ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ทำไมต้อง "ชำระหนี้สงฆ์"
โดย..พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)



​

ผู้ถาม : ทำกรรมอะไรถึงลง อเวจี คะ.?

หลวงพ่อ : อเวจีนี่ทำกรรมหนักมากมันจึงจะลง ก็มีอนันตริยกรรม อาจิณกรรม ขโมยของสงฆ์ ของสงฆ์ นี่แตะนิดเดียว ลงอเวจีเลยนะ แม้แต่เศษเล็ก ๆ

(เรื่อง อนันตริยกรรม เช่น ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ยุให้สงฆ์แตกกัน เป็นต้น พระยายมมาบอกหลวงพ่อว่า "ทุกคนอย่าได้ทำเด็ดขาด ท่านช่วยไม่ได้เลย" ส่วน อาจิณกรรม เช่น แม่ครัวทุบหัวปลา แกงเป็นประจำ เป็นต้น สำหรับ ขโมยของสงฆ์ หลวงพ่อได้ยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้)

หลวงพ่อ : มีญาติพระเจ้าพิมพิสาร เป็นทายกในตอนต้นก็ดี ซื่อตรงต่อการบุญการกุศล แต่มาตอนกลาง ๆ มือถึงท้ายมือไม่ค่อยดี เริ่มหยิบแล้วทีแรกก็เป็น ทายก ต่อมาก็เลยเป็น ทายัก ของอะไรดี ๆ ก็ยังเอาไปเสียบ้าง เอาไว้ให้ลูกให้เมียเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตนเสียบ้าง ของที่เขาจะถวายสงฆ์ เขาตั้งใจจะทำอาหารถวายสงฆ์ เนื้อ ดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง แกงดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง

บางทีไม่ยกของสด ไอ้ของที่สำเร็จรุปที่เขาไม่ทันจะถวายพระ ก็ยักเอาไว้เสียบ้าง ญาติของพระเจ้าพิมพิสารเป็นทายักแบบนี้ ตายแล้วลงนรกสิ้นระยะเวลา ๑ กัป พ้นจากนั้นแล้ว ก็มาตก ยมโลกียนรก คือ ผ่านนรกบริวาร ๔ ขุม แล้วก็มาตกยมโลกีนรกตามลำดับมาเป็น เปรต ๑๑ จำพวก สุดท้ายก็เป็น เปรตพวกที่ ๑๒ สมัยพระพุทธเจ้าของเรานี้

จำไว้ด้วยนะ ของสมบัตินิดหนึ่งน่ะ แม้จะเป็นก้อนดินก้อนหนึ่ง กระเบื้องหัก ๆ ก้อนหนึ่งก็ตาม ถ้าเราถือเอาเข้าบ้านด้วย อาการของขโมย เสร็จ..สะเด็ดไม่เหลือ ลูกหมากรากไม้ที่มีอยู่ในวัด เราจะไปขอเด็กขอพระไม่มีประโยชน์ ของสงฆ์สงฆ์ต้องประชุมกัน เมื่อประชุมกันแล้วตกลงกันว่ายังไง ต้องปฏิบัติตามนั้น ขายหรือให้ใครต้องปฏิบัติตามนั้นนะ

แม้แต่ "ดอกไม้บูชาพระ" ก็เหมือนกัน ถ้าท่านผู้ปลูกยังมีชีวิตขอเฉพาะท่านได้ ถ้าท่านผู้ปลูกตายไปแล้วหรือสึกไปแล้ว อันนี้เป็นของสงฆ์ ต้องเป็นเรื่องของสงฆ์วินิจฉัย ไม่ใช่พระองค์ใดองค์หนึ่งเป็นผู้ให้ หรือไปขอเก็บเด็กวัดอันนี้ไม่ถูกต้อง ลงอเวจี

และอีกเรื่องหนึ่ง กากะเปรต สมัยที่เกิดเป็น "กา" แย่งข้าวในขันที่เขานำไปจะถวายพระ ข้าวสุกนั้นเขานำไปยังไม่ถึงพระ ยังไม่ใช่ของสงฆ์ จะถือว่าเป็นของชาวบ้านก็ไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจถวายสงฆ์แล้วกรรมเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ตายไปแล้วไปลง อเวจี แล้วแถมมาเกิดเป็น เปรต

ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ คนที่กินข้าวที่พระอนุญาติแล้ว ทำไมถึงตกนรก และพระที่ให้ก็ต้องตกนรกด้วยครับ....?

หลวงพ่อ : ถ้าอาหารที่พระให้ต้องเป็นของญาติโยมที่ถวายเฉพาะองค์นั้น ไม่มีโทษแน่ แต่ที่เป็นอย่างนี้ต้องเป็นอาหารที่เขาถวายเป็นส่วนกลาง คือเป็นของสงฆ์ ของสงฆ์นั้นพระองค์ใดองค์หนึ่งไม่มีสิทธิ์ให้ นอกจากสงฆ์จะประชุมตกลงให้พระองค์นั้นเป็นผู้จ่ายแทนสงฆ์

ตัวอย่างของสงฆ์เช่น อาหารวันพระ ที่มีข้าวใส่บาตรเหลือมากๆ แล้วทายกใส่ถ้วยเอาไปกินบ้าน โดยที่คณะสงฆ์ไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างนี้ แม้แต่เจ้าอาวาสเองยังไม่มีสิทธิ์ให้ตามลำพัง บางทีกินอาหารที่พระฉันเหลือ ถ้าพระอนุญาติแล้วไม่มีโทษ (สำหรับโยมที่ไปในงาน ทางวัดเขาตั้งใจเลี้ยงก็ไม่เป็นไร)

แต่บางท่านก็หยิบของที่พระฉันแล้วเอามาเฉยๆ บางท่านก็ขอเอาดื้อๆ ให้หรือไม่ให้ก็ตาม ออกปากขอแล้วยกไปเลย พระยังไม่ทันอนุญาติ ท่านทายกประเภทนี้ ท่านช่วยยกคนที่กินกับท่านลงอเวจีแบบสะดวก เมื่อจะขอต้องดูว่าอาหารมากไหม ถ้ามากจนเหลือเฟือ ก็ขอให้พระท่านให้ตามความพอใจของท่าน เพราะท่านอาจมีกังวลนำอาหารไปให้ใครก็ได้ ที่ท่านมีภาระต้องเลี้ยง ถ้าถือเอาตามความพอใจก็ต้องถือว่าแย่งอาหารจากพระมีโทษ 100 เปอร์เซ็นต์

และอาหารถวายพระพุทธรูป ก็เหมือนกัน อาหารประเภทนี้ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อล่อให้ทายกลงอเวจีสะดวกสบายมาก อาหารที่เขานำมาวัด เขาตั้งใจถวายพระสงฆ์ การนำไปถวายพระพุทธรูปนั้นเป็นความดี เพราะเป็นพุทธานุสสติด้วย เป็นพุทธบูชาด้วย แต่อาหารประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มาก เพราะพระพุทธรูปไม่ได้ฉัน ท่านจะฉันหรือไม่ฉันก็ตาม อาตมาคิดว่าทายกทายิกาไม่มีสิทธิ์จะกิน หลายวัดหรือส่วนใหญ่ ทายกมักจะเอาอาหารดีๆ และมากๆ ไปทุ่มเทถวายพระพุทธรูป

เมื่อพระฉันเสร็จแล้ว ต่างก็ยกเอามากิน ตอนนี้ไม่ถูกด้วยประการทั้งปวง ต้องเอาไว้ถวายพระตอนเพลจึงจะถูก ทายกทายิกาจะกินได้เฉพาะอาหารที่เหลือเป็นแดนจากพระฉันเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์สถาปนาตนเองเป็น ลูกศิษย์พระพุทธรูป แต่ประการใด

รวมความว่า ของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือของในวัดทุกประการที่เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว แม้แต่ดอกไม้ ผลไม้ในวัดเศษไม้ที่คิดว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นเล็กๆ น้อยๆ บ้าง จงอย่าคิดว่าไม่มีบาป แม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้ว ก็เป็นของสงฆ์ มีผลเสมอกัน

เว้นไว้แต่ดอกไม้ผลไม้ที่พระหรือท่านผู้ใดปลูกในวัด ถ้าท่านเจ้าของยังอยู่ในเขตวัดนั้นและท่านอนุญาติ อย่างนี้เอามาได้ไม่บาป ด้วยท่านเจ้าของมีสิทธิ์สมบูรณ์ให้ได้ รับมาได้ไม่มีโทษ ถ้าท่านผู้ปลูกออกไปจากวัดนั้นหรือตายไปแล้ว ของนั้นเป็นของสงฆ์โดยตรง ไปเอามามีโทษตามกำลังบาป ขโมยของสงฆ์

และอีกประการ หนึ่ง วัดร้างที่ไม่มีพระอยู่ แต่มีสภาพเป็นวัด กับที่ของสงฆ์ที่เป็นไร่นาไปแล้ว ไม่มีสภาพเป็นวัด ถ้าเราไปนำมานิดเดียวแม้แต่หญ้าต้นเดียว เขาถือว่า เป็นหนี้สงฆ์ อันนี้อันตรายมาก สมัยหลวงพ่อปาน ท่านก็แนะนำให้คน ชำระหนี้สงฆ์ บาทสองบาทสลึงสองสลึง บางคนไม่มีเงืนเอามาทำงานแทน ทำอะไรก็ได้ไม่บังคับ คือ ดายหญ้าก็ตามไม่เอาค่าแรง

ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ พระเครื่อง ที่เขาไปขโมยมาแล้วเราเอามาห้อยคอ อย่างนี้จะบาปไหมครับ..?

หลวงพ่อ : เดี๋ยวก่อน..พูดเรื่อง พระเครื่อง ก่อนพระที่คุณห้อยน่ะ ไม่มีเครื่องหรอก.. พระเครื่องต้องอย่างฉันนี่เดินได้ วิ่งได้ ใช่ไหม...อย่างนั้นเขาไม่เรียก "พระเครื่อง" เขาเรียก "พระห้อย" เขาขโมยมาจากใครล่ะ..?

ผู้ถาม : ก็ไม่ทราบแน่ครับ อาจจะขโมยเจาะกรุมาก็ได้ครับ

หลวงพ่อ : เสร็จ..ไอ้นี่พังแน่..!

ผู้ถาม : อย่างนี้จะบาปไหมครับ......?

หลวงพ่อ : รับของโจรมันก็บาปซิ

ผู้ถาม : แต่ถ้าเราไม่ทราบนี่คงไม่เป็นไรนะครับ

หลวงพ่อ : เราไม่ทราบก็บาป เราทราบก็บาป ไอ้บาปนี้เขาแปลว่า "ชั่ว" คนไปขโมยมาจากกรุ กรุมันเป็นของสงฆ์ ลักษณะของอาการมันเป็นของชั่ว ถ้าเราเอาของชั่วมาอยู่กับเราก็ชั่วด้วย อย่างใน "มงคลสูตร" ข้อหนึ่ง ท่านบอกว่า "อะเสวะนา จะ พาลานัง" อย่าคบคนพาล ถึงแม้นตัวราจะไม่พาล ถ้าเราเดินกับคนพาลเขาก็คิดว่าพาลไปด้วย" และท่านก็มีข้อเปรียบเทียบ ท่านบอกว่า

"ใบตองนี่ ไอ้ความเน่าของเนื้อสัตว์มันจะไม่ซึมลง แต่ว่าถ้าเราเอาใบตองห่อของเน่า แล้วเอา ของเน่าทิ้งไปแต่กลิ่นเน่าเหม็น มันยังติดใบตองอยู่" "ทีนี้การรับของโจร ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ ก็ต้องถือว่าเราร่วมมือด้วยโดยไม่เจตนา ก็ต้องเอาเหมือนกัน"

ผู้ถาม : ของหนูก็มีพระที่ขโมยมาเหมือนกันค่ะ เป็นพระบูชาแต่ว่าอยากเอาไว้ที่บ้านเอาไว้บูชา ถ้าเราชำระหนี้สงฆ์จะได้ไหมคะ..?

หลวงพ่อ : ทีนี้วิธี "ชำระหนี้สงฆ์" เขาให้มีค่าเสมอของเดิมนะ เสมอของเดิมหมายความว่า ไม่ใช่พระรุ่น แบบนี้ เหมือนกับอย่างเขาเล่นกันนะ เขาไม่ใช้นะ ไปดุว่าที่ร้านเจ๊กหน้าตักขนาดนี้เขาขายเท่าไร แล้วเอาเงินไป ชำระหนี้สงฆ์ตามราคานั้น ถ้ามากกว่านั้นไม่เป็นไรนะ เท่านั้นก็ใช้ได้ เอาไปวัดใดวัดหนึ่งขอชำระหนี้สงฆ์ ขอมอบเงินจำนวนนี้และขอเอาพระไปบูชา ก็เท่านี้แหละ

ที่มา http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1046​

 

ชาวบ้านแน่นฝั่งโขง ตะลึงแห่ดู พญานาคโผล่เล่นน้ำ
ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

​

ชาวบ้านมุกดาหาร แตกตื่น แห่ดูปรากฏการณ์คล้ายพญานาค เล่นน้ำ ใต้สะพานข้ามโขงที่ 2 เชื่อ มากราบนมัสการองค์พระธาตุพนม...

กรณีชาวบ้านแตกตื่นดูปรากฏการณ์ของน้ำในแม่น้ำโขงม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นเป็นระลอกสันนูนคล้ายงูหรือพญานาคลอยเล่นในแม่น้ำโขง บริเวณใต้สะพานแห่งที่ 2 ถนนสำราญชายโขง ต.บางทรายใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีพระเดินทางมาจาก จ.หนองคาย ได้มาบอกแม่ค้า-ชาวบ้านว่า ได้ฝันเห็นพญานาค และได้ส่งกระแสจิตบอกให้เดินทางมาดู จะปรากฏให้พบที่สะพานข้ามโขงที่ 2 ฝั่งด้าน จ.มุกดาหาร ตามที่ข่าวได้นำเสนอที่ผ่านมานั้น

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 31 ม.ค. หลังจากที่ข่าวได้แพร่สะพัดไป บริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยผู้คนตลอดจนนักท่องเที่ยว หลั่งไหลไปดูปรากฎการณ์พิสดารอย่างมืดฟ้ามัวดิน จนทำให้บริเวณถนนริมโขงช่วงนั้นจราจรติดขัด ประชาชนต่างตั้งใจยืนดูอย่างใจจดจ่อ ไม่ว่าบนฝั่งหรือที่ด้านล่างที่ติดริมฝั่งโขง ต่างแน่นขนัดไปด้วยผู้คนอย่างเนืองแน่น พร้อมกับมีเสียงโห่ร้องมาเวลาเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ

กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. พระยอดชัย อานันโท และญาติโยม ได้แต่งขันธ์ 5 ดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมกับน้ำผึ้ง 1 ขวด มายืนแผ่เมตตาบอกกล่าว พร้อมกับเทขวดน้ำผึ้งลงในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงจุดใต้สะพาน พร้อมกล่าวว่าเหตุการณ์ที่ปรากฎขึ้นนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล และไม่คิดว่าคนจะมามากมายขนาดนี้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. พระยอดชัย ก็เดินทางกลับ ประชาชนบางกลุ่มทยอยกลับ แต่บางกลุมก็ยังรอดูอีกก็มี

คุณยายอ่อน อายุ 87 ปี อยู่เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร พอทราบข่าวให้หลานชายพามาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้กล่าวว่า ตั้งแต่โบราณถ้ามีเหตุปรากฏการณ์เกิดขึ้นในช่วงเดือน3 ซึ่งเป็นเทศกาลงานพระธาตุพนมประจำปี ผู้เฒ่าผู้แก่จะเชื่อกันว่า พญานาคจะพากันไปกราบนมัสการองค์พระธาตุพนม และถ้าหากว่าปีไหนพญานาคมาปรากฏให้เห็นในรูปแบบใด ก็จะเป็นนิมิตหมายบอกเหตุให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ริมฝั่งโขงทราบว่า ในปีนั้นดินน้ำจะอุดมสมบูรณ์ดี เพราะสมัยก่อนเรื่องดินฟ้าอากาศไม่มีใครหยั่งรู้ได้เหมือนสมัยนี้ ต้องนับเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำโขง หรือพญานาค เป็นลางบอกเหตุ โดยคนโบราณจะเชื่อและนับถือมาก และไม่ใช่ว่าปรากฏการณ์เช่นนี้ จะทำให้พบหรือได้เห็นทุกปีได้ ทำให้ไม่มีใครกล้าลบหลู่

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/region/62339

 

แผ่นดินไหวเขย่ามะกัน-คนเรือนหมื่นหนี "โอลี"
ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

​

ตำรวจเข้าตรวจสอบสภาพบ้านเรือนพังเสียหายจากฤทธิ์พายุไซโคลน "โอลี" พัดถล่ม เมืองแพ บนหมู่เกาะเฟรนช์โปลินีเซีย เขตปกครองในอาณัติของฝรั่งเศส แถบมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อ 5 ก.พ. ขณะที่ตาฮิติและมูเรีย 2 เมืองในหมู่เกาะดังกล่าว สั่งอพยพผู้คนนับหมื่นหนีภัยพายุไว้แล้ว (เอเอฟพี)

เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6 ริกเตอร์ ทางเหนือรัฐแคลิฟอร์เนีย ความลึกเพียง 11 กม. โชคดีไม่มีคนเจ็บตาย ส่วนที่พายุไซโคลน โอลี พัดถล่มเกาะ ตาฮิติ และ มูเรีย หมู่เกาะเฟรนช์โปลินีเซีย...

นางเมกาลี ชาร์บองโน ที่ปรึกษาอาวุโสของฝรั่งเศส กิจการหมู่เกาะตาฮิติ และมูเรีย ในหมู่เกาะเฟรนช์โปลินีเซีย เขตปกครองแถบมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ของเมืองน้ำหอม เผยถึงภัยพายุไซโคลน "โอลี" พัดถล่มเกาะเมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ. ว่า ด้วยแรงลมที่พัดตลอดคืน มีความเร็วเฉลี่ย 150 กม./ชม. บางช่วงพัดเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. คาดว่าทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 8 ม. จนต้องอพยพชาวบ้านราว 35,000 คน ให้ไปอยู่ที่โบสถ์กับโรงเรียน มีรายงานผู้บาดเจ็บ 12 ราย รวมอาการสาหัส 1 ราย หลัง พลัดตกหลังคาบ้าน ส่วนนักท่องเที่ยวได้รับคำเตือนให้อยู่แต่ในโรงแรม นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนพังเสียหาย 50 หลังคา ถนน ระบบไฟฟ้า และการสื่อสารใช้การไม่ได้

ส่วนผลพวงพายุฝนที่ตกลงมาหนักสุดในรอบกว่า 60 ปีของบราซิล ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันก่อความเสียหายและผลกระทบในพื้นที่รวม 34 เขตทั่วนครเซาเปาโล ยอดผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องน้ำท่วมมีเพิ่มเป็น 73 ศพแล้วนับแต่ 1 ธ.ค.ปีกลาย

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯประกาศเตือนภัยพายุหิมะรุนแรงในกรุงวอชิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย แมรีแลนด์ และรัฐใกล้เคียง ระหว่างคืนวันศุกร์ 5-6 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น และยังมีรายงานเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริกเตอร์ เมื่อวันพฤหัสฯ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งทะเลแปซิฟิกตะวันตก ทางเหนือรัฐแคลิฟอร์เนียและยังรับรู้ไกลถึงนครซานฟรานซิสโก แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดที่ระดับความลึกแค่ 11 กม. แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือการบาดเจ็บล้มตาย

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/oversea/63343

 

อ่านข้อความFalkmanแล้ว เกิดอาการขนลุก เมื่อคืนจนถึงเช้าฝันเห็น
ผืนทรายยุบ น้ำไหลมาตามร่อง พร้อมกับแผ่นดินเขย่า
รู้ว่า จะเกิดสึนามิ บอกคนแถวนั้นให้หนี พอพ้นซอยออกมา เห็นน้ำทะเล
ซัดรถซ้อนกันขึ้นมากองไว้ ในฝันเราบอกคนแต่เป็นฝรั่ง ว่าอย่ากลับลงไป
มันจะมาอีกถึง 6 ลูก ตื่นมาก็รู้สึกเหนื่อย เหมือนไม่ได้นอนเลย...:boo:

 

ช่วงนี้มีแผ่นดินไหวแรงๆบ่อยขึ้นครับ เฝ้าระมัดระวังกันเอาไว้ด้วยครับ

 

โอบาม่า(change)เปลี่ยนไป !!!​

​

ข่าวออกมาว่า- โอบาม่าออกพูดที่เขารับรางรัลโนเบลว่า "สงคราม บางครั้งมันก็จำเป็น...นะ" ทำเอาคนเนเธอร์แลนด์ลุกฮือขึ้นประท้วงเป็นหมื่นคน

------อะไรทำให้โอบาม่าลุกขึ้นมาบ้าสงคราม และกระหายเลือดมากกว่า คนไหนๆของประธานาธิปดีสหรัฐ ก่อนหน้านี้ก็เอาทหารเข้าอัฟกานิสถาน 30,000 คน ทั้งที่ถล่มพวกเขาคราวที่แล้ว ยังไม่เคยเอาเงินช่วยสักดอลล์เลย มีแต่ฝรั่งเศสกับญี่ปุ่นมั้งที่เข้าช่วย อุตส่าห์บุกอิรัก แล้วไม่เจออาวุธร้ายแรง ไม่เจอหัวรบนิวเคลียร์ และโรงแต่งแร่ยูเรเนียม... แย่มาก

น่าจะเป็นคำสั่งจากอิลลูมินาติ และเขาเองน่าจะเป็นคนที่ไบเบิ้ลทำนายว่า เป็นแอนตี้ไครสท์ หรือพวกต่อต้านพระเจ้า ดังที่ทำนายไว้ในไบเบิ้ล--นายคลินตัน และนางคลินตัน ก็ต่อต้านเขาอย่างมากก่อนที่จะได้เป็นประธานาธิบดี แต่ตอนหลังหันมาหนุนหลัง น่าจะมีการแลกผลประโยชน์กัน โดยพวกอิลลูมินาติเจรจาให้ ตอนหลังนางคลินตันได้เป็นหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศ หรือ CFR ไปแล้ว เห็นๆ--การเมืองเรื่องของผลประโยชน์

อนาคตโลกจากดวงดาว โดยหมอดูโสรัจจะ น่ากลัวมาก ทางสหรัฐมีแนวโน้มทำสงครามกับตะวันออกกลาง ยุโรปขาดแคลนอาหารหนัก น้ำมันขึ้นราคา ส่งให้เศรษฐกิจโลกทรุดในทันที ทองคำขึ้นถึงบาทละสองหมื่นแน่นอน

ดูในไทย ผลกระทบสองอย่างนี้ก็เคยเห็นอยู่ กรุงเทพจะจลาจล ฆ่าฟันกัน จนสีเขียวต้องเข้ามา แต่สีเขียวเองก็แตกเป็นสองฝ่าย นักการเมืองที่เคยทุจริตต้องรับกรรม น้ำทะเลเริ่มสูงขึ้น เข้าท่วมกรุงเทพ ไม่เคยมีมาก่อนที่หิมะจะตกในกรุงเทพ เหมือนอาเพศ ที่ซ้ำเติมเข้ามา

ข้อเขียนอันเดิม ตามดวงดาว การทำมุมนั้นแน่นอนจริง แต่วิธีการทายของเจ้าอื่นไม่ได้ทำนายไว้น่ากลัวแบบนี้ น่ากลัวจนผมไม่ก็อป ลงมาไว้ก็แล้วกัน แล้วไม่ทำลิ้งค์ด้วย เชิญท่านไปค้นดูเอานะครับ ระวังตรงที่ธนาคารล้มนะครับ ตุนๆทอง ข้าวสารกะปิน้ำปลาไว้นะครับ อย่าประมาท อะไรต่างๆที่เกิดนั้น มีอิทธิพลจากชาติอื่นเข้ามาก็มี อิทธิพลจากดาวพฤหัส ซึ่งจะเข้ามาช่วยก็มี พี่สาวได้ศึกษาโหราศาสตร์ก็บอกว่า บางสิ่งก็ไม่เกิด เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มอยู่ ภรรยาก็บอกวา พระสยามเทวาธิราชมีจริง น่าจะเป็นคนอินเดียมาก่อนด้วย

บล็อกนี้คงจะไม่เป็นวิทยาศาสตร์มากนัก แต่อื่นๆ เช่นผลของโลกร้อนนั้นเห็นได้ชัด และยังถกเถียงกันไม่รู้จบในโลกตะวันตก --มีก้อนน้ำแข็งยักษ์ลอยเข้าหาทวีปออสเตรเลีย --มีวงแสง กับลำแสงประหลาดที่นอร์เวย์ แต่รัสเซียบอกว่าทดลองขีปนาวุธ --แล้วผิดพลาดบางทีอาจเป็นอาวุธชนิดใหม่ที่ทำออกมาแบบจานบิน เพราะแสงสีฟ้านี่ ไม่มีในสารบบอาวุธของโลกครับ--นักวิชาการบอกว่าถ้าเป็นขีปนาวุธ แสงจะอยู่กลาง นี่แสงจะวนตัวออก จนเหลือความมืดอยู่ตรงกลาง

ซึ่งเคยมีเหตุแบบนี้มาสองครั้ง ครั้งหนึ่งมีจานบินเป็นรูปแสงก้นหอยแบบนี้ออกมา อีกครั้งหนึ่งมีจานบินรูปทรงกลมออกมา นั่นคือหลุมดำระหว่างมิติ หรือรูหนอนที่ทะลุไปยังจักรวาลอื่นอันไกลโพ้น คิดดูเราใช้เครื่องเร่งอนุภาค ใช้พลังงานมากมาย ได้แค่ชนอะตอม อาจมีแสงแวบเดียว แต่นี่แสงปริมาณหลายกิโลวัตต์ พลังงานแสงสว่างไสวนี้มาจากไหน หรืออาจกล่าวได้ว่า รัสเซียได้ติดต่อและมีเทคโนโลยี่สุดแปลกแบบนี้ จากมนุษย์ต่างดาวเผ่าหนึ่งมานานแล้ว

วันนี้ผมเพิ่งเข้าใจว่า ทำไม่เบื้องบนจึงห้ามทำการค้าขายลงทุน ทั้งที่สินค้าของผม เริ่มขายไปต่างประเทศ และมีเพย์พอล สามารถส่งขายได้ทั่วโลก จะเปิดร้านของชำ ท่านก็ไม่ให้เปิด--อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ท่านย้ำมาอีกคำ อย่างที่ช้างชายพูดนั่นแหละ-ต่อไปคนที่ไม่มีประโยชน์จะเอาไปบังคับฉีดยาให้ตายไป โดยอ้างว่าเป็นวัคซีน

(ผมเครียดมาก และคิดเตรียมอะไรต่าง 1 วัน เรื่องญาติพี่น้องทางภรรยาอะไรต่างๆ ถึงวันนั้นก็ต้องขึ้นเหนือมาแน่ๆ----ช่วงนี้ทำสมาธิ แผ่เมตตา โดยใช้วิธีบังคับจิต)

โดย: jesdath วันที่: 16 ธันวาคม 2552

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=secret-world&month=12-2009&date=12&group=1&gblog=54

<!-- End main-->

 

เผย น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย ส่งผลเสียหายต่อภาคการเกษตร อสังหาริมทรัพย์และการประกันภัยทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าถึง 2.4-24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2593

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 6 ก.พ. อ้างรายงานเรื่อง "อาร์คติค ทรีเชอร์ โกลบอล แอสเซตส์ เมลติ้งอะเวย์" หรือ "สมบัติล้ำค่าแห่งขั้วโลกเหนือ,ทรัพย์สินของโลกกำลังละลาย" นายเอบัน กู้ดสเตน นักเศรษฐศาสตร์แห่ง "บาร์ด คอลเลจ" ในรัฐนิวยอร์คของสหรัฐอเมริกา ร่วมกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์นับสิบคนจัดทำ โดยมี "พิว เอนไวรอนเมนท์ กรู๊ป"สนับสนุนงบประมาณ เผยแพร่เมื่อ 5 ก.พ. ว่าการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ จะส่งผลเสียหายต่อภาคการเกษตร อสังหาริมทรัพย์และการประกันภัยทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าถึง 2.4-24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2593 จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล อุทกภัยและคลื่นความร้อน เป็นผลสืบเนื่องเกิดตามมา ทั้งนี้ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเหนือและพายุหิมะถล่ม ก่อความเสียหายทั่วโลกอยู่แล้วปีละ 6.1หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ-3.71แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

วันเดียวกัน หลังสำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NWS) แถลงเตือนภัยพายุหิมะรุนแรงระลอกสอง ถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่คืนวันศุกร์ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี พายุหิมะส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งทั้งทางบกและทางอากาศบ้างแล้ว สภาพการณ์โดยทั่วไป กรุงวอชิงตันที่ปกติดูจะคึกคักเร่งรีบ แต่เมื่อถึงช่วงบ่าย เกือบกลายเป็นเมืองร้าง เมื่อเจ้าหน้าที่และคนทั่วไป เร่งรีบกลับบ้าน หลังอาคารสำนักงานทั้งของรัฐและเอกชน ปิดทำการก่อนเวลา เพื่อหนีภัยพายุหิมะที่เริ่มกระหน่ำลงมาตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน ขณะที่รัฐเวอร์จิเนีย แมรีแลนด์และเดลาแวร์ ประกาศภาวะฉุกเฉินเตรียมรับมือไว้แล้วเช่นกัน

 

หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทรโท นักบุญแห่งล้านนา ละลังขารด้วยโรคชรา ท่ามกลางความโศกเศร้าของศิษยานุศิษย์
ประชาชนชาวเชียงใหม่จำนวนมากเข้ากราบสักการะศพหลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทรโท เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ละสังขารด้วยโรคชรา อายุ 103 ปี ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยจะมีพิธีอาบน้ำหลวงศพในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.ที่วัดท่าจำปี
หลวงปู่ครูบาดวงดี เป็นพระปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ และเป็นนักบุญแห่งล้านนา ที่มีพรรษาอาวุโสสูงสุดในภาคเหนือ และได้จัดสร้างอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งของภาคเหนือ จนเป็นที่เคารพศรัทธาจากประชาชน

 

คาดวอชิงตันและบัลติมอร์ เผชิญหิมะตกหนักครั้งประวัติศาสตร์



สำนักงานพยากรณ์อากาศสหรัฐ ในเวอร์จิเนีย พยากรณ์ว่า วอชิงตัน และบัลติมอร์ อาจจะต้องเผชิญพายุหิมะ และลมกรรโชกแรง ครั้งประวัติศาตร์ วันนี้และวันพรุ่งนี้ โดยอาจจะมีหิมะตกหนักถึง 31 นิ้ว มากที่สุดในรอบ 10 ปี ก่อนหน้านี้ วอชิงตันเผชิญหิมะตกหนักมากเป็นประวัติการณ์ 28 นิ้ว เมื่อปี 2535 ส่วนบัลติมอร์ เผชิญหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ 26.8 นิ้ว เมื่อปี 2546 และจากสภาพอากาศเลวร้ายดังกล่าวทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินที่จะบินออกจาก สนามบินในบัลติมอร์ และวอชิงตันทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่วนวันนี้ การให้บริการส่วนใหญ่จะยังต้องยกเลิกต่อไป นอกจากนี้ มีรายงานว่า ผู้ว่ารัฐเวอร์จิเนียและแมรีแลนด์ ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่แล้ว.


-----------------------------------------------

ชี้แผ่นดินไหวเฮติ คล้าย 2012 วันสิ้นโลก!!!

• <li class="left">(+ให้คะแนนบทความ) <script type="text/javascript" src="http://app.sanook.com/weblog/rating/js/?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=890123"></script><script src="http://app.sanook.com/weblog/rating/jspack?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=890123" type="text/javascript"></script><link rel="stylesheet" type="text/css" href="http://static.sanook.com/share/js/jquery/jquery.rating/rating.css">Cancel Rating
  1
  2
  3
  4
  5
  
  
• เปิดอ่าน <script type="text/javascript" src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=890123"></script>96,352 ความคิดเห็น 168

ชี้แผ่นดินไหวเฮติ คล้าย 2012 วันสิ้นโลก!!!
โศก นาฏกรรมกลางเมืองหลวงเฮติ แผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ กว่า 1 นาที ทำเนียบประธานาธิบดี-ที่ทำการกระทรวง-ตึกถล่มพังพินาศ คาดยอดตายสูงหลายพันคน "สมิทธ" ชี้ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" เขย่าโลก คล้ายในหนัง "2012 วันสิ้นโลก"
เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.0 ริกเตอร์ ใกล้เมืองหลวงของสาธารณรัฐเฮติ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 13 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย ส่งผลให้เนียบประธานาธิบดี ที่ทำการกระทรวงต่างๆ ตลอดจนที่ทำการขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พังถล่ม คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะสูงนับพันคน เพราะจุดเกิดเหตุมีคนอาศัยอยู่หนาแน่น ขณะที่อาคารบ้านเรือนก็สร้างอย่างไม่แข็งแรง
แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 200 ปี ที่เกิดขึ้นในเฮติ ประเทศยากจนในแถบแคริบเบียน แถมยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีกถึง 24 ครั้ง เบื้องต้นทางการเฮติยืนยันแล้วว่า ประธานาธิบดีเรเน พรีวาล และภริยาปลอดภัยดี แม้ทำเนียบจะได้รับความเสียหายยับเยินจากเหตุธรณีพิโรธที่มีศูนย์กลางอยู่ ห่างจากเมืองหลวงเพียง 15 กิโลเมตร และเกิดลึกลงไปใต้ผิวดินเพียง 10 กิโลเมตร
แผ่นดินไหวครั้งนี้กินเวลากว่า 1 นาที แต่แรงสั่นสะเทือนทำให้แม้แต่ตึกที่มีโครงสร้างแข็งแรงอย่างทำเนียบ ประธานาธิบดี กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม และกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มีรายงานว่าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งชานเมืองหลวงพังถล่มลงมาด้วย
ด้านยูเอ็นแถลงว่า ตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่กว่า 7,000 คน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นสูญหายเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นหนังสือพิมพ์ไชนา เดลี รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวจีนเสียชีวิต 8 คน สูญหายอีก 10 คน ส่วนโฆษกกองทัพจอร์แดนแถลงว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวจอร์แดนเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 3 นาย ได้รับบาดเจ็บอีก 21 นาย ขณะที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารประจำการอยู่ในเฮติกว่า 600 คน ก็แสดงความเป็นห่วงคนของตัวเองเช่นกัน
ส่วนภาพที่ชาวเฮตินำมาโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต และภาพที่สื่อต่างๆ ถ่ายออกมา แสดงให้เห็นว่าจุดเกิดเหตุเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่พังราบเป็นหน้ากลอง เสาโทรศัพท์ล้มลงมากองกับพื้น รถยนต์หลายคันถูกซากปรักหักพังทับพังยับ กลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยปกคลุมพื้นที่บางส่วนของตัวเมือง ชาวเมืองที่ร่างปกคลุมไปด้วยฝุ่นผงได้รับความช่วยเหลือออกมาจากซากปรักหัก พัง ถนนและทางหลวงบิดเบี้ยวไปมา บ้างก็ถูกตัดขาด
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.53 น.ของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนั้นไม่นานความมืดก็เข้าปกคลุม แต่แผ่นดินไหวทำให้สายไฟขาด จึงไม่มีไฟตามท้องถนนหรือตามตึกรามบ้านช่องต่างๆ ทำให้การกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก และยังไม่ทราบยอดผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่ชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ประเมินว่า ยอดในเมืองหลวงน่าจะสูง เพราะนอกจากจะแออัดแล้ว ยังเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่สร้างอย่างไม่แข็งแรงด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังเกิดเหตุกลุ่มควันสีขาวซึ่งเกิดจากผงฝุ่นจากอาคารที่พังถล่มลงมาได้ปก คลุมท้องถนนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ กลุ่มควันนี้ลอยอยู่ในอากาศจนกระทั่งความมืดปกคลุมลงมา ขณะที่สถานการณ์ในเมืองเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ผู้ที่รอดชีวิตต่างวิ่งวุ่นตามหาญาติๆ ของตัวเอง เสียงไซเรนดังไปทั่วเมือง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นานาประเทศต่างประกาศให้ความช่วยเหลือกันโดยถ้วนหน้า เยอรมนีประกาศให้ความช่วยมูลค่า 1 ล้านยูโร (กว่า 47 ล้านบาท) ในทันที ขณะที่อังกฤษ ฝรั่งเศส ไต้หวัน ส่งคณะเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่กาชาดซึ่งไปถึงที่เกิดเหตุแล้วบอกว่า ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งโทรศัพท์ ไฟฟ้า น้ำประปา ตลอดจนการรักษาพยาบาลในเมืองหลวงของเฮติตอนนี้ใช้การไม่ได้เลย ทั้งยังประเมินว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบร่วม 3 ล้านคน
ทั้งนี้ เฮติเป็นประเทศที่ยากจนในทวีปอเมริกาเหนือ แต่ต้องเผชิญกับหายนภัยครั้งรุนแรงหลายครั้งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2551 เกิดเฮอริเคน 3 ลูก และพายุโซนร้อนลูกหนึ่งถล่ม มีคนตาย 793 คน สูญหายอีกกว่า 300 คน ในปีเดียวกันนั้นยังเกิดการจลาจล เพราะราคาอาหารแพงลิบอีกด้วย
ด้าน นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อธิบายถึงสัญญาณผิดปกติจากเกิดแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐเฮติว่า เคยมีนักวิทยาศาสตร์ที่คิดแตกต่างกัน มองว่าการเกิดแผ่นดินไหวบนโลกทุกวันนี้เกิดจากการสะสมพลังงานจากใจกลางโลก และนอกโลก ซึ่งเป็นพลังงานที่ปลดปล่อยมาจากระบบสุริยะ คล้ายกับปรากฏการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง "2012 วันสิ้นโลก" ที่เกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกอย่างรุนแรง เนื่องจากความผิดปกติของการเคลื่อนตัวของระบบสุริยะที่สร้างแรงกระตุ้นให้ ดาวเคราะห์ต่างๆ รวมถึงโลก โดยการปลดปล่อยพลังงานแสง พลังงานสนามแม่เหล็ก มายังดาวเคราะห์หลายดวง กระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แสงสว่าง ทำให้โลกได้รับสนามแม่เหล็กจากการเกิด "พายุสุริยะ" หรือ "จุดดับ" ก็ส่งพลังงานจากภายนอกเข้ามามีผลต่อการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกได้
"ส่วนตัวผมเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ที่โลกได้รับพลังงานจากระบบสุริยะ หรือจักรวาลอื่นๆ ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก อย่างกรณีที่เฮติก็เชื่อว่าเกิดจากการเรียงตัวของดาวเคราะห์ในระบบสุริย จักรวาล ที่กระตุ้นให้ดวงอาทิตย์เกิดสันดาป ปลดปล่อยสนามแม่เหล็กมาสู่โลก" นายสมิทธกล่าว




-------------------------------------------------------


นอกจากนี้ที่น่าห่วงก็คือ ข่าวการล่มสลายทางเศรษฐกิจ ของหลายประเทศในยุโรป คือ

กรีซ สเปน โปตุเกส ลัดเวีย ซึ่งมีผลอย่างมากกับระบบเศรษฐกิจโลก


ประเทศทางเอเชียที่ออกอาการซวดเซเอาไว้และเริ่มออกอาการแล้วก็คือ ญี่ปุ่น จากกรณี การล้มของสายการบินแห่งชาติญี่ปุ่น การเรียกคืนรถล๊อตใหญ่หลายล้านคันในรุ่นทำเงินของโตโยต้า และฮอนด้า


ส่วนไทยเรามีหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการพัฒนาประเทศสูงมากติดอันดับต้นๆของโลกขณะนี้



อย่าลืมระบบเศรษฐกิจพอเพียงเอาไว้ครับ

 

ทองคำแท่ง ทางเลือกใหม่ของการลงทุน​

​

คนไทยกับทองคำนั้น แยกกันไม่ออกครับ เป็นของคู่กันมาแต่โบร่ำโบราณ ตามคำสุภาษิตที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเราได้ดีที่ว่า ‘มีเงินเขาก็นับว่าน้อง มีทองก็นับว่าพี่’ แสดงว่าคนที่มีทองหยองนั้นเป็นที่นับหน้าถือตาถึงขนาดยกให้เป็นพี่!

ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบริโภคทองคำสูงอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีอินโดนีเซียนำหน้า ตามด้วยไทยและเวียดนาม ตั้งแต่ที่โลกเกิดเหตุการณ์สภาวะเศรษฐกิจผันผวนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมองหาช่องทางอื่นๆ ในการลงทุนและเก็บออม นอกเหนือจากการฝากเงินไว้ในธนาคาร ลงทุนในตราสารหนี้หรือแม้กระทั่งหุ้น เพราะสมัยนี้ อะไรๆ ก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น ฝากเงินไว้ในธนาคารก็ไม่ถือว่าปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ ดอกเบี้ยที่ได้รับยังลดลงเรื่อยๆ ตามสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้น นักลงทุนที่ชาญฉลาดต้องรู้จักบริหารพอร์ตการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด การลงทุนด้วยทองคำแท่งจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ

เมื่อเร็วๆ นี้ สมาพันธ์ผู้ผลิตทองคำแห่งโลกได้จัดสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนด้วยทองคำแท่ง ซึ่งเป็นความรู้ใหม่ที่น่าสนใจ ทำให้เรารู้ว่าเราสามารถลงทุนกับทองคำเหมือนกับการลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหุ้น ลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ หรือฝากเงินในธนาคารเพื่อนำดอกเบี้ยมาใช้สำหรับกิจการต่างๆ แนวคิดนี้เข้าท่าดีทีเดียวครับ เพราะโดยทั่วไป ทุกๆครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีคุณผู้หญิงอยู่ในบ้าน ส่วนใหญ่จะมีงานอดิเรก ก็คือการสะสมเครื่องประดับ บางรายนิยมทองคำก็เก็บแต่ทองคำ บางรายชอบเพชรก็เก็บชุดเครื่องเพชร บางรายก็มีทั้งเครื่องประดับเพชรและทองคำ แล้วแต่ความชอบ เคยสังเกตไหมครับ สาวๆ ทำงานหลายคน พอมีเงินเก็บ หรือได้รับโบนัสปลายปี ก็เอาเงินมาซื้อทองเก็บไว้ ก็มีทั้งซื้อเก็บและซื้อใส่ ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ทางสมาพันธ์ผู้ผลิตทองคำแห่งโลกจึงระบุว่าคนไทยมีนิสัยเก็บออมทองคำโดยไม่รู้ตัว

พฤติกรรมนี้รวมถึงชาวบ้านร้านค้าทั้งหลายด้วย เห็นได้ชัดว่านิยมเก็บออมเป็นทองคำมากกว่าวิธีการอื่น ดังนั้นการลงทุนด้วยทองคำที่ผมกล่าวถึงนี้ จึงไม่จำเป็นต้องทุ่มทุนด้วยงบประมาณอย่างมโหฬาร ใครมีมากก็ลงทุนมาก ใครมีน้อยก็ลงทุนตามงบประมาณของตัว หากถามว่าทำไมเราต้องมาลงทุนด้วยทองคำแท่ง คำตอบก็คือ เนื่องจากทองคำทั้งทองแท่งหรือทองรูปพรรณต่างก็มีมูลค่าอยู่ในตัวของมันเอง หรือที่เรียกว่า Long term store of value เปรียบเสมือนกับเงินตรา ที่สามารถใช้แทนเงินสดได้

อย่างที่ประเทศเวียดนาม ประชาชนของเขาใช้ทองคำจ่ายแทนเงินเวลาซื้อบ้านได้ นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าเวียดนามมีอัตราการเติบโตของปริมาณการใช้ทองคำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าจับตามอง เหตุผลอื่นๆ ที่ผมจะสนับสนุนให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาการลงทุนแบบใหม่นี้ ก็คือ ปัจจุบันทองคำแท่งไม่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วครับ หลังจากที่ภาครัฐได้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้การซื้อขายทองคำแท่งทำได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จด้วย

นอกจากนี้ ทองคำยังเป็นแหล่งที่พึ่งพิงสุดท้ายของคนเราเวลาตกทุกข์ได้ยาก ข้อนี้หลายท่านคงเห็นด้วยนะครับว่า เวลาที่เราขาดเงินนั้น ถ้าไม่ไปกู้คนอื่นเสียดอกเบี้ยแพงๆ เราก็มักจะใช้สมบัติเก่านี่ละครับ เอามาแปรสภาพเป็นเงินสด ประทังความทุกข์ยากชั่วคราว

ตัวอย่างเช่น ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา มีเจ้าของธุรกิจหลายรายที่ได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาอาซ้ออาม่าทั้งหลายหรือบุคคลในครอบครัวที่นำทองคำเก่าเก็บไว้หลายปีดีดัก ออกมาขายเพื่อนำเงินก้อนมาใช้หมุนเวียนกิจการ ให้ดำเนินไปได้จนผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ทองคำนอกจากจะเป็นสิ่งแสดงความอู้ฟู้ มั่งมี และเครื่องประดับสวยงามสำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีแล้ว ยังเป็นทรัพย์สมบัติที่มีมูลค่าค่อนข้างคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามค่าเงินบาท และยังนับเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย ที่จะยังชีพไว้ได้ในยามที่ตกระกำลำบาก

ที่สำคัญทองคำ ยังเป็นทรัพย์ที่สามารถนำไปแปรสภาพได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายที่สุด โดยไม่มีวันหยุด เพื่อมาเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กลับคืนมาโดยง่าย (Highly Liquidity) เพียงแต่ท่านนำทองไปขายกับร้านทองทั่วราชอาณาจักร ท่านก็จะได้รับเงินสดกลับมา ง่ายและสะดวกกว่านำโฉนดที่ดิน หรือขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ นะครับ ในขณะเดียวกันหากท่านมีเงินสดมากมาย ไม่อยากฝากธนาคารกินดอกเบี้ย ก็สามารถมาซื้อทองแท่งเพื่อเก็บสะสมไว้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องการจะแปรสภาพ ก็ทำได้ ซึ่งอาจจะมีกำไรเพิ่มขึ้นก็ได้นะครับ หากช่วงนั้นราคาทองสูงขึ้น

ประเด็นสนับสนุนสุดท้าย คือ การลงทุนด้วยทองแท่งไม่เสี่ยงเท่าวิธีลงทุนแบบอื่นๆ เพราะมูลค่าของทองยังคงอยู่ ซื้อง่ายขายคล่อง การลงทุนแบบอื่นๆ ก็ยังต้องศึกษาปัจจัยที่อาจจะเข้ามากระทบ เช่นเศรษฐกิจไม่ดี เกิดสงคราม ราคาหุ้นก็อาจจะวูบไหวไปมา หรือนำเงินฝากธนาคารหวังกินดอกเบี้ย ดอกก็ไม่งามเท่าไหร่ ซื้อที่ดินตุนไว้ หากทำเลไม่เป็นที่นิยมหรือดีจริงๆ ก็ทำให้ขายได้ยาก หรืออาจต้องยอมขาดทุนด้วยซ้ำ ยิ่งในปัจจุบัน หลายท่านอาจจะต้องใช้สอยอย่างประหยัด คิดหน้าคิดหลังให้ถ้วนถี่ จะลงทุนอะไรก็ต้องแน่ใจว่าได้คืน และมีกำไรติดปลายนวมนิดๆหน่อยๆ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของทองคำนี่แหล่ะครับ จะทำให้ท่านทั้งหลายลงทุนแบบไม่เสี่ยง แถมเหมือนมีเงินออมติดบ้านอยู่ตลอดเวลาด้วยครับ

วันนี้กลับไปบ้าน ลองเปิดกล่องสมบัติแล้วเอาทองคำที่มีอยู่ ออกมานับดูดีไหมครับว่า เรามีเงินออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เพียงพอหรือยัง?

โดย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย - 26 พฤศจิกายน 2544 เวลา 17:07 น.

ที่มา http://www.arip.co.th/businessnews.php?id=400823

 

การล่มสลายของอเมริกา
(Fall of the Republic)​

​

Alex Jones ครับกับสารคดีชุดใหม่ Fall of the Republic หรือการล่มสลายของอเมริกา เป็นการรวบรวมข้อมูลและอธิบายถึงการล่มสลายของสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะมาถึงครับ "สำหรับใครที่อยู่ในอเมริกาต้องดูครับ" เพื่อให้รู้ว่ารากของปัญหามันอยู่ตรงไหน แล้วอะไรที่จะทำให้เป็นอย่างนั้น

อย่างที่ผมเคยบอกไปครับ ว่าคนอเมริกัน เงินดอลล่าร์ และประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเพียงตัวหมากตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างในกระดาน ที่กำลังเดินไปสู่ " One World Project " การรวมโลกเป็นหนึ่ง หรือ " New World Order " นั่นเอง สิ่งนี้กำลังเป็นไปครับ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ จะใส่ใจหรือไม่ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โลกใบนี้ถูกผลักให้หมุนไปในทิศทางนี้ และสิ่งนี้จะส่งผลกับชีวิตของพวกเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

สารคดี ที่ออกมาของ Alex Jones สั่นสะเทือนวงการทุกชุดครับ เพราะข้อมูลเค้าแน่นมากๆ แล้วเค้าทำมาเป็น 10 ปี เปิดโปงทุกกระบวนการความเคลื่อนไหว ของพวกองค์กรลับในอเมริกา ทั้งหมดมี 14 ตอนครับ ผมจะแบ่งเป็น 3 โพสต์เพื่อความเร็วในการโหลดครับ

ขอย้ำนะครับว่าใครก็ตามที่อยู่ในอเมริกา อังกฤษ และยุโรป โดยเฉพาะที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ ต้องดูครับ เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ จะเป็นเฟสสุดท้ายแล้ว เค้าเรียกว่า " Project EndGame "ครับ ลองดูแล้วถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเข้ามาครับ "ผมคิดว่าคุณไปอยู่ถูกที่ครับ แต่ผิดเวลาเท่านั้นเอง"

โพสต์ที่ 1
การล่มสลายของอเมริกา ( Fall of the Republic ) 1/3 ​

โพสต์ที่ 2
การล่มสลายของอเมริกา ( Fall of the Republic ) 2/3 ​

โพสต์ที่ 3
การล่มสลายของอเมริกา ( Fall of the Republic ) 3/3​

by jimmy วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ที่มา " The Gold War " by Jimmy Siri: การล่มสลายของอเมริกา ( Fall of the Republic ) 1/3​

 

อวตารร่างเปลี่ยนไปแต่หัวใจเดียวกัน
โดยลูกสิงห์​

​

​

ลูกสิงห์เชื่อว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ดูหนังเรื่อง “Titanic” มานับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกับลูกสิงห์ดู “Titanic” สัก 10 กว่าครั้งได้แล้วกระมัง ชื่อเสียงของผู้สร้าง ผู้กำกับหนังเรื่อง “Titanic” คือคุณเจมส์ คาเมรอน (James Cameron) นั้นโด่งดัง ยังไม่มีใครสามารถเทียบเทียมได้ตั้งแต่ปี 1997 มาแล้ว ตั้งแต่เขาสร้าง “Titanic” คุณเจมส์ยังไม่ได้สร้างหนังอีกเลย พอข่าวออกมาว่าบริษัทฟอกซ์(Fox) มอบเงินให้คุณเจมส์จำนวนมหาศาลถึง 250 ล้านเหรียญ เพื่อสร้างหนังเรื่อง Avatar ​

คนในวงการมีความอิจฉาตาร้อน คอยจับตาดูว่าคุณเจมส์จะสร้างหนังได้ยิ่งใหญ่เลิศเลอสักแค่ไหน? บางคนเอาใจช่วย บางคนแช่งให้ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนมากกระแนะกระแหนว่าหนังเรื่อง Avatar จะออกมาในท่าไหน คุณเจมส์ คาเมรอน ได้แต่ทำงานไปอย่างเงียบ ๆ วางโครงการวาดเรื่องราวปะติดปะต่อกันยาวนานถึง 10 ปี เพื่อรอเทคโนโลยีใหม่เอี่ยมกำลังถูกสร้างสรรค์พัฒนาอยู่หลังฉาก ยังไม่ออกมาสู่สายตาประชาชนแต่อย่างใด ​

การถ่ายทำหนังยาวราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่งในระบบ 3D สามมิติเป็นครั้งแรกในโลก แม้ผู้ชมภาพยนตร์ต้องอาศัยแว่นตา เพื่อให้ตัวแสดงใน Avatar มีตัวตน มีส่วนหนาส่วนบางไม่แบนเรียบเหมือนหนังทั่วๆไป เวลาพระเอกกับผู้ร้ายวิ่งกวดไล่กันดูราวกับเขาโลดแล่นออกมานอกจอ มาอยู่ท่ามกลางคนดู มองไปทางไหนคล้ายกับผู้ชมเป็นส่วนหนึ่งของดาราในโลกมายา Avatar ที่คุณเจมส์ คาเมรอนสร้างมากวาดเงินเกินกว่าค่าสร้างหนัง ทำกำไรให้บริษัทโรงถ่ายฟอกซ์ได้สิบเท่าตัวเข้าไปแล้ว​

คุณเจมส์ คาเมรอน ใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์เพื่อเขียนเรื่อง Avatar มีความยาวถึง 80 หน้ากระดาษ เขาอธิบายว่าเขามีความฉงนสนเท่ห์ในปรัชญาของศาสนฮินดูว่า “ร่างเปลี่ยนไปแต่หัวใจเดียวกัน” เช่น พระนารายณ์อวตาร (Avatar) เป็นพระรามหรือพระอุมาอวตาร (Avatar) เป็นเจ้าแม่กาลี เป็นต้น
<O</O
คุณเจมส์อธิบายว่าแม้ในศาสนาฮินดูไม่ต้องมีเครื่องอวตารมาใช้ในการแบ่งภาค แต่สำหรับผู้ชมไม่เคยศึกษาหรือเข้าใจในศาสนาฮินดูนั้นคงไม่เข้าใจความคิดอันลึกซึ้งของ “อวตาร” ว่าสามารถทำให้ด้วยการกำหนดจิตใจบวกกับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทพบุตร เทพธิดา บนสวรรค์เท่านั้น คุณเจมส์จึงคิดประดิษฐ์เครื่องทำให้คนธรรมดาแบ่งภาคได้โดยนอนลงในเครื่องอวตาร (Avatar) มีลักษณะกึ่งเครื่อง MRI กับเครื่อง Tanning Booth
<O</O
ในหนังสมมตินี้มีการบ่งบอกว่าสร้างมาให้ผู้ใช้คนนั้นๆโดยเฉพาะไม่มีการใช้แทนกันได้ เครื่องอวตารของคนไหนก็ของคนนั้น ไม่งั้นก็เสียเครื่องไปเปล่าๆ นี่แหละคือเรื่องราวของพระเอกของเราเข้ามาในเรื่องด้วยความบังเอิญที่พี่ชายฝาแฝดของเขาตายจากไป เมื่อมีเครื่องอวตารสร้างไว้ให้พี่ชายในปี 2154 หรือ 144 ปีในอนาคต เมื่อ Jake Sully เป็นคนขาพิการหลังจากประสบอุบัติเหตุในการฝึกเป็นทหารนาวิกโยธิน แต่ Jake เดินกระเผลกๆมารับใช้ชาติอีกครั้ง เพราะเขามีโครงสร้าง มีกรุ๊ปเลือด มี DNA เหมือนกับพี่ชายฝาแฝด เขาจึงสามารถใช้เครื่องอวตารที่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อพี่ชายเขาโดยเฉพาะ
<O</O
เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกใหม่ชื่อ แพนดอร่า (Pandora) มีอากาศเป็นพิษกับมนุษย์โลก ผู้ขึ้นไปแสวงหาวัตถุดิบใหม่ๆ มาป้อนให้ชาวโลกที่นับวันขาดแคลนร่อยหลอผลิตภัณฑ์แร่ธาตุทั้งหลายที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์บนดาวแพนดอร่า บนดวงดาวนี้มีชาว นา-วี (Na’Vi) อาศัยอยู่ ชาวนา-วี เป็นมนุษย์ต่างดาวตัวสูงถึง 12 ฟุต มีผิวสีฟ้า หน้ากึ่งมนุษย์กึ่งแมว นัยน์ตาเหมือนเสือ ผมดำยาวเหยียด ถักเป็นผมเปียบ้าง รวบไว้ข้างหลังบ้าง ชาวนา-วีอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ใช้หอกเป็นอาวุธ ไว้ขุดอาหาร ล่าสัตว์ ที่รูปร่างหน้าตาแปลกๆตามคิดของคุณเจมส์ เช่น นกยักษ์สี่ปีกบินได้ ชาวนา-วี ขี่คอนกยักษ์ร่อนไปร่อนมา มีสัตว์คล้ายม้าตัวใหญ่ มีแมลงส่องไฟคล้ายแมงกะพรุนผสมหิ่งห้อย เป็นต้น
<O</O
ลูกสิงห์คิดว่าคุณเจมส์คงมีชาวอินเดียนแดงสมัยโบราณอยู่ในใจของเขาตอนเขียนบทหนัง Avatar เป็นแน่ ยิ่งดูไปก็ยิ่งคล้ายคลึงกันไม่ว่าการแต่งกายหรือเครื่องประดับ รวมทั้งภาษาใช้มือเป็นสื่อกลาง ในฉากนี้มีความประทับใจมิใช่น้อยเมื่อหัวหน้าเผ่าชาวนา-วี ขอร้องให้ชาวประชาช่วยสั่งสอนให้ความรู้แก่ผู้มาอยู่อาศัยคนใหม่ในหมู่บ้าน การฝึกม้าตัวใหญ่ การสอนให้ขี่คอนกยักษ์ เหล่าแมงกะพรุนส่องแสงไฟสะท้อนสีรุมล้อมชาวนา-วี ภาพนี้นำความสงบความปิติมาสู่ใจคนดู โดยเฉพาะผู้ชมในระบบ 3D นั้นจะมีความรู้สึกว่าเขานั่งอยู่ในใจกลางภาพยนตร์ทุกขั้นทุกตอนทุกฉากไปด้วย
<O</O
ผู้ชมเห็นชาวนา-วีมีความสุขสงบบนดาวแพนดอร่าของพวกเขา แต่พอเหล่ามนุษย์ต้องการส่งคนไปสำรวจบนดาวดวงนี้ เขากลับส่งทหารนาวิกโยธินถูกฝึกมาให้ “บุกไม่ถอย ยิงแล้วค่อยถาม ทำตามคำสั่ง” ให้เป็นผู้สำรวจก็ไม่รู้? เหล่าทหารนาวิกโยธินทั้งหลายตั้งค่ายอยู่บนสถานีอวกาศขนาดยักษ์ มีนักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างเครื่องอวตารแบ่งภาคมาให้คุณ Jake ทหารนาวิกโยธินขาพิการเข้าไปนอนนิ่งสนิทในเครื่องอวตารของพี่ชาย แบ่งภาคเปลี่ยนร่างกายกลายเป็นชายชาวนา-วี มีหน้าตารูปร่าง ผิวสีฟ้า ตาเสือไปกับเขาด้วย ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีกต่างหาก

มิหนำซ้ำขาของเขากลับหายพิการ เดินได้แต่หัวใจเดียวกัน ยังมีความคิด มีจิตใจเป็นทหารนาวิกโยธิน ในรูปร่างชาวนา-วี ส่วนอีกร่างหนึ่งของคุณ Jake ในเครื่องอวตารกลับไม่มีวิญญาณนอนหลับสนิท จิตใจของเขาพาร่างชาวนา-วีไปพบสัตว์อาศัยในบริเวณป่าไม้สวยงาม เผอิญสัตว์ตัวหนึ่งใหญ่โตดุร้ายมารุกรานคุณ Jake ในร่างชาวนา-วี โชคดีมีสาวชาวนา-วี จริงๆ ชื่อ “เนทิริ” มาช่วยชีวิตเขาไว้ เธอพาเขาเข้าไปในหมู่บ้าน มีการเฉลิมฉลองต้อนรับชาวนา-วีแปลกหน้า
<O</O
การถ่ายทำตอนนี้คุณคาเมรอนใช้ดาราอยู่เบื้องหลังการวาดภาพจินตนาการของชาวนา-วีบนดาวแพนดอร่า ด้วยคอมพิวเตอร์จับภาพใบหน้าท่าทางของดาราออกมาเป็นส่วนสำคัญของภาพเคลื่อนไหวได้ ด้วยกล้องถ่ายทำผลิตพิเศษเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ด้วยระบบสามมิติ ถ่าย 24 เฟรมในหนึ่งวินาที ย้อนกลับมาที่เนื้อเรื่อง เมื่อ “หนุ่มกับสาว” ไม่ว่าจะเป็นชาติใด โลกไหน สามารถตกหลุมรักได้เมื่อใจตรงกัน คุณ Jake กับเนทิริก็เช่นกัน คุณ Jake รู้สึกห่วงใยเมื่อเขารู้ว่าผู้กองนาวิกโยธินออกคำสั่งให้ฆ่าหมู่ชาวนา-วี ให้สิ้นซากเพื่อขโมยแร่ธาตุไปยังโลกมนุษย์
<O</O
คุณ Jake ส่งใจแบ่งภาคกลับคืนมาในร่างมนุษย์ในเครื่องอวตารเพื่อโน้มน้าวเหล่าทหารให้เปลี่ยนใจไม่รุกรานชาวนา-วี ด้วยการเล่าถึงความดี ความสวยงาม การรักความสงบของชาวนา-วี แต่การกลับใจไปเข้าข้างชาวนา-วีของคุณ Jake เช่นนี้ทำให้ผู้กองฯมีความโมโหโกธาออกคำสั่งให้นาวิกโยธินใต้บังคับบัญชา ใส่หน้ากากอากาศอ๊อกซิเจนเดินทางเข้าไปในบริเวณหมู่บ้านชาวนา-วี พร้อมกับส่งกองบินเข้าไปยิงถล่มชาวนา-วีผู้มีแต่หอกและนกยักษ์เป็นกำลังต่อสู้กระสุนปืนและระเบิดเป็นอาวุธร้ายแรง ในฉากต่อสู้รบกันสนั่นหวั่นไหว ผู้ชมภาพยนตร์จ้องตาเขม็งไปยังภาพแอ๊คชั่นการต่อสู้
<O</O
คุณเจมส์เลียนแบบสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน พร้อมกับการโจมตีตึก TwinTowers ในวัน 9-11 เป็นการโชว์ฝีมือการถ่ายทำและการสร้างจินตนาการใช้หุ่นยนต์ยักษ์มาเป็นผู้ช่วยทหารนาวิกโยธินสู้รบกับชาวนา-วี ที่ใช้นกยักษ์และสัตว์ขนาดใหญ่มาถล่มทลายเครื่องบิน พร้อมกับกวาดล้างทหารนาวิกโยธินจนพ่ายแพ้ไปอย่างไม่มีท่า
<O</O
ลูกสิงห์แปลกใจแทนที่ผู้ชมภาพยนตร์จะเชียร์ให้ทหารนาวิกโยธินจากโลกมนุษย์ของเราให้เป็นฝ่ายชนะ เขากลับพากันส่งเสียงเชียร์มนุษย์ต่างดาวชาวนา-วี ทั้งๆที่ในเนื้อเรื่องทหารนาวิกโยธินจะนำแร่ธาตุที่มีประโยชน์กลับมาให้พวกเราชาวโลกได้ใช้กันแท้ๆ ทำให้ลูกสิงห์แน่ใจผู้ชมส่วนใหญ่มีความคิดลึกๆในหัวใจว่าการไปรุกรานคนชาติไหนโลกใดด้วยอาวุธอันป่าเถื่อนดุร้ายแล้วละก็ เขาไม่สนับสนุนหรือเห็นดีด้วยแน่นอน
<O</O
ลูกสิงห์คิดว่าคุณเจมส์ คาเมรอน คงต้องการส่งสัญญาณให้รัฐบาลอเมริกันได้ทราบว่าก่อนส่งทหาร G.I. ไปรบรากับใครก็ควรทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของคนในชาตินั้นๆ ด้วยการแบ่งภาคอวตารให้กลายเป็นคนชาตินั้นๆ เพื่อใช้ความคิดของเขามองโลกในแง่ของเขา เรียกง่ายๆว่า “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ก่อนที่จะเข้าไปทำสงครามทำลายผู้คนและประเทศชาติของเขา ควรแบ่งภาคไปเข้าใจพวกเขาให้ถ่องแท้เสียก่อน
<O</O
ลูกสิงห์ได้ความคิดเช่นนี้หลังจากดูหนังจบแล้ว ได้ข่าวแว่วๆว่าคุณเจมส์จะสร้างตอนสองต่อไป หวังว่าคงไม่เสียเวลาถึง 12 ปีอีกก็แล้วกัน ความฝันของคุณเจมส์ คาเมรอนกลายเป็นความจริงเมื่อยอดรายได้ของหนัง Avatar สูงสุดลบสถิติของหนังเกือบทุกเรื่องที่เคยสร้างมา ลูกสิงห์รับรองว่า Avatar คงจะกวาดตุ๊กตาทองไปเรียบวุธแน่นอนในเดือนมีนาที่จะถึงนี้

ที่มา Sereechai.com</O>

 

ชาวบ้านแห่ซื้อทองเก็งกำไรหลังราคาลง 600 บาทเมื่อเช้านี้​

​

ร้านทองคึกคัก คนแห่จองซื้อทองล่วงหน้าเก็งกำไรจนล้นร้าน ด้านร้านทองใช้วิธีให้จอง เพราะไม่สามารถผลิตทองรูปพรรณจำหน่ายได้ทัน

หลังจากที่ราคาทองปรับตัวลดลงบาทละ 600 บาทเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนแห่มาซื้อทองกันจนแน่นร้านทองเยาวราชเกือบทุกสาขา บางร้านผู้มาซื้อทองต้องต่อคิวจนล้นออกมานอกร้าน โดยจากการสอบถามผู้ที่มาซื้อทองในวันนี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการซื้อทองเพื่อเก็บ และเชื่อว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ ขณะที่บางรายให้เหตุผลว่า ต้องการซื้อทองให้ลูกหลานเป็นอั่งเปาช่วงตรุษจีน โดยอาศัยช่วงเวลาที่ทองปรับลดราคาลงซื้อทองเก็บไว้

ขณะที่ร้านทองต่างหามาตรการรับมือกับลูกค้าจำนวนมาก โดยให้บัตรจองซื้อล่วงหน้าแทนการจำหน่ายทันที นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้วราคาทองคำมีโอกาสปรับลดลงได้อีก ซึ่งอาจจะลดลงมาถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งต้องดูในอีก 1-2 วันนี้ ขณะที่สถานการณ์ทองคำในตลาดโลก พบว่าอยู่ในภาวะขาดตลาด ทำให้ร้านทองไม่สามารถซื้อทองมาเก็บเป็นสต็อกเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนได้อย่างเพียงพอ

ซึ่งราคาทองที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่บาทละ 16,750 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ทำให้เกิดปรากฏการณ์ความต้องการซื้อมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทางร้านได้จำหน่ายใบจองในจำนวนที่คาดว่า จะสามารถนำทองมาจำหน่ายจริงได้ และต้องปิดร้านเป็นระยะเพื่อเช็คจำนวนทองที่จำหน่ายไปในแต่ละช่วง ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือจากผู้ที่มาซื้อทองคำให้แบ่งสัดส่วนการซื้อเป็น 2 ระยะ เพื่อดูสถาการณ์ราคาทองคำที่ผันผวนอย่างมากในขณะนี้ก่อน

ข่าว TV ช่อง 3 วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=15470

 

อุดรฯ-พายุฤดูร้อนถล่มบ้านผือ เสียหายหนักสุดในรอบ 100 ปี​

​

พายุฤดูร้อนพัดถล่มอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 500 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 10,000 ไร่ หนักสุดในรอบ 100 ปี

หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ก.พ.) เกิดพายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ล่าสุดพบว่าที่อำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนหนักสุดในรอบ 100 ปี หลังจากไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยได้รับความเสียหายใน 3 ตำบลคือ ต.เมืองพาน ต.กลางใหญ่ ต.บ้านผือ มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีลูกเห็บขนาดเท่ากับลูกมะพร้าวตกอยู่หลายแห่งยังมีหลงเหลือให้ดูต่างหน้า

นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรที่ชาวบ้านทำไร่อ้อย มันสำปะหลัง และสวนยางพารา เสียหายอีกกว่า 10,000 ไร่ โดยสวนยางพาราหนักสุด เนื่องจากพายุลูกเห็บตกใส่ต้นยางพารา ทำให้ใบของยางพาราหล่นเหลือแต่ลำต้น มีรอยแผลตามต้นยาง ทำให้น้ำยางไหลออกมา ส่วนถนนสายบ้านผือ-นายูง ยังมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นล้มทับถนน เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด จนถึงขณะนี้ไฟฟ้ายังใช้การไม่ได้ และยังมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถยนต์ของประชาชนถูกลูกเห็บหล่นใส่เสียหายกว่า 50 คัน

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักเรียนจากโรงเรียนท่าบ่อ จำนวน 500 คนได้เดินทางมาเข้าค่ายคุณธรรมที่อุทยานแห่งชาติภูพระบาท ต.เมืองพาน ได้รับบาดเจ็บจากพายุฤดูร้อนถล่มตั้งแต่เมื่อคืนบาดเจ็บแขนหัก 2 คน ตกใจจนช็อคนับสิบราย หลังเกิดเหตุคณะครูได้พานักเรียนเดินทางกลับทันที โดยขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานทางจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด มีเพียงทางองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายได้ออกสำรวจพื้นที่ความเสียหายของประชาชนเท่านั้น

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=15539

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“สโนว์มาเกดอน” ถล่มสหรัฐฯ ชายฝั่งตะวันออกเป็นอัมพาต สังเวย 2 ชีวิต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 กุมภาพันธ์ 2553 17:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี - พายุหิมะ ที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์ ทำให้ทั่วชายฝั่งตะวันออกของประเทศถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ทั้งยังทำให้การสัญจรทั่วภูมิภาคเกือบเป็นอัมพาต ประชาชนหลายล้านคนเดือดร้อน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนแล้ว 2 คน

พายุหิมะร้ายแรง ที่ถูกตั้งฉายาว่าเป็น "สโนว์คาโพลิปส์" และ "สโนว์มาเกดอน" กินพื้นที่หลายร้อยไมล์ ตั้งแต่มลรัฐอินดิแอนา ทางตะวันออกไปจนถึงเพนซิลเวเนีย รวมถึงแมริแลนด์ และนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ด้วย โดยนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า หิมะตกหนาถึง 38 นิ้ว

ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้กล่าวในระหว่างการประชุมประจำฤดูหนาวของคณะกรรมาธิการแห่งชาติพรรคเดโมแครต ว่า "สโนว์มาเกดอนเกิดขึ้นที่นี่ ในดีซีแล้ว" ซึ่งถือเป็นพายุหิมะรุนแรงครั้งที่ 2 ในฤดูหนาวนี้แล้ว

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (NWS) ประกาศเตือนภัยพายุหิมะในพื้นที่กรุงวอชิงตัน-บัลติมอร์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 22.00 น.วันศุกร์ (5) ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่ายังจะทำให้มลรัฐเวอร์จิเนีย แมรีแลนด์ และเดลาแวร์ ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งยังต้องปิดทำการหน่วยงานต่างๆ ทั้งศาล โรงเรียน สำนักงานรัฐบาล หรือแม้แต่ฐานทัพทหารด้วยจากพายุหิมะที่ตกหนักมากเป็นประวัติการณ์

ส่วนเที่ยวบินทุกเที่ยวจากสนามบิน เรแกน เนชันนัล ถูกยกเลิก ขณะที่เที่ยวบินส่วนใหญ่จากสนามบินระหว่างประเทศดัลลัส ในเวอร์จิเนียก็เช่นเดียวกัน แต่ที่แย่กว่านั้นคือ หลังคาโรงเก็บเครื่องบินที่ดัลลัสเกิดถล่มลงมา โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ ระบบรถไฟใต้ดินในเมืองหลวงต้องปิดทำการ 40 สถานีบริการ ซึ่งหมายความว่าเครือข่ายขนส่งระหว่างกรุงวอชิงตัน และชานเมืองที่ผู้คนหนาแน่นโดยรอบต้องชะงักลง เช่นเดียวกับถนนสายหลัก ที่ให้บริการรถบัสด้วย

เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งชาติราว 200 คน ถูกส่งไปที่รัฐแมริแลนด์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐเวอร์จิเนียยืนยันว่าพบ พ่อและลูกชายคู่หนึ่งเสียชีวิตเมื่อพวกเขาลงจากรถไปช่วยกันเข็นรถเนื่องจากติดหล่ม และยังระบุว่าได้รับโทรแจ้งขอความช่วยเหลืออีกราว 3,167 ครั้ง มากกว่า 2 ใน 3 เป็นเรื่องอุบัติเหตุรถ หรือรถติดหล่ม

อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนก็สนุกสนานกับพายุหิมะครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูหนาวนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปาหิมะ ซึ่งมีผู้คนร่วม 5,000 คนออกมาร่วมสนุกกันใจกลางกรุงวอชิงตัน ตลอดจนเล่นสกี หรือสโนว์บอร์ดด้วย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลถล่มญี่ปุ่นถึงไต้หวัน รุนแรง 6.6 ริกเตอร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 กุมภาพันธ์ 2553 18:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญเผย เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเล นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะญี่ปุ่น และไต้หวันในวันนี้ (7) แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต หรือความเสียหายใดๆ​

ญี่ปุ่นได้ประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิในเบื้องต้น หลังเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาคำนวนว่ามีระดับความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ แต่ได้ยกเลิกประกาศดังกล่าวไปในเวลาต่อมา​

ด้านกรมสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ หรือ ยูเอสจีเอส ระบุว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวมีระดับความรุนแรง 6.4 ริกเตอร์ ขณะที่ศูนย์แผ่นดินไหวของไต้หวันวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3 ริกเตอร์​

ยูเอสจีเอสเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.10น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น หรือราว 13.10 น. ตามเวลาของไทย ที่ความลึกกว่า 16 กิโลเมตรใต้ท้องทะเล ห่างจากเกาะอิชิงากิทางตอนใต้ของญี่ปุ่น 115 กิโลเมตร และห่างจากเมืองฮัวเหลียนของไต้หวันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 225 กิโลเมตร​

แม้ว่าศุนย์แผ่นดินไหวของไต้หวันจะไม่ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่ผู้อำนวยการศูนย์ก็ได้เร่งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งเพิ่มความระมัดระวังภัย และจับตาดูระดับน้ำทะเลอย่างใกล้ชิด​

ขณะที่กรมอุตุฯ ของญี่ปุ่นคาดว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์ลูกเล็กๆ ที่ความสูงราว 0.5 เมตร ตามแนวชายฝั่งบางส่วนของเกาะทางตอนใต้ แต่ก็ได้ยกเลิกประกาศเตือนดังกล่าวหลังจากนั้น 1 ชั่วโมง​

ส่วนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานดับเพลิงแห่งชาติของไต้หวัน ซึ่งประสานงานกู้ภัยบนเกาะยืนยันว่า ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือแม้ต่ความเสียหายใดๆ​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผู้นำอิหร่านประกาศเร่งเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมท้าทายชาติตะวันตก</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 กุมภาพันธ์ 2553 15:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเจนซี - ประธานาธิบดีมาห์มุด อะห์มาดิเนจัดของอิหร่านสั่งการให้องค์การพลังงานปรมาณูเริ่มดำเนินการผลิตเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในวันนี้ (7) นับเป็นการท้าทายความพยายามของชาติมหาอำนาจตะวันตกในการควบคุมกิจกรรมนิวเคลียร์ของเตหะรานล่าสุด

อะห์มาดิเนจัดแถลงการณ์ถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ว่า "ผมขอให้ ดร.ซาเลฮีเริ่มดำเนินงานการผลิตเชื้อเพลิง 20% ที่ใช้ในการเสริมสมรรถนะ" โดยอ้างถึงอาลี อักบาร์ ซาเลฮี ซึ่งเป็นหัวหน้าองค์การพลังงานปรมาณูดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า "ประตูสำหรับการโต้ตอบยังเปิดอยู่"

อะห์มาดิเนจัดระบุว่า อิหร่านมีความสามารถในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม โดยใช่เทคโนโลยีเลเซอร์ ที่ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน

ในวันเสาร์ (6) ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และเยอรมนีเผยว่า พวกเขาไม่เห็นสัญญาณที่ว่าเตหะรานจะยอมอ่อนข้อเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านจะแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการบรรลุข้อตกลงเพิ่มขึ้นก็ตาม

ที่มา http://www.manager.co.th/

 

======================================

7 ก.พ. 53

แจ้งซ้ำย้ำเตือน

มีผู้รู้ที่ขอนแก่นบอกผ่านมาให้คนกรุงเทพฯ ระวังเรื่องแผ่นดินไหวในปีนี้


16 ก.ย. 51

เรื่องเล่าจากภาพ

การทะเลาะวิวาท ผู้นำจากคนนอกที่เก่งการเงิน แผ่นดินไหวจะตามมา






องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"โอบามา"ผวาหิมะโลกแตกถล่มสหรัฐ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับหิมะตกครั้งหนักที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกมา ด้วยหิมะที่ท่วมสูงราว 25-30 นิ้ว

ตั้งแต่รัฐอินเดียน่า ไปทางตะวันออก ผ่านรัฐนิวยอร์ก วอชิงตัน เพนซิลเวเนีย เดลาแวร์ จนสุดชายฝั่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ ไม่เว้นแม้แต่ทำเนียบขาวในนครหลวงวอชิงตัน ดีซี ที่รถนำขบวนของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ถึงกับเสียหลักไปชนกับรถตู้เอสยูวีแต่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ ทำให้โอบามาถึงกับเรียกเหตุการณ์หิมะตกหนัก ดังกล่าวนี้ว่า "หิมะโลกแตก"

ทางการสหรัฐต้องระดมเจ้าหน้าที่และรถกวาดหิมะหลายพันคัน รวมทั้งขอกำลังเสริมจากกองกำลังป้องกันภัยแห่งชาติเข้ามาช่วยกันทำงานอย่างเร่งด่วน

เพื่อกวาดหิมะที่ตกลงมากอง สูงราว 3 นิ้วทุกชั่วโมงออกไปจากถนน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก สนามบินหลายแห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราว เกิดไฟฟ้าดับในรัฐเวอร์จิเนีย เพนซิลเวเนีย แมรี่แลนด์ และรัฐวอชิงตัน ล่าสุด ประชาชนกว่า 3 แสนคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่รัฐเดลาแวร์ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตะลึง หญิงสาวถูกโจรแย่งกระเป๋า ไม่รู้ตัวถูกมีดแทงปักคาคอเลือดอาบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตะลึง หญิงสาวถูกโจรแย่งกระเป๋า ไม่รู้ตัวถูกมีดแทงปักคาคอเลือดอาบ

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ว่า เกิดเหตุเหลือเชื่อ น.ส.จูเลีย โปโปว่า พนักงานออฟฟิศวัย 22 ปี ชาวรัสเซีย

ได้เผชิญสถานการณ์คนร้ายแย่งกระเป๋าถือ ระหว่างเดินทางกลับบ้านในกรุงมอสโก ก่อนที่คนร้ายจะปักมีดเข้าด้านหลังคอของเธอ แต่น.ส.จูเลีย ไม่รู้ตัวทั้งที่ ๆ ไหลได้อาบเต็มบ่าของเธอ โดยเธอได้เดินทางกลับบ้านอย่างใจเย็น และเมื่อถึงบ้าน ครอบครัวก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่า เธอมีมีดปักคอด้านข้าง ก่อนจะพาเธอนำส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์บอกว่า มีดดังกล่าวเกือบโดนถูกเส้นประสาทไขสันหลัง

และเคราะห์ดีที่แพทย์สามารถนำมีดออกโดยได้ไม่กระทบเส้นประสาทไขสันหลัง
[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>