขอไว้อาลัยแด่ทุกสิ่งทุกอย่างที่สูญเสีย และบางสิ่งที่ไม่มีวันจะกลับคืน...วันวานมันคืนย้อนมาไม่ได้ และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ ชั้นพร้อมจะอยู่ ชั้นพร้อมจะตายเพื่อรักคนเดียว...รักเธอ...ประเทศไทย

 

ผมขออนุญาต อนุโมทนาให้กระทู้นี้อีกรอบ
ตอนนี้น้ำ มิได้มาจากตกและใต้เท่านั้น แต่มาทั่วไปเลยครับ ร่วมสามัคคีกันไว้นะครับ

 

ข้อความจาก จขกท.
และภาพสุดท้าย ข้าพเจ้าเข้าไปอยู่ในห้องของท่านผู้นั้น(ขออภัยมิบังอาจล่วงเกิน แต่นี่เป็นแค่นิมิต เข้าพเจ้าไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมดในรายละเอียดชี้ชัดตัวบุคคล) ซึ่งนอนอยู่บนเตียง คำกล่าวสุดท้ายก่อนที่ท่านจะหลับตาลงคือ ให้ไทยระวังภัยวิกฤติการณ์จากน้ำ แล้วเมื่อท่านหลับตาลง พบเป็นดวงแก้วสุกสกาวสว่างใสจนทั้งห้องและนอกห้องเป็นสีทองสว่างเจิดจ้า และลอยขึ้นสู่ฟ้าไป เมื่อข้าพเจ้ามองออกมาจากนอกห้อง ข้าพเจ้าได้เห็น กำแพงน้ำมาจากทางทิศตะวันตก และ ทิศใต้....

เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

 

ใครทำอะไรไม่ดีกับใคร ย่อมได้รับผลกรรมนั้นๆ แน่นอนครับ

ยิ่งการทำลายชีวิตผู้อื่น ไม่ว่าจะยังไงมันก็บาป ผมตั้งหน้าตั้งตา

รอดูผลกรรมนั้นแทบใจจอใจจ่อ

 

เป็นวิกฤติการณ์ที่รุนแรงมากๆเลยค่ะ