ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

ส่วนวิธีการที่จะทำให้เกิดสติจริงๆเกิดขึ้นนั้นมีอยู่ แต่ก่อนอื่นพวกเราควรทำความเข้าใจเสียก่อนว่า สติเป็นอนัตตา เช่นเดียวกับธรรมทั้งปวง คือเป็นสิ่งที่สั่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ตามใจชอบไม่ได้ แต่ถ้ามีเหตุให้เกิดสติ สติก็จะเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สติก็ต้องตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์เช่นเดียวกับธรรมอย่างอื่น คือเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดับไป และทนอยู่ไม่ได้นาน

เหตุให้เกิดสติคือการที่จิตจดจำสภาวะของรูปนามได้แม่นยำ ดังนั้นถ้าต้องการให้สติเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ต้องหมั่นตามรู้รูปนามเนืองๆจนจิตจดจำสภาวะของรูปนามได้มากชนิดและแม่นยำ

พระปราโมทย์ ปาโมชฺโช ​

 

ขอพาน้องไปด้วยคนนึงนะคะพี่ แฮะๆ

 

ข้าพเจ้ามีเพื่อนเป็นคนมีองค์ และเคยไปงานวันไหว้ครูของเขาดูแล้วบางครํ้งก็เชื่อนะแต่บางทีก็แปลกๆ แต่ไม่เคยที่จะไปดูแคลนเขาและใจก็ไม่เคยเอนเอียงไปในทางที่เชื่อสักเท่าไร ส่วนตัวเป็นคนปฎิบัติธรรมไปบวชชีพราหมณ์ทุกปี ปีละ 10-15 วันนั่งสมาธิโดยจิตนิ่งมากนานถึง 1.30 ชม. (ไม่ได้คุยอวด) ความปิติตอนนั่งนั้นน้ำตาไหลและมีความสุข เลยไม่เข้าใจว่าเวลาองค์ลงอย่างที่เขาว่ากันทำไมแค่หลับตาแป๊บเีดียวองค์ถึงลง ก็เลยงงงงและไม่เข้าใจ

 

มันเป็นปัจจัตตังอ่ะค่ะ ต้องรู้กับตัวเองต่อให้ผู้อื่นมาอธิบายมันจะไม่เข้าใจถ่องแท้เท่ากับเรารู้และเจอด้วยตนเองอ่ะค่ะ -0-

 

วิธีนอนสมาธิตามแนวทางของหลวงปู่เณรคำ

การทำสมาธิในอิริยาบถนอนให้นอนตะแคง ดูลักษณะพระนอนเป็นตัวอย่าง ห้ามไม่ให้เอาฝ่ามือรองศีรษะเพราะจะทำให้เกิดเหน็บชาให้เอาฝ่ามือวางไว้ข้างศีรษะ มืออีกข้างให้วางแนบลำตัว แล้วนอนบริกรรมภาวนา พุท โธ พุท โธ ไปเรื่อยๆ พร้อมกับกำหนดรู้สึกในลมหายใจเข้าออกที่กระทบโพรงจมูก รู้สึกที่มันวิ่งเข้าวิ่งออกนั้น สัมผัสรู้สึกอย่างละเอียดลุ่มลึกเข้าไป เมื่อจิตสงบดีแล้วถ่ายเทความรู้สึกเข้าไปทั่วสรรพางค์กาย ควบคู่กับการบริกรรมภาวนาให้ยกจิตขึ้นเพ่งพิจารณากำหนดให้รู้สึกในกระดูก พร้อมกับกำหนดรู้สึกลึกซึ้งเข้าไปในกระดูกส่วนต่างๆของร่างกาย ให้ต่อเนื่องทุกลมหายใจเข้าออกเช่นเดียวกับการนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนา จนกว่าจะหลับไป

 

ประกาศ เรียนเชิญคืนสู่เหย้า

กลุ่มเป้าหมาย:
ทุกรุ่น และผู้ที่สนใจทุกๆ ท่าน (ไม่ต้องสมัครหรือลงทะเบียนใดๆ ถ้าว่าง มาได้เลยครับ)

วัตถุประสงค์:
1) เพื่อพบปะ สนทนา และสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัลยาณมิตร
2) เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และปฏิบัติสมาธิแบบ TM และแบบกรรมฐาน-วิปัสสนา
3) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนักปฏิบัติธรรมให้มีความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ รวมถึงร่วมกิจกรรมสร้างบุญกุศลและสาธารณประโยชน์แก่สังคม

กำหนดการ:
วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา 10.00 น. - 17.00 น.

กิจกรรม:
09.30 น. พบปะ แนะนำ สนทนา แบบพี่ๆ น้องๆ
10.00 น. บรรยายเรื่อง: สมาธิแบบ TM (Transcendental Meditation)
11.00 น. นั่งสมาธิแบบ TM
12.00 น. พักทานอาหารกลางวัน (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
13.00 น. บรรยายเรื่อง: ธรรมวิพากษ์ ปุจฉา-วิสัชชนา
14.00 น. นั่งกรรมฐาน-วิปัสสนา
15.00 น. สอบอารมณ์

สถานที่:
98/318 หมู่บ้านลัดดารมย์ ปิ่นเกล้า ถนนวงแหวนรอบนอก ต. บางคูเวียง อ. บางกรวย จ. นนทบุรี แผนที่ตามแนบ



สถานที่ตั้ง
1) เส้นทางหลัก คือ ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก
2) อยู่ตรงข้ามกับ เทสโก โลตัส บางใหญ่
3) ก่อนถึงที่หมาย สังเกตุ ป้ายปั้มน้ำมัน ปตท. (ปั้ม jet เดิม) ถัดจากปั๊ม ปตท. ประมาณ 100 ม. จะถึง หมู่บ้านพฤกภิรมย์ก่อน ถัดไปอีก 200 เมตร ก็จะถึง หมู่บ้านลัดดารม์ ปิ่นเกล้า (จะมีป้ายตัวโตๆ บอกไว้)
4) อย่าลืมบอก บ้านเลขที่ แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย: 98/318 ซอย 2/18


ต้องการทราบรายละเอียด ติดต่อ คุณภราดรภาพ 081-808 6695

 

ขอเสริมต่อนะครับ
คุณ สุดปรีดา ต้องเข้าใจสภาวะก่อนนะครับ พอจะแยกแยะได้ว่า สภาวะของคนมีองค์ กับสภาวะของนักปฏิบัติธรรมขั้นสูง จะเป็นคนละลักษณะกัน คนมีองค์เมื่ออยู่ในพิธีกรรมหรือสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังมหาชนเยอะๆ จะรับรู้และแสดงอัตลักษณะหรือตัวตนขององค์ที่ปกปักรักษาออกมาอย่างชัดเจน เพียงแต่ผู้เป็นสื่อกลางไม่สามารถควบคุมได้ แม้จะมีสติก็ตาม คือ ระลึกรู้แต่ควบคุมไม่ได้

ส่วนคุณสุปรีดา ก็เช่นกัน ตอนนี้ก็เข้าสู่ความสงบ นิ่ง และเยือกเย็น ใจที่มีสุข ปิติ เอกคัคตา ย่อมนำพาไปสู่สภาวะแห่งองค์สมาธิและปัญญา ก็มั่นเจริญไตรสิกขา ย่อมนำความเป็นศิริมงคลแก่ตนอยู่แล้ว

สำหรับข้อข้องใจว่า "ทำไมเวลาองค์ลงอย่างที่เขาว่ากันทำไมแค่หลับตาแป๊บเีดียวองค์ถึงลง" ประเด็นนี้มีได้หลายประการ
1) อาจเป็นไปได้ว่า ร่างนั้นได้สัมผัสญาณบารมีอย่างเต็มกำลังแล้ว พูดง่ายจิตสัมผัสระหว่างของร่างกับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทบจะหนึ่งเดียว เพราะบารมีที่สะสมและความผูกพันธ์ ตลอดจนร่างนั้นยอมรับในกายสังขารให้เป็นสื่อกลางของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว
2) การฝึกวิชาสาม ย่อมได้รับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน หากเราเจริญสมาธิและฝึกฝนแบบวิชาสาม เราย่อมได้อานิสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสจิตวิญญาณ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงอภิญญาต่างๆ ที่ได้มา ประมาณว่า แค่นึกถึงสิ่งเหล่านี้ ก็มาให้สัมผัสได้แล้วครับ

ไว้สองประเด็นนี้ก่อนนะครับ หากนึกอะไรออกได้ จะกล่าวเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป

 

ถึง พี่ดวงทิพย์

มีเรื่องสอบถาม 2-3 เรื่องค่ะ
1. วันที่ 28 พ.ย. นี้เรามีนัดกันหรือเปล่าค่ะ
ตอบ เรามีนัดกันครับ มีกิจกรรม และทานอาหารร่วมกัน ในครั้งนี้ ไม่มีการแสกนกรรมครับ คงไม่ต้องแจงเหตุผล

2. ชมรมเรามีช่องทางติดต่อกันทางไหนบ้างคะ นอกจากทางโทรศัพท์ (ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ค่อยอยากใช้....เกรงใจค่ะ ..เพราะไม่ทราบว่าคุณเอ็ดดี้จะสะดวกคุยตอนไหน)
ตอบ ผ่านทางเว็บ กระทู้ที่ชมรมฯ นะครับ สอบถามเป็นแบบรวมมิตร ก็น่าจะดีนะครับ จะได้ให้ข้อมูลและรับทราบโดยทั่วกัน

3. สำหรับคนมีองค์ มีผู้บอกว่า...เวลาไปงานศพ ห้ามกราบ ห้ามไหว้ ห้ามดื่ม ห้ามกิน ห้ามเผา ห้ามขึ้นเมรุ...กรณีที่เราต้องขึ้นไปทอดผ้าฯ วางดอกไม้จันทน์เราจะทำอย่างไร..และสำหรับตัวเององค์เทวะไม่ให้ใส่สีดำด้วย จะแก้ไขอย่างไรดี..เพราะขัดเขินมากที่ใส่ขาวอยู่คนเดียวในงาน...คำถามง่ายๆแต่คิดไม่ค่อยออก เพราะช่วงนี้ เอ๋อ...เหรอค่ะ
ตอบ กรณีงานศพ อยากให้พิจารณาความเป็นจริง หากคนตายนั้นเป็นพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องเรา ถามว่า จะแก้ปัญหานี้อย่างไร กรณีสวมใส่อาภรณ์สีขาวล้วน หากไปในงานศพอาจดูไม่เหมาะกาละ ก็ให้ใส่เสื้อขาว กระโปรงดำ ก็น่าจะเหมาะกว่าครับ อย่างไรก็ดี เรื่องอย่างนี้ ก็อย่าเพิ่งนำมาเป็นข้อห้ามเลยครับ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา องค์บารมีย่อมรู้วาระ กาละ และเทศะ พระองค์ท่านย่อมอยู่เหนือสภาวะทั้งปวง พี่ต้องแยกให้ออกนะครับ ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร โปรดอย่าได้นำมารยาททางสังคมไปปะปนกับสภาวะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลย บางคนเคร่งมากจนหลงผิด หรือมีมิจฉาทิฐิไปเลยก็มี ต้องแยกให้ออก พระองค์ก็ส่วนพระองค์ เราก็คือตัวเรา เราเคารพพระองค์เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่จิตตน

ขอให้พี่เจริญในธรรม

 

โปรแกรมการเจริญสมาธิแบบ TM: Body & Mind​

หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ทั้งที่เกิดขึ้นภายในและนอกประเทศ กาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ หรือจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของธรรมชาติก็ตาม ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นปกติกสุขในการดำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ดั่งที่ทุกท่านได้พบประสพหรือได้ทราบข่าวคราวกันมาบ้างแล้ว อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นเองของตัวบุคคล ครอบครัว หน้าที่การงาน ซึ่งได้เร่งรัด และบีบเค้นจนทำให้เกิดการแข่งขันกันทุกรูปแบบตลอดเวลา เพื่อที่จะไขปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

อย่างไรก็ตาม สภาวะที่บีบคั้นและกดดันเหล่านี้เป็นบ่อเกิดให้กลับกลายเป็นความเครียดและปมปัญหาต่างๆ จนบางครั้งไม่สามารถหาสิ่งที่ยืดเหนี่ยวหรือเยียวยาให้บรรเทาลงได้ ซึ่งย่อมส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อปัจเจก สังคม และประเทศอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ <O</O

หลักการ TM: Body & Mind เป็นวิธีการลดระดับหรือแนะนำหนทางแก้ปัญหาที่เกิดจากความเครียด ซึ่งหลักการนี้ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้เฉพาะทาง โดยไม่คำนึงถึงอาชีพ เพศ วัย และการศึกษา ฯลฯ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจด้วยเช่นกัน<O</O

ในการนี้ ทางชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์ ได้เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ที่จะช่วยจรรโลงจิตใจและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเพื่อนสมาชิกชมรมฯ สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดปกติสุขทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมีการจัดฝึกอบรม TM: Body & Mind ให้แก่สมาชิกชมรมฯ<O</O
<O
วัตถุประสงค์
1. เพื่อฝึกอบรมสมาชิกและผู้สนใจให้เข้าใจถึงวิถีการดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ทั้งร่างกายและจิตใจ อันส่งผลต่อขวัญและกำลังใจในการใช้ชีวิตและทำงาน
2. เพื่อเผยแพร่หลักธรรมให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติ
3. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์กรในการนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต
4. เพื่อสร้างความสัมพันธ์และช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันในหมู่สมาชิก<O</O
<O
ประโยชน์ที่จะได้รับ
ผู้รับการฝึกอบรมมีแนวทางการดำรงชีวิตที่ถูกต้องตามหลักวิถึแห่งกายและจิตใจ<O></O>
<O
ขั้นตอนฝึกอบรม
1. วิทยากรแบ่งกลุ่มกิจกรรมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมตามหลัก TM: Body & Mind
2. อธิบายหลักการดำรงชีวิตตามวิถีแห่ง TM: Body & Mind
3. เปิดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแสดงปฏิสัมพันธ์กันในกลุ่ม และระหว่างกลุ่มตามหลัก TM: Body & Mind เพื่อรับรู้ถึงศาสตร์และศิลป์<O</O
4. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมและวิทยากรร่วมกันสรุปเชื่อมโยงกายและจิตใจ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ<O</O
<O
วิทยากร
อาจารย์ อลงกรณ์


หมายเหตุ ผู้ที่ฝึก TM: Body & Mind นี้ ควรใส่เสื้อผ้าและกางเกงที่เหมาะสม ไม่ควรใส่กระโปรงครับ


ติดต่อ คุณภราดรภาพ 081-808-6695

 

ขอแสดงความคิดเห็นจ้า

...ห้ามกราบ ห้ามไหว้
ถ้ามันจำเป็นจริงๆๆ ก็ต้องบอกให้ท่านถอยห่างออกไปอีกนิดขอเราก้มศีรษะไหว้หน่อยจ้า

... ห้ามดื่ม ห้ามกิน อันนี้ยังแก้ไม่ได้ลองหลายทีแล้วเพราะอาหารงานศพต้องอยู่ในร่างกายนาน แก้โดยการพกน้ำดื่มติดตัว 1 ขวดแก้กระหายจ้า

...ห้ามเผา ห้ามขึ้นเมรุ ตอนที่ต้องขึ้นไปทอดผ้าฯ วางดอกไม้จันทน์
เราก็บอกก่อนว่าจำเปนเขาเชิญก็ต้องไป ไม่ไปไม่ได้เสียน้ำใจเจ้าอาวาส

...องค์เทวะไม่ให้ใส่สีดำด้วย
วันนี้ไม่ได้เข้าพิธีงานมงคล งานนี้อวมงคลไม่ต้องใส่สีขาวก็ได้ท่าน

 

ขอบคุณมากครับ คุณผู้หญิงที่มาช่วยเสริม อย่างไรก็ตาม งานวันเสาร์ที่ 28 นี้ มาไหมจ๊ะคนดี ญาติธรรมรออยู่จ้า

 

คิดถึงมั้ยพี่ ไม่ได้เจอนานเป็นอย่างไรบ้างหนอ
rat_wting

 

ประกาศ เตรียมความพร้อมคืนสู่เหย้า ครั้งที่ 5-2552 เหลือเวลาอีก 2 วัน พบกัน...

ในวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา 10.00 น. - 17.00 น.

พบกิจกรรมอันหลากหลาย รวมญาติธรรม เสริมศักยภาพตัวตน ส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างกุศลร่วมกันจ้า

สถานที่:
98/318 หมู่บ้านลัดดารมย์ ปิ่นเกล้า ถนนวงแหวนรอบนอก ต. บางคูเวียง อ. บางกรวย จ. นนทบุรี แผนที่ตามแนบ



สถานที่ตั้ง
1) เส้นทางหลัก คือ ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก
2) อยู่ตรงข้ามกับ เทสโก โลตัส บางใหญ่
3) ก่อนถึงที่หมาย สังเกตุ ป้ายปั้มน้ำมัน ปตท. (ปั้ม jet เดิม) ถัดจากปั๊ม ปตท. ประมาณ 100 ม. จะถึง หมู่บ้านพฤกภิรมย์ก่อน ถัดไปอีก 200 เมตร ก็จะถึง หมู่บ้านลัดดารม์ ปิ่นเกล้า (จะมีป้ายตัวโตๆ บอกไว้)
4) อย่าลืมบอก บ้านเลขที่ แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย: 98/318 ซอย 2/18

ต้องการทราบรายละเอียด ติดต่อ คุณภราดรภาพ 081-8086695

 

อนุโมทนาทุกท่านครับ ใครไปมาอัพเดทให้ฟังบ้างนะครับ ผมไปไม่ได้เพราะทำงานเสียดาย

 

พึ่งมาตอบกระทู้ค่ะ ^^
ไปครั้งนี้ก็พบกับกัลยาณมิตรมากมาย
ได้พบปะสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนความรู้กันดีมากมายค่ะ
ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ยังไงก็ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากค่ะ อนุโมทนาค่ะ

 

พอดีมีกระทู้ถามเกี่ยวกับชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์ จะขอนำมาเสนอในกระทู้นี้ เพื่อประโยชน์แก่ชมรมฯ ที่มีความอยากรู้ หากมีความเห็นเป็นประการใด ช่วยเสริมได้นะครับ

ผมชักจะไม่แน่ใจว่า คุณจะมาสอบถามปริศนา หรือว่าจะมาโฆษณาเว็บไซต์คุณ ดูมันแปลกๆ
แต่ถ้าสอบถามด้วยความบริสุทธิ์ ก็จะไขปริศนาให้เข้ามาใจมากยิ่งขึ้น

1) การที่คนๆหนึ่งได้รับการบอกกล่าวว่ามีองค์คอยดูแลคุ้มครองอยู่นั้น
อยากทราบว่าองค์ท่านเลือกที่จะมาอยู่กับใครใช่หรือเปล่าครับ

ตอบ ขึ้นอยู่บุพกรรมและความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน หากดวงจิตคุณมาจากสวรรค์หรือมาจากพรหม ท่านก็ติดตามมาด้วยตามบารมี ท่านคงไม่เลือกไปปกปักรักษาหรือคุ้มครองพวกโจรห้าร้อย หรือพวกมนุษย์เฉกเช่นสัตว์เดรัจฉานหรอกครับ ตัวคุณเองก็ต้องมาจุติเพื่อสร้างกรรมดี ชดใช้กรรมเก่าให้เป็นโมฆะ เพื่อไปยังภพภูมิที่ดีกว่า และอย่าได้หวังหรืออ้อนวอนขอความสำเร็จ โดยปราศจากการสร้างกุศลเลย ดีไม่ดีแทนที่จะสมหวัง อาจผิดหวัง บางคนอาจจะโดนทดสอบในรูปแบบต่างๆ นานา เพราะฉะนั้นจงอยู่กับความจริง ณ ปัจจุบัน มีสติ เข้าใจสภาวะธรรมและสภาวะของคนมีองค์ มั่นสร้างบารมี เจริญไตรสิกขา สะอาดด้วยศีล สงบด้วยสมาธิ สว่างด้วยปัญญา

2) เพราะอะไรเฉพาะบางคนเท่านั้นที่มีองค์ครับ
ตอบ หากคุณเป็นคนดีจริง ท่านก็มาช่วยเหลือดุจดั่งบิดามารดรที่มีต่อบุตร ท่านไม่หวังบุญหรืออานิสงค์ใดๆ จากท่านหรอก เพราะสภาวะของท่านเป็นทิพย์ ไร้รูป ไร้มิติ ไร้กาลเวลา บางคนมีในลักษณะญาณแฝง บางคนมีในลักษณะการเป็นร่างทรง แต่ส่วนใหญ่จะไม่ปรากฎให้เห็นอัตลักษณ์ที่แท้จริง เพราะจิตร่างสังขารยังไม่มีสภาวะทิพย์หรือไม่สะอาดพอที่จะแฝงได้ การแฝงไม่ได้หมายความว่าท่านจะมาซ้อนจิต เพราะจิตมีดวงเดียว หากแต่จิตสามารถแยกตามอารมณ์ของเจตสิกได้หลายรูปแบบ พลังงานที่แฝงมานี้ มาจากเบื้องบน เปรียบเหมือนดาวเทียมที่ส่งสัญญาณมาบังคับที่จานรับ (ตัวเรา) ให้เป็นไปตามประสงค์

สำหรับนักปฏิบัติธรรมขั้นสูงบางท่าน อาจมองว่าไร้สาระ และไม่พยายามแยกแยะว่าอะไรคือพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อะไรคือนามรูป แต่มองสภาวะนั้นเป็นเพียงแค่นามรูป และจากประสบการณ์ที่ได้พบปะและนั่งสมาธิร่วมกับนักปฏิบัติธรรมขั้นสูงเหล่านี้ ก็จะบอกได้ทันทีว่าเป็นใครที่แฝงอยู่ หรือบางคนได้แสดงอัตลักษณะให้เห็น นั้นแหละจึงยอมจำนนต่อสภาวะนั้นว่ามีจริง

สำหรับรายละเอียดในเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะมาก ตามนานาทัศนะและมุมมองของแต่ละคน แต่อย่าได้ด่วนสรุปโดยปราศจากการไตร่ตรอง ตราบใดที่เรายังไม่ได้สัมผัสหรือรับรู้ด้วยตนเอง เพราะมนุษย์มักชอบอ้าง อวดรู้ หรือแถไปเรื่อย หากปัญญามันล้นถ้วย ก็ควรเทมันออกจากถ้วยเสียให้หมด แล้วจงรับรู้และเรียนรู้ในสิ่งใหม่ด้วยตนเอง ผิดถูกนับว่าเป็นครู ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้ประสบการณ์ ไม่มีปัญหา ปัญญาก็ไม่เกิด อยู่เฉยๆ ก็เสียชาติเกิดที่เป็นมนุษย์ ตายๆ ไปเสีย เสียเวลาหายใจอยู่ทำไมหนอ

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พ.ย. 52 ที่ผ่านมา ได้มีกิจกรรม TM: Body & Mind รวมไปถึงการนั่งกรรมฐานวิปัสสนา ในระหว่างการสอบอารมณ์ มีผู้หญิงท่านหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกับแม่ดวงทิพย์ นั่งสมาธิเก่งมาก ได้เข้าฌาญสมาบัติ ในระหว่างร่วมวงสนทนา ท่านได้กล่าวถึงประสบการณ์การถอดกายทิพย์ หรือการถอดจิตของตนเองให้ฟัง โดยไม่เข้าใจว่านี้คือสภาวะการถอดกายทิพย์ จึงขอเชิญกูรูหรือผู้รู้ทั้งหลาย โปรดนำเสนอความรู้ความเข้าใจในสภาวะนี้ให้แก่นักปฏิบัติด้วย ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนแบบมีส่วนร่วม

 

ขออนุโมทนาด้วยคนครับ.....

 

ความเชื่อที่ถูกต้องจะต้องประกอบด้วยปัญญา

ปัญญาควรใช้เป็นหลักในการวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึงแนวคิดและหลักคำสอนของเจ้าลัทธิต่างๆ ว่าคำสอนนั้นเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษแก่ผู้ปฏิบัติตาม แต่พระพุทธเจ้าทรงยกเอาเหตุผลง่ายๆที่สามารถพิสูจน์ได้ในปัจจุบันมาแสดง คือ

1. สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรืออกุศล?
2. สิ่งเหล่านั้นบัณฑิตติเตียนหรือสรรเสริญ?
3. สิ่งเหล่านั้นถ้าปฏิบัติตามแล้ว จะบรรเทาโลภ โกรธ หลง หรือว่าส่งเสริมให้โลภ โกรธ หลง ให้มากยิ่งขึ้น?
4. ผลแห่งการปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้นแล้ว จะเป็นไปเพื่อทุกข์หรือสุข?

ผลสรุปในข้อสี่นี่แหละ จะเป็นมาตรวัดแนวคำสอนของเจ้าลัทธิได้ดีที่สุดแต่เพราะผู้ฟังขาดปัญญา จึงไม่อาจจะวินิจฉัยคำสอนของเจ้าลัทธิต่างๆได้ จึงก่อให้เกิดความเอือมระอา จนพระพุทธเจ้าต้องตรัสรู้หลักความเชื่อ 10 ประการ

 

มิใช่ห้ามมิให้เชื่ออะไรทั้งหมดแม้กระทั่งครูอาจารย์

จริงๆแล้ว หลักเกสปุตตาสูตรหรือกาลามสูตรนี้ มิใช่ทรงห้ามใครเชื่ออะไรทั้งหมด รวมทั้งตำรา ครู และอาจารย์ ถ้าเช่นนั้นเราก็จะต้องไม่เชื่อคำสอนของพระองค์ ซึ่งก็ออกมาในรูปแบบตำราเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นอะไรจะเกิดขึ้น? คำสอนของพระองค์ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่ชาวโลกเลยจริงหรือไม่?


ผู้ที่ฟังหรืออ่านพระสูตรนี้อย่างผิวเผิน มักจะเอาทิฐิของตนเองไปยืนยันว่า พระพุทธเจ้าไม่ให้เชื่อตำรา ไม่ให้เชื่อครูบาอาจารย์ ให้เชื่อตัวเราเอง... ผู้จัดทำก็เคยได้ยืนอยู่เสมอๆ ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ปลง โอ..หนอ.. เพื่อนผู้ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งหลายเอ๋ย! เจ้าโง่แล้วไยจึงอวดฉลาดอีกเล่า?

แท้ที่จริงแล้วพระพุทธองค์ทรงหมายถึง เมื่อเราได้ฟังหรืออ่านอะไรแล้วให้กลั่นกรองหรือวินิจฉัยด้วยปัญญาตามขั้นตอนก่อน แล้วจึงค่อยเชื่อต่อภายหลัง เราจึงจะได้รับประโยชน์โดยส่วนเดียว.

จาก หนังสือ พระไตรปิฎก ฉบับผู้ใฝ่ธรรม​