เป็นเกย์บวชได้ไหม

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Blunt, 3 มีนาคม 2010.

  1. Blunt

    Blunt สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +18
    ตามหัวขอกระทู้ครับ ผมอยากบวชให้พ่อเเม่และศึกษาพระธรรมในตัวไปด้วยสักเดือน เเต่กลัวว่าจะเป็นการผิดพระวินัยหรือบาป จึงรบกวนผู้รู้ตอบทีครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ปณฺฑก -- บัณเฑาะก์หรือวิปริตทางเพศผู้ที่ปฏิสนธิมาโดยเครื่องหมายแห่งบุรุษและสตรีขาดตกบกพร่องหรือผู้ที่มีอาการวิปริตทางเพศบางประการ ชื่อว่าบัณเฑาะก์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บัณเฑาะก์มี ๕จำพวก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ๑. อาสิตฺตกปณฺฑกได้แก่บัณเฑาะก์ที่ดูดกินซึ่งอสุจิบุคคลใดมีความกำหนัดกระวนกระวายแล้วเอาปากคาบองคชาตของบุรุษอื่นดูดกินซึ่งน้ำอสุจิแล้วจึงระงับดับความกระวนกระวายหรือบุคคลบางพวกที่ตอนแรกยังไม่เกิดความกำหนัดครั้นเมื่อได้ดูดกินซึ่งน้ำอสุจิแล้วเกิดความกำหนัดยินดี บุคคลทั้งสองพวกนี้ชื่อว่าอาสิตตกบัณเฑาะก์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ๒. อุสฺสูยปณฺฑกพวกบัณเฑาะก์ที่แอบดูการร่วมเพศ บุคคลผู้ใดได้โอกาสแอบดูบุรุษและสตรีร่วมเพศกันอยู่ ก็บังเกิดความริษยาในขณะเดียวกันความกำหนัดยินดีที่ตนมีอยู่ก็ระงับดับลง คล้ายกับว่าตนได้เสพด้วยฉะนั้นบุคคลพวกนี้ชื่อว่า อุสสูยบัณเฑาะก์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ๓. โอปกฺกมิกปณฺฑกบัณเฑาะก์พวกที่ถูกตอน บุคคลบางพวกที่ต้องถูกตอนไม่ให้มีความกำหนัดยินดีเกิดขึ้นเช่น พวกขันที ที่ต้องมีหน้าที่อยู่ใกล้ชิดกับนางสนมกำนัลของพระเจ้าแผ่นดินเป็นบุคคลที่ได้ชื่อว่า โอปักกมิกบัณเฑาะก์พวกบัณเฑาะก์ประเภทนี้มิได้เป็นมาโดยกำเนิด จึงถือว่าปฏิสนธิด้วยอเหตุกปฏิสนธิมิได้อาจเป็นอเหตุกปฏิสนธิ , ทวิเหตุกปฏิสนธิหรือติเหตุกปฏิสนธิก็ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ๔. ปกฺขปณฺฑกบัณเฑาะก์ที่เกิดกำหนัดแห่งปักษ์ บุคคลบางพวกมีความกำหนัดในกาฬปักษ์ คือ กาลข้างแรมครั้นถึงชุณหปักษ์ คือ ข้างขึ้น ความกำหนัดกระวนกระวายก็หายไปหรือมีความกำหนัดในชุณหปักษ์ ครั้นถึงกาฬปักษ์ความกำหนัดกระวนกระวายก็หายไปบุคคลพวกนี้ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ๕. นปํสกปณฺฑกบัณเฑาะก์ผู้ไม่ปรากฏเพศ บุคคลผู้ใดที่เกิดในกามภูมิอวัยวะเพศหญิงและเพศชายไม่ปรากฏทั้งสองเพศ มีแต่ช่องสำหรับถ่ายปัสสาวะเท่านั้นบุคคลชนิดนี้ชื่อว่า นปุงสกบัณเฑาะก์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บัณเฑาะก์ทั้ง ๕ จำพวกนี้เมื่อแสดงโดยตรงแล้วมุ่งหมายเอา นปุงสกบัณเฑาะก์ ดังวจนัตถะว่า ปฑติลิงฺคเวกลฺลภาวํคจฺฉตีติ ปณฺฑโก ผู้ที่มีเครื่องหมายแห่งบุรุษ และสตรีเพศขาดตกบกพร่องผู้นั้นชื่อว่า บัณเฑาะก์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนบัณเฑาะก์อีก ๔ จำพวกเป็นการแสดงโดยปริยาย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อุภโตพยญฺชนก บุคคล ๒เพศ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บุคคลใดอาศัยกรรมทำให้อวัยวะเพศทั้ง๒ เกิดขึ้นได้ บุคคลนั้นชื่อว่า อุภโตพยัญชนกะ ดังวจนัตถะว่า อุภโต ปวตฺตํ พยญฺชนํอตฺตีติ = อุภโตพยญชนโก อวัยวะเพศทั้ง ๒ ชนิดเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยกรรมมีแก่บุคคลใด ฉะนั้นบุคคลนั้นชื่อว่า อุภโตพยัญชนกะ หมายความว่าด้วยอำนาจแห่งอกุศลกรรมอันเกี่ยวกับกาเมสุมิจฉาจารเข้าเบียดเบียนกุศลกรรมที่ทำให้เกิดเป็นมนุษย์และทำให้อำนาจแห่งกุศลกรรมนั้นลดกำลังลง จึงปรากฏมีอวัยวะเพศได้ ๒เพศในบุคคลเดียวกัน แต่อวัยวะเพศทั้งสอง ๒ นั้นหาได้ปรากฏในเวลาเดียวพร้อมกันไม่เวลาใดปุริสภาวรูปปรากฏขึ้น เวลานั้นอิตถีภาวรูปย่อมไม่ปรากฏและถ้าเวลาใดอิตถีภาวรูปปรากฏขึ้น เวลานั้นปุริสภาวรูปก็ไม่ปรากฏขึ้นดังพระบาลีในอินทริยมาแสดงว่า ยสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ ตสฺสปุริสินฺทฺริยํอุปฺปชฺชตีติ แปลว่า อิตถินทรีย์กำลังเกิดขึ้นแก่บุคคลใดปุริสินทรีย์ก็กำลังปรากฏขึ้นแก่บุคคลนั้นใช่ไหม โนแก้ว่า ไม่ใช่เป็นการยืนยันว่ามิใช่เกิดขึ้นพร้อมกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อุภโตพยัญชนกบุคคล มี ๒จำพวก<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ๑. อิตถีอุภโตพยัญชนกบุคคล ได้แก่บุคคลที่มีทรวดทรงสัณฐานลักษณะอาการตลอดจนอวัยวะเพศเป็นหญิงอย่างธรรมดาแต่ต่อมาเมื่อเวลาใดบังเกิดความกำหนัดพอใจในหญิงอื่นจิตใจที่เคยเป็นหญิงอยู่ก่อนก็จะหายไปผันแปรสภาพจิตใจเป็นชายขึ้นมาแทนที่และในเวลาเดียวกันอวัยวะเพศชายก็ปรากฏขึ้นแทนอวัยวะเพศหญิงสามารถร่วมสมสู่กับหญิงอื่นได้
    ๒.ปุริสอุภโตพยัญชนกบุคคล ได้แก่บุคคลที่มีรูปร่างสัณฐานลักษณะอาการเป็นชายทั้งอวัยวะเพศก็เป็นชายแต่เมื่อเวลาใดเกิดความกำหนัดพอใจในชายอื่น เวลานั้นจิตใจและอวัยวะเพศที่เคยเป็นชายอยู่ก่อนก็หายไปผันแปรสภาพจิตใจและอวัยวะเพศเป็นหญิงขึ้นมาแทนที่มีความสามารถร่วมสมสู่กับชายอื่นได้
    ความแตกต่างกันระหว่างอุภโตพยัญชนกบุคคลทั้ง ๒ นี้ก็คือ
    อิตถีอุภโตพยัญชนกบุคคลนั้นตนเองมีครรภ์กับบุรุษอื่นได้ทั้งทำให้หญิงอื่นมีครรภ์กับตนก็ได้<O:p</O:p
    เพิ่มเติมเพื่อทราบพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔<O:p</O:p
    มหาวรรค ภาค๑<O:p</O:p
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=3481&Z=3608&pagebreak=0<O:p</O:p
    พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบันคือ บัณเฑาะก์ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบทที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบันคืออุภโตพยัญชนกภิกษุไม่พึงให้อุปสมบทที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบันคือ คนลักเพศภิกษุไม่พึงให้อุปสมบทที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย<O:p</O:p
     
  3. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    บวชได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขให้ตนเอง คือ ห้ามมองตรงต้องมองพื้นอย่างเดียวไม่เกินสองก้าวทุกขณะ สันโดษอยู่เพียงรูปเดียวหลีกเลี่ยงการสัมผัสเพศชายหญิง การพูดน้อยแบบถามคำตอบคำโดยเน้นตอบมากกว่าถาม งดยิ้มแต่ห้ามบึ้ง แค่เดือนเดียวหวังว่าคงทำได้นะ จะเป็นบุญกุศลสูง ขออนุโมทนา สาธุ ปล.หวังว่าตอนบวชคงจะไม่ทำตัวเป็นเกย์กอดผู้ชายนะ บาปนะ แต่ถ้าแปลงเพศแล้วไม่ต้องนะ ห้ามเด็ดขาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2010
  4. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    รอผู้รู้มาตอบครับ เห็นมาหลายกระทู้แล้วนี่ก็อีกกรณีหนึ่ง จะรอดูครับ
     
  5. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,196
    คำอธิบายข้างต้นก็บอกไว้แจ่มแจ้งแล้วว่าบวชไม่ได้ หากจะตอบแทนพ่อแม่ ก็มีวิธีอื่นๆครับ เช่นเราเป็นเจ้าภาพบวชพระให้บุคคลอื่น ที่เขามีความศรัทธาจริงๆ คนที่ขาดทุนทรัพย์ในการบวช เขาศรัทธาอยากบวช เราก็ไปช่วยเขาได้ครับ ได้อานิสงส์แรงกว่าคุณอยากบวชเอง เนื่องจากจิตใจคุณรักเพศเดียวกัน ผิดพระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2010
  6. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    บัณเฑาะก์บวชไม่ได้ครับ
    บัณเฑาะก์เป็นอาภัพบุคคลในทางพระพุทธศาสนา ไม่สมควรบวชเป็นพระภิกษุ เป็นผู้ห้ามบวช และห้ามพระอุปัชฌาย์บวชให้เด็ดขาด ถ้าพระอุปัชฌาย์ฝ่าฝืน ย่อมมีความผิด ถึงให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์

     
  7. smile072

    smile072 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +461
    ไม่แนะนำให้บวชครับ เพราะว่าผิดพระวินัยถึงคนอื่นไม่รู้แต่ตัวของคุณเองรู้ก็จะทำให้เกิดเป็นบาปโทษเสียเปล่าๆ มีอีกหลายวิธีในการสร้างบุญกุศลครับสามารถเลือกทำได้ เช่น ไปถือศีลปฏิบัติธรรม สร้างวิหารทาน อื่นๆอีกมากเพียงแต่ให้คุณตั้งใจในการสร้างบุญกุศลให้ดีครับ
     
  8. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    กระเทย เกย์ บวชได้หรือ ไม่?

    ในอรรถกถาชื่อกุรุนทีแก้ว่า ในบัณเฑาะก์ ๕ ชนิดนั้น อาสิตตบัณ-เฑาะก์ และอุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา, ๓ ชนิดนอกนี้ห้าม แม้ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น. ก็ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนี้ บัณเฑาะก์ใดทรงห้ามบรรพชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาบัณเฑาะก์นั้น ตรัสคำนี้ ว่า อนุป-สมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ. บัณเฑาะก์แม้นั้น ภิกษุพึงให้ฉิบหายด้วยลิงคนา-สนาทีเดียว. เบื้องหน้าแต่นี้ แม้ในคำที่กล่าวว่า พึงให้ฉิบหาย ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.


    ที่มา.อรรถกถาออนไลhttp://www.palungjit.org/tripitaka/default.php?cat=600199

    ตรัสคำนี้ ว่า อนุป-สมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ. บัณเฑาะก์แม้นั้น ภิกษุพึงให้ฉิบหายด้วยลิงคนา-สนาทีเดียว. เบื้องหน้าแต่นี้ แม้ในคำที่กล่าวว่า พึงให้ฉิบหาย ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.



    ศึกษาเพิ่มเติม..คนเป็นกะเทยได้อย่างไร (ตอนที่๒๑)

    ที่..http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=8989<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  9. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,091
    ถ้าเราดูตามเหตุ ตามผล ของคนในกาลปัจจุบัน ก็คงบวชได้นะครับ ไปห้ามไม่ได้หรอกครับ

    แต่นั่นก็คือ ปัญญา ของมนุษย์ปถุชนสมัยนี้ ที่เราต้องยอมรับกันในสังคมครับ

    เพราะพระมีศีลที่ดี ให้ปฎิบัติอยู่แล้ว เราไม่ต้องกังวลอะไรครับ ถ้าเขาศรัทธาบวชจริงๆ

    ต้องลองตั้งกระทู้ที่ถามว่า จิตใจประเภทนี้ จะสามารถบรรลุธรรมได้ไหมอย่างไรครับ

    แล้วจะแก้ใขอย่างไร ถึงจะสามารถเข้าถึงธรรม หรือยอมรับในธรรมชาติ ได้ครับ

    ขอโมทนาทุกๆคนนะครับ

    (ต้องบวชด้วยใจจริง ศรัทธาจริงนะครับ ไม่ใช่เพื่อการเอาชนะสังคมหรือกฎเกณฑ์ ทุกอย่างจะเปลี่ยนในทางที่ดีเอง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2010
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    จากกรณีชาวพุทธร้องเรียน “ข่าวสด” ถึงพฤติกรรมพระวิชัย ธัมมวิชโย อายุ 57 ปี พระลูกวัดโบสถ์อินทรสารเพชร ซ.เพชรเกษม 28 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กทม. ซึ่งบวชมานานนับสิบปีแล้วแต่มีพฤติกรรมกระตุ้งกระติ้งเหมือนกะเทย
    พร้อมทั้งยังมอบหลักฐานภาพถ่ายพระรูปดังกล่าวขณะนุ่งสบงตัวเดียวไม่สวมอังสะ พบว่าเป็นพระมีนม หน้าอกตั้งชันเหมือนผู้หญิง กระทั่งพระวิชัยออกมาเปิดตัวยอมรับว่าเคยเป็นกะเทยถึงขั้นคิดผ่าตัดเสริม เต้าแต่ไม่ได้ผ่าแค่กินยาคุมจนมีนมโตขึ้นมา กระทั่งคิดได้ตั้งจิตอธิษฐานขอบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

    เมื่อวันที่ 16 ก.พ. พระพรหมมุนี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต, กรรมการมหาเถรสมาคม และแม่กองธรรมสนามหลวง กล่าวถึงกรณีพระมีนมที่มีพฤติกรรรมกระตุ้งกระติ้ง ว่า ในฐานะที่อาตมาเป็นพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ และเป็นพระอุปัชฌาย์ ทำหน้าที่อุปสมบทให้กับนาคได้เข้ามาสวมผ้าเหลืองแห่งพระพุทธศาสนา ตามความเห็นแล้ว
    สำหรับผู้ชายที่มีพฤติกรรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เป็นกระเทยหรือไปทำหน้าอกเสริมสวยนั้น จะเข้ามาขอบวชเป็นพระภิกษุ ตามหลักพระธรรมวินัยมีข้อห้ามมิให้บัณเฑาะว์หรือชายที่มีสองเพศในคนเดียวกัน คือ มีทั้งอวัยวะเพศชายและหญิง รวมไปถึงกระเทยด้วย แต่ในความเป็นจริงตามยุคสมัยปัจจุบัน

    เราต้องนำมาพิจารณาด้วยว่านิยามของคำว่ากระเทยนั้น เข้าข่ายในลักษณะใดที่จะห้ามบวช ถ้าเป็นแค่เพียงมีกิริยาตุ้งติ้ง พูดจาจีบปากจีบคอ หรือมีหน้าอกโตเท่านั้น ถ้าเข้ามาขอบวชและมิได้แสดงอาการตุ้งติ้งออกมา ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่พระอุปัชฌาย์จะทราบและคงต้องให้เข้ามาบวชเป็นพระ แต่ถ้าถึงขั้นตัดอวัยวะเพศชายทิ้งแล้ว กรณีเช่นนี้สมควรห้ามเด็ดขาด

    แต่สำหรับกรณีเป็นผู้ชายมีนม ในพระธรรมวินัยก็ไม่ได้มีบัญญัติไว้ชัดเจนแต่อย่างใด กรณีชายเสริมเต้านมกินยาคุมทำให้มีหน้าอกโตขึ้นมา ถ้าจะบวชก็มิได้เป็นความผิดแต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพระอุปัชฌาย์เป็นสำคัญ ที่จะต้องดูความเหมาะสม
    แม้ชายบางคนจะเคยเป็นกระเทย แต่มิได้ผ่าตัดแปลงเพศ และก่อนบวชสามารถปรับปรุงพฤติกรรมให้อยู่ในกรอบพระวินัย มีความประพฤติสำรวม กิริยาอาการเรียบร้อยงดงาม ถ้าพระอุปัชฌาย์เห็นสมควรก็สามารถประกอบพิธีอุปสมบทได้

    ?ถ้าโดยความเห็นส่วนตัว ในฐานะเป็นพระอุปัชฌาย์ อาตมาจะไม่ให้ชายที่มีลักษณะกระตุ้งกระติ้งเข้ามาบวช ถ้าต้องการบวช ขอให้กลับไปฝึกปฏิบัติตนให้สมกับเป็นชาย ให้อยู่ในกรอบและความประพฤติที่เหมาะสม

    แต่อย่างไรก็ดี อาตมาเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ที่นำลูกมาขอบวช แล้วไม่ให้บวช เราก็ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับพ่อแม่ของผู้ที่จะมาบวชด้วย มิเช่นนั้นจะผิดใจกันเปล่าๆ? พระพรหมมุนี กล่าว

    ด้านพระรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้วจุฬามณี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ในฐานะหัวหน้าพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) กล่าวว่า ในกรณีชายมีนมเข้ามาขอบวชเป็นพระ สามารถทำได้ เพราะมิได้มีบัญญัติในพระธรรมวินัยห้ามในเรื่องนี้ โดยตรง
    ในพระธรรมวินัยได้ห้ามแต่เฉพาะคนที่เป็นกระเทยโดยกำเนิดหรือบัณเฑาะว์เท่านั้น รวมไปถึงผู้ที่ตัดอวัยวะเพศชายทิ้งด้วย ตรงนี้ไม่สามารถเข้ามาขอบวชได้ แต่ทั้งนี้ คงต้องให้พระอุปัชฌาย์ทำหน้าที่พิจารณาตามความเหมาะสม ช่วยคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาบวชให้ดีด้วย
    ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก [​IMG] ข่าวสด
     
  11. bork

    bork Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +37
    การเป็นพระอยู่ที่ระดับจิตครับ
     
  12. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ท่านครับ
    การตอบแทนพระคุณบิดามารดานะ
    " อ้างอิงพระไตรปิฎก:
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=1617&Z=1840

    [๒๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้ง ๒
    ท่านทั้ง ๒ คือใคร คือ มารดา ๑ บิดา ๑

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงประคับประคองมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง
    พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง
    เขามีอายุ มีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี
    และเขาพึงปฏิบัติท่านทั้ง ๒ นั้นด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ
    และการดัด และท่านทั้ง ๒ นั้น พึงถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนั้นยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้ว
    หรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย
    (ชาติสยาม - เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่บนบ่าตลอดร้อยปี เลี่้ยงอย่างดี ยังไม่ใช่การตอบแทน)

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ
    อันเป็นอิสราธิปัตย์ในแผ่นดินใหญ่อันมีรตนะ ๗ ประการมากหลายนี้
    การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย
    (ชาติสยาม - ขนาดว่าสามารถสถาปนาพ่อแม่เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่มีสมบัติบริบูรณ์
    ก็ยังไม่ใช่การตอบแทน)


    ข้อนั้นเพราะเหตุไร
    เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย

    ส่วนบุตรคนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา
    ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในศีลสัมปทา

    ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา

    ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล
    การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่าอันบุตรนั้นทำแล้ว และทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา ฯ "


    ส่วนเรื่องบวชนะครับ ดี ดีมาก พ่อแม่ก็ได้อานิสงส์จากการบวชของเรานะครับ
    แต่ในเมื่อบวชไม่ได้ก็อย่าไปฝืนเลยนะครับ
    แต่ท่านเองสามารถถือศีล ๕ ศีล ๘ ได้นะครับ ได้บุญเยอะด้วยนะครับ
    สาธุ อนุโมทนากับท่านด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2010
  13. มหาย่ามน้ำตาล

    มหาย่ามน้ำตาล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +91
    ผมว่าน่าจะบวชได้นะคับ
    เพราะว่าอยู่ที่จิตใจมากกว่าคับ
    การบวชคือการรักษาพรหมจรรย์
    ดังนั้นถ้าอยู่ในศีล ในธรรม
    ก็สมควรบวช แต่ถ้าไม่ก็ไม่สมควรคับ
     
  14. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    ในขั้นตอนการสวดถามอันตรายิกธรรม พระคู่สวดจะถามและผู้บวชต้องกล่าวรับ มีใจความสำคัญ ดังนี้

    พระคู่สวดว่า...กุฏฐัง (เธอเป็นโรคเรื้อนไหม)

    นาคขานว่า...นัตถิ ภันเต (ไม่เป็น ขอรับ)

    คัณโฑ (เธอเป็นโรคฝีเรื้อรัง อีสุกอีใสไหม) - นัตถิ ภันเต (ไม่เป็น ขอรับ)

    กิลาโส (เธอเป็นกลากเกลื้อนเชื้อโรคติดต่อไหม) - นัตถิ ภันเต (ไม่เป็น ขอรับ)

    โสโส (เธอเป็นหอบหืดไหม) - นัตถิ ภันเต (ไม่เป็น ขอรับ)

    อปมาโร (เธอเป็นโรคลมบ้าหมูไหม) - นัตถิ ภันเต (ไม่เป็น ขอรับ)

    มนุสโสสิ (เธอเป็นมนุษย์ไหม) - อามะ ภันเต (เป็น ขอรับ)

    ปุริโสสิ (เธอเป็นบุรุษไหม) - อามะ ภันเต (เป็น ขอรับ)

    และในพระไตรปิฎก เล่มที่ 4 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 4 มหาวรรค ภาค 1 มีความเรื่องห้ามบัณเฑาะก์มิให้อุปสมบท ดังนี้

    ใน สมัยพุทธกาล บัณเฑาะก์คนหนึ่งบวชในสำนักภิกษุ เข้าไปหาภิกษุหนุ่มและสามเณร พูดเชิญชวนให้กระทำมิดีมิร้าย พระภิกษุและสามเณรทั้งหลาย จึงกล่าวว่าติเตียน

    ต่อมา บัณเฑาะก์ได้เข้าไปหาพวกคนเลี้ยงช้างเลี้ยงม้า พูดชวนให้กระทำมิดีมิร้าย พวกคนเลี้ยงช้างเลี้ยงม้า จึงเพ่งโทษติเตียน และกล่าวโพนทะนาว่า พระภิกษุสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นบัณเฑาะก์ ส่วนพระภิกษุที่มิใช่บัณเฑาะก์ ก็ประทุษร้ายบัณเฑาะก์ด้วยกัน ล้วนแต่ไม่ใช่เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์

    ภิกษุทั้งหลายได้ทราบความ จึงกราบทูลพระพุทธเจ้า

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีรับสั่งว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบันคือบัณเฑาะก์ ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย"

    พระธรรมกิตติเมธี กล่าวในเรื่องของการสวดถามอันตรายิกธรรม ว่า ในข้อที่ถามว่า ปุริโสสิ มีความหมายว่า เธอเป็นบุรุษ หรือเธอเป็นชายเต็มร้อยไหม หากรับว่า นัตถิ ภันเต หรือไม่เป็น ขอรับ ก็จะไม่สามารถบวชเป็นพระได้ตามพระธรรมวินัยสงฆ์

    แต่ในปัจจุบัน ในสภาพที่สังคมโลกเปลี่ยนไป ทำให้การขานนาคเป็นเพียงแค่พิธีกรรม ผู้ที่เข้ามาบวชไม่ได้เห็นเป็นเรื่องสาระสำคัญ

    การตอบมิได้มีเจตนาตัดรอนน้ำใจ สิ่งที่คิดจิต นั้นเป็นกุศลแล้ว โมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มีนาคม 2010
  15. stk99

    stk99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2009
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +1,515
    ในสมัยพระพุทธกาล ก็ยังมีเรื่องที่มาปรากฏมากมาย เช่นพระวักกลิ เป็นต้น
    ผมว่าที่อ้างอิงไว้ข้างบนนั้น ถือว่าเป็นพุทธวจน์ ที่สำคัญ
    แตในพระไตรปิฏกได้ว่าไว้ บุรุษผู้มีความกำหนัดอย่างยิ่ง ก็ห้ามบวชน่ะครับไม่ใช้เฉพาเกย์อย่างเดียว การที่เราได้มีโอกาศได้บวชนั้นมันอยาก ก่อนที่จะบวชลองควบคุมสภาวะจิตใจของตนในระยะเวลาที่ไม่ได้เข้าข้างตัวเองดูซิว่าเราสามารถควบคุมได้หรือไม่ ถ้าทำตามอย่างนั้นได้ก็แปลว่าสามารถบวชได้
    แต่ถ้าทำไม่ได้ผมว่าอยากบวชเลยดีกว่ามันอันตราย เป็นฆราวาส ก็ บรรลุธรรมได้ครับ
    เคยมีคนถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำว่า ตุ้ดกระเทยฯ ปฏิบัติได้ไหม
    หลวงพ่อท่านตอบว่าได้
    ตราบใดก็ตามที่บุคคลเหล่านั้นยังมีสติและปัญญา ดำเนินตามมรรคมีองค์แปดได้อย่างสมบูรณ์ ก็สามารถเจริญกรรมฐานและวิปัสสนาได้และสามารถบรรลุธรรมได้ครับ
     
  16. apple_lin

    apple_lin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +704
    ได้ความรู้และความเข้าใจดีขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  17. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    บวชก็สำเร็จ ไม่บวชก็สำเร็จ เพราะธรรมกายนั่น คือ กายที่แท้จริง ของพระตถาคต โดยแท้นะ ขอท่านพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา มหาพิจารณา โดยสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ เถิด สาธุ สาธุ สาธุ (เรื่อง ของโลก พูดกันไม่มีวันจบ)พระศาสดาพระองค์เปรืองคำพูดมากมายเป็นล้านๆพระธรรมขันธ์แล้ว
     
  18. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบันคือ คนลักเพศภิกษุไม่พึงให้อุปสมบทที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย

    บรรทัดสุดท้ายนี้สำครัญครับ

    ต้องสึกเสีย....

    ผมว่าถ้าต้องสึกกันจริงๆวัดไทยจะมีพระเหลือสักกี่องค์กันละ

    ครับ...จริงไหม<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    ตามความคิดผม ผมว่าบวชได้นะครับ ลองมาวิเคราะห์พระไตรปิฏกที่หลายๆ ท่านนำมาอ้างดูก็ได้

    ลักษณะบัณเฑาะก์ 5 ประการ



    กรณีแรก ข้อนี้ผมว่าเกย์บางท่านก็ไม่เข้าข่ายนะ ยกเว้นบางคนเท่านั้น ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเกย์ ลองถามเพื่อนดู เขาบอกว่า กรณีแบบนี้ไม่มีหรอก นอกจากพวกโรคจิตครับ ที่จะไปดูดกินน้ำอสุจิจึงระงับดับความกระวนกระวายได้ เกย์คือกลุ่มคนที่รักเพศเดียวกันก็เท่านั้นเอง



    <o></o><o></o>

    วิเคราะห์กรณีที่ 2 อันนี้ก็มีแต่พวกโรคจิตอีกแหละครับ พวกโรคจิต ชอบแอบมอง ถ้ำมอง เกย์ก็ไม่เข้าค่ายกรณีนี้ซักติ๊ดเดียวครับ


    <o></o>
    วิเคราะห์กรณีที่ 3 กรณีนี้จะเข้าข่ายเฉพาะกระเทยที่ผ่าตัดแปลงเพศ ถ้าเป็นกระเทยนั้น คงไม่มีใครอยากมาบวชหรอกครับผม ฉนั้น เกย์ก็ไม่เข้าข่ายอีกนั่นแหละ

    <o></o>วิเคราะห์กรณีที่ 4 อันนี้ไม่ได้กล่าวว่าเป็นเกย์เลยนะครับ ตามที่ผมเข้าใจกรณีนี้น่าจะหมายถึง ชายใดก็ตามที่มักมากในกามราคะ น่าจะเข้าข่ายกรณีนี้ ครับ เกย์ก็ไม่เข้าข่ายอีกเหมือนกัน

    วิเคราะห์กรณีที่ 5 อันนี้เป็นความผิดปกติของร่างกายครับ เกิดจากการแบ่งเซลล์ของเอมบริโอผิดปกติ เลยเป็นคนไม่มีเพศครับ เกย์ก็ไม่เข้าข่ายครับผม


    จากทั้ง 5 กรณีที่ลองวิเคราะห์ดูนั้น ผมว่าเกย์ไม่เข้าข่ายซักข้อนะครับ อาจจะมีบ้างเป็นบางคนทีี่่เข้าข่ายในกรณีที่ 1 แต่ก็น้อยนัก

    และลองมาวิเคราะห์ดูพระไตรปิฏกอีกอันหนึ่งนะครับ


    มีลงไว้ในพระไตรปิฏกว่า ไม่ห้ามบัณเฑาก์ในกรณีที่ 1 และ 2 บรรพชา ดังนั้นแล้ว เกย์สามารถบวชได้แน่นอนครับ

    สำหรับท่านที่พูดจนเกย์บางท่านที่มีจิตใจเป็นกุศล อยากบวช รู้สึกผิด คิดเลิกบวชไปเลยนั้น ระวังบาปนะครับผม

    เพราะในพระไตรปิฏกนั้น หาได้ห้ามมิให้บวชนะครับ

    ขอบพระคุณครับ

    ข้อความนี้ผมใช้ความคิดของผมเอง หากผิดพลาดหรือไม่ตรงตามความเป็นจริง ต้องขออภัยทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และขออโหสิกรรม หากจะมีกรรมใดก็ตามเกิดขึ้นด้วยนะครับผม
     
  20. thelastwizard

    thelastwizard Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +25
    ถ้าแยกตามลักษณะของเกย์แล้ว เกย์จะแบ่งเป็นสามอย่าง คือ
    - เกย์ฝ่ายชาย หรือ ฝ่ายรุก หรือ เกย์คิง ไม่แตกต่างจากผู้ชายทั่วไป เพียงแต่มีความชอบในกายหยาบที่เป็นผู้ชายด้วยกันเท่านนั้น แบบนี้ผมคิดว่าน่าจะบวชได้ เพราะถ้าสามารถละกิเลส ความชอบในกายหยาบนั้นได้ก็จะสามารถบรรลุมรรคผลได้ และไม่ได้ทำให้เสื่อมเสียแต่อย่างใด
    - เกย์ฝ่ายหญิง หรือ ฝ่ายรับ หรือ เกย์ควีน มีความชอบในกายหยาบชายเช่นเดียวกับเกย์คิง เพียงแต่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงตรงที่โดนกระทำ บางคนอาจกลายเป็นกระเทยได้ในภายหลัง อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับว่าจะบวชได้หรือไม่
    - เกย์ไบ เป็นได้ทั้รับ และรุก อันนี้ผมว่าไม่น่าจะบวชอย่างยิ่ง เพราะจิตใจยังสับสนเกินไป ยังไม่แน่นอนว่าจะทำหน้าที่เป็นชายหรือหญิง

    เกย์ทั้งสามแบบ โดยเฉพาะคิง ยังคงความเป็นชายอยู่และไม่มีจิตของความเป็นหญิง ส่วนเกย์ไบ และเกย์ควีน อาจยังคงมีความเป็นชายอยู่และสามารถควบคุมตัวเองได้ อาจบวชได้ขึ้นอยู่กับจิตใจของตนที่เป็นเกย์ควีนหรือไบหรือพูดง่ายๆมีจิตโน้นเอียงไปทางหญิงมากน้อยเท่าใด

    กระเทย หรือตุ๊ด หรือสาวประเภทสอง เป็นผู้ที่มีกายหยาบเป็นชาย แต่อยากเป็นผู้หญิง ดังนั้นผมคิดว่าบวชไม่ได้ครับ

    สิ่งที่ผมจะบอกว่า เกย์กับกระเทย กรุณาอย่าเอามารวมกัน เหมือนที่คุณไม่เอาเกย์ไปรวมกับผู้ชาย เกย์ไม่สนชายแท้ๆ ยกเว้นคุณจะมีกายหยาบที่แลตะลึง แต่ก็ได้แต่แอบมองไม่คิดจะเอามาเป็นคู่ด้วยแต่อย่างใด เกย์มักเลือกเกย์ด้วยกันเท่านั้น

    ส่วนสาวประเภทสอง ผมไม่อยากเรียกกระเทยเพราะ เขาก็ทุกข์พออยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปซ้ำเติมเขาด้วยการหาคำใดๆเรียกเขาให้ทุกข์ใจอีก ชายประเภทนี้มีความต้องการเป็นผู้หญิง และไม่สามารถเปลี่ยนใจได้เลย ฉะนั้นสาวประเภทสองคงบวชไม่ได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...