กระเทยไม่สามารถเข้าฌานได้จริงหรือครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย dawsonsc222, 13 ธันวาคม 2009.

  1. dawsonsc222

    dawsonsc222 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +60
    ผมอ่านเจอในหนังสือ "การเพ่งกสิณ" ของ ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์
    หน้า 69-70 เขียนไว้ชัดเจนว่า
    ผู้เพ่งกสิณไม่สำเร็จ ได้แก่บุคคลเหล่านี้ (มีทั้งหมด 9 ข้อ)
    1 บุคคลผู้ทำอนันตริยกรรม
    8 บุคคลผู้มีสองเพศ และเป็นกระเทย

    อ่านเจอแล้วตกใจพอสมควรครับ
    แบบนี้ถ้าผมเป็นเกย์ ชาตินี้ก็แม้จะปฏิบัติธรรมอย่างไร ก็ไม่มีทางเข้าฌาณและได้อภิญญาได้เลยใช่ไหมครับ
    ท่านใดที่ทราบโปรดบอกผมด้วยนะครับ กลุ้มใจมากจริงๆ
    เพราะก่อนหน้าที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ ผมตั้งใจแล้วว่าจะทำบุญ รักษาศีลห้า และฝึกปฏิบัติธรรมไปตลอดชีวิต ไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องทางโลกอีก

    แต่พออ่านเจอ ก็เริ่มท้อ และรู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่มีแม้แต่โอกาส ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า
    หรือผมบาปหนา ชาตินี้เลยเป็นเกย์ และบรรลุธรรมไม่ได้

    ปล แล้วถ้าผมชอบผู้ชายจริง แต่ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายเลย (บริสุทธิ์อยู่ ซึ่งน่าจะไม่ผิดศีลข้อ 3)
    แบบนี้จะพอเข้าฌาณและได้อภิญญาไหมอย่างคนทั่วไปได้ไหมครับ
    ท่านผู้รู้โปรดกรุณาคนบาปหนาอย่างผมด้วยครับ

    จาก คนที่เสียใจอย่างสุดซึ้ง
     
  2. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +773
    ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ ธรรมะ ไม่มีเพศค่ะ คนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ มีอินทรีย์ ก็น่าจะปฏิบัติได้ ไม่ต่างจากชายจริงหญิงแท้ อย่างน้อยก็สะสมบุญกุศล ไว้ ถึงแม้ไม่สำเร็จในชาตินี้ ชาติหน้าก็ คงจะเจริญก้าวหน้าในธรรมขึ้นไปอีก และคงไม่ตกไปเกิดใน อบายภูมิแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบต่อไปนะคะ
     
  3. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    น่าจะเป็น เศษกรรมจากอดีตชาติที่คุณทำไว้ ส่งผลต่อการปฏิบัติในชาตินี้ด้ว แต่ทว่า ความดีทำแล้วไม่สูญเปล่าแน่นอน ไม่สำเร็จเอาชาตินี้ ยังไงซะชาติหน้าหรือชาติใดชาติหนึ่ง ต้องสัมฤทธิ์ผล เพราะบุญสั่งสมตัวแล้วย่อมให้ผลแน่นอน เมื่อถึงกาลอันเหมาะสม มันจะรวมตัวกัน เพื่อให้คุณได้มรรคผลนั้นๆเอง ทำดีต่อไป ไม่ได้ชาตินี้ ก็ชาติอื่นๆ ทำดี ยังไงซะมันก็ต้องได้ดี กรรมเก่าใดๆที่มันส่งผลอยู่ก็ย่อมให้ผลไปเรื่อยๆ เราต้องยอมรับในกฎแห่งกรรมครับ
     
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เหตุที่เป็นกระเทยก็มีและเหตุที่มีฌานก็มี ในทางตรงข้ามก็เช่นกัน ดังนั้นการกล่าวอะไรด้วยอคติมีมิจฉาทิฐิในธรรม จึงมได้แก่ผู้ไม่รู้ อันเป็นสิ่งไม่สมควรเลย กาเมสุมิฉาจารานั้น ร้อนแรงยิ่งนัก เป็นได้เพราะความหลงในรูปนาม ยึดมั่นในเวทนาทั้งหลายจนหลงผิดไป แต่ตั้งใจแก้ไขบำเพ็ญธรรมก็ย่อมจะสิ้นกรรมนั้นได้ ฌานจึงมีได้
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    กระทู้นี้เหมือนเคยตั้งมาแล้ว.....นานมาแล้ว.....ไม่รู้ว่าคนเดียวกันใหม.....

    เอาเป็นว่า.....ขอให้ทำครับ.....กรรมเก่าแก้ไม่ได้.....ทำกรรมใหม่ให้ดีแล้วกันครับ....ทำกรรมใหม่หนีกรรมเก่า...ไม่แน่...ชาตินี้อาจเป็นชาติสุดท้ายก็ได้...ชาติหน้าจะได้เพศบริสุทธิ์..ของอย่างนี้เกิดขึ้นมันห้ามไม่ได้จริงๆพูดยาก.....ผมเห็นเขาเหล่านั้นที่เก่งๆทำดีมีมากนะครับ...บางที่ปฏิบัติดีกว่าก็มี....

    เอาเป็นว่าตอนนี้ผมไม่รู้นะว่าพระพุทธเจ้าท่านกล่าวไว้ตรงใหน....ศึกษามายังไม่เจอ..แต่ท่านกล่าวว่าห้ามบวชอันนี้มี....

    เอาเป็นว่าผมเชื่อว่าคุณทำได้ถ้าคุณทำจริง......เพราะพระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า บุคคลผู้มีคุณธรรม อิทธิบาท ๔ ย่อมประสบผลสำเร็จในกาลทุกเมื่อ.....
     
  6. winterball

    winterball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +307
    ลงสนามเลยครับ อย่ามัวหมดใจอยู่ ทำไมครับ...ทำไมผลแห่งการผิดศีลข้อสามจะร้ายแรงกว่าข้ออื่น ผมว่ามันก็แค่มาคนละแบบเท่านั้น งั้นคนที่เคยผิดศีลข้ออื่นก็ไม่ต้องได้ฌาณหรือบรรลุกันเลยสิครับ บางคนรับผลของปาณาติบาตอยู่ เขาก็ยังทำได้ บางคนรับผลของมุสาอยู่ เขาก็ทำได้ ฯลฯ แล้วเรารับผลของกาเมอยู่ ทำไมจะทำไม่ได้ ..... ไม่เห็นมีตรงไหนของพระไตรปิฏกหรือครูบาร์อาจารย์ท่านไหนบอกว่าผลของกาเมร้ายแรงกว่าข้ออื่น...

    เรื่องยึดมั่นรูป นาม เวทนา ทั้งหลายนั้น คนทุกคนเกิดมาตอนแรกก็ยึดทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ยึดคนละอย่าง พระพุทธเจ้าท่านก็เคยยังยึดอยู่ ท่านก็ยังตรัสรู้ได้ พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็เคยยึด ...รู้ว่ายึดก็ละเสีย ตามที่พระพุทธเจ้าสอน ก็เท่านั้นครับ

    สัตว์และมนุษย์ทั้งหลายผ่านภพภูมิมานับชาติไม่ถ้วน ชายแท้ก็เคยเป็น หญิงแท้ก็เคยเป็น ชายไม่จริงหญิงไม่แท้ก็ต้องเคยเป็น ส่วนสัตว์ก็เป็นมาทุกอย่างแล้ว ...พวกที่มีมานะว่าตนเนี่ยชายแท้ จะบรรลุได้ ก็คงลืมอดีตของตนเองล่ะมั้งครับ (แน่นอน)

    สรุปว่า ปฏิบัติไปเลยครับ ผมเอาใจช่วย ผมก็เป็นเกย์ แต่ผมไม่สนคำพูดเหล่านั้นหรอกครับ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ทำให้สุดกำลังเรา มันต้องได้บ้างแหละครับ เรื่องเพศเป็นสมมุติ ไม่ควรยึดมั่น เป็นชายหญิง เกิดมาเพราะเราโง่ จากตัณหา อุปปาทาน พระพุทธเจ้าท่านสอนไม่ให้ยึดมั่นสมมุติทั้งหลาย เพราะฉะนั้น จะมายึดมั่นเพศนั้นเพศนี้เพื่ออะไรครับ

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน .....ก็ใช้ใจครับ ไม่ใช่จู๋หรือจิ๋ม...(ขออภัยถ้าไม่สุภาพนะครับ ผมตรงๆอย่างนี้แหละ)

    เป็นกำลังใจให้ครับ อย่างน้อยก็มีผมเป็นเพื่อนที่เหมือนกัน สู้ๆ ครับ
     
  7. น้ำบุศย์

    น้ำบุศย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +53
    ตั้งใจทำดี....เหตุใดต้องกังวลสงสัยคะ
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ.........
    ขออนุโมทนากับความตั้งใจของคุณ
     
  8. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,092
    เรื่องการฝึกสมถะคงไม่ได้เป็นปัญหาหรอกครับ

    แต่ เรื่องการบรรลุธรรมนั้น หนึ่งเป็นเรื่องของกรรม

    และการยอมรับในความเป็นจริงของธรรมชาติน่ะครับ อันนี้ต้องเข้าใจนะครับ

    ถ้ายอมรับธรรมชาติ ไม่ฝืน เราก็จะรู้จักธรรมนั้นๆ ตามความเป็นจริงครับ

    สุดท้าย ก็ขึ้นกับความเพียรครับ ถ้าคิดว่า เราเป็นดอกบัวที่ต้องฟังธรรมหลายๆครั้ง

    หรือต้องปฏิบัติธรรมบ่อยๆ ปัญญาถึงจะเกิด เราก็ต้องทำให้ได้ครับ

    ลองอ่านพระไตรปิฎกดูครับ ง่ายๆ ไม่ต้องตีความ และไม่ซับซ้อนด้วยครับ

    ขออนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2009
  9. NanoProbe (นาโนโพรบ)

    NanoProbe (นาโนโพรบ) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +261
    เรียน คุณdawsonsc222

    ผมอ่านตำรามา (ตำราในที่นี้ จะต้องมีตรารับรองของ โรงเรียนพระ เช่น มหามกุฎ หรือ มหาจุฬา) ไม่มากไม่น้อย ตำราอื่น ผมอ่านน้อยมาก ขอไม่วิจารณ์ครับผมยังมีความรู้ ไม่มากพอ
    ผมยังไม่เห็นมีพูดเรื่อง กระเทย จะไม่ได้ ญาณ หรือ จะเพ่งกสินแล้ว ไม่สำเร็จ
    เห็นมีแต่ ว่า ถ้ามีนิวรณ์บ้าง ศีลขาดบ้าง จะไม่ก้าวหน้า เงื่อนไขอื่นๆ ไม่น่ามีอีก
    แต่ปัจจัย หรือ เหตุ ที่ทำให้ก้าวหน้า เกร็ดเล็ก เกร็ด ตามจริต ของคน นี้ให้ลองหา เทป ครูบาอาจารย์มาฟังดู โดยเฉพาะหลวงพ่อฤาษี อันนี้ดีมาก
    สรุป ฟันธง
    ทำเลยครับ เห็นด้วยกับ คุณ winterball
    สมาทาน ศีลก่อน แล้ว ทำตามจริต ของตนเอง
    ขยัน พากเพียร ทำตามกาละเทศะ เช่น ตอนขับรถก็ตั้งใจขับ ไม่ใช่นึกถึงกสิน เดี๋ยวยุ่ง การตั้งใจทำงานตั้งใจขับรถก็คือ การฝีกสมาธิ เช่นกันนะครับ
    ขอให้โชคดี ได้ครูดี ขอให้ก้าวหน้า มีความมานะ ไม่หย่อน ไม่ตึง เกินไปครับ
    หมั่นแผ่เมตตา หมั่นให้ท่านอื่นๆอนุโมทนาบุญ กรรมฐานของเราด้วย ยิ่งดีครับ

    หากผิดพลาดประการใดของอภัยครับ
     
  10. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ผมไม่ทราบว่าเจ้าของบทความที่คุณไปอ่านมา ท่านจบด๊อกเตอร์ทางไหนมา
    ดีแล้วละครับที่คุณอ่านแล้วยังมีสติพอ ที่จะมาขอความเห็นท่านอื่น ไม่หลง
    เชื่อดร.ท่านนั้นไปเลย ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วจะเป็นการตัดหนทางการปฏิบัติเสียเปล่าๆ
    ......ผมอยากให้คุณและดร.ท่านนั้นไปศึกษาเรื่อง สักกายทิฏฐิ ซึ่งเป็นด่าน
    แรกของผู้ที่จะบรรลุธรรม ผมไม่ขออธิบายในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่อง
    ของจิตใจ ถ้าคุณได้ศึกษาแล้วก็จะรู้เองครับ
     
  11. โคมหลวง

    โคมหลวง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +6,383
    สู้ๆครับ อย่าท้อเรื่องแบบนี้เลยครับ ผมยังไม่ท้อเลย

    ทางด้านกำลังใจแล้ว มันไม่เป็นปัญหาที่มาขวางทางผมเพราะผมคิดว่ามันเป็นการปรุงแต่งทางกาเมเรื่องความต้องการทางเพศ นอกกาย ครับ และแค่ผลจากกรรม ยอบรับมันแล้วทำให้ดีได้สุด อย่าประมาทอีกครับ

    จิตเราเป็นตัวกำหนด ปล่อยวางได้มากแค่ไหนนะครับ ..ผมเองก็มุ่งศึกษาและลงมือทำให้เกิดผลมากที่สุด...

    แต่ หากมันกำหนดไมได้ชาตินี้ แต่ชาติหน้าแล้วเก็บมาเยอะแล้ว แถมตายแล้วไม่ตกอบายภูมิอีก ดีกว่าไหมครับ คิดแบบนี้
    (y)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2009
  12. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ตกลงถามว่าเข้า ฌาณ รึบรรลุธรรม
    ฌาณ สมาทิ เป็นจิต ที่เกิดขึ้นอย่างหนึ่ง ด้วยการกระทำกรรมเพื่อความสงบหรืออพยากตาธรรม
    การเสวยอารม เวทนา ทั้งทุก สุข และ อทุกสุข มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ดังนั้น อยากมี สุขเวทนา ก้กระทำตามที่ตนพอใจ พอเจอสิ่งที่ตนไม่พอใจก้เกิดทุขเวทนา คราวนี้อยากมี อสุขทุขเวทนา ก้ทำสมาทิ ทำสมถะบางกอง เพราะบางกองก้เป้นการทรงอารมในสุข

    งั้นคำถามที่ว่าจะทำฌาณได้ไหม ผมว่าทำได้แน่เพราะทำกรรมเช่นไรย่อมได้เช่นนั้น ทำเหตุทุกก้ได้รับทุก ทำเหตุสุขก้ได้รับสุข งั้นทำความสงบก้ได้เช่นกัน
    อยู่ที่ทำจริงรึเปล่ารึกำลังใคร่ครวนว่าจะทำ ทีนี้เวลาทำแล้วคิดไปว่าทำไม่ได้ มันก้มาจากปัจจัย มี ฉันทะไหม วิริยะไหม จิตตะไหม มีวิมังสารึเปล่า ท่ามี และมีสติ รับรองทำได้หมด

    ต่อมาการบรรลุธรรมไม่ใช่เรื่องกรรมธรรมดาแต่ต้องมีปัญญาด้วย ถามว่าจะมีปัญญาไหมก้ต้องตอบว่าทำเหตุที่จะทำให้เกิดปัญญาหรือยัง มี ศิล สมาทิ สติ หรือยังท่ามีแล้วกระทำดีแล้ว แค่ทำสามอย่างแรก ศิล สมาทิ สติ มันแปลว่าไม่ไปทำ เหตุทุกมันลดทุกลงไปเยอะแล้ว ไม่ทำเหตุทุกจะได้รับทุกได้ไง แต่ เพราะอาสวะกิเลสไม่หมด อาสวะกิเลสเป็นไง ก้ความนอนเนื่องของจิตที่ยังคงทำไห้ผุดเกิดสังขารธรรมขึ้นมันก้ยังได้รับทุกอยู่ดีเพราะเหตุแห่งทุกยังไม่หมดไป แล้วท่าทำ ศิล สมาท สติ แล้วปัญญาจะเกิดไหม ตรงนี้ ไม่ได้รู้เอง หรือตรัสรู้เอง ผู้ที่มีปัญญา ท่านบอกท่านสอนไว้แล้ว เรียกว่าเป็น ผู้ให้ทาง ให้แสงสว่าง ให้ดวงตา พระพุทธเจ้า เราต้องศึกษา ปัญญาคืออะไร คือการรู้ใน อริยะสัจ รู้ในความเป็นจริงไม่หลงตามไป ไม่หลงใจ ทีนี้ ปัญญามา มีพร้อม ศิล สมาทิ สติ ปัญญา มันก้ยังไม่รอบไม่ทั่ว มันยังต้องใช้การปติบัติต่อไป จนกว่าจะกำจัดอาสวะได้หมดสิ้น อาสวะกำจัดอย่างไรต้องสู้รบอย่างไร เป็นเหมือนกองทัพไหมยกไปตีกันหรือ มี บารมี10 เป็นกองกำลัง เอาอย่างนี้ ปติติบัติดู เป็นตุ้ดเป็นเกย์เป็นกระเทย มันมีความรู้สึกเหมือนกัน มีเวทนาเหมือนกันยังไงฌาณมันมีแน่แต่อยู่ที่รู้จักมันรึเปล่ารู้เวทนาของตัวเองรึเปล่ามีสติรึเปล่าตรงนี้
    ส่วนการจะบรรลุธรรมนั้นต้องลอง ว่าปัญญาจะเกิดรึเปล่าจะสำเร็จรึเปล่ามันต้องทำได้แนวทางไปเยอะแล้วทำบ้างรึยัง รึยัง?
    แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าผู้ใดทำตามสติปัฐฐาน ได้แน่ไม่เกินเจ็ดชาตินะ เอต้องรอเจ็ดชาติไหมเนี่ย ใจพร้อมทานพร้อมศิลพร้อมสมาทอพร้อมปัญญาพร้อม มันพร้อมได้ไง? ต้องทำนะ
     
  13. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,463
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ทําดี ปฏิบัติดียังไงย่อมดีได้เเน่นอนครับ ผมไม่กล้าชี้ชัดกับกระทู้นี้เพราะไม่เคยอ่านเจอ เเต่ส่วนตัวผม ผมคิดว่าไม่น่าจุะเกี่ยวกันครับ เเต่ถ้าความเป็นจริงไ่มใช่อย่างนั้น อันนี้ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ก่อนครับ อย่าท้อครับ จขกท คนเราวัดกันที่ความดีครับ ใช่เพศของตัวเองครับ เป็นกําลังใจให้ครับ เป็นได้มาโหลดหนังสือ 2 เล่มนี้ไปอ่านครับ ดีมากๆครับ

    ถาม ตอบ หลวงพี่เล็ก http://palungjit.org/archive/f-61-p-3.html
    download หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ ( หนังสือธรรมะที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมา )
    http://www.plkhealth.go.th/discuz/viewthread.php?tid=904
    download หนังสือสมาธิในชีวิตประจําวัน
    www.mongkoltemple.com/download/art034.pdf
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ติงว่าถ้าเหตุดี ผลก็ดีค่ะ
    สร้างเหตุให้สมบูรณ์นะคะ
     
  15. Nothing Eternal

    Nothing Eternal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +654
    ทุกดวงจิตถึงนิพพานได้เท่าๆกันครับ หากคุณปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง

    จะเข้าใจว่า ตัวตนของเรามันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จะเสื่อมสลายในที่สุด

    ร่างกายมันก็แค่ถุงเนื้อสกปรกที่เป็นภาชนะของดวงจิตให้เวียนว่ายในสังสารวัฏ

    เมื่อรู้ว่าตัวตนมันไม่มีจริง แล้วประสาอะไรกับเพศ เมื่อรู้เท่าทัน มันก็จะสลายไปเอง

    ที่คุณกังวล เพราะคุณปรุงจิตขึ้นว่าตัวเรามีสภาพเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

    เกรงว่าจะบรรลุธรรมไม่ได้ อย่าลืมครับ เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา

    ขอแนะนำให้ปฏิบัติไปเถอะครับ ทาน ศีล สมาธิ ภาวนา แล้วปัญญาจะเกิดในที่สุด

    เมื่อดวงจิตสะอาดบริสุทธิ์ คุณจะเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่โลกสมมุติขึ้นมาเองทั้งสิ้น

    (สมัยพุทธกาล หญิงโสเภณีที่สำเร็จอรหันต์ก็มีครับ ที่ยกตัวอย่างคนกลุ่มนี้ เพราะคนที่

    เกิดเป็นกะเทย หรือหญิงโสเภณี ก็เพราะเคยกระทำกาเมสุมิจฉาจาร เหมือนๆกัน)



    จะเชื่ออะไรก็แล้วแต่ ขอให้ใช้ปัญญาพิจารณา หากกำลังใจเรายังน้อย ก็ถามพระ

    พระสุปฏิปันโนในบ้านเรามีมากมายครับ ไม่ใช่จะตำหนิว่า ดร. ท่านไม่รู้จริงนะครับ

    เพียงแต่ผมเห็นว่า พระท่านมีกิจทางโลกน้อยกว่าฆราวาส ศีลท่านก็บริสุทธิ์กว่า

    จึงเชื่อได้ว่า ความรู้ทางธรรมของท่านเหล่านั้นจะเป็นที่พึ่งของเราได้ดีกว่านะครับ



    ปล. ไม่สำคัญว่าเราเกิดมาเป็นอะไรนะครับ แต่สำคัญที่ว่าเราจะทำอะไรเมื่อเกิดมาแล้วครับ
     
  16. 5000

    5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,491
    ค่าพลัง:
    +7,121
    เพ่งกสินไม่สำเร็จ ไม่เป็นไรครับ

    เหลือกรรมฐานให้ลองอีก 30 กอง + 1 มหาสติปัฏฐาน 4

    กัดฟันทำไป ท้อได้ครับ แต่อย่าถอย.....
     
  17. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    เฉพาะ กสิณหรือเปล่า
    ผมมีเพื่อน คนหนึ่งเป็น กระเทย นั่งสมาธิและใช้ทิพย์จักษุคล่อง มาก ๆ เลย
     
  18. nttr

    nttr สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +3
    เกไม่เหมือนกะเทยค่ะ เลิกเข้าใจผิดเสียที !

    เกเป็นบาป กะเทยเป็นบุญ เข้าใจมั๊ย

    เพราะเก คือดาวเสาร์ ดาวบาปเลวสุด กะเทยออกสาว คือดาวพุธ ดาว

    บุญรองพฤหัสบดี
     
  19. jerajajen

    jerajajen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +267
    เจริญมนต์ทำความดี ก็ดีแล้ว อย่าไปคิดอะไรมากเลยมันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาปวดหัว มีชายจริง-หญิงแท้อีกเป็นร้อยล้านที่เขาจะเข้าฌาน ออกฌานไม่ได้ พวกเขาไม่เห็นกลุ้มเลย มันเป็นเรื่องของความมานะ ความเพียร บุญบารมี
     
  20. jojokola

    jojokola เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2005
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +100
    ไม่อ่ะครับ
    เกย์ ก็จริง แต่ไม่ได้มีสองเพศนี่นา
    แม้จะเป็นเกย์ กระเทย แต่ ร่างกายเป็นชายปกติ ไม่ได้ไป ตัด ทิ้งอะไร
    ก็เปลี่ยนแปลงได้ครับ อยู่ที่ใจน่ะครับ เอาใจช่วยละกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...