ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

"เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในยูเครนอยู่ขณะนี้ เป็นผลจากการพัฒนารวมสายพันธุ์ไวรัสเข้าด้วยกัน โดยผู้ที่อยู่ฝ่ายมืด"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวัด2009พ่นพิษ ปธน.-นายกฯยูเครน สาดโคลนเข้าหากัน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 พฤศจิกายน 2552 03:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

​

ประธานาธิบดีวิคตอร์ ยุชเชนโก เดินตรวจร้านขายยา ขณะที่เขาเองกำลังมีปัญหากับนายกรัฐมนตรีหญิง เกี่ยวกับแผนรับมือไข้หวัด2009

เอเจนซี - ประธานาธิบดียูเครนและนายกรัฐมนตรี สาดโคลนใส่เมื่อวันพุธ(11) เกี่ยวกับแนวทางต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไข้หวัด ที่กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการหาเสียงของคู่ปรับสองรายนี้สำหรับศึกเลือกตั้งในเดือนมกราคมปีหน้า

กระทรวงสาธารณสุขยูเครนยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดแล้ว 189 ราย โดยในจำนวนนั้น 17 รายตายเพราะเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ส่งผลให้นางยูเลีย ทิโมเชนโก นายกรัฐมนตรีสั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองและปิดโรงเรียนต่างๆในความพยายามจำกัดการแพร่กระจาย

ความกังวลด้านสาธารณสุขก่อความตื่นตระหนกไปทั่วยูเครนและกลายเป็นประเด็นร้อนต่างๆ รวมไปถึงการสาดโคลนกันระหว่างประธานาธิบดีวิคตอร์ ยุชเชนโกและนางทีโมเชนโก ซึ่งทั้งสองถูกยกให้เป็นตัวเต็งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 17 มกราคม 2010

นางทีโมเชนโก บอกกับคณะรัฐมนตรีว่าประธานาธิบดี ซึ่งเพิกเฉยต่อการอนุมัติกฎหมายปล่อยงบประมาณ 125 ล้านดอลลาร์ต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ทำให้ชีวิตของประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง

"ปราศจากการลงนามในกฎหมาย รัฐบาลถึงไม่สามารถต่อสู้กับโรคระบาดนี้ได้ พฤติกรรมของประธานาธิบดี...คือพฤติกรรมต่อต้านยูเครน และประธานาธิบดีต้องรับผิดชอบทุกชีวิตที่ล้มป่วยหรือตาย" เธอกล่าว

ด้าน ยุชเชนโก โต้กลับในทันทีว่าการลงนามในข้อเสนอกฎหมายงบประมาณต่อต้านหวัดอาจทำให้ต้องพิมพ์แบงค์ใหม่และฉุดให้ค่าเงินของประเทศตกต่ำ ขณะที่ยูเครนประสบวิกฤตเศรษฐกิจจนต้องกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ

การโจมตีกันไปมาระหว่าง ทีโมเชนโก และ ยุชเชนโก ยืนยันว่าศึกเลือกตั้งในเดือนมกราคมปีหน้า จะถูกครอบงำด้วยการต่อสู้กันระหว่างสองพันธมิตรเก่าที่ยืนอยู่เคียงข้างร่วมกันก่อการปฏิวัติสีส้มเมื่อปี 2004

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000136282

 

หนังเรื่องเดียวลวงโลก ...เชื่อไป
หนังจัญไรฉิบหาย.........หายห่วง
โปรโมทหนังเรื่องนี้ ........กลลวง
พวกกระต่ายสมองกลวง...เชื่อไป

ฮ่าๆๆๆ .... สวัสดี พวกเกิดปีเถาะ

55555 5555 555 55 5 กร๊าก!<!-- google_ad_section_end -->

 

*** สัจจะทำ ****

วันนี้ ท่านมีสัจจะสัญญาใจตนเอง...นำการกระทำบ้างไหม
ผลตอบแทนจะเที่ยง ....เมื่อสัจจะที่ให้ไว้เป็นจริง
พระพุทธเจ้า...ทรงตรัสรู้ด้วยสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ตรงกับเวลา 15.18 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 17.41 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 19.47 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 20.32 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

 

มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยชาวพัทลุงประสบอุทกภัย​

​

พัทลุง 24 พ.ย.- เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (24 พ.ย.) นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 1,000 ชุด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.ชะรัด อ.กงหรา ต.โคกชะงาย และ ต.นาโหมด อ.เมือง

ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มลดลงเกือบเป็นปกติแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบ อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และปากพะยูน ยังมีน้ำท่วม 50 เซนติเมตร โดยเฉพาะหมู่ 3 ต.หารเทา อ.ปากพะยูน ยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากคอสะพานทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำพัดพาขาดทั้งสองด้าน ทาง อบจ.พัทลุง เร่งประสานขอสะพานเหล็กความยาว 18 เมตร จากศูนย์ป้องกันและสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ติดตั้งเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 14:16:12

อบจ.สงขลา เร่งช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มหลายแห่งยังมีระดับน้ำท่วมสูง​

​

สงขลา 24 พ.ย.-นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา นำเจ้าหน้าที่พร้อมถุงยังชีพกว่า 300 ชุด ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มที่ยังคงมีน้ำท่วมขังระดับสูงในหมู่บ้านนพเก้า ซึ่งระดับน้ำยังคงท่วมสูงเฉลี่ย 20-50 เซนติเมตร

ประชาชนยังต้องใช้เรือในการสัญจรเพื่อลดปัญหาการย่ำในน้ำ ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรค โดยนายก อบจ.สงขลาได้นำถุงยังชีพลงเรือท้องแบนแจกจ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา ระบุว่า ขณะนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย ทำให้คลื่นลมบริเวณหย่อมความกดอากาศต่ำมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 17:30:59

นราฯ ยังท่วมหนักลามทั้งจังหวัด-สงขลาเริ่มลด ทยอยเปิดเรียน​

​

ภูมิภาค 24 พ.ย.- โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่สงขลาทยอยเปิดเรียนแล้ว หลังน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่ยังขึ้นธงเหลืองเฝ้าระวังคลองหลักล้นเอ่อ ส่วนนราธิวาสน้ำขยายวงกว้างท่วมทั้งจังหวัด หนักสุดอำเภอสุคิรินมีดินถล่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ของจังหวัดสงขลาวันนี้ (24 พ.ย.) เริ่มดีขึ้น หลังจากตลอดคืนที่ผ่านมาไม่มีฝนตก โดยพื้นที่ลุ่มสองฝั่งคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 ที่ถูกน้ำเอ่อท่วมบางจุดวานนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงเช่นกัน ส่วนเทศบาลนครหาดใหญ่ยังคงขึ้นธงสัญลักษณ์เตือนภัยเป็นธงเหลือง หมายถึงอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำทั้งในคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 ยังสูงเกือบเต็มตลิ่ง อีกทั้งน้ำจากคลองดังกล่าวจะเริ่มไหลระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา จึงต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงริมทะเลสาบสงขลาใน อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.บางกล่ำ อ.ควนเนียง และ อ.ระโนด ส่วนโรงเรียนที่ต้องหยุดการเรียนการสอนวานนี้ (23 พ.ย.) กว่า 100 แห่งนั้น เริ่มทยอยเปิดเรียนตามปกติ โดยจะต้องเร่งทำความสะอาดสถานที่ให้เรียบร้อยก่อนทำการสอน

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา คาดว่าวันนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดจากน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้

ส่วน จ.นราธิวาส แม้ขณะนี้ฝนหยุดตกลงแล้ว แต่สภาพท้องฟ้ายังไม่วางใจ เพราะมีเมฆฝนปกคลุม ส่วนระดับน้ำท่วมขยายวงกว้างทั้งหมด 13 อำเภอแล้ว ในระดับทรงตัวสูง 1-1.5 เมตร โดยหนักสุด 4 อำเภอ คือ อำเภอสุไหงโก-ลก ระแงะ แว้งและสุคิริน ได้รับผลกระทบของน้ำป่าไหลจากเทือกเขาสันกลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่อำเภอสุคิริน ทำให้แม่น้ำสายหลักเอ่อล้นตลิ่งมานาน 6 วัน ต้องใช้เรือสัญจร ทางด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จ.นราธิวาส

สรุปความเสียหายเบื้องต้นจากน้ำท่วมครั้งนี้ 13 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 16 - 22 พ.ย. ถนนถูกน้ำท่วม 103 สาย ราษฎรเดือดร้อน 61,833 คน อพยพราษฎรแล้ว 2,876 คน บ้านเรือนถูกน้ำพัดพัง 15 หลัง โดยเฉพาะอำเภอสุคิรินเสียหายมากสุดประมาณ 31 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งดินถล่มลงมาทับเส้นทางสายหลักและเสาไฟฟ้าหักโค่น รวมทั้งสะพานสัญจร รวมความเสียหายทั้งหมด 43,271,040 บาท.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 10:48:32

อากาศภาคเหนือยังทวีความเย็น-มีผู้ประสบภัยนับแสนคน​

​

ภูมิภาค 24 พ.ย.- ประชาชนหลายจังหวัดภาคเหนือนับแสนคนยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว จากอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 12-18 องศาฯ ด้านเชียงใหม่เย็นจัดถึงจุดแม่คะนิ้ง ขณะที่ผู้ว่าฯ เชียงรายประกาศประสบภัยหนาวทั้งจังหวัด

นายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เตือนประชาชนดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เพราะอุณหภูมิความหนาวเย็นมีแนวโน้มลดลงอีก ซึ่งสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดรายงานว่า สภาพอากาศเช้าวันนี้ (24 พ.ย.) อุณหภูมิพื้นราบต่ำสุดที่ อ.เมือง 12 องศาเซลเซียส ถือว่าลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องจาก 3 วันที่ผ่านมา ขณะที่ยอดดอยอุณหภูมิ 9-10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังการก่อไฟไล่ความหนาว เพราะอาจเกิดปัญหาอัคคีภัยลุกลามบ้านเรือน

ส่วน จ.เชียงราย อากาศเย็นจัดมาหลายวัน ราษฎรยังขาดแคลนเครื่องกันหนาวจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวไทยภูเขาอำเภอแม่สายและอำเภอแม่ฟ้าหลวงต้องก่อไฟผิงเพิ่มความอบอุ่น ล่าสุดนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวแล้วทั้งหมด 18 อำเภอ เพื่อนำงบประมาณฉุกเฉิน 50 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องกันหนาวช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่สำรวจพบกว่า 200,000 คน โดยสถานีอุตุนิยมวิทยาเชียงรายแจ้งว่า เช้าวันนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 13 องศาเซลเซียส ยอดดอยยังหนาวจัด 10-11 เซลเซียส

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อุณหภูมิบนดอยอินทนนท์ลดต่ำสุดถึง 5 องศา ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งเป็นครั้งแรกของฤดูหนาวปีนี้และมาเร็วกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี ในวันนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อยประมาณ 7-8 องศา

นายนริศ ปิยพฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า อุณหภูมิในพื้นที่ลดลงเป็นลำดับอยู่ที่ 16–18 องศาเซลเซียส คาดว่าจะลดลงอีก 1 – 2 องศาเซลเซียส ซึ่งจังหวัดเร่งแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวให้การช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ วัดโบสถ์ ชาติตระการ เนินมะปราง วังทอง นครไทย และอำเภอเมือง ที่ประสบภัยหนาว และขาดแคลนเครื่องกันหนาว 82,916 ครอบครัว รวม 115,628 คน เนื่องจากส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง นอกจากนี้ ยังตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวขึ้นที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อรับบริจาคเครื่องกันหนาว.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 11:40:25

ลำปางหนาวเหน็บพบผู้เสียชีวิตรายที่ 2​

​

ลำปาง 24 พ.ย.- พ.ต.ท.มนตรี พรหมเส็น พนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลแม่ทะ เข้าชันสูตรศพนายสุคำ วงศ์คำ อายุ 46 ปี ภายในห้องนอนบ้านเลขที่ 12 ม.1 บ้านนาเก้า ต.ป่าตัน เมื่อเช้าตรู่วันนี้ ( 24 พ.ย.)

สภาพมีผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมตัว ซึ่งแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง สาเหตุคาดว่ามาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ทำให้ร่างกายต้านทานไม่ไหวจนหัวใจวายเฉียบพลัน สำหรับการเสียชีวิตจากอากาศหนาวของนายสุคำ ถือเป็นรายที่สองของจังหวัดลำปาง โดยรายแรกเป็นชายชราวัย 85 ปี เขตเทศบาลเมืองเขลางนคร เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา.- สำนักข่าวไทย

2009-11-24 10:52:42

นาข้าวบุรีรัมย์เริ่มประสบภัยแล้งกว่า 2 พันไร่​

​

บุรีรัมย์ 24 พ.ย. - นายยลยง มีพืชน์ นายอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมนางอรพรรณ วัชรโพธิ์ เกษตรอำเภอสตึก และคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฝนทิ้งช่วงระดับอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจสอบนาข้าวของเกษตรกร 2 หมู่บ้าน บ้านกระทุ่ม ต.ร่อนทอง อ.สตึก กว่า 170 ราย

หลังจากเกษตรกรร้องขอความช่วยเหลือปัญหาภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ทำให้นาข้าวเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งการตรวจสอบจะรวบรวมข้อมูลของพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเสนอไปจังหวัด เพื่อพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ในการช่วยเหลือเกษตรกรตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการและตรงตามข้อเท็จจริง เพราะบางรายนาข้าวเสียหายเพียงบางส่วน

ทั้งนี้ หากเป็นเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ จะได้รับเงินชดเชยส่วนต่างจากราคาอ้างอิงตามโครงการฯ 2,298 บาท/ตัน ผลผลิตไม่เกิน 14 ตัน และเมื่อจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยผู้ประสบภัยพิบัติอีกไร่ละ 606 บาท.- สำนักข่าวไทย

2009-11-24 18:10:20

ที่มา http://news.mcot.net

 

"เศรษฐกิจและโรคภัยไทย ปี 2553"​

นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย นักโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน​

นักโหราศาสตร์ทำนายดวง ทักษิณ วาระสุดท้ายของบั้นปลายชีวิตไม่เหลืออะไรเลย เหมือนพ่อ ผิดกับ"อภิสิทธิ์"ไปต่างประเทศยังไงก็ได้กลับมาเมืองไทย และยังได้เป็นนายกฯลากยาวไปถึงปีหน้า ชี้เหตุการณ์19 ก.ย. ไม่รุนแรง ทำนายยุบสภาปี 53 หลังแก้ รธน.

เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า ที่ห้อง 604 อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 13 กันยายน 2552 ชมรมสกายคล็อก โหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน จัดงาน "วันโหรจรัญ" ครั้งที่ 5 ประจำปี 2552 โดยมีการสัมมนาทางวิชาการโหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน เรื่อง "เศรษฐกิจและโรคภัยไทย ปี 2553"

นายจรัสโรจน์ บถดำริห์ ทายาทของ นายจรัญ พิกุล (บถดำริห์) อดีตปรมาจารย์โหรผู้ยิ่งใหญ่แห่งสยาม กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้ เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการร่วมรำลึกถึง นายจรัญ พิกุล และให้นักโหราศาสตร์รุ่นใหม่ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นจากผู้ทรงคุณวุฒิและวิทยากร อีกทั้งการสัมมนาครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ เพื่อเป็นแนวทางให้รู้ว่าควรปฏิบัติตัวในทิศทางใด

ขณะที่ นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย นักโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน กล่าวว่า ในอดีตเมื่อ 90 ปีที่แล้วมีไข้หวัดสเปนนิสฟูลระบาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50-60 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นเชื้อโรคชนิดเดียวกันกับไข้หวัด 2009 โดยในปี ค.ศ.2010 ยังมีไข้หวัด 2009 ระบาดเหมือนเดิมแต่อาจจะมีความรุนแรงไม่เท่ากับในสมัยอดีตที่ผ่านมา เพราะวิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนามากขึ้น โดยโอกาสติดเชื้อไข้หวัด 2009 มีเพียง 1 ใน 3 ของคนทั้งโลกที่มีโอกาสติดเชื้อ และจะมีการระบาดหนักในช่วงฤดูหนาว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนทางด้านเศรษฐกิจโลกในปีหน้าประเทศที่อยู่ตรงข้ามกับสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น จีน รัสเซีย และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าของสหรัฐอเมริกา จะมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า โดยประเทศจีนอาจจะเป็นประเทศมหาอำนาจแทนประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปัญหาหนึ่งคือ โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศจีนอาจจะต้องมีการปรับตัว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การเมืองในอนาคต จะมีนายกรัฐมนตรีที่ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเหมือนกับปี พ.ศ.2523 ที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เงื่อนไขในครั้งนี้อาจจะต่างกันตรงที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตข้างหน้านี้

"ส่วนเหตุการณ์ 19 กันยายนนี้ที่จะเกิดขึ้น ก็จะต้องมาดูด้วยว่า ประเทศไทยปีนี้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีดวงเมืองอยู่ โดยในแต่ละปีสามารถดูดวงได้ว่า แต่ละปีคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะมีลักษณะอย่างไร ซึ่งในปีนี้และปีหน้านายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เช่นเดิม ซึ่งจะทำให้เหตุการณ์ในวันที่ 19 กันยายนนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง และไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรี" นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าหากเปรียบเทียบดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง ดวงชะตาชีวิตของนายอภิสิทธิ์ เป็นดวงชีวิตที่ต้องเดินทางระหว่างต่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปไหนมาไหนนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นดวงของเขา ดังนั้นในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้นายอภิสิทธิ์ไปแล้วก็ต้องกลับมา และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

"ส่วนดวงชะตา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ต้องดูดวงของพ่อเขา พ่อเป็นอย่างไรลูกเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นส่วนหนึ่งมาจากพ่อ ข้อมูลจากหนังสือ "ตาดูดาวเท้าติดดิน" หน้า 37 พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงพ่อตัวเองว่า "สิบกว่าปีที่ผ่านมา พ่อไม่เหลืออะไรเลย ในวาระสุดท้ายในชีวิตของพ่อ ทักษิณต้องพาพ่อไปอยู่ที่ จ.นนทบุรี แล้วพ่อก็ตาย โดยที่ไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานไว้สืบทอดเลย" ซึ่งนั่นก็คือ ชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ" นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนดวงชะตาของนายอภิสิทธิ์นั้นในช่วงเดือนนี้จะต้องระวังให้มาก เพราะอาจมีอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย ระหว่าง พ่อ หรือ นายอภิสิทธิ์ ต้องเข้าโรงพยาบาล และดวงในปีหน้าอาจจะมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ได้ หลังจากการแก้รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ นายพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย นักโหราศาสตร์การเงิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว เพราะวิกฤติในปี ค.ศ.2010 ยังคงรออยู่ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจยังไม่จบ ซึ่งรู้แต่เพียงว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ลดบทบาทการเป็นผู้นำหลักเพียงประเทศเดียวของโลกไปแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะมาแทนสหรัฐฯ

"จีนดูเหมือนมีสถานะที่ดูดี จากขนาดตลาดที่ใหญ่และเศรษฐกิจที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาภายในของจีนยังมีอีกมาก เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดูเหมือนจะไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือว่าจะเป็นเงินตราหลักของโลกเหมือนในอดีต แต่เงินหยวนของจีนก็ไม่เข้มแข็งและโปร่งใสเพียงพอที่จะมาแทนที่เงินดอลลาร์ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับเหล่าผู้นำประเทศว่าจะตัดสินใจนำพาโลกไปทางไหน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ การเตรียมพร้อมที่จะพบวิกฤติในปีหน้าด้วยความไม่ประมาท และไม่ตื่นกลัวเกินกว่าเหตุ" นายพงษ์พันธ์กล่าว

นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนปฏิรูประบบงานภายในองค์กรหรือแม้แต่ภายในครอบครัว ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้พ้นจากวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย และอาจทำให้เรามีความมั่งคั่งและแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

ที่มา http://www.ngungi.com/main.php?name=news&file=readnews&id=8

 

น้ำแข็งขั้วโลกละลายอาจสร้างความเสียหายให้แก่เมืองท่าหลายเมืองทั่วโลก​

​

เจนีวา 23 พ.ย.-รายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลก หรือดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ ระบุว่า ภายในปี 2593 การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองท่าสำคัญหลายแห่งทั่วโลกและสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 930 ล้านล้านบาท

ผลการศึกษา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยอลิอันซ์ของเยอรมนีระบุว่า หากอุณหภูมิในปัจจุบันจนถึงปี 2593 เพิ่มขึ้นระหว่าง 0.5 – 2 องศาเซลเซียส จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นราวครึ่งเมตร และจะทำให้เมืองท่าขนาดใหญ่กว่า 136 เมืองทั่วโลก ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 930 ล้านล้านบาท) และหากนโยบายการปกป้องสภาพอากาศในปัจจุบันไม่ได้รับการแก้ไข มีความเป็นไปได้ที่อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียสในปี 2593 นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ว่า ระดับน้ำทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ อาจเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก 15 เซนติเมตร. -สำนักข่าวไทย

2009-11-23 15:34:29

มาเลเซียเผชิญน้ำท่วมครั้งใหม่​

​

กัวลาลัมเปอร์ 23 พ.ย.- สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานว่า ชาวบ้านกว่า 12,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ขณะที่น้ำท่วมระลอกที่ 2 จากฝนตกหนักได้สร้างความเสียหายให้แก่ 2 รัฐ

เหตุน้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มส่งผลกระทบต่อประชาชนในรัฐกลันตันและตรังกานู ทำให้ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์บรรเทาทุกข์ ถนนสายหลักบางสายในรัฐตรังกานูจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่สายอื่นๆถูกสั่งปิดเนื่องจากเกิดแผ่นดินถล่ม เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือน้ำท่วมของรัฐกลันตัน เปิดเผยว่า ผู้ประสบภัยกว่า 3,019 คน ถูกอพยพไปยังศูนย์บรรเทาทุกข์ในเช้าวันนี้ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายได้เอ่อล้นตลิ่ง ส่วนชาวบ้าน 9,062 คนในรัฐตรังกานู กำลังอพยพไปยังศูนย์บรรเทาทุกข์เช่นกัน

เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา หลายรัฐทางชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียประสบอุทกภัย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนหลายพันคนถูกอพยพ นอกจากนี้ ยังพบการแพร่ระบาดของโรคอหิวาตกโรคซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนในรัฐตรังกานู. -สำนักข่าวไทย

2009-11-23 14:04:43

กัปตันเรือเฟอร์รีโทษพายุทำให้เรือล่มในอินโดนีเซีย​

​

จาการ์ตา 23 พ.ย. – กัปตันเรือเฟอร์รีลำซึ่งล่มลงในอินโดนีเซีย คร่าชีวิตผู้โดยสาร 29 คน ออกมากล่าวโทษพายุว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว แม้จะมีการตั้งข้อสงสัยว่า บรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัด

การค้นหาผู้รอดชีวิตเรือลำดังกล่าวเริ่มดำเนินการอีกครั้งนอกเกาะการิมุน ใกล้กับสิงคโปร์ ด้านกัปตันโจฮัน นาปิตูปูลู กล่าวว่า สภาพอากาศยังคงแจ่มใสขณะที่เขานำเรือแล่นออกจากท่าเรือเมืองบาตัม เมื่อวานนี้ ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดพายุฝนและไม่ได้รับคำเตือนใด ๆ แต่หลังจากนั้นเพียงครึ่งชั่วโมง สภาพอากาศกลับเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเกิดคลื่นสูงกว่า 2 เมตร กระแสลมแรง และกระแสน้ำเชี่ยวกราก อย่างไรก็ตาม กัปตันเรือลำดังกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีการบรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัดหรือสภาพเรือไม่พร้อมต่อการเดินทาง และว่า ลูกเรือพยายามเตรียมเรือชูชีพและเสื้อชูชีพให้แก่ผู้โดยสารที่ตกอยู่ในความหวาดกลัว

ทางการระบุว่า เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 คน และ 250 คน ได้รับความช่วยเหลือแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามหาสาเหตุของเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าว

น.ท.เอ็ดวิน ประจำฐานทัพเรือการิมุนเปิดเผยว่า รายชื่อของผู้โดยสารและลูกเรือของเรือลำดังกล่าว มีเพียงแค่ 242 คน ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็ก 15 คน แสดงให้เห็นว่า ยังมีผู้โดยสารอีกมากที่ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ ทางการเริ่มค้นหาผู้รอดชีวิตอีกครั้งในเวลา 06.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีโอกาสสูงมากที่จะพบผู้รอดชีวิต เนื่องจากผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพไว้. -สำนักข่าวไทย

2009-11-23 12:23:44

เนปาลเริ่มเทศกาลฆ่าบูชายัญสัตว์ครั้งใหญ่ 2 แสนตัว​

​

กาฐมาณฑุ 24 พ.ย.- ผู้ร่วมงานหลายหมื่นคนมารวมกันอยู่ที่ด้านนอกวัดฮินดูทางใต้ของเนปาลในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลทางศาสนาที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยกำหนดจัดพิธีบูชายัญสัตว์ครั้งใหญ่กว่า 2 แสนตัว

ก่อนหน้านี้ กลุ่มนักสิทธิสัตว์และกลุ่มศาสนาอื่นๆ ร่วมกันประท้วงใกล้วัดฮินดูและในกรุงกาฐมาณฑุช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผู้จัดงานกลุ่มฮินดู ประกาศว่าจะไม่ยกเลิกพิธีบูชายัญเนื่องจากเป็นประเพณีเก่าแก่สืบทอดมาหลายร้อยปีแล้ว พิธีบูชายัญครั้งใหญ่ที่เนปาลจะสังเวยด้วยชีวิตควาย แพะ ไก่ และนกพิราบกว่า 200,000 ตัวในวันอังคารและวันพุธนี้ที่วัดฮินดูในเขตบาราห่างไปทางใต้ของกรุงกาฐมาณฑุราว 160 กิโลเมตร

เทศกาลคาธิไมของชาวฮินดูจัดขึ้นเป็นประจำทุก 5 ปี โดยเชื่อว่าการบูชายัญสัตว์ให้กับเทพเจ้าฮินดูจะยุติความชั่วร้ายและนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งมีผู้ร่วมงานจำนวนมากมาจากรัฐพิหารของอินเดียด้วย แต่หลายคนวิจารณ์ว่า การฆ่าสัตว์จำนวนมากมายเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและทารุณโหดร้ายเกินไป.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 16:34:33

ฟิลิปปินส์พบศพสังหารหมู่เพิ่มเป็น 46 ศพ​

​

ฟิลิปปินส์ 25 พ.ย. - ตำรวจฟิลิปปินส์พบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุสังหารหมู่จากปัญหาขัดแย้งการเมืองท้องถิ่นทางภาคใต้ของประเทศ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 46 ศพ

รัฐมนตรีมหาดไทยฟิลิปปินส์ ระบุว่า ตำรวจพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 22 ศพ กระจัดกระจายในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดมากินดาเนา ศพส่วนใหญ่ถูกจ่อยิงระยะเผาขน และฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ ทำให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 46 คนแล้ว และว่าน่าจะยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกหลายคน นับเป็นเหตุรุนแรงก่อนการเลือกตั้งครั้งนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งของฟิลิปปินส์
ตำรวจระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นญาติของนักการเมืองท้องถิ่นและผู้สื่อข่าว ที่ร่วมเดินทางไปยื่นใบสมัครเสนอชื่อลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้นในกลางปีหน้า

ด้านประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 2 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นอีก ขณะที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มนักการเมืองที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองของกลุ่มผู้เสียชีวิต. - สำนักข่าวไทย

2009-11-25 04:22:23

ผู้นำอิหร่านท้าสหรัฐ-อิสราเอลไม่กล้าโจมตี ​

​

บราซิเลีย 24 พ.ย. - ประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจัด ของอิหร่านกล่าวระหว่างเยือนบราซิลว่า การที่สหรัฐและอิสราเอลขู่ใช้กำลังทหารจัดการกับอิหร่านเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว และทั้งสองไม่มีความกล้าที่จะโจมตีอิหร่าน

ผู้นำอิหร่านกล่าวในการแถลงข่าวกับประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิลปิดท้ายการเยือน 1 วันว่า ยุคของการใช้ปฏิบัติการทหารโจมตีและการข่มขู่คุกคามสิ้นสุดไปแล้ว เวลานี้เป็นยุคของการเจรจาและเข้าใจกัน ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด ยังได้หารือกับผู้นำบราซิลเป็นเวลา 3 ชั่วโมงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งเป็นที่ขัดแย้งกับชาติตะวันตก ซึ่งผู้นำบราซิลขอให้อิหร่านหาแนวทางตกลงที่เป็นกลางกับชาติตะวันตก.- สำนักข่าวไทย

2009-11-24 10:39:32

มาเลเซียปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องลอบส่งอาวุธนิวเคลียร์ให้อิหร่าน​

​

กัวลาลัมเปอร์ 24 พ.ย.- ทางการมาเลเซียปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการลักลอบส่งออกอาวุธนิวเคลียร์ให้แก่อิหร่าน แต่ยืนยันว่ามีชาวมาเลเซียเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

นายเอ โคฮิลัน พิลไล รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศมาเลเซียกล่าวว่า มาเลเซียไม่ใช่ศูนย์กลางลำเลียงอาวุธนิวเคลียร์หรือวัสดุนิวเคลียร์ให้แก่อิหร่านหรือประเทศใด แต่ยืนยันว่ามีชาวมาเลเซียชื่อไบรอัน คาม ชาวอิหร่าน อาศัยอยู่ในมาเลเซียชื่อมาจิด เซอิฟ และบริษัทมาเลเซีย 2 แห่ง อยู่ในรายชื่อบุคคล 8 คน และบริษัท 8 แห่ง ที่ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 11 กันยายนปีก่อนว่าส่งออกอาวุธเถื่อนจากสหรัฐไปดูไบ และถูกตรวจพบระหว่างทางจากดูไบไปอิหร่าน

นายคามและนายมาจิดถูกตั้งข้อหาว่าทำความผิด 13 กระทง เช่น สมคบคิด ละเมิดกฎหมายของสหรัฐ ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ ทางการสหรัฐระบุด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารที่ยื่นต่อทางการเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าสหรัฐไปอิหร่าน เป็นสินค้าและเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ที่สามารถนำไปใช้ทางทหารหรือด้านนิวเคลียร์ได้.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 12:47:14

คลังแสงรัสเซียระเบิดมีผู้เสียชีวิต 8 คน​

​

รัสเซีย 24 พ.ย. - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน จากเหตุระเบิดที่คลังเก็บวัตถุระเบิด ในเมืองทางตอนกลางของรัสเซีย

เหตุระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่คลังเก็บวัตถุระเบิดของกระทรวงกลาโหม ในเมืองอุลยานอฟส์ ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 720 กม. โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังขนย้ายวัตถุระเบิดเก่าจากคลังแสงขึ้นรถบรรทุก เพื่อนำไปทำลาย แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน ขณะที่รถบรรทุกที่ลำเลียงวัตถุระเบิดได้รับความเสียหายทั้งคัน แต่อาคารคลังแสงไม่ได้รับความเสียหาย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุระเบิดรุนแรงต่อเนื่องหลายครั้งที่คลังเก็บวัตถุระเบิดแห่งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และอีกกว่า 30 คน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุของระเบิดทั้ง 2 ครั้ง ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน. - สำนักข่าวไทย

2009-11-24 05:42:29

เซิร์นทดลองยิงโปรตอนชนกันเป็นครั้งแรกหวังหากำเนิดจักรวาล​

​

ซูริค 24 พ.ย.- นักวิทยาศาสตร์ที่องค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (เซิร์น) ทดลองยิงลำแสงโปรตอนชนกันเป็นครั้งแรกในอุโมงค์ยาว 27 กิโลเมตร ใต้พรมแดนฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์ เป็นขั้นตอนแรกของการค้นหากำเนิดจักรวาล

นายรอล์ฟ ฮอยเออร์ ผู้อำนวยการเซิร์น กล่าวว่า เป็นการประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในเวลาอันสั้นด้วยการยิงลำแสงอนุภาคเล็กกว่าอะตอมจากทิศทางตรงกันข้ามทั้งที่เพิ่งเดินเครื่องเร่งความเร็วอนุภาค (แอลเอชซี) ครั้งใหม่ได้เพียง 3 วัน หลังจากหยุดเดินเครื่องไปเมื่อ 14 เดือนก่อน เพราะเกิดอุบัติเหตุหลังเดินเครื่องครั้งแรกได้เพียง 10 วัน ขั้นตอนต่อไปคือการเพิ่มความเข้มและความเร็วของลำแสงเพื่อให้ได้ข้อมูลการชนกันของโปรตอนให้มากพอภายในคริสต์มาสนี้สำหรับจัดเตรียมการทดลองลำดับต่อไป

ด้านสตีฟ ไมเออร์ส นักฟิสิกส์เผยว่า ต้องรอจนถึงปี 2554 กว่าลำแสงโปรตอนจะวิ่งถึงระดับความเร็วสูงสุดในการทดลองมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 330,000 ล้านบาท) เพื่อพยายามค้นหาว่าจักรวาลก่อกำเนิดขึ้นอย่างไรหลังเกิดปรากฏการณ์บิ๊กแบงเมื่อ 13,700 ล้านปีก่อน สสารถูกพ่นออกมาด้วยความเร็วสูงและพลังงานมหาศาลจนกลายเป็นดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ ดวงดาวต่าง ๆ และสิ่งชีวิตในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 10:58:44

ฮังการีแนะซานต้าเลี่ยงหอมเด็ก ๆ ป้องกันแพร่เชื้อหวัด​

​

บูดาเปสต์ 23 พ.ย. - ทางการสาธารณสุขฮังการี แถลงว่า ซานตาคลอสควรหลีกเลี่ยงการหอมและจับมือเด็ก ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อหวัด และควรจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดด้วย

คำแนะนำดังกล่าวมีขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทางการสาธารณสุขไม่ได้ออกคำสั่งห้ามซานตาคลอสทำกิจกรรมเหมือนที่เคยปฏิบัติ เพียงแต่เตือนว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดที่กำลังระบาดทั่วประเทศ ทางการสาธารณสุขฮังการี ระบุว่า การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับซานตาคลอส เพราะเขาต้องพบปะเด็ก ๆ จำนวนมากในต้นเดือนหน้า

ทางการสาธารณสุขอิตาลีแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดพุ่งขึ้นสัปดาห์ละ 22,100 คน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 . - สำนักข่าวไทย

2009-11-23 19:34:58

ซาอุฯ พบ 4 ผู้แสวงบุญฮัจญ์เสียชีวิตจากหวัด 2009 ​

​

ซาอุดีอาระเบีย 25 พ.ย. - ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมกว่า 2.5 ล้านคน มุ่งหน้าสู่ซาอุดีอาระเบีย เพื่อเตรียมร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ แม้มีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน

แม้มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมทั่วโลกต่างมุ่งหน้าไปยังซาอุดีอาระเบีย นับตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า พบผู้แสวงบุญ 4 คน เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรก และมี 20 คน ที่ติดเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าว ในจำนวนนี้ 12 คน ได้รับการรักษาและออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ทางการซาอุดีอาระเบียได้จัดเจ้าหน้าที่การแพทย์ราว 20,000 คน เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รวมถึงเพิ่มแพทย์และเตียงในโรงพยาบาล ทั้งยังสำรองยาต้านไวรัสทามิฟลูไว้ 1.5 ล้านชุด เพื่อรักษาผู้ป่วย ส่วนในแกรนด์ มอสค์ มัสยิดใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย มีการเปิดคลินิก 6 แห่ง ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง. - สำนักข่าวไทย

2009-11-25 03:47:22

บริษัทยาเตือนแคนาดาระวังผลข้างเคียงวัคซีนหวัด 2009​

​

แคนาดา 25 พ.ย. - แกล็กโซสมิธไคลน์ บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ เตือนแพทย์ในแคนาดาหยุดใช้วัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชุดหนึ่งของบริษัท หลังพบเกิดอาการข้างเคียงรุนแรงในคนไข้หลายราย

แกล็กโซสมิธไคลน์ เผยว่า วัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 บางส่วนจาก 170,000 ชุด ที่จัดส่งไปยังแคนาดา ควรถูกระงับการใช้ หลังมีรายงานว่า พบผู้ได้รับวัคซีน 6 คน เกิดอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ทั้งหายใจติดขัด หัวใจเต้นเร็วขึ้น และเป็นผื่นตามผิวหนัง ขณะนี้ แกล็กโซสมิธไคลน์ และเจ้าหน้าที่แคนาดา กำลังร่วมกันสืบสวนรายงานการแพ้วัคซีนดังกล่าวแล้ว ซึ่งในกรณีร้ายแรงที่สุด บริษัทฯ อาจเรียกคืนวัคซีนชุดดังกล่าวทั้งหมด

อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลก ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคำแนะนำที่มีต่อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยสัปดาห์ก่อน องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า จากการตรวจสอบรายงานการเสียชีวิต 30 คน หลังการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก ไม่พบว่ามีความเกี่ยวพันโดยตรงกับวัคซีนแต่อย่างใด. - สำนักข่าวไทย

2009-11-25 05:23:27

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

อนุโมทนาค่ะ


ขอเชิญร่วมทำบุญ และลงช่ื่อรับวัตถุมงคลฟรี http://palungjit.org/threads/%5E_...**.214305/<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ยูเอ็นเอดส์เผยมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเอชไอวี-เอดส์เกือบ 60 ล้านคนทั่วโลก​

​

เจนีวา 24 พย. -โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 25 ล้านคน และติดเชื้อไวรัสเอชไอวี-เอดส์เกือบ 60 ล้านคนทั่วโลกนับตั้งแต่ที่พบการแพร่ระบาด

แม้ว่าจะมีโครงการป้องกันโรคเอดส์ซึ่งลดอัตราการติดเชื้อลงได้ร้อยละ 17 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยรวมพุ่งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว และนับจนถึงปลายปี 2551 มีผู้ติดเชื้อรวม 33.4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2543 รายงานประจำปีของยูเอ็นเอดส์ระบุว่า พื้นที่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราในแอฟริกามีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 22.4 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 67 ส่วนที่ยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางมีจำนวน 1.5 ล้านคน โดยกลุ่มเสี่ยงติดเอดส์ประกอบด้วย ผู้ค้าประเวณี ผู้เสพยาเสพติด และพวกรักร่วมเพศ นอกจากนี้ยังขยายมาถึงกลุ่มประชากรที่เป็นคนรักหรือมีเพศสัมพันธ์กับพวกที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วย.-สำนักข่าวไทย

2009-11-24 18:31:01

ที่มา http://news.mcot.net

"อันตรายที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้"​

​

สำหรับ "อันตรายที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้" นั้น ให้สังเกตเหตุการณ์ต่าง ๆ ต่อไปนี้ว่าจะมีเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีเหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้น ก็ขอให้มนุษยชาติได้เตรียมตัวเผชิญชะตากรรมร่วมกัน ที่จะพบกับมหันตภัยสาธารณะ ทุพภิกขภัย และความเดือดร้อน ที่จะติดตามมาหลังเหตุการณ์เหล่านี้ไม่นาน

1. ทารกแรกเกิด คนหนุ่มสาว และคนแก่เฒ่าชรา จะเป็นโรคที่รักษาไม่มีหาย มีการติดโรคร้ายได้ทุกวัยของมนุษย์ ใครเป็นโรคนี้แล้วจะต้องตายทุกคน จะนับจำนวนได้มากกว่า 60 ล้านคน ซึ่งโรคนี้ติดต่อได้ยาก เพราะจะติดต่อได้โดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือโดยโลหิตของมนุษย์เท่านั้น (องค์การอนามัยโลก ได้แถลงข่าวทางสื่อมวลชนเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2547 ว่าขณะนี้ ประชากรโลก ได้ติดเชื้อเอดส์แล้ว ประมาณ 60 ล้านคน)

2. จะไม่พบว่า มีวันใดที่จะว่างเว้นจากการฆ่ากัน เพื่อแย่งชิงอำนาจปกครองดินแดน ไม่เกิดในประเทศนี้ ก็เกิดในประเทศโน้น มีการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงอำนาจในการปกครองดินแดนทุกวัน (ให้สังเกตข่าวต่างประเทศในโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ดูกันเอาเอง)

3. สภาพดิน ฟ้า อากาศ จะมีความแปรปรวนสูง ไม่เป็นไปตามธรรมชาติที่เคยเป็นมา แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด จะเกิดขึ้นในช่วงนี้มากขึ้น แม้บางแห่งไม่เคยเกิดแผ่นดินไหว ก็จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น บางแห่งภูเขาไฟได้ดับไปหลายร้อยปีมาแล้ว ก็จะระเบิดอีกครั้ง (เช่น เหตุการณ์ภูเขาไฟพินาตูโบ้ ในฟิลิปปินส์ ซึ่งดับมาเกือบ 600 ปีแล้ว ได้ระเบิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นต้น)

4. ความต้านทานโรคของมนุษย์จะมีน้อยลง จะมีโรคแปลก ๆ เกิดใหม่มากขึ้น

5. หลายประเทศจะมีการสร้าง ที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินกันอยู่ในใต้ดิน (ใครที่เคยไปโตเกียวมาแล้ว หากได้มีโอกาสเดินลงไปในสถานีรถไฟใต้ดิน จะพบความยิ่งใหญ่ของเมืองใต้ดินที่มีผู้คนเดินกันขวักไขว่นับเป็นหมื่นคน อยู่ในใต้ดินถึง 3 ชั้นมหึมา มีทั้งร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่าง ๆ น้ำพุ น้ำตก ฯลฯ อยู่ในใต้ดินนั่นเอง ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนเมื่อปลายปี 2534 แล้วพูดได้อย่างเดียวว่า มีเหตุการณ์เช่นว่าแล้วจริง)

6. พลังแห่งความชั่วร้าย หรือซาตาน จะครอบงำโลก จะยุแหย่ให้ผู้คนแย่งชิงอำนาจฆ่าฟันกันเอง คนจะขาดสติมากขึ้น คนจะมีทิฐิมากขึ้น คนจะเห็นผิดเป็นชอบมากขึ้น ใครพูดผิดจากฝ่ายที่ตนคิด จะถูกตราหน้าว่าเป็นฝ่ายผิด ในขณะที่ฝ่ายตนตะโกนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ใครที่มีความคิดต่างจากฝ่ายตน จะถูกประฌาม และสาปแช่งในรูปแบบต่าง ๆ แม้แต่พี่น้องพ่อแม่ก็อาจแตกแยกอันเนื่องมาจากแนวคิดในทางการเมืองต่างกัน และรุนแรงถึงขนาดทำร้ายและฆ่ากันได้ เพียงเพราะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในทางการเมืองเท่านั้น การกระทำเพื่อยุติปัญหาการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงอำนาจ ก็กระทำควบคู่กับการฆ่ากันอย่างต่อเนื่อง วิถีทางการทูตก็ทำกันไป แต่ไม่สามารถยุติการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ได้

7. อารมณ์ของคนโดยทั่วไป จะมีความพลุ่งพล่าน หงุดหงิดงุ่นง่าน อย่างไม่ค่อยมีสาเหตุมากขึ้น คนที่รักสงบ จะถูกกดขี่ย่ำยี ผู้ที่มีอำนาจ ก็จะบ้าอำนาจมากขึ้น

หากสังเกตได้ว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ได้เกิดขึ้นแล้ว หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นแน่ อันตรายโดยส่วนรวมของมนุษยชาติก็จะเกิดขึ้นติดตามมาในปี 2551 แต่ถ้าผู้คนส่วนใหญ่หันมามีการกระทำความดีมาก ๆ โดยมีคุณสมบัติ 5 มี (มีสติสัมปชัญญะ มีความกตัญญููกตเวที มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา มีน้ำใจ และมีศีล 5 มีคุณสมบัติ 5 ให้ (ให้อภัย ให้ความรัก ให้ความจริงใจ ให้เกียรติผู้อื่น ให้การเสียสละ) และทำ 1 ทำ คือ ทำความดีมาก ๆ เหตุการณ์ที่เป็นมหันตภัยร้ายครั้งร้ายแรง จะเคลื่อนย้ายไปเกิดในปี 2560 (ค.ศ.2017)

ขออนุญาตเรียนเพิ่มเติมว่า เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย ผู้เขียนขอให้ท่านดำเนินการดังนี้

1. นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านต้องเตือนตัวเองทุกวัน ว่า "ต้องไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปในแต่ละวัน โดยมิได้ทำประโยชน์อันใดให้เกิดขึ้น"

อะไรก็ได้ สิ่งใดก็ได้ ที่เป็นประโยชน์ จะเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ประโยชน์ต่อคนในครอบครัว ประโยชน์ต่อที่ทำงาน ประโยชน์ต่อผู้บังคับบัญชา ประโยชน์ต่อลูกน้อง ประโยชน์ต่อชุมชน ประโยชน์ต่อสังคม ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ฯลฯ

โปรดอย่าปล่อยชีวิตให้หมดเปลืองไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ และอย่าอ้างว่า "การนอนมาก การกินมาก การไม่ทำอะไร" เป็นประโยชน์ตน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่หลงผิดอย่างมหันต์ หรือกล่าวโดยสรุป คำว่า "ประโยชน์ตน" จะต้องเป็นสิ่งที่ปราชญ์สรรเสริญว่า "สิ่งนั้นต้องเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์โดยแท้" สิ่งนั้น จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้แก่ผู้ใด สิ่งนั้นจะต้องทำให้บุคคลผู้นั้นเอง มีความเข้มแข็งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ สิ่งนั้น จะต้องทำให้บุคคลนั้นเอง ไร้ทุกข์-มีสุข อย่างถาวร สิ่งนั้น จะต้องเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ครอบครัว ที่ทำงานชุมชน และสังคม ได้ประโยชน์ร่วมกันด้วย ฯลฯ

2. ขอให้ท่านตระหนักว่า ในยามที่มหันตพิบัติภัยของโลก และของชาติมาถึง โรคภัยไข้เจ็บมีมาก ภัยธรรมชาติ และภัยสงครามระหว่างชาติแผ่ขยาย ข้าวปลาอาหารและยารักษาโรคขาดแคลน มีเงินและทรัพย์สินก็อาจหาอาหารมาประทังชีวิตมิได้ อาจเข้าสู่ยุคของการ "นำอาหารแลกเปลี่ยนอาหาร" หรือ "นำอาหารไปแลกเปลี่ยนเป็นยารักษาโรค" เพราะการป่วยเจ็บในยามมีภยันตราย ย่อมมีมากกว่าเกณฑ์ปกติ เป็น 10 เท่าทวีคูณได้

3. ฝึกฝนตนให้เป็นคน "กินน้อยลง ใช้น้อยลง และนอนน้อยลง" ให้เริ่มต้นโดยพยายามลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ เมื่อลดได้มากพอ ให้ลดมื้ออาหารลงเหลือเพียงวันละ 2 มื้อ เพราะจะเดือดร้อนน้อยเมื่อโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ที่ขาดแคลนอาหารอย่างที่ท่านไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งนี้ ข้าวราดแกง ที่เคยมีราคาจานละ 20 บาท อาจจะมีราคาถึงจานละ 600 บาท ทุกอย่างที่มีราคาในปัจจุบัน ถ้าราคากระโดดสูงขึ้น 30 เท่าตัว จะเป็นอย่างไร กรุณาลองวาดภาพดู เราจะไม่มีทางฟุ่มเฟือยได้เลยในภาวะวิกฤติภายหน้า

ถ้าเราไม่ฝึกฝนตนเองในปัจจุบันให้เกิดความเคยชิน เราต้องลำบากยากเข็ญมากแน่

4. ฝึกอบรมพัฒนาจิตใจให้มากขึ้น ฝึกจนใจร้อยเข้าสู่แกนสงบนิ่ง แล้วพิจารณาพระไตรลักษณ์ อันประกอบด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้ประจักษ์แจ้ง เห็นจริง ลงไปในส่วนลึกของจิต และให้เห็นจริงตามธรรมชาติว่า ทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป วนเวียนเปลี่ยนไปเสมอ ให้เห็นเรื่องการตายเป็นเรื่องธรรมดา ฝึก "ตายก่อนตายจริง" แล้วทุกสิ่งจะเห็นเป็นธรรมดา

5. ฝึกกินอาหารพืชผักให้มากขึ้น ค่อย ๆ ลดเนื้อสัตว์ลง หากงดกินได้ในที่สุด ก็จะอยู่รอดได้ยาวนาน เพราะในสภาวะที่แร้นแค้น ทุกชีวิตล้วนแต่ตกระกำ ยากแค้น มีเงินทองก็อาจซื้อเนื้อสัตว์มิได้ แต่เราสามารถที่จะปลูกผักสวนครัว ไว้รับประทาน ประทังให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ถ้าไม่ฝึกเสียแต่วันนี้ ความเคยชินก็จะไม่มี บางท่านอาจบอกว่า หากกินแต่พืชก็ขาดโปรตีน จะทำอย่างไรดี ก็ขอเรียนว่า โปรตีนจากพืชก็มี ความจริงในโรงพยาบาลบางแห่ง เช่น โรงพยาบาลมิชชั่น ทั้งหมอและพยาบาล ตลอดจนผู้ป่วยทุกราย รับประทานอาหารมังสวิรัติตลอดชีวิต เขาอยู่อย่างปกติสุข มีสุขภาพที่ดี ก็มีมากให้เราพบเห็นในปัจจุบัน "โปรดอย่าอ้างว่า กินแต่ผัก จะทำให้อ่อนแอ" แท้จริงนักโภชนาการ กลับบอกว่า "ผู้ที่กินเนื้อสัตว์ต่างหาก จะมีความอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าผู้ที่รับประทานพืชผัก"

พวกเราจำเป็นจะต้องใช้ชีวิตที่หวนคืนกลับเข้าหาธรรมชาติให้มากขึ้น ผู้ใดเข้ากับธรรมชาติของมนุษย์ในสมัยโบราณได้ จะมีความเป็นอยู่ปกติสุขได้มาก ในยามโลกวิกฤติ ท่านจะทำอย่างไร ถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปาใช้ ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเติมรถยนต์ขาย.......... โปรดไตร่ตรองให้ดี พิจารณาให้รอบคอบ ผู้เขียนไม่ปรารถนาให้เกิดมีขึ้น ไม่ว่าจะเกิดใน 3 ปี ข้างหน้า (ปี 2551) หรืออีก 12 ปี ข้างหน้า นับจากมกราคม 2548 (ปี 2560) แต่เราก็คงจะหลีกหนีเหตุการณ์ณ์ดังกล่าวมิได้ อย่างมาก ก็คงช่วยให้เหตุมหันตภัยดังกล่าวขยายเวลาออกไปให้ยาวไกลที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้น

แต่ถ้าไม่มีเหตุวิกฤติหรือมหันตภัยใด ๆ เกิดขึ้นในโลกใบนี้ได้ โดยแลกกับการที่ผู้เขียนต้องถูกประฌามด่าว่า "ไอ้บ้า ทำให้คนตกใจกลัวทั้ง ๆ ที่ไม่มีเหตุร้ายใด ๆ เกิดในโลกใบนี้" ผู้เขียนยินดีให้ประฌามด่าว่า ผู้เขียนอยากให้เรื่องเลวร้ายและมหันตภัยไม่เกิดขึ้น ผู้เขียนอยากให้เรื่องของมหันตภัยเป็นเรื่องเหลวไหล หลอกลวง เลอะเทอะ ผู้เขียนยอมให้เวลาที่ผู้เขียนค้นคว้าในวันหยุดและตอนกลางคืนวันละหลายชั่วโมง สูญเสียไปโดยไร้ประโยชน์ ถ้าไม่มีเรื่องเลวร้ายใด ๆ เกิดขึ้น กับมนุษย์และสัตว์ทั้งปวง ความจริงนั้น ผู้เขียนไม่ต้องการเห็นมนุษย์และสัตว์ต้องทุกข์ทรมาน จากภัยพิบัติที่ร้ายแรง ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มนุษย์ทั้งหลายตกอยู่ในความประมาท

ในที่สุด ก็ต้องสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ในยามโลกเข้าสู่วิกฤติอีกทั้งไปเพิ่มความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เป็นการเพิ่มความรุนแรง ด้วยการฉกชิง วิ่งราว จี้ปล้น และฆ่าผู้มีทรัพย์สิน หรืออาหาร หรือยารักษาโรค ผู้เขียนขอวิงวอนท่านที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้ ได้โปรดไตร่ตรองและอ่านทบทวนโดยรอบคอบ แม้จะเป็นชีวิตของท่าน ที่ท่านจะเลือกทางเดินอย่างไร ได้ตามใจชอบ แต่ผู้เขียนก็ไม่อยากให้ท่านทุกข์ยากเข็ญใจหนักหนาสาหัสกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น สิ่งใดที่ผู้เขียนจะชี้แนะให้พ้นภยันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ก็ขอทำหน้าที่ดังกล่าวสักนิด

6. ถิ่นที่อยู่อาศัยในยามโลกเข้าสู่แดนมิคสัญญี เกิดโรคร้ายแรงระบาด สารพิษแพร่กระจายเต็มไปในอากาศและน้ำดื่มน้ำใช้ เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด การสื่อสารทุกชนิดงดให้บริการหมด "อยู่ในภาวะสิ้นสุดของโลกยุคโลกาภิวัตน์" เป็น "การสิ้นสุดของโลกไร้พรมแดนในการติดต่อสื่อสาร" สภาพดังกล่าว พวกเราอาจจะได้พบได้ใน 3 ปี ข้างหน้า มิฉะนั้นก็ภายใน 12 ปี ข้างหน้า (เวลาผ่อนปรนสุดท้าย) ไม่อาจหลีกหนีพ้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำสอนในพุทธศาสนา คริสต์ศาสนา ศาสนาอิสลาม ขงจื๊อหรือเต๋า และนิกายศาสนาอื่นใด มีคำเตือนมาแต่โบราณกาล กล่าวถึง "วันพิพากษาโลก / วันชำระล้างคนบาป / วันที่ไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก" เพียงแต่อาจจะมาเกิดให้เห็นในยุคของเราเท่านั้น

สถานที่ต้องระวังและต้องขยับขยายถิ่นฐานคือ จังหวัดชายทะเลทุกจังหวัดบริเวณที่ลุ่ม บริเวณใต้เขื่อนต่าง ๆ และสถานที่ควรเข้าใกล้ คือ สถานที่ใกล้พุทธสถาน สถานที่ใกล้วัดป่า สถานที่ใกล้บริเวณที่ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

สถานที่อยู่อาศัย จะต้องหาบริเวณไว้ปลูกผักสวนครัว พืชไร่ พืชสวน และพื้นที่เลี้ยงสัตว์สำหรับประกอบอาหาร (สำหรับผู้ที่ยังติดในรสชาติเนื้อสัตว์ที่เลิกรับประทานมิได้ ก็เตรียมไว้ จะเป็นไก่ เป็ด หมู ปลา กุ้ง หอย ท่านก็จะต้องวางแผนไว้) หรือเลี้ยงสัตว์ที่จะใช้แทนยานพาหนะ เพื่อการติดต่อหรือเดินทางในยามจำเป็น และถ้าเป็นไปได้ ขอให้สร้างห้องใต้ดินไว้ทุกบ้าน ห้องใต้ดินควรปูด้วยแผ่นหินที่จะช่วยให้เกิดความเย็น หรือใช้วัสดุใดก็ได้ที่มีความเย็นเป็นหลัก มีระบบระบายอากาศที่มีคุณสมบัติในการกรองอากาศเสีย เพื่อมิให้ควันพิษจากข้างนอกเข้าไปภายในห้องใต้ดินได้

7. ต้องจัดเตรียมเสบียงอาหาร โดยเฉพาะเครื่องกระป๋องให้มาก (ต้องดูวันหมดอายุให้ดีด้วยครับ) ปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่าง ๆ อุปกรณ์เครื่องใช้และเครื่องช่วยดำรงชีพในป่า เพราะทุกแห่งหน จะมีสภาพเหมือนป่า โดยให้จัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ เช่น

- เชือกชนิดดี มีความเหนียวทน ความยาวประมาณ 10 เมตรต่อคน

- ยารักษาโรคที่จำเป็นต่าง ๆ อาทิ ยาแก้ปวดศรีษะ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข้หวัดและยาประจำตัวต่าง ๆ ก่อนวิกฤติดังกล่าว

- อุปกรณ์ให้แสงสว่างต่าง ๆ เช่น ไฟฉาย ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ น้ำมันก๊าด เป็นต้น

- ถังใส่น้ำดื่มขนาดใหญ่ หรือภาชนะสำรองน้ำดื่ม (น้ำใช้มีความจำเป็นน้อยกว่ามาก ช่วงเวลานั้นไม่มีการซักเสื้อผ้า ไม่มีการอาบน้ำกันแล้ว)

บทความนี้ ขอให้ท่านเก็บไว้อ้างอิง และเป็นแนวทาง เมื่อโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้เห็นในปี 2548 เป็นต้นไปว่า จะมีความรุนแรงอันเกิดจากภัยธรรมชาติมากขึ้นถี่ขึ้น ดินฟ้าอากาศจะปรวนแปรมากขึ้น พายุใต้ฝุ่นและน้ำท่วมมีมากขึ้น แผ่นดินไหวมีเพิ่มขึ้น การฆ่าทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามในประเทศต่าง ๆ มีมากขึ้น การแย่งชิงอำนาจในการเข้าบริหารประเทศชาติมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งก็ได้เกิดให้เห็นแล้วในปัจจุบันหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอัลบาเนีย ซาอีร์ ปาปัวนิวกินี เป็นต้น และจะมีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่เป็นจริง ก็สบายใจไปได้ 50% แสดงว่าเงื่อนเวลาขยายออกไปอีกช่วงหนึ่ง ประมาณ 9 ปี นั่นคือ

ความพยายามในการสงบระงับเหตุร้ายแรงนั้น ทำได้สูงสุดไม่เกิน พ.ศ.2560 หรือภายใน 12 ปีข้างหน้า ถ้าเหตุร้ายจะเกิดขึ้นจริง เกิดใน 12 ปีข้างหน้า นับจากมกราคม 2548 ย่อมดีกว่าเกิดภายใน 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2551) แต่ถ้ารอไปอีก 12 ปีข้างหน้า ผู้คนทั้งหลายยังตกอยู่ในความประมาท ตกอยู่ในความมัวเมา ก่อกรรมทำเข็ญมากขึ้น หลีกหนีจากความดีงาม ไม่สนใจที่จะงดกระทำสิ่งที่เป็นบาปกรรม ไม่สนใจที่จะฝึกจิตให้ผ่องใส หากจะเกิดเหตุร้ายใน 3 ปีข้างหน้า ก็คงจะหนีชะตากรรมไปมิได้ เมื่อนั้น ต่างก็คงจะต้องหาทางช่วยตัวเองและรับการตัดสินจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่ติดค้างมานานถึง 60,000 ปี จะได้ขุดรากถอนโคนให้หมดหนี้กรรมไปวาระหนึ่ง โดยผู้โชคดี หรือมีหนี้กรรมน้อย จะได้ตายในทันที ไม่ทรมาน แต่ผู้ที่มีกรรมชั่วมากจะตายก็ไม่ตาย แต่ได้รับความทรมานแสนสาหัส อยู่อย่างแร้นแค้น ยากเข็ญร้อนก็ร้อน สุดโหด หนาวก็หนาวสุดขีด ซึ่งก็คงจะได้พบเห็นกันในเร็ว ๆ นี้ โดยจะได้เห็นหิมะตกในประเทศไทยด้วย

ด้วยความปรารถนาดี
นายมงคล กริชติทายาวุธ

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2547 เวลา 02.35 น.

ที่มา diaryhub.com</LARGFONT>

 

ตรงกับเวลา 08.14 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 17.53 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

 

คุณได้ข้อคิดอะไรจากหนัง 2012 บ้าง?​

​

​

​

ขอเกริ่นก่อนว่า ผมได้มีโอกาสไปดูหนังเรื่องนี้ ที่ เดอะมอลล์ บางแค วันที่13/11/2009 โรงที่2 รอบเวลา 18.55 ที่นั่งK7 ใครที่รู้สึกเกิดความรำคาญบริเวณที่นั่งแถวK ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ เผอิญมันไม่มีมารยาทหนะครับ ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยตั้งกระทู้วิจารณ์หรืออะไรหรอกนะครับ เพราะเห็นว่าตั้งกันเยอะแล้ว แต่หนังเรื่องนี้มันสุดยอด!!จริงๆเลยอดไม่ไหว

มาเข้าเรื่องดีกว่า ผมได้ติดตาม หนังของผู้กำกับโรแลนด์ เอ็มเมอริค ก็เข้าใจว่า เค้าไม่ได้สร้างแค่หนังที่มี CG แต่เค้าสร้างหนังให้เราสัมผัสได้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบันด้วย ใครที่ยังไมไ่ด้ดูแนะนำให้ไปดูครับ คุ้มค่าเงินแน่นอน(แต่เสียดายน่าจะทำแบบ 3D ด้วย)

ในเรื่อง 2012 นี้ ผมเชื่อว่า ผู้กำกับได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ ทางผู้กำกับได้แสดงให้เห็นถึง การดิ้นรนเอาชีวิตรอด ซึ่งในปัจจุบัน เงินเทียบได้กับการเป็นพระเจ้า จะสั่งให้อยู่หรือสั่งให้ตายก็ได้ เช่นเดียวกันกับ เรือในหนังเรื่องนี้ ค่าตั๋วมีมูลค่าถึง1พันล้าน [ยูโร] เลยทีเดียว คือ คนรวยเท่านั้นที่มีสิทธิที่จะอยู่รอด(ในภาพยนต์) ทำไมต้องเป็นคนรวย

เนื่องจากการสร้างเรือนั้นต้องใช้งบมหาศาล ค่าตั๋ว 1 พันล้านยูโรนั้นคุ้มค่าแล้ว แต่คนอื่นๆหละ เค้าไม่มีสิทธิที่จะอยู่รอดหรือ? นั่นคือคำถามที่ผมคิดว่าผู้กำกับน่าจะให้พวกเราทุกคนคิดว่า แท้ที่จริงแล้ว เงินเท่านั้นหรือที่จะกำหนดว่าใครจะอยู่ใครจะตาย เราควรจะยอมใช้เงิน 1 พันล้านแลกกับการช่วยคนบนโลกให้เยอะที่สุดไม่ใช่หรือ? เพราะเมื่ออารยธรรมสูญสิ้น เงินก็ล่มสลายไปกับอารยธรรมแล้ว หลังจากที่อารยธรรมได้ล่มไป และเริ่มสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่ เงินมันก็คือกระดาษใบนึงเท่านั้นเอง

ผู้กำกับน่าจะแสดงให้เห็นว่าแท้ที่จริงแล้วมนุษย์หลายคนยอมรับความตาย พร้อมที่จะตาย แต่ไม่ใช่ว่าไม่กลัวตาย ดูได้จากเช่น ปธน.สหรัฐ และ อีกหลายๆคน แต่ความกลัวตายแท้จริงไม่ได้ทำให้ก่อเกิดการจราจลแต่อย่างใด เราจะเห็นหลายๆฉากในหนัง ซึ่งประชาชนทุกคน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ถึงแม้จะมีการจราจลบ้าง แต่ในที่สุดก็มีใจสามัคคีกัน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกคน บางคนกลับเห็นชีวิตตัวเองสำคัญกว่าทุกชีวิตบนโลก พร้อมที่จะฆ่าทุกคนได้ถ้าทำให้ชีวิตตัวเองรอด แต่จะมีประโยชน์อะไรหละ ถ้าเมื่อตัวเองรอดแล้วแต่ไม่มีอะไรเหลือให้ดำเนินชีวิตต่อ

ผมชอบตอนที่ นักวิทยาศาสตร์คนนึงพูดบนเรือว่า (ขอโทษนะครับจำไม่ค่อยได้) (ใครจำได้ช่วยเขียนที)เมื่อไหรที่เรา.... เมื่อนั้นแหละเราสิ้นความเป็นมนุษย์ ซึ่งผมก็ว่าจริง ผู้กำกับน่าจะ สร้างมาให้เห็นถึงในเหตุการณ์ปัจจุบันว่า แท้ที่จริงโลกที่สวยงามอยู่นี้ จะมีมนุษย์เพียงเท่าไหร่ที่สมควรอยู่รอดเพราะในโลกปัจจุบัน เราเห็นการฆ่าฟัน เราเห็นการทรมาณ เราเห็นสงคราม เราเห็นความโหดร้ายแบบไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ นี่หรือคือมนุษย์ในภาพของเรา นี่หรือคือเผ่าพันธุ์ที่สมควรอยู่รอด

แต่ใช่ว่ามนุษย์จะมีแต่ความโหดเหี้ยม เราเห็นจากในหนังหลายๆฉาก และผมประทับใจในฉากที่คนรัสเซีย(ที่เป็นนักมวย) ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อให้ลูก 2 คนรอด (ถึงแม้แต่พ่อเค้าจะเลวมาก แต่เราก็ยังเห็นถึงความดีในตัวเค้าอยู่) ชาซ่า(ตอนแรกเห็นชื่อนี้ในพันทิพนึกว่าผู้หญิง) ยอมสละชีวิตเพื่อให้คนอื่นรอด และอีกหลายๆคน ผมว่าบุคคลเหล่านี้ ควรรอดมากกว่านักการเมืองหรือบางคนที่อยู่บนเรือซะอีก

หนังไม่ได้โชว์ให้เห็นถึง CG แต่ยังแสดงให้เห็นถึงแง่มุมหลายๆแง่ ในแท้ที่จริงแล้ว มนุษย์นั้นโหดเหี้ยมและเห็นแก่ตัวมาก แต่เมื่อถึงคราววิกฤตมนุษย์ส่วนใหญ่ ละทิ้งความเลว ความชั่วของตัว และยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น การยอมรับ การยอมตาย ไม่ได้หมายความว่าไม่กลัวตาย เราเห็นได้จากในหลายๆ ฉากในหนัง เราได้เห็นถึงความสามัคคีกัน เราได้เห็นถึงความดีงามกัน เราได้เห็นว่า หนังเรื่องนี้สะท้อนตัวตนของเรา ไม่ใช่สะท้อนแต่ความไม่ใส่ใจถึงโลก แต่สะท้อนว่า ทำไมเราถึงควรอยู่รอด ถึงเวลาหรือยังที่เราจะหันย้อนมา่ดูตัวเองและโลกใบนี้

จากในตอนจบซึ่งแผ่นดินของโลกผสานรวมเป็น 1 เดียว ผมว่าตอนสุดท้ายผู้กำกับทิ้งท้ายได้ดีมาก ผมตีความว่า ทุกประเทศทั่วโลกได้รวมเป็น 1 แล้่ว ความแตกแยก ความเลว ความชั่ว ความเห็นแก่ตัว ได้มลายหายไปกับวันโลกาวินาศแล้ว เหลือแต่ 1 เท่านั้น 1 ประเทศ 1 ใจ 1 ความสามัคคี และ 1 โลกใบใหม่ที่เริ่มต้นใหม่ด้วยความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง มันคือ ความเป็น 1 เดียวกัน ไม่ว่าจะชาติไหน ผิวสี ผิวขาว ผิวเหลือง ชาติตะวันออก ตะวันตก ไม่มีอีกแล้ว มีแต่คำว่า มนุษย์ 1 ชนเผ่า ที่จะไร้ซึ่งความแตกแยก

หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังที่ขายถึงเนื้อเรื่องการทำลายล้างโลก แต่ขายความคิด ขายจิตสำนึก ช่วยเตือนสติให้เราว่าถึงเวลาหรือยังที่เราจะหันมาใส่ใจมนุษย์ซึ่งกันและกันบ้าง ไม่สำคัญว่าชาติไหน ผิวอะไร ภาษาอะไร ยากดีมีจนแค่ไหน ไม่ใส่ใจว่าเค้าคือใคร แต่ใส่ใจว่า เค้าก็คือมนุษย์เหมือนกัน (ถ้าไม่มีคุณสมบัติตามที่นักวิทยาศาสตร์คนนั้นพูด)

หนังเรื่องนี้ เตือนใจถึงทุกคน ให้เราใช้ชีวิตให้ดีที่สุด และหันมารักเพื่อนมนุษย์มากขึ้นกว่าเดิม คนชั่วใช่ว่าจะชั่ว คนดีใช่ว่าจะดี เมื่อเราลบทุกคำออกไป และมองใหม่ ทุกๆคนคือมนุษย์ 1 ชีวิต เท่าเทียมกัน นี่แหละที่ผู้กำกับน่าจะสื่อ หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ฉากสวยงาม หรือความสะใจ แต่มันแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์

เป็นหนังเรื่องแรกที่ผมเห็นว่า 10 คะแนนได้ 10 คะแนน 140 บาทนั้นคุ้มค่ามากกว่า เงิน 140 บาท แล้วคุณหละ ได้ข้อคิดอะไรจากหนังเรื่องนี้? <!--MsgFile=0-->

จากคุณ darkness2
14 พ.ย. 52 14:08:51

ที่มา http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8547188/A8547188.html<!--MsgIP=0-->

 

สารจากคุณอา k_isara ในนามใหม่ "องค์อินทร์ - 97"

ขอเป็นตัวแทนในการนำบทความและข่าวสารต่างๆจากคุณอา k_isara
มาลงให้ท่านสมาชิกได้รับทราบกันนะคะ โดยแต่นี้ไป ท่านจะใช้นามใหม่
ในการส่งสารว่า "องค์อินทร์ - 97" ท่านใดสงสัยถึงที่มาที่ไป ให้ไปหาอ่าน
บทความเก่าที่คุณอา k_isara เคยลงไว้นะคะ


======================================

25 พ.ย.52


ย้ายวิก

ขอขอบคุณ คุณพี่เกษม ที่เข้าใจในเจตนาการทำงานเพื่อช่วยคนเมื่อยามภัยมาถึง
และได้ชวนผมเข้ามาลงบทความต่อ ผมเลยขออนุญาตย้ายที่ส่งบทความมาลง
ในนามของหลาน Lazazaแทน เพราะผมได้แบ่งหน้าที่การทำงานไว้แล้ว
ตัวผมเองจะไปทำงานภาคสนามแทนซึ่งต่อไป 1-2ปีข้างหน้า ผมคงต้องขึ้นลง
ฐานผาแบ่นบ่อยขึ้น


ความก้าวหน้าของฐานผาแบ่น

หลังจากที่มีสมาชิกทั้งภายนอกเว็บฯและภายใน ได้เข้ามาขอเป็นแนวร่วมด้วย
ขณะนี้ได้ขอนำคนในครอบครัวเข้ามาประมาณไม่น้อยกว่า 30 ท่านและได้ส่ง
เงินเข้ามาช่วยเหลือในการดำเนินงานมากพอสมควร

ที่ฐานผาแบ่น ขณะนี้ผมได้ดำเนินการจัดซื้อโอ่งยักษ์ จำนวน 16ใบ วางเป็น
หลักเขตสี่มุม 4ใบ อีก 12ใบ วางไว้ท้ายสวนโดยกั้นกลางระหว่างพื้นที่ตั้งสุขา
ชายและสุขาหญิงเพื่อความเป็นสัดส่วนในการใช้ โอ่ง 16ใบได้วางเป็นที่เรียบ
ร้อยแล้วส่วนบ่อเก็บมูล 12บ่อยังอยู่ในขั้นการดำเนินงานอยู่ ผมคิดว่าให้เลย
หน้าหนาวนี้ ไม่เกินเดือนเมษายนปี 53 ผมจะขึ้นไปทำหลังคารองรับน้ำฝน
เชื่อมท่อระหว่างโอ่ง จัดซื้อแผ่นอิฐสำเร็จรูปไปวางไว้ให้กับท่านสมาชิกตาม
จำนวนครอบครัวที่ได้ส่งเงินมาทำ ถ้ามีเงินเหลือพอก็จะซื้อโอ่งเพิ่มไว้ปีกขวา
ของพื้นที่เพื่อที่จะรองรับน้ำประปาหมู่บ้านในอนาคตอันใกล้ต่อไป

องค์อินทร์ - 97
ทำการแทน

======================================







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6936 ข่าวสดรายวัน


ไวรัสหวัดกลายพันธุ์โผล่"ฮ่องกง"



เมื่อวันที่ 23 พ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เปิดเผยว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเกิดการกลายพันธุ์เช่นเดียวกับไวรัสหวัด 2009 กลายพันธุ์ที่เพิ่งพบในประเทศนอร์เวย์ เมื่อไม่นานมานี้ โดยผลตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างพันธุกรรมเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 พบว่า ในจำนวน 123 ตัวอย่าง มี 1 ตัวอย่างเกิดกลายพันธุ์และมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกับไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ในนอร์เวย์

"ตัวอย่างนี้ได้มาจากเชื้อในตัวเด็กชายวัย 1 ขวบ ซึ่งป่วยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม จากนั้นเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพรินซ์ ออฟ เวลส์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา หายป่วยและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 3 วันต่อมา" สาธารณสุขฮ่องกง ระบุ และย้ำว่า เชื้อกลายพันธุ์ยังคงตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทามิฟลูและรีเลนซา ทั้งยังไม่พบว่าเชื้อกลายพันธุ์ส่งผลให้อัตราแพร่ระบาดของโรคถีบตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศว่า พบไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 กลายพันธุ์ในบางประเทศ เช่น จีน บราซิล ญี่ปุ่น เม็กซิโก ยูเครน นอร์เวย์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดสถานการณ์แพร่ระบาดในสหรัฐเริ่มลดลง แต่กลับไประบาดเพิ่มขึ้นในทวีปยุโรปกับเอเชียแทน

วันเดียวกัน นายโทมัส อับราฮัม โฆษกองค์การอนามัยโลก แถลงว่า ทางการประเทศแคนาดาสั่งเรียกเก็บวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ของบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ (จีเอสเค) ชั่วคราว หลังจากพบว่าผู้ได้รับยาเกิดอาการแพ้วัคซีนเป็นจำนวนมากเกินไป ขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่แคนาดาและอนามัยโลกกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุแล้ว

น.ศ.ออสซี่อึ๊บโชว์หอนาฬิกาซิดนีย์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 24 พ.ย. เดลี่เทเลกราฟนำภาพคู่รักหนุ่มสาวชาวออสเตรเลียที่ขึ้นไปแก้ผ้ามีเพศสัมพันธ์กันโจ๋งครึ่ม ไม่เกรงกลัวสายตาผู้คนอยู่บนระเบียงของหอนาฬิกาที่เก่าแก่ในนครซิดนีย์ ขณะที่ถนนเบื้องล่างเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน จนถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้มาตีแผ่

ในภาพหนุ่มสาวมีเพศสัมพันธ์กันอย่างเมามันอยู่บนระเบียงยอดหอนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนสี่แยกของถนนใกล้กับศูนย์การค้าบรอดเวย์ และมหาวิทยาลัยซิดนีย์ เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ผู้ที่ถ่ายภาพไว้ได้เดินผ่านไปมาบริเวณป้ายรถเมล์ใกล้แยก และกล่าวว่า "หลายคนสังเกตเห็นและชี้ให้กันดู ยิ่งตอนที่ถ่ายรูป ก็ยิ่งมีคนมารุมดูกันมากขึ้น ทั้งชี้และหัวเราะ จากที่เห็นคิดว่าสองคนนั้นรู้ว่ามีคนมองอยู่แต่ไม่สนใจ"

คาดว่า ทั้งคู่อาจจะเป็นนักศึกษาที่พักอยู่ในอาคารยูนิลอดจ์ด้านล่าง และปีนข้ามหลังคาขึ้นไปบนหอนาฬิกา แต่ยังควานหาตัวไม่ได้

"ปินส์"สั่งเคอร์ฟิว-ยอด"ฆ่าหมู่"พุ่ง!



เมื่อ 24 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศภาวะฉุกเฉินบนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ หลังจากนักการเมืองทรงอิทธิพลในจังหวัดมากินดาเนาสั่งมือปืนร่วม 100 คน ดักจู่โจมขบวนรถของคู่แข่งทางการเมืองและฆ่าตัวหัวเหยื่อหลายสิบราย

พล.ต.อ.จีซัส เวร์โซซา ผู้บัญชาการตำรวจฟิลิปปินส์ แถลงว่า พบศพผู้เหยื่อเพิ่ม 17 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดรวม 38 ราย ขณะนี้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมกับตั้งด่านและสั่งเคอร์ฟิวเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงปะทุซ้ำรอย

ข่าวสังหารหมู่ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ช็อกทั้งประเทศ เพราะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก คนร้ายฆ่าไม่เว้นแม้แต่นักข่าว ทนายความ และผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่ร่วมอยู่ในขบวนรถภรรยาของนายอิสมาอีล มันกูดาดาตู รองนายกเทศมนตรีเมืองบูลัน ซึ่งกำลังเดินทางไปยื่นเอกสารสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการมากินดาเนา

ด้านนายเบนิตา เฟอร์เรโร วาล์ดเนอร์ กรรมาธิการสหภาพยุโรป ฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แถลงประณามผู้ก่อเหตุป่าเถื่อนในครั้งนี้ด้วย

รูปแห่งทศวรรษ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>สำนักข่าวรอยเตอร์คัดเลือกภาพข่าวดีที่สุดในรอบ 10 ปี หรือรอบทศวรรษแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 21 หนึ่งในนั้น คือ ภาพขณะไก่งวงชื่อ "ลิเบอร์ตี้" จิกเข้าตรงเป้าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐ พอดิบพอดี เมื่อ 8 ปีก่อน







จี้เลิกเขื่อนกั้นสาละวิน



เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตัวแทนจากคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.เหนือ) และตัวแทนเครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน ประมาณ 10 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือติดตามผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่ 526/2550 เรื่องกรณีโครงการก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวิน โดยมีนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกสม. เป็นผู้รับเรื่อง

หนังสือระบุว่า ภายหลังคณะกรรมการสิทธิฯ ได้ตรวจสอบการสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวิน และมีมติให้รัฐบาลและการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระงับการสร้างเขื่อนฮัตจี เมื่อวันที่ 9 ก.ย.50 ซึ่งต่อมาประธาน กสม.ได้เสนอผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลต้องดำเนินการภายใน 90 วัน ทั้งนี้ ระยะเวลาการดำเนินงานของรัฐบาลถือว่าได้ล่วงเลยมานานแล้ว ทางกป.อพช. เหนือและเครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน จึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอทราบความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว

ต้านโรงไฟฟ้า



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ขบวนผู้ประท้วงไม่เอาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เดินทางมาจาก ต.พนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มุ่งสู่ศาลากลางจังหวัด เข้ายื่นหนังสือกับนายกวี กิตติสถาพร ผวจ.นครสวรรค์ โดยผู้ว่าฯ รับปากนำเรื่องเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.






"ฮิตเลอร์ สเตลธ์" อาวุธลับกองทัพนาซี!



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ปีหน้า...หน้าประวัติศาสตร์ "สงครามโลกครั้งที่ 2" จะหมุนผ่านครบ 65 ปีเต็ม

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นักวิชาการทั่วโลกต่างพยายามเสาะหาข้อมูลใหม่ๆ ออกมาตีแผ่เปิดเผยแก่ชาวโลก ทั้งเพื่อให้รู้เท่าทันพิษภัยสงครามและบันทึกแง่มุมสำคัญเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความสูญเสียครั้งนี้เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ "เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก" จัดทำสารคดีชุดพิเศษเรื่อง "ฮิตเลอร์ สเตลธ์ ไฟเตอร์" ฉายภาพความฝันกองทัพนาซีเยอรมัน ภายใต้การนำของเผด็จการ "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาอาวุธและจักรกลสังหารทรงพลานุภาพหลายชนิด รวมถึง "เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน" หรือ "สเตลธ์" หวังปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในฐานะ "ผู้ชนะ"

แต่เคราะห์ดีของชาวโลกที่ความฝันฮิตเลอร์ไม่มีโอกาสกลายเป็นความจริง!

ช่วงท้ายสงครามโลกครั้งที่ 2

กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรบุกตะลุยเล่นงานกองทัพนาซีเยอรมันจนอ่อนล้าลงมาก

ทำให้ฮิตเลอร์ตั้งความหวังว่า บรรดาโครงการอาวุธลับต่างๆ ที่ซุ่มคิดค้นจะช่วยพลิกสถานการณ์

หนึ่งในโครงการอาวุธลับของทัพนาซี คือ

เครื่องบินรบทิ้งระเบิด ซึ่งสามารถหลบหลีกการตรวจจับจากเรดาร์ของศัตรู!

ขณะนั้นแนวคิดเรื่องเครื่องบินล่องหน หรือเครื่องสเตลธ์ ยังไม่เคยมีชาติใดคิดพัฒนาอย่างจริงจังมาก่อน เพราะความยากและซับซ้อน

แม้แต่ชาติมหาอำนาจอย่าง "สหรัฐอเมริกา" ภายหลังชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียบร้อยแล้ว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ยังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 30 ปีกว่าจะสร้าง "สเตลธ์" ได้สำเร็จ!



ปี ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) ฝูงบินทิ้งระเบิดเยอรมันพ่ายแพ้ความเร็วฝูงบินรบสัมพันธมิตรชนิดราบคาบ

ประกอบกับฮิตเลอร์ต้องการให้สร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บินไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา

ด้วยเหตุนี้ จอมพลเฮอร์มันน์ เกอริง ผู้บัญชาการทัพฟ้า (ลุฟต์วาฟฟ์) จึงมีบัญชาให้ลูกน้องเค้นสมองคิดเครื่องบินทิ้งระเบิด หรือ "บอมเบอร์" ที่มีคุณสมบัติ 3 ข้อนี้ออกมาให้ได้ นั่นคือ

1. บรรทุกระเบิด 1,000 ก.ก.

2. บินไกล 1,000 ก.ม.

3. บินด้วยความเร็ว 1,000 ก.ม./ช.ม.

บุคคลผู้เสนอตัวอาสาออกแบบสุดยอดบอมเบอร์ดังกล่าว ได้แก่ สองพี่น้องลูกทัพฟ้า "ไรมาร์และวอลเตอร์ ฮอร์เทน"

ซึ่งยื่นแบบพิมพ์เขียวเครื่องบินล้ำยุคหน้าตาแปลกประหลาดให้ผู้นำกองทัพดู หลังจากช่วยกันออกแบบนานหลายปี เพราะไฟสุมอกที่อยากสร้างเจ้าเวหาขึ้นมาล้างแค้นให้เพื่อนร่วมกองทัพที่เสียชีวิตใน "ยุทธการบริเตน"



"ฮอร์เทนไม่เคยลืมการสูญเสียเพื่อนนักบินร่วมรบ และคิดว่าเยอรมันต้องมีเครื่องบินที่หลบหลีกเครือข่ายเรดาร์ของอังกฤษให้ได้" เดวิด ไมห์รา นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ติดตามสัมภาษณ์และเขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้น้องตระกูลฮอร์เทนตราบจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตในคริสต์ทศววรษ ที่ 1990 กล่าว

ในที่สุดช่วงต้นปี ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ทีมวิศวกรของฮอร์เทนก็ออกแบบ "ต้นแบบ" เครื่องบินดังกล่าว ถึง 3 รุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีรูปโฉมแตกต่างจากเครื่องบินรบในอดีตอย่างสิ้นเชิง มองดูแล้วเหมือนยานจากอนาคต เพราะโครงสร้างหลักมีแต่ "ปีก" กับ ห้องนักบิน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
1.2สองพี่น้องตระกูล "ฮอร์เทน" ไรมาร์กับวอลเตอร์

ยืนชื่นชมต้นแบบเครื่องสเตลธ์ที่ร่วมกันคิดค้น



2.แปลน หรือพิมพ์เขียวโครงสร้างสเตลธ์สายพันธุ์เยอรมัน

ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2



3.ความน่าเกรงขามในอดีตของ "สเตลธ์นาซี" มองจากมุมสูง



4. ซาก "สเตลธ์นาซี" ซึ่งสหรัฐเก็บไว้นอกกรุงวอชิงตัน ดีซี




</TD></TR></TBODY></TABLE>

สำหรับต้นแบบเครื่องบินรบรุ่นที่โดดเด่นและใกล้ความจริงมากที่สุด คือ

"Horten HO 2-29" ติดตั้งเครื่องยนต์ "บีเอ็มดับเบิลยู 003" พร้อมปืนใหญ่ 30 มิลลิเมตร 4 กระบอก และบรรทุกระเบิดขนาด 500 กิโลกรัม 2 ลูก

พี่น้องฮอร์เทนมั่นใจว่า เมื่อนำ "ขี้เลื่อย-ถ่านไม้-คาร์บอน-ยางไม้" ทาเคลือบลงไปบนพื้นผิวด้านนอกของตัวเครื่อง จะทำให้ HO 2-29 กลายเป็นเครื่องบินล่องหน เพราะมีคุณสมบัติดูดซับคลื่นแม่เหล็กของเรดาร์ นอกจากนั้น ด้วยโครงสร้างการออกแบบตามหลักกลศาสตร์ ยังช่วยให้มันบินในระดับต่ำมาก และรอดพ้นจากเรดาร์สัมพันธมิตรง่ายขึ้นอีกหลายเท่า



ผลการทดสอบเครื่อง HO 2-29 ประสบความสำเร็จด้วยดีก่อนเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส ปลายปี 1944 เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นพลานุภาพของกองทัพนาซีถือว่าอ่อนยวบไม่มีชิ้นดี ใกล้พบจุดจบเข้าไปทุกที ขาดแคลนทั้งขวัญกำลังใจ กำลังเงิน นักบิน และเชื้อเพลิง

โครงการ HO 2-29 จึงต้องหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง เหลือไว้แต่ซากเครื่องต้นแบบ กับ พิมพ์เขียวให้กองทัพสหรัฐยึดกลับไปตรวจสอบ ท่ามกลางความตกตะลึงถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมเครื่องจักรสังหารของเยอรมันชิ้นนี้ ซึ่งทำให้ต้องขบคิดกันว่า ถ้าบังเอิญฝ่ายนาซีเกิดผลิตเป็นจำนวนมากได้จริงๆ โฉมหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

เพื่อพิสูจน์ว่า HO 2-29 จะมีศักยภาพร้ายกาจขนาดไหน บริษัท นอร์ธทรอป กรัมแมน ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐและผู้คิดค้นเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน "สเตลธ์ บี-2" จึงสร้าง HO 2-29 รุ่นจำลองขึ้นมาทดสอบประสิทธิภาพในการหลบเลี่ยงเรดาร์

การทดลองครั้งนี้ใช้งบฯ ราว 9 ล้านบาท

ผลลัพธ์พบว่า HO 2-29 หลบเรดาร์สัมพันธมิตรยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จริงๆ!

โดยถ้าเทียบจากเรดาร์ระวังภัยบริเวณช่องแคบอังกฤษในยุคนั้นจะตรวจจับเครื่องบินรบศัตรูได้เมื่อเข้าสู่ระยะ 160 กิโลเมตร แต่สำหรับ HO 2-29 จะจับได้เมื่อบินเข้าระยะ 129 กิโลเมตร และเพราะมันบินเร็วมาก จึงสามารถพุ่งถล่มเป้าหมายใจกลางอังกฤษภายใน 8 นาที ขณะที่เครื่องบินรบทิ้งระเบิดรุ่นก่อนหน้าต้องใช้เวลา 19 นาที ส่งผลให้ทัพอังกฤษและสัมพันธมิตรมีเวลาเตรียมรับมือน้อยลง

"มีความเป็นไปได้ว่า ถ้าฝ่ายนาซีผลิต HO 2-29 ออกปฏิบัติการ เกมการรบอาจพลิกผันและได้เปรียบในห้วงเวลาหนึ่ง จนกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะคิดค้นอาวุธตอบโต้สำเร็จ" ทอม โดเบรนซ์ ผู้เชี่ยวชาญสเตลธ์ของนอร์ธทรอปฯ กล่าว

แต่ประวัติศาสตร์ไม่ได้เขียนเอาไว้เช่นนั้น เพราะ HO 2-29 ไม่เคยออกรบ

ส่วนฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายอยู่ในบังเกอร์หลบภัย กรุงเบอร์ลิน เมื่อเดือนเมษายน 2488

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=354&contentID=33790
ตั้งตู้ขายคอนด้อมในโรงเรียน
หวังให้เด็กรู้จักป้องกันหวังลดติดเอดส์ 20% ตรวจเชื้อเอดส์ฟรีที่ศูนย์สาธารณสุขถึง 1 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานแถลงข่าว การจัดกิจกรรมรณรงค์รวมใจต้านภัยเอดส์เนื่องในวันเอดส์โลก ประจำปี 2552 ภายใต้แนวคิด “แฮนด์อัพ เตือนเพื่อนคิดบวก” โดย กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว เป็นการสร้างแกนนำต้านเอดส์ในโรงเรียน โดยนำร่องในโรงเรียนสังกัด กทม. 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ โรงเรียนวัดลาดกระบัง โรงเรียนวัดชัยมงคล โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ และโรงเรียนเศวตฉัตร เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร สถานการณ์โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แก่ประชาชน ส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนมีทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ เป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงการป้องกันและลดพฤติกรรมเสี่ยง ตลอดจนมีพฤติกรรมทางเพศที่ถูกต้อง ปลอดภัย ซึ่งในการรณรงค์ในปี 2553 นั้นตนตั้งเป้าว่าจะให้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ และในเบื้องต้นตนมีแนวคิดที่จะติดตั้งตู้ขายถุงยางอนามัยภายในโรงเรียน ซึ่งไม่ได้เป็นการส่งเสริมให้นักเรียน กทม. มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่เด็ก แต่เพื่อให้เป็นการเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวที่ถูกต้อง ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 23 พ.ย.-1 ธ.ค. กทม.ให้บริการเจาะเลือดตรวจหาการติดเชื้อเอดส์ฟรี ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่งของ กทม.ด้วย

ด้านนายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า จากสถิติเมื่อปี 2551 พบว่าในพื้นที่ กทม. มีผู้ป่วย 2,600 ราย แต่ในปี 2552 ผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเหลือ 2,476 ราย สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอดส์รายใหม่นั้นเป็นกลุ่มบุคคลที่อายุระหว่าง 25-29 ปี และผู้เสียชีวิตจะมีอายุระหว่าง 30-34 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับกลุ่มเสี่ยงยังเป็นกลุ่มที่นิยมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันมากถึงร้อยละ 80 ส่วนกลุ่มผู้ติดยานั้นพบมีเพียงร้อยละ 10.


แผ่นดินไหวรุนแรงที่ตองกา
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ รายงานว่า เมื่อเวลา 02.47 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่นในตองกา หรือเกือบ 3 ทุ่ม ในเมืองไทยของวันอังคาร เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง 6.8 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งตองกาในแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้บาดเจ็บ แม้กระทั่งคำเตือนภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ ข่าวแจ้งว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ห่างจากกรุงนูกูอะโลฟา เมืองหลวงตองกาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 134 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงในทะเลถึง 10 กิโลเมตร

นางแมรี โฟนัว ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น บอกว่า แผ่นดินไหวล่าสุดทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเป็นเวลาประมาณ 30 วินาที ในกรุงนูกูอะโลฟา บ้านเรือนสั่นไหว เธอจึงตัดสินใจวิ่งออกนอกบ้าน เพราะกลัวว่า บ้านจะถล่มลงมา ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 8.0 ริกเตอร์ ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มพื้นที่ภาคเหนือของเกาะตองกา คร่าชีวิตผู้คน 9 ศพ และยังพัดกระหน่ำชายฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 143 ศพ ในซามัว และอีก 34 ศพ ที่อเมริกัน ซามัว.


ปินส์ประกาศฉุกเฉินเหตุสังหารหมู่
ผู้สื่อข่าวสังเวยชีวิตด้วย12ศพ

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ภายหลังเหตุการณ์สังหารหมู่อย่างน้อย 46 ศพ ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งนักข่าว 12 ศพ สาเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่ ทางการสั่งปลดและควบคุมตัวรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรเอาไว้

นายเซอร์กี เรมอนด์ โฆษกประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ประธานาธิบดีอาร์โรโย ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ของภาคใต้และส่งทหารลงพื้นที่เพิ่มขึ้น ภายหลังเกิดเหตุสังหารหมู่มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 46 ศพ โดยคำประกาศดังกล่าวครอบคลุมจังหวัดมากูอินดาเนา ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงอีก 2 จังหวัด ที่รวมกันแล้วมีประชากรทั้งสิ้น 1.54 ล้านคน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีอาร์โรโย ระบุด้วยว่า ทางการจำเป็นต้องเร่งป้องกันและยับยั้งการก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกในพื้นที่ และการประกาศภาวะฉุกเฉินยังให้อำนาจทหารในการประกาศเคอร์ฟิว หรือการห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด พร้อมกับตั้งจุดตรวจ และค้นบ้านทุกหลังที่ต้องสงสัย

ข่าวแจ้งว่า กลุ่มมือปืนประมาณ 100 คนได้เข้าปล้นขบวนของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะมีขึ้นในกลางปีหน้า จากนั้นได้สังหารหมู่ไม่น้อยกว่า 46 ศพ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักข่าว 12 ศพ และนักการเมืองท้องถิ่นหลายสิบราย ตำรวจบอกว่า ก่อนหน้านี้พบศพผู้เสียชีวิตเพียง 22 ราย แต่ต่อมาได้พบเพิ่มอีกกว่า 20 ศพ ทำให้ตอนนี้ยอดคนตายเป็น 46 ศพ

ขณะเดียวกัน รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้สั่งปลดนายซูการ์โน ดีเคย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดมากูอินดาเนา และควบคุมตัวเอาไว้ เนื่องจากตำรวจระดับผู้ช่วยของเขา 3 คนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ครั้งนี้ ด้าน นายเอสมาเอล มานกูดาดาตู นักการเมืองท้องถิ่นบอกว่า ภรรยาและญาติของเขาหลายคนอยู่ในกลุ่มผู้ถูกสังหาร และมีผู้รอดชีวิต 4 คนที่อยู่ในความดูแลแล้ว

ส่วนพลตำรวจเอกจีซุส เวอร์โซซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากสมาชิกคนอื่น ๆ ของกลุ่มคนที่ถูกลักพาตัวไปมากกว่า 40 คนยังสูญหาย ทั้งนี้การสังหารหมู่อันน่าสยดสยองเกิดขึ้นบนเขา ห่างจากทางหลวงเพียง 7 กิโลเมตร โดยฝีมือของกลุ่มมือปืนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลรายหนึ่งในพื้น

 

*** สิ่งสำคัญของมนุย์ คือตัดนิสัย ****

เอาดี...ก็คือนิสัย
เอาชั่ว....ก็คือนิสัย
นิสัยสองอย่างนี้ ไม่ถูกกัน ไม่เข้ากัน
พระพุทธเจ้า ...ไม่เอาทั้งดี ไม่เอาทั้งชั่ว
คือ ตัดนิสัยทุกตัวจนหมดสิ้น
ผลตอบแทน จากการกระทำตัดลดนิสัยจนหมดสิ้น...คือ ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่
เป็นผู้ทำได้ ถึงที่สุด เข้าถึงที่สุด ...คือ นิพพาน

แล้วตัวท่านยังมีนิสัยแบบใด...
- " หนุมาน ผู้นำสาร "
...ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด....

 

ตรงกับเวลา 19.03 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 02.11 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 02.46 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 04.14 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 11.17 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------
ตรงกับเวลา 12.27 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 13.13 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 17.23 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 18.33 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

---------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 22.09 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 22.12 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 22.42 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

 

ไวรัสหวัดกลายพันธุ์โผล่"ฮ่องกง
<TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 23 พ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน

เปิดเผยว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเกิดการกลายพันธุ์เช่นเดียวกับไวรัสหวัด 2009 กลายพันธุ์ที่เพิ่งพบในประเทศนอร์เวย์ เมื่อไม่นานมานี้ โดยผลตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างพันธุกรรมเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 พบว่า ในจำนวน 123 ตัวอย่าง มี 1 ตัวอย่างเกิดกลายพันธุ์และมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกับไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ในนอร์เวย์

"ตัวอย่างนี้ได้มาจากเชื้อในตัวเด็กชายวัย 1 ขวบ ซึ่งป่วยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม จากนั้นเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพรินซ์ ออฟ เวลส์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา หายป่วยและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 3 วันต่อมา" สาธารณสุขฮ่องกง ระบุ และย้ำว่า เชื้อกลายพันธุ์ยังคงตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทามิฟลูและรีเลนซา ทั้งยังไม่พบว่าเชื้อกลายพันธุ์ส่งผลให้อัตราแพร่ระบาดของโรคถีบตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศว่า พบไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 กลายพันธุ์ในบางประเทศ เช่น จีน บราซิล ญี่ปุ่น เม็กซิโก ยูเครน นอร์เวย์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดสถานการณ์แพร่ระบาดในสหรัฐเริ่มลดลง แต่กลับไประบาดเพิ่มขึ้นในทวีปยุโรปกับเอเชียแทน

วันเดียวกัน นายโทมัส อับราฮัม โฆษกองค์การอนามัยโลก แถลงว่า

ทางการประเทศแคนาดาสั่งเรียกเก็บวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ของบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ (จีเอสเค) ชั่วคราว หลังจากพบว่าผู้ได้รับยาเกิดอาการแพ้วัคซีนเป็นจำนวนมากเกินไป ขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่แคนาดาและอนามัยโลกกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ****

สัจจะของคนไทย ช่วยประเทศไทยรอดพ้นกรรม
เพราะตัวกระทำไม่ตาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เรื่องนี้สำคัญมากครับ บังเอิญได้ฟัง รายการวิทยุจากสายข่าวสุขภาพและการแพทย์มีข้อมูลว่า

เมื่อเชื้อไวรัส ไข้หวัด2009 และไข้หวัดนกมาผสมกัน และเกิดการกลายพันธุ์ เป้นเชื้อไวรัสโรคหวัดกลายพันธุ์ดื้อยา ยาปฏิชีวนะที่มีอยู่รักษาไม่ได้

จำนวนโอกาสที่ คนไทยจะติดเชื้อ หวัด หรือป่วย ประมาณ 40ล้านคน จาก 65 ล้านคน

ส่วนอัตราการตายขึ้นกับ ภูมิคุ้มกันของแต่ละคน และความรุนแรงของเชื้อว่ารุนแรงหรือก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน (หรือเชื้อฉวยโอกาส เช่นปอดบวม) มากแค่ไหน

แต่อากาศเปลี่ยนครั้งนี้ มีหลายคนมากที่ไม่สบาย รวมทั้งผมเองด้วย

แต่น๊อคด้วยฟ้าทะลายโจร แบบผงอัดเม็ด ครั้งละ 10 เม็ด

 

ประกาศของเวบต่างประเทศ ต้องการคนแปล เป็นภาษาไทย ท่านใดมีเวลาและสนใจ
เชิญตามข้างล่างครับ

เราน่าจะเชื่อมข้อมูลเค้าได้นะ

http://www.timeline2012.net/

Seeking Translators: In an ongoing effort to increase awareness and help more people on a global level, Timeline 2012 is in the process of translating this website content into 11 additional languages besides English. To accomplish this task, we are seeking volunteers who may be interested in helping with these translations. It is not expected that one person will translate the entire website. Any time and expertise that you may be able to offer is certain to be appreciated by those who can not read English. Every translated article could make a tremendous difference in another person's life. If you or anyone you know is such a multilingual humanitarian, please Contact Timeline 2012. For a list of the languages, please refer to the flags in the upper right hand corner of this page.

 

วานูอาตูอพยพประชาชนหลายร้อยคนหลังภูเขาไฟปะทุ​

​

พอร์ตวิลา 26 พ.ย. - สภากาชาดวานูอาตูเปิดเผยว่า ทางการวานูอาตูอพยพชาวบ้านกว่า 300 คน ออกจากพื้นที่ หลังภูเขาไฟซึ่งกำลังปะทุเริ่มพ่นควันและเศษเถ้าถ่านใส่บ้านเรือน

ชาวบ้านลงเรือประมงอพยพไปยังอีกฟากหนึ่งของเกาะ หลังจากภูเขาไฟดังกล่าวส่งเสียงคำรามตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มปะทุและพ่นเศษขี้เถ้าใส่บ้านเรือนของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติแห่งชาติวานูอาตูกำลังให้ความช่วยเหลือในการอพยพ

สภากาชาดกำลังจัดหาภาชนะบรรจุน้ำและยาเม็ดทำให้น้ำสะอาดให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งหลายคนเริ่มมีปัญหาระบบทางเดินหายใจและท้องร่วง อันเกิดจากควันกำมะถันของภูเขาไฟ ทั้งนี้ ชาวบ้านจะต้องอยู่ห่างจากหมู่บ้านของตนจนกว่าภูเขาไฟลูกดังกล่าวจะสงบลง พื้นที่ดังกล่าวได้รับการเตือนภัยภูเขาไฟในระดับที่ 2

เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวเปิดเผยว่า ภูเขาไฟลูกดังกล่าวเคยปะทุมาแล้ว 13 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2506 วานูอาตูตั้งอยู่ในเขต “วงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก” ซึ่งเป็นบริเวณบรรจบกันของแผ่นเปลือกทวีป เป็นสาเหตุทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ. - สำนักข่าวไทย

2009-11-26 15:28:10

น้ำท่วมในซาอุดีอาระเบีย มีผู้เสียชีวิต 48 คน​

​

เจดดาห์, ซาอุดีอาระเบีย 26 พ.ย. - เกิดฝนตกหนักทางตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย ทำให้เกิดน้ำท่วม คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 48 คน และอีก 900 คน ได้รับการช่วยชีวิตจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก

ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักในเมืองเจดดาห์ วัดปริมาณได้ถึง 90 มิลลิเมตร ทำให้ทั้งเมืองรายล้อมด้วยน้ำท่วม ทั้งถนน อุโมงค์ และบ้านเรือนเก่าแก่ รายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในเมืองเจดดาห์ พุ่งถึง 44 คนแล้ว ขณะที่อีก 4 คน เสียชีวิตในนครเมกกะ

สถานีโทรทัศน์แพร่ภาพรถโดยสารจำนวนมาก เกือบจมอยู่ใต้น้ำภายในอุโมงค์ของเมืองเจดดาห์ ขณะที่นักประดาน้ำออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ขับขี่รถยนต์ ซึ่งติดค้างอยู่บนถนนท่ามกลางน้ำท่วม พายุฝนยังกระหน่ำนครเมกกะ เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ซึ่งมีผู้แสวงบุญประมาณ 2.5 ล้านคน เดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์นับแต่วานนี้. - สำนักข่าวไทย

2009-11-26 15:40:50

3 ประเทศอเมริกาใต้กำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรง ​

​

อเมริกาใต้ 26 พ.ย. - สามประเทศในแถบอเมริกาใต้กำลังเผชิญกับน้ำท่วมรุนแรง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 12 คน

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ทำให้เกิดน้ำท่วมในอาร์เจนตินา บราซิล และอุรุกวัย ผู้คนกว่า 2 หมื่นคน ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัย และยังทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 12 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้เสียชีวิตในบราซิล บ้านเรือนจำนวนมากในอาร์เจนตินาต้องจมอยู่ใต้น้ำ

ขณะที่น้ำจากแม่น้ำที่กั้นระหว่างอุรุกวัยและอาร์เจนตินาได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดทำการเรียนการสอน ผู้คนราว 1 แสนคน ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดราว 200 แห่ง ต้องได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้านบางคนต้องใช้เรือและแพที่ต่อขึ้นเองเพื่อขนข้าวของหนีน้ำ .-สำนักข่าวไทย

2009-11-26 09:45:12

มีนักข่าว 27 คน ในเหตุฆ่าหมู่ทางการเมืองของฟิลิปปินส์​

​

โคตาบาโต 26 พย. - โฆษกทหารฟิลิปปินส์ แถลงว่า นักข่าว 27 คนรวมอยู่ในกลุ่มเหยื่อ 57 คน ที่ถูกสังหารหมู่ทางการเมืองในฟิลิปปินส์ โดยพันธมิตรทางการเมืองของประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสังหารโหดในครั้งนี้

กลุ่มผู้เสียชีวิตยังรวมถึงคนขับรถยนต์ซึ่งตกอยู่ในสภาพเดียวกับผู้สื่อข่าว คือ ไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ต้องสงสัย แต่ต้องมาสังเวยชีวิตเนื่องจากอยู่ในเหตุการณ์ด้วย คณะกรรมาธิการคุ้มครองสื่อมวลชน (ซีพีเจ) ในสหรัฐ แถลงว่า เหตุฆ่าหมู่หวังสกัดคู่แข่งทางการเมืองในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จังหวัดมากินดาเนา เป็นการสังหารผู้สื่อข่าวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535

ผู้ต้องสงสัยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ นายอันดัล อัมปาตวน จูเนียร์ นักการเมืองท้องถิ่นที่ทรงอิทธิพล ได้เข้ามอบตัวแล้วในวันนี้ และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่คณะสืบสวนในคดีนี้เชื่อว่า คนคุ้มกันนับร้อยคนของเขาลักพาตัวทุกคนบนขบวนรถของนายเอสมาเอล มันกูดาดาตู นักการเมืองคู่แข่ง รวมทั้งที่ปรึกษา ครอบครัวและญาติ รวมทั้งกลุ่มผู้สื่อข่าวไปด้วย ขณะที่ขบวนรถที่มีอยู่ 6 คัน กำลังเดินทางไปลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น คาดว่าเหยื่อถูกยิงโดยนำไปทิ้งและฝังเอาไว้ ด้านตำรวจยังคงค้นหาโดยรอบบริเวณที่พบศพหมู่ แต่ไม่พบศพเพิ่มเติม .- สำนักข่าวไทย

2009-11-26 18:38:43

ยอดเหยื่อเหมืองระเบิดจีนเพิ่มเป็น 108 คน​

​

ปักกิ่ง 26 พ.ย. - หน่วยกู้ภัยจีนพบศพผู้สูญหายรายสุดท้ายจากเหตุแก๊สระเบิดเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน สรุปยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนรวม 108 คน

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่จีนว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 108 คน น่าจะเป็นยอดสุดท้ายแล้วนับจากจำนวนคนงานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุเวลานั้น ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต นับเป็นอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของจีน เจ้าหน้าที่สำนักงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน กล่าวว่า เหมืองแห่งนี้มีคนงานอยู่กันแออัดมากเกินไป และระบบระบายอากาศไม่พอ ขณะที่เกิดแก๊สระเบิดขึ้น จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

2009-11-26 11:04:52

แมงมุมหลังแดงมีพิษของออสเตรเลียกำลังบุกญี่ปุ่น​

​

โตเกียว 25 พ.ย. – นายโตชิโอะ คิชิโมโตะ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยสัตว์ป่าของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ขณะนี้แมงมุมหลังแดงมีพิษของออสเตรเลียกำลังออกอาละวาดในญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าพวกมันแอบเดินทางมากับเรือขนส่งสินค้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แมงมุมพันธุ์ดังกล่าวอาศัยอยู่อย่างแพร่หลายในเขตโอซากา และกำลังเข้าใกล้พื้นที่กรุงโตเกียว โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า พบประชาชนราว 10 คน ถูกแมงมุมชนิดดังกล่าวกัดในพื้นที่ของเขตโอซากา ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กชายวัย 6 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาด้วยเซรุ่มแก้พิษเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ตัวยาชนิดดังกล่าวภายในประเทศ

นายคิชิโมโตะ เปิดเผยว่า แมงมุมดังกล่าวมีพิษร้ายแรงและมีอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีสุขภาพอ่อนแอ เช่น เด็กหรือคนชรา ในขณะนี้ แมงมุมหลังแดงกำลังจะกลายมาเป็นแมงมุมสายพันธุ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่น และมีจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันตก และเมื่อแมงมุมดังกล่าวเริ่มแพร่พันธุ์ ก็เป็นการยากที่จะกำจัด ทั้งนี้ ในออสเตรเลีย มีรายงานผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากการถูกแมงมุมหลังแดงกัด แม้ว่าจะมีเซรุ่มต้านพิษในโรงพยาบาลหลายแห่งก็ตาม

ญี่ปุ่นพบแมงมุมหลังแดงครั้งแรกเมื่อปี 2538 โดยพบรอบ ๆ เขตโอซากา เมืองท่าสำคัญของประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า แมงมุมพันธุ์ดังกล่าวเดินทางมากับตู้คอนเทนเนอร์บรรจุไม้สับจากออสเตรเลีย และในหลายปีที่ผ่านมา ยังมีการพบแมงมุมหลังแดงในระบบท่อระบายน้ำตามถนน และขณะนี้ แมงมุมพันธุ์ดังกล่าวได้แพร่กระจายครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศ โดยนายคิชิโมโตะกล่าวว่า ประชาชนชาวญี่ปุ่นจะต้องหันมาระมัดระวังแมงมุมหลังแดง ซึ่งชอบหลบซ่อนอยู่ในกระท่อมในสวน รองเท้าที่วางไว้นอกบ้าน และใต้ที่นั่งชักโครกห้องน้ำ. -สำนักข่าวไทย

2009-11-25 15:43:04

คนงานรถไฟเกาหลีใต้ผละงานประท้วงในวันนี้​

​

โซล 26 พ.ย. – เจ้าหน้าที่รถไฟเกาหลีใต้ผละงานประท้วงในวันนี้ หลังการเจรจาต่อรองกับฝ่ายบริหารเรื่องเงื่อนไขการทำงานประสบความล้มเหลว ทำให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าของประเทศกลายเป็นอัมพาต

สหภาพแรงงานการรถไฟเกาหลีใต้เปิดเผยว่า สมาชิก 16,000 คน ได้ผละงานประท้วงในเช้าวันนี้ เพื่อกดดันให้ฝ่ายบริหารยินยอมตามข้อเรียกร้อง โดยการประท้วงดังกล่าวทำให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าของประเทศกลายเป็นอัมพาตถึงร้อยละ 96 มีรถไฟขนส่งสินค้าเพียงแค่ 11 ขบวน จากทั้งหมด 300 ขบวนต่อวันเท่านั้นที่สามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการรถไฟโดยสารและรถไฟใต้ดินมหานครยังไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ

ก่อนหน้านี้ สหภาพแรงงานเจรจากับฝ่ายบริหารเพื่อต่อรองขอขึ้นค่าแรง ปรับปรุงเงื่อนไขการทำงาน และรับพนักงานที่ถูกปลดออกเพราะผละงานประท้วงให้กลับเข้าทำงานอีกครั้ง แต่รายงานไม่ได้ระบุถึงความคืบหน้าในการเจรจาดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้นำสหภาพแรงงานออกมาอ้างว่า การประท้วงดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากฝ่ายบริหารถอนตัวออกจากการเจรจาฝ่ายเดียว รวมทั้งทำให้ข้อตกลงเรื่องค่าจ้างและเงื่อนไขการทำงานอื่น ๆ ก่อนหน้านี้เป็นโมฆะ แต่ฝ่ายบริหารของการรถไฟเกาหลีกล่าวว่า สหภาพแรงงานควรจะรับผิดชอบต่อความยุ่งยากที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากการผละงาน เนื่องจากได้ลงมติให้มีการประท้วงไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว

สหภาพแรงงานการรถไฟเกาหลีใต้ มีสมาชิกประมาณ 25,000 คน การรถไฟเกาหลีใต้ผูกขาดบริการรถไฟ โดยรองรับบริการขนส่งมวลชนและสินค้าในเกาหลีใต้ คิดเป็นร้อยละ 7 ของการขนส่งทั้งหมด. -สำนักข่าวไทย

2009-11-26 11:26:08

ผู้แสวงบุญเริ่มประกอบพิธีฮัจญ์วันแรก​

​

ซาอุดีอาระเบีย 26 พ.ย. - ผู้แสวงบุญจำนวนมากเริ่มต้นการประกอบพิธีฮัจญ์ในวันแรก ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มของทางการซาอุดีอาระเบีย

ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจากทั่วโลกที่หลั่งไหลไปรวมตัวยังนครเมกกะ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เตรียมร่วมประกอบพิธีฮัจญ์เป็นวันแรก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคง รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า แม้จำนวนผู้แสวงบุญจากต่างประเทศจะมากเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าจำนวนผู้แสวงบุญชาวซาอุดีอาระเบียเองน่าจะลดลงกว่าร้อยละ 40

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย เผยว่า พบผู้แสวงบุญ 4 คน เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และอีก 16 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในจำนวนนี้ 4 คน อาการสาหัส. - สำนักข่าวไทย

2009-11-26 02:46:33

เด็กสะอาดเกินไปผิวจะรักษาตัวเองช้า​

​

ซานดิเอโก 25 พ.ย.- นักวิจัยในสหรัฐแนะปล่อยให้เด็กสกปรกบ้างเพราะหากสะอาดเกินไปผิวหนังจะขาดแบคทีเรียที่ช่วยลดปฏิกิริยาของร่างกายไม่ให้แสดงออกมากเกินไปเมื่อเกิดบาดแผลหรือรอยถลอก

คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานดิเอโกเผยผลการศึกษาในเว็บไซต์เนเจอร์เมดิซีนว่า แบคทีเรียในตระกูลสแตฟฟิโลคอกคัสช่วยสกัดกระบวนการที่ทำให้ผิวหนังอักเสบ พวกเขาทดลองกับหนูและเซลล์มนุษย์ พบว่าแบคทีเรียที่ไม่เป็นอันตรายนี้ผลิตโมเลกุลลิโปเตโชอิกแอซิด (แอลทีเอ) คอยควบคุมคีราติโนไซต์ ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญบนผิวหนังชั้นนอกไม่ให้เกิดปฏิกิริยาต่อบาดแผลมากเกินไป ผลการทดลองนี้ช่วยให้เข้าใจสมมติฐานเรื่องสุขอนามัยที่ว่าการที่เด็กสัมผัสเชื้อโรคตั้งแต่ยังเล็กจะมีภูมิคุ้มกันเมื่อโตขึ้น ขณะเดียวกันทำให้ทราบถึงองค์ประกอบของปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองต่อบาดแผล นำไปสู่การคิดหาวิธีใหม่ในการรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนังอักเสบต่อไป

ด้านกลุ่มแพเรนท์ส เอาท์เลาด์ ชี้ว่า งานวิจัยนี้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนการรณรงค์ไม่ให้เด็กสะอาดจนเกินไป ส่วนมูลนิธิภูมิแพ้อังกฤษเห็นว่า จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม เพราะชาวอังกฤษเป็นภูมิแพ้มากขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทุก 1 ใน 3 คน จะเป็นภูมิแพ้อย่างใดอย่างหนึ่ง สาเหตุอาจเป็นเพราะคนได้รับข้อมูลมากขึ้น หรือเป็นผลจากพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม.- สำนักข่าวไทย

2009-11-25 13:34:36

ที่มา http://news.mcot.net