ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">มีคำอธิบายที่ชัดเจนมากเกี่ยวดาวNibiru ยุค Sumarian และอธิบายว่า Reptilians เข้ามาในโลกได้ยังไง
    อาศัยอยู่ที่ไหนของโลก และ Illuminati history

    ( Nibiru2012, Illuminati history )
    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/Iempod2GaAg&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    The Anunnaki & the Myth of a 12th Planet
    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/fpN_KD7b0NQ&hl=en&fs=1 AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    และNASAปิดบังข้อมูลอะไรบ้าง แล้วที่จริงดวงจันร์ดวงนี้ว่าที่จริงไม่ใช่ดวงจันทร์ แต่เป็นยาน
    (หรืออะไรก้อตามที่เคลื่อนที่เข้าใกล้โลก โดย Reptilian)

    http://www.youtube/.c...feature=related


    ที่จริงดวงจันทร์นั้นมีแต่ไม่ใช่ดวงนี้ แต่อยู่ห่างออกไป

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25235 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">จากคุณ wincha บอร์ดฟ้าเดียวกัน



    ภาพพวกReptilian ครับ
    [​IMG]

    [​IMG]


    มีเรื่องของเกรย์ในอีกมุมนึง
    แปลโดย คุณ jesdath

    ---การลักพาตัว จะเกิดมากที่สุดในอเมริกา เพราะการยินยอมจากรัฐบาล
    เหตุผล เพื่อการวิจัยยีนส์ และการผสมข้ามพันธุ์--ว่ากันว่า ชาวเกรย์ ให้ทุนสถาบันในอเมริกา 10 แห่ง เพื่อการวิจัยโตลนนิ่งอย่างเดียว--เพราะพวกเขาต้องพึ่งการสืบพันธุ์แบบนี้ --แต่มีข้อเสียคือรุ่นหลังจะอ่อนแอลง
    ชื่อของพวกเขา มาจากสีผิวที่เราจะเห็นเป็นสีเทา--แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. มาจากกลุ่มดาว โอเรี่ยน เป็นโอเรียนเกรย์ชนิดที่ 1

    2. โอเรียนเกรย์ชนิดที่ 2

    3. เกรย์สปีชี่ย่อย
    นอกจากนี้จะมีพวก เกรย์สปีชี่ย่อยลงไปอีก 22 แบบ จากดาว ริเกล -Rigel,
    เออร์ซ่า เมเจอร์-Ursa Major ,ดราโคนิส- Draconis และ ซีต้า เร็ตติคิวลั่ม-Zeta Reticulum

    --เราต้องพยายามเข้าใจพวกเขา เพราะพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อเข้าครอบครองโลก โดยเหตุผลของความเห็นแก่ตัว-โลภ
    เกรย์ จากโอเรี่ยน มี 2 แบบ แบบตัวใหญ่ และอีกแบบตัวเล็ก ตัวเล็กจะถูกโคลนนิ่งจากพวกตัวใหญ่ ซึ่งเรามองดูจะเหมือนกันราวกับตุ๊กตา-หรือปั๊มออกมาเป็นล็อตๆ

    --เกรย์ จะมีจุดอ่อนในระบบทางเดินอาหาร และมีจิตสำนึกร่วมกัน ต่างกันกับพวกเราที่มีจิตสำนึกเดี่ยวเฉพาะบุคคล

    --ศาสนาของเกรย์ คือวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ทางจิตวิญญาณ

    --โครงส้างทางสังคม คือการเคารพเชื่อฟัง และทำหน้าที่

    --การยึดโลก จะใช้การควบคุมจิตมนุษย์มากกว่าใช้กำลัง- -ตามความเห็น
    ของผม ใรอเมริกา น่าจะเกิน 80เปอร์เว็นต์ที่เขาควบคุมได้--บางประเทศแถบฝรั่งเศส ถึง 100 เปอร์เซนต์-ที่มีอุปกรณ์ฝังอยู่ในตัวคน

    ---ตาม ข้อมูลล่าสุด เค้าได้ขายประเทศให้กับเกรย์เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในภาวะจำยอม เนื่องจากเทคโนโลยี่ทางอาวุธ ยังห่างชั้นจากเกรย์มากนัก ประมาณว่า ดร.กับเด็กอนุบาล

    ---ในโครงการก รัดจ์ ได้เกิดการวิวาทกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นพวกเกรย์เอาคนไปผ่าทำเป็น มนุษย์แมงมุมหกขา อะไรต่างๆ(จะมองมนุษย์เหมือนคนใจบาปมองดูเป็ดไก่ เตรียมชำแหละ) จนหน่วยเอ็มเจ-12 ได้เข้ามาเคลียร์ อาวุธทุกชนิด ทำอันตรายพวกเขาไม่ได้ หน่วยเอ็มเจ 60คน เสียชีวิตทั้งหมด--องค์การลับได้สั่งหยุดการทดลองร่วมทันที- -นักวิทยาศาสตร์ ได้กลับบ้าน และแอบเอาเอกสารลับออกมา บอกญาติว่าถ้าพวกเขาถูกฆ่าตายให้แฉเอกสารทันที

    ---นี่คือที่มาของการรั่วไหลของข่าวจาก แอเรีย 51 และที่อื่นๆ

    --โดย ที่อเมริกามีกฏหมายใหม่ ให้คนทั่วไปสามารถขอดูเอกสารของทางการได้แต่เอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ จะถูกลบด้วยหมึกสีดำ ดูได้ที่เวป The black Vault แต่ก็พอมีเค้าเงื่อนให้ติดตามได้ ว่ามีจานบิน และเอเลี่ยนอยู่จริง

    ---อำนาจ และเทคโนโลยี่เป็นสิ่งจำเป็น ในที่สุดองค์กรลับ ที่ชื่อเหมือนสีทาบ้าน ก็ยอมกลับไปทำงานกับพวกเกรย์อีก ทิ้งช่วงไป 2 ปี

    --ใต้ ดินแถวแอเรีย 50 มีฐานใต้ดิน 7 ชั้น มีชาวต่างดาวกว่าหมื่นคน ทำงานวิจัยร่วมกับมนุษย์ เช่นการส้ร้างเครื่องบินเร็วกว่าเสียง 8 เท่า วิศวพันธุกรรม
    อะไรต่างๆ โดยมีงบลับ ที่ถ้ารู้ตัวเลขแล้วจะสลบ มะกันทุ่มสุดตัว--เพราะอยากเป็นเจ้าโลก-ทั้งงบที่มาจากกลุ่มเศรษฐียุโรป เงินที่ได้จากการขายยาเสพติด--ให้กับคนในชาติของตัวเอง
    --นักวิทยาศาสตร์ ที่เคยทำงานในนั้นถึงกับบอกว่า หมดหวังกับอนาคตของโลกแล้ว เพราะพวกนี้เข้าคุมทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องเงินทอง-ไอเอ็มเอฟ แม้กระทั่งรายได้จากเว็ปโป๊-ที่มากมายมหาศาล

    --เด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกมา โวยวายบอกว่า เพื่อนหล่อนทั้ง 7 คน น่าจะเป็นตัวโคลนนิ่งทั้งหมด--อีกคนเคยทำงานองค์กรลับ บอกว่า พ่อเค้าก็เป็นตัวโคลนนิ่งเหมือนกัน

    --จานบินตกที่รอสเวลล์ เป็นการจัดฉาก เพื่อจะอ่อยเหยื่อให้องค์การลับ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ และก็สมใจ เกรย์สยายปีกไปทั่วโลกแล้ว

    --เกรย์ได้ติดต่อลับๆกับรัฐบาลของมหาอำนาจประมาณ 5 ชาติ เพื้อแลกเปลี่ยนในแบบเดียวกัน--- เทคโนโลยี่กับชีวิตมนุษย์ตาดำๆ

    --การกินอาหารของเกรย์ จะใช้เครื่องชูรส และต่อมต่างๆ ที่มีฮอร์โมน ได้จากการสกัดจากอวัยวะมนุษย์ และสัตว์ โดยจะอมไว้ใต้ลิ้น
    บางข่าวบอกว่าเกรย์จะลงอาบในสารละลายที่ว่านี้ เพื่อให้ซึมเข้าในตัว

    --เดิม ทีเกรย์ก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่เนื่องจากการรบกันเอง โดนรังสีโดยตรง และตกค้างหลายพันปี จนยีนส์เสื่อม--นอกจากนั้น อะตอมที่
    รับ รังสีอย่างแรงนานๆ ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของเวลา-อวกาศ ทำให้ดวงดาวของพวกเขาเหมือนยานอวกาศที่สามรถวาร์ปผ่านรูหนอนเข้ามาใกล้โลก มากขึ้น--เนื่องจากการแบ่งแยกอัตตา ทำให้เกิดสงคราม พวกเขาจึงสร้างจิตสำนึกร่วม
    โดยใส่ไว้ในยีนส์--รวมทั้งเกรย์บางพวกก็ใส่ ยีนส์ของพืชเข้ามาด้วย--จึงกินอาหารน้อยมาก ใช้พลังงานน้อยแบบพืช--มีแร่ในหินแถบเนวาด้า ที่เป็นพวกเหล็ก ที่เขาต้องใช้เป็นอาหาร จึงนับว่า เหมาะสม ที่อยู่แถบนั้น

    --เกรย์คิดว่า รักร่วมเพศแบบโฮโมเซ็กชวล-ชายรักชาย ไว้ประโยชน์ จึงร่วมกับองค์กร์ คิดเชื้อโรคเอดส์ขึ้นมาสำเร็จ และทดลองในเขต
    -สงวนของอืนเดียน 4 จุดนอก นั้นส่งให้เป็นวัคซีนของ องค์การอนามัยโลก---จนแพร่มากในแถบอัฟริกา- -ซึ่งไม่ได้มีสังคมมั่วเพศ--จนคน ที่นั่นสังเกตว่า คนที่ไปหาหมอ ถูกฉีดยามา จะเป็นเอดส์ทุกคน--และอเมริกาก็ขายยาต้านเอดส์แพงๆอีก- --จริงๆแล้ว-เอดส์หาย ได้โยไม่ต้องใช้ยา--ใช้สนามไฟฟ้าแรงสูง ความถี่สูงหลายจิกะเฮิทซ์ วันละ 2ชั่วโมง ประมาณ 10 ครั้ง เอดส์จะหายไปเอง--ข้อมูลจากเว็ปอังกฤษ เกี่ยวกับ เอเลี่ยนเบส--บอกไว้ละเอียดว่า ไรส์ไทม์ ฟอลล์ไทม์เท่าไหร่ --ข้อมูลที่ผมหายไปแล้ว

    ---แล้วไวรัส หวัดนก หวัดหมู ซาร์ โรคสมองฝ่อ --ซึ่งมนุษญ์เรายังไม่มีเทคโนโลยีดัดแปลงไว้รัสได้- -จุดประสงค์คือทำลาย มนุษย์และแหล่งอาหาร คือ เนื้อวัว เนื้อไก่--ให้พวกเราอดตาย

    ---มี เทคโนโลยีการถอดวิญญาณของมนุษย์ออกมาขังไว้ เก็บข้อมูลความทรงจำและดีเอ็นเอ ไว้ในเครื่องคล้ายๆคอมพิวเตอร์ -สร้างตัวโคลนนิ่งได้ ใน 3 ชั่วโมง แล้วอัดความจำและวิญญาณกลับไป โดยจะฝังพวกชิป และฉีดยาบล็อคสมองไว้ (การฝังมี 2 แบบ ฝังเป็นวัตถุ และ ไม่มีวัตถุ เป็นก้อนพลังงาน)ร่างเดิมเอาไว้ทดลองต่อไปได้อีก- -รีไซเคิ่ล

    เกรย์ชั่วร้าย ก็ร้ายจริงๆ แต่เป็นเพียง 5 เปอร์เซนต์ของชาวต่างดาวที่เราได้พบนะครับ- -บางพวกอยู่ในโลกมาเป็นแสนปี --โดยอยู่ใต้ทะเล เป็นเมือง มีประชากรเป็นแสนๆ--คนที่ได้พบมนุษย์ต่างดาว จะถูกข่มขู่ โดยชายชุดดำ บางพวกก็มีนามบัตรของ ทางนาซ่า หรือเอ็นเอสเอ

    --แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่อยู่ใต้ทะเล พวกนี้จะโหดเห้มมาก
    พวกที่มาจากดาวพลีอิดเดี้ยนจะดี เป็นผู้หญิงก็จะสวยน่ารัก อายุยืนราว 400กว่าปี

    --เดิมที ในสมัยของทรูแมน ได้พวบยานบินตกที่เมกซิโก แต่ทางการอเมริกาได้ขอเอาซากยานและศพมาดื้อๆ พบว่า เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายแมลง และพบว่าไม่มีความรู้พอที่จะวิเคราะห์ระบบขับเคลื่อนของยานได้

    --ต่อมา ได้พบยานตกอีก มีสิ่งมีชีวิตรอดตายมา 1 ตัว พบว่าไม่ค่อยกินอาหาร ใช้พลังงานน้อย ได้พา ดร.ด้านสัตว์ไปวิเคราะห์ ปรากฏว่า งง ครับ
    ดร.ว่า ระบบเหมือนพืช จึงให้ ดร.ทางพืชเข้าไปดู พบว่า โอเค เหมือนพืชมาก
    ปี แรกๆ พยายามสื่อสาร แต่เขาจะพูดไปอีกทาง หรือหลบเลี่ยง ปีที่ 2 พูดมากขึ้น ตั้งชื่อว่า EBE(extra-terrestrial biological entities)

    -- สิ่งมีชีวิตทางชีววีทยา จากต่างดาว ซึ่งก็คือ เกรย์ตัวแรกนั่นเอง ปีที่ 3 EBE ตายเรียบร้อย
    อาจจะทดลองกะเค้ามากมาก เฉามือตายเลย
    เวปเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว พลีอิดเดี้ยน http://www.pleiadianlight.net/ เสิชหาคำว่า pleiadian
    คนกับเกรย์สมานฉันท์ ทำงานร่วมกัน

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/xXIWKQOu-k8&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>
    human worked with aliens-area51

    [​IMG]

    [​IMG]

    แปลโดยคุณ jesdath

    Dr. Joshua David จบทางจิตวิทยา ได้ค้นคว้าเรื่องลี้ลับต่างๆทางศาสนา องค์กรลับทางศาสนา
    และเรื่องต่างดาว ได้พบกับคนทรง แบบแชนเนิลลิ่ง โดย วิญญาณชื่อ Vynnamus ได้พูดภึงภารกิจที่ชั่วร้ายของเกรย์เช่นกัน

    ---ชาวพลีอิเดี้ยนได้กล่าว ถึงการแกล้งทำจานบินตกที่รอสเวลเช่นกัน เป็นการยืมดาบฆ่าคนของชาวเกรย์
    ใช้องค์กร์ลับปั่นป่วนไปทั่วโลก สร้างสงครามกลางเมือง เพื่อขายอาวุธ เข้ายึดแหล่งทรัพยากร เชื่นเหมืองทอง เหมืองเพชร น้ำมัน

    -- สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เป็นกายเนื่อ มองเห็นได้ มีเป็นบางส่วน บางส่วนเป็นพวกกายทิพย์ บางทีจะเห็นเป็นเงาๆ
    หรือจะเห็นได้ในรูปถ่าย เนื่องจากพวกเกรย์ หรือพวกอื่นมีอุปกรณ์ที่สามรถสลายร่างให้เป็นพลังงานได้ แต่ก็อาจเห็นได้จากกล้องถ่ายรูป ตาเรามองไม่เห็น

    ปี1989-1973 จากรายงานของ MJ-12 มีการลักพาตัวประมาณหลายพันรายแล้ว

    -ปี 1979 หน่วยเดลต้าฟอร์ซพยายามจะลงไปปล่อยคนที่ถูกจับมาทดลอง
    บางรายเป็นเด็กถูกฆ่าเอาอวัยวะเป็นอาหารของเกรย์ ทหาร 66 ถูกฆ่าตายทั้งหมด ไม่เหลือรอดสักคน

    --1984หน่วย MJ-12 ส่งสครืปท์เรื่อ อีที และ Close Encounter of the third kindพร้อมช่วยโปรโมทอย่างลับๆ เพื่อสร้างภาพ ให้ชาวต่างดาว ดูน่ารักสำหรับมนุษย์และการแลกเปลี่ยนประชากรตามหนังเรื่องที่2 ก็เกิดขึ้นจริงๆ

    ---ภาพยนต์ ดิเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนใหญ่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง--ล่าสุด Taken
    จาก ผสปิลเบริก ผู้สร้างเรื่อง อีที ก็สับแหลก การกระทำของเกรย์ และองครฺกรลับที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง มีทั้งกองทัพสามเหล่า ,หน่วยความนั่นคง, หน่วยราชการลับ--องค์กร อิลลูมิเนตติ -ไตรเลทเทอราล และ พวก บิลเดอร์เบอร์เกอร์(บิลเกตต์และเชื้อพระวงศ์ยุโรปก็เป็นพวกนี้- กุมบังเหียน โลก-สำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิส)---อันนี้เพิ่มเติมจากผมเองครับ

    ขอแก้ข่าวเรื่องรอสเวลล์ ในยานลำนั้นมีเกรย์ 4 ตัวครับ ตายทันที 1 ตัว และช่วง 1984 MJ-12 ก็เตรียมจะแถลงความจริงเรื่อง EBE สู่สาธารชนเช่นกัน และยังมี นายมัวร์ ได้เขียนเรื่อองจานบินตกที่รอสเวลล์ไว้อย่างละเอียด จึงได้เชิญนาย มัวร์ มาอัดวีดิโอไว้ด้วย มีการอ้างถึงพระเยซูคริสต์ EBE ก็รับมุขทันที โดยอ้างว่าพวกตนนี่แหละได้ทำการการสร้างพระคริสต์ขึ้นมา โยวิธีทางพันธุกรรม และมีการฉาย
    วีดิโอโฮโกรมสามมิติ ตั้งแต่กำเนิดของโลก จนกระทั่งการถูกตรึงการเขน แต่ภาพไม่ได้ชัดเจนนัก เพราะระบบของภาพยนต์ไม่เข้ากันทางความเร็ว แต่ผลกระทบนี้ มีมากมายมาหาศาลต่อชาวโลก เพราะความเชื่อทางศาสนาที่มีมานับพันปีจะถูกสั่นคลอน และถอนออกไปจากจิตใจมนุษย์ ทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า-- ทำไมพระเจ้าจึงกลายเป็นชาวต่างดาวไปได้เล่าหลังจากพวกนักวิชาการได้วิเคราะห์แล้ว จึงงดการเผยแพร่ภาพยนต์ดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

    จากการสำรวจของทางกองทัพอเมริกัน แยกเกรย์เป็น 3 แบบ
    1. เกรย์ ชนิดที่ 1 สูง 3ฟุตครึ่ง หัวโต ตาโต หัวตาเฉียงลง เก่งและเคารพเทคโนโลยีเป็นศาสนา ไม่คิดร้ายต่อมนุษย์
    2. ชนิดที่สอง นิ้วมือมีรูปแบบต่างออกไป หน้าตาต่างออกไปเล็กน้อย จะมีความซับซ้อนทางจิตใจ ใช้สามัญสำนึกเป็น และไม่ต้องการสารจากอวัยวะสัตว์ก็อยู่ได้
    3.เกรย์ชนิดที่ 3 ปากจะบางกว่า และเชื่อฟังคำสั่งของ สองพวกแรกเป็นอย่างดี

    --พวกอื่น เรียกว่า พวกผมบลอนด์ ชาวสวิส หรือ นอร์ดิกส์ เหมือนมนุษย์เรา
    แต่ ไม่ค่อยปรากฏตัว หรือจุ้นจ้านกับมนุษย์ เพราะถือกฏสมาพันธ์กาแลคติก
    คือการไม่แทรกแซงสังคมมนุษย์ ยกเว้น เมื่อการกระทำของเกย์ส่งผลร้ายต่อสังคมมนุษย์อย่างรุนแรงและเฉียบพลัน

    --มนุษย์หลากหลายมิติ--สามรถมาในรูปร่างต่างๆ นิสัยรักสงบ

    --คนแคระ สูง 4 ฟุต หนัก 35 ปอนด์ มีหนวดเครา ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่ฉลาด

    --พวกตัวสูง สูง 7-8 ฟุต ผมบลอนด์
    --ตัวคล้ายมนุษย์ อาจจะเป็นลูกผสม หรือแอนดรอย์ เป็นลูกมือของเกรย์
    --ชายชุดดำ ใส่หมวก ใส่แว่นดำ ผิวซีด ไวต่อแสง ไม่ชอบแสงสว่าง
    บางทีก็เป็นภาพลวงสามมิติ(โฮโลแกรม)
    --บาง ทีก็เดินหลบพวกเดียวกันไม่ได้ ต้องบอกให้คน ช่วยย้ายออกไป-และมีสายไฟโผล่มาจากรองเท้า- -อาจเป็นหุ่นยนต์ หรือตัวโคลนนิ่ง--ผมเคยอ่านมาน่ะครับ


    อืม ลืมบอกไป นอกจากพวกที่อาศัย ใต้ดิน ใต้ทะเลแล้ว มีอีกพวกที่อยู่ ใจกลางโลกเลย
    พวกนี้มีหลายเผ่า พลังจิตสูงมาก มีผู้เข้าไป และถ่ายภาพยนต์ไว้ แต่ทางการสหรัฐพยายามปิดข่าว
    และโต้แย้ง แบบร้อนตัว ---ทุกวันนี้ ลูกหลานของนายพลที่ถ่ายหนังไว้ ก็สืบทอดเจตนารมร์อยู่ครับ
    เขากล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐต้องรู้เรื่องพวกนี้ดี และรู้มานานแล้วด้วย

    --มนุษย์หลายมิติ พวกเขาบอกว่า โลกของก้อนหิน-ไม่มีชีวิต ถือเป็นมิติที่ 1
    สำหรับเขา พวกพืชก็เป็นมิติที่สอง พวกสัตว์ มนุษย์ ก็เป็นมิติที่สาม
    บาง ครั้ง พวกเขาก็ติดต่อไปยังมิติที่หนึ่งเหมือนกัน ถ้าไม่นับมิติกาลเวลาเป็นมิติที่ 4 ให้แยกออกมาเสีย
    มนุษญืกำลังก้าวเข้ามิติที่ 4 หรือความหนาแน่นที่ 4 โดยพวกเขาจะทำการล้ายโลกบางส่วน และ ดวงอาทิตย์ไปด้วย
    พวกเขาบอกว่า โดยทำการกลับสปินของอะตอม ไป 90องศา ก็จะเกิดสิ่งใหม่ คือเราจะเข้าสู่กาล-อวกาสใหม่ของมิติอื่น
    พวกเขาบอกว่า สามารถย้าย สสารและมนุษย์ได้โดยวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะพาไปที่ใต้ทะเล
    เพื่อตรวจสอบ แล้วส่งกลับมาแบบเดิม มิติที่พวกเขาอยู่ จะมีความเร็วของอะตอมมากกว่าของเรา 17 เท่า
    และมีความเล็กละอียดมากกว่า รวมทั้งแสงในมิตินั้นก็เร็วประมาณ 17เท่าของมิติเรา

    ---ปัจจุบันการ คำนวณทางทฤษฎีสตริง พบว่า มี มิติ ที่ 10 11 และมีถึง 26 มิติ จากการคำนวณ แต่ในทางการมองเห็น
    หรือความเข้าใจ เราไม่อาจเข้าใจได้ เช่น เราวางกระดาษบางมาก บนโต๊ะ มองลงไป ก็จะเห็นแผ่นกระดาษ เป็นสองมิติ กว้าง-ยาว
    แต่มองขนานกับขอบโต๊ะ ก็จะไม่เห็นกระดาษ เพราะเรามองดูมิติที่ 3 ซึ่งกระดาษมีแค่สอง เมือเข้าสู่มิติสูงๆ ประมาณ 7 เราก็จะเห็นสิ่งรอบตัวหายไป เพราะกาล-อวกาศ(ที่ว่าง)-time-space ม้วนตัวกลับสู่จุดกำเนิด ทั้งจักรวาลกลายเป็นจุดสามมิติเล็กนิดเดียว หรือหายไปเลย

    --ลองค้นในยูทิวบ์ก็มีครับ วัสดุ 4 -5 มิติ และ คลิป 10 มิติ

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/wRbj9dCmTAY&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    หา ในยูทิวบ์สิครับ เยอะมาก แล้วที่เดินตัวเป็นเป็นๆ เค้าถ่ายคลิปมาได้จะให้เรียกว่าอะไรครับ มนุษย์พิการหรือ
    ความจริงที่ Mr.Terran เขียนไว้ยังแปลกกว่านี้อีกนะครับ เช่น จานบินแบบต่างๆ หน่วย MJ-12 ยังได้การตอบรับที่ดีกว่านี้มาก
    หรือว่า เราจะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของคุณทิ้งไปเถอะครับ

    เพราะการใช้ความถี่ต่างๆนี่ พวกเกรย์คิดเอาไว้ให้ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟด้วยครับ--
    บางท่านยังภูมิใจกับการยึดสนามบิน เอ๊ย การยึดครองโลกอย่างเงียบๆ ของเกรย์ หรือชาว ซีต้า ก็ตามใจพวกท่นเถอะ ไม่มีใครบังคับ

    --เจ้าลัทธิ ฟาหลุนกง กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ มนุษย์ต่างดาวคิดทำไว้ให้ พวกนี้จริงๆ หน้าตาเหมือนผี และปลอมตัวอยู่ปะปนกับพวกเรา

    ---แล้วเอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ กองพะเนินเทินทึก จะอธิบายว่าอย่างไร แม้แต่คู่มือของหน่วย MJ-12 ก็บ่งบอกถึงการทำงานกับพวกมนุษย์ต่างดาวไว้อย่างชัดเจน ผมเคยมีภาพแบบแปลนของจานบิน เป็นภาษาเยอรมัน เพราะนาซีก็ได้สร้างจานบินไว้หลายแบบ

    --สิ่งเหล่านี้รอพวกท่านค้นพบอยู่ ครับ เพราะท่านก็มีสิทธิที่จะรู้ และมีเน็ต มีเครื่องที่เร็วกว่าของผมอีกครับ รู้เพื่อให้เกิดปัญญา ไม่สนใจก็คิดว่าเป็นนิยายก็แล้วกันครับ

    เกรย์จากดาว ริเกล-Rigel คือพวกที่ติดต่ออย่างลับๆ กับรัฐบาลอเมริกา
    พวกนี้จะมีผิวสีเหลืองแกมเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีเทา เมื่อป่วย หรือตายเท่านั้น

    -วิธี ตรวจสอบ โดยใช้สามัญสำนึกเบื้องต้นนะครับ --ทำไม รบ.อเมริกัน จึงสามรถแซกแซง เข้าโจมตี ทำลายทุกประเทศ
    ที่สงสัยว่าจะมีการซ่องสุม วางกำลังเพื่อจะทำร้ายประเทศของตน โดยที่ประเทศอื่นมีการคัดค้านน้อยมาก
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหประชาชาติ พี่ใหญ่ของเรา กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่-ทำหลับตาอุเบกขาซะได้ บางประเทศ
    เช่น อินโดนีเซีย กับการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทำอย่างโหดเห้ม สหประชาชาติได้จัดการนำกองกำลังร่วมเข้าไปหย่าศึกโดยทันที
    มันจะต้องมีการเมืองลับๆ อยู่เบื้องหลังการกระทำของชาติต่างๆ รวมทั้งการโจมตีค่าเงินบาท ค่าเงินสกุลต่างๆ ตามด้วยไอเอ็มเอฟ
    ว่ากันว่า ก็คือแผนยึดประเทศต่างๆให้เป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจนะครับ เดิมทีไทยก็เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกาทางการต่อต้านยาเสพติด
    แต่หลายสิบปีนี้ไม่ได้เลย เพราะทางอเมริกาไม่นิยมเสพยาบ้า--องค์กรลับนี้ได้มีกองเรือติดอาวุธ และการค้าฝิ่นในลาว ผ่านในรูปของ บ.แอร์อเมริกา ก็มีมานานแล้ว-พูดมากไปก็อันตรายต่อตัวผมเอง

    ---พี่สาวผมดูจะไม่ค่อย เชื่อเรื่องชาวต่างดาว แต่ในฐานะที่เธอก็อยู่ในประเทศเมกามาหลายปี เธอบอกว่า มันน่าแปลกใจ ที่สมัย 100-200ปีก่อน ไทยกับอเมริกาเจริญเท่ากัน มีปืนสั้น ปืนยาว ปืนใหญ่ แต่ ในช่วงหลัง อเมริกาเจริญในด้านเทคโนโลยีอย่างผิดสังเกต พวกเค้าเอาความรู้ต่างๆมาจากไหน รู้ด้วยว่าเทคโนโลยี่จะเติบโตไปในทิศทางใด ซึ่งถ้าไม่มีแนวทาง ลองผิดลองถูก ก็ยังไปได้ช้า--เรียกว่าจากสมัยทรูแมน มาถึงปัจจุบัน การเติบโต เป็นไปอย่างก้าวกระโดดจากเครื่องคิดเลขเอามือโยก กลายเป็นคอมพิวเตอร์ จากโทรเลข กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ

    --ส่วนนี้เรา สามารถมองได้จากทางฝั่งยุโรปอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของยุโรป-เชื้อพระวงศ์ยุโรปบางประเทศ ได้เป็นสมาชิกกลุ่มบิลเดอร์เบอร์เกอร์ ซึ่งเราสามราถค้นย้อนหลังไปได้ว่ามีการประชุมมากี่ครั้งแล้ว จัดขึ้นในยุโรปบ่อยมาก-สื่อต่างๆก็พยายามติดตามอยู่ จริงๆแล้วพวกนี้ไม่ง้อเทคโนโลยี่จากกลุ่มของเกรย์ก็ได้ เพราะคิดต่ออยู่ประมาณ 35ดวงดาว ตลอดเวลา-เหล่านี้แหละคือกลุ่มชั่วของจักรวาล เรียกว่า กลุ่มภราดรภาพดำ ก็ได้--และกลุ่มภราดรภาพขาว-White Bratherhood ก็มี ซึ่งคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของพวกนี้อยู่ รวมถึงสมาพันธ์กาแลกติก พลีอิเดี้ยน,อาร์คทอเรี่ยน ดาวอังคาร ,กลุ่มดาวพิณ-Lyra อีกมากมาย


    เกรย์จาก Zeta Retticulum มีความสามารถทางโทรจิต สามารถขยายสนามพลังจิตเพื่อให้ควบคุมจิตใจมนุษย์ได้ กลุ่มของพวกเกรย์ทั้งหมด
    ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันนัก เพียงแต่คบหากันอย่างหลวมๆ โดยจุดประสงค์ร่วมกัน คือการยึดครองโลก โดยจะมองโลกในฐานะแหล่งเพาะมนุษย์-สัตว์
    เพื่อใช้เป็นอาหาร ตลอดจนยังอาศัยเทคโนโลยี่บางออย่างที่มนุษย์ทำไว้เยอะมากในราคาถูกๆ เช่น RFID --ชิปขนาดจิ๋วที่รับ-ส่งข้อมูลวิทยุได้
    ปัจจุบันมักใช้ในฉลากเสื้อผ้า ตามห้างใหญ่ๆ หรือตั๋วคอนเสริท ตั๋วทางด่วน -พวกเขาเอามาฝังในร่างกายมนุษย์ เพื่อ ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ
    ภาวะของเลือด--ต่างๆส่วนหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ของมนุษย์นั้นยังอ่อนด้อยในทางเทคโนโลยี่-

    -พวก เขาแนะนำว่า การเขียนโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานนั้น มันไม่สามารถทำให้ถึงจุดที่มีสติปัญญาเทียมได้หรอก
    เพราะถ้าเขียนสักหมื่นบรรทัดเราก็งง และล้าแล้ว--การคอมไพล์ การรัน มันก็มีข้อจำกัด พวกเขายกตัวอย่างเช่น
    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ มีขนาดเท่าซองบุหรี่ ในขณะที่เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของเราขนาดเกือบเท่าสนามฟุตบอล
    และของเขาไม่ได้ใช้สารกึ่งตัวนำพวกซิลิกอน- -แต่เป็นพวกสารอินทรีย์ ซึ่งเดิมพวกเขาก็ใช้ได้ดี แต่ตอนหลังๆ
    มีชาวต่างดาวฝ่ายตรงข้ามสามรถทำการแฮก เจาะข้อมูลได้แล้ว จึงต้องมีการระวัง ควบคุมข้อมูลรั่วไหล

    คนที่เก่งมากๆ เช่นโปรแกรมเมอร์ระดับๆ อาจจะมียีนส์จากต่างดาวก็ได้ครับ
    เรียก ว่า Starseed ทับศัพท์เดี๋ยวจะเป็นเรื่องทะลึ่งไป พวกนี้มักฝันเห็นนรก หรือสวรรค์ รู้เหตุการร์ล่วงหน้า
    มีความคิดสร้างสรรค่อนข้างสูงกว่าปกติด แต่มักปวดหัวบ่อย ไม่ทนต่อดินฟ้าอากาศในโลกนัก ในหนังสือของ
    ดร.โจเซฟ บอกไว้เยอะมาก ของไทยก็มีนะคิดว่าผ่านตา ผมเคยอ่านแล้ว--ถ้าสนใจก็บอกเอาไว้ก็แล้วกันครับ

    ----ลืมไปอีกอย่างคือ ในฐานทัพใต้ดิน แถวแอเรีย51--ปัจจุบันคงย้ายมาแถว Groom Lake แถวๆนั้น มีชาวต่างดาวอีกกลุ่มคือพวก เรปติเลียน-Reptilian
    (ผมชอบเรียกเป็นแบบ ฉพาะตัวว่า มนุษย์กิ้งก่า)อยู่ด้วยกัน ทั้งสองพวกนี้ใช้ตัวอักษรเหมือนกัน--เป็นพวกอักษรภาพ หรือ เฮียโรกริฟฟิก--แต่ในเอกสารของทางการสหรัฐบางชุด กับในหนังสือ เล่มนี้ไม่ได้ระบุเอาไว้ คาดว่าคงไม่สำคัญเท่าพวกเกรย์--(บางกระแสก็บอกว่า เป็นภาษาเดียวกันกับภาษาดั้งเดิมภาษาแรกของมนษย์ที่ได้สาบสูญไปแล้ว- ชื่อว่า ภาษากูโบส -ใครชอบทางเจ้าเข้าทรงก็ลองไปสอบถามดู ถ้าเป็นเทพจริงจะต้องรู้ภาษากูโบสชั้นสูง เพราะ ภาษากูโบสมี 5 ระดับ 300 กว่าแม่ภาษา)
    ในฐานใต้ดิน 7 ชั้นมีอุโมงต์ วิ่งไปหากันได้ทั่วประเทศสู่ฐานใต้ดินต่างๆ
    จำ ได้ว่าใช้ระบบลม และสูญญากาศ ทำให้กระสวยวิ่งไปได้เร็วมาก--(บ.ที่รับจ้างขุด ชื่อ แรนด์คอร์เปอเรชั่น) และลิฟท์ที่ใช้ จะไม่มีสายลวดสลิงให้รำคาญ แต่ใช้ระบบของแม่เหล็กไฟฟ้าที่ชาวต่างดาวออกแบบแบบไว้

    ในหนังสือนี้ยังพุดถึงยีนส์ของมนุษย์ว่า มีส่วนของยีนส์ขยะ ยีนส์จากเชื้อแบคทีเรีย อะไรต่างๆ ซึ่งมีส่วนทำให้เราคิดว่า มนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเทตนิควิศวพันธูกรรม-
    -เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ เคียงกับมนุษย์คือลิง ก็จะไม่มียีนส์แบบนี้อยู่ ยิ่งยีนส์ที่เราเรียกว่ายีนส์ขยะ เหราะไม่แสดงผลต่อรูปร่างลักษณะ หรือความฉลาด
    แต่มันมีประโยชน์ คือเอาไว้เพื่อลักษณะพิเศษ
    เช่นการมีพลังจิต โทรจิต อะไรต่างๆ ซึ่งปกติคนทั่วไปไม่ได้มี คือหายาก เราจึงขาดการทดลองในจุดนี้ไป

    ---จริงๆ แล้วที่เราเคยอ่านบทความทั่วไป เขาจะพูดว่า มนุษย์มียีนส์ของสัตว์แทบทุกอย่าง--แต่ไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกับสัตว์อื่น
    ให้เห็นจะๆ ผมก็เพิ่งได้คิดตอนที่เขาเอามาเทียบให้ดู และเราลองนึกดูซิว่า ลิงตามป่าเขา ขาดซึ่งอาหารที่ครบ5 หมู่ ตากแดดตากฝน
    แต่เราไม่เคยเห็นลิงเป็นหวัด หรืออ่อนแอ อะไรทำนองนี้ สุนัขตัวเล็กๆอย่างรอดไวเลอร์ ลากรถ 6 ล้อได้สบายๆ ขณะที่มนุษย์จอไอฝนนิดเดียว
    เป็นหวัดเอาง่ายๆ อ่อนแอ ไร้สมรรถภาพเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย อะไรคือต้นเหตุของสิ่งเหล่านี้ นักพันธูวิทยาก็จะบอกว่า พวกสัตว์มียีนส์
    ที่บริสุทธ์กว่านั่นเอง ถ้าจะให้วิเคราะห์พวกเค้าคงบอกว่า เป็นคลิปหลุด เอ๊ยไม่ใช่ ยีนส์หลุดจากห้องแล็บหมาดๆ ยังไม่ผ่านการทดสอบคิวซีเลย-
    -อันนี้ต้องโทษชาวแอนนูนากิ ที่สร้างพวกเรามาไม่ดีพอ

    ---มีหลายอย่างที่ทำไปแล้วไร้คำตอบ เหมือนโครงการฟิลาเดลเฟีย--อืม เรือฟิลาเดลเฟียที่หายไป และปราหฏขึ้นที่เดิมนั้น
    มันได้ย้อนกลับตามกรแสขแงเวลา ไปอยู่ที่โรงงานที่สร้างมันขึ้นมา แต่ผลที่ตามมานั้น มีทหารเรือหลายคนถูกฝังอยู่ในเหล็กกระดูกงูเรื่อ
    และตายทันที บางคนเสียสติ บางคนที่ถูกกักตัวไว้ หายตัวได้เป็นพักๆ--ที่แปลกอีกอย่างคือถูกปลดล็อคเวลา- (Time Lock)
    คือใน 1 เดือน จะแก่ขึ้น 1 ปี และตายอย่างเร็ว เพราะนาฬิกาในตัวถูกตั้งให้เดินเร็วเกินไปดังกล่าว
    ไม่ใช่แต่มนุษย์ พวกต่างดาวที่ใช้จานบิน ก็มีอาการเช่นนี้อยู่เหมือนกัน(ผู้เล่าเป็นน้องชายนายทหารที่ตายในการทดลอง)

    -ขอ ประนาม องค์การ SETI ชื่อย่อนี้มาจากคำว่า ค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวอะไรทำนองนี้ ตั้งมาหลายสิบปี้ ใช้เงินไปมากมาย แต่ไม่สามราถหาร่องรอย
    มนุษย์ต่างดาวมาได้สักรายเดียว หรือว่า อาจจะมีมากๆแล้วปิดข่าว--แม้กระทั่งทุกวันนี้ เซติก็เรียไรในทุกๆสื่อ
    แต่จะเอาเงินไปทำอะไร ไม่มีทั้งโครงการและผลงาน--เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ- -พูดแล้วเซ็งในหัวใจครับ

    --ดู ภาพยนต์อินเดีย เรื่อง มหาภารตะยุทธ์ เพิ่งนึกได้-- เมื่อฤาษีทำนายไว้ว่า ทางฝ่ายเการพ หรืออะไรนี่จะมีพี่น้องเกิด 108 คน จากแม่คนเดียว ถึงเวลาคลอด
    แม่ เค้าคลอดออกมาเป็นก้อนเนื้อครับ แล้วฤาษี ก็นำก้อนเนื่อนี้มาแบ่งใส่ภาชนะ คือหม้อดิน 108ใบ เก็บไว้ 1 ปี ทุบหม้อออกมาก็จะเป็นทารกชายทั้งหมด

    --ถ้าพูดไป อันนี้พวกนักเลงกล้วยไม้ทราบดี ว่าเป็นการเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือกับพืชอื่นๆ เราเรียกว่า ไม้ปั่นตา ถ้าเป็นทางคน-สัตว์ ก็คือการโคลนนิ่งเราดีๆนี่เอง เห็นไหมครับ
    บอกแล้วว่า โคลนนิ่งไม่ใช่เรื่องใหม่

    --ในคัมภีร์รามายณะกล่าวถึง อาวุธของพระราม คือศรที่ไม่มีสาย แต่มีอำนาจทำลายล้างร้ายแรงเช่นเดียวกับหัวรบนิวเคลียร์-

    -มีนักวิทยาศาสตร์ อินเดีย พยายามถอดคำพูดในคัมภรีที่กล่าวถึงวิมาน ก็ได้ภาพยานบินหลายชนิดหลายขนาด มีตัวกำเนิดพลังงาน เยเนอร์เรเคอร์ มีโลหะหลายชนิดที่ไม่มีในโลกนี้--ผมเคยมีรูป แล้วถ้าหาเจอจะนำมาให้ชมครับ--เรื่องชาวเกรย์จะจบแล้ว แต่ยังมีเรื่องชาวดาวอังคารในทำเนียบขาว 3ปี

    --ชาวมอธแมนไม่มีศรีษะ แต่บินได้ มีตาที่ไหล่ โปนโตสีแดง ชอบอยู่ตามป่าช้าเห็ฯเหตุการณ์ล่วงหน้า จนนำมาสร้างเป็นหนังไปแล้ว ,ชาวแอชตาร์คอมมานด์กับการแทรกแซงสื่อโทรทัศน์- -ชาวอาร์คทอเรียนมาปกป้องโลก ในรูปของวิญญาณกุมารนับร้อย--เออันนี้เข้าห้องศาสนาดีกว่ามั้ง-

    -ท่านสามารถ เข้าถึงเรื่องลึกลับทำนองนี้ได้อีกแบบหนึ่งคือ ถามจากผู้รู้ ผู้เก่งเรื่องสมาธิ ถ้าเก่งจริง
    ท่านจะต้องทราบอย่างแน่นอนครับ เพราะความจริงก็คือความจริง จะมองจากมุมไหน ก็ต้องเห็นวันยังค่ำ

    --ผมเองโชคดีที่มีคนที่เก่งพลังจิตอยู่ใกล้ๆ สอบถามได้ทันที แต่ต้องเลือกเวลาหน่อยไม่งั้นเจอ จานบิน สากครกบิน

    ---กระทู้ นี้อยู่ในเรื่องลี้ลับ-รอการพิสูจน์ ยิ่งค้นก็ยิ่งรู้ครับ บริหารสมอง ยิ่งเรารู้ทันต่างดาวพวกนี้ ก็จะทำให้แผนการของพวกมันเปลี่ยนไป--ผู้อำนวยการคนแรกขององค์กรลับ เมื่อเครียมจะบอกข้อมูลจริง ถูกจับยัดโรงพยาบาลทหาร โดยสงสัยว่าบ้า และถูกแขวนคอลงมาจากหน้าต่าง อำพรางว่าฆ่าตัวตายเอง
    --มีพวกนักวิทยาศาสตร์มากมายถูกฆ่า เช่นฆ่าแล้วเผาในรถยนต์ คนทั่วไปถูกข่มขู่
    กระบวนการรักษาความลับยังดำเนินต่อไป

    --บิล ลี่ เมียร์ เป็นผู้ที่เผยแพร่การติดต่อกับชาวต่างดาว- -พลีอิเดี้ยน ทุกวันนี้ก็ถูกตามฆ่าจากกลุ่มต่างดาวที่เป็นศัตรู ,ชายชุดดำ และหน่วยงานทหารบางประเทศ--นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวที่มาจาก พร็อกซิมา เซ็นจูรี่ กาแลกซี่ ซึ่งอยูใกล้ๆเรา ห่างไป 55ล้านไมล์ บอกกับชายชาวเยอรมันที่ตั้งแค้มป์ในป่า (สื่อสารกันด้วยภาษาเยอรมัน โดยใช้เครื่องแปลภาษาที่เหน็บไว้ที่เข็มขัด)

    --มีผู้นำศาสนาใหม่ๆ เช่น ภิกษุณีชิงไห่ ตลอดจนผู้รับสาสน์จักรวาลแบบแชลเนลลิ่ง เช่น Kryonเข้าสู่สหประชาชาติ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีการให้สัมภาษณ์ ปาฐกถา นับว่าโลกนี้ไม่สิ้นหวังเลยทีเดียว มีขบวนการยุคใหม่ ที่เรียกว่า นิวเอจ พวกนี้จะใช้ผลึกอัญญมณีในการรักษาสุขภาพ ความรู้ทางโยคะ แม้แต่ดนตรีก็ต้องเป็นนิวเอจ ว่ากันว่าคนพวกนี้เคยเกิดในทวีปแอตแลนติส

    ---รู้จัก คำว่า ระเบียบโลกใหม่- New World Oder ไหมครับ คำว่า Globalization หรือ Alternative III ผมว่ามันออกมาจากปาก-หรือเป็นแนวคิดชาวต่างดาวทั้งนั้น มันเป็นองค์ความรู้แบบใหม่ครับท่าน พอๆกับทฤษฎี โกหลาหล Chaos ที่ว่าผีเสือขยับปีกทำให้แผ่นดินไหว เด็ดดอกไม้สะเทิอนถึงดวงดาว

    เกรย์มีความสามารถทางการย้ายสสาร ที่สามรถเปลี่ยนสสารให้เป็นพลังงานแล้วย้ายไปสู่ที่อื่นๆโยอุปการณ์ที่ เหมือนกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว--ที่ผมได้กล่าวอ้างถึงความละเอียดของ อะตอมในมิติของพวกเขาที่มีความเร็วในการสั่นสะเทือนถึง 17 เท่าของโลกเรา พูดง่ายๆ ว่าอาจจะสูงกว่าเราประมาณ 17 มิติ ทำให้พวกเขาเดินทะลุกำแพง หลังคา หรือส่งเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไปไก้ ทั้งๆที่นอนอยู่ในบ้านแท้ๆ

    ---อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ท่านสับสน คือ ที่ว่า มิติที่ 1 คือ พวกก้อนหิน
    มิติ ที่สอง ก็พืช เอาเป็นว่าใช้คำว่าความหนาแน่น(ทางจิตวิญญาณ)ก็แล้วกันครับ และหลายๆแหล่งยืนยันว่า พวกเรากำลังเริ่มเข้าสู่ความหนาแน่นที่ 4
    โยจะ เห็นได้ว่า จะมีคนสนใจเรื่องลี้ลับ ผี เทพ นางฟ้า เรื่องจิตวิญญาณมากขึ้น ส่วนดาวดวงอื่นนะ เขาเข้าสู่ระดับ 4 กันหมดแล้ว รอพวกเราอยู่ครับแหะๆ

    --ตาม ทฤษฎีไกอา ถือว่าทุกๆสิ่งมีความรู้สึก โลก ก็คือสิ่งมีชีวิตแบบหนึ่ง ต้องการจะยกระดับจิตวิญญาณแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่เป็นตัวถ่วงก็คือมนุษย์
    ดัง นั้น โลกจึงพยายามชำระล้างตัวเอง โดยการทำลายชีวิตมนุษย์บางส่วนออกไปบ้าง-

    -อันนี้เป็นคำบอกจากต่างดาวผสมกับ ทฤษฎีไกอา--ไม่ได้อ่านการ์ตูน MMR มากนะนี่ รอบเดียวเอง--และจีโนมโปรเจค-ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ก็ทำเสร็จแล้วด้วย
    --ชาว อันโดรเมดา หญิงสาวชื่อ ไลอา เข้าพบนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเม็กซิกัน บอกว่า ผลการตรวจสอบ และคำนวณ คะเนชะตาของโลก นั้นเสร็จแล้ว และบอกว่าชาวโลกกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวเอง เช่น การทดลองนิวเคลียร์บ่อยๆ เกิดความร้อนสูงๆ ทำให้พายุหมุนจะมีความเร็วสูง การทำลายล้างที่รุนแรง--(อันนี้ผมกำลังนึกเรื่องโลกร้อนอยู่ เรื่องอัตราการรับและสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ อัตราการใช้น้ำมัน ถ่านหิน--แต่จุดนี้ลืมไปเลยจริงๆ--คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกร่วมเลยนะ)- --และตอก ย้ำว่า การทดลองสงครามเคมีของอเมริกาก่อให้เกิดเชื้อโรคเอดส์- -ก็มีส่วนจริง เพราะไวรัสจริงๆเป็นแค่ผลึกโปรตีน ไม่ใช่เซลแบคทีเรีย

    --มนุษย์จะพบพลังงานจากอวกาศ มันมาของมันเอง ไม่ได้เกิดจากอะไร
    (ว่า กันว่า เทสลา ได้ค้นพบแล้ว ทุกหลังคาเรือน มีเสาอากาศ รับพลังงานมาใช้สบายไป--แต่พวกบิลเดอร์เบอร์เกอร์ขัดขวางเอาไว้ เพราะเก็บเงินค่าไฟไม่ได้)

    --2015 จะพบพลังงานที่มาจากเสียง เธอบอกว่าที่ดาวของเธอสามารถใช้เสียง อุ่นให้ทั้งตึกมีความอบอุ่น โดยผู้อาศัยก็ไม่รำคาญเสียงนี้
    (มีข่าวว่าอเมริกาได้ทดลอง ใช้ตลื่นเสียงกำจัดฝุ่นควันในอากาศ โดยไม่แจ้ง
    สาธารณชน และผู้คนพากันพูดว่า อากาศสะอาดขึ้นมากอย่างผิดสังเกต)

    ความสามรถทางสะกดจิตของพวกนี้ ทำให้การเข้าควบคุมประเทศต่างๆ ได้ง่าย เพราะแค่สะกดจูงจิตผู้นำคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และยิ่งเมื่อใช้วัตถุ
    ที่ ฝังเข้าในตัว-implants-จะยิ่งง่ายขึ้นอีก เคยอ่านที่เก็นเป็นชิปในโพรงจมูก ตรงต้นคอ-เคยเห็นแท่งแก้วผลึกที่ฝังไว้แถวหน้าแข้ง -บางอย่างเป็น ก้อนพลังงาน แต่ทำหน้าที่ได้เช่นกัน

    --เกรย์ผสมพันธุ์โดยตรงกับมนุษย์ไม่ได้ แต่ทำได้ในแล็บ ดังนั้น จึงมี ลูกผสมต่างดาว--พวกหุ่นกึ่งมนุษย์-android
    -- มีการลักพาตัวผู้หญิงจำนวนมากเรือนหมื่นเรือนแสน และทำให้ท้อง---อย่าคิดลึก--และยังโขมยลูกในท้องอีก การตัดอวัยวะสัตว์-Cattle Mutilation เกิดขึ้นทั่วไป เคยเห็นในยูทิวบ์ว่า วัวทั้งตัวถูกดูดลอยขึ้นไปด้วยลำแสงสีขาว-

    -และบางแหล่งข่าวบอกว่ามีการ ชำแหละมนุษย์--อาจจะที่ WTC ด้วย--มีคลิปยูทิวป์ที่ไฟใหม้โรงแรมในปักกิ่งอย่างรุนแรง แต่ตึกไม่ยุบลงมา ทีเวิลด์เทรด ชึ้นล่างแทบจะเป็นโครงเหล็กทั้งหมด ไฟก็ยังไม่มาก ดันยุบลงมาได้--น่าคิดครับ

    --ถือได้ว่าระดับการแทรกแซงสังคมมนุษย์ของพวกนี้ เข้าสูระดับสูงสุดแล้ว
    --พวก นี้มีฐานทัพอยู่ทั่วโลก มากที่สุดในอเมริกา และมีในส่วนด้านมืดของดวงจันทร์ด้วย---มีข่าวว่านักบินอะพอลโลก็ไปนั่งจิบ กาแฟกันมาแล้ว
    แถมยังไม่ต้องใช้หน้ากากออกซิเจนอะไร ผักก็ปลูกให้เชียวพรืดไปหมด ไม่ต้องกลัวใครเห็น เพราะด้านนี้ไม่เคยหันไปทางโลกเลย

    --เกรย์ ตัวสูง จะมีอำนาจเหนือพวกซีต้า และพวกBeetletrax โดยจะมีฐานใหญ่ที่ใกล้เกาะ Aleutian สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าด้อยกว่ามนุษย์ ก็คือสืบพันธุ์เองไม่ได้ การโคลนนิ่งก็จะได้ตัวที่เล็อกกว่า อ่อนแอกว่าเดิม

    ---จบ อรรถธิบาย เรื่อง Greys มา ณ ที่นี้--ขอบคุณผู้อ่าน เพราะถ้าไม่มีพวกท่านผมก็ขี้เกียจนั่งแปล และถือโอกาสก็อปใส่บล็อกไว้ เพราะขี้เกียจเขียน
    --สำหรับความเห็นที่ไม่ชอบใจผม ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะท่านไม่ได้จ่ายค่าเน็ตแทนผมอยู่แล้วครับ- -ฮา--ท่านที่อยากอ่านต่อ ต้องบอกว่าอยากอ่านเรื่องอะไร-เพราะผมจบทางไสยศาสตร์บัณฑิตโดยตรงครับ- ไม่ ถนัดทางวิทย์


    ขอบคุณ Lyssa Rayal
    จากหนังสือ Prism of Lyra และ Valdimar Valerian
    จากหนังสือ Matrix I,II,และ III


    [​IMG]
     
  3. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">นอกจาก Cooper แล้ว ยังมีอีกคนที่ทำงานในกลุ่มนี้ และเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกันกะ Cooper เขาคือ James Forrestal

    EBE

    เป็น Alien ที่รอดชีวิตจากยานตก ในปี 1949 เจอที่ Roswell ขณะกำลังเดินอยู่กลางทะเลทราย
    ให้ชื่อว่า EBE ( Extraterrestrial Biological Entity)
    จากการทดลองื่อสารกับ EBE นั้น พบว่า EBE โกหกเก่งมากๆ (tendency to lie)
    ช่วงในปีแรก EBE จะตอบคำถามในสิ่งที่ มนุษย์ชอบฟังและอยากได้ยินเท่านั้น
    แต่หลังจากนั้นในปีที่2 EBE เริ่มเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ที่ทำเอาทางนักวิทยาศาสตร์ช๊อคไปตามกัน ในข้อมูลที่
    EBE ให้มา ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกบันทึกลงใน "Yellow Book." (ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ได้ว่า EBE พูดอะไรบ้าง)

    และในปี 1951EBE เริ่มป่วยลง และไม่มีใครสามารถรักษาได้ เพราะระบบภายในของ EBE นั้นไม่เหมือนมนุษย์
    ระบบภายในของEBE เทียบได้กับพืช (chlorophyll-based ) และเสียชีวิตลงในปี 1952

    ในขณะนั้น มีการพยายามช่วยเหลือ EBE ก็มีการก่อตั้ง Project SIGMA ได้พยายามส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือ ไปยัง cosmos
    แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา
    แต่Project นี้ก็ยังมีต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน

    Creation of the NSA
    ในขณะนั้นประธานาธิปดี Truman เป็นประธานาธิปดี สหรัฐอยู่ในตอนนั้น ได้มีคำสั่งให้ก่อตั้ง National Security Agency(NSA)
    ใน November 4,1952 จุดประสงค์หลักคือ สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับมนุษย์ต่างดาว และเรียนรู้สื่อสารภาษาต่างดาว
    และจุดประสงค์รองคือรวบรวมหลักฐานระบบสื่อสารจากทั่วทุกมุมโลก ที่พบว่ามีการสื่อสารจาก Alien และปิดข้อมูลไว้เป็นความลับ
    เพราะในต่อมา Project SIGMA ก้อประสบความสำเร็จมาก

    และในขณะเดียวกัน NSA ก็ได้มีการติดต่อสื่อสารกับ แคมป์ที่อยู่บนดวงจันทร์ด้วยเหมือนกัน(แคมป์นี้เป็นของมนุษย์นะครับ)
    NSA นั้นถูกตั้งมาให้อยู่เหนือกฏหมายทุกอย่าง เป็นคำสั่งของประธานาธิปดีโดยตรงในขณะนั้น
    ฉนั้น NSA จึงเป็นกลุ่มหลัก และเงินสนับสนุน 75% จึงเป็นของกลุ่มนี้

    แต่ CIA นั้นทำหน้าที่เป็นแค่ฉากหน้า

    ประธานาธิปดี Truman มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโซเวียตและประเเทศอื่นๆหลายประเทศ เพราะไม่แน่ใจในจุดประสงค์การมาของ Alien
    ในหัวข้อหลักคือถ้าเกิดสงครามกับ Alien ควรจะรับมืออย่างไร และในขณะเดียวกันก็หารือกันว่าทำอย่างไรถึงจะปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
    และให้ข้อมูลเท็จอย่างไร และในตอนนี้เอง ก้อมีการก่อตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาคือ the Bilderberger Group. ในปี 1952
    และหลังจากนั้นกลุ่มนี้เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น และควบคุมทุกอย่าง และควบคุมอยู่เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐ เพราะฉนั้น UN
    ก้อเป็นแค่เรื่องตลกลวงโลกเท่านั้น(ระบอบประชาธิปไตยเป็นแค่ภาพลวงตา

    จากคุณ QUARK
     
  4. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">และหลังจากนั้นมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีคนต่อมา ในปี 1953 คือ Dwight David Eisenhower ได้สานต่องาน
    แก้ไขปัญหาเรื่อง Alien จึงเป็นสาเหตุให้มีการก่อตั้งกลุ่ม MJ-12 ขึ้นมา และในขณะนั้นได้ติดต่อ Nelson Rockefeller
    ด้วยเหตุผลที่ว่า ทั้งสองเป็นสมาชิกของ CFR และ Eisenhower เองด้วยความที่ซื่อสัตย์กับกลุ่ม CFR มาก และ ด้วยความเคารพใน
    Rockefeller family จึงได้ร่มกันก่อตั้ง MJ-12 ขึ้นมา
    และหลังจากนั้น Eisenhower ได้เข้าใจอย่างซาบซึ้งว่าเขาตัดสินใจผิดมหันต์ ต่อ ประชากรของโลกใบนี้ และต่อรัฐบาลสหรัฐ

    เป็นการหักเหครั้งใหญ่ เพราะ Nelson Rockefeller ใช้ความรู้วิทยาการณ์ทางดา้นวิทยาศาสตร์และและข้อมูลต่างๆ
    เพื่อจุดประสงค์ของตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัวและความโลภ

    ในปี 1953 นั้นเองนักวิทยาศาสตร์ได้เห็นวัตถุ ที่มีขนาดใหญ่มากเคลื่อนที่เข้าใกล้โลกจำนวนหนึ่ง ในตอนแรกคิดว่าเป็นลูกอุกาบาตย์
    แต่เมื่อมันเคลื่อนเข้าใกล้มากขึ้น และอยู่เหนือน่านฟ้า จึงได้เห็นว่าเป็น UFO ขนาดที่ใหญ่มากจอดเรียงกันบนน่านฟ้า
    และ Project SIGMA และProject PLATO จับสัญญาณการสื่อสาร และแปลโดยคอมพิวเตอร์(the computer binary language)
    และประสบความสำเร็จ จนมีการพบปะเจรจากัน
    (Project PLATO นั้นมีหน้าที่หลักคือ เจรจาสัมพันธ์ทางการทูตกับ ALIEN GRAYS )


    และต่อมาในช่วงเวลานั้นก็มี ALIEN อีกเผ่าพันธ์หนึ่ง มีลักษณะเหมือนมนุษย์ Humanoid ( Andromeda) คือย้อนกลับไปนิดนึงพวกนี้จะมี
    spiritual development ที่สุงในระดับ 4 เทคโนโลยี่เอยู่ในระดับเดียวกับ spiritual
    ส่วนพวกGRAYS และ Reptiliansอยู่ในระดับ3 คือ เทคโนโลยี่สุงแต่ spiritual ต่ำกว่า พวกนี้จะไม่เข้าใจในเรื่อง spiritual
    แต่ก็พยายามที่จะก้าวไปให้ถึงในระดับ4 ระดับ spiritual นั้นมีระดับ12 ระดับหรืออาจมากกว่านั้น ระดับสุงสุดที่เรียกว่าพระเจ้า
    หรือพลังงานfต้นแบบนั้นอยู่นอกเหนือ 12ระดับขึ้นไป อันนี้ต้องไปดูในคลิปของนักฟิสิกส์ที่ชื่อ Michio Kaku
    ในหน้าแรกที่คุณ Piglet แปะไว้
    แต่ที่เค้าพูดเอาไว้นั้นเป็นแค่ระดับ materialแค่นั้นเอง ส่วนมนุษย์เรายังไม่ติดอันดับเลย ทั้งเทคโนโลยี่และspiritual


    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25240 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">เอาล่ะเข้าเรื่อง Andromeda นั้นมีspiritualที่สุงกว่าพวก GRAYS นั้นในการสื่อสารกับมนุษย์จึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
    (Alex collier บอกว่าพวกนี้สื่อสารโดยใช้โทรจิต) ซึ่งก็ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แปล เหมือนพวกGRAYS

    จุดประสงค์ในการมานั้น Andromeda เพราะอยากช่วยเผ่าพันธ์มนุษย์และโลก ได้ยื่นข้อเสนอให้ทางการสหรัฐ ทำลายขีปณาวุธนิวเคลียร์
    เพราะถ้ามีไว้มันจะเป็นการทำร้ายและทำลายโลก (อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าโลกนี้มีชีวิตและพลังงานของมันก็ริบรี่เต็มที)
    และจะไม่มอบอาวุธใดๆให้อยู่ในมือของมนุษย์เพราะมนุย์จะนำไปใช้ในทางผิดๆ

    แต่ในเงื่อนไขเหล่านี้ Andromeda เสนอจะสอนให้มนุษย์เรียนรู้ทางด้าน spiritual (ซึ่งทรงพลังมากกว่าเทคโนโลยี่)(offered to help us with our spiritual development)

    แต่ด้วยความโลภรัฐบาลสหรัฐ ก้อตอบปฏิเสธไป และด้วยกฏหมายสากลของจักวาลแล้ว Andromeda
    จะเข้าแทรกแทรงอะไรไม่ได้นอกจากมีการเซ็นสนธิสัญญา

    แต่ในปี 1954 รัฐบาลสหรัฐ ได้มีการลงนามในสนธิสัญญากับ GRAYS

    เงื่อนไขในสนธิสัญญา

    -ไม่รบกวนหรือก่อสงครามกับโลก
    -รัฐบาลสหรัฐจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
    -GRAYS ต้องสอบเทคโนโลยีไหม่ๆให้กับรัฐบาลสหรัฐ
    -GRAYS จะต้องไม่ทำสนธิสัญญากับประเทศอื่นนอกจาก สหรัฐอเมริกา
    -เห็นด้วยที่จะมีการแลกเปลี่ยน ประชากรมนุษย์และGRAYS เพื่อการทดลอง ศึกษา แต่มีเงื่อนไขว่า ทุกครั้งที่มีการนำมนุษย์
    ไปจะต้องนำกลับมาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และลบความทรงจำออก และรายงานกับรัฐบาลสหรัฐทุกครั้งที่นำมนุษย์ไป
    -ลงความเห็นร่วมกันที่จะให้มี alien ambassador(ชื่อว่า Crill or Krill) ไว้บนโลกและนำ human ambassadorไปเพื่อเป็นการรักษาสนธิสัญญา
    -ทุกครั้งจะมีการแลกเปลี่ยน 16 GRAYS และ 16 human เพื่อการศึกษา ทดลอง
    -รัฐบาลสหรัฐ อณุญาติ ให้มีฐาน บนโลก ได้ ที่โลก มีประมาณ 3-4 ฐาน และใน2 ฐานไต้พื้นผิวโลก นั้นมีการศึกษาทดลองร่วมกัน
    ทั้งมนุษย์และ GRAYS

    Project REDLIGHT ทดสอบการฝึกบิน UFO ซึ่งอยู่ใน Area 51 และอีกที่นึงที่ Dreamland และในที่นี้ก็เป็นที่แลกปลี่ยน
    เทคโนโลยี่ ยุธโธปกรณ์ ต่างๆกับ GRAYS

    ต่อมาในปี 1955 ทางรัฐบาลสหรัฐได้พบว่า GRAYS ได้ละเมิดสนธิสัญญา คือเรื่องการนำมนุษย์และสัตว์ไปศึกษา พบว่เสียชีวิตบ้าง
    พิการบ้าง ผิดปกติบ้าง เพราะมีการพบเจอซากเหล่านี้ทั่วไป และทุกครั้งก็ไม่ได้รับการรายงานแต่อย่างใดจาก GRAYS
    นอกเหนือไปจากนั้น ก็ทราบมาอีกว่า GRAYS ได้ทำสนธิสัญญากับประเทศโซเวียต ด้วย
    และไดมีการติดต่อกับGRAYS ก็ยอมรับว่าละเมิดสัญญาจริง และยังได้มีการทดลองกับ มนุษย์ที่มากไปกว่านั้น
    อีกคือ ใช้เวทมนต์ ศาสนา และการบูชาซาตาน( They stated that they had manipulated the human race through religion, satanism, witchcraft, magic, and the occult. )

    และหลังจากนั้น-Air Force ได้ทำสงครามกับ GRAYS ปรากฎว่าเป็นที่ประจักษ์ว่าอาวุธเราสู้GRAYS ไม่ได้เลย

    จากนั้น จึงมีคิดค้นคว้าอาวุธที่ทันสมัยขึ้นโดย 35 คน จาก CFR

    และหลังจากนั้นอีก ก็พบว่า GRAYS ได้ทำการทดลองเปลี่ยนยีนส์มนุษย์และสัตว์ ต่างๆอีกมากมายเพื่อการรักษาเผ่าพันธ์ของตนเองไว้
    (เพราะGRAYS ไม่สามารถสืบพันธ์ได้ หลังแพ้สงครามกับ Reptilians ก็ได้ถูกพวกนี้เปลี่ยนยีนส์ไป)

    แต่ mj12 ก็ไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของGRAYS มากนัก แต่ก็จำยอมให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไป เพราะยังอาศัยเทคโนโลยี่
    จากGRAYS

    และอีกด้านก็ได้มีการร่วมมือกับ โซเวียต และประเทศอื่นๆด้วย จึงเป็นกำเนิดของ Projects JOSHUA and EXCALIBUR.

    Projects JOSHUA นั้นเป็นเทคโนโลยี่ของ NAZI คือใช้เสียงในการทำลาย ประสิทธิภาพสามารถทำลายเกราะโลหะที่มีความหนา 4 นิ้ว ได้ในระยะ 3 กิโลเมตร และเชื่อว่าอาวุธชนิดนี้สามารถยิง UFOได้

    EXCALIBUR คือ อาวุธนิวเคลียร์ สามารถทำลาย ฐาน ของ alien ไต้ผิวโลกในพื้นผิวที่แข็ง ในระยะทางลึก 1 กิโลเมตรได้


    หลายปีที่มีการติดต่อกับ GRAYS นั้น เทคโนโลยี่ได้พัฒณาขึ้นมาก เช่น antigravity-type craft ซึ่งสามารถเดินทางไป
    the Moon, the planets Mars and Venus, ได้
    รัฐบาลนั้นยังปิดบังโกหกต่อสาธาระณะชน อย่างมากในเรื่องพวกนี้

    เช่นความจริงที่ว่า บนดวงจันทร์ มีต้นไม้และพืช เติบโตที่นั่น และสามารถเปลี่ยนสีได้ตามฟดูกาล
    และมีก้อนเมฆ ด้วย(ด้านมืดของดวงจันทร์)
    และสามารถเดินได้บนดวงจันทร์โดยมีแรงโน้มถ่วงเช่นเดียวกับโลก
     
  6. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องพวกนี้ ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">มาต่อกันที่ เรื่องของ MJ12
    ผมเคยเอามาลงไว้แล้วในกระทู้นี้
    http://www.newskythailand.us/board/index.php?topic=98.0


    แต่นี้เป็นเรื่องอีกข้อมูลมุมนึงของคุณ QUARK ฟ้าเดียวกัน


    --------


    ครับวันนี้ผมจะมาพูดถึงโครงการลับของ NASA ผมหวังว่าเรื่องที่น่าทึ่งเหล่านี้ ใครคงไม่คิดว่าเป็นจินตนาการอีกนะครับ

    ผมขอแปลมาจาก ลิ้งนี้นะครับ http://www.bibliotecapleyades.net/sociopolitica/esp_sociopol_mj12_1.htm
    แต่ถ้าจะให้ดีก็เข้าไปอ่านต้นฉบับเอง เพราะอาจแปลตกหล่นไปบ้าง (โดย Milton William Cooper)

    ใครๆหลายคนอาจจะพอทราบบ้างกับ กลุ่ม Majestic 12 (MJ 12) หรือที่มาของ the Bilderberger Group ในปัจุบัน

    ในขณะนั้น William Cooper ได้ัรบคัดเลือกให้เข้ามาทำงานในหน่วยงานสืบราชการลับ(Nevy Intelligence) โดยในหน้าที่นี้เองเขาสามารถ เปิดอ่านเอกสาร ข้อมูล ลับต่างๆได้ (ตั้งแต่ปี 1970-1973)จากงานที่เขาทำเป็นสาเหตุให้เขาเริ่มสืบค้นหาความจริง ในเชิงลึกขึ้น
    และใน July 2,1989 เป็นครั้งแรกที่เขาเปิดความลับเหล่านี้ใน MUFON Symposium ,in Las Vegas, Nevada


    ก่อนที่จะมีกลุ่มนี้((MJ 12)ในขณะนั้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกา เป็นชาติมหาอำนาจที่และมีเทคโนโลยีที่เรียกไต้ว่าก้าวหน้าสุงสุดตอนนั้น และในขณะเดียวกันก็ทางผู้นำกองทัพ ได้ค้นพบบางสิ่งที่เหลือเชื่อ นั่น คือ Alien ในช่วงJanuary 1947 and December 1952

    อย่างน้อยมี 16 ครั้งที่มี UFO ตก และมี ศพ Alien 65 ศพ และรอดชีวิต 1 แต่ทางรัฐบาลสหรัฐ ปกปิดเป็นความลับ

    แต่ก็ปิดไม่มิดเพราะมีคนพบเห็น UFO อยู่ทั่วไป

    ฉนั้นเรื่องราวเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของ MJ 12

    Alien-Earth Presence(มีAlien อาศัยอยู่ในโลกนี้หรือไม่)

    พบUFO ตก สองลำ ลำแรกในช่วงFebruary 13, 1948 ที่mesa ใกล้กะ Aztec, New Mexico..
    ลำที่สอง March 25, 1948 ที่ White Sands Proving Ground ทั้งสองลำพบมี Alien รวม 17 ศพ
    แต่สิ่งที่ทำให้ทางกองทัพช๊อคไปมากกว่านั้นคือ มีชิ้นส่วน ศพมนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก
    ซึ่งจากที่เป็นความลับธรรมดาก็เป็นความลับสุดยอดที่ปกปิดเรื่องเหล่านี้จากผู้คน

    และเหตุนี้เอง จึงมีการรวบรวมนักวิทยาศาสตร์ต่างๆ เข้ามาศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้โดยฉเพาะ
    เรียก โครงการนี้ว่า Project SIGN ในปี 1947 แต่ในปี 1948 เปลี่ยนชื่อมาเป็น Project GRUDGE

    เพราะ Project GRUDGE มีการแยกแขนงออกมาเป็นหลายหน่วยงาน มีหน่วยงานหนึ่ง เรียกว่า "Blue Teams"projectนี้เรียกว่า BLUE BOOK ทำหน้าที่โดยการให้ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะชน แต่หลังจากนั้น เปลี่ยนมาเป็น Alpha Teams ภายไต้การควบคุมของ Project POUNCE.

    ในระยะเริ่มแรกนั้น Air Force และCIA มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากนั้น CIA ก็ไม่มีบทบาทมากนักเป็นแค่ฉากหน้า

    และหลังจากนั้นNSC( National Security Council ) เข้ามามีหน้าที่แทนโดยตรงโดยติดต่อประสานงานกับประธานาธิปดีสหรัฐ
    และหลังจากนั้นเปลี่ยน ชื่อมาเป็น MJ 12


    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องพวกนี้ ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">นอกจาก Cooper แล้ว ยังมีอีกคนที่ทำงานในกลุ่มนี้ และเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกันกะ Cooper เขาคือ James Forrestal

    EBE

    เป็น Alien ที่รอดชีวิตจากยานตก ในปี 1949 เจอที่ Roswell ขณะกำลังเดินอยู่กลางทะเลทราย
    ให้ชื่อว่า EBE ( Extraterrestrial Biological Entity)
    จากการทดลองื่อสารกับ EBE นั้น พบว่า EBE โกหกเก่งมากๆ (tendency to lie)
    ช่วงในปีแรก EBE จะตอบคำถามในสิ่งที่ มนุษย์ชอบฟังและอยากได้ยินเท่านั้น
    แต่หลังจากนั้นในปีที่2 EBE เริ่มเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ที่ทำเอาทางนักวิทยาศาสตร์ช๊อคไปตามกัน ในข้อมูลที่
    EBE ให้มา ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกบันทึกลงใน "Yellow Book." (ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ได้ว่า EBE พูดอะไรบ้าง)

    และในปี 1951EBE เริ่มป่วยลง และไม่มีใครสามารถรักษาได้ เพราะระบบภายในของ EBE นั้นไม่เหมือนมนุษย์
    ระบบภายในของEBE เทียบได้กับพืช (chlorophyll-based ) และเสียชีวิตลงในปี 1952

    ในขณะนั้น มีการพยายามช่วยเหลือ EBE ก็มีการก่อตั้ง Project SIGMA ได้พยายามส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือ ไปยัง cosmos
    แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา
    แต่Project นี้ก็ยังมีต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน

    Creation of the NSA
    ในขณะนั้นประธานาธิปดี Truman เป็นประธานาธิปดี สหรัฐอยู่ในตอนนั้น ได้มีคำสั่งให้ก่อตั้ง National Security Agency(NSA)
    ใน November 4,1952 จุดประสงค์หลักคือ สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับมนุษย์ต่างดาว และเรียนรู้สื่อสารภาษาต่างดาว
    และจุดประสงค์รองคือรวบรวมหลักฐานระบบสื่อสารจากทั่วทุกมุมโลก ที่พบว่ามีการสื่อสารจาก Alien และปิดข้อมูลไว้เป็นความลับ
    เพราะในต่อมา Project SIGMA ก้อประสบความสำเร็จมาก

    และในขณะเดียวกัน NSA ก็ได้มีการติดต่อสื่อสารกับ แคมป์ที่อยู่บนดวงจันทร์ด้วยเหมือนกัน(แคมป์นี้เป็นของมนุษย์นะครับ)
    NSA นั้นถูกตั้งมาให้อยู่เหนือกฏหมายทุกอย่าง เป็นคำสั่งของประธานาธิปดีโดยตรงในขณะนั้น
    ฉนั้น NSA จึงเป็นกลุ่มหลัก และเงินสนับสนุน 75% จึงเป็นของกลุ่มนี้

    แต่ CIA นั้นทำหน้าที่เป็นแค่ฉากหน้า

    ประธานาธิปดี Truman มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโซเวียตและประเเทศอื่นๆหลายประเทศ เพราะไม่แน่ใจในจุดประสงค์การมาของ Alien
    ในหัวข้อหลักคือถ้าเกิดสงครามกับ Alien ควรจะรับมืออย่างไร และในขณะเดียวกันก็หารือกันว่าทำอย่างไรถึงจะปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
    และให้ข้อมูลเท็จอย่างไร และในตอนนี้เอง ก้อมีการก่อตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาคือ the Bilderberger Group. ในปี 1952
    และหลังจากนั้นกลุ่มนี้เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น และควบคุมทุกอย่าง และควบคุมอยู่เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐ เพราะฉนั้น UN
    ก้อเป็นแค่เรื่องตลกลวงโลกเท่านั้น(ระบอบประชาธิปไตยเป็นแค่ภาพลวงตา)

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25334 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องพวกนี้ ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงดีเหมือนกัน เอางี้ครับขอออกแนววิทยาศาสตร์หน่อยๆคงไม่ว่ากัน เพื่อความเข้าใจ
    เป้าหมายสุงสุดของวิทยาศาสตร์ คือการสร้างทฤษฎีที่สามารถใช้อธิบายได้ทั้งเอกภพ หรือ ค้นหา Mind of GOD
    แต่นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ถูกคุกคาม ควบคุมโดย Raptiod ยกตัวอย่างเช่น ไอน์สไตน์ที่ถูก ฮิตเลอร์ โดยการคุกคามจากนาซีนี้จึงทำให้ไอน์สไตน์ละทิ้งแนวทางสันติภาพ(ประวัติเขา น่าสนใจมากเป็นนักสู้เพื่อสันติภาพคนนึง)

    เฮ้อ...เข้าเรื่องดีกว่า

    สสารประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐานเรียกว่าอะตอม
    และแกนกลางประกอบด้วยประจุไฟฟ้าบวกและอิเล็กตรอน เรียกว่า โปรตรอนและอีกชนิดนึงคือนิวตรอน และภายในโปรตรอนนั้นยังค้นพบอนุภาคจิ๋วไปกว่านั้น คือ ควาร์ค(Quark)
    และยังมีการมองหาอนุภาคที่เล็กไปกว่านั้นอีก
    กลศาสตร์ควานตั้มบอกกะเราว่า อนุภาคทุกชนิดแท้จริงแล้วเป็นคลื่น และยิ่ง อนุภาคมีพลังงานสุง ความยาวคลื่นยิ่งสั้นลง
    ดังนั้นคำตอบจึงขึ้นกับว่า เรามีอนุภาคที่มีพลังงานสุงมากแค่ไหน เพราะจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะ มอง สิ่งมีขานดจิ๋วได้ขนาดใด

    ดั้งนั้นองค์ประกอบของทุกสิ่งในโลกรวมทั้งมนุษย์ก็มาจากสิ่งเดียวกัน

    เราคือพลังงาน

    คำนี้ measurement problem เป็นคำที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายกลัวถุกถามมากที่สุด ในการวัดขานดของอะตอม เพราะอะตอมนั้นเคลื่อนที่อยู่เสมอ สามารถเกิดขึ้นและแตกตัวได้เองในบางสภาวะ

    ถ้าเรามองจาก Velativity theory , quantum theory นั้นไม่มีสิ่งไดเลยที่มีความหนาแน่น

    และถ้ามองลึกไปกว่านั้นการมองของเราหรือ vision จะเปลี่ยนหรือแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะอนุภาคต่างๆเหล่านี้คือ electron โดยการรวมของโมเลกุล+อะตอม
    ถ้ามองลึกกว่านั้นไปอีก คือไม่มีแม้แต่อนุภาค จะมีแตความเชื่อมโยงกันของพลังงานทั้งหมด

    project holographic

    สมองของเรานั้นรับสัญญาณมากมาย และเชื่อมโยงสัญญาณภาพเข้าด้วยกันและแปลความหมายมองเห็นเป็นภาพ 3 มิติและสร้างสิ่งที่จับต้องได้

    ถ้ามองลงไปใน quantum จะเห็นได้ว่าทุกอนุภาคนั้นเชื่อมโยงกัน

    และถ้ามองย้อนเวลาไปที่จุดเริ่มต้น ต้นกำเนิดอนุภาคต่างๆ สุดท้ายแล้วมีขนาดเล็กลง เล็กที่สุด จนหายไป จนเหลือแต่พลังงาน
    electron นั้นเชื่อมโยงกันแบบไหน พลังงานก็เชื่อมโยงกันแบบนั้น

    ดูลิ้งนี้ไปก่อนนะครับยังมีต่ออีกยาว คลิกเลยครับ


    The Quantum Apocalypse of The Holographic Universe


    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25335 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    เปิดความลับสุดยอดของมนุษย์

    ต่อมไพเนียล(Pineal grand) อยู่ตรงกลางระหว่างสมองส่วนเซรีบรัม (Cereblum) ซ้ายและขวา ผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า เมลาโทนิน (Melatonin)

    melatonin เมลาโธนิน เป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมโพเนียล (pineal gland) ฮอร์โมนนี้มีผลคล้ายยานอนหลับ คนแก่ที่นอนไม่หลับจะหลั่งเมลาโธนินน้อยกว่าคนหนุ่มสาว เมลาโธนินมีความสำคัญดังต่อไปนี้

    -ช่วยให้หลับสนิท

    -ลดอาการสับสนในเรื่องเวลาของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อาการออ่อนเพลียเมื่อเดินทาง

    -เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสื่อมของเซลล์และของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

    (แต่ศักยภาพมันมีมากกว่านั้นมหาศาล)

    ลักษณะของ Pineal grand คล้ายดวงตา ห่อหุ้มด้วยน้ำ เพียงแต่ไม่มีเลนส์เหมือนดวงตา ฉนั้นเอง จึงเปรียบเสมือนดวงตาดวงที่3 ของมนุษย์

    และมีบางศาสนาที่กล่าวถึงการถอดจิตโดยการนั่งสมาธิ แต่แท้จริงแล้ว Pineal grand นี่เองที่ทำหน้าที่หลังจากที่เราหลับตาลง หรือเวลานอน

    Pineal grand หรือตาดวงที่3 ก็จะเปิดออก และเชื่อมสัญญาณของเราเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง ที่มองเห็นด้วยตาดวงที่ 3 ของเรา





    พวก Raptiod ควบคุม มนุษย์ได้อย่างไร



    1)ควบคุม Pineal grand ของเราโดยทางอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่มีส่วนผสมของFluoride ,aspartame ,และอาหารที่ผ่านกระบวนการ ฟอกสี ขัดเกลา กลั่น สกัด (refine)ที่ส่งผลให้เกิดแคลเซี่ยมเกาะ Pineal grand

    จึงทำให้ตาดวงที่ 3 ของเราบอดสนิท และทำให้มองเห็นโลกในความเป็นจริงไม่ได้

    2) ควบคุมโดยทางความเชื่อ (Manipulation)

    3)ควบคุมโดยใช้สนามพลังงาน (Earth energy grid)โดยการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในจุดที่มีสนามพลังงานหนาแน่นเหล่านี้เพื่อ ควบคุมเรา

    4)ใช้เสียงที่มีพลังงานด้านลบ โดยผ่านเสียงที่มีความถี่ต่างกัน

    5)ใช้ ภาพสามมิติ {holographic}



    สงคราม(ที่มองไม่เห็น)ต้องมีรู้เขาและรู้เราจึงจะชนะ

    เมื่อเรารู้เขาและอาวุธของเขาแล้วก็มารู้เราบ้างและอาวุธของเราบ้าง



    --รู้เรา--

    -เราเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาสมบูรณ์แบบมาก และพลังงานที่มีอยู่ในเรานั้นมีศักยภาพมหาศาล

    ใน 100 % เรานำมันมาใช้แค่ มากสุดแค่5% นี่เป็นสิ่งที่

    -พลังงานในมนุษย์เราถูกสร้างจากพลังงานต้นแบบ และพลังงานของมนุษย์ทุกคนมาจากที่เดียวกัน

    เป็น 1เดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้ เป็นเหมือนอนุภาคต่างที่มากจากที่เดียวกันแยกจากกันไม่ได้
     
  10. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30></TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องพวกนี้ ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">แต่การที่ pineal gland หรือตาดวงที่3 เราเปิดออก ก็ยังไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจหรือใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ได้เลย มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเปิดหน้าต่างในโลกแห่งความเป็นจริงออก แค่นั้นเอง
    นี่แหละจึงเป็นสิ่งที่ Andromeda อยากจะสอนให้เราเข้าใจและใช้พลังงานนี้ เพื่อที่เราจะเป็นอิสระ จากพวก Reptilians หรือGrays

    และพลังงานของมนุษย์นั้นถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่เรียกว่าความรัก (เช่นเดียวกับufo ufo ที่ใช้น้ำเป็นตัวขับเคลื่อนในการเดินทางได้หลาย dimension )

    แต่ก็ยังเป็นระดับ physical class ไม่สามารถเดินทางได้ไกลกว่านั้น (ระดับพลังงาน มี12 ระดับหรืออาจมากกว่านั้น) แต่พลังงานที่เรียกว่าความรักนั้น มันมีอยู่ในธรรมชาติของมนุษย์เพียงแต่เราไม่รู้วิธีที่จะใช้มัน
    แต่พวก Reptilians หรือGrays ไม่เข้าใจในพลังงานนี้เลย

    พลังงานความรักนี้ สามารถนำเราให้เดินทางไปถึงในระดับ 12 ได้ แต่ก็ไม่มีทางไปได้ไกลกว่าพลังงานต้นแบบ เพราะมันสิ้นสุดที่นั่น

    แม้แต่ญาติ พี่น้อง ของเราจากดาว Lyrae เองก็ใชพลังงานนี้ในการเดินทางและอยู่ได้ด้วยพลังงานนี้ (นี่แค่ระดับ 4 เองนะครับ) พวกเขายังเรียนรู้ที่จะไปให้ไกลกว่านั้น

    มารู้จักคุณโลก....อันที่จริงโลกเรานั้นมีชีวิต หรือเรียกอีกทีก็เป็นพลังงาน(spiritual) ที่คล้ายกับมนุษย์


    ในยุคโบราณนั้นค้นหาน้ำและแร่ธาตุต่างๆไต้พื้นผิวโลกโดย ใช้สิ่งที่เรียบง่ายมาก คือใช้กิ่ง hazel,rowan ,willow โดยทำเป็นรูปตัว Y ชี้ไปตามจุดที่เรียกว่า earth energy grid
    ถ้ากิ่งไม้สั่นไหวก็แสดงว่าตรงนั้นมีแร่ธาตุหรือน้ำอยู่

    ทำไมคนในยุโบราณถึงเข้าใจในสิ่งนี้ ก็เพราะว่าพลังงานโลกนั้นเชื่อมโยงกับพลังงานที่มีอยู่ในมนุษย์

    space time-lines

    มีหลายประเทศที่พยายามค้นหาพลังงานของโลก ( ley-lines)

    รูปร่างของพลังงานโลก ley-lines ไม่สามารถวัดความยาวของมันได้ เพราะเส้นทางหรือสนามพลังงานของโลกนั้นมีขอบเขตที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ
    ในภาพเส้นที่อยู่ตรงกลางถ้าพลิกมองด้านตรงดู จะเห็นว่าเป็นแค่จุด และมีวงจรขั้วบวกและลบวิ่งอยู่เป็นวงกลม ลักษณะเหมือนโดนัท
    แต่ถ้ามองด้านข้างจะเป็นลักษณะเหมือนคลื่นที่วิ่งสลับขั้วบวก- ลบ และจุดตรงกลางที่มันวิ่งมาชนกันจะเท่ากับ 0 หรือสมดุล(Neutral -Zero line)
    จุดที่3เรียกว่าสมดุลนั่นแหละ เป็นจุดที่(Absolute )คงที่
    [​IMG]

    ดังนั้น earth energy grid นั้นสุดท้ายแล้วก็คือสิ่งนี้

    การเคลื่อนที่นั้นเป็นการเปลี่ยนฐานข้อมูลให้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ เป็นการเคลื่อนที่ระหว่างขั้ว+และ- สรุปคือทุกสิ่งที่เรามองเห็นคือสิ่งที่ว่างเปล่า

    มันเป็นเพียงแค่พลังงานเท่านั้น
    เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ ใช้พลังงาน พลักดันร่างกายให้เคลื่อนไหว
    แต่จริงๆแล้วด้วยตัวพลังงาน เองแล้วมันไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน มันยังอยู่ที่นั่น ที่เดิม (เวลาของปัจุบัน )
    In truth, we or our consciousness rather is always in the ETERNAL PRESENT.

    อ้างถึง
    When we see or feel as if we are moving from one location to another, we are not really moving at all. Although it seems as if we are definitely moving through time and space, our senses deceive us . . . it is really just the information that is altering or changing within our own consciousness?? and seeing as our surrounding reality is made-up of our own energy, then this is what we will sense and experience

    เรารู้ว่าร่างกายเราเคลื่อนไหว สามารถไปตามที่ต่างได้ ฯลฯ แต่ที่จริงแล้วเราอยู่ที่เดิมเพียงแต่มีการเปลี่ยนฐานข้อมูล ในพลังงาน เท่านั้นเองดังนั้นเราจึงอาศัยอยู่ใน (unconscious)
    ที่เราไม่สามารถรู้สึกได้เพราะจิตไต้สำนึกเรายังไม่ตื่น และ Ego ที่พยายามผลักความเป็นจริงเกี่ยวกับผู้สร้างออกไป

    earth energy grid
    [​IMG]

    ดังนั้นเอง พวก Raptilians จึงใช้เส้นทางของพลังงานที่หนาแน่นของโลกเหล่าสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ
    ตัวอย่างเช่นรูปข้างล่างเพื่อดึงพลังงานของโลกไปใช้ตามจุดประสงค์

    [​IMG]


    ร่างกายของมนุษย์เองก้อมีจุดของพลังงานที่เหมือนกับโลก
    [​IMG]

    เอามาจากที่นี่ครับ www.freewebs.com/garyosborn/dimensiondoorways.htm
    Space-Time-lines

    by Gary Osborn 2003

    There has been some important practical research done recently regarding the Earth?s energy meridians, known as ?Ley-lines,? (English) ?Fairy Paths,??(Irish) ?Dragon Paths,??(Chinese) and ?Song Lines,??(Australian Aborigine.)
    ??? The?first?research?into ?Ley lines? in modern times was?attempted by Alfred Watkins, who first coined the term ?Ley? in 1921.
    ??? Two pioneers in this area, who have published their findings in recent years, are Paul Broadhurst and Hamish Miller: The Sun and the Serpent, (1989), and?The Dance of the Dragon,?(2000).
    ??? The existence of these ?Leys? is still being debated between researchers and scientists. However, like the human mind that can perceive and contemplate their existence, ?Leys? cannot be measured:?our present understanding is that they?are ?conduits? of infinite energy that only become extant when we find many different sites or famous landmarks linked together in a straight line - these alignments originally based on what our distant ancestors had found perhaps through psychic means - i.e., dowsing. We could think of Leys as neutral-zero null-lines. ?
    ???
    Before we go onto the subject of ?Leys? and the Earth?s lines of force, we are going to look at wave phenomena.
    ??? What follows is perhaps how our ancient ancestors understood the dynamic driving force in all wave phenomena and in their own simple way. See also Cycle Diagrams.?(Click on Ouroborus image entitled Cycle Diagrams).


    http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=34464&st=150


    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25337 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>[​IMG] บันทึกการเข้า </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ฟังคุณ QUARK ต่อ
    --------
    พูดถึงความเป็นมาของมนุษย์และreptilians และรู้จักโลกไปแล้ว ทีนี้มารู้จักผู้สร้างหรือพลังงานต้นแบบบ้างครับ (ฟังดูอาจเหมือนนิยาย แต่มันคือความจริง)

    พอพูดพูดถึง พระเจ้า หลายคนรีบปัดความคิดนี้ออกไปทันที ที่ผมเชื่ออย่างนั้นเพราะ EGO
    ของในความคิดมนุษย์สร้างกำแพงบังความจริงนี้อยู่ แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ไม่อาจปฏิเสธแนวคิดนี้ไปได้

    จึงได้มีทฤษฏีต่างๆมาค้นหาความเป็นพระเจ้าหรือ เอกภพ

    หลายคนถามว่าพระเจ้าคือใคร มีตัวตนหรือไม่ แล้วสร้างจักรวาล โลก สรรพสิ่ง
    และมนุษย์เผ่าพันธ์ต่างๆมาทำไมเพื่ออะไร (ถ้าถามผมแล้วในบางคำถามต้องตอบว่าไม่รู้จริงๆ)
    เพราะสมอง หรือ consciousness อันน้อยนิดของเราเข้าใจได้ไม่หมด

    ยกตัวอย่างเช่นโลกของมด กับ มนุษย์ มดจะเข้าใจมั้ยว่ามนุษย์กำลังทำอะไรคิดอะไรอยู่ ไม่มีทาง

    พระเจ้าหรือผู้สร้างก็เช่นกัน พลังงานเริ่มต้นหรือผู้สร้างนั้นเกินความเข้าใจของมนุษย์หรือพลังน้อยนิดอย่างเรา

    จากการที่ได้ค้นคว้าข้อมูลมามากมาย เราอยู่ในโลกสมมุติก็จริง แต่เราไม่ได้สร้างสิ่งสมมุติโดยการเปลี่ยนฐานข้อมูลในพลังงานของเราทั้งหมด

    อย่างที่บอกไป ว่าถ้าเทียบพลังงานของมนุษย์กับพลังงานต้นแบบแแล้วก็เหมือนมดกับมนุษย์หรือเราอาจจะเล็กกว่านั้นด้วยซ้ำ



    ถ้าเราพูดว่าเราอยู่ใน matrixนั้นหลายคนอาจจะงง ว่าทำไมเรามีสิ่งที่จับต้องได้ และถ้าอย่างนั้นเรื่องการสร้างโลกก็เป็นเรื่องเหลวไหล

    คือมันอย่างนี้ครับ โลกที่เราเห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้ มันเป็นสภาวะจำลองที่ถูกสร้างมาจากอนุภาคที่เล็กที่สุด มาจากอนุภาคเดียวกัน

    ตัวอย่าง พลังงาน-ควาร์ค(หรือเล็กกว่านั้น)ที่เป็นอนุภาคเริ่มต้น- อิเล็กตรอน-โปรตรอน-อะตอม-โมเลกุล-และสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นฯลฯ- และมาจบที่(พลังงาน)

    ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามองลงไปในทีวีหรือคอมฯ ทีวีหรือคอมฯ โดยตัวมันเองมันไม่มีภาพถ้าถอดปลักและถ้ามองลึกลงไปแยกส่วนประกอบ แยกโมเลกุล-อะตอม ฯลฯ จนเล็กที่สุด จนสลายไปก็คือความว่างเปล่าฉนั้นสิ่งที่ขับเคลื่อนคือพลังงานไฟฟ้า

    ฉนั้นทุกสิ่งอย่างล้วนมาจากพลังงาน และสุดท้ายก็เหลือแค่พลังงาน อย่างเช่น พลังงานของโลก สุดท้ายมันก็คือพลังงานที่มีรูปร่างเหมือนโดนัท

    และพลังงานทุกพลังงาน ทั้งโลกและจักวาลล้วนมาจากพลังงานต้นแบบ เพราะนั้นเองพลังงานโลกจึงวัดความยาวจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดของมันไม่ได้

    เพราะมันถูกเชื่อมโยงกับพลังงานต้นแบบ



    พระเจ้าหรือพลังงานต้นแบบสร้างโลก มนุษย์มาทำไม สร้างยังไง (เอาตามความเข้าใจอันน้อยนิดของมนุษย์นะครับ)

    ที่บอกไปข้างต้นว่า พลังงานนั้นมีหลายระดับ 0-12หรืออาจมากกว่านั้น และการที่จะไต่ระดับไปจนไกล้พลังงานต้นแบบ คือการอยู่หรือใช้พลังงานความรักในการขับเคลื่อน ถ้าถามว่าพระเจ้าหรือพลังงานต้นแบบคือใคร ต้องบอกว่าพระเจ้าคือ ความรัก (และพลังงานความรักนั้นแยกย่อยมาอีกเยอะมาก)



    พระเจ้าสร้างโลก มนุษย์และจักวาลและสรรพสิ่งมาเพื่อจำลองรูปแบบของความสมบูรณ์แบบ ของความเป็นผู้สร้าง และการสร้างนั้นไม่เคยผิดพลาด

    มนุษย์ถูกสร้างมาอย่างสมบูรณ์แบบ (เป็นรูปแบบจำลองของพระเจ้าหรือพลังงานต้นแบบ)แรกสร้างนั้นมนุษย์จดจำผู้สร้างของเขาได้และรู้สึกตัวว่าตัวเองเป็นใคร

    ด้วยเหตุนี้มนุษย์ในยุคโบราณจึงมีอายุที่ยืนยาว

    เพราะมนุษย์ยังไม่ถูกควบคุมโดย พวก Reptilians (พวกนี้ก็ถูกสร้างมาเหมือนกันแต่ไม่ได้ถูกสร้างมาให้อาศัยอยู่ที่นี่)

    พอมนุษย์ถูกควบคุมก็เริ่มหลงลืมผู้สร้างของเขา และลืมความเป็นตัวเอง(ว่าแท้จริงตนเองเป็นแค่พลังงานและอาศัยอยู่ในรูปแบบจำลองนี้)



    ฉนั้นพระเจ้าสร้างมนุษย์และสรรพสิ่ง ด้วยพลังงานความรัก (เช่นเดียวกับมนุษย์ในการสร้าง ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง
    จนสำเร็จด้วยความรักและเอาใจใส่ในผลงานชิ้นเอก เราก็ภาคภูมิใจในสิ่งที่เราสร้างมากับมือ)



    พระเจ้าสร้างโลกมายังไง

    สร้างด้วยพลังงานเสียง


    มีการทดลองโดยการเอาทราย (อนุภาคที่ใหญ่กว่าควาร์คมากมาย)ใส่ลงไปในน้ำ และใช้เสียงจากเปียโน โดยการเล่นโดยใช้คีย์ที่ต่างกัน

    จะพบว่าทรายมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์โดยเป็นภาพต่างๆในเสียงที่ต่างกัน ยิ่งความถี่ของเสียงมีมากเท่าใด ภาพยิ่งมีความซับซ้อนมากเท่านั้น ทรายซึ่งมีอนุภาคใหญ่กว่าควาร์คมากแต่ยังเปลี่ยนรูปได้ขนาดนี้ ฉนั้นเองการที่ผู้สร้างใช้ความถี่เสียงอันทรงพลังในการรวบรวมอนุภาคที่เล็กกว่าควาร์ค ในสถานที่ต่างกัน (แกแลคซี่ต่างๆ) ในลักษณะรูปแบบเดียวกันนี้

    พวก Reptilians ควบคุมเราครั้งแรกโดยทางความเชื่อ (Manipulation)
    โดยทำให้มนุษย์คล้อยตามความคิดของมัน (อย่างที่บอกไปพวกนี้พลังงานและเทคโนโลยี่อยู่ในระดับ 3พวกนี้ถูกสร้างมาก่อนมนุษย์)
    จึงเป็นเรื่องง่ายในการควบคุมมนุษย์ที่ยังอยู่ในระดับ0

    แต่พวกนี้ไม่เข้าใจในเรื่องพลังงานความรักเลย พระเจ้าสร้างทุกสิ่งด้วยความรักก็จริง
    แต่ก็ให้อิสระทางความคิดกับมนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่น เช่นเดียวกับพลังงานที่มีขั้ว บวกและลบ
    พวกReptilians เลือกที่จะเป็นลบ หรือดำ

    (ความสมบูร์แบบของพระเจ้านั้นมี ขาว ดำ บวกและลบ มันก็ยากที่จะอธิบายแต่มันเป็นความสมบูรณ์แบบอ่ะครับ)

    แต่ก็แน่หล่ะผู้สร้างเมื่อสิ่งที่สร้างถูกคุกคามก็คงไม่อยู่เฉยๆ นะผมว่า
    เพราะนั้นเอง เรื่องราวของผู้สร้างจึงถูกพูดถึงกันมากมายในขณะนี้ เพื่อมนุษย์จะตื่นขึ้นและรู้จักตัวตนที่แท้จริงและผู้สร้างของเขา

    ฉนั้นคนที่กลัวเรื่องปี 2012 หรือวันสิ้นโลกอย่ากลัวไปเลยครับ เพียงแต่คุณตื่นขึ้นมารับรู้ความจริง และเริ่มใช้พลังงานความรัก เสียตั้งแต่ตอนนี้

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/VmVaOYDQAiY&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    และความเคลื่อนไหวของพวก Reptilians & Grays เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก
    Project Blue beam ในตอนนี้ถูกพัฒณามาเป็น Project H A A R P แล้วครับ

    Project นี้ 1) สามารถควบคุมหรือสร้างพายุ แผ่นดินไหว สึนามิ โดยใช้พลังงานเสียงได้ ถูกทดลองใช้ในหลายที่เช่น ไทย

    อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น พม่า ล่าสุดและตอนนี้คือ จีน เป้าหมายคือลดประชากรมนุษย์


    2) สร้างภาพ สามมิติ ในตอนนี้มีการทดลองนำมาใช้กันบ้างแล้ว เช่นที่ ญี่ปุ่น ล่าสุด มีคลิปอยู่ข้างล่างครับ และ appleก็ผลิต

    มือถือแบบนี้มาแล้วครับ แต่นี่เป็นการยิงสัญญาณจากคอมฯขนาดจิ๋ว

    แต่จุประสงค์หลักคือ One world religion เพื่อจะควบคุมได้ง่ายขึ้น จะมีการนำเอา Project นี้ มาใช้โดยการ ยิงสัญญาณ

    จากดาวเทียม โดยใช้ระบบ airwaves ELF,VLF,LF โดยสร้างภาพ 3 มิติ บนท้องฟ้า

    รวบรวมเอาความเชื่อทุกศาสนาเข้าด้วยกัน ในคลิปมีการกล่างอ้างถึงพระเยซู คนที่เป็นคริสเตียนอย่าเพิ่งโกธรนะครับ พระเยซู

    คริสมีเคยตัวตนจริงๆในโลกนี้ แต่ไม่ใช่แบบที่พระคัมภีร์พูดถึง ข้อความมันถูกเปลี่ยนแปลงไปมาก

    และศาสดาในทุกศาสนามีเคยตัวตนอยู่จริงแต่ไม่ใช่ที่หลายคนเข้าใจ มันถูกบิดเบือนเพื่อนำมาใช้ควบคุมมนุษย์ เจ้าของข้อ

    ความนี้ถูกฆ่าไปนานแล้วครับ ILLUMINATI H A A R P Project Bluebeam ฐานรู้ความจริงมากไป




    ILLUMINATI The Blue Beam Project Top Secret 1


    ILLUMINATI The Blue Beam Project Top Secret 2


    Gigantic Holographic 3D Godzilla In Japan !!!


    H A A R P Project Bluebeam


    วันนี้ผมมาต่อครับ (อ้อ..ผมบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้มาเผยแพร่ศาสนาใดๆนะครับฟังดูอาจจะคล้ายลัทธิ นิวเอจ แต่ไม่ใช่ครับ(เพราะนิวเอจไม่เชื่อในพระเจ้า)ผมเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึงที่มีข้อสงสัยในความเป็นมาและเป็นไปของโลกมนุษย์และจักวาล และพยายามค้นหาข้อมูลและคำตอบให้ตัวเองและเอามาแบ่งปันกับเพื่อนๆ)

    พลังงานความรัก

    อย่างที่บอกไปว่าพลังงานความรักนั้นผู้สร้างได้ใส่มาในความจำเราโดยธรรมชาติ
    จะสมบูรณ์ได้คือเป็นผู้รับและผู้ให้ มนุษย์เราถูกสร้างมาจากอนุภาคเดียวกับโลกและจักวาล
    (แต่มนุษย์เราเป็นสิ่งจำลองรุ่นล่าสุดและสมบูรณ์แบบ)

    พลังงานก็เป็นพลังงานที่มาจากที่เดียวกัน(เพียงแต่พลังงานที่อยู่ในเราเป็นพลังงานคล้ายหรือเหมือนพลังงานต้นแบบหรือเรียกอีกทีคือเข้มข้นกว่าพลังงานอื่น)


    เพราะนั้น พลังงานของมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้ และเชื่อมโยงเข้ากับพลังงานต้นแบบ
    แต่ที่เราลืมว่าเราเป็นพลังงานเดียวกัน เราเป็นหนึ่งเดียวกัน็เพราะพวก Reptilians มันควบคุมเรามานานมากจนเราลืมและห่างจากความจริง

    ว่าเรานั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน พวก Reptilians ทำให้เข้าใจว่าเราต่างกัน สร้างความรู้สึกแปลกแยก
    (เคยรู้สึกแบบนี้มั้ยบางทีเราอาจเจอคนแปลกหน้าแต่เรารู้สึกคุ้นกับคนนี้มากเลย
    หรือบางทีที่เราไม่เคยไปมาก่อนแต่เรารู้สึกเหมือนเคยมาแล้ว นั่นก็เป็นเพราะเรากับโลกใบนี้นั้นมีพลังงานที่เชื่อมโยงกันอยู่)

    นั่นแหละที่บางครั้งที่จิตสำนึกของโลกแ่ห่งความเป็นจริงเราตื่นขึ้น
    ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน พลังงานนั้นเหมือนเป็นร่างกายเดียวกัน
    (เพราะนั้นการเกลียดหรือทำร้ายกันและกันก็ไม่ต่างอะไรกับการทุบตีร่างกายของเราเอง)

    การที่จะรักคนอื่นได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมั้ย มันจะยาก ในแบบที่ว่าเรายังไม่เปลี่ยนมุมมองและความเข้าใจของเรา
    แต่มันจะง่ายถ้าเราเปลี่ยนมุมมองของเรามองในโลกแห่งความเป็นจริงว่าเขานั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา
    จะแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็เป็นพลังงานเดียวกัน

    ถ้าเขาเจ็บเราก็เจ็บด้วย (อ้อ..ผมลืมบอกไปว่าพลังงานทุกพลังงานนั้นมากำเนิดจากที่เดียวกันก็ต้องรวมไปทั้งสัตว์ ต้นไม้ ฯลฯ ด้วยครับ แต่มนุษย์นั้นเป็นพลังงานที่เข้มข้นกว่า)

    เหมือนกับ ที่คุณ piglet เอามาแปะไว้ Hoponupono การรักษาโรคแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในการนำพลังงานความรักนี้มาใช้ โดยการที่เริ่มต้นแก้ไขจากตัวเองก่อน แต่ไม่ใช่การท่อง ว่า ขอโทษ ให้อภัย ขอบคุณ และบอกว่าเรารักคุณ อย่างเดียวนะครับ เพราะถ้าเป็นแค่อย่างนั้น

    อย่างเดียว ( เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็เหมือนคนที่เล่นดนตรีแบบไม่เป็นเพลงอ่ะครับ ) มันจะต้องเข้าใจและรู้สึกจริงๆจากส่วนลึกในใจเราว่าเรารักเขา และมองโลกในความเป็นจริงว่าเราเป็นพลังงานเดียวกัน มันถึงจะเกิดผลอย่างนั้นจริงๆ


    การที่พูดว่าขอโทษ ขอให้ยกโทษให้ และบอกรัก นั้น มันเป็น ส่วนที่อยู่ลึกๆในความรู้สึกของมนุษย์ว่าเราทำผิดกับผู้สร้างของเรามากมาย ในการที่เราหันหลังให้ผู้ที่สร้างเรามานานแสนนาน มันเป็นการประกาศว่าเรารักผู้สร้างของเรา นั่นแหละการรักษาโรคในลักษณะแบบนี้จึงเกิดผล


    และความรักของผู้สร้างเราก็เชื่อมโยงเข้ากับพลังงานอื่นๆที่เรากำลังคิดถึงเขาอยู่ และปลดปล่อยเขาจากการที่เขาถูกควบคุมอยู่ หรือเจ็บป่วยอยู่


    อ้อ...ผมจะพูดถึงโรคภัยไข้เจ็บที่มนุษย์เป็น คือ มันไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งความเป็นจริงของเรา โรคต่างๆ เหล่านี้ ถ้ามองในแบบอนุภาคที่เล็กที่สุด มันก็คือคลื่นพลังงานขั้วลบ ที่มันควบคุมพลังงานที่มีอยู่ในตัวเรา ดังนั้นโรคเอดส์(ที่เป็นโรคที่Grays คิดค้นขึ้นมา) อันที่จริงมันรักษาให้หายได้

    โดยพลังงานไฟฟ้า ไม่เกิน 10 ครั้ง

    สรุป

    ขั้นแรก บอกกับผู้สร้างครับว่าเราขอโทษในตอนนี้เราจำได้แล้วว่าเราคือใคร และเรารักผู้สร้างและเราเชื่อมโยงกับผู้ที่สร้างเรา และ เริ่มรักคนไกล้ตัวก่อนครับ รักเค้าให้เหมือนกับที่เรารักตัวเอง ให้อภัยซึ่งกันและกัน(ให้อภัยตัวเองและคนอื่นเพราะมนุษย์มีผิดพลาดได้)

    แล้วมองว่าเราแยกจากกันไม่ได้ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วคุณจะเห็นว่าบางสิ่งบางอย่างรอบตัวคุณเปลี่ยนไป (แต่อย่าคิดว่าเราเป็นผู้วิเศษนะครับเราทุกคนเป็นเหมือนกันขึ้นอยู่กับความเข้าใจเท่านั้นเอง) และเราจะเข้าใจอะไรที่อยู่ในระดับที่สุงขึ้นไปกว่านั้น (เพราะพลังงานมีหลายระดับ)


    พี่น้องเรา จากดาว Lyrae พวกเค้าผ่านตรงนี้ไปแล้วครับ ที่นั่น พวกเค้าอยู่ด้วยความรัก การเคารพ ให้เกียตริย์กันและกัน และเคารพกฎของจักวาล(กฎของพระเจ้า) เค้าอยู่ในระดับ 4 แล้วครับ
     
  12. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    new world order
    ที่พวกมะกันวางแผนจะรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว กำหนดการณ์ในปี 2012 ในตอนนั้นจะมีการนำเครื่องมือ
    อาวุธทีทันสมัยที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา ซึ่งมะกันได้แอบทดสอบและเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด

    เช่น อาวุธควบคุมธรรมชาติ HAARP , ยานขับไล่รุ่นไร้เสียงไร้ทิศทาง (UFO) และอื่นๆอีกมากที่อยู่ในกรุของมัน
    (กระจายไปทั่วแนวเขตทะเลทรายของพวกมะกัน โดยมีห้องปฎิบัตรการและฐานทัพอยู่ลึกลงไปใต้ดิน)
    ของเหล่านี้ พวกมะกันจะงัดออกมาประเคนให้เราจนไม่ได้ตั้งตัว สุดท้ายโทษธรรมชาติตามแผน 5 5 +

    และแว่ว ๆ ว่าจะมีไคล์แม็กซ์ด้วย (เอากะมันสิ มีไคล์แม็กซ์ด้วย ยังก๊ะหนังโรง 5 5 +) นั่นคือการเปิดตัว "พระเจ้า" น่าน มีงี้ด้วย
    อย่าเพิ่ง งง เพราะไอ้ที่มานพูดถึงน่ะ คือพวกเกรย์นั่นเอง มะช่ายเกย์เน้อ [​IMG]

    มันคือเอเลี่ยนสายพันธุ์ทีเรียกว่าเกรย์นั่นแหละ เพราะงั้น โลกใบนี้หลังปี 2012 เราจะได้เห็นไอ้หัวโต ตัวลีบ เดินยั้วเยี้ยะเต็มถนนปัยหมด 5 5 +
    และโลกทั้งโลกจะมีรัฐบาลเดียว! ย้ำรัฐบาลเดียวจริงๆครับ โดยมีพวกมะกันเป็นตัวตั้งตัวตี ก็แหง๋ละมันเริ่มจากแนวคิดของพวกมันนิ - -* หุหุ

    แต่กระนั้นพวกเราก็คงไม่มีโอกาศได้อยู่เห็นความสำเร็จ(อันชั่วร้าย)ของพวก มันหรอกคับ ซี้แหง๋แก๋กันหมดแร้ว 5 5 + มีการคาดการณ์ไว้ว่าหลังเหตุการณ์ 2012 มนุษย์เราๆ
    จะเหลือราว 5% ของจำนวนมนุษย์ทั้งหมดในปัจจุบัน เห็นมั้ยครับ พวกมันจะฆ่าพี่น้องตัวเองกว่าค่อนโลกเพื่ออุดมการณ์ของพวกมัน! !
    อย่างว่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่มีทางยับยั้งพวกมันอยู่แล้วล่ะครับ ที่ผมเอามานำเสนอนี้
    ก็เพื่อให้พวกเราได้รู้เท่าทันแผนการณ์ของพวกมันก่อนที่จะกอดคอกัน แดดิ้นหมู่ ก็เท่านั้นเองครับ โฮะ ๆๆ
     
  13. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องพวกนี้ ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]


    NEW WORLD ORDER จากโอบาม่า มีคนบอกว่า โอบาม่า ไม่ต่างอะไรกับ
    ฮิตเลอร์ ไม่แน่ว่า อาจจะกำลังเผยตัวตนเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ก็ต้องรอเวลาพิสูจน์

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/0CV8Xt2VWvc&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/Xld4P4nz5hA&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/G4oO_B6dOrc&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&feature=player_embedded&fs=1 AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/S3Fo1zEjCRw&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&feature=player_embedded&fs=1 AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25346 class=smalltext vAlign=bottom>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2009, 04:19:10 โดย ~WaSaBi~ » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    มนุษย์ถูกหลอกให้เชื่อสารพัด ที่เราป่วยหรือเครียดเกิดจากการกินที่ไม่ถูกต้องหรือเปล่าเพราะในอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดก็ส่งผลกับสมอง

    (ผมแนะนำให้ทานมังสาวิรัติครับ เลี่ยงเนื้อสัตว์ได้เท่าไหร่ยิ่งดีไม่ใช่ว่ากลัวบาปนะ แต่เนื้อสัตว์ในปัจุบันนั้นมี สารเคมีมากมายที่สลายโดยความร้อนได้ยากมาก -

    -สารเคมีบางชนิดก็ไม่สลาย ทานผักถึงแม้มีสารเคมีบ้างแต่มันสลายไปกับความร้อนได้ง่าย ไปกับน้ำอย่างน้อยก็เหลือในปริมาณที่น้อยกว่า)

    มนุษย์นั้นโดยแท้จริงไม่ต้องกินยาอะไรทั้งนั้น มันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ ผู้สร้างได้ให้สิ่งเหล่านี้ในธรรมชาติต่างๆ กินอาหารให้เป็นยากินยาให้เป็นอาหาร

    เพียงแต่ว่าผู้คนยุคไหม่ยังไม่รู้จักสรรพคุณของมันเหมือนดังเช่นคนยุคโบราณ ตัวอย่างเช่น มะรุม ต้นไม้มหัศจรรย์ ผู้คนที่ทวีป แอฟริการอดตายจากการ ขาดสารอาหาร อดอยากก็เพราะกินมะรุมนี่แหละ

    ตอนหลังยังค้นพบด้วยว่ามันสามารถรักษาโรคเอดส์ได้ด้วย

    (ปล.เมื่อก่อนผมเคยกินสารพัดวิตมิน ทีละเป็นกำๆ หมดเงินไปเยอะมากกับพวกนี้ตอนนี้บริษัทผลิตยาเหล่านี้ไม่เคยได้กินเงินผมอีกเลย -

    -แถมตอนนี้สุภาพผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกโรคหอบหืดมันไม่เคยมาเยือนอีกเลย หลังจากเปลี่ยนนิสัยการกิน)


    ผมได้บอกไปตอนต้นว่า
     
  15. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">อ้างถึง
    ต่พวก Reptilians ได้ทำการดึงเอา DNA ของมนุษย์ออกไปตั้ง10 DNA โดยวิธีต่างๆผ่าน อาหารบ้าง ยา บ้าง น้ำหรือเครื่องดื่มบ้าง

    หรือการทดลองในแลป ฯลฯ จึงส่งผลให้พิการบ้าง จิตไม่ปรกติบ้าง(เพราะมันส่งผลโดยตรงกับสมอง)

    ยาบางชนิดไม่แค่ทำให้เป็นโรคจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ DNA ของมนุษย์เปลี่ยนไป


    ส่วนใครที่ยังมีแนวคิดว่ามนุษย์มีวิวัฒณาการมาจากลิง ก็เข้าไปดูที่ลิ้งนี้ ที่แลกมาด้วยการหมดอณาคตของนักวิทยาศสตร์หลายท่านที่เคารพความจริง
    ส่วนหลักฐานหลายๆอย่างที่ถูกค้นพบ สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงแค่บางชิ้นเท่านั้น ที่ยังตกอยู่ในมือของนักวิทยาศาสตร์ที่น่านับถือเหล่านี้
    ดังนั้น แนวคิดของ ชาร์ล ดาวิน จึง ผิดถนัด

    http://www.youtube.com/results?search_query=mysterious+origins+of+man&search_type=&aq=0&oq=mysterious+o

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/HojJPNqMGC4&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/-wox3SfzBA8&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>


    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_25347 class=smalltext vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    XterRitzon



    ในอนาคตไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะเป็นโรคระบาดที่อันตรายที่สุดเท่าที่โลกเคยเผชิญ



    เนื่องจากหลายวันก่อนพวกผมและกลุ่มแครกเกอร์จากใต้ดินกลุ่มนึงจากนานาชาติ ไม่ขอเปิดเผยชื่อได้แฮ็กเข้าระบบฐานข้อมูลลับสุดยอกของรัฐบาลอเมริกา, CIA, และรวมทั้งหน่วยสืบสวนคดีพิเศษFBIด้วย จากข้อมูลที่ได้มานั้นมีเรื่องนึงที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่2009 (เค้าว่างั้น) ใจความคร่าวๆเลยก็คือ ในไฟล์ดาต้าเบสระบุว่า ไอ้เชื้อนรกนี้มันไม่ได้กลายพันธุ์จากหมูอย่างที่เป็นข่าว แต่มันกลายพันธุ์มาจากหมานั่นเอง เป็นเชื้อไวรัส Rabies ซึ่งอยู่ในสาย Family Rhabdoviridae, genus Lyssavirus หรือเรียกภาษาเราๆว่า เชื้อพิษสุนัขบ้า ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายได้ การกลับมาครั้งนี้มันได้เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมและโครโมโซมใหม่และได้รวมเข้า กับ เชื้อ Influenza virus หรือที่เรียกง่ายๆว่าไข้หวัดใหญ่คนนั่นแหละคับ แต่ครั้งนี้มันได้ถูกดัดแปลงพันธุ์กรรมใหม่ ทำให้รับมือได้ยากมาก จะสังเกตุได้ว่าเชื้อ 2 ชนิดนี้จะติดต่อกันทางน้ำลายเป็นหลัก และทางอากาศด้วย โดยเชื้อตัวนี้มีคุณสมบัติของทั้ง 2 โรครวมกันเลย แต่ของไวรัส Rabies ยังถูกข่มอยู่ ก็เลยยังไม่แสดงผลที่แน่ชัด แต่คาดว่าอีกไม่นานการกลับมาระบาดครั้งที่สองของเชื้อนรกนี้มันจะแสดง ศักยภาพได้อย่างเต็มที่แน่นอน


    จากการสังเกตุพบว่าขณะนี้เชื้อไวรัสนี้ได้ทำให้คนที่ติดเชื้อแค่ปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย บางรายจะมีอาการชักกระตุก และมีอัตราผู้ที่เสียชีวิตต่ำมาก ๆ ซึ่งแน่นอน ก็นั่นมันเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง ที่เป็นแผลนการปล่อยระบาดระลอกแรกขององค์กรลับองค์กรหนึ่ง และในอนาคตจะมีการปล่อยระบาดครั้งที่สองและจะเป็นการระบาดครั้งร้ายแรงมากๆ ซึ่งเป็นการปล่อยเชื้อไวรัสชนิดที่กลายพันธุ์สมบูรณ์ให้มาระบาดในระลอกที่ สองนั่นเอง นั่นก็หมายถึงหายนะครั้งใหญ่ของมนุษยชาติเรยทีเดียว ซึ่งทางนั้นบอกว่า อาการในครั้งนี้จะติดต่อกันได้ไวมาก ส่วนใหญ่จะทางน้ำลาย และของเหลวในตัวผู้ชิดเชื้อเป็นหลัก และอาจจะทางอากาศด้วยนิดหน่อย นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวเชื้อไวรัสเอง อาการของผู้ที่ติดเชื้อก็คือ จะมีอาการทางประสาทอย่างชัดเจน จำใครไม่ได้เรยแม้แต่ผู้ที่ไกล้ชิด อาจจะไล่ทำร้ายคนรอบข้างอย่างบ้าคลั่ง รูม่านตาเปิด แพ้แสง และสมองจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง คือพูดง่ายๆ คนๆนั้นจะไม่มีทางหายเป็นปกติได้เรย!! ! บ้าไปตลอดชีวิตนั่นเอง เนื่องจากสมองถูกทำลายไปบางส่วน จึงทำให้ผู้ติดเชื้อจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ซึ่งมันก็เหมือนคนที่ตายไปแล้วนั่นเอง (ที่จริงหากนึกถึงหนังเรื่อง 28 days later ก็คงจะทำให้เข้าใจง่ายกว่า) และแผนรับมือนั้น ทางอมเริกาก็ยังไม่ทราบเช่นกัน แต่มีแผนสำรองไว้แล้วนั่นคือ กักกัน และทำลาย !! (อันนี้ผมยังไม่ทราบความหมายที่แน่ชัด แต่เท่าที่รู้มาว่าขณะนี้ทางรัฐบาลอเมริกาได้ทำการสร้างค่ายกักกันไว้ทั่ว ประเทศแล้ว ชื่อว่า FEMA camp คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่วันข้างหน้า)


    เมื่อไม่กี่วันมานี้ พวกเราสืบค้นจนทราบว่า พวกที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ทั้งหมดก็คือองค์กรลับองกรหนึ่งนามว่า Illuminati ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีพวก Reptilian (พวกต่างดาวสายพันธุ์หนึ่ง)มีเอี่ยวด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย และรู้สึกว่าจะเป็นหัวโจกซะด้วย! ในข้อมูลไฟล์ยังระบุว่า จากการตรวจสอบดูลักษณะพันธุกรรม และ โครโมโซม ของไวรัสนี้แล้วพบว่าความลับบางอย่างแฝงอยู่ และการจะคิดค้นวัคซีนขึ้นมาป้องกันไวรัสชนิดนี้นั้นด้วยเทคโนโลยี่ของเราตอน นี้ไม่สามารถกระทำได้ มันต้องพึ่งพากระบวนการผลิตอันจะต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อย่างการแปรสภาพแบคทีเรียโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นต้น ซึ่งขณะนี้พวกกลุ่ม Illuminati ได้มีวัคซีนไว้ในครอบครองจำนวนหลายล้านโดส โดยอาสัยเทคโนโลยีของพวก Reptilian ในการผลิตวัคซีน และพวกมันมีแผนแพร่กระจายไวรัสให้ระบาดไปทั่วโลกระลอกที่สองในเร็วๆนี้ ตามแผนการกำจัดประชากรมนุษย์ขยะทิ้งกว่าค่อนโลก (New World Order) !!ของพวกมัน ไวรัสตัวนี้ถูกทดลองครั้งแรกที่เมือง Bonanza City ซึ่งอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโก จนเกิดการระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสนี้จำนวน 3 ระลอก ระลอกแรกที่ทำการปล่อยไวรัสตัวนี้ครั้งแรกในปี 1889 ระลอกที่สองในปี 1897 และระลอกสุดท้ายในปี 1911 (โดยสองระลอกแรกเป็นชนิดที่ยังไม่ได้กลายพันธุ์อย่างสมบูรณ์ จึงยังไม่มีความรุนแรงมากนัก และระลอกที่สามซึ่งเป็นระลอกสุดท้าย จะเป็นชนิดที่รุนแรงกว่า และมีการณ์กลายพันธุ์ของไวรัสอย่างสมบูรณ์แล้ว) ส่งผลให้ประชาชนพลเมืองที่นี่ล้มตายไปกว่าค่อนเมือง และในปี 1911 นั้นเอง ทางรัฐบาลได้สั่งปิดเมือง และทำลายทั้งเชื้อไวรัสทั้งพลเมืองไปจนหมดสิ้น พร้อมกับปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับระดับสุดยอด โดยให้ข่าวว่าเมืองนี้ถูกไฟเผาผลาญวอดทั้งเมืองจากเหตุระเบิดของเหมืองถ่าน หินที่อยู่ใต้เมือง ส่งผลให้เมือง Bonanza City นี้กลายเป็นเมืองร้างมาจวบจนทุกวันนี้!


    การทดลองแพร่เชื้อครั้งที่ 2 นี้เกิดขึ้นที่เมือง Centralia รัฐเพนซิลเวเนีย ในปี 1981 ส่งผลให้ชาวเมือง Centralia เสียชีวิตลงกว่าค่อนเมือง จนทางรัฐบาลต้องประกาศทำลายเมือง Centralia ไปพร้อมกับพลเมืองโดยไม่สนว่าใครจะติดเชื้อหรือไม่! ? และได้ทำลายเชื้อโรคไปจนหมดเช่นกัน แต่ก็ไม่วายสั่งให้ปิดเมืองนี้ซะ พร้อมด้วยปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับระดับสุดยอดเช่นเคย โดยอ้างว่าพื้นที่เมือง Centralia เป็นเมืองที่ประสบภัยเหมืองถ่านหินระเบิด ทั้งเมืองถูกเปลวเพลิงเผาวอดทั้งเมือง และควันพิษจากใต้เหมืองได้คร่าชีวิตพลเมืองไปจนหมดสิ้น จนกระทั่งปัจจุบัน เมืองนี้ก็ยังคงถูกปิดตายอยู่พร้อมกับความลับระดับสุดยอด! !

    และตอนนี้ เป้าหมายของพวกมันก็คือพลเมืองโลกครับ! หากแต่ไม่ใช่การทดลองตามเมืองชนบทต่างๆอีกต่อไป. ....


    เปนอย่างไรบ้างครับ สำหรับข้อมูลลับสุดยอดอันนี้ ซึ่งอยากให้เพื่อนๆชาวสีแดงได้รับรู้ไว้และออกมาแสดงความคิดเห็นกันหน่อยคับ และจะได้เก็บเป็นข้อมูลสำหรับประเทศไทย และเว็ปสีแดงนี้ได้รับการเลือกให้ลงบทความและข้อมูลทั้งหมดเป็นที่แรกครับ ซึ่งบทความอันนี้จะถูกโพสตไปทั่วทุกทวีปและสำรวจ, เก็บข้อมูลข้อคิดเห็นของผู้คนจากทั่วโลกเพื่อวิเคราะห์และดำเนินการที่ควรจะ ทำต่อไปครับ


    ขอขอบคุณมาก

    XterRitzon







    จากเว็ปนี้ครับ http://atcloud.com/stories/57383
     
  17. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">เพิ่มเติม จากเว็ป เว้ปหนึ่ง



    ผมมีวีดีโอครับเป็นของ ผู้รู้ แพทย์ พยาบาล องค์กรและเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง มาพูดเรื่องหวัด 2009อย่างละเอียดทั้งป้องกัน แก้ไขและแนวทางการรักษา วิตามินดี (D3)ที่จะเป็นพระเอกของเรื่องนี้ อาหารการกิน คำถามคำตอบอย่างละเอียดครับผมจะโพสต์วีดีโอและลิ๊งค์ไว้ให้มากที่สุดครับ

    DavidIke ลึกๆ ว่ากันว่าเค้าเป็นอีลูมินาติที่กลับใจ และเป็นผู้ที่ติดตามเรื่องNWO หรือ New World Order และรู้เบื้องลึกเบื้องหลังมากคนนึงได้ออกมาพูดเรื่องไข้หวัด 2009 เค้าเน้นตลอดครับว่า "Don't have thevaccine"




    ไข้หวัด 2009 สร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาต์จากห้องแล๊บของสหรัฐเอง และมีหลักฐานเป็นเอกสารของ FBI เป็นตัวยืนยันครับ




    เค้าหากินและทำกำไรจากไข้หวัด 2009 กันอย่างไร


    <br style="font-family: Georgia,"Times New Roman",serif;">
    แพทย์และพยาบาลออกมาพูดถึงอันตรายของวัคซีนครับ และเจ้าวัคซีนนี้จะฆ่าคนไม่ต่ำกว่า 60,000 คนในฝรั่งเศษครับ





    ใครที่ใหม่สำหรับบล๊อกนี้และไม่รู้ว่า NWO (New World Order) หรือการจัดระเบียบโลกใหม่ คืออะไร เข้าไปที่นี่เลยครับ
    http://www.goldhips/....r=asc&start=135
    อันนี้เป็นวีดีโอสรุปเรื่อง NWO

    http://www.youtube/.c...feature=related

    ติดตามตอนต่อไปครับ.......

    ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องวนอยู่กับการเกิดแก่เจ็บตาย. ..วงการยาโลก ย่อมทรงอานุภาพเสมอ
    คนเยอรมันคุยกันแซ่ด ปล่อยได้ปล่อยไปนะไอ้กัน ทั้งข่าว ทั้งเชื้อ
    คนด้อยท์ชเค้าจับเมิงได้ทุกแมทช์ล่ะว่ะ
    แหมน่ะ เรื่องอำนาจพ่วงเงินอีกมหาศาล
    จริงๆน่ะผลหมากรากไม้ในไทยน่ะ ปราบ HIV ได้อยู่หมัดชัวร์
    แต่พอดีนายหวงเป็นหุ่นให้ไอ้กันมันชักกันมันมือ หยูกยาเลยยังไม่สมบูรณ์
    ตัวคนค้นพบก็ระเห็จไปแอฟริกาโน่น...อนิจจา
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_26372 class=smalltext vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">Sy-ah ฟ้าเดียวกัน

    ไปเจอมาอีกเว็ปนึง น่าสนใจดี เกือบรู้รายละเอียดทุกอย่าง จะขาดไปก็แค่ เบื้องหลังของ Illuminati ที่เค้ายังไม่รู้ นอกนั้น จะเป็นอย่างที่เค้าบอกจริงๆครับ

    v
    v



    โพสต์นี้ผมจะเขียนถึงสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นจากปัจจุบันไปจนถึงปี 2012 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า จะเป็นภาพรวมๆของทั้งหมดครับผมไม่ได้เป็นหมอดูหรือหมอเดาจากสำนักไหนครับหรือมีความรู้ใดๆในเรื่องการทำนาย แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล เอกสารหลักฐานที่จับต้องได้ทั้งหมดจากแหล่งต่างๆ ทั้งทางราชการ เอกชน ทหารและในทางลับต่างๆ แล้วเอามาประกอบกับการค้นคว้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเมืองและเหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้น ที่เป็นตัวกำหนด จัดรูป และเปลี่ยนโครงสร้างโลกใบนี้ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบันครับ


    เรื่องปี 2012 ไม่ได้มีอะไรแปลก น่ากลัว หรือตื่นเต้นอะไรหรอกครับแต่เป็นเรื่องของปฏิทินโบราณของชนเผ่านึงคือ "เผ่ามายัณ" ครับหรือที่เค้าเรียกว่า Mayan Calendar นั่นเองแม้แต่ตัวรายละเอียดหรือการพยากรณ์ในปฏิทินของมายัณเองก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวอีก วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หรือ Dec 21, 2012 หรือ 12/21/2012 ข้อเท็จจริงเรื่องนี้หาข้อมูลได้ในอินเทอร์เน็ทนี่แหละครับ (GG, GV, Wiki, YT : Mayan Calendar) เต็มไปหมดครับ หาดูที่เป็นงานสัมนา หรือการจัดประชุมพูดคุยกันเรื่องนี้คือเรื่องปฏิทินมายัณ ก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง


    แต่.......มีการนำวันที่นี้ของปฏิทินมายัณมาใช้งานบางอย่างโดยคนกลุ่มนึงครับเรามาดูตัวเลขครับว่าทำไมต้องเป็นวันที่ 12/21/2012ถ้าเราเอาตัวเลขทั้งหมดมาบวกกันจะได้ 1+2+2+1+2+0+1+2 = 11 ได้ 11 ครับก็คือกลุ่มนี้แหละครับ NWO ( New World Order ) หรือจะเรียกว่าพวกGlobalist, New Age หรือ Illuminusก็คือพวกเดียวกันแต่เรียกได้หลายชื่อครับ


    อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าพวกเค้ากำลังพยายามผลักดันเรื่องการจัดระเบียบโลก หรือ NWO (New World Order) นี้ครับ


    คือเค้าจะใช้วันนี้เป็นวัน End Gameหรือปิดเกมส์หรือแผนการที่เค้าวางกันมาเป็น 100 ปีครับหรืออาจจะเป็นวันที่สงครามโลกครั้งที่ 3 เปิดฉากอย่างเป็นทางการครับอาจะเป็นวันที่มีการกดระเบิดของหลายๆ ประเทศพร้อมๆกันเพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามครับแต่จะขอกลับมาที่ปัจจุบันก่อนที่จะไปถึงตรงนั้นครับเท่าที่ผมมีข้อมูลผมเรียงตารางเวลาหรือ Time Line ไว้จากวันนี้ไปจนถึงปี2012 คือเหตุการณ์หลักๆ ส่วนใหญ่เลยจะไปอยู่ที่ปลายปี 2011 ครับ ภายใน 2-3ปีข้างหน้า คุณจะเห็น.......


    1.ดอลล่าอินเด็กซ์หรือ USDX จะร่วงลงอย่างต่อเนื่องในลักษณะทรงและทรุด" เท่านั้น" จะมีการ Rally หรือดีดกลับบ้างเป็นช่วงๆแต่กระแสหลักคือทรงและทรุดเหมือนเดิมแต่ถ้ามีการฆ่าตัดตอนหรือการตัดเกมส์เร็ว ในปลายปีหน้าหรือปี 2010 นี้จะมีการประชุมในระดับโลก เช่น G20 หรือใหญ่กว่าเพื่อลงมติประกาศ Abandonหรือทิ้งดอลล่าอย่างอย่างเปิดเผยและเป็นทางการครับ หรือ


    2.ถ้าไม่มีการฆ่าตัดตอน เงินดอลล่าอาจจะเสื่อมและล่มสลายภายใน 2-3 ปี ไม่ใช่8-10 ปีอย่างที่ชาติเจ้าหนี้ต้องการดึงกันไว้ครับ คนอเมริกันจะหมดสภาพหรืออยู่ในสภาพที่ทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งจนลง ขาดแคลนอาหารจากภาวะเงินเฟ้อยิ่งยวด หรือ Hyper Inflation และอีกสารพัดปัญหาไม่ต้องรอดูหรอกครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วครับเพียงแต่คุณรู้หรือไม่เท่านั้นเอง ลองออกไปดูข้างนอกสิครับเพราะมีหลายคนได้ไปดูและไปเห็นมาแล้วครับ





    3.ตลาดหุ้นสหรัฐ มี 2 ความเป็นไปได้คือ หนึ่ง "ถ้า" (มีสารพัดเหตุผลให้ต้องมี ทั้ง FDIC, การล้มของรัฐต่างๆ ในทางงบประมาณ,การล้มของภาคการเงินการธนาคารต่าง) มี Stimulus Package 2หรือการปั๊มและอัดเงินเข้าสู่กลุ่ม Wall Street เป็นระลอกที่ 2จะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง จะให้เป็นเท่าไหร่ก็ได้"แต่ทั้งหมดเป็นกับดักครับ" หรือสอง ถ้าไม่มี Stimulus 2เราจะได้เห็นการล้มของตลาดหุ้นสหรัฐในอีกไม่นานครับและทรงกับทรุดไปเรื่อยๆ จนถึง 4,800-3,500-2,500-1,500 จุด ในที่สุดแต่ทางเลือกนี้ ไกเนอร์ออกมาปฏิเสธบ่อยมากก็คือเค้าเอาจะเลิกเร่งเกมส์ให้สั้นเข้ามา


    4.ราคาทองคำ เงิน น้ำมัน ทองแดง และโภคภัณฑ์ต่างๆจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเสื่อมค่าลงของระบบเงินกระดาษหรือPaper Currency พร้อมๆ กันทั่วโลก เราจะเห็นการทำ New High เหนือ New Highของสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติไปเลย โดยเฉพาะทองคำและน้ำมันราคาจะพุ่งขึ้นในอัตราเร่งที่สูงมากครับเตรียมพร้อมไว้ได้เลย


    5.ไข้หวัด 2009 จะระบาดไปทั่วโลกอย่างรุนแรง ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีอะไรมากกว่านั้นแต่คนทั่วโลกจะแห่กันไปฉีดวัคซีนเพราะความกลัวจากการโฆษณาต่างๆแล้วทำให้เกิดการ "ตาย" จำนวนมากในหลายประเทศทั่วโลกจากวัคซีนนี่เองครับและผลจากการรับวัคซีนก็จะทำให้เกิดการระบาดไม่หยุดนั่นเอง เพราะมีทั้งติดทั้งแสดงและไม่แสดงอาการ และบางส่วนที่เป็นพาหะแล้วที่สำคัญถ้ามีการตรวจพบว่าเป็น H5N1, Avian Flu หรือไข้หวัดนกต้องเปลี่ยนแผนรับมือทันทีประมาท
    ไม่ได้เลย เพราะอัตราการตายสูงกว่าหลายสิบเท่าครับ


    6.โดยเฉพาะในสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศษ ซึ่งอาจจะรวม แคนาดา และ แม็กซิโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐและอังกฤษจะเกิดการกดขี่ ข่มเหง บังคับให้ฉีดวัคซีนและจะนำไปสู่การสังหารหมู่ หรือ "Mass Genocide" คนอเมริกันหลายล้านคนดังที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ครับ จะมี Riot การประท้วง Civil War สงครามกลางเมือง และการต่อต้านรัฐบาลอย่างหนักมากๆ ครับ ทั้งในเรื่องการบริหารประเทศและการฉีดวัคซีน



    7.อัตราการว่างงานในสหรัฐคงจะลดลงลำบาก ยิ่ง Commercial Real Estate Lender หรือผู้ให้กู้อย่าง Capmark ซึ่งถือว่าใหญที่สุดในวงการล้มลงไปอาจจะทำให้สภาพคล่องของระบบตรงนี้แย่ลงอีกครับการว่างงานในภาคนี้จะเพิ่มขึ้น มีแต่จะตกงานเพิ่มครับแต่จะมีขยายตัวของรัฐบาลเองเพราะการเข้าไปยึดกิจการในภาคต่างๆ ของรัฐเช่นภาคการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมรถยนต์การสร้างงานจะเกิดขึ้นโดยรัฐและเป็นของรัฐบาลเองครับ


    8.ภาคการเงินการธนาคารจะถูกบีบให้ล้มและมีการควบรวมกิจการของธนาคาจำนวนมหาศาลและจะเริ่มรุนแรงและรวดเร็วขึ้นในปี 2010 (เพราะเรื่อง Mark to Maket ต้นปี 2010)โดยสุดท้ายจะมีธนาคารในระบบเหลือไม่ถึง 10 แห่งในอีกแต่ทั้งหมดจะเป็นธนาคารขนาดยักษ์ใหญ่ของโลก หนึ่งในนั้นแน่นอนก็คือGoldman Suck, JP Morgan ก็คือพวกเค้าเองครับ หรือกลุ่มผู้ถือหุ้น Fedหรือ Federal Reserve นั่นเอง

    9.การเข้าไปประมูลพันธบัตรของ Fed หรือ Quantitative Easing หรือ Debt Monetization หรือการปั๊มเงินจะไปได้ถึงจุดนึงเท่านั้น


    10."การจัดตั้งรัฐบาลโลก" จะเริ่มจากการเซ็นสนธิสัญญาโคเป็นเฮเก้น หรือ"โรคร้อน" นั่นเอง ปลายปีนี้ครับ ไปดูกันครับว่าจะสำเร็จหรือไม่แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าผ่านครับ แล้วกลุ่ม NWOเค้าจะบีบแล้วตีกรอบประเทศต่างๆ ไปเรื่อยๆ ในทิศทางที่เค้าต้องการ


    11.ในสหรัฐจะเริ่มมี Gun Control หรือการควบคุมและยึดอาวุธปืนต่างๆจากภาคประชาชนแต่เท่าที่เค้าพยายามทำในปัจจุบันคือปล่อยให้ซื้อให้เต็มที่ครับเพราะพวกกลุ่ม NWO เป็นผู้ผลิตและขายนั่นเองซึ่งการผลิตอาวุธของพวกเค้าใหญ่เป็นอันดับ 2ของโลกรองจากรัสเซียเท่านั้นครับแต่จะลดปริมาณและไม่ค่อยมีกระสุนขายให้เท่านั้นเองครับ คือให้ซื้อปืนไปแต่จำกัดปริมาณกระสุนครับ


    12.จัดการกับอินเตอร์เน็ตและสื่อต่างๆ ที่ต่อต้าน NWOหรือการจัดระเบียบโลกครับ โดยเฉพาะจะมีอินเตอร์เนต 2.0 หรือ "INTERNET 2"ก็คืออินเตอร์เนตแต่มีการควบคุมและเซนเซอร์สัญญาณต่างๆได้อย่างเต็มที่โดยภาครัฐโดยอ้างเรื่องการก่อการร้ายและความมั่นคงจะเข้ามาครับ

    **** ลองศึกษาเรื่องนี้ครับเพราะเค้าไปกันไกลแล้ว ไม่แน่ใจว่ามาในเมืองไทยหรือยังครับ เหมือนเดิม GG, YT : Internet 2, Internet 2.0 ในสหรัฐเค้าประท้วงเรื่องนี้กันไปมากแล้วเพราะเป็นการจำกัดสิทธิเรื่องการรับรู้ข่าวสารของภาคประชาชนครับเถ้าเค้าทำสำเร็จ พวกนักต่อสู้ชนะยากครับเพราะช่องทางในการสื่อสารเพื่อต่อต้านแทบไม่มีเลย


    13.สงครามจะเริ่มขึ้นในตะวันออกกลางแล้วจะต่อยอดไปเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ถ้าอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ดูหนังสงครามทุกเรื่องที่ฮอลลีวูดสร้างออกมาครับนั่นคือสิ่งที่เค้าจะทำในสงครามในอีก 2-3 ปีข้างหน้า


    แต่ทั้งหมดอย่าประมาทครับ นี่เป็นกรอบเวลาคร่าวๆ ที่ผมรวบรวมได้แต่เค้าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนหรือเลือกเล่นไพ่ใบไหนขึ้นมาก่อนได้ทั้งหมดทุกอย่างที่กลุ่ม NWO เค้าจะทำเค้าจะบอกก่อนครับ ว่าเค้าจะทำอะไรแต่จะไม่บอกตรงๆ เค้าจะซ่อนไว้ตามหนังเรื่องต่างๆ ของฮอลลีวูด เพลงและมิวสิควีดีโอ เพลงของ Viacom ครับ ให้สังเกตุตราสัญลักษณ์ต่างๆ เอาครับ

    โดยสรุปก็คือ อีก 2-3 ปีข้างหน้าสหรัฐอเมริกาจะไม่เป็นอย่างที่คุณเห็นในวันนี้แล้วเค้าน่าจะขมวดปมทุกอย่างแล้ว End Game ทั้งหมดในวันที่ 21/12/2012อย่างที่เค้าวางกันไว้ครับ ถ้าไม่เชื่อแค่มองกลับไปในปี 2007ก่อนที่ฟองสบู่อสังหา Sub Primeจะแตกแล้วลองเปรียบเทียบกันดูกับตอนนี้ครับ เกือบทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วและกำลังพัฒนาไปในทิศทางทั้งหมดนี้ครับ

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_26373 class=smalltext vAlign=bottom>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 6 พฤศจิกายน 2009, 11:44:14 โดย ~WaSaBi~ » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">คั่นนิดนึง สำหรับเรื่อง illuminati
    มาดูกันว่า เมืองไทย ใครเป็น illuminati บ้าง

    จากข้อมูลบอร์ดฟ้าเดียวกัน

    บางคนกล่าวหาว่าทักษิณเป็น อิลูมินาติ
    จากกระทู้ http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=30822

    แต่จากการค้นข้อมูลแล้ว

    และจากความเห็นของคุณ กิ่งมะกอกป่า
    ทักษินเป็นคนรวยจริง แต่ไม่ใช่คนที่อยู่ใน PLAN ของ Illuminati แน่นอน ย้อนกลับไปดูข่าว 20มค.2009 ดู(ใครมาบ้านเรา)
    และมาดู Trilateral Commission Asion Member ( Rockefeller ก่อตั้ง)ว่าไทยมีกี่ชื่อ นี่จ้า http://www.redpills.org/?p=1207
    และนี่ Rockefeller PLAN คลิกเล้ย
    อ้า Rockefeller เป็นแค่ 1 ใน กลุ่ม Illuminati (322skull&bone)

    ลองเข้าไปดูใน youtube ดูนะคะ เกี่ยวกับการจัดระเบียบโลกใหม่ มี 1รัฐบาล 4 union ใช้เงินสกุลเดียว ในรูปแบบไมโครชิพ
    คนกลุ่มนี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง มีอีกชื่อคือ 322 Skull&bone มีสมาชิกลับกระจายทั่วโลก มีธุระกิจหลากหลาย เชื่อกันว่า ณ ปัจจุบัน
    คนทั้งโลกใช้สินค้าของคนกลุ่มนี้ ครัวเรือนละไม่ต่ำกว่า 10 ยี่ห้อ แผนของคนพวกนี้ ขั้นสุดยอดคือกำจัดประชากรโลก 80 %
    ให้เหลือเพียง 20% ซึ่งพวกนี้ได้ถูกเลือกไว้แล้ว โดยผ่านแผน สงคราม โรคระบาด เศษฐกิจ (ความอดอยาก) ไว้อย่างลงตัวและแยบยล

    อันนี้เป็นเพียงสิ่งที่คนภายนอกพอรู้บ้างแต่ความลับของคนพวกนี้มีอีกเยอะ
    และคนกลุ่มนี้มีมานานๆๆๆๆๆก่อนสงครามโลกครั้งที่2อีก (อันนี้ข้อมูลไม่ชัดนะแต่รู้ว่ามีมานานแล้วเพราะมีหลักฐานการบอมส์ฮิโรชิม่าเป็น คำสั่งของคนกลุ่มนี้)
    กลุ่มพวกนี้ได้แก่.......Freemason, Bilderberg , Secret society , Skull & Bone , Rothschild family...

    กลุ่มพวกนี้ควบคุมเศรษฐกิจของโลก......... ระบบธนาคารของโลก....ถูกกลุ่มคนเหล่านี้ควบคุม. .......




    ตามความเห็นของผม (~WaSaBi~)
    ดูจากข้อมูลแล้ว หลายๆองค์กรลับระดับโลก ที่เกิดจากองค์กรลับ illuminati สร้างขึ้นซ้อนอีกที มีสมาชิกคนไทย
    หลายๆคนที่อยู่ตรงกันข้ามกับ นายกทักษิณทั้งนั้นเลย

    และ illuminati น่าจะเป็นพวกที่อาศัยความคลั่งศาสนา หรือ คลั่งเทพเจ้า หลอกใช้คนกลุ่มคลั่งลัทธิต่างๆ
    ในหนัง angel&demons ก็เป็นอย่างนั้น คืออิลูมินาติ แฝงมาในคราบของคนดี ประเสริฐ วางแผนจัดฉาก สร้างภาพว่าเป็นคนดีสุดๆแต่สุดท้ายก็เผยตัวเอง
    และเป็นกลุ่มที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตยจริงๆ แต่หลอกว่าเป็นประชาธิปไตย
    สมมติว่าแผน new world order ของอเมริกาเป็นเรื่องจริง

    เราต้องมาเปิดใจและย้อนประวัติศาสตร์กันเลยว่า อเมริกาหรือหน่วยงานลับของอเมริกา
    มันเกี่ยวพันกับไทยยังไงบ้าง หรือแทรกแซงอะไรบ้าง ไม่ใช่ว่าแอนตี้อเมริกานะครับ เพียงแต่ แค่ลองกลับไปตรวจสอบดู มันก็น่าคิดเหมือนกันนะ
    ในระหว่าง ความพร่ามัว สับสนว่าใครเป็นคนดีคนเลวกันแน่ ก็ต้องใช้เวลาและข้อมูลวิเคราะห์กันต่อไป ยังไงยังไม่สรุปนะครับ ข้อมูลจะหามาให้เรื่อยๆ


    [​IMG]

    หากดูให้ดีๆก็จะพบว่าแม้กระทั่ง U.N. ก็ยังอยู่ในเครือข่ายของอิลลูมินาติ....

    เครือข่ายอิลลูมินาติยังสามารถควบคุมระบบธนาคารโลกได้เป็นอย่างดีทีเดียว. ..

    นี่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้กัน. .....

    เดี๋ยวพวกท่านทั้งหลายลองไปดูวิดีโอข้างล่างนี่ดีกว่า. ... เขาบรรยายได้ชัดเจน...

    The Illuminati and the New World Order

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/m89SB59DT34&hl=en&fs=1 AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    Change Player Size Watch this video in a new windowThe Illuminati II - Secret societies
    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/pG8nH3HlAw8&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/uEV5JzQU7GA&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_26427 class=smalltext vAlign=bottom>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 7 พฤศจิกายน 2009, 03:51:34 โดย ~WaSaBi~ » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">Illuminati (อิลลูมินาติ)

    แปลตรงตัวตามดิกชันนารี่ illuminati หมายถึง ผู้ที่มีสติปัญญาอันล้ำเลิศ

    อิลลู มินาติ เป็นกลุ่มนักวิทยาศาตร์ตั้งขึ้นมาอย่างลับๆเนื่องจาก พวกตนได้ถูกกลุ่มคริสตจักร ไล่ฆ่า เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นลัทธิ ของซาตาน เนื่องจากเหล่านักวิทยาศาสตร์เกิดความขัดแย้งขึ้นกลับคริสตจักร ในเรื่องการ กำเนิดโลก และในอีกหลายๆเรื่อง ประเด็นหลักก็คือ คริสตจักรเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสิ่ง แต่นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่าสสารไม่มีวันเกิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า(จึงได้ เกิดทฤษฎี บิกแบง ที่เป็นทฤษฎีการกำเนิดโลกที่ได้รับการเชื่อถือมากที่สุด ในทางวิทยาศาสตร์

    เนื่องจากในอดีตศริสตจักรเป็นกลุ่มที่มีอำนาจมาก ทำให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ไม่อาจต่อกรได้จึงต้องคอยหลบหนี หรือแอบซ่อนไม่เปิดเผยตัว จึงได้ตั้งกลุ่มขึ้นมาโดยใช้ชื่อ illuminati และหาที่รวมกลุ่มเพื่อ ใช้สนทนาเรื่องวิทยาศาตร์กัน หรือแลกเปลี่ยนแนวความคิด สมาชิกกลุ่ม อิลลูมินาติ เช่น กาลิเลโอ

    นัก วิชาการส่วนใหญ่เชื่อกันว่า กลุ่มอิลลูมินาติได้แทรกซึมเข้าไป ยังกลุ่มเมซันด้วย กลุ่มเมซัน คือกลุ่มคนที่มีอำนาจทั้งด้านการเมืองและการเงิน เป็นพวกนายธนาคารหรือนักการเมือง อยู่ในกลุ่มนี้

    เนื่องจากมีการแทรก ซึมของ อิลลูมินาติไปในกลุ่มเมซัน รองประธานาธิบดีวอลเลซ (Henry Agard Wallace เป็นรองประธานาธิบดีคนที่33ของสหรัฐ) เป็นผู้เสนอสัญลักษณ์ดังกล่าว ให้ประธานาธิบดีโรสเวลต์ (Franklin Delano Roosevelt ประธานาธิบดีคนที่32-33ของสหรัฐอเมริกา) ใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวในธนบัตรดอลลาร์ เนื่องจากทั้งคู่อยู่ในกลุ่มเมซัน และการที่รองประธานาธิบดีวอลเลซเสนอให้ใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นเพราะความ รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของ อิลลูมินาติด้วย

    [​IMG]

    [​IMG]

    สรุปได้ว่า กลุ่มอิลลูมินาติ ต้องการที่จะล้มล้างคริสตจักรนั้นเอง โดยการหาทฤษฎี ต่างๆมาหักล้างเรื่องพระเจ้า เพื่อที่จะเปลี่ยนแกนอำนาจความเชื่อของคนในยุคนั้นจากทางด้านศาสนามาเป็น ด้านวิทยาศาตร์นั้นเอง

    อย่างที่บอกกลุ่มอิลลูมินาติ มีการแทรกซึมของ อิลลูมินาติไปในกลุ่มFREEMASON ตอนสร้างเมือง วอชิงตัน ดี.ซี. กลุ่มอิลลูมินาติได้ออกแบบเมืองวอชิงตัน ดี.ซี.
    ถ้ามองจากมุมสูง (มองจากนอกโลก)จะเห็นเมืองวอชิงตัน ดี.ซี.เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มอิลลูมินาติคือรูปดาวครับ ขอโทษด้วยที่หาภาพให้ไม่ได้นะครับแต่ลองไปดูใน google earth ได้ครับ สังเกตดีๆนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ แต่สิ่งนี้ก็กลายเป็นจุดขายของนิยายเรื่องนี้ เพราะสถานที่สำคัญ 4 แห่ง ดันมีความหมายเป็น ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ธาตุทั้ง 4 สิ่งเป็นธาตุสากลของหลายชนชาติ โดยธาตุนี้ถูกนำมาใช้ดูลักษณะของคนตามวิชานรลักษณ์ของหมอดูด้วย

    หาก จะอ้างว่านี้คือวิธีของนักวิทยาศาสตร์ก็นับว่าน่าสนใจที่นำทฤษฎีนี้มาโยงกับ สมาคมลับอย่าง "อิลลูมินาติ" เพราะดูมันจะขัดแย้งกันระหว่างวิทยาศาสตร์กับโหราศาสตร์

    การสร้างผัง เมือง เป็นศาสตร์หนึ่งของพวกสถาปนิก เรื่องนี้จึงโยงไปถึงกลุ่ม "ฟรีเมสัน" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การรื้อฟื้นเรื่องฟรีเมสันในนิยายเรื่องนี้ จึงประสบความสำเร็จอย่างสูงสุ

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_26702 class=smalltext vAlign=bottom>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 พฤศจิกายน 2009, 03:17:07 โดย ~WaSaBi~ » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...