ปิดรับบริจาค สำเร็จแล้ว... เชิญชมภาพพระอุปคุต + ลป.ทวด (ขนาดเท่าองค์จริง) วัดนาอุดม อุบลฯ

ขอนำอัตโนประวัติของสมเด็จพระมหาวีรวงษ์ วัดสัมพันธวงศ์ มาลงให้ทราบกันอย่างทั่วถึงค่ะ

ตลอดระยะเวลากว่า 72 พรรษา ในการครองสมณเพศใต้ร่มบวรพระพุทธศาสนา

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ มีผลงานและคุณสมบัติต่างๆ เป็นที่ยกย่องเชิดชูมากมาย ทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ตลอดจนเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตร งดงามด้วยการครองตน เปี่ยมไปด้วยเมตตา เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธา

ปัจจุบัน สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) สิริอายุ 92 พรรษา 72 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคมและคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า กงมา ก่อบุญ (ภายหลังพระอุปัชฌาย์เปลี่ยนชื่อให้เป็น มานิต) เกิดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2460 ณ บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น จ.อำนาจเจริญ) โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายช่วยและนางกา ก่อบุญ ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

ช่วงวัยเยาว์ได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาลประจำตำบลหนองแก้ว เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 1 แต่มีเหตุจำต้องหยุดการเรียน ถูกครูใหญ่ลงโทษโดยไม่ยุติธรรม ถูกตีจนมือแตก ด้วยความผิดเพียงไม่ไปพบหลังจากให้นักเรียนไปตามตัว จึงขอลาออก บิดามารดา จึงได้พาบุตรชายไปบวชเป็นสามเณรมหานิกาย ที่วัดบ้านบ่อชะเนง หลังจากออกพรรษาแล้ว ได้ออกเดินธุดงค์ติดตามพระธุดงค์กัมมัฏฐานสายพระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์สิงห์ ไปยังเขตจังหวัดอุบลราชธานี เดินธุดงค์กัมมัฏฐานพร้อมกับคณะโดยผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น จำพรรษาที่วัดป่าช้าเหล่างา (ปัจจุบัน คือ วัดป่าวิเวกธรรม) ต.พระลับ อ.เมือง ได้ญัตติเป็นสามเณรธรรมยุต โดยมีพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2475 เกิดความคิดศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม จึงตัดสินใจเดินทางไปยัง จ.นครพนม เพื่อแสวงหาสถานที่ศึกษาพระปริยัติธรรม ได้อยู่จำพรรษาที่วัดอรัญญิกาวาส (วัดโพนแก้ว) อ.เมือง จ.นครพนม เริ่มเรียนปริยัติธรรมที่วัดอรัญญิกาวาสเป็นเวลา 4 ปี

พ.ศ.2479 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดสัมพันธวงศ์ โดยอยู่ในกำกับดูแลของพระเนกขัมมมุนี (ภายหลังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพปัญญามุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์)

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ วันที่ 8 พฤษภาคม 2480 ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ โดยมีพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุวรรณรังษี (สุวรรณ ชุตินฺธโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูปลัดเส็ง ทินฺนวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2481 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ พ.ศ.2499 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค

ด้วยความเป็นผู้ที่มีความสามารถ ท่านได้รับมอบหมายหน้าที่ภายในวัด เป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์ สอนธรรมบทชั้นต้น สอนธรรมบทชั้น ป.ธ.3 และเป็นครูใหญ่ประจำสำนักเรียนวัดสัมพันธวงศ์ ท่านได้สร้างคุณูปการไว้มากมาย อาทิ จัดโครงการและเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณร จำนวน 41 รูป เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ณ วัดสัมพันธวงศ์ เป็นประธานดำเนินการสร้างถาวรเจติยมหาวิหาร ที่วัดบ้านเก่าบ่อ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ จนแล้วเสร็จ และจัดให้มีพิธีสมโภชและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยอดองค์เจดีย์

พ.ศ.2546 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2485 เป็นเลขานุการเจ้าคณะธรรมยุต จังหวัดธนบุรี-นนทบุรี-ปทุมธานี
พ.ศ.2511 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์และเป็นรองเจ้าคณะภาค 8-10 (ธรรมยุต)
พ.ศ.2514 เป็นเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์และเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2516 เป็นรองเจ้าคณะภาค 10-11 (ธรรมยุต) พ.ศ.2519 เป็นเจ้าคณะภาค 11 (ธรรมยุต) ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 (ธรรมยุต)

ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ.2499 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอริยเมธี
พ.ศ.2507 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชกวี
พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปัญญามุนี
พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมบัณฑิต
พ.ศ.2532 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่ พระอุดมญาณโมลี
วันที่ 5 ธันวาคม 2544 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

ตลอดช่วงชีวิตกว่า 72 ปีของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ มิได้ร้างลาการปฏิบัติวิปัสสนา อันถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งวิถีชีวิตในเพศบรรพชิตที่มีครูบาอาจารย์ สายกัมมัฏฐานอบรมสั่งสอนให้นำแก่นธรรมคำสอนแห่งพุทธองค์ไปปฏิบัติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเน้นการฝึกจิตสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญาในลักษณะของการภาวนามัยปัญญา ตามแนวทางหลักของพระภิกษุธรรมยุตฝ่ายกองทัพธรรมสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ความเป็นคันธุระและวิปัสสนาธุระ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ สามารถผสมผสานและปฏิบัติได้อย่างลงตัวเหมาะสม จนมีคำเรียกขานในศรัทธาชนว่าท่านเป็น กัมมัฏฐานกลางกรุง

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ยังได้ชื่อว่าเป็นพระมหาเถระที่ได้รับการเคารพสักการะจากพุทธศาสนิกชนทั่วไป เนื่องจากปฏิปทาจริยาวัตรของท่านกอปรด้วยเมตตาธรรมอันเลิศล้ำงดงาม มีวัตรปฏิบัติอยู่ในศีลที่สมบูรณ์ ดำเนินสายกลางพอเหมาะพองาม ไม่ชอบระคนด้วยกลุ่มชนมาก ชอบหลีกเร้นอยู่ในที่สงบ ชอบชีวิตป่าเขาลำเนาไพร
ท่านยังเปี่ยมเมตตาธรรม หากได้สนทนาธรรมกับท่าน สิ่งที่เป็นคำสอนอันสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป ท่านจะสอนให้หัดแผ่เมตตา ส่งความปรารถนาดีแก่คน สัตว์ ตลอดไปจนถึงศัตรูหมู่มาร





<!-- google_ad_section_end -->







<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

มีงานบุญมาบอกเพิ่มอีก 1 งานค่ะ

ทางวัดนาอุดมจะสร้าง "วิหารพรหม" ในเร็วๆนี้ เลยจะนำวัตถุมงคลรุ่นเก่ามามอบให้สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพตามส่วนปัจจัยที่กำหนดไว้ มีรายละเอียดดังนี้

1. พระกริ่งโปร่งฟ้า-ไถ้รัสสี ขนาดบูชา 9 นิ้ว สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่า 100,000 บาท
2. พระพุทธรูปปางมหาจักรพรรดิ์ 5 นิ้ว (หล่อชัยนำฤกษ์) สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่า 100,000 บาท
3. เบี้ยแก้ (ขนาดเล็ก) สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่า 20,000 บาท
4. กะลาแกะราหู สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่า 20,000 บาท
5. พระนางพญาเชียงรุ้ง สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่า 4,000 บาท
6. เหรียญแก้วสารพัดนึก (ยังไม่แน่ใจ)
7. พระชุดพิเศษ 1 กล่อง มี 6 องค์ (ที่มอบให้กับเจ้าภาพเสาเข็มพระธาตุเจดีย์ 1 ต้น) สำหรับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่า 10,000 บาท

• พระกริ่งโปร่งฟ้า-ไถ้รัสสี 1 องค์
• เหรียญบาตรน้ำมนต์ 1 เหรียญ
• เหรียญแก้วสารพัดนึก 1 เหรียญ
• เหรียญรุ่นร่ำรวย 2 เหรียญ
• พระสมด็จปรกโพธิ์ 1 องค์

วันนี้หนูจะเปิดกระทู้ใหม่เพื่อร่วมสร้างวิหารพรหม...จะได้ไม่สับสนปนกับอีก 2 งานบุญ เมื่อเปิดกระทู้แล้วจะแจ้งให้ทราบอย่างทั่วถึงอีกครั้งค่ะ รอติดตามอ่านนะคะ...<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

มาแล้วคราบ

ติดตามอยู่ใกล้ๆๆคราบ

 

ไปไหนไปกันเนอะ ^__^

 

เปิดกระทู้แล้วค่ะ

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างวิหารพรหม วัดนาอุดม รับวัตถุมงคลรุ่นเก่า ลป.ญาท่านสวน<!-- google_ad_section_end -->

 

สาธุ ขอให้ได้โบนัส 800,000 จริงๆเถอะ พี่จะแบ่งมาทำบุญสักแสนนึง...

 

สาธุ... งั้นหนูขอให้พี่อั๋นถูก lotteri หลักล้านเลยดีกว่าค่ะ... จะได้มาร่วมทำบุญกับหนูเป็น 200,000 บาท

 

ได้เลย ขอให้ถูกรางวัลที่ 1 คู่นึง ทำบุญกับหนู 2 แสนโลด

 

มาแล้วคราบ อยู่ตรงนี้ไม่ใกล้ไม่ไกล แถวๆนี้มีคนดี

พี่หนูคราบ ขอถามหน่อย

บทที่ขึ้นต้นด้วย สังเค ของหลวงปู่กวยมันเป็นคาถาบทไหนเหรอคราบ

 

ประสบการณ์ที่บูชาพระของหลวงพ่อกวยติดตัว
มีครับ
แต่ขอเวลาเรียบเรียงก่อน ครับผม
โปรดติดตามตอนต่อไป(ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างครับ)

 

รออ่านอยู่คราบบบบบบบบบบบบบบบบบบพี่ผาแดง ชื่อนี้มาได้ยังไงเนี่ยคราบขออนุญาติถามหน่อยคราบ

หลวงปู่โปรดทุกคนคราบ

 

เดี๋ยวจะมาเฉลยให้นะ... ต้องไปหาคำตอบก่อน

 

รับทราบค่ะ... ว่าแล้วเชียวว่าพี่ผาแดงต้องมีประสบการณ์แน่นอน... คงจะเป็นด้านคงกระพันหรือไม่ก็แคล้วคลาด... ใช่มั้ยคะ (วัตถุมงคลของหลวงปู่กวยท่านจะออกแนวบู๊เยอะ)

 

จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อค่ะ... นานแค่ไหนก็จะรอ...

 

ทางวัดนาอุดมได้มีการกำหนดวันงานทำพิธีหล่อพระอุปคุต หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ญาท่านสวนและจะมีการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ญาท่านสวนขนาดบูชา 9 นิ้ว และ 5 นิ้วอีกด้วย ในวันที่ 20 มี.ค 2553

หนูจะเปิดรับปัจจัยไปเรื่อยๆจนถึงวันที่ 9 มี.ค 2553
ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญในการสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวดในครั้งนี้ค่ะ

รายชื่อผู้ร่วมทำบุญสร้างพระอุปคุตและหลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ

คุณ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 6,191 บาท
คุณ ญาติธรรม(นอกเว็บ) 2,999 บาท
คุณ wirotp 1,100 บาท
คุณ linjin 700 บาท
คุณ Osz 2,050 บาท
คุณ ภูริ 800 บาท
คุณ ดาราจักร 300 บาท
คุณ upavana 1,750 บาท
คุณ nishiki 868 บาท
คุณ aries 300 บาท
คุณ หวงจื้อเซวียน 1,050 บาท
คุณ deawmilan 400 บาท
คุณ pornchai2500 2,000.29 บาท
คุณ นว 550 บาท
คุณ ภูริ 980 บาท
คุณ กึกก้อง 2,080 บาท
คุณ artrider 300 บาท
คุณ TT-POOL 300 บาท
คุณ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 100 บาท (20.10.52)
คุณ tong5959 1,099 บาท
คุณ บุคคลนิรนาม 2,599บาท

รวมปัจจัยทั้งหมด 28,516.29 บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ...สาธุ...สาธุ...<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ตอนนี้ว่างแล้วครับเพราะเดี๋ยวบ่ายต้องออกไปทำงานอีกกว่าได้กลับคงมืดหรือดึก

ประสบการณ์ที่บูชาพระของหลวงพ่อกวยติดตัวที่เกิดกับผมนั้นคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมนต์พระกาฬที่ว่ากันว่าหลวงพ่อกวยท่านใช้เสกพระเครื่องที่ท่านสร้างเอง ซึ่งว่ากันว่าหากมีใครคิดร้ายกับผู้ที่บูชาพระของท่านติดตัวก็จะได้รับผลร้ายดุจเดียวกัน
เรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อสักสามปีที่ผ่านมา วันหนึ่งผมจะต้องออกไปทำงานต่างสถานที่ แต่เช้ามืด งานนั้นจะต้องแบ่งออกเป็นส่วนๆและได้รับมอบให้ดูแลงานในสายหนึ่ง แต่ผมเกิดอาการท้องเสียขึ้นมา(แบบปวดมวนในท้องด้วย)ก็เลยบอกให้รุ่นน้องทำงานกันไปตามลำพังก่อน แล้วผมก็ไปหาที่ทำธุระส่วนตัว พอกลับมาถึงที่ๆได้รับมอบงานให้ดูแล ก็มาเจอหัวหน้างาน มาตรวจดูความเรียบร้อยของงาน ซึ่งมาแล้วไม่เจอผมแต่แรก ก็มาพูดต่อว่าทำนองแซวว่าแอบไปทำธุระส่วนตัวแต่กลับอ้างว่าท้องเสีย ในตอนนั้นก็นึกในใจว่า อะไรกัน ......... ท้องเสียจริงๆบอกแล้วก็ยังดันไม่เชื่ออีก แต่ปากก็ต้องขอโทษไปก่อน ....... แล้วงานวันนั้นจบเสร็จสิ้นไป<O</O
วันต่อมาได้ข่าวว่าในวันที่ผมท้องเสียนั้นเอง หัวหน้างานคนนั้นก็ท้องเสียด้วย วันนั้นมีสมเด็จหลังรูป,พระสังขจายเนื้อดินพิมพ์ครึ่งซีกและพระสิวลีองค์จ้อย(ไม่มีย่าม)<O</O
เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ

 

คริ คริ เดาผิดครับ

แต่ที่น่าแปลกใจ น้องหนูกับผมมีพระเหมือนกันสองสามพิมพ์(สมเด็จหลังรูปกับพระสังขจายเนื้อดินครึ่งซีกและเหรียญรูปหลวงพ่อกวยหลังยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้าแต่ผมมีรอยจารจาก อ.ตั๊วด้วย)

 

ขอติดไว้ก่อนครับ
จะมาเฉลยวันหลังครับ
ขออนุญาตไปทานข้าวก่อน
เตรียมทำงานช่วงบ่ายครับผม(deejai)

 

สีกาอร และเปี๊ยกได้โอนเงินเที่ยง 1ธค. 600.00 บาทร่วมหล่อพระอุปคุต-หลวงปู่ทวด-หลวงปู่ญาท่านสวน ทั้ง 3 องค์ค่ะ

 

ขอบคุณมากค่ะพี่ผาแดงที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง... เรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่กวยที่ปลุกเสกด้วยมนต์พระกาฬนั้นมีอานุภาพสูงจริงๆค่ะ พระคาถามนต์พระกาฬนี้ไม่ค่อยมีหลวงปู่... หลวงพ่อองค์อื่นใช้ เท่าที่ทราบคือหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ได้ใช้พระคาถามนต์พระกาฬนี้ปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านอยู่ 1 รุ่นคือ "เหรียญรุ่นแรก" ที่ออกที่ "วัดบ้านจาน" ซึ่งหลวงปู่หมุนได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส 2543 หลวงปู่หมุนบอกว่า "ใครที่มีเหรียญนี้ติดตัว ผู้ใดจะคิดร้ายผลร้ายนั้นจะสะท้อนกลับหรือเพียงแค่คิดเป็นศัตรููคนคิดก็แย่แล้ว"

หนูมีเหรียญรุ่นแรก เนื้อเงิน ของหลวงปู่หมุน ที่ปลุกเสกด้วยมนต์พระกาฬ เลยนำมาให้ชมกันค่ะ