มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นาคา, 18 เมษายน 2008.

  1. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ย่ำรอยว่าที่เมืองท่ามรดกโลก ปริศนาเส้นทางลัดอันดามันถึงอ่าวไทย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 พฤษภาคม 2552 07:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>เส้นทางข้ามคาบสมุทรตะกั่วป่า-อ่าวบ้านดอน

    เส้นทางคาบสมุทรฝั่งอันดามันบรรจบอ่าวไทย เป็นที่กล่าวโจษขานมานาน ว่า เป็นเส้นทางการเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และมีอดีตที่รุ่งโรจน์ อันปรากฏด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ขุดค้นพบ ซึ่งมีที่มาหลากหลาย ทั้งเครื่องถ้วยเปอร์เซีย เครื่องเคลือบจากเมืองจีนอายุกว่าพันปี เทวรูปสัญลักษณ์สำคัญของการเผยแผ่ศาสนาจากอินเดีย รวมถึงลูกปัดที่บ่งบอกถึงความเป็นเมืองท่าที่มีการติดต่อค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองในย่านนี้

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางประวัติศาสตร์เส้นทางนี้ยังคงเต็มไปด้วยปริศนา ซึ่งบรรดานักโบราณคดีกำลังเร่งศึกษาหาข้อมูลถึงความเชื่อมโยงของเส้นทางและเมืองท่าต่างๆ จากปากแม่น้ำตะกั่วป่า ฝั่งอันดามัน เรื่อยไปจนถึงปากอ่าวบ้านดอนที่ทะลุชายฝั่งอ่าวไทย เส้นทางสำคัญไปประเทศจีนและอินเดีย

    **อดีตเมืองท่าสู่เส้นทางมรดกโลก

    เกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร บอกสาเหตุที่ต้องมีการตามรอยเส้นทางการค้าคาบสมุทรนั้น เพราะเป็นที่เชื่อได้ว่าจะต้องมีเส้นทางการค้าโบราณแหล่งต่างๆ ที่ตัดผ่านไปถึงประเทศมาเลเซีย กรมศิลปากรจึงได้เริ่มต้นที่เส้นทางการค้าข้ามคาบสมุทรก่อนเส้นทางอื่น ซึ่งหากประเทศไทยสามารถสำรวจและขุดค้นรวมทั้งพิสูจน์เส้นทางที่ตัดผ่านจากอันดามันสู่อ่าวไทยได้อย่างแน่ชัดแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าเส้นทางการค้าที่มีอายุกว่าพันปีนี้จะขอขึ้นเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของไทย และเชื่อว่านี่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการไขปริศนาที่ว่า ศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ที่ใดกันแน่ระหว่าง ภาคใต้ของไทย หรือประเทศมาเลเซีย

    “จากการศึกษาเมืองท่าในสุราษฎร์ธานีถึงประเทศมาเลเซียจะทำให้เราจะมีคำตอบเกี่ยวกับอาณาจักรศรีวิชัยที่ชัดเจนมากขึ้น การร้อยเรียงเรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นสัญญาณที่ดีหากจะขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเชื่อมโยง 2 ประเทศ ซึ่งจะมีแต่ข้อดีทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมร่วมกัน” อธิบดีกรมศิลปากร บอกอย่างมีความหวัง

    **ย่ำรอยอดีตแห่งเมืองท่าเก่า

    ร.อ.บุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ นักโบราณคดี หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ทำหน้าที่เล่าย้อนถึงอดีตดินแดนภาคใต้ของไทยว่า เส้นทางเมืองท่าในภาคใต้มีเรื่องราวยาวนานนับ 2,000 ปีมาแล้ว โดยในระยะเริ่มต้นความรู้ด้านเส้นทางเดินเรือตลอดจนทิศทางลมของชาวเรือยังไม่แน่นอน ภูเขาทอง จ.ระนอง เนินเขาเล็กๆ ที่ซ่อนตัวหากจากฝั่งทะเลลึกเข้าไปในแผ่นดิน จึงเป็นจุดเมืองท่าแห่งแรกที่มีหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของฝั่งอันดามัน ลูกปัดแก้ว และเครื่องเคลือบจากลุ่มน้ำคงคาในอินเดีย

    จากนั้นราวพุทธศตวรรษที่ 13 ชาวเรือพัฒนาการเรียนรู้ลมมรสุมที่แน่นอน ทำให้เกิดท่าเรือแห่งใหม่ ภูเขาทองจึงเริ่มได้รับความนิยมลดลง โดยมีเมืองท่าใหม่คือ ทุ่งตึก จ.พังงา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำตะกั่วป่า และเป็นทำเลทองที่สามารถหลบลมตะวันออกเพื่อจอดพักเรือและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้

    “สิ่งที่บอกว่าทุ่งตึกเคยรุ่งเรืองมากคือมีเทวสถานที่ประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ และเจอโบราณสถานอีก 8 แห่ง และพบสินค้าฟุ่มเฟือยของชนชั้นสูง เช่น โถแก้วที่ทรงคอคอดคาดว่าน่าจะใส่น้ำหอม เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถัง ลูกปัดแก้วที่หาได้ยากและสวยงามที่สุดในประเทศไทย หากดูจากสิ่งที่เราพบบอกได้ว่าแถบนี้เคยเป็นจุดพักเรือที่สำคัญและมีชุมชนขนาดใหญ่อาศัยอยู่”

    ร.อ.บุณยฤทธิ์ บอกอีกว่า ทุ่งตึก หรือปากแม่น้ำตะกั่วป่าที่ถูกค้นพบนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเส้นทางถ่ายสินค้าข้ามคาบสมุทรจากอันดามันออกปากอ่าวไทยในขณะนั้นโดยไม่ต้องอ้อมเรือไกลไปถึงช่องแคบมะละกา จึงมีการขนถ่ายสินค้าผ่านลำเรือเล็กและล่องไปตามแม่น้ำซึ่งเป็นวิธีการหลบเลี่ยงกลุ่มโจรสลัดที่ชุกชุม

    “ความเป็นไปได้ของเส้นทางตะกั่วป่า ถึงอ่าวบ้านดอนมีค่อนข้างสูงเพราะเป็นเส้นทางที่มีหลักฐานทางโบราณคดีรองรับและโดยส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุและโบราณสถานที่อยู่ร่วมสมัยเดียวกันชัดเจนคืออยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 ทั้งหมดต่างจากเส้นทางอื่นๆ ที่เคยขุดสำรวจ” หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีภูเก็ต ยืนยัน

    **ไขปริศนาอดีต

    เพื่อพิสูจน์คำบอกเล่าเราได้เดินทางตามเส้นทางจากปากแม่น้ำตะกั่วป่าฝั่งอันดามันตามเส้นทางตัดข้ามเพื่อออกไปเมืองท่าอีกแห่งหนึ่ง สิ้นสุด ณ อ่าวบ้านดอน เมืองสุราษฎร์ธานี ที่นักโบราณคดีบอกว่าพบจุดพักเรือ ได้แก่ เขาพะเหนอ จุดตรงข้ามกับทุ่งตึก บริเวณที่พบเทวรูปพระนารายณ์ที่มีความสมบูรณ์งดงามมากองค์หนึ่ง
    นอกจากนี้ ในบริเวณต้นแม่น้ำตะกั่วป่าจุดที่คลองเหล และคลองรมณีย์ไหลมาบรรจบกันไม่ไกลจากทุ่งตึกมากนัก เนินเขาที่ชื่อว่าเขาเวียงคาดว่าจะเป็นจุดพักถ่ายสินค้าที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง เนื่องจากพบเทวรูปพระนารายณ์อีก 1 องค์ โดยมีหลักศิลาจารึกหลักที่ 26 ด้วย

    “ตามเส้นทางของการเดินทางในอดีตนั้นเป็นที่น่าสังเกตว่าจุดพักเรือหรือที่ตั้งเทวสถานนั้นส่วนใหญ่เป็นเทวรูปพระนารายณ์ ควนพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ตั้งอยู่ใกล้ลุ่มน้ำพุมดวงและแม่น้ำตาปี ซึ่งพบพระพิมพ์ดินดิบ และเหรียญเงินอาหรับ พ.ศ.1310 เพิ่มเติมด้วย โดยจุดสิ้นสุดการถ่ายโอนสินค้า ณ แหลมโพธิ์ หรืออ่าวบ้านดอน เพื่อล่องทะเลต่อไปในอ่าวไทย”

    สมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอุษาคเนย์ สรุปถึงความสำคัญของเส้นทางข้ามคาบสมุทร ว่า สาเหตุที่เส้นทางตะกั่วป่าถึงอ่าวบ้านดอนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งจนถึงขั้นเป็นเมืองท่าที่สำคัญของโลกนั้น เพราะเส้นทางข้ามคาบสมุทรเส้นนี้น่าจะถูกควบคุมด้วยอำนาจทางการเมืองโดยเมืองไชยา ซึ่งแผ่อำนาจไพศาลด้วยอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งต่อมาเส้นทางการค้านี้เป็นตัวแปรสำคัญเพื่อใช้อธิบายการก่อเกิด ความรุ่งเรือง ตลอดจนความเสื่อมถอยของเมืองไชยา

    ทั้งนี้ อธิบดีกรมศิลปากร เชื่อว่า การขุดค้นเส้นทางข้ามคาบสมุทรของสำนักโบราณคดีที่ 15 ภูเก็ต จะทำให้คนในท้องถิ่นสนใจและเริ่มหันมาเรียนรู้ ตลอดจนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุในแต่ละท้องที่ มีความภูมิใจในท้องถิ่น เข้าใจในความรู้ดั้งเดิมมากขึ้น ตลอดจนใช้ความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดและพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานวัฒนธรรม

    “เราไม่จำเป็นต้องอยู่กับอดีตตลอดไป แต่เราจำเป็นต้องศึกษาอดีตเพื่อนำมารับใช้ปัจจุบันและนำมาขับเคลื่อนและผลักดันอนาคต” อธิบดีกรมศิลปากร ทิ้งท้าย

    ..ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่ายังมีปริศนาอีกมากมายที่รอการค้นพบ ภายในหุบเขาลูกเล็กอีกนับไม่ถ้วนที่อาจซุกซ่อนตัวห่างจากชายทะเล รอเพียงผู้เสาะแสวงหาเรื่องราวมาบอกเล่ามายังสู่คนปัจจุบัน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    เนื่องด้วย เพื่อน hs8irr ใด้ บรรพชา อุปสมบท เพื่อ อุทิศให้เจ้าของสังขาร ที่อุทิศ ไต ให้เค้า ซึ่ง เพื่อนท่านนี้ บ้านคุณพ่อ อยู่ที่ อ.นาทวี สงขลา ใด้ อุปสมบท ณ. อุโบสถ วัดพะโค๊ะ อ.สะทิงพระ สงขลา

    กราบ หลวงปู่ ลูกแก้ว รอยพระบาท เวียนรอบพระธรรมเจดีย์ สมัย.... อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์
    วัดพะโค๊ะ
    วัดพะโคะหรือวัดราชประดิษฐาน สร้างขึ้นราว พ.ศ. 500 มีเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระมหาธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากเมืองลังกา นอกจากนี้มีพระพุทธไสยาสน์ ชื่อว่าพระพุทธโคตมะ ตามความนิยมของชาวบ้านเรียกชื่อวัดตามชื่อพระโคตมะ ชื่อวัดราชประดิษฐานเดิมไม่นิยมเรียกกัน ต่อมาวัดพระโคตมะเรียกเพี้ยนเป็นวัดพะโคะ บริเวณวัดมีภูเขาสี่ลูกคือ เขาพระพุทธบาท(พะโคะ) เขาพนังตุกแก(เขาน้อย) เขาคูหา และเขาผี ชุมชนที่อยู่ใกล้บริเวณเขาทั้งสี่นี้ ตามตำนานในอดีตเจ้าเมืองลังกาทรงให้ชุมชนเหล่านี้ช่วยเหลือกิจของวัดพะโคะเนื่องในวันสำคัญทางศาสนา

    ความสำคัญอีกประการหนึ่งของ
    วัดพะโคะคือ เป็นที่กำเนิดและอุปสมบทของหลวงปู่ทวด ทางวัดจึงต้องการนำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดมาให้ชมและนำเสนอประวัติความเป็นมาของหลวงปู่ทวด
    ด้วย พิพิธภัณฑ์วัดพะโคะเปิดให้เข้าชมเมื่อปี พ.ศ. 2536 ของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ อาทิ พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผาเครื่องทองเหลือง มีดพร้า ตะบันหมากทองเหลือง ธนบัตรและเหรียญสมัยก่อน เครื่องถ้วยกระเบื้อง นอกจากนี้ยังมีวัตถุที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อทวด เช่น อัฐบริขาร จีวร ไม้เท้าของหลวงปู่ทวด ลูกแก้วบารมี เป็นต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    คืนวันศุกร์ 26 กันยา มีโอกาส ใด้ร่วม อธิฐานจิต วัตถุมงคล ชั้น2 บนกุฏิ หลวงปู่สุภา โดยพระอาจารย์ 5 รูป ฆราวาส 4 วันนี้ หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา แนะนำ ว่า ธาตุไฟ มากเกิน ให้ ปรับธาตุใหม่ คืนนี้ อีกครั้ง

    เมื่อประมาณ ปี 2548 ผม นาคา ใด้ บวช และ ตามหลวงปู่สุภา ไปที่วัดคอนสวรรค์ จ.สกลนคร มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในผ้าเหลือง มีโอกาส ใด้ ร่วมอธิฐานจิต วัตถุ มงคล เช่นกัน หลวงปู่สุภา ท่าน เมตตา กล่าวว่า...

    การตั้งจิต ให้วัตถุ นั้นๆ ต้อง รัก เมตตา และ ให้มีชีวิต ชีวา ดัง เช่น คน หรือ สิ่งมีชีวิต... การตั้ง อธิฐาน จิต จึง จะ สมบูรณ์ .... เคลื่อนไหว ใด้ .

    คราวนั้น ใด้ มีโอกาส อธิฐานจิต จระเข้อาคม ทั้งขนาด เล็ก,กลาง ..ต่อมา ทางวัด ใด้ นำ วัตถุมงคล และ จรเข้ นั้น ไป ที่ วัดคอนสวรรค์
    เผอิญ รถ เกิดเสียหลัก นิดหนึ่ง จระเข้ หลุดจากรถ มี คนเห็น ว่า....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  4. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ปลายเดือน กค. ทางเพื่อนน้องชาย บังมุสลิม เชิญ ผมไปเยี่ยม เพราะต้องตา ต้องใจ ใน พระขรรค์เหล็กน้ำพี้ ซึ่งบังยังไม่ทราบรายละเอียด

    ในดงมุสลิม เพื่อน น้องชาย เมื่อ เพื่อน มุสลิม เชิญ เราไป เรายินดี...

    ถ้ำแรกถ้านาค มีหินย้อย รูปนาคราช คลานติดพื้น ทราบข่าว ว่า เป็นของโบราณกาล มีบางคน ขุดพลอย ที่ติดหลังนาคราชไปแล้ว ที่เข้า มีหลายคน เข้าไปขุดคุ้ย ทรัพย์แผ่นดิน นาคา เข้าไปเพื่อ การเยี่ยมเยือน เพื่อน ,ญาติกายทิพย์ ชั้นลอย จะมี ม่าน ที่ประทับ ของ.... (ภาพ 1,2 )

    ถ้ำที่2 สูงตะหง่า ประมาณ เกือบ 200 เมตร ตั้งโด่ ผู้นำทางไต่ตามสันดิน และเถาวัลย์,ซอก แง่ หิน ไต่ ขึ้นถ้ำ มีโครงกระดูก ,มีต้นไม้ขึ้นแยงมาจากในหิน เป็น ยา จากนั้นมุดโพรงรู ต้องคลานแบบ งูเข้าไป ประมาณ 3 เมตร ถึงห้องโถง ลมเย็น .... (เพื่อน มุสลิม พาไปให้เห็น ว่า เค้า ใด้ ไข่ในหิน ลูกนี้ใด้อย่างไร ) ภาพ 3 -6

    ถ้ำ 3 ชาวบ้านเรียกว่า ถ้ำแก้ว หรือ ทั่วไป เรียกว่า ถ้ำวิมาน..
    ไต่ตามทางเดินเรื่อยๆ ประมาณ 100 กว่าเมตร กับ อาหารมื้อเดียว เอกา
    ในถ้ำหน้าสุด น้ำหินปูน ย้อยมาเป็นรูปพ่อแก่ ถัดมา ย้อยลงมาเป็นรูปนาคราช กลางถ้ำ หินปูน ย้อยลงมาเป็นรูป นาคราช 3 เศียร ตรงกลางสูงเพิ่มอีก 1เศียร เมื่อชมความงามภายในถ้ำ สิ่งที่เจอ มากมาย เช่น อาจจะเป็น โครตเหล็กไหล , พระสีวลีธาตุ และ ขออนุญาติ อัญเชิญ พระสีวลีธาตุ องค์ใหญ่ ประมาณ 1 นิ้ว กว่าๆ มาบูชา ( ครู อาจารย์สายทิพย์ ท่านให้อัญเชิญ )

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2009
  5. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    วันที่ไปเยือนกระบี่ในคราวนั้น ใด้พบปะ พูดคุยกับ บังมุสลิม ท้องถิ่น บังมุสลิมอีกท่านหนึ่ง บอกว่า เขาใด้พบ หน้ากากสิงห์ ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ในกระบี่ เช่นกัน

    ต่อมา ใด้ถ่ายภาพหน้ากาก นี้ ให้ชมกันครับ น้ำหนักประมาณ 2-3 กก.ขนาดประมาณ 7 นิ้วกว่า ดูตามภาพ

    คาดว่า..น่าจะเกี่ยวพันกับ การค้นพบ รูปปั้นฟาโรห์ ที่ ระนอง เพราะน่าจะเป็นลักษณะ สมัย

    ไอยคุปต์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    เดินทาง แสวงบุญ ทริปถ้ำวัวแดง พร้อม เพื่อนๆ ห้องภัยพิบัติ โดยการนำทีม คุณเล็ก

    คืนสุดท้าย นาคา จึง ขออนุญาติ หา มุมสงบ พัก กายา อารมณ์ ใน ซอกเล็กๆ เดี่ยวๆ คนเดียว ,ส่วน เพื่อน ประมาณ 10 กว่าคน ย้าย มานอน ในถ้ำ หน้า องค์พระ ในถ้ำ กัน บางส่วน ยังคง นอน ในศาลา เดิม ครับ

    กิจกรรม ตำหมาก +ปูน +...... ปรอท สำเร็จ.....ส่วน สำคัญ คือ เส้นชานหมาก หรือ ยา เส้น ของ หลวงปู่ละมัย วัดป่าสมุนไพร .....ใช้เวลาตำ ประมาณ ครึ่ง ชม.ในขณะตำ และ คลึงนั้น บริกรรม พระคาถา ด้วยกัน โดยการใช้ เตโช ธาตุ ( ทางคุณ kananun ให้ ตัวคาถา ) คลึง หมาก ที่ ตำแล้ว ประมาณ 6 ชม. จึง เป็น รูป เป็น ร่าง ครับ

    [​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG]

    วันนี้ เผอิญ ใด้บท บท หนึ่ง จากห้องวัตถุมงคล
    ขออนุญาติ นำ ข้อมูล เรื่อง ปรอท;

    อ้างอิงจาก ; <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เพชรฉลูกัน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2767091", true); </SCRIPT>

    อุปเทห์การใช้พระปรอท
    <!-- google_ad_section_start -->
    สำหรับวิธีการใช้พระปรอทหลวงปู่ครับ ท่านให้ภาวนา เสมอๆ คือ นะ มะ อะ อุ แล้วกำพระไว้ หรือ แขวนไว้กับตัวตลอด เพื่อให้ปรอทกินของเสียในร่างกาย แล้วก็ว่างๆ ก็หมั่นภาวนาได้ตลอดเวลา แล้วท่านให้กลับธาตุ คือเดินธาตุทั้งสี่ โดย นะ มะ พะ ทะ แล้วก็กลับธาตุ

    นะ โม พุท ธา ยะ นะ
    โม พุท ธา ยะ นะ นะ
    พุท ธา ยะ นะ นะ โม
    ธายะ นะ นะ โม พุท
    ยะ นะ นะ โม พุท ธา
    นะ นะ โม พุท ธา ยะ


    ท่านใดมีพระปรอทหลวงปู่ เชิญเดินธาตุดูได้ครับ มีอะไรให้ท่านได้สัมผัส อีกมากมาย

    ...บทความดีๆจากคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kchatreeครับ..<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ธรรมะหลวงปู่ละมัย

    การกราบพระ
    กราบครั้งที่ 1 - กราบพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
    กราบครั้งที่ 2 - กราบพระธรรมเจ้า ตั้งแต่ อดีจ ปัจจุบัน และอนาคต
    กราบครั้งที่ 3 - กราบพระสงฆเจ้า ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต


    ครู
    มีโยมมากราบหลวงปู่ บอกหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ของเขา
    หลวงปู่ตอบว่า
    ครูมีอยู่ 6 คน
    1. ตา
    2. หู
    3. จมูก
    4.ลิ้น
    5.กาย
    6.ใจ
     
  7. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    เมื่อ24 ธันวา วันพระ มีพระอาจารย์จาก ชัยภูมิ ท่าน นำพระพุทธเจ้า 5พระองค์ เพื่อขอความเมตตา หลวงปู่ท่าน อธิฐานจิต เบิกเนตร เพื่ออัญเชิญประดิษฐานใว้ที่ วัด ในชัยภูมิ ต่อไป

    วันพระ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 2 มีโอกาส นั่งภาวนา และ ถวายดอกไม้บูชาครู หลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม ตามปกติวันพระ ตามวาระ ที่ การงานทางโลกอำนวยให้

    เมื่อถวายดอกไม้แล้ว ขอความเมตตา จากหลวงปู่ท่าน สงเคราะห์ อธิฐานจิต ให้กับ ลูกแก้วนาคราช ที่ใด้มา เมื่อ กฐินกาลปีนี้ หลวงปู่ ท่านหยอก หน่อยหนึ่ง แตกแล้ว แตกแล้ว (หลวงปู่ท่านเมตตา นำดวงแก้ว 2 ดวงมาเคาะ ให้เสียงดัง จากนั้น อธิฐานจิตให้ ครับ )
    หลวงน้า ที่วัดหลวงปู่ ท่านเมตตา มอบชานหมาก ดวงแก้วสารพัดนึก ให้ 1 ดวง เช่นกันครับ<!-- google_ad_section_end -->

    คืนวันเสาร์ 26 ธันวาที่ผ่านมา ร่วมอธิฐานจิต วัตถุมงคล กับ หลวงน้า,หลวงพี่ ที่วัดหลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม

    คืนวันหัส 31ธันวา วันพระ นั่งภาวนา ปฏิบัติธรรม วัดสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา (จำเริญวัฒนะ 115ปี 17 กันยา 2552 )

    จากนั้น ร่วมถวายดอกไม้บูชาครู หลวงปู่ ประจำทุกวันพระ ( เท่าที่ นาคา ว่างเว้นภาระกิจ ) สนทนาธรรม กับพระอาจารย์ ที่วัด

    นั่งภาวนา รอยต่อ ปี 2552 -2553 กระทั่ง ข้อความ แจ้ง อวยพร ปีใหม่ ทางมือถือ เลย ตอบกลับ หลายท่าน ตามวาระ

    เช้าปีใหม่ 2553 ร่วมบุญ ใส่บาตร หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา โปรดสาธุชน ในวัด หลวงปู่ เมตตา แจก วัตถุมงคล
    และช่วยงานวัด .....เก็บ ข้าวสาร อาหารแห้งจากการใส่บาตร ของสาธุชน ใว้ในกุฏิ ชี .......

    ทานอาหาร มื้อแรก ของวัน ใหม่ 2553 ข้าวเหลือจากพระ เวลา 11.50 น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    เมื่อคราว แนะนำกรรมฐาน โดยทางคุณเล็ก โครงการ จิตตานุภาพแนะกรรมฐานหาดใหญ่ 2
    มีโอกาส แวะ กราบหลวงปู่สุภา แวะ กราบรอยพระพุทธบาทเกาะแก้วพิสดาร ภูเก็ต
    แวะ แนะนำกรรมฐาน ที่วัดหลักแก่น
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  9. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    [​IMG] [​IMG]
    จากรูปนี้จะเห็น หินที่เพิ่งปรากฏเป็นรอยพระหัตถ์ ซึ่งยกในพุทธลักษณะห้ามสมุทร ออกไปยังมหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน

    ซึ่งพระท่านบอกในสมาธิว่า เพิ่งปรากฏ เพื่อห้ามภัยพิบัติ ครับ<!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]

    <CENTER><B><BIG>ประวัติรอยพระพุทธบาท ๕ แห่ง</CENTER></B></BIG>
    <DD>สําหรับรอยพระพุทธบาทที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งได้ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกนั้นมีอยู่ ๕ แห่ง ดังนี้คือ

    ๑. สุวัณณมาลิก
    ๒. สุวัณณบรรพต
    ๓. สุมนกูฏ
    ๔. โยนกปุระ
    ๕. นัมทานที


    <DD>ตามความเชื่อของคนโบราณต่างมีความเชื่อถือมานานแล้วว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต หากได้มีโอกาสไปนมัสการรอยพระพุทธบาท นับว่ามีบุญวาสนาเป็นอย่างยิ่ง จึงมีประเพณีพากันเดินไปนมัสการรอยพระพุทธบาท โดยเตรียมเสบียงอาหารไปกินระหว่างทาง แม้สมัยหลวงพ่อบวชอยู่กับ หลวงปู่ปาน ท่านก็ได้นำคณะธุดงค์ไปกราบรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรีเช่นกัน

    <DD>ต่อมาในสมัยปัจจุบันนี้ถนนหนทางดีขึ้น ประเพณีเดินไปนมัสการพระพุทธบาทก็เริ่มเสื่อมหายไป เพราะใครจะไปเมื่อไรก็ได้ เนื่องจากมีความสะดวกเกินไปนั่นเอง ความศรัทธาในเรื่อง "รอยพระพุทธบาท" จึงเริ่มจืดจางความสำคัญไป แต่ที่ยังมีความเชื่อความเลื่อมใสก็ยังมีอีกมากมาย เช่นที่รอยพระพุทธบาทบน เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

    <DD>โดยเฉพาะเนื่องในวโรกาสครบรอบ ๖๐ พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีการจัดสร้าง รอยพระพุทธบาทจำลองทองคำ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองอีกด้วย เวลานี้หลังจากพระราชพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    <DD>สำหรับวัดของเรา อาจจะมีข่าวดีในเรื่องนี้บ้างก็ได้ นั่นคือจะมีการเททองรอยพระพุทธบาทจำลอง เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ที่โบสถ์เก่า เป็นการทดแทนรอยพระพุทธบาทเดิมที่หายไป ตั้งแต่สมัยเจ้าอาวาสองค์เก่าแล้วนั้น

    <DD>ต่อไปขอนำความเชื่อถือของคนสมัยก่อน เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ยังปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์ใบลาน หรือศิลาจารึก ยังสามารถค้นหามาอ้างอิงได้ เพื่อเป็นการสานต่อความเชื่อถือระหว่างคนสมัยก่อนกับคนสมัยนี้ และเพื่อสืบต่อไปยังคนรุ่นหลังอีก

    <DD>ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงได้ริเริ่มฟื้นฟูรอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับไว้เพื่อเรียกความศรัทธาให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ก่อนที่จะนำหลักฐานต่างๆ มาอ้างอิงนั้น ใคร่ขอนำหลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาให้ทราบก่อน

    <DD>ซึ่งตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายท่านวิเคราะห์แตกต่างกันไป ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า รอยพระพุทธบาททั้ง ๕ แห่ง ที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกนั้น ในปัจจุบันนี้จะเป็นสถานที่ใด และอยู่ในประเทศไหนบ้าง เป็นต้น แต่บางแห่งก็วิเคราะห์ลงเป็นแนวเดียวกัน ที่มีปัญหาถกเถียงกันไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงปัจจุบันนี้ มีด้วยกัน ๒ แห่ง คือ รอยพระพุทธบาทที่ ๔ และที่ ๕ คือ "โยนกปุระ" และ "นัมทานที"

    <DD>ในตอนนี้ ผู้เขียนขอนำคำวิเคราะห์ของ ดร.นันทนา ชุติวงศ์ ซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือ "รอยพระพุทธบาท" ที่ได้กล่าวถึงรอยพระพุทธบาทที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทยอินเดีย ลังกา และพม่า จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์เมืองโบราณ โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาท ๕ แห่งนั้น ท่านวิเคราะห์ไว้ในวงเล็บดังนี้

    สุวัณณมาลิก คงจะได้แก่ที่ตั้งพระสถูป รุวันเวลิ ที่อนุราธปุระ ในลังกา
    สัจจพันธ์คีรี คือเขาสุวรรณบรรพต ที่สระบุรี
    สุมนกูฏ อันอาจจะหมายถึง "เขาสุมนกูฏ" ในลังกา หรือ "เขาพระบาทใหญ่" ที่สุโขทัย
    แม่น้ำนัมทา ในอินเดียหรือในพม่า
    โยนกปุระ โยนกปุระที่กล่าวถึงนี้ อาจจะหมายความถึงดินแดนภาคเหนือของไทย ที่เคยเป็นอาณาจักรล้านนา และ อาณาจักรโยนก

    <DD>เมื่อนำหลักฐานต่างๆ เหล่านี้มาเทียบเคียงกันแล้ว ท่านผู้อ่านคงจะสรุปได้ว่า รอยพระพุทธบาทที่ ๔ ตามที่หากันมานานนั้น บัดนี้ได้เปิดเผยความจริงแล้ว รวมความว่า พระพุทธบาท ๕ รอยนั้น ประดิษฐานอยู่ที่ลังกา ๒ แห่ง คือ รอยที่ ๑ "สุวัณณมาลิก" และรอยที่ ๓ "สุมนกูฏ"

    <DD>ส่วนรอยที่ ๒ "สุวรรณบรรพต" และรอยที่ ๔ "โยนกปุระ" และรอยที่ ๕ "นัมทา นที" ก็คงอยู่ในประเทศไทยนี่เอง ถ้าดูตามแผนที่ประเทศไทยแล้วจะเห็นว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับไว้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ คือภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ภาคกลาง คือ สระบุรี และภาคใต้ คือ ภูเก็ต เป็นการครอบคลุมอาณาจักรและพุทธจักรไว้ด้วยกัน เป็นการประทับไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะรวมกันเป็นประเทศไทยอย่างสมัยปัจจุบันนี้</DD><DD>[​IMG]</DD>
     
  10. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    หลวงพ่อพริ้ง วัดหลักแก่น ทับละมุ พังงา

    หลวงพ่อพริ้ง วัดหลักแก่น ทับละมุ พังงา ท่าน ละสังขาร แล้วครับ เมื่อ เวลา 11.30น.โดยประมาณ ของวันอาทิตย์ ที่ 3 มกราคม

    เมื่อ สึนามิ ธันวา 2547 นั้น มีการ นำศพ ต่างๆ มาเก็บใว้ที่วัดหลักแก่น กันจำนวนมากมาย

    หลวงพ่อพริ่ง หรือ พ่อท่านพริ้ง ของทุกๆคน ท่านจัดเป็นธุระ ให้หลายๆอย่าง

    พ่อท่านพริ้ง ท่านเป็นพระ ที่ง่ายๆ กุฏิที่ท่านพักอยู่นั้น เป็นเพียงขนำเล็กๆๆๆ ธรรมดา มาก เหมือน ขนำ ตามสวน ไร่ นา

    แม้ว่า ..ทหารเรือต่างๆ ที่ มาขอ ความเมตตา จาก พ่อท่าน ทหารเรือ จากทั่วสารทิศ จะ จัดสร้าง กุฏิ ดี ดี ให้ แต่ หลวงพ่อพริ้ง ท่านไม่สนใจ
    ขอจำวัด ในขนำเก่าๆ ที่ ท่าน จำมานาน แสนนาน แล้วครับ

    หลวงพ่อพริ้ง ท่านเมตตา เป่ามนต์ คลายลูกกระสุนปืน (จน สังขาร ท่าน อ่อนแรงมาก แต่ ท่านยังเมตา ต่อทุกท่าน ,สังเกตุ ว่า ที่วัดท่าน เมตตา ต่อ นกยูง กระรอกน้อย ) , ท่านหา สมุนไพร ในการทำยา แผนโบราณ ที่ สุดจะ ขม เพื่อให้ ผู้ป่วย นำไปรับประทานใด้เลย
    หลวงพ่อท่านไม่สนใจ ใน ค่ายา , ท่านสงเคราะห์ ให้ ฟรี


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]

    พระครูวิบูลเวชกิจ" หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า "พ่อท่านพริ้ง ปุณณโก" พระเกจิชื่อดังแถบฝั่งทะเลอันดามัน เจ้าอาวาสวัดหลักแก่น ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ที่ชาวพังงาให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี

    มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยวัย 74 ปี ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์

    อัตโนประวัติ เดิมชื่อ พริ้ง รักษ์ทอง เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2478 ที่ ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายจันทร์และนางผัน รักษ์ทอง ครอบครัวมีพี่น้อง 4 คน

    ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2499 ณ อุโบสถ วัดนิโครธาราม ต.ทับปุด อ.ทับปุด จ.พังงา มีพระราชปฏิภาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูประภัสสรธรรมสาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาณพ ฐิตเตโช เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปุณณโก

    พ.ศ.2517 ท่านได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดหลักแก่น ตั้งแต่นั้นมาได้เริ่มพัฒนาวัด พัฒนาถาวรวัตถุ พัฒนาจิตใจของญาติโยม โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยแต่ประการใด

    พ่อท่านพริ้งได้ศึกษาต้มยาสมุนไพรและใช้คาถากำกับมาจาก พ่อท่านนุ้ย วัดห้วยเตย จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ ยังได้เรียนสรรพวิทยาคมจากพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช อีกทั้งยังได้รักษาผู้ป่วยโรคผิวหนัง ด้วยการพ่นหมากและใช้เสกคาถาช่วย

    มีเรื่องเล่ากันว่า ครั้งหนึ่งมีคนบาดเจ็บสาหัสถูกยิงลูกกระสุนฝังในได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก จนหมอไม่สามารถผ่าตัดได้ แต่เมื่อมาขอให้พ่อท่านพริ้งรักษาปรากฏว่า ท่านได้เป่าพ่นหมากและใช้อาคมเสกกำกับอีกที พ่น 5 คำ กระสุนหายไปในทันใด นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่ง จนเป็นที่ร่ำลือกันไปทั่วปักษ์ใต้

    นอกจากเป็นพระเกจิชื่อดังแถบฝั่งทะเลอันดามัน พ่อท่านพริ้ง ยังเป็นพระนักพัฒนามีชื่อเสียง เป็นกำลังสำคัญในการสร้างโรงเรียนบ้านลำแก่นและโรงเรียนบ้านทับละมุ ท่านได้มอบทุนการศึกษาให้ทั้ง 2 โรงเรียน เป็นประจำทุกปี และเป็นกำลังสำคัญในการสร้างถนนเข้าไปสู่บ้านวังเคียงคู่ และซอยหมู่ 6 ต่อถนนเพชรเกษม จนสำเร็จลุล่วง

    พ่อท่านพริ้ง ยังได้บำเพ็ญประโยชน์ด้านการศึกษาทั้งในวัดและนอกวัด กำหนดให้พระภิกษุ-สามเณรในวัดต้องเรียนหนังสือและศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลีทุกรูป

    กล่าวกันว่า วัตถุมงคลพ่อท่านพริ้ง มีพุทธคุณโดดเด่นในด้านอยู่ยงคงกระพัน สามารถเรียกกระสุนปืนออกจากร่าง รักษาโรคงูสวัด มีการสร้างวัตถุมงคลดังไว้หลายรุ่น เช่น รูปเหมือนพระบูชาพ่อท่านพริ้ง โดยเฉพาะเหรียญเนื้อทองแดงกะไหล่ทองรุ่นแรก สร้างขึ้นปีพ.ศ.2545 ชานหมาก แผ่นตะกรุดลงอักขระของพ่อท่านพริ้ง รุ่นฟ้าคำราม เป็นต้น

    วันที่ 5 ธันวาคม 2548 มหาเถรสมาคมได้พิจารณาคัดเลือกพระครูสัญญาบัตร ที่ดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการ บริหารงานคณะสงฆ์ สมควรได้รับการเลื่อนชั้นให้ โดยพ่อท่านพริ้ง ได้รับเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตร ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท เป็นพระครูสัญญาบัตรตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอกที่ พระครูวิบูลเวชกิจ จนวาระสุดท้าย เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 3 มกราคม 2553 พ่อท่านพริ้ง เกิดมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก คณะศิษย์ได้นำท่านส่งโรงพยาบาลทหารเรือ ฐานทัพเรือพังงา ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตะกั่วป่า

    แต่ด้วยความชราภาพ ทำให้ไม่สามารถยื้ออาการเอาไว้ได้ พ่อท่านพริ้ง ได้ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 73 พรรษา 51

    คณะสงฆ์และคณะกรรมการวัดได้ร่วมกันบรรจุศพพระครูวิบูลเวชกิจ หรือพ่อท่านพริ้ง ในโลงแก้วอย่างสมเกียรติ

    หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป คณะะสงฆ์และประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาพ่อท่านพริ้ง ทั้งในพื้นที่จังหวัดพังงาและจังหวัดข้างเคียง ได้ทยอยเดินทางมารดน้ำศพกันอย่างเนืองแน่น ทำให้ศาลาเปรียญที่ตั้งบำเพ็ญกุศลคับแคบลงไปถนัดตา

    กำหนดสวดพระอภิธรรมศพและแสดงพระธรรมเทศนาทุกวัน รวมระยะเวลา 15 วัน จนถึงวันที่ 17 มกราคม 2552 และเตรียมดำเนินการทำหนังสือขอรับพระราชทานเพลิงศพต่อไป

    ตระกรุด และ เหรียญหลวงพ่อทอง วัดหลักแก่น เพื่อน นาคา ให้มา นัยว่า สมัยก่อน... กันกระสุน..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  11. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    [​IMG]

    [​IMG]

    พระเดชพระคุณ พระมงคลวิสุทธิ์ หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา อัญเชิญ สมเด็จหลวงปู่อุปคุต ใว้ 4 มุมเมืองภูเก็ต เพื่อ ป้องกันภัยพิบัติ 4 ทิศ

    และเมื่อในไม่นานมานี้ หลวงปู่ ท่านเมตตา ให้อัญเชิญ ประดิษฐาน ใว้ที่ บริเวณ เขาหลัก เพื่อ ช่วยเหลือ ด้านทะเลอันดามัน ทาง พังงา

    และ เมื่อ วันตักบาตร ข้าวสวย ข้าวสาร อาหารแห้ง วันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2553 หลวงปู่สุภา ท่าน เมตตา แจ้งว่า

    หลวงปู่ ท่านยังคง ดูแล เมืองภูเก็ต พร้อม ลูกๆหลาน ๆ ศิษยานุศิษย์ ตราบ เท่า ที่พระอาจารย์ ของหลวงปู่สุภา ท่าน สั่งมา

    ฉนั้น ผม นาคา พร้อม ศิษยานุศิยษ์ ร่วมตรึงกำลัง ช่วย งาน ของหลวงปู่ต่อไป

    พรุ่งนี้ คณะกลุ่มเล็กๆ วิทยุสมัครเล่น เด็กเลี้ยงแกะ 144.975 mhz ช่อง 40 ร่วม
    ตามรอยพระบาท ที่ น้ำตก บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

    (ตาม ที่ ผู้เฒ่า ผู้แก่ เล่ามา และ มีพระอาจารย์ ศิษยานุศิยษ์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่าน ใด้ ตามรอยพระบาท แห่งนี้แล้ว เมื่อหลายปีก่อน )
     
  12. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  13. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    กลุ่มตามรอยพระพุทธบาท น้ำตกทรายขาวบ้านบางทอง,ท้ายเหมืองจ.พังงา

    ด้วยความคิด ตรงกัน ในเพื่อนวิทยุสมัครเล่น ซึ่งหลังบ้านเขา อยู่ใกล้ กับวัดราชา และ น้ำตกทรายขาว

    วัดราชา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ตามตำนาน หรือ ประวัติ นั้น คุณพ่อของเพื่อน hs0syy ท่านเมตตา กล่าวว่า ตั้งแต่ รุ่น คุณปู่ ของ คุณทวด ยังเล่ากัน ตำนาน กันไม่ใด้ เพราะ นานมาก...

    แต่ เท่าที่ ผม นาคา เข้า สัมผัส ครั้งแรก ตอนที่เพื่อน hs0syy บวช ที่วัดราชา เมื่อหลายปีก่อน และ เมื่อ วันเสาร์ วันพระ ขึ้น 8ค่ำ จึง รวมตัวกัน เดินทางแสวงบุญ อีกครั้ง

    กับ ภาพในศาลา , และ รอยพระพุทธบาท น้ำตกทรายขาว บนเขาหลังวัดราชา

    ก่อนเพล กลุ่มคณะเล็กๆ ประกอบด้วย hs0syy ,hs8hnb,hs8irr ( คุณสฤกษ์ ,คุณหมู และ น้องสาวคุณสฤกษ์ แสวงบุญ ร่วมกัน ถวายพระบรมสารีริกธาตุ วรรณะปกติ และ วรรณะสีทอง ,พระธาตุข้าวบิณฑ์ พร้อม ทั้ง เหรียญทำน้ำมนต์ แด่ ท่านเจ้าอาวาส วัดราชา

    จากนั้น จึงร่วมถวายภัตตาหาร
    [​IMG] [​IMG]

    up ข้อมูล ในการ อัญเชิญถวายพระ บรมสารีริกธาตุ ใน ภูเก็ต ,พังงา ครับ

    1.ถวายวัดสามัคคีธรรม (ป่าส้าน )อ.คุระบุรี พังงา 3/2/2551

    2.ถวายวัดสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา กันตสีโล ภูเก็ต 5/3/2552 ทริปพลังจิตตนุภาพโดย คุณkananun

    3.ถวายวัดป่าสวนงาม อ.คุระบุรี พังงา 13/4/2552 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ )
    4.ถวายวัดหลักแก่น อ.ท้ายเหมือง พังงา ทริปพลังจิตตนุภาพ 2 โดยคุณถาวะโร ถาวโร(ถา-วะ-โร), ทับละมุ 11/7/2552

    5.ถวาย วัดใหม่ ราชกรูด ระนอง 22/8/2552 (พร้อมเหรียญทำน้ำมนต์ )

    6.ถวายสำนักปฏิบัติท่านสมภารงอ อ.ถลาง ภูเก็ต 18/10/2552 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ )

    7.ถวายวัดราชา อ.ท้ายเหมือง พังงา 23/1/2553 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ ,เหรียญทำน้ำมนต์ )
    8.ถวายวัดนางย่อน อ.คุระบุรี พังงา 27/1/2553 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ )

    9.ถวาย สวนภาวนาพุทธธรรมเขาขาดคุณาราม เฉลิมพระเกียรติ 4/3/2553(พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ ,เหรียญทำน้ำมนต์ ๑หนังสือวิชชาฯ )

    10. สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร อ.กระทู้ ภูเก็ต 13/3/2553 (พร้อมคณะบึงลับแล ทริป สักการะรอยพระพุทธบาท นัมทานที เกาะแก้ว )

    11. ถวายวัดภูติบรรพต อ.สิงหนคร สงขลา 10/4/2553

    -- .
    --
    * *** วัดถ้ำเสือ ( กระบี่ ) ทริปพลังจิตตนุภาพ 2 **11/7/2552 โดย คุณ kananun ****<!-- google_ad_section_end -->

    ผ้าป่า ที่พักสงฆ์ควนตาแท่น 28 มีนา 2553 อัญเชิญพระธาตุข้าวบิณฑ์ ที่ ทางส่วนกลางเว็ปพลังจิต สนับสนุน ให้มา ประมาณ 70 ชุด แด่สาธุชน ที่ ร่วมบุญกองผ้าป่า ที่พักสงฆ์ควนตาแท่น

    ***************

    ให้ น้องสาว อัญเชิญ ถวาย วัดไทย ในอินเดีย ในปี 2552

    1. วัด ไทยราชคฤห์ เมือง ราชคฤห์
    2. วัด ไทยพุทธคยา เมือง คยา
    3. วัด ไทยสาระนาถ เมืองพาราณสี
    4. วัด ไทยกุสินาราเฉลิมราช เมือง พราราณสี
    5. วัด ไทยลุมพินี เนปาล
    6. วัด ไทย เชตวัน มหาวิหาร เมืองสาวัตถี
    7. ถวาย พระอาจารย์ มหาบุญมี
    8. ถวาย พระอาจารย์ สมชาย วัด กุสินาราเฉลิมราช

    -----

    อัญเชิญ ให้ น้อง <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3479311", true); </SCRIPT> พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ ( ..กลุ่มปฎิบัติธรรมเพื่อต้านภัยพิบัติ-ฝึกสมาธิเพื่อยกระดับจิตประเทศฟินแลนด์--**Finland Tampere--** )

    -และ อัญเชิญ ให้ บุคคล ย่อยๆ อีก ทั้ง ใน กทม , โคราช ,
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2010
  14. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    กับภาพ ในศาลา วัดราชา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา แทน ด้วยคำบอกเล่า

    มองจากภาพ จะเห็น บุคคล ในอดีต ที่ ช่วยเหลือ พื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งอาจจะกินอาณาเขต มากมาย ซึ่งอาจจะ เป็น ชุมชนเก่า ในสมันก่อน

    มอง ด้วยภาพ บุคคล เช่น ภาพคนจีน ,ภาพทหารถือดาบ , ท่านหญิง....มธุรส และ...

    หลวงพ่อวัดราชา ในโปสถ หลังใหม่ ที่.... และ ผมเองคุ้นเคยกับ ภาพ ท่านหญิง.....มธุรส มองคราวใด นั้นเหมือน มีชีวิต จิตใจ

    จึงนั่งจับจิต พลังจิต ซึ่งกันและกันตามวาระ บุญถวายพระบรมสารีริกธาตุ,พระธาตุข้าวบิณฑ์ ซึ่งส่วนกลาง เว็ปพลังจิต และ ส่วนกลาง ห้องภัยพิบัติ มอบมาให้

    ขอโมทนา และ ขอบคุณ น้องนิ๋ม จาก กทม . และ น้อง ปี <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พี่เทียน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2031284", true); </SCRIPT>

    ที่ ร่วมบุญ เจดีย์ ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งกันและกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    โมทนาบุญด้วยครับ ขอให้งานบุญสายพังงา ภููเก็ต ก้าวหน้าครับ
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    งานพระบรมสารีริกธาตุขณะนี้ มีการร่วมกันทำงานและเป้าหมายดังนี้

    1. จัดถวายพระบรมสารีริกธาตุเพื่อบรรจุในพระเจดีย์ พระมหาเจดีย์ องค์พระพุทธรูป ทั่วประเทศและทั่วโลก

    2. จัดถวายพระบรมสารีริกธาตุยังทุกๆวัดทั่วโลก โดยในประเทศไทย กระจายโดยกลุ่มสายภาคต่างๆ ไปยังวัดในทุกๆจังหวัดทั่วประเทศไทย

    ในต่างประเทศกระจายโดยกลุ่มคนไทยในต่างประเทศและการเดินทางไปสักการะไปทำบุญ ณ วัดต่างๆทั่วโลก ทั้งวัดไทย วัดลาว วัดจีน ขอเป็นวัดในเขตพระพุทธศาสนา

    3.จัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระบรมสารีริกธาตุ ให้ได้ครบในทุกๆจังหวัดทั่วประเทศไทย โดย โครงการนำร่อง อยู่ที่ จังหวัดอุทัยธานี โดยมีสำนักพุทธศาสนาจังหวัดอุทัยธานีช่วยดำเนินการ และกำลังเริ่มอีกในหลายจังหวัด

    4.จัดสร้างพิพิธภํณฑ์พระบรมสารีริกธาตุ ในต่างประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการไปใน อินเดีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอีกในหลายประเทศ

    5.แจกพระบรมสารีริกธาตุให้กับสาธุชนผู้ตั้งใจปฏิบัติธรรมและมีความเคารพใน พระรัตนไตรเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติและความมั่นคงในพระรัตนไตร ในโอกาศต่างๆทั้ง ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยได้แจกไปแล้ว 500,000 ชุด และยังดำเนินการต่อไป

    ดังนั้น ขอให้ทุกๆท่านที่ได้ร่วมใจกันทำงาน จะจุดเล็กส่วนน้อยประการใดก็ขอให้ ได้รับอานิสงค์อันยิ่งใหญ่ทุกอย่างทุกประการครับ

    ยิ่งกระจายงานพระบรมสารีริกธาตุออกไปมากเท่าไร ก็จะเป็นการรองรับความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในอนาคต

    พุทธานุภาพของพระบรมสารีริกธาตุ จะช่วยคุ้มครองสาธุชนคนดีได้มาก โดยเฉพาะผู้ที่เคารพพระรัตนไตร ช่วยแบ่งเบาบรรเทาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นลงได้

    เพราะบุญใหญ่ มหากุศลนั้น มีคนร่วมใจมาก เป็นบุญที่มาถ่วงดุลกรรมวิบาก ได้<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --> <!-- sig --> __________________
     
  17. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ถวายพระบรมสารีริกธาตุ วรรณะปกติ และ วรรณะสีทอง ,พระธาตุข้าวบิณฑ์ พร้อม ทั้ง เหรียญทำน้ำมนต์ แด่ ท่านเจ้าอาวาส วัดราชา
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010
  18. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    หลังจากร่วมถวายภัตตาหาร แล้ว ทางกลุ่มเติมอาหาร เพื่อ การเดินทางขึ้นเขา หลังวัดราชา น้ำตกทรายขาว บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

    กับรถมอเตอรไซด์ 2 คัน และ มอเตอร์ไซด์พ่วง พร้อมด้วย คุณพ่อของ คุณสฤกษ์ บางช่วงนั้น ขึ้นใด้อาจจะเฉพาะ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ รถกะบะยกสูงหน่อย

    เพลา ประมาณ เกือบบ่ายๆจึง ใต่เนินเขา สวนยางพารา ตามความสูง น่าจะประมาณ เกือบ ๆ 100 เมตร อากาศ กำลังร้อนใด้จังหวะ..

    ถึงน้ำตกทรายขาว ชั้น 3 จึงพบ และ ทำความสะอาด รอยพระพุทธบาท รอยที่ 1 บนหิน ขนาดประมาณ เกือบ 1 เมตร

    จากนั้น ครูอาจารย์ โลกทิพย์ ท่าน เมตตา ให้มอง ระดับสายตา
    พบ รอยพระพุทธบาท รอยที่ 2 ขนาดประมาณ ฟุตกว่าๆ จึงทำความสะอาด
    ใกล้ๆ กันนั้น มีใบไม้ หล่น เต็มรอย เมื่อ กวาดใบไม้ ออก จึงพบ รอยพระพุทธบาท ที่ 3 ขนาดประมาณ รอยเท้า ปกติ ...

    จากนั้น จึง เตรียม น้ำตก ที่ใส สะอาด ใส่ใว้ในรอยพระพุทธบาท ทั้ง 3 รอย
    ส่งจิต กราบ ...
    [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010
  19. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    จากนั้น เพื่อนคุณสฤกษ์ แจ้งว่า ให้ขึ้นมา ตามชั้น น้ำตกเรื่อยๆ จะพบพลังบางอย่างอยู่

    จึงเดินทางขึ้น มาที่ น้ำตก ประมาณ ชั้นที่ 4 สายตาพบ กับ (น่าจะ ) ลานหิน ที่คล้าย กับ แท่นบรรทม ของพระพุทธองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า มาก (มีใบไม้หล่นเต็มลานหิน จึงน้อม จิต ทำความสะอาด )

    ตามภาพจะเห็น ลานแท่น บรรทม และที่ สำคัญ คือ แท่น ที่อยู่ขึ้นไป มีลักษณะคล้าย หมอน ...
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2010
  20. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ภาพหลายภาพ ที่โพสส์ จะไม่เห็นภาพต้อง คลิ๊ก ตาม ไพล์ ครับ (อาจจะมี ปัญหาที่ ระบบ เชฟเวอร์ เว็ป )

    จากนั้นตั้งจิต กราบ พระไตรสรณคมณ์ ตามกำลัง
    และเดินทาง ไต่ระดับ น้ำตก เรื่อยๆ ชั้น 5 ,6 ,7 เพื่อนบางท่าน แวะ อาบน้ำ ชั้น 7
    ส่วนผม นาคา ,คุณพ่อสฤกษ์ ,สฤกษ์ เดินทาง สูง น้ำตกชั้น ที่ 8
    แวะ อัญเชิญ เหรียทำน้ำมนต์ ในระดับ น้ำตก ที่ ซ่อนเล่น อัญเชิญ เหล่ามหาเทพเทวา ,นาคราช ,ปู่ฤาษี , วิทยาธร ,คนธรรณ ....อัญเชิญ และ ร่วมดูแล เหรียญ ใน สถานที่เหมาะสม ในโลกทิพย์ ต่อไป

    ส่วนเพื่อนคุณสฤกษ์ ไต่ขึ้นถึงน้ำตกชั้น 9 เพื่อ เต็มพลังงาน เข้า ฌาณ เงียบๆ ผู้เดียว ...

    เมื่อใด้เพลา ที่เหมาะสมแล้ว ครูอาจารย์ โลกทิพย์ ท่านให้กลับมา ที่น้ำตกชั้น 3 เพื่อ พิธีการต่อไป....
    [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010

แชร์หน้านี้

Loading...