แล้ว ดาบฟ้าฟื้น อยู่ไหน ท่านใดพอรู้บ้างครับ

เราว่าเท่ามีดสั้นแต่เวลาจะใช้จะขยายเป็นเท่าดาบได้ถ้าท่องคาถา รึเปล่าอ่ะ? เพราะว่าดาบนี้อาจจะมีเหล็กไหลอยู่ด้วยนะ ไม่แน่ใจ ใครรู้บ้างง?

 

หลากหลายความคิด มิตรดีสนุกสนาน
คนปว่น ก็มาพาล สนจัยทำมัยหนอ....

 

นี่ไงอ่านดิ มีเหล็กไหลด้วย
ตรองตรึกหาเหล็กไว้หนักหนา
ได้เสร็จสมอารมณ์ตามตำรา ท่านวางไว้ในมหาศาสตราคม
เอาเหล็กยอดพระเจดีย์มหาธาตุ ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพรายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร
หอกสัมฤทธิกริชทองแดงพระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมทั้งเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้
เอาเหล็กไหลเหล็กหล่อบ่อพระแสง เหล็กกำแพงน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่
ทองคำสัมฤทธิ์นากอแจ เงินที่แท้ชาดเหล็กทองแดงดง
เอามาสุมคุมควบเข้าเป็นแท่ง เผาให้แดงตีแผ่แช่ยาผง

 

อืม..ถึงว่า ไม่แปลกที่ดาบนี้จะมีคุณสมบัติอย่างที่เขากล่าวกันไว้

เหล็กน้ำพี้ ก็ธาตุกายสิทธิ์ ไหลน้ำพี้ก็ธาตุศักดิ์สิทธิ์ คุณสมบัติพอๆกับเหล็กไหลเลยหละ

แต่ไม่รู้ว่าดาบนี้ประกอบด้วยเหล็กน้ำพี้ หรือไหลน้ำพี้ หรืออาจจะทั้งสองอย่างเลยก็ไม่รู้ได้

 

ผมจะอิงกระทู้ชมชนคนรักมีดมาตอบนะครับเป็นเรื่องของนักวิชาการ
หลายท่านยกมาคุยกัน http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=6360&st=390

-----------------------------------------​

วันก่อนมีคนส่งตำราตีดาบฟ้าฟื้นมาให้ ;D
เลยคิดว่าควรเสวนากันสักเล็กน้อย
เอาแบบไม่ได้ซ้ำประเด็นตีความหาวัสดุที่กระทู้อื่นๆต่างคนก็ต่างตีความกันไปเยอะ

ส่วนที่ลงกันบ่อย


เอาเหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพลายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร
หอกสัมฤทธิกริชทองแดงพระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้
เอาเหล็กไหลเหล็กหล่อบ่อพระแสง เหล็กกำแพงน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่
ทองคำสัมฤทธิ์นาคอแจ เงินที่แท้ชาติเหล็กทองแดงดง
เอามาสุมคุมควบเข้าเป็นแท่ง เผาให้แดงตีแผ่แช่ยาผง
ไว้สามวันซัดเหล็กนั้นเล็กลง ยังคงแต่พอลามตามตำรา
ซัดเหล็กครบเสร็จถึงเจ็ดครั้ง พอกระทั่งฤกษ์เข้าเสาร์สิบห้า
ก็ตัดไม้ปลูกศาลขึ้นเพียงตา แล้วจัดหาสารพัดเครื่องบัตรพลี
เทียนทองติดตั้งเข้าทั้งคู่ ศีรษะหมูเป็ดไก่ทั้งบายศรี
เอาสูบทั้งตั้งไว้ในพิธี เอาถ่านที่ต้องอย่างวางในนั้น
ช่างเหล็กดีฝีมือลือทั้งกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน
วางสายสิญจน์เสกลงเลขยันต์ คนสำคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี
ครั้นได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์
ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรีดรูปให้เรียวปลาย
ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวถึงศอกกำมาหน้าลูกไก่
เผาซุบสานแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ
งามดีมิได้มีขนแมวพาด เลื่อมปราดเนื้อเขียวดูคมหนับ
เลื่อมพรายคล้ายแสงแมลงทับ เปล่งปลาบวาบวับคล้ายแสงตะวัน
ด้ามนั้นทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ จารึกยันต์พุทธจักรที่เหล็กกั่น
เอาผมพรายร้ายดุประจุพลัน แล้วเอาชันกรอกด้ามเสียบัดดล
ครั้นเสร็จสรรพจับแกว่งแสงวะวับ เกิดโกลาฟ้าพยับโพยมหน
เสียงอื้ออึงเอิกเกริกได้ฤกษ์บน ฟ้าคำรณฝนพยับอยู่ครั่นครื้น
ฟ้าผ่าเปรี้ยงเปรี้ยงเสียงโด่งดัง ขุนแผนจิตฟูให้ชูชื่น
ได้นิมิตฟ้าเปรี้ยงดังเสียงปืน ให้ชื่อว่าฟ้าฟื้นอันเกรียงไกร
ยกขึ้นวางกลางศาลอ่านพระเวท โดยเดชดาบดิ้นกระเดื่องไหว
เห็นประจักษ์ศักดิ์สิทธิ์ฤทธิไกร ดีใจได้สมอารมณ์ปอง
เอาไม้ระงับสรรพยามาทำฝัก ประสมผงลงรักให้ผิวผ่อง
กาบหุ้มต้นปลายลายจำลอง ทำด้วยทองถ้วนบาทชาติบางตะพาน


เทเอาเงินสิบห้าออกทันใด ส่งให้นายช่างแล้วว่าขาน
ฝีมือนี้ดีล้นพ้นประมาณ ปูนบำเหน็จให้ท่านโดยทันที

เห็นต้นรังงามสามกำกึ่ง หวดผึงขาดพับลงกับที่
เบาไหล่ไม่ระคายคล้ายหยวกปลีฯ




ประเด็นแรก นี่ไม่ใช่ตำราตีดาบฟ้าฟื้นครับ
ขุนแผนตีดาบตามตำราที่มีมาก่อนแล้ว
คงต้องยกเอาบทกอนท่อนบนมาลงไว้


ครานั้นขุนแผนแสนสนิท เรืองฤทธิ์รังสีไม่มีสอง
ได้ลูกชายเชี่ยวชาญกุมารทอง ก็สมปองคิดไว้แต่ไรมา
จะจัดแจงตีดาบไว้ปราบศึก ตรองตรึกหาเหล็กไว้หนักหนา
ได้เสร็จสมอารมณ์ตามตำรา ท่านวางไว้ใน <!--sizeo:5--><!--/sizeo--><!--coloro:#9932CC--><!--/coloro-->มหาศาสตราคม<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->

ตามบทกลอนก็แจ้งแล้วว่าทำตามตำราที่มีมาก่อนแล้วครับ

-----------------------------------------​

อ้างอิงซะหน่อย​

​

หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง​

ตั้งอยู่ริมกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออก เดิมเป็นพระที่นั่งโถง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระที่นั่งเกล้าฯ เรียกว่า หอพระปริต ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องศาสตราคม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้ทรงสร้างหอศาสตราคมขึ้นและได้สถาปนาหอพระปริต คือ หอเสถียรธรรมปริตขึ้นไว้ต่างหาก ​

หอศาตราคมมีผนังโดยรอบเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสานปิดทองทั้งองค์ มีพระสงฆ์รามัญนิกาย จากวัดตองปรุ(วัดชนะสงคราม) สวดพระพุทธปริต ทำน้ำพุทธปริตทุกวันพระ สำหรับใช้สรงพระพักตรสรง และใช้ประพรมพระราชฐาน ซึ่งเป็นประเพณีวังจนทุกวันนี้ ​

ประเพณีนี้ในสมัยอยุธยาเริ่มมีในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยพระเถระรามัญนิกายที่ตามเสด็จจากเมืองมอญ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แต่ครั้งสงครามกู้อิสรภาพ และประกาศอิสรภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๑๓๕ เข้ามาพักจำพรรษา ณ วัดตองปรุนอก เกาะเมืองอยุธยาด้านคลองคูเมืองตลาดหัวรอในปัจจุบัน ​

-----------------------------------​

อ.ปริญญาเคยเขียนบทความไว้แต่ช่วงนี้ติดราชการอยู่ ไว้กลับมาค่อยเสวนาเชิงลึก​

ตอนนี้คุยกันแบสบายๆก่อนครับ​

ภาค วัสดุ​

เหล็กจากที่ต่างๆ ตามรายชื่อส่วนใหญ่ไม่ใช่เหล็กคาร์บอนสูง
อาจจะใส่ชิ้นนิดเดียวเอาเคล็ดเท่านั้น​

เอาเหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพลายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร
<!--coloro:#2E8B57--><!--/coloro-->หอกสัมฤทธิกริชทองแดง<!--colorc--><!--/colorc-->พระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมเหล็กเบญจพรรณกลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้
เอาเหล็กไหลเหล็กหล่อบ่อพระแสง เหล็กกำแพงน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่​

<!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->ทองคำ<!--colorc--><!--/colorc--><!--coloro:#2E8B57--><!--/coloro-->สัมฤทธิ์<!--colorc--><!--/colorc--><!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->นาค<!--colorc--><!--/colorc-->อแจ <!--coloro:#808080--><!--/coloro-->เงิน<!--colorc--><!--/colorc-->ที่แท้ชาติ<!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->เหล็ก<!--colorc--><!--/colorc--><!--coloro:#A0522D--><!--/coloro-->ทองแดงดง<!--colorc--><!--/colorc-->​

ถ้าวัสดุตามนี้คนตีต้องชุบเก่งครับถึงจะได้ดาบดี​

---------------------------​

สรุป "นาคอแจ" เป็น โลหะนาก จาก อาเจะห์ ถูกต้องมั๊ยครับ.... ​

ผมอ่าน นา-คอ-แจ อยู่ตั้งนาน มิน่านึกไม่ออกว่าเป็นอะไร
นึกว่าเป็น ทองสำริด จาก นาคอแจ ครับ ​

-------------------------​

 

ขั้นตอนการตี<!--sizec--><!--/sizec-->


เตรียมเหล็ก
เอามาสุมคุมคอยเข้าเป็นแท่ง เผาให้แดงตีแผ่แช่ <!--sizeo:3--><!--/sizeo--><!--coloro:#800080--><!--/coloro-->ยาผง<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->
ไว้สามวัน<!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->ซัดเหล็ก<!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->นั้นเล็กลง ยังคงแต่พอลามตามตำรา
ซัดเหล็กครบเสร็จถึงเจ็ดครั้ง


<!--sizeo:3--><!--/sizeo--><!--coloro:#800080--><!--/coloro-->ยาผง<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> ในแง่การผลิต....ยาผงอาจจะเป็นส่วนผสมของคาร์บอนที่จะแพร่เข้าผิวเหล็กได้นิดหน่อย
ไว้สามวัน<!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->ซัดเหล็ก<!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->นั้นเล็กลง.......ซัดเหล็ก ในที่นี้คงหมายถึงตีเหล็ก จากเหล็กที่ตีหลวมๆ เนื้อแน่นขึ้น เหล็กแน่นๆใช้ปะทะกับเครื่องป้องกันดีกว่าเหล็กตีหลวม
- --------------------
พิธีกรรม

พอกระทั่ง<!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ฤกษ์เข้าเสาร์สิบห้า<!--colorc--><!--/colorc-->ก็ตัดไม้ปลูกศาลขึ้นเพียงตา แล้วจัดหาสารพัดเครื่องบัตรพลี
เทียนทองติดตั้งเข้าทั้งคู่ ศีรษะหมูเป็ดไก่ทั้งบายศรี
<!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->เอาสูบทั้งตั้งไว้ในพิธี <!--colorc--><!--/colorc-->เอา<!--coloro:#2E8B57--><!--/coloro-->ถ่านที่ต้องอย่าง<!--colorc--><!--/colorc-->วางในนั้น
ช่างเหล็กดีฝีมือลือทั้งกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน
วางสายสิญจน์เสกลงเลขยันต์ คนสำคัญคอยดูที่<!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ฤกษ์ราชสีห์
ครั้นได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์ <!--colorc--><!--/colorc-->
ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรีดรูปให้เรียวปลาย
ทีแอบชี้ไว้คือการตีดาบ ถ่านสำคัญไม่น้อย ต้องกำหนดต้องอย่างที่กำหนดด้วยไม่ใช่อะไรก็ได้
-----------------

ท่านอาจารย์พิชัย แก้วขาว ท่านได้กรุณาโทรมาแก้คำผิดและให้ข้อมูลในการตีดาบและวัสดุเพิ่มเติม

เตรียมเหล็ก
<!--coloro:#FF0000--><!--/coloro--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->เอามาสุมคุมควบ<!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->เข้าเป็นแท่ง เป็นภาษช่างที่ปัจจุบันทางใต้ยังเรียกกันอยู่ โดยสรุปเป็นการตีรวมเหล็กมาติดกันโดยเอาแผ่นใหญ่ตีแผ่คุมแผ่นเล็ก เผาให้ร้อนผิวเยิ้มแล้วตีควบเข้าด้วยกัน

<!--sizeo:3--><!--/sizeo--><!--coloro:#008000--><!--/coloro-->ทองแดงดง <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->เป็นโลหะทองแดงที่เกิดขึ้นอยู่ในรูแร่ธาตุที่ไม่ต้องถลุงฝังอยู่ในสายแร่คล้ายๆทองที่ร่อนได้ไม่ต้องถลุงนั่นเอง ถือเป็นของดีตามธรรมชาตินิยมใช้ทำวัตถุมงคล
---------------------
คนไทยเราแต่โบราณก็ใช้วิธีคัดสำเนาครับพี่

บางครั้งการคัดตกหล่นอาจแค่ทำให้ความเดิมสูญหายไป
แต่บางครั้งก็อาจกลายเป็นความหมายใหม่ให้คนรุ่นหลังมานั่งตีความกัน
------------------------
เข้าเรื่องนิดนึงว่า ขุนแผนฉบับปัจจุบัน ได้รับการชำระใหม่หลายหน และเนื้อเรื่องอาจะเปลี่ยนตามกวีผู้แต่ง
ถ้าจำไม่ผิด ส่วนตีดาบฟ้าฟื้นนี่ ครูแจ้งวัดระฆังได้ เป็นผู้แต่งขึ้น ซึ่งครูแจ้งนี้เท่าที่ทราบ มีชีวิตถึงช่วง รัชกาลที่5 คือหลัง สุนทรภู่ (สุนทรภู่ กวี สมัยรัชกาลที่2 เสียชีวิต ในรัชกาลที่4)
ซึ่งบทเดิมของช่วงนี้ ไม่ทราบเป็นอย่างไร อาจไม่วิจิตรพิสดาร เช่นนี้ก็ได้ ^^"

บทนึ่งที่ ครูแจ้ง ได้ เปลี่ยนแปลงไปคือ เสภาตอนกำเนิดกุมารทอง สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีพระอธิบาย (เมื่อ พ.ศ.2460) ว่า
"เนื้อเรื่องเสภาตอนนี้ตามหนังสือบทเดิมว่าขุนแผนไปเที่ยวหาโหงพรายตามป่าช้า ไปพบผีตายทั้งกลมชื่ออีมากับอีเพชรคง ขุนแผนจึงขอลูกในท้องมาเลี้ยงเป็นกุมารทอง ความเดิมสั้นเพียง 4 หน้ากระดาษ ครูแจ้งเอามาขยายความ ผูกเรื่องให้ขุนแผนไปได้นางบัวคลี่อยู่กินด้วยกันจนมีครรภ์ แล้วเกิดเหตุนางบัวคลี่ตายทั้งกลม ขุนแผนจึงได้กุมารทองมา ว่าโดยย่อให้กุมารทองเป็นลูกขุนแผนจริงๆ..."

เพิ่มเติมนิดหน่อย ขุนแผน เดิมชื่อพลายแก้ว ซึ่งเป็นภาษามอญ ดังนั้นดาบฟ้าฟื้น ที่มีจริงอาจะถูกตีขึ้นด้วยตำรับแบบ มอญ ก็ได้ ^^"
------------------------------------
ส่วนตีดาบฟ้าฟื้นเอาตำรามหาศาสตราคมที่มีครั้งกรุงเก่ามาลงไว้ครับ
----------------------------------
เรื่องความยาว ศอกกำมา ทางใต้ยังใช้เรียกกันอยู่ ก็คือศอกกำมือ(อีกแบบคือศอกแบมือ)

ส่วนเหล็กเบญจพรรณ และเหล็กบ้าน นั้นหมายถึงเหล็กต่างๆที่มีใช้ในบ้านเมื่อมีการชำรุดก็จะเก็บรวบรวมไว้ เมื่อมีการตีมีดใช้งานก็จะเอาไปตีคุมควบต่อไปนั่นเองอาจจะเพราะเหล็กสมัยก่อนหายากกว่าในสมัยนี้ครับ
-------------------------------
เหล็กตรึงโลง <!--coloro:#FFA500--><!--/coloro-->ตรึงปั้นลม<!--colorc--><!--/colorc--> สลักเพชร

ปั้นลม
ลดขนาด: 66% จากขนาดเดิม [ 960 x 720 ] - คลิกเพื่อดูภาพขยาย


แต่เรือนไทย สมัยก่อน ไม่ใช้ ตะปู ใช่ไหมครับ

เอาเป็นว่าถ้าใช้ ตะปูต้องเป็นเหล็ก ที่ทนสนิมดีมาก เพราะ รับแดดรับฝนตลอด
<!--IBF.ATTACHMENT_197522-->------------
<!--IBF.ATTACHMENT_197053-->
ล้างครู หมายถึง การเอาชนะด้วยจิตอันเป็น อกุศล และตอบแทนครูด้วยความอกตัญญู คิดทำร้ายครูในทุกรูปแบบ

ล้มครู หมายถึง การเอาชนะครูด้วยจิตอันเป็น กุศล และตอบแทนครูด้วยความกตัญญูกตเวธิตา ยกย่องเชิดชูครูของตนเสมอ
------------------------------
เรื่องความยาวดาบมีตีความไปกันต่างๆ ตอนนี้นำหนักพอๆกัน

ศอกกำมา ตามที่ อ.พิชัยเล่า ตามภาษาใต้ คือศอกแบบกำมือ ถ้ามือผมก็ราว 15 นิ้วฟุต
อีกขนาดคือ 1ศอก+1กำมือ อันนี้ราว 21.5 นิ้วฟุต ตามตัวอย่างดาบที่ตีตามตำรามหาศาสตราคมเล่มหนึ่ง

อย่างเราๆอยากได้ดาบละก็ว่าตามที่เหมาะกับวิชาที่ฝึกดีที่สุด
---------------------------

อย่างว่าแหละครับเมือก่อนอาจมีจริงเพราะเทคโนโลยีอะไรก้อไม่ค่อยมี ไม่ทำให้จิตหลุดออกลู่นอกทางได้ ทำให้การฝึกพวกนี้ทำได้สำริดผล เมือวัตถุนิยมเจริญขึ้นทำให้คนเราจิตหยาบลงจึงไม่สามารถทำได้

 

ถ้ายังงี้ ม้านิลมังกรก็มีจริงล่ะครับ

 

เข้ามาอ่านด้วยครับ....
...ไหนเลย กลายเป็นกระทู้ทะเลเดือดไปได้..อิอิ

แต่เอาตามความเป็นจริงนะครับ ขุนแผนมีอยู่จริง และดาบฟ้าฟื้นก็มีจริงครับ ไม่ใช่แค่นิยาย แต่นิยายเอามาแต่งเพิ่มเติมกันเอง ถ้าได้อ่านเรื่องที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าตอนพบเจอขุนช้าง เราก็จะทราบว่านิยาย กับเรื่องจริงมันต่างกันเยอะ และแล้วดาบฟ้าฟื้นอยู่ไหนหนอ ตัดเหล็กได้ขาดเหมือนปอกกล้วยไหม หรือว่าดาบฟ้าฟื้นจิจมอยู่ใต้ทะเล หรือใต้พิภพไปแล้ว สุดท้ายก็แค่สมบัติทางโลกครับ แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดี ว่าอยู่ไหน..อิอิ..^^

แต่ลองอ่านบทความที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าสิครับ ประวัติขุนแผน อาจจิรู้ว่าดาบฟ้าฟื้นอยู่ไหน..

 

5555555555555


โดน จุ๊บ ช่ายป่าว

 

5555 ถูกใจว่ะ น้องรัก จริงอย่างที่ว่าถ้าคนมันจะหาเรื่องแค่ขอเบอร์สาวโต๊ะตรงข้าม อาจโดนยิงสวนมาจากอีกโต๊ะก็ได้ 5555 ได้ใจ..เต็มๆ

 

พระอริยเจ้า ท่านว่าหามรรคผลพระนิพพาน ยังจะง่ายกว่า

ตามหา rabbit_jumpเหล็กไหลไพลดำ พูดพล่ามเป็นบ้า เล่นแร่แปรธาตุ ผ้าขาดเป็นวา คิดสะระตะโสฬส เหล็กเปียก เป็นเหล็กไหลที่หาได้ยากมาก พรรณสัณฐาน สีขาวขุ่นเหมือนตะกั่ว เหล็กไหล ที่เคยไหลผ่านไปมาตามซอกถ้ำซอกผา มีลักษณะเป็นแผ่น ๆ เป็นปื้น หยิบ<WBR>เอามีดหมอด้ามหัวแรดเนื้อเหล็กไหลหล่อ ด้ามเล็กแต่คมกริบตัดเส้นผมขาด