แนะนำการกำหนดรู้ของสติให้ทันจิตแบบรวดเร็วและได้ผล

ขอคำแนะนำด้วยครับ

 

ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นเริ่มฝึกสมาธิ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

 

เห็นด้วยนะครับที่อยากให้แนะนำในกระทู้นี้เลย เพราะหลายๆคนจะได้อ่าน จะได้รู้เยอะ และจะได้เป็นทานแก่คนทั่วๆไปด้วยน่ะครับ

อนุโมทนาสาธุ

 

ดีครับ ขออนุโมทนา เป็นการช่วยๆกันให้ถึงฝั่ง

จริงๆจขกท โพสไว้เลยจะดีมากๆนะครับ

*ผมก็เพิ่งเริ่มปฏิบัติครับ เผื่อต้องการคำชี้แนะอีกมากมาย

**ผมชื่นชมในตัวจขกทนะครับ

ท่านมีความนอบน้อมถ่อมตนมากๆ นับถือจากใจครับผม

 

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์:
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=9TH3zPMRHAk&feature=player_embedded]YouTube - ธรรมะเป็นศูนรวมแห่งจิตใจ[/ame]

 

ยังรู้ได้ช้าครับ ส่วนมากจะปรุงแต่งเสร็จเรียบร้อยหรือจบเรื่องไปแล้ว
สนใจขอคำแนะนำเพื่อจะได้ออกจากป่าเร็วๆครับ

 

ขอคำแนะนำด้วยคนคับ

 

เป็น ๑ ใน ๑๐ ของ วิปัสสนูปกิเลส อยากคุยธรรมะ อยากสอนธรรมะ เจอใครก็จะสะกิดแขนเรียกเขามาฟังธรรมะ อยากให้มีคนมาฟังธรรมะของเรา โดนกิเลสมันหลอกครับ ถ้ายังเป็นปุถุชนอยู่อย่าเพิ่งเผยแผ่ธรรมะเลยครับ ธรรมะที่ผ่านปุถุชนมันจะเพี้ยนหรือบิดเบือนโดยอัติโนมัติครับ เป็นธรรมชาติ ขนาดพระที่ภาวนามา ๒๐-๓๐ ปี ยังสอนไม่ตรง ยังคลาดเคลื่อนเลย ไม่สามารถคงคำสอนของอาจารย์ไว้ได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเจริญสติคอยตามรู้กายคอยตามรู้ใจหรอกครับ อย่าขวนขวายเลย.

 

ตนแลเป็นที่พึ่งของตน ไม่ดูจิตใครๆนอกจากจิตของตน อย่าด่วนเอาจิตพิพากษาคนอื่นโดยคบกับโมหะจริตเป็นเพื่อน โดยยังที่ไม่ได้มองจิตตนเอง
เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งทีจะรออะไร เกิดมาเป็นคนก็โชคดีชั้นที่หนึ่งและพบพระ พุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าอีกโชคดีสองชั้น ถ้าชาตินี้ไม่ตัดสินใจไป " พระนิพพาน " ตามคำชี้แนะก็เสียชาติเกิดแล้ว เพราะไม่รู้ว่าชาติหน้าจะได้เกิดแล้วเป็นอะไร?ถ้าเป็นสัตว์เดรัชฉานก็ทำความ ดีทำบุญกุศลอะไรไม่ได้อีก อย่ารอเลยรีบเร่งรักษาศิล สมาธิ ปัญญา นะก่อนจะสายไป

(กราบเรียนทุกท่าน ที่ข้าพเจ้าทำกระทู้นี้ไม่ใช่ว่าผมเก่งหรือสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลอะไรหรือ แสดงความอวดรู้เกินคำสอนของพระสมเด็จองค์พระภาคเจ้าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ก็หาไม่เพียงแต่มีประสบการณ์ทำสมาธิปฏิบัติทางจิตตามแนวทางคำแนะนำของพระ คณาจารย์ที่ว่าสำเร็จทางจิตสมาธิต่างก็มากมายทั้งอ่านเพิ่มเติมทั้งใน หนังสือต่างๆเกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้าก็มากมาย เมื่อมาถึงวันนี้ก็หลายปี(ร่วม 28 ปี)ก็นับว่ามีพื้นฐานมาก็เยอะแต่ก็เหมือนตาบอดคลำช้างไม่ได้อะไรสักอย่างหลง ทางจนไม่เห็นอะไรเลยเหมือนคนเดินเข้าป่าลึกยิ่งเดินก็ยิ่งหลงป่าเข้าไปทุกที จนเกือบหาทางออกไม่เจอ...แต่แล้วในเวลานี้ผมก็เดินมาจนเกือบพ้นป่าเห็นทุ่ง โล่งอยู่ข้างหน้ารำไรก่อนใคร ทั้งตื่นเต้นและดีใจรำพึงกับตัวเองนี่หนอคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจริงอย่าง นี้เองหนอ...ถ้าเราชาวพุทธทุกท่านปฏิบัติจริงและถูกทางก็จะเห็นจริงตามคำสอน ของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง.....ด้วยความที่ใกล้หลุดจากป่าเจอที่โล่งเพราะ เดินมาจนถูกทางจึงอดใจไว้ไม่ได้ที่อยากจะแนะนำสิ่งที่เพียรได้รู้ได้เห็นมา กับตัวเองให้ผู้ที่เป็นนักปฏิบัติทางจิตที่ยังหลงป่าเหมือนกับข้าพเจ้าในตอน ต้นให้หาทางออกจากป่าได้ไม่มากก็น้อย และอย่าเข้าใจผิดว่าข้าพเจ้าบรรลุอะไรมากมายนัก เพียงแต่ข้าพเจ้าก็เหมือนกับพวกท่านที่เดินมาในป่าลึกและก็หลงป่ามาพร้อมกับ ท่าน แต่ข้าพเจ้าอาจโชคดีกว่านิดหน่อยที่รีบเดินนำหน้ามาก่อนแบบไม่รอใครและก็ บังเอิญให้มองเห็นที่โล่งอยู่ข้างหน้าอยู่รำไรก็ดีใจจึงหันหลังไปบอกท่านให้ รีบตามมาไวๆจะได้พ้นป่าลึกสักที....โปรดระลึกเสมอว่าข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้ ที่หันหลังไปบอกท่านเท่านั้นจากนั้นไปก็เป็นหน้าที่ของท่านที่จะรีบเดินให้ พ้นป่าเร็วๆ สาธุสาธุ
สนใจอยากให้แนะนำออกจากป่าเร็วๆติดต่อกันที่กล่องข้อความหรือแนะนำอะไรก็ขอ เชิญที่กระทู้นะครับ)

 

:boo::boo::boo:

 

รบกวนขอเทคนิคและคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ขอรบกวน ช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณมากๆครับ

 

ขอด้วยคนครับผม

 

สัตว์ในโลกนี้ไป " นิพพาน " ไม่ได้เพราะติดในกามคุณทั้งหลายในธรรมดาของโลก เช่น ติดทุกข์และติดสุข คนรวยก็ติดทุกข์และติดสุขแบบคนรวย คนจนก็ติดทุกข์และติดสุขแบบคนจน นักบวชก็ติดทุกข์ติดสุขแบบนักบวช(ติดทฤษฎีของการปฏิบัติๆแล้วก็มีความสงสัยไม่เด็ดขาด) พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่อุบัติขึ้นบนโลกนี้รวมทั้งพระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันล้วนเห็นภัยของการเกิดและดับของโลก ท่านทั้งหลายล้วนเดินจากไปสู่แดนแห่งพระนิพพานไม่หวนกลับคืนมาอีก ทิ้งแต่คำสอนธรรมะเปรียบประดุจแสงไฟชี้นำทางให้เดินไปด้วยพลังแห่งเมตตาธรรม แต่จะมีสัตว์อีกกี่ชนิดที่โชคดีเช่นมนุษย์ที่สามารถทำความดีและไปพระนิพพาน ได้ ดังนั้นผู้ที่มีปัญญาเห็นตามก็เดินไปไม่สงสัยมุ่งไปไม่ลดละไปสู่พระนิพพานใน ชาติปัจจุบัน มาเถิดท่านผู้เจริญทั้งหลายหันไปสำรวจ แล้ว ถามตัวเองยังจะรออะไรอีกถึงยังไม่อยากไปสักทีก่อนที่จะสายไปแล้วมาโทษตัวเองว่ารู้อย่างนี้ไปเสียตั้ง นานซะก็ดี อย่ามัวโง่เขลาเบาปัญญาอีกต่อไปเลย..สาธุ

 

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

 

เห็นด้วบครับ เพื่อเป็นธรรมทานควรเผยแพร่ในกระทู้นี้เลยดีกว่าครับ ดูเหมือนจะเป็นความลึกลับยังไงก็ไม่รู้นะครับ

 

ครับที่คุณบอกว่าดูเหมือนลึกลับยังไงก็ไม่รู้นะครับ ที่จริงจะว่าลึกลับก็ไช่ไม่ลึกลับก็ไช่ เปรียบเหมือนเราเห็นแต่หน้ามือเราก็ไม่เห็นหลังมือถ้าเราไม่ใช้ปัญญามาเปิดในสิ่งที่ดูว่าลึกลับ เพราะทุกวันนี้คนเรามองอยู่มุมเดียวเสมอไม่เปิดใจให้กว้างมองมุมอื่นบ้าง แท้ที่จริงแล้วมันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ มันไม่ลึกลับอะไรเลย เพียงแต่เราเอาปัญญาเข้าไปดูก็จะเห็นสิ่งที่เราคิดว่ามันลึกลับแท้จริงก็ไม่มีอะไรเลย เหตุที่ไม่อยากเผยแผ่ในกระทู้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้มีวาสนาที่จะรู้จะว่าเฉพาะตนก็ได้บ้างครั้งอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ จะทำให้เกิดการโต้เถียงกันไม่เป็นสาระและประโยชน์แต่ส่วนรวมแต่อย่างไร เอาเป็นว่าผู้อยากรู้ที่แท้จริงย่อมติดตามสิ่งไม่รู้ให้ได้รู้ติดต่อผมทาง PM ดีกว่าและไม่ต้องกลัวว่าผมมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า บอกตรงนี้ไปเลยว่าผู้อยากรู้ต้องไม่สงสัยในสิ่งที่ยังไม่รู้

 

อนุโมทนา ครับ รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ

 

ธรรมที่ได้รู้จากท่านเป็นอย่างไรหนอ รบกวนส่ง toridea_tom@hotmail.com ขอบคุญครับ

 

ขอผมด้วยครับ อนุโมธนาสาธุ ถ้าจะขออนุญาต ดูจิตของผมให้หน่อยได้มั้ยครับว่า

ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วควรแก้ไขอย่างไร