เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ง่ะ...โห...มีแต่ผู้เยี่ยมยุทธ *0* เด็ก...(เด็ก???)ตัวน้อย น้อยยยยยย อย่างหมวยเล็ก

    (ขอเป็นเด็กนะคะ ช่วงเทศกาลวันเด็ก มิว่ากันเน้อออ *0*)

    ขอร่วมสนุกด้วยน้าคะ... Bubble ๆๆๆๆๆๆ สมัยเด็กๆชอบละลายแชมพู มาเป่าวงพลาสติก สนุกมาก สวยด้วย สีเลื่อมพรายรุ้ง *0*

    ถ้าหมวยอยู่ในนั้น มองไปทางไหนก็คงเหมือนกันหมด เสมือนไร้ที่สิ้นสุดรอบ 360 องศา

    ถ้าหมวยลอยไปที่ขอบ bubble แล้วยืนมือไป โอ้ววว ทะลุได้ กรี๊ดดดดดดดดดด

    หมวยเล็กทะลุมิติ ด้ายยยยยยยยยยยย *0* แล้วถ้า bubble มันอยู่อัดแน่นเบียดเสียด

    แนบชิด ทับซ้อนกันไปๆมาๆ โอ้วววววววววว แม่จ้าวววว หมวยเล็ก ทะลุท่องเที่ยวไปในมิติต่างๆ ด้ายยยยย สนุกมั่กมากกกกกกกเย้ยยยย *0*
     
  2. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ ก่อนที่ผมจะพูดถึงเรื่อง ฟองสบู่ ผมอยากบอกว่าคุณทุกคนที่กำลังพูดคุยกับผมอยู่ล้วนต่างเชื่อมโยงกับพลังงานใหม่อย่างชัดเจน..... ความจริงตอนแรกไม่คิดว่าตนเองจะมีโอกาสเข้ามาพูดคุยกับ เพื่อนๆ เพราะนานมาแล้วที่ผมมองหาผู้ที่เชื่อมโยงกับพลังงานใหม่ ผมใด้แต่เฝ้ามองหาอยู่อย่างเงียบๆ....... โอ....มันไม่มีใครเลย..!!!
    ได้แต่เรียนรู้ภายในและทำงานกับพลังงานใหม่ๆอย่างเงียบๆ....ตอนนี้ผมดีใจที่ผมมีเพื่อนๆ ที่เดินทางเข้าสู่พลังงานใหม่ และมีความพร้อมที่จะเรียนรู้พลังงานใหม่ ความตั้งใจตอนแรกเข้ามาที่เว็บพลับจิต ก็เพื่อสนับสนุนงานของคุณชยุต ต้องขอบคุณคุณชยุตอีกครั้งครับ สำหรับงานแปลและความทุ่มเทให้กับมันผมไม่รู้พูดขอบคุณอย่างไรถึงจะเพียงพอ.....
    ตอนนี้โลกกำลังเติบโต พวกเราก็คือส่วนหนึ่งของโลกที่เติบโตไปพร้อมกัน การสร้างความสมดุลให้กับโลกคือการสร้างความสม
    ดุลที่ตัวเราก่อน...!!!??? ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกอย่างแยกกันไม่ออก..!!! ฟองสบู่ที่เรายืนอยู่ หรือลอยอยู่ตัวอยู่ตรงกลาง ผมไม่รู้จะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร มันคือความมีอยู่เป็นอยู่ความสมบูรณ์พร้อม ความเป็นเช่นนั้น มันคือสัจธรรมความเป็นจริงธรรมชาติและอีกหลายๆอย่างที่ผู้คนทั่วโลกให้ความหมายกับมัน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาคำหรือความหมายใดมาอธิบายได้....
    แต่มันมีอยู่เป็นอยู่และดำรงค์อยู่เช่นนั้น....
    แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องการพูดถึง ประเด็นคือ ตรงใหนคือจุดเรื่มต้นและ
    ตรงใหนคือจุดสิ่นสุด เมื่อเราลอยตัวอยู่ในวงกลม ส่วนหนึ่งจะเริ่มมองหา จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ซึ่งคิดว่ามันมี...!!!แต่คุณก็รู้ว่าไม่ว่าจะมองไปทางใหนไม่มีส่วนใหนเลยที่เรียกว่าจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด แล้วจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอยู่ตรงใหน..??? แต่เมื่อคุณใช้ดินสอลากเส้นตรงเส้นหนึ่ง จากจุดหนี่งไปสู่อีกจะหนึ่ง ใช่แล้ว..!!! เรากำลังสร้างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดให้กับตัวเอง
    ...!!! มันไม่ได้มีอยู่แต่เราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง... นับวัน .เส้นเหล่านี้มันเริ่มเพิ่มขึ้น จาก หนึ่ง เป็น สอง เป็น สาม สี่ ห้าหก..... โอมันทำไมเยาะอย่างนี้...!!! มันเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นมากขึ้น แล้วเราจะทำเช่นไรกับมัน...???
    แล้วเพื่อนๆคิดว่าเส้นดินสอที่เราลากขึ้นเปรียบเปรอยคือสิ่งใดในตัวเรา...???
    เป็นคำถามอีกแล้ว......?? ฮา ฮา ฮา
    ด้วยความรักครับ
     
  3. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    มันคือสิ่งหรือส่วนที่เราต้องการอยากจะลองเป็น/มีประสบการณ์ ในส่วนนั้น?
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    มาเลยครับเด็กๆ มีปัญหาฟองสบู่มหัศจรรย์มาให้คิดกันต่อ
    อาหมวยเล็ก อาหมวยใหญ่ อาตี๋เล็ก อาตี๋หย่าย ...อิอิ

    ที่คุณซิปฯพูดมาก็ใช่เลย เป็นการกำหนดทางเลือกให้กับชีวิตด้วยนะครับ
    ถ้าฟองสบู่คือตัวตนรวม ดินสอที่เราลากอาจเปรียบได้กับการสร้างสรรค์ของตัวตนย่อยๆในแต่ละภพชาติก็ได้อีก (เหมือนร่างอวตารเลยครับ)

    ลองคิดต่อไปอีกหน่อย ถ้าทรงกลมของฟองสบู่หมายถึงเวลาที่แท้จริงของจิตวิญญาณด้วยล่ะก็ เราสามารถมองเห็นส่วนประกอบของเวลาได้พร้อมกันหมดทุกๆระนาบ และพุ่งลัดไปสู่อดีต-อนาคตได้จากจุดกลางนี้ได้ด้วย แค่ฟองสบู่เรื่องเดียวก็คิดไปได้หลากหลายเลยครับเนี่ย ขอบคุณสำหรับคำถามดีๆล่วงหน้าครับ ( อาจเป็น 20 คำถามรึเปล่า อิอิ)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2010
  5. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    สวัสดีวันเด็กครับ ขอเป็นตี๋เล็กด้วยคน อิอิ..

    ยินดีต้อนรับคุณ su_ra ครับ

    มีแต่คำถามคมๆทั้งนั้นเลยครับ คำถามปลายเปิด ตอบกันได้หลากหลาย ประมาณ 20 คำตอบเลยครับ

    ขอลองตอบแบบมั่วๆครับ

    เส้นดินสอที่ลาก เปรียบได้กับ พลังงานของความคิด ความคิดก่อให้เกิดเวลา
     
  6. brotherpray

    brotherpray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +177
    บอร์ดนี้มีแต่ความสนุกสนานเลยนะครับ;k07

    ขอดูด พลังงานนี้ หน่อย มาเก็บไว้ใน จิตวิญญาณ

    ดูดๆๆๆๆๆๆๆๆ


    “จงดำรงชีวิตในแบบที่จะสามารถเข้าถึงเราได้ ประดุจเด็กๆทั้งหลายเถิด”


    ความจริงแล้ว เราประสงค์จะให้พวกท่านอยู่ร่วมกันโดยปราศจากความกลัว ปราศจากความต้องการ ปราศจากการเพ่งโทษผู้อื่น ปราศจากการพะวงถึงเรื่องในอดีตและในอนาคต ดุจดั่งเช่นการดำรงชีวิตของเด็กๆทั้งหลาย เพราะสิ่งเหล่านั้นจะไปปิดกั้นการหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

    สวัสดี วันเด็ก หุหุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2010
  7. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    *0* 555 มีแต่ตี๋เล็กหรา...แล้วไม่มีตี๋ใหญ่ใส่แว่นดำสุดเท่ห์ มั่งเหรอ 555

    หมวยคิดว่า จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ก็คือเราเอง ทรงพลังยิ่ง กำหนดให้เริ่มตรงไหน จบตรงไหนก็ได้ แถมกำหนดให้สิ่งอื่นๆมีอำนาจสูงส่งก็ทำได้ กำหนดให้สิ่งใดต่ำเตี้ยก็ได้อีก ทำได้ทุกอย่าง สามารถถถถถถถถถถ...มากมาย

    เส้นดินสอที่ขีดเขียน คือเส้นทางชีวิตที่เรากำหนดขึ้นมาเอง(ใช้พลังความคิดจิตกำหนด) เพื่อสร้างประสบการณ์อย่างที่คุณ zipper กล่าวไว้ มากมายหลากหลาย ฮั่นแน่..555 หมวยเล็กขโมยความคิดของคุณ zipper+คุณเซลล์ มาอ่ะ *0*

    เส้นไหน ไม่ชอบใจ ก็ลบออกจิ 0.0 ใช่มะ ถ้าลบไม่ออก ก็ลากให้ทุกเส้นมันต่อกันซะเลย The Neverending Story 555 หรือไม่ก็ขีดเส้นใหม่ทับเส้นเก่าเอาให้สวยกว่าเดิม เดิมใช้สีดำ ขีดใหม่ สีชมพู ไปเลยเป็นไง *0*

    สรุปว่า หมวยเล็กมั่วอ่ะ...ผู้อ่านต้องพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองนะคะ อย่าเชื่อ *0*
     
  8. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    ความเป็นมนุษย์มักสร้างเส้นที่จำกัดให้กับตนเอง
    โดยที่เราไม่รู้ตัว เรามักเข้าใจว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่มันคือตัวเรา
    เราคิดว่าตัวเราคือมนุษย์ทั้งที่ความเป็นจริงตัวเราก็คือ พลังงาน
    มีความแท้จริงอยู่เฉกเช่นต้นกำเหนิดของเรา
    พวกเรามีความสมบูรณ์พร้อม


    วันเวลาการกำเนิดหลายชาติภพ ทำให้เราหลงลืมเป็นตัวเรา
    เราได้สร้างเส้นสมมุติให้กับตัวเราโดยที่เราไม่รู้ตัว
    ทั้งๆที่ไม่เคยมีอยู่เลย


    ตอนนี้เพื่อนของผมก็มามีส่วนร่วมกับการพูดคุยครั้งนี้
    เขารอมานานว่าวันหนึ่งที่ผมจะจดจำเขาได้
    ผมไม่ค่อยมันใจนักว่าจะพูดสิ่งเหล่านี้
    แต่เขาก็ต้องการให้ผมพูดถึงเค้า
    คุณคิดว่าเพื่อนของผมคนนี้คือสิ่งใด
    มุมมองแบบมนุษย์มักจะทำให้คุณคิดว่าเค้าต้องมีตัวตนที่สัมผัสได้
    (เป็นของแข็ง) หรือจิตวิญญานผู้นำทางที่คุณได้อ่านหรือเรียนรู้มา
    ตัวตนของเราไม่จำเป็นว่าต้องดำรงอยู่ในสถานะที่เป็นของแข็งเสมอไป
    เค้าเป็นพลังงานที่ดำรงสถานะเป็นอากาศธาตุ และดำรงอยู่ที่นีมานานแล้ว
    โอ.....มันนานเหลือเกิน


    เราทำงานร่วมกันอยู่ครับ.... (เป็นพนักงานทำความสะอาดครับ ฮา ฮา ฮา)
    พวกคุณคงคิดถึงพนังงานทำความสะอาดที่กวาดตามพื้นถนนให้ถนนสอาด
    ผมเพียงเปรียบเทียบให้ฟัง
    ไม่ใช่พนักงานทำความสะอาดตามท้องถนนนะครับ ฮา ฮา ฮา
    คุณรู้สึกดีใหมถ้าเห็นความสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อย...???
    มันเป็นความเข้าใจที่เกิดขึ้นเองภายใน
    มันเป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ
    เค้าใช้เวลานานกว่าที่ผมจะจดจำเขาได้ ฮา ฮา ฮา
    ผมไม่ปราถนาให้คุณเชื่อสิ่งที่ผมพูด
    สิ่งนี้จิตวิญญาณในตัวคุณจะเป็นคนตอบให้กับคุณเอง


    พูดถึงเส้นสมุติที่เราสร้างให้กับตัวเอง
    และคุณก็ยึดและถือมันไว้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคุณ
    ทั้งที่มันไม่มีอยู่ และคุณก็แบกมันติดตัว
    กับชาติภพแล้วชาติภพเล่า คุณไม่รู้สึกหนักบ้างหรือ....???!!!
    ผมอยากเปรียบเทียบเส้นที่เราขีดขึ้นกับบางสิ่ง
    เอาง่ายๆและใกล้ตัวก่อน
    คุณชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า
    คุณกินเพราะว่ามันมีประโยชน์หรือมันอร่อย...!!!
    ถ้าชอบรสหวาน ก็ขีดเส้นสีขาว รสเค็ม ก็ขีดสีน้ำตาล
    รสเปรียว ก็ ตำมะละกอ ฮา ฮา ฮา ผมล้อเล่น


    เอาหละขยับเข้ามาใกล้ๆนะครับ
    ตอนคุณกินคุณเคยสังเกตความรู้สึกตอนนั้นใหมครับ
    ว่า... คาดหวังว่ามันจะอร่อยหรือรสชาติที่คุณอยากกิน
    ช่วงเวลานั้นหละ ทำให้มันเป็นกลาง ปล่อยว่างมัน
    นั่นหละคุณได้นำเส้นสมมุติออกเส้นหนึ่งแล้ว
    ผมดีใจด้วยนะครับ....!!!


    ขอบคุณคำถามของคุณ เดรด นะครับ
    สำหรับคำถามที่น่าอัศจรรย์ เช่นนี้
    ทำให้ผมมีโอกาสใด้ร่วมแบ่งปันความรู้นี้
    ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มีส่วนร่วมกับคำถามของผม
    ขออวยพรให้เพื่อนๆ เติบโตทางจิตวิณญาณและสว่างไสวเหมือนที่เคยเป็น ด้วยความรักครับ
    ...
     
  9. Transneptune

    Transneptune สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอขอบคุณ คุณ su_ra เช่นกันค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
    ที่มาพูดคุย แลกเปลี่ยน และแบ่งปัน ความรู้สึกดีๆ แบบนี้

    อ้อ...ลืมบอก นี่ เดรดเองนะคะ ตัวลคร kindred มีปัญหาบางอย่าง
    ล็อคอินไม่ได้ แต่ไม่ซีเรียสค่ะ อยากคุยก็เข้ามา ทางใดไม่แปลก
    มันเป็นแค่ อุปกรณ์ช่วยในการสื่อสาร เหมือนโทรศัพท์ หรือ การส่งอีเมลล์
    จะจากเครื่องไหนก็ได้ แอดเดรส ไหนก็ได้ แค่ถึงผู้รับ ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว

    แหม.. เกริ่น ยาวไปหน่อย แค่จะเปรียบเทียบเจ๋ยๆ ค่ะ
    เส้นต่างๆที่เราขีดเขียนขึ้นมา มันก็ก่อรูปร่างให้กับชีวิตเรา
    จะมากหรือน้อย ก็อยู่ที่เราให้ความสำคัญกับมันระดับไหน
    ส่วนใหญ่เราขีดเส้นกันแบบ ไม่ค่อยยอมยกดินสอ จริงกับมัน

    ขีดเขียนไปเรื่อย เส้นมันเลยยาวๆๆๆ...เยอะๆๆๆๆ แล้วก็รกรุงรัง ตีกันยุ่ง
    ไม่ยอมลบซักเส้น เพราะคิดว่า มันสำคัญ ไปหมด

    เพราะอะไร เพราะเราขีดเขียนด้วยความเพลิน...
    ทำไมเพลิน...เพราะเราไม่มีสติ
    ทำไมไม่มีสติ...เพราะเราเผลอ
    ทำไมเผลอ...เพราะไม่รู้สึกตัว
    ทำไมไม่รู้สึกตัว...เพราะเราลืม

    เราลืม ลืมไปว่า เราอยู่บนฉากหนึ่งของโลกเสมือนจริง(กายภาพ)เท่านั้น
    เราทุกคน มีเส้นมากมาย มีบทบาทมากมาย
    เป็นตัวละคร ในแบบต่างๆ ในแต่ละสถาณการณ์ ไม่เหมือนกัน
    แต่เราชอบ มั่ว เราชอบเอาบทบาทนี้ ไปสวมทับ ในสถาณการณ์ที่มันไม่เหมาะ

    มันเลยยุ่ง ทุกอย่างเป็นเรื่องสมมติทั้งนั้นเลย

    ลองซิค่ะ ลองยึดมั่นถือมั่น ไม่เปลี่ยนบท ใช้บทเดียว ตะพึดตะพือ
    ลองดูซิ จะเป็นไง????....คำถามอีกแล้ว 5555

    ขีดๆเขียนๆ แบบยกดินสอบ้างก็ได้นะคะ ให้มันสั้นๆหน่อย จะได้เคลียร์กันง่ายๆ
    จริงๆ เส้น ก็คือจุดทหลายๆจุดที่มาเรียงกัน มันเป็นแค่ช่วงขณะจุด จุด และจุด
    มันไม่ได้ต่อกันจริงๆหรอก แต่มันเนียนไปหน่อย แค่รู้สึกตัวบ้างบ่อยๆ แค่นั้นเอง

    ด้วยรักเช่นกันค่ะ
     
  10. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    มาแจ้งความฝันครับ เชื่อว่ามีประโยชน์แน่เลย

    วันอังคารที่ผ่านมา ความฝันตอนรุ่งสาง ฝันว่า เหมือนตนเองไปงานปาร์ตี้ หรือ ดูสารคดีงานปาร์ตี้ ของผู้สูงอายุ ซึ่งกระทำการเหมือนเด็กๆ มีกินเค้กกันจนเลอะปาก แต่ทุกคนก็ยังมีความสุข ที่มีแต่ความเบิกบาน สนุกสนาน ความมีชีวิตชีวา แม้ว่าท่านเหล่านั้น อายุมากแล้ว บางท่านผมหงอกทั้งหัว แต่หัวเราะ ยิ้มแย้ม แจ่มใจ เหมือนเด็กๆ ไม่ผิดเพี้ยน

    ต่อมา ภาพ ฉายให้ดูรูปถ่ายของผู้คนในฝัน ซึ่งล้วนแต่ สดใจ เบิกบานทั้งสิ้น แล้วมาสะดุดตา ภาพถ่ายผู้หญิงชาวตะวันตก ที่มีอายุมากแล้ว รูปร่างสูงโปร่ง ไว้ผมบ้อบ ยืนยิ้มในสวน เธอคนนั้นถ่ายภาพคนเดียว แต่ ปรากฏว่ามีเพื่อนจากต่างมิติ มาปรากฏในรูปถ่ายของเธอ โดยยืนอยู่ข้างซ้ายของเธอ ด้วยกริยาโห่ร้องด้วยความ ปิติ ดีใจมาก เหมือนว่ามาแสดงความยินดีกับเธอ

    แล้วภาพนั้นก็บอกว่า ให้ Clear Power Mind นะ เท่านั้นแหละ ก็จำได้หมายรู้ว่า ภาพถ่ายผู้หญิงคนนั้นที่มีเพื่อนต่างมิติ มายืนข้างๆ ตนเองได้ฝันเห็นมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ลืมไป มาจำได้ว่า ครั้งก่อนๆ ฝันเรื่องนี้แต่ภาพเข้ามาเร้วมาก แวบเดียว แต่มาคราวนี่ ฝันยาวเลยจำได้ครับ
     
  11. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    คุณ เดรด ครับ ตัวตนที่แท้จริงของคุณนั้นช่างน่ารักและงดงาม
    มีเพียงเส้นกันบางๆ ที่นั้นที่ทำให้มนุษย์มองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริง
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ได้อ่านที่คุณชยุตเขียนข้อความที่กระทู้อื่น อ่านแล้วเกิดแว๊บอะไรขึ้นมาก็เลยอยากมาเขียนแชร์กัน

    ตอนแรกได้เห็นคลิปวีดีโอเกี่ยวกับเรื่อง flat land

    <embed src="http://www.metacafe.com/fplayer/1379186/dr_quantum_flatland.swf" width="400" height="345" wmode="transparent" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" type="application/x-shockwave-flash" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="always" name="Metacafe_1379186"> </embed><br><font size = 1><a href="http://www.metacafe.com/watch/1379186/dr_quantum_flatland/">Dr Quantum - Flatland</a> - <a href="http://www.metacafe.com/">For more funny videos, click here</a></font>

    แล้วก็ได้อ่านเจอข้อความนี้ที่คุณชยุตเขียนไว้

    "ตามนัยยะของท่าน อ.โนวา อนาลัย แล้ว ปัจจุบันคือจุดตัดของอดีตและอนาคต
    ถ้าเปลี่ยนปัจจุบัน อนาคต ก็จะเปลี่ยนด้วย"

    เลยนึกถึงคลิปเรื่อง flat land ในช่วงนาทีที่ 1:18 ถึง 1:27 ที่แสดงให้ดูว่าถ้าเอานิ้วจิ้มไปในโลก 2D แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลก 2D จะเห็นเป็นยังไง

    เลยนึกไปโยงกับคำว่า "ปัจจุบันคือจุดตัดของอดีตและอนาคต" ถ้าลองนึกไปว่า เราเป็นผู้ที่อื่นในโลก 2D เวลา/สิ่งที่ผ่านเข้ามา คือนิ้วที่จิ้มเข้ามาในโลก 2D คนที่อยู่ในโลก 2D ก็จะเห็นนิ้วในเฉพาะส่วนที่อยู่ในโลก 2D นั่นก็คือปัจจุบัน นิ้วส่วนที่จิ้มทะลุผ่านโลก 2D ไปแล้ว นั่นคืออดีต นิ้วส่วนที่กำลังจะจิ้มเข้ามา นั่นคืออนาคต

    นั่นก็คงจะเป็นภาพที่ว่า ทำไมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจึงอยู่พร้อมกันหมด เพราะ่ว่ามันมีของมันอยู่แล้ว เหมือนนิ้วที่จิ้มลงไป แต่เราจะเห็นเฉพาะส่วนที่อยู่ในโลก 2D จึงเห็นว่านิ้วส่วนที่จิ้มทะลุไปแล้ว มันหายไป ส่วนที่จะจิ้มลงมาก็ยังไม่มี เพราะว่ามองไม่เห็น

    เลยมองว่าอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ไม่กลับมา อนาคตก็เป็นอะไรที่ยังไม่มีจริง

    แต่จริงๆ แล้วอดีต ปัจจุบัน และอนาคตก็มีอยู่พร้อมกันเสมอ เพราะว่า นิ้วที่จิ้มทะลุไปก็ไม่ได้หายไปไหน นิ้วส่วนที่จะเคลื่อนลงมามันก็มีอยู่แล้ว

    อันนี้เป็นคำอธิบายที่ยืนอยู่บนที่ว่าอนาคตมีเส้นทางเดียวเพื่อให้เข้าใจง่าย ให้เห็นภาพได้ง่าย แต่จริงๆ แล้วอนาคตก็มีได้มากมายเป็นอนันต์ และเส้นทางเดินที่ว่าจะไปอนาคตในเส้นทางได้ ก็เ้ปลี่ยนเส้นทางได้เรื่อยๆ จาก ณ ปัจจุบัน
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    วู้ปปี้!!! ร่างอวตารของข้าพเจ้ากลับมาแล้วคุณ zipp
    ด้วยความเมตตากรุณาของพี่ผ่อนคลาย แจ้งคุณเวบสโนว์ ให้
    เดรดขอขอบพระคุณ พี่ผ่อน และทีมงาน มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ...

    และ จะเข้ามาคุยกับคุณ zipp ด้วยแหล่ะค่ะ
    จาก วิดิโอ และคำอธิบายของคุณ zipp
    เดรดนึกภาพตามว่า เวลาที่ว่า มันเป็นเส้น เส้นของเวลา
    ที่มีอดีตปัจจุบัน อนาคต ดำเนินไป ในเส้นตรงเส้นนั้น

    แบบว่า พอเราจับเส้นนี้ตั้งขึ้น จุดตัดกับ ระนาบของโลก 2D
    (มิตินี้ มีกว้าง x ยาว...ใช่ปะ แบนๆ อะ)

    นิ้วที่ว่า เหมือนเส้นตรงในแนวดิ่ง จุดที่ตัดกับระนาบ 2D จึงเป็นปัจจุบัน
    ส่วนที่อยู่เหนือ เป็นอนาคต ที่ทะลุไป เป็นอดีต เดรดเข้าใจถูกมั๊ย
    ในสิ่งที่คุณ zipp อธิบาย ตอนแรก ก็มึนๆอยู่ เลยลองนึกตามดู

    อือ...เก็ทขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ(คงใช่ ใช่มะ...?)

    คล้ายๆที่ อ.โนวา เปรียบเทียบ ภูเขาหินที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ แล้วน้ำไหล
    ไล่ลงมาทีละชั้น อันนี้ ใช่เรื่องนี้ป่าวหว่า???

    โห...อย่างนี้ มีแต่จุดตัด อย่างเดียวเลย นิยามของจุด จุด และจุด
    ส่วนเส้นเวลา ก็มีของใครของมัน ในช่องว่างที่ว่า มันถึงเป็นอนันต์...

    งั้นคุณzipp มาอธิบายต่อหน่อยค่ะ เกี่ยวยังงัย กับ ช่องว่าง และระยะทาง
    ที่เราคิดว่ามันมี แต่จริงๆไม่มีอะ ช่วยหน่อยเด้อ เดรดจะได้หายมึน นะ นะ
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ชอบคำนี้ จังค่ะ แจ่มเลยค่ะ ขอบคุณนะค ที่มาส่งสาส์น


    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ไม่ได้ขอบคุณตามมารยาทนะคะ ขอบคุณจากใจเลย
    ประกายแสงแห่งจิตวิญญาณ คุณsu_ra ก็สว่างเรืองรอง ออกมาชัดเจนเชียวค่ะ
    และเดรดเชื่อมั่นว่าเราทุกคน ก็มีประกายแสงสว่างที่งดงามนี้อยู่ภายในทุกคน
    เพียงแต่ว่า เราจะยอมให้เปิดทางให้แสงสว่างนี้ ส่องออกมาภายนอกหรือไม่
    ขึ้นอยู่กับเราเพียงผู้เดียวจริงๆค่ะ

    อือ...พูดเรื่องแสง Pinky Light ของอิชั้น หายไปหนายเนี่ย!!!!!
    ไปส่องอยู่หนาย หมวย..เอ้ย หมวย อยู่ไหนลูก...มาทอประกาย หน่อยดิ
     
  15. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เย้ ยินดีด้วยครับ ก่อนหน้าที่จะมาโพสอธิบายเรื่องนิ้วก็พึ่งตอบเมล์คุณเดรดไปเอง ตอบช้าไปหน่อย(ถึงมาก :p )

    ตามนั้นเลยคุณเดรด :D ตรงจุดแระ

    สงสัยเรื่องนี้ยังอ่านไม่ถึง ไม่คุ้นเลย เลยบอกไม่ได้ แฮ่ะๆ

    อืม.. มันจะเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับเวลามากกว่านะ แต่มันจะเกี่ยวกับช่องว่างและระยะทางหรือเปล่าหนอ

    ตอนนี้เรายังอยู่ที่โลก 2D นะ และสมมติว่าเราจะเอาดินสอด้ามนึงที่มียางลบตรงปลายแทงทะลุผ่านโลก 2D นี้ อันนี้ต้องจินตนาการตามนะ

    เราจะเอาหัวดินสอที่ใช้เขียนจิ้มลงไปก่อน จินตนาการว่าเราอยู่ในโลก 2D เราก็จะเห็นอะไรที่เป็นวงเล็กๆ สีดำๆ เป็นคาร์บอนแล้ววงนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากที่เป็นคาร์บอนสีดำก็เป็นไม้แล้วขนาดของวงก็คงที่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจากไม้ก็กลายเป็นยาง แล้วก็หายไป

    ดินสอ 1 แท่งคือช่วงชีวิตคนเรา หัวดินสอสมมติเป็นช่วงเด็ก ปลายดินสอสมมติเป็นช่วงชรา เราที่อยู่ในโลก 2D ก็จะนึกว่าช่วงอนาคตยังไม่มี เพราะจะเห็นดินสอแค่ช่วงที่อยู่ในโลก 2D แต่จริงๆ แล้วมันก็มีอยู่ของมันครบอยู่ก่อนแล้ว

    ส่วนถ้าจะอธิบายอนาคตที่มีหลากหลายเส้นทาง ก็อาจจะเปรียบได้เหมือนกับว่า เอากิ่งไม้ที่มีหลายแขนงจิ้มลงไป พอถึงจุดแยกก็เลือกได้ว่าจะเอาแขนงไหนจิ้มลงไปในโลก 2D นั้น

    แต่ละแขนงเปรียบเหมือนอนาคตในแต่ละเส้นทาง แต่ละแขนงมีอยู่ของมันอยู่ก่อนแล้วทั้งสิ้น

    บางทีอาจจะนึกภาพเอากิ่งไม้ที่มีหลายๆ แขนงจิ้มลงไปในโลก 2D ลำบากหรือนึกภาพแล้วสับสนว่าจะเอากิ่งไม้นั้นพลิกไปพลิกมาจิ้มลงไปยังไง (มันต้องนึกเหมือนประมาณว่าเจ้า 2D นั้นอยู่ข้างในวงที่จิ้มทะลุผ่านโลก 2D ยิ่งอธิบายยิ่งงงมั๊ยเนี่ย จริงๆ มันต้องวาดรูปถึงจะเข้าใจง่ายขึ้น)

    ก็ลองนึกใหม่เป็นว่า เป็นมดที่เดินบนเส้นลวดเล็กๆ แล้วเส้นลวดนั้นก็มีจุดที่เส้นลวดเส้นอื่นมาพันอยู่ด้วยเหมือนแขนงกิ่งไม้ สมมติว่ามดตัวนั้นมองเห็นไม่ไกลมากสายตาไม่ดี เท้ามันเดินไปแตะแขนงตรงไหนก็เดินไปตามเส้นนั้นโดยไม่เห็นว่ามีแขนงอื่นเส้นทางอื่นด้วย เจ้ามดตัวนั้นก็จะรู้สึกเหมือนว่าเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆเป็นเส้นตรง แต่แท้จริงแล้วเมื่อเรามองเจ้ามดตัวนั้นเดินมันก็เดินข้ามไปมาจากแขนงโน้นไปแขนงนี้ เจ้ามดนั้นอาจจะลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลาว่าทางข้างหน้าจะมีหรือเปล่า(เปรียบเหมือนที่เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง) แต่เราจะเห็นว่าทางเดินมันก็มีอยู่แล้วแหล่ะ แต่แค่ว่าจะเดินไปเส้นไหนเท่านั้นเอง(อนาคตที่มีอยู่แล้ว และแต่ละแขนงแต่ละกิ่งก็เป็นอนาคตของแต่ละเส้นทาง)
     
  16. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    หลายวันมานี่ หมวยได้เกิดความสงสัยในสิ่งที่ตนกำลังคิดและทำ ว่า "ผิด"หรือ"ถูก" , "ควร"หรือ"ไม่ควร"
    ไม่เกี่ยวกับใครเลยนะคะ นี่คือการพิจารณาตัวเองล้วนๆ แล้วพบว่า
    โอ ทำไมชั้นเลวร้ายขนาดนี้ เมื่อเลวร้ายแล้วทำไมจึงมาอยู่ตรงนี้
    คิดหลายตลบ พร้อมกับทอดถอนใจกับตัวตนของตัวเองที่ไม่ได้เลิศเลอวิเศษวิโศอะไร
    แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ตรงนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นสิ่งที่สูงส่งได้
    หมวยคิดว่า "ต้อง"หรือ"น่าจะ" มีผู้ที่ "สมควรกว่า"และหรือ"เหมาะสมกว่า" มาปฏิบัติหน้าที่

    แล้ววันนี้ ก็มีข้อความของคุณ zipper ทำให้นึกถึงเรื่อง อดีต ปัจจุบัน อนาคต จากหนังสือ สนทนากับพระเจ้า
    ที่ใช้ กราฟ แกน x และ แกน y อธิบายไว้ชัดเจน ทันใดก็ลุกไปหยิบมาทันที เพื่อจะเอามาพิมพ์โพสต์ว่า เหมือนกันหรือไม่

    หน้าแรกที่เปิดได้ พูดถึงเรื่อง "การเรียนรู้" สรุปความได้ว่า

    ชีวิตไม่ใช่โรงเรียน เราไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้บทเรียนต่างๆ
    เรามาอยู่ที่นี่เพื่อจะจำให้ได้ว่าเราเป็นใครและสร้างสรรค์ตัวตนนั้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
    แต่ถ้าเราไม่ลงมือสร้างสรรค์ตัวเองให้เป็นตัวตนที่แท้จริงล่ะก็ เราก็ไม่อาจเป็นอย่างนั้นได้
    โรงเรียนคือที่ที่เราจะไปเมื่อมีบางอย่างที่ยังไม่รู้และอยากจะรู้
    แต่ไม่ใช่ที่ที่จะไป หากเรารู้สิ่งนั้นแล้วและเพียงต้องการจะมีประสบการณ์ในการรู้ของตน

    ชีวิต(ตามที่เราเรียก) คือโอกาสที่เธอจะได้รู้ด้วยประสบการณ์ถึงสิ่งที่เธอรู้เชิงความคิดอยู่ก่อนแล้ว
    เธอไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรอีกในการนี้ แค่ต้องจำสิ่งที่รู้อยู่แล้วให้ได้ และแสดงมันออกมาเท่านั้นเอง

    ขอย้ำว่า มันเหมือนเรื่องบังเอิญจริงๆที่หมวยได้คำตอบมาย้ำความรู้สึกเดิมๆอีกครั้ง
    แต่มันไม่มีความบังเอิญ ขอเล่าต่อ ต่อมาเปิดเจอข้อความต่อไปนี้

    ไม่มีคำว่า "ควร" หรือ "ไม่ควร" ในโลกของพระเจ้า จงทำสิ่งที่เธอต้องการทำ
    ทำสิ่งที่สะท้อนตัวเธอและสิ่งที่แสดงถึงตัวตนอันสง่างามยิ่งกว่าเก่า
    แต่ถ้าอยากจะรู้สึกแย่ ก็จงรู้สึกแย่ไป

    โอ้โห.......ขนเกือบลุกตั้งชัน แต่จริงๆแล้วเฉยๆ
    เพราะรู้ว่ากำลังถูกสื่อสารอยู่แน่ๆ มีสติเต็มเปี่ยม ต่อๆ

    แต่อย่าพิพากษาหรือประณาม เพราะเธอไม่รู้หรอกว่าเพราะเหตุใดสิ่งต่างๆจึงเกิดขึ้น และอะไรคือจุดสุดท้ายของมัน
    และจงจำไว้ว่าสิ่งใดที่เธอตำหนิประณาม มันจะประณามเธอ สิ่งใดที่เธอพิพากษา มันจะย้อนกลับมาหาเธอ

    ทว่าเธอควรหาทางเปลี่ยนสิ่งซึ่งไม่สะท้อนตัวตนสูงสุดของเธออีกต่อไป หรือสนับสนุนใครก็ตามที่กำลังเปลี่ยนอยู่

    ทว่าจงชื่นชมทุกสิ่ง ด้วยว่าทุกสิ่งคือการรังสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าผ่านการใช้ชีวิต และนั่นคือการสร้างสรรค์สูงสุด

    เป็นไงล่ะคะ หมวยเล็กอึ้งค่ะ อึ้ง ท่านมาย้ำด้วยตัวเองเลย เป็นไงล่ะ
    และในขณะที่กำลังคิดพิจารณาหาคำตอบของหนทางการเปลี่ยน และพิมพ์อยู่นี่
    ปรากฏว่า ซีดีเพลงที่เปิดอยู่ในเครื่องเสียงที่ฟังมาตั้งแต่ตอนเย็นไม่เป็นอะไร
    อยู่ดีๆไม่อ่านแผ่นไปเสียเฉยๆ เงียบสนิท จึงอ่านต่อไปและพิมพ์ต่อไป
    ก็สรุปความต่อได้อีกว่า

    คำว่า"ควร"หรือ"ไม่ควร" เกิดขึ้นได้จากจินตนาการของเราเอง
    ไม่เคยมีการบัญญัติ "ถูก" กับ "ผิด" หรือ "ทำได้" กับ "ทำไม่ได้"
    การทำอย่างนั้นก็เหมือนไปจำกัดเธอไว้จากของกำนัลยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือ
    โอกาสในการทำตามที่เธอพอใจและมีประสบการณ์ถึงผลลัพธ์
    จำกัดโอกาสในการสร้างสรรค์ตัวเธอขึ้นใหม่ตามจินตภาพและฉายาลักษณ์ของตัวตนที่แท้จริงของเธอ
    จำกัดโอกาสสำหรับผลิตความจริงที่สูงส่งยิ่งขึ้นของตัวเธอ ซึ่งมีที่มาจากความคิดอันสง่างามที่สุดของเธอต่อสิ่งที่เธอสามารถเป็นได้

    การบอกว่าความคิด ถ้อยคำ หรือการกระทำใดๆเป็นสิ่ง "ผิด" ก็เท่ากับห้ามไม่ให้เธอทำสิ่งนั้น
    การบอกไม่ให้เธอทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ก็คือการสั่งห้าม การห้ามเธอคือการจำกัดตัวเธอ
    การจำกัดสิทธิของเธอหมายถึงการปฏิเสธความจริงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ
    และยังเป็นการปฏิเสธโอกาสในการสร้างและมีประสบการณ์ถึงความจริงนั้นของเธอด้วย

    ระหว่างนี้หยุดพิมพ์และคิดว่า เราได้คำตอบของหนทางนั้นแล้ว และคิดว่า เพลงดังซักทีซิ มันเงียบไป มันก็ดังขึ้นมาทันที
    หมวยได้ยินเสียงแผ่นหมุนใหม่ เครื่องเสียงหมวยไม่สกปรกนะเออ ไม่เคยสะดุด อยากจะขนลุกนะ แต่ไม่ลุก เง้อออออ
    ต่อไป จบด้วยเรื่องของนรกๆ

    นรก คือประสบการณ์ของผลลัพธ์เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้จากการเลือก การตัดสินใจ และการสร้างสรรค์ของเธอ
    เป็นผลสืบเนื่องตามธรรมชาติของความคิดใดก็ตามที่ปฏิเสธฉันหรือปฏิเสธตัวตนที่เธอเป็นในความสัมพันธ์กับฉัน
    คือความเจ็บปวดที่เธอต้องทนทุกข์เนื่องจากการคิดผิด แต่จะบอกว่า"คิดผิด" ก็ไม่ถูกเท่าไหร่เพราะไม่มีอะไรที่ผิด
    นรกตรงข้ามกับความเบิกบาน มันคือการไม่เต็ม คือการรู้ว่าเธอคือใครและคืออะไร แต่ไม่อาจมีประสบการณ์ถึง
    คือการมีอยู่อย่างบกพร่อง นั่นล่ะ นรก และไม่มีอะไรจะร้ายแรงสำหรับวิญญาณเธอไปกว่านี้อีกแล้ว...

    จบด้วย...เธอ ตัวเธอต่างหากที่สร้างประสบการณ์นี้ขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เธอแยกตัวเองจากความคิดสูงสุดที่มีต่อตัวเอง
    เธอ...เธอนั่นแหล่ะสร้างประสบการณ์นี้ขึ้น ขณะปฏิเสธตัวเองและเพิกถอนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ....

    เอาซี้...แจ้เดรดคงเข้าใจหมวยมากที่สุด อ่ะ ตอนนี้ตาสว่างของคุณสัญญาละ เอ้ย ไม่ใช่ รู้สึกดีขึ้นมากละ มั่นใจเข้าไว้ หมวยเล็กสู้ๆ อย่าปฏิเสธตัวตนของตัวเองอีกต่อไป ลุยยยยยยยยยยยยยย *0*

    ปล.เลยไม่ได้เรื่อง อดีต ปัจจุบัน อนาคต มาได้คำตอบให้ตัวเองแทน ขอให้เรท"ฉ"นะคะ เฉพาะตัว ส่วนบุคคลนะจ้า ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำอย่างสูงและต้องมีการพิจารณาตัวเองอย่างซื่อสัตย์ด้วย เดี๋ยวใครมานั่งอ่านจะตีความไปว่าทำชั่วทำเลวแล้วไม่เป็นไร การทำชั่วทำเลวคือการแยกตัวเองออกจากตัวตนที่แท้จริงของตนเองนะจ๊ะ คือการปฏิเสธตัวตนที่สูงส่งของตัวเอง ทำให้เกิดความพร่องทางวิญญาณ นั่นแหล่ะ นรก ล่ะ หมวยก็เป็นอยู่ ต้องกลับมาส่องแสงอีกครั้งให้ได้ สู้ๆๆๆๆ ให้กำลังใจตัวเองหน่อย แหะๆ

    ปล.2 อย่างว่าอ่ะนะ แจ้ มีแค่ 0 กับ 1 ไม่มืดก็สว่าง ไม่พระอาทิตย์ก็หลุมดำ กระพริบๆๆอยู่เนี่ยะ ติดๆดับๆ แปรงสภาพกลับไปกลับมา 55555
     
  17. thanathama

    thanathama เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +129
    เมื่อคืนเพิ่งจะอ่าน CWG#1 รอบที่ 2

    ได้อ่านตอนที่คุณ LadyOfLight เอามาฝากพอดีเลยครับ แล้วก็พักไว้

    วันนี้ได้มาอ่านอีกรอบ ก็ยังมีความสุขเหมือนเช่นเคย

    เราสร้างโลกของเราขึ้นมาเองจริง ๆ นะเนี่ย

    ขอบคุณที่เอามาฝากกันครับผม
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    Hello ครับเพื่อนๆ
    ช่วงนี้เป็นช่วงที่งานเข้าจนมือแทบไม่ว่างเว้นเลย (ต้องแอบไปนั่งนอกกรอบของเวลาบ้างในบางขณะ คร่อก..ฟี๊..ๆ)
    เห็นเพื่อนๆคุยสนุกและมีสาระแบบนี้ก็ชื่นใจ เราทุกคนที่นี่รวมทั้งผู้ติดตามอ่านก็ได้ประโยชน์กันไปเต็มๆ เก็บเกี่ยวกันตามอัทยาศัยครับ....

    วันนี้มีผู้ติดตามอ่านท่านนึงเป็นวิศวะฯ โทรมาจากสงขลา (ลมพัดจากทางใต้ครับ) บอกว่าติดตามอ่านกระทู้นี้มาเกือบ 2 ปีกว่าแล้ว และยังติดตามอ่านมาตลอด แต่ไม่ถนัดการโพสเท่าไหร่ ก็ฝากชื่นชมที่เห็นทุกคนสร้างสรรค์ และมีอารมณ์ดีกันอยู่เสมอๆ ปล่อยกันแต่พลังด้านบวก และเหมือนจะรู้จักเพื่อนๆที่นี่หมด เพราะเอ่ยชื่อและบอกรายละเอียดเฉพาะตัวได้แทบทุกคนเลย ทั้งคุณเซลล์ คุณซิปฯ คุณเดรด คุณFalkman ฯ คุณกุณแจ และคุณๆๆๆๆๆ ....อิอิ

    คุณกร บอกว่าอ่านหนังสือโนวาทั้งชุดจบแล้วใน 10 เดือน และบอกว่าจะอ่านจบเร็ว-ช้าไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย สำคัญที่ความรู้จากหนังสือที่ได้มีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใดครับ เหมือนความรู้ที่ได้จากพระมารดาหรือพระแม่องค์ธรรมอะไรประมาณนั้นเลย เท่าที่ทราบคุณกร เคร่งและปฎิบัติในแนวพระป่า นับถือสมเด็จทวด ลป.มั่น อย่างมาก แต่บอกคำเดียวว่าโนวาฯ เหมือนพระคัมภีร์ความรู้ เป็นอะไรที่ลึกซึ้งเป็นกลางอย่างที่สุดด้วย โดยเฉพาะเรื่องสติสัมปชัญญะ และเสริมเติมเต็มมุมมองและความคิดใหม่ๆให้อย่างไม่มีขีดจำกัด...เลยต้องนำมาเล่าและแนะนำคุณกรให้เพื่อนๆรู้จักกันไว้หน่อย เพราะเชื่อว่ามีผู้ติดตามอ่านอีกหลายๆท่านที่คอยส่งให้กำลังใจให้มาเช่นนี้ตลอด ต้องขอขอบพระคุณด้วยครับ (เชื่อว่าพี่นักเขียนฯทราบคงจะยื้มแก้มปริแน่ๆ ...^-^)

    ไม่ว่าจะเป็น สนทนากับพระเจ้า จิตจักวาล ครายออนฯ หรือเล่มอื่นๆที่เราได้อ่าน..ล้วนไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทำให้เราได้มารู้จักกันที่นี่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2010
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    คุณซิปฯอธิบายจนเห็นภาพเลยครับ
    การเดินทางในโลก 2 D ดูมีข้อจำกัดมาก แทบไม่รู้ชะตากรรมเลย อิอิ
    มิติที่สูงขึ้นจะมองเห็นอดีต-ปัจจุบัน และเส้นทางในอนาคตได้ชัดเจนกว่าเพราะมันปรากฎอยู่พร้อมกันหมดจริงๆ
    มิติที่สูงกว่าก็มองทะลุเห็นมิติที่ต่ำกว่าได้...มิติที่ต่ำลงมากลับมองไม่เห็น...
    เป็นคำอธิบายที่น่าสนใจครับ

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...