ควรใส่บาตรพระรูปนี้ต่อไปอีกหรือไม่ ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Tibetannun, 28 มิถุนายน 2006.

  1. Tibetannun

    Tibetannun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +89
    ปกติเวลาใส่บาตร ใส่เสร็จแล้วพระจะให้พร
    วันจันทร์ที่ผ่านมา (26 มิ.ย. 2549)
    ตอนเช้าไปใส่บาตร
    คนก่อนหน้าใส่บาตรพระก็ให้พร
    แต่พอเราใส่บาตร
    แล้วก็รอพระสวดให้พรอยู่นั่นแหละค่ะ
    มีเสียงหนึ่งบอกว่า "ให้รีบไป ไม่ต้องรอรับพร"
    รออีกสักครู่ พระก็ยังไม่ได้สวด !
    เราก็เลยลุกขึ้น แล้วออกไป
    ช่วงที่ออกไป เราบังเอิญสบตาพระ
    ตอนนั้นงงเต็มที่
    ทั้งสีหน้า ทั้งแววตาของพระ ขบขันปนเยาะเย้ย
    อีกไม่กี่นาทีต่อมา เราก็มีธุระผ่านไปทางที่พระรูปนั้นบิณฑบาตอยู่อีกครั้ง
    เห็นคนมาใส่บาตร พระก็สวดให้พร !
    งงมาก ๆ เลยค่ะ ไม่เคยรู้จักพระรูปนั้น
    แล้วนี่มันอะไรกันคะ ?
     
  2. ฟาร์มรัก

    ฟาร์มรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2005
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +109
    ฟาร์มรัก เชียร์ให้ใส่ต่อจ้ะ ให้รู้ไปเลยว่าท่านยังต้องยังชีพด้วยอาหารของเรา และถ้าเราจะใส่บาตร ท่านปฏิเสธไม่ได้ ต้องรับ ที่สำคัญกว่านั้น จะได้รู้ใจตัวเองว่า กับสิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจ ยังจะเป็นสาเหตุให้เราระงับการทำดีหรือเปล่า
    ส่วนเรื่องพร เทวดา กับพระใหญ่ ท่านอำนวยพรอยู่แล้วจ้ะ ไม่เห็นต้องรอพระองค์นั้นเลย
    ทำดีต่อนะ ทำดีต่อนะ(verygood)
     
  3. nonglucp

    nonglucp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +1,041
    เห็นด้วยกับคุณฟาร์มรักจ๊ะ..ทำความดีต่อไปนะ...พระใหญ่..หลวงพ่อทุกองค์ท่านทราบความดีของเราอยู่แล้ว ...
     
  4. vena

    vena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +590
    (verygood) ควรใส่บาตรต่อไปค่ะ ความสุขและบุญกุศลเกิดขึ้นตอนที่เรามีจิตใจทำดีแล้วล่ะค่ะ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใสบาตรต่อไปเถอะครับ

    การที่พระท่านได้ทำอะไรก็แล้วแต่ ท่านก็จะได้รับผลนั้นมากกว่าบุคคลธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ ถ้าท่านทำดี ผลที่ได้ก็จะมากกว่า แต่ถ้าท่านทำไม่ดี ผลที่ได้ก็จะมากกว่าเช่นกัน

    การบิณฑบาตรของพระ เป็นกิจที่สงฆ์ต้องทำ เมื่อพระรับการใส่บาตรไปแล้ว จะให้พรทันทีหรือไม่นั้น ไม่จำเป็นเสมอไป แต่ในตอนที่ฉันเช้าหรือฉันกลางวัน เสร็จแล้วนั้น ต้องสวดเพื่อที่จะให้พรกับผู้ใส่บาตรด้วยทุกครั้ง การที่พระไม่สวดนั้น ท่านต้องไปใช้หนี้ให้เรานะครับ ข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด ต้องใช้หนี้คืนเราทั้งหมด เพราะฉะนั้น การสวดหลังการฉันทุกครั้งพระท่านจึงจำเป็นต้องสวดมนต์ให้พรกับผู้ที่ใส่บาตรด้วยเสมอครับ
     
  6. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    กิริยา คำพูด สายตา . . . เขาปรกติหรือเปล่า ระวังด้วย ที่ว่า มีเสียงหนึ่งบอกว่า "ไห้รีบไป ไม่ต้องรอรับพร" นี้เสียงไครหรือครับ ถ้าเสียงพระ เขาแซวหรือหยอกคุณเล่นหรือปล่าว
    เพราะมันเหมือนหนังโฆษะนา ที่ว่า แล้วอย่าลืมมารับพรนะ - - คิดมากไปไหมเรา 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2006
  7. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    เราตั้งเงื่อนไขว่าพระรับบาตรแล้วต้องให้พรเป็นค่านิยมเพื่อความมั่นใจในการทำบุญทำทานของเราเท่านั้นเองค่ะ บุญเกิดที่จิตเรา ไม่ใช่เกิดที่การให้แล้วต้องการคำขอบคุณนะ โชคดีนะ

    เช้าวันหนึ่ง ยายตักบาตรหลวงตากุ๋ย (สายธรรมยุต) ท่านปฏิบัติเคร่งมาก เรารู้ว่าพระสายนี้จะไม่ค่อยสวดให้พรหลังรับบาตร คืออันที่จริงท่านรู้ค่ะว่ากำลังจิตของเราอยู่ที่ไหน อย่างเราตั้งจิตอธิษฐานก่อนตักบาตร พระบางรูปท่านเข้าถึงท่านก็ไม่จำเป็นต้องให้พรทางเสียง ท่านให้พรอนุโมทนากับเราทางที่ท่านถนัดค่ะ

    ท่านกำลังวัดกำลังใจคุณอยู่น่ะค่ะ ว่าเราต้องการทำบุญเพื่อหวังสิ่งใด เราอย่ามีเงื่อนไข เราอย่าไปตามค่านิยม เราทำด้วยใจ บุญเกิดที่ใจ ไม่ต้องรอคำอวยพรใดๆ พรนั้นสำเร็จตั้งแต่เริ่มตั้งใจแล้วล่ะค่ะ
     
  8. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    ควรใส่ต่อไปครับ เราทำบุญเพื่อบุญ ทำความดีเพื่อความดี

    ถ้าเขาทำตัวไม่ดีเขาก็ลงนรกเอง

    อย่าคิดมาก เราก็ได้บุญตามเดิม

    อย่างมีเรื่องทำบุญกับขอทานได้ขึ้นสวรรค์ ทำกับพระอรหันต์ลงนรก


    ขอกล่าวแบบย่อๆเต็มที มีพระราชาเลื่มใสในพระ เลยไปนิมนต์พระมาฉันภัตที่วัง แต่พระที่มาเป็นพระปลอม ขอทานปลอมตัวมา ขอทานมันเห็นพระท่านได้รับการปฏิบิติดีจากทุกๆคน ขอทานมันเลยปลอมเป็นพระ ขอทานมันทำตัวสงบเสงี่ยมมากๆ ปลอมเป็นพระ เวลาฉันเสร็จ พระราชาก็ให้ คนรับใช้พระราชาไปส่ง คนรับใช้เห็นเบื้องหลัง อ่อ ไอ้นี่มันเป็นขอทานปลอมตัวมานี่เอง พระราชาถามคนใช้ว่าพระเป็นอย่างไรบ้างตอนไปส่งท่าน คนใช้เลยโกหกเอาใจพระราชาไปว่า โอ๊ย!!! ท่านเยี่ยมยอดเลยพระเจ้าข้า ท่านเป็นพระอรหันต์ พอออกนอกวัง ท่านใช้อิทธิฤทธิ์หายตัวไปเลย พระราชาปลื้มมาก ปลื้มใจ แล้วก็ดีใจมากๆ อิ่มบุญ ที่ขอทานมาโกหก พระราชา ชื่นชมในบุญนี้ที่ตัวเองทำทุกๆวัน กลายเป็นจาคานุสติ พอพระราชาตายไป ก็ไปสวรรค์


    ส่วนคนใช้พระราชาเห็นดังนั้น ว่าขอทานปลอมมา ทีนี้ หละ มีพระอรหันต์ของแท้ ผ่านมา ท่านจะมาโปรดพระราชา แต่อีตาคนใช้นี่คิดว่า ฮั่นแน่ ท่านเป็นขอทานปลอมตัวมาเหมือนคราที่แล้ว แหงมๆๆๆๆๆ เลยไล่ตะเพิดพระอรหันต์ออกไป ด้วยความเข้าใจผิดอันนั้น

    พอตายไปคนใช้อยู่ไหนครับ อยู่ในนรกเพราะล่วงเกินผู้ทรงคุณเข้า
    ขอเล่าแบบย่อนะ


    ดังนั้นขอเราให้ทำใจเคารพในสงฆ์ หมายถึงพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทุกๆรูป เราไม่เจาะจงไม่ว่าพระรูปใดมา เราก็จะใส่ ถ้ากำหนดใจได้ดังนี้ คุณได้รับอานิสงส์เป็นถวายสังฆทาน ถ้าทำทุกวันคุณได้ทำสังฆทานทุกๆวันเลย แล้วก็ใส่ไปเถอะ ถ้าเขาชั่วเอง ทำตัวไม่คุ้มค่าข้าวที่เราใส่บาตร เขาก็ลงนรกไปเองแหละ อย่าคิด มาก ขอเป็นกำลังใจให้ทำดีต่อไป/โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2006
  9. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    เรื่องไห้พรหรือไม่ ไม่สำคัญหรอกครับ แต่เรื่องกิริยา วาจา สำคัญกว่าแยะ
    ผมว่าบางครั้งถ้าเราเห็นว่าเขาไม่ดี เราก็ควรถอยนะ ไม่อย่างนั้นบางที เราอาจจะพลาดก็ได้
    ที่เป็นข่าวกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ไช่เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ดี แต่ก็ยังไปยุ่งกับเขาหรอกหรือ
    อันนี้นอกเรื่องนะครับ . . .ไม่ได้หมายถึงพระรูปนี้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2006
  10. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    อนุโมทนากับคุณมิงดรอนค่ะ ที่พยายามใส่บาตรทุกวัน

    ส่วนเรื่องพระนั้น ไม่ใช่แต่พระองค์นี้ พระองค์ไหนๆ ที่มาบิณทบาตรเราก็ไม่ควรเลือกว่า พระองค์นี้ดูน่าเลื่อมใสกว่าองค์นั้น ควรรอใส่แต่องค์นั้น หรือองค์นี้ดูท่าทางเป็นพระลวง ปฏิบัติไม่สู้ดี ปลอมมาในคราบพระ เราเลิกใส่ดีกว่า

    พระองค์หนึ่งเคยเทศนาว่า เราเป็นพระ ทำหน้าที่ปัจจุบัน ในการเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์

    พระอาจารย์อีกท่านหนึ่ง เป็นศิษย์ของพระพุทธทาส ซึ่งดิฉันเคยบวชชีพราหมที่นั่นบอกว่า เราไหว้พระ เราไหว้ศีลที่พระถือ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระบวชใหม่ หรือทำตัวอย่างไร เราไม่ได้ไหว้ท่าน ที่ตัวของท่าน แต่เราไหว้ศีลของพระ

    ดิฉันเคยข้องใจเรื่องการเลือกพระใส่บาตร พอได้ยินพระสองท่านนี้พูด ก็เห็นจริงว่า เรามีใจตั้งมั่นใส่บาตรก็ใส่ไปเถอะ เราไหว้ศีลของพระท่าน ท่านเป็นตัวแทนพระพุทธองค์ ทำให้เลิกคิดเรื่องการเลือกใส่บาตรพระ แม้ท่านอาจทำตัวด่างพร้อยหรือไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย ใจและการกระทำของเราต่างหากที่สำคัญที่สุด

    ดังที่พระพุทธทาส สวนโมกข์ เคยเขียนไว้ จำไม่ค่อยได้ แต่ประมาณว่า

    เรามีตา สิ่งภายนอกที่เรารู้สึกส่วนตัว เฉพาะตน (Adttiude) ไม่ชอบ มากระทบตาเรา ทำให้เราไม่พอใจ

    เรามีหู สิ่งภายนอกที่เรารู้สึกส่วนตัว เฉพาะตน มากระทบหูเรา ทำให้เราไม่พอใจ

    เรามีจมูกและลิ้น อาหารภายนอกไม่ถูกปากมากระทบเรา ทำให้เราไม่พอใจ

    ถ้าเราไม่มีสิ่งเหล่านั้น เราคงรักษาความพอใจเอาไว้ได้

    ประมาณว่า ถ้าคิดให้ดีแล้ว เราก็มีส่วนผิด ที่เกิดมาครบ 32 จึงมีตา มีหู มีจมูกและลิ้น ทำให้เราได้เห็น ได้ยิน ได้ลิ้มรส ฯลฯ ดังนั้นดิฉันว่า ตัวเราน่าจะมีส่วนผิดด้วยนะคะ ที่เอาส่วนต่างๆ ของร่างกายไปเปิดรับเอาสิ่งต่างๆ ภายนอกมาไว้กับตัว เราจึงผิดที่เกิดมามีตา มีหู ฯลฯ ค่ะ

    ดิฉันมักใช้วิธีนี้คิดเสมอ เวลาที่เริ่มรู้ตัว ว่าเราเริ่มไม่พอใจอะไร พยายามคิดดักอารมณ์ของตัวเองไว้ก่อนเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2006
  11. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,595
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ผมขอแนะคุณให้ใส่บาตรอย่างมีจิตที่ศัทธาครับ จะได้มีความสุข
     

แชร์หน้านี้

Loading...