ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ทริปถ้ำวัวแดง 28-29 พ.ย 52

กว่าพวกเราจะถวายผ้าป่าเสร็จก็เกือบค่ำ หลังจากพักทานข้าวกันเรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินขึ้นถ้ำ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดปูนประมาณ 1,401 ขั้นค่ะ พร้อมเป้และของที่จะนำขึ้นไปถวายข้างบน และมีน้ำยาล้างห้องน้ำ อุปกรณ์สำหรับล้างห้องน้ำด้วย เพราะพวกเราจะล้างห้องน้ำด้วยอ่ะค่ะ

 

ทริปถ้ำวัวแดง 28-29 พ.ย 52(ต่อค่ะ)

พวกเรานอนในถ้ำกันค่ะ จะมีคูหาสองคูหา พวกเรานอนกันในคูหาที่สองค่ะ
หลังจากอาบน้ำเสร็จก็จัดแจงที่นอน จากนั้นก็สวดมนต์และนั่งภาวนากัน รายละเอียดค่อยโพสต์พรุ่งนี้ต่อนะคะ เดี๋ยวคืนนี้อ้อยจะโพสต์รูปก่อนนะคะ ^_^

 

ทริปถ้ำวัวแดง 28-29 พ.ย 52(ชมถ้ำน้ำค่ะ)

ตอนสายพวกเราได้ไปชมถ้ำน้ำกันค่ะ

 

ช่วยกันทำความสะอาดห้องน้ำค่ะ

รูปต่อนะคะ

 

หลังจากเยี่ยมชมถ้ำน้ำกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราทั้ง8ชีวิต ก็ได้ช่วยกันล้างห้องน้ำด้วยค่ะ ระหว่างขัดห้องน้ำไป ก็เข้ากรรมฐานตามสะดวกของแต่ละบุคคลค่ะ

จากนั้นก็ถวายเพลอีกรอบแล้วรับศีลรับพร และเตรียมตัวลงจากถ้ำเพื่อไปสระบุรีกันต่อค่ะ

ไปถึงตอนค่ำ แม่ใหญ่กับอาจารย์ชนะรออยู่แล้ว อยากจะบอกว่าดีใจและปลื้มใจมากเหมือนได้กลับบ้านไปหาพ่อและแม่น่ะค่ะ แม่ใหญ่กับอาจารย์ใจดีและมีเมตตามาก ได้กรุณาเลี้ยงข้าวพวกเราทุกๆคนอีกด้วย ต้องกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ^_^

มีรูปสมเด็จองค์ปฐมมาฝากด้วยค่ะ งามมากๆเลย ฝีมือการติดทองและประดับเพชรของแม่ใหญ่เชียวนะคะ และได้ข่าวว่าคุณอ้อยและคุณอาร์มก็ได้ไปช่วยด้วย ขอโมทนาด้วยนะคะ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาต่อดีกว่านะคะ คืนนี้แบตชักจะเสื่อมแล้วค่ะ zzzz
รูปเป็นแค่น้ำจิ้มค่ะ ส่วนสำคัญคือ ข้อธรรมะและการปฏิบัติที่พวกเราแต่ละคนได้รับแตกต่างกันออกไป พรุ่งนี้แต่ละท่านคงจะนำมาถ่ายทอดให้กับท่านกัลยาณมิตรได้อ่านกันค่ะ ^^

 

_/|\_อนุโมทนาสาธุกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ(good)
แค่น้ำจิ้ม ก็สุขใจสุดๆแล้วล่ะค่ะพี่อ้อย (^_^)
ยังไงก็รอฟังข้อธรรมะและการปฏิบัติของทุกท่านอยู่นะคะ(deejai)

รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ:VO
บุญรักษา พระคุ้มครองค่ะ

 

ขออนุโมทนาสาธุกับพี่ๆทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ

ขึ้นบันไดตั้ง 1401 ขั้น ถ้าเป็นหนูเองคงจะปวดไปทั้งขาเหมือนกันแหละค่ะ สมเด็จองค์พระปฐมงามมากเลยค่ะ (ใช่หรือเปล่าหว่า?)

ถ้ำก็สวย ^^ อิอิ

ปล. โห พี่ลีเล่นโยคะด้วยเหรอคะ มิน่า แข็งแรง อิอิ

 

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ ขอขอบคุณที่ส่งบุญให้ร่วมอนุโมทนา(ซะอิ่มเลย)

 

มาแล้วครับ มาแล้ว

ต้องขอบพระคุณท่านกัปตัน แลพี่หนิงที่ได้กล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ท่านสามท่าน

กำลังจิตใจจดจ่อกับ ทัวร์ธรรมะ ทริปถ้ำวัวแดง หลับไปหนึ่งคืน กระทู้วิ่งสามหน้า พร้อมสมาชิกขึ้นเรืออีกสามท่าน

ขออนุญาตต้อนรับทั้งสามท่านครับ ทั้งคุณ c2001, คุณนริสา, และคุณ andrea

ตามธรรมเนียมครับ รับตั๋วแล้ว รับไม้พายแล้ว(เข้าใจว่า พี่หนิงแจกไม้พายให้แล้ว) เดินเข้าในเลยครับ ซ้ายยังมีที่ ขวาพอนั่งได้อยู่ เลือกที่นั่งได้เลยครับ ก่อนจะเริ่มลงมือพาย อย่าลืมส่งข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ติดต่อได้ให้กับ กัปตันของเรา(คุณ Me, myself)นะครับ

วัตถุประสงค์ก็คือ เพื่อไว้ติดต่อประสานงานกัน ทั้งทางโลกและทางธรรมครับ
มีข้อมูลสำคัญอะไรจะได้ติดต่อกันได้ทันเวลา

หลังจากประจำที่แล้ว ทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มพายได้เลยครับ
หากว่ายังพายไม่ชำนาญ ไม่เป็นไรครับ เรามาช่วยกันพาย
หากติดขัดประการใด เข้ามาถามกันครับ เดี๋ยวจะมีผู้รู้เข้ามาช่วยกันตอบครับ

อย่างที่ทุกท่านทราบกันแล้ว เรือลำนี้ตั้งใจข้ามทะเลระทม ให้ถึงฝั่งนฤพานครับ เตรียมใจให้พร้อมครับ

ในระหว่างการเดินทางเราจะมีบุญให้ร่วม ให้โมทนาสาธุการ ตลอดการเดินทาง

ส่วนท่านที่เข้ามาฝากเนื้อ ฝากตัว ฝากศรีษะ และ แขน ขา รวมทั้งใจงามๆ
ยินดีรับฝากครับ ไม่คิดค่าฝาก และดอกเบี้ยครับ มีอย่างเดียวครับคือ ศรัทราในพระพุทธศาสนา พระรัตนตรัยอย่างมั่นคง และมั่นใจว่าเรือลำนี้ไปถึงฝั่งแน่ๆ

ยังมีอีกครับ ผมว่าสมาชิกมาอีกเรื่อยๆ ก็ใช่ใครที่ไหน รู้จักกันมาก่อนทั้งนั้น ตั้งแต่ก่อนง้อนชะไร เดี๋ยวมีมาอีก

ส่วนท่านที่กำลังไล่ตามอ่านอยู่ ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นอยู่หลายท่านซึ่งยังไม่ได้แสดงตน กำลังอ่านอย่างขมีขมัน ขะมักเขม่น เรารอได้ครับ ท่านพร้อมเมื่อไหร่ ยินดีต้อนรับเสมอครับ เรือเราใหญ่พอครับ

ก็ขอเชิญชวนอีกครั้งครับ เร่เข้ามา เร่เข้ามา สองมือล่วงกระเป๋า สองเท้าเร่เข้ามา เรือเรายังมีที่นั่งพอเพียง และเพียงพอ สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะข้ามทะเลระทม

สำหรับท่านที่อยู่บนเรือแล้ว ฟังเสียงสัญญาณอีกครั้งนะครับ
อ้าว หนึ่ง สอง สาม บึ๊ดจ้ำบึ๊ด จึ๊กจ้ำจึ๊ก

โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

บุญรักษา สวัสดีครับ

<O</O

 

โมทนาบุญด้วยครับคุณ Obeone13

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอโมทนาบุญ ในทุกๆบุญกับทุกๆท่านที่ได้ไป ทัวร์บุญ ทัวร์ธรรมะ ในครั้งนี้ ด้วยคนครับ

ได้อ่านและดูรูปภาพ รู้สึกชื่นใจและสุขใจมากครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

บุญรักษา สวัสดีครับ

 

มาต่อนะคะ อ้อยจะเล่าแบบความจำปลาทองไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่ๆน้องๆก็คงจะมาเล่าเพิ่มกันไปเรื่อยๆน่ะค่ะ

ก่อนไปอาจารย์ชนะเมตตาบอกว่าระหว่างเดินทางก็ใช้มโนฯให้เป็นประโยชน์ แต่ว่าพวกเราก็ใช้มั่ง ลืมมั่งอ่ะค่ะ แหะ แหะ ^^ แต่ระหว่างเดินทางก็มีการใช้มโนฯเข้าช่วยเป็นบางจุดที่ไร้ซึ่งป้ายบอกทางใดๆ ซึ่งเป็นการขอบารมีจากเบื้องบนด้วย ซึ่งก็ได้ผลทุกครั้งไปค่ะ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคณะของพวกเราอ่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นธรรมะบันเทิงค่ะ แต่ระหว่างเดินทางถึงจะบันเทิงลั่นล้าแต่ก็จับกรรมฐานไปด้วย คือพยายามทำอารมณ์ให้สบายๆกันไป ก็พวกเราจะไปทำบุญกันเน๊าะ ทำจิตให้แจ่มใสเข้าไว้ ^_^ พี่ตู่กับพี่ลีซึ่งเคยมาก่อนหน้านั้นแล้วครั้งหนึ่ง ก็คอยเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังกันด้วย บางช่วงก็มีการทดสอบมโนฯกันด้วยว่าสถานที่ ที่เราผ่านมาใครเห็นอะไรบ้างไหม บางช่วงก็เป็นสถานที่เหลื่อมมิติ ทับซ้อนกัน พวกเราถึงแม้ว่าบางคนจะยังไม่ได้มโนฯ แต่ก็มีความรู้สึกที่สัมผัสได้กันทุกคน จริงๆแล้วมโนฯนั้น มีหลากหลายรูปแบบด้วยกันค่ะ ไม่จำเป็นว่าต้องเห็นภาพทุกครั้งไป บางครั้งการสัมผัสได้ก็จะรู้สึกขนลุก ขนหัวตั้ง ปิติ รับรู้ อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ (แม่ใหญ่ได้กรุณาบอกไว้ค่ะ อันนี้มาทราบทีหลัง ตอนกลับมาจากถ้ำน่ะค่ะ)

ก็นั่งรถกันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงสถานที่แรกที่พวกเราตั้งใจมาทำบุญกัน นั่นก็คือ วัดปราสาทดินค่ะ

 

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับกับคุณสาวและทุกท่านด้วยนะค่ะ
ไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์แต่ก็ติดตามอ่านอยู่เสมอค่ะ เป็นกระทู้ที่เหนียวแน่นและสมาชิกมีจิตใจมั่นคงต่อพระพุทธศาสนามาก น่ารักกันทุกท่านเลย จะติดตามอ่านและร่วมอนุโมทนาบุญไปเรื่อยๆนะค่ะ

ที่วัดถ้ำวัวแดงมีพลังมากมายเลยนะค่ะ(ดูเอาจากภาพที่เพื่อนๆถ่ายมาฝาก) ทุกท่านที่ได้ไปร่วมงานบุญครั้งนี้ได้เก็บเกี่ยวบุญกุศลมาฝากเพื่อนๆในห้อง ขอบคุณและอนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

อ่อ แล้วเรื่องการทำบุญล้างห้องน้ำ บีเองก็เชื่อเรื่อง การทำบุญล้างห้องน้ำ ว่ามันจะส่งผล ในชาตินี้เลย ตั้งแต่ชอบทำบุญด้วยการล้างห้องน้ำ เดี๋ยวนี้เวลาไปเข้าห้องต่างถิ่นต่างที่ แม้เป็นชนบทไกลๆ ก็จะเจอห้องน้ำที่สะอาดๆตลอดเลยค่ะ

คงมีโอกาสได้ไปวัดถ้ำวัวแดงสักครั้ง รออ่านเรื่องที่คุณสาวไปอธิษฐานแล้วสมปรารถนาด้วยค่ะ

 

ถ้ำวัวแดง

ก่อนจะเล่าเรื่องราวให้ฟังพี่หนิงขอประท้วงค่ะ ท่านประธาน เอ๊ย ท่านกัปตัน และท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ที่น้องอ้อยบอกไว้ว่า "พี่ตู่กับพี่ลีซึ่งเคยมาก่อนหน้านั้นแล้วครั้งหนึ่ง" นั้น

พี่หนิงขอประท้วง ให้ถอนคำพูดค่ะ..เนื่องจากว่า ทั้งสองท่านที่เคยมาแล้วนั้น ยิ่งกว่าปลาทองหัววุ้นค่ะ ลืมเส้นทางไปหมด จำเส้นทางไม่ได้

ทำให้เนวิเกเตอร์ จำเป็น กุมหัวใจ ที่เต้นไม่ค่อยจะเป็นจังหวะ มีทั้ง Slow down และเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ทุกครั้งที่เจอป้ายทางแยก..

ท่านกัปตันต้องบอกว่า "เฮ๊ย .. จะถามกันทำไมฟร่ะ.. ไม่รู้จักใช้มโนฯ ให้เป็นประโยชน์ ยังไม่ถึง มาถูกทางแล้ว ไปอีก" ฯลฯ ละ เป็นเครื่องหมายไปยาลใหญ่ไว้ให้ เพราะมีหลายประโยคมากมาย..ฮา...(หรรษาไหมคะ)

ก็แหม..ยังละอ่อน..อยู่นี่ค่ะ ความสามารถยังด้อยไปนิด

 

ฮ่าๆๆๆ ก็พี่เค้าแอบเล่าให้อ้อยฟังนี่นา อิอิ เพราะฉะนั้น จั่งซี้มิต้องถอนนนนนนนน (จะโดนหรือเปล่าคะเนี่ยข้าเจ้า แหะ แหะ)

 

อนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ หายเร็วๆ นะครับพี่ คิดว่าสมาชิกทั้งหลายต่างก็รออ่านเรื่องราวที่ท่านกัปตันเกริ่นๆ ไว้แน่นอนครับ

 

ขออนุโมทนาบุญทุกๆ ท่านในทริปถ้ำวัวแดง 27-28 พ.ย. 52 ด้วยครับ (พ.ย. ตกไป 1 จุดครับ)

 

สาธุค่ะ ร่วมโมทนาบุญด้วยกันนะคะ คุณ Assume ขออนุญาตเข้ามาเป็นตัวแทนคณะที่เดินทาง มาตอบก่อน

ยังเคล็ดขัดยอก ไปตามๆ กัน.. ครั้งหน้า คุณ assume คลิกที่ข้อความเดิม ตรงปุ่มแก้ไข/ลบ และสามารถแก้ไขจุดที่ผิด หรือจะเพิ่มเติมข้อความได้ค่ะ ไม่ต้องขึ้นอันใหม่

ป้องปาก ตะโกนหาพี่ลี คนเก่ง..บอกว่าไม่เมื่อยๆ ออกมาเล่าเรื่องราวที่ประสบมาก่อนได้เลยค่ะ

หนิงขอทำรูปก่อน แล้วจะมาเล่าๆ ประสบการณ์ตรงของตัวเองให้ฟังนะคะ ขอบอกว่า อย่าพลาดในการติดตาม..ค่ะ..

ต้นปีหน้า จะรวบรวมเรื่องเล่าจากทุกคน ทำเป็นนิราศถ้ำวัวแดง.. ฮา..

 

ใบเสร็จรับเงิน ค่าตู้พระไตรปิฏกและหนังสือพระไตรปิฏกค่ะ

 

พอมาถึงวัดถ้ำปราสาทดิน ก็ตะลึงกับปราสาทที่งดงามมาก และได้รับทราบจากหลวงพี่รูปหนึ่งว่า หลวงตาเจ้าอาวาสท่านไปธุดงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แต่มีหลวงตาอีกท่านหนึ่งอยู่ พวกเราก็เลยช่วยกันขนของเข้าไปในปราสาทที่สวยงามมากมายค่ะ(มีในรูปค่ะ)นำโดยพี่สาว และพี่ตู่ พวกเราทุกคนก็ช่วยกันขนของที่จะนำถวายกัน ยกเว้นอ้อยเพราะเป็นตากล้องจำเป็นค่ะ ฮ่าๆ

ขอบอกว่าพอเข้าไปในปราสาทปุ๊บเหมือนหลุดเข้าไปอีกมิติหนึ่งเลยค่ะ ความสำรวมรวมพลังกันเหนียวแน่น ^^ พอเข้าไปก็กราบพระกันก่อน จากนั้นจัดเตรียมของที่จะถวายเป็นผ้าป่ากัน หลวงตาท่านก็ได้สอบถาม และท่านพูดขึ้นว่า ท่านฤาษีมาสะกิดบอกว่าพวกเราเป็นลูกหลานท่าน ที่นี่พวกเราได้เห็นหลวงปู่ใหญ่ค่ะ หลวงปู่เมตตามารับพวกเรากันที่นี่ค่ะ จากนั้นหลวงตาท่านก็ให้ข้อธรรมกับพวกเรา ท่านบอกว่านิพพานอยู่ไม่ไกลหรอก อยู่ที่จิต ที่ใจของเรานี่เอง ตัวเราที่ว่าเป็นตัวเรามีที่ไหน อยู่ที่เนื้อหนังหรือ ก็ไม่ใช่ ใช่ไหม เพราะฉะนั้นอย่าไปยึดติด(อันนี้อ้อยจำแบบปลาทองนะคะ ต้องรอพี่สาวมาขยายความอีกทีค่ะ)

จากนั้นท่านก็ให้สายสิญจน์คล้องคอกันคนละเส้น ท่านบอกว่าให้สวมตลอดนะอย่าถอดออก ตอนนี้ทุกคนเข้าสู่กระแสพระนิพพานกัน ก็ขอให้ได้ถึงฝั่งนิพพานกันทุกคนนะ จากนั้นท่านก็พรมน้ำมนต์ ท่านบอกว่าดูให้ดีๆนะ อ้อยเห็นหลวงปู่ใหญ่เป็นคนพรมน้ำมนต์ให้พวกเราน่ะค่ะ มีหลวงพ่อฤาษีอยู่ข้างๆ

จากนั้นท่านเมตตาบอกว่า รบกวนพวกเราช่วยขึ้นไปข้างบนกันหน่อย ปราสาทนี้จะมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระ ครูบาอาจารย์อยู่ที่นั่น ให้พวกเราขึ้นไปได้นะ

พี่สาวกับพี่ตู่ก็นำพวกเราขึ้นไป ตอนขึ้นต้องมีสติค่ะ เพราะบันไดเหล็กเล็กมาก ชันด้วย มองลงมาหวาดเสียวดีแท้ คือทุกย่างก้าว ต้องมีสติกับตัวค่ะ เหมือนเราจะขึ้นนิพพาน สติ อย่าให้หลุดและหลง ก็กราบพระกันไปเรื่อยๆ บางคนก็แวะทุกชั้น บางคนก็ไปเฉพาะชั้นที่แต่ละคนผูกพัน จนถึงชั้น7 พอพี่สาวขึ้นไปถึงปุ๊บ จะมีกังสดาลบนพระธาตุ ดัง เก๊ง เก๊ง เก๊ง 3 ครั้งค่ะ เทวดาท่านตีต้อนรับน่ะค่ะ ส่วนอ้อยขึ้นไปปุ๊บ เหมือนมีอะไรสักอย่างดึงดูดความสนใจให้มองออกไปตรงหน้าผาที่อยู่ไม่ไกลกันนัก พอเห็นวูบแรก ตกใจค่ะ

เพราะมีเวิ้งบนหน้าผาเวิ้งหนึ่ง อ้อยเห็นในนิมิตมาหลายปีค่ะ ลักษณะแบบนี้เป๊ะเลยค่ะ รับรู้ว่าเราเคยมาปฏิบัติอยู่บนเวิ้งนี้นานแสนนาน พอได้เห็นเกิดปิติค่ะ เหมือนได้กลับมายังถิ่นเดิมที่เราเคยปฏิบัติ ยืนมองอยู่อย่างนั้นนานเหมือนกัน ระหว่างนั้นก็ใช้ญาณ8ตรวจดูด้วยก็เลยได้ทราบที่มาน่ะค่ะ (อาจารย์ชนะบอกว่าถ้าเห็นอะไรให้ใช้ญาณ8ตรวจดูค่ะ)

จากนั้นก็เข้าไปกราบพระ บนชั้นที่สูงสุด ก็น้อมจิตกราบท่านพระอินทร์ด้วย ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงฆ้อง ดัง มุย มุย มุย พี่สาวค่ะ พี่สาวลูบฆ้องเสียงดังกังวานมากค่ะ ขนลุกตลอดเลยค่ะ

จากนั้นอ้อยก็ลองไปลูบดูมั่ง ปรากฏว่าเสียงดัง มุย มุย มุย แผ่วๆค่ะ 555 พี่สาวบอกว่าตั้งสมาธิดีๆสิ แต่ด้วยกิเลสบังตา คือคิดแล้วว่าอยากให้ดัง(อันนี้เป็นกิเลสล้วนๆค่ะ) ฆ้องก็เลยดังแผ่วๆค่ะ แหะ แหะ จากนั้นน้องเบน พี่ตู่ก็สลับกันไปลูบ ก็ปรากฏว่า ดังกันทุกคนค่ะ กังวานดีมากเลยค่ะ

จากนั้นก็ออกไปยืนตรงระเบียงอีกรอบ เพื่อถ่ายรูปเวิ้งหน้าผา ซึ่งตรงนั้นมีพี่หนิงกับน้องเบนยืนอยู่ด้วย ก็เล่าให้พี่หนิงและน้องเบนฟังถึงที่มา พอกดถ่ายรูปปุ๊บจะเห็นเป็นภาพเหลื่อมซ้อนกันค่ะ อันนี้เห็นด้วยตาเนื้อนะคะ น้องเบนบอกขนลุกค่ะ จากนั้นพวกเราก็ลงมา ตอนลงก็ต้องตั้งสติอีกรอบค่ะ พี่นัถลงแบบถอยหลังลงค่ะ อิอิ

จากนั้นพวกเราก็เตรียมตัวไปวัดถ้ำวัวแดงกันต่อค่ะ