การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

ขออนุโมทนาครับ...เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ให้ทุกคนช่วยโลกใบนี้ด้วยการนั่งสมาธิ....
ในห้วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละคน

 

วันนี้ไปดูมา มีตอนที่ครอบครัวพระเอกออกมาจากบ้านแล้วบ้าน2ข้างทางค่อยๆพังครืนลง มันเหมือนที่ฝันเป๊ะเยย หึ ๆ

เป๊ะซะด้วย บ้านตึกไม่เกินสองสามชั้น

 

คุณชยุต

CWG#3 ได้แปลเพิ่มรึปล่าว
ถ้ามีเอามาโพสต์ หน่อยดิ่
ช่วงนี้เหงา ขาดการติดต่อกับพระเจ้า

 

โอ้...พระเจ้าช่วย

ข้าพเจ้ายังไม่มีเวลาไปแปลหนังสือเล่มนั้นหรอกครับ
เพราะข้าพเจ้าคิดว่าจะรอซื้อจากสำนักพิมพ์ที่เขากำลังแปลอยู่ดีกว่าครับ
เพราะไม่อยากไปทำงานซ้ำซ้อนกับเขา ไหนๆเขาก็กำลังทำอยู่แล้ว

และอีกอย่างหนึ่ง มีสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องอ่าน และ "คาดว่า" จะแปลลงเวป
มาให้ท่านทั้งหลายได้ศึกษาไปพร้อมกันด้วยอีกมากโขเลยครับ

แค่นี้ข้าพเจ้าก็หัวไม่ได้วาง หางไม่ได้เว้นแล้วหละครับ

สำหรับกระทู้นี้ ตอนนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็แล้วกันนะครับ
เพราะมันได้ทำหน้าที่ของมันเกือบจะเรียกได้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

แต่ว่าข้าพเจ้าก็อาจจะเอาข้อความสื่อสารทางจิตจากรูปธรรมชีวิตต่างมิติ
ที่เห็นว่าน่าสนใจมาลงให้อ่านบ้างเป็นครั้งคราวหนะนะครับ

กระทู้ต่อไป ที่มี "ดำริ" ว่าจะแปลแล้วเอามาลงให้อ่านหนะ เนื้อหาสุดยอดมากๆครับ
อาจจะเรียกได้ว่า เป็นภาคต่อของกระทู้นี้ก็ว่าได้ครับ

แต่ต้องรอนานหน่อยนะครับ ปีหน้าค่อยว่ากัน ขอใช้เวลาอ่าน แปล สรุป และเรียบเรียงก่อนครับ
เพราะเนื้อหามันเยอะมากๆ จากหลายๆแหล่งข้อมูล...ภาษาอังกฤษล้วนๆครับ

แต่ข้าพเจ้าก็ยินดีที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่เชื่อมข้อมูลจากโลกตะวันตก มาสู่ชาวไทย
ผ่านทางงานแปลของข้าพเจ้านี่แหละครับ

ไม่ได้อะไรจากการทำอย่างนี้หรอกครับ แต่อยากให้ผู้คนได้รู้อะไรดีๆ
และได้ยกระดับจิตสำนึกขึ้นไปด้วยกันหนะครับ


........................................................

 

ติดตามอ่านอยู่ครับ และคิดว่าหลายๆคนก็ใจจดใจจ่อ สำหรับข้อมูลจากหลายๆแหล่ง

เป็นกำลังใจให้ครับ

 

โอเค...จ้า.. สาธุ ด้วย
จะรออ่านละกัน มีคนตีตั๋วรอเยอะ
แต่หนังยังสร้างไม่เสร็จ รอกันไปก่อน นะพี่น้อง...
เจอกันปี 53 น้า.....

:boo:

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>การสื่อสารทางโทรจิตจาก Matthew Ward – 19 พฤศจิกายน 2009

ผู้รับการสื่อสาร: Suzy Ward
วันที่โพสต์: ศุกร์, 20 พฤศจิกายน 2009
ผู้โพสต์: Jane
ที่มา: International Spirit Guide - Spiritual Articles - Matthew Ward 19th November Channelling_Suzy Ward channelling Matthew Ward(38)

ตอนที่ 1 / 3



19 พฤศจิกายน 2009

พลังงานแห่งการรอคอยอย่างคาดหวัง, รายการโทรทัศน์เพื่อเปิดเผยรูปธรรมชีวิตต่างพิภพ, พื้นฐาน, “V”,
2012 และกลวิธีแห่งความกลัวอื่นๆ, ความเจ็บป่วยในยูเครน, พลังแห่งความรัก,
แก่นแท้ของวิญญาณเทพ/เทพธิดา, กายเนื้อของเด็กเปลี่ยนจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 4, ลางสังหรณ์,
ความคิด, ความท้าทายของการมีทั้งสองขั้ว, พันธสัญญาทางจิตวิญญาณ, ข้อตกลงก่อนการมาเกิด


1). นี่คือแมททิว จะมาแผ่คำทักทายแห่งความรักจากจิตวิญญาณทุกๆดวงในมิตินี้
และจะมาแบ่งปันสิ่งที่พวกเราสังเกตได้แก่พวกคุณ

ในช่วงขณะนี้ คำว่า”ช่วงขณะแห่งการรอคอยอย่างคาดหวัง” น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด
ที่จะใช้จำกัดความของความรู้สึกโดยรวมของจิตวิญญาณที่รู้แจ้งแล้วทั้งหลาย

ซึ่งนี่ก็ไม่ยกเว้นเรื่องเกี่ยวกับ การประกาศข่าว เรื่องการมีตัวตนอยู่จริง ของสมาชิกในครอบครัวชาวจักรวาล
ของพวกเรา ด้วยนะครับ

ซึ่งเรื่องนี้แหละ ที่เป็นเรื่องที่พลังงานแห่งการรอคอยอย่างคาดหวังพุ่งไปหาจำนวนมาก
พวกคุณบางคนก็รอคอยอย่างสงบ บางคนก็ตื่นเต้นมาก และผลจากการตรวจวัดพลังงานจากบางคนที่ตื่นเต้นมากๆ
ส่วนใหญ่ก็พบว่า พวกเขาอดใจรอแทบไม่ไหว และสะท้อนความคิดว่า

“เปิดการแสดงมันกลางถนนไปเลย”

และพลังงานของพวกคุณบางคน ก็เป็นพลังงานแห่งความกระตือรือร้น และสะท้อนความคิดว่า

“แสดงให้ฉันดู อย่างไร้ข้อกังขา”

แต่ว่าชาวโลกส่วนใหญ่ ก็ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย เกี่ยวกับการจะปรากฏตัว อย่างเป็นทางการ
ของรูปธรรมชีวิตต่างพิภพ ที่ใกล้จะมีขึ้นในเร็วๆนี้

2). ท่านฮาตั้น (Hatonn) ยินดีที่จะมาพูดเกี่ยวกับ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลังการประกาศข่าว
ต่อสาธรณชนในครั้งนี้ให้เราฟัง และตอนนี้เราจะไปฟังเขาพูดก่อน

3). Hatonn:
ขอบคุณมากครับแมททิวเพื่อนรัก ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพยานอวกาศระหว่างกาแล็กซี่
และผู้อำนวยการกองการติดต่อสื่อสารหลากมิติ ผมจึงค่อนข้างที่จะรู้มากเกี่ยวกับการเตรียมการ
เพื่อแพร่ภาพออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ระดับโลก ซึ่งจะนำเสนอหลักฐานข้อพิสูจน์เกี่ยวกับรูปธรรมชีวิตต่างพิภพในครั้งนี้

4). การรับรู้อย่างเป็นทางการนี้ ไม่สามารถจะล่าช้าได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง
ที่จะต้องทำให้เสร็จ ระหว่างขั้นตอนแห่งจักรวาลนี้ มันจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูความเสียหายร้ายแรง
ที่ดาวเคราะห์โลกได้ถูกกระทำไว้ เพื่อให้เธอสามารถมีสุขภาวะที่ดีกลับคืนมา
และเพื่อฟื้นฟูความน่าอยู่อาศัยของเธอให้กลับคืนมา เพื่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนเธอ
และจะเสียเวลามากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

พวกเรามาอยู่ที่นี่เพราะดาวเคราะห์โลกร้องขอให้พวกเรามาช่วย และเพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาต
เพราะว่าพวกเรามีความสามารถที่จะช่วยเธอได้ และพวกเราก็ยินดีที่จะช่วยด้วย
แต่ว่าตัวแทนของพวกคุณ คือผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจ เพราะว่านี่เป็นโลกของพวกคุณ

5). รายการโทรทัศน์ ที่จะประกาศข่าวการมีตัวตนอยู่ของพวกเรา เป็นภารกิจที่ซับซ้อน
ชาวโลกที่กำลังคาดหวังพวกเรา และยินดีต้อนรับพวกเรา ด้วยความเต็มใจนั้น มีน้อยมากๆ
และเพราะรายการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนอต่อมวลหมู่มหาชน ดังนั้น มันจึงต้องถูกนำเสนอ
โดยไม่ก่อให้เกิดความกลัว หรือปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงในทางลบมากจนเกินไป

มันยังมีกลุ่มผู้ต่อต้านการเปิดเผยให้ชาวโลกรับรู้ถึงการมีอยู่จริงของพวกเรา ที่ยากจะจัดการ อยู่อีกด้วย
และประเด็นความปลอดของบุคคล ผู้ที่จะมาร่วมในรายการทุกคน ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกอีกด้วย
เมื่อผมกล่าวถึงความปลอดภัย ผมหมายรวมไปถึงความปลอดภัยด้านอารมณ์ของประจักษ์พยาน
และผู้ร่วมรายการคนอื่นๆ และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย
ไม่เฉพาะความปลอดภัยด้านร่างกายเท่านั้น ซึ่งพวกเรามีแผนที่ดีสำหรับเรื่องนี้แล้ว

6). รายการนี้ จะต้องไม่ใช่แค่คลิปวีดีโอ ของการพบเห็นยานอวกาศทั่วๆไป
เพราะว่าในหลายๆพื้นที่ ได้มีปรากฏการณ์ให้ผู้คนต้องฮือฮากันแบบนี้ อยู่มากมายแล้ว อันนั้นเอาไว้เป็นกองหลัง

มันจะต้องมีหลักฐาน ที่แน่นหนามากพอ ที่จะพิสูจน์ความมีอยู่จริงของพวกเรา
ซึ่งจะต้องมีพยานบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

การเข้าให้การเป็นพยานต่อหน้าคณะลูกขุน ที่ให้การรับประกันต่อพยานว่า
จะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาไว้เป็นความลับนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกัน
กับการที่จะให้ทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร
และในทำนองเดียวกัน สำหรับบุคคลผู้ที่ได้ทำงานกับพวกเรามาตลอด หรืออย่างน้อยก็รู้ว่าพวกเรามาที่นี่ทำไมก็ด้วย

พยานบางคน ได้ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าร่วมในการให้การเป็นพยาน ด้วยการปฏิญาณตัว
หรือด้วยการถูกประกาศว่า เป็นคนวิกลจริตหรือเป็นคนบ้า ในบางกรณี หลายครอบครัวก็ถูกคุกคาม ขู่เข็ญ
และถูกฆ่าโดยกลุ่มคนที่ไม่เป็นที่รู้จัก เพราะคนพวกนี้ไม่ต้องการให้พวกคุณได้รับรู้ว่าพวกเรามีตัวตนอยู่จริง
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้รู้ว่าพวกเราอยู่ตรงนี้กับพวกคุณในขณะนี้

ผู้ที่รับผิดชอบทำรายการนี้ ต้องการให้ทุกๆคนที่ต้องการจะพูดถึงประสบการณ์ของตนเอง
รู้สึกว่ามีความปลอดภัยทางอารมณ์ที่จะพูดด้วย

7). นี่คือปฏิบัติการระดับนานาชาติ และมันก็สำคัญที่ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลของประเทศต่างๆด้วย

การตัดสินใจเรื่องหลักๆได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่าง กำลังตกลงกันอยู่ เช่น

- ตัวแทนฝ่ายของพวกคุณบางคน จะช่วยกล่าวแนะนำตอนต้นรายการให้ก่อน
แล้วจากนั้นค่อยปล่อยข้อมูลออกมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งด้วยวิธีนี้ จะทำให้ประชาชนไม่รู้สึกตกตะลึงมากจนเกินไป

- พวกเขาเสนอแนะว่า ตอนเริ่มต้นรายการ ควรจะกล่าวถึงว่ามียานอวกาศจากต่างดาว
มาปรากฏให้เห็นตลอดหลายปีที่ผ่านก่อน ซึ่งพวกเขาไม่ได้มาร้าย และข้อมูลอื่นๆที่จัดเตรียมไว้ ก็ค่อยปล่อยตามออกมา

- บางคนก็ต้องการให้ในรายการ มีการตอบข้อสงสัยต่างๆทั้งหมด และให้ตัวแทนฝ่ายของพวกเราบางคน
ตอบคำถามว่าพวกเขาได้มาช่วยโลกทำอะไรไปแล้วบ้าง ไอ้ที่พวกเราเรียกมันว่า

“การเปลี่ยนระดับ (Shift)” หรือ “การชำระ (Cleansing)” หนะ

- บางคนก็คิดว่า ชาวโลกอาจจะกลัวได้ ถ้าให้พวกเขาเห็นพวกเราในรูปลักษณ์ปกติของพวกเรา
เหมือนอย่างที่พวกเราเป็นอยู่ บนดาวแม่ของพวกเราเอง เพราะว่าไม่ใช่พวกเราทั้งหมดหรอกนะ
ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพวกคุณ

- บางคนก็บอกว่า พวกเราควรจะแสดงรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเราให้พวกเขาได้เห็นไปเลย
เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเราไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับคุณ

- บางคนก็บคิดว่า ถ้าในขณะนั้น ให้มีการรายงานข่าวสด ของการกำลังปรากฏตัวของยานแม่ด้วยนี่
น่าจะเป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน

- แต่บางคนก็คิดว่า นั่นมันจะดูเหมือนการมาคุกคามมากกว่าที่จะมาช่วยให้คลายความกังวลซะอีก

8). ข้อมูลแบบไหนที่จะนำเสนอในรายการนั้นได้ และจะเปิดเผยข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน โดยไม่ให้เกินพิกัดจนเกินไป
กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

- มันจะเป็นประโยชน์ หรือเป็นโทษหากจะอธิบายว่า ดาวเคราะห์โลก
กำลังโคจรออกนอกวงโคจรปกติของเธออยู่ ด้วยความตั้งใจ
และต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา ทั้งจากนอกโลกและบนโลก ?

- เราควรจะบอกดีไหม๊ว่า ดาวเคราะห์โลก ก็เป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณชนิดหนึ่ง ?

- เราจะสามารถกล่าวถึงเทคโนโลยีของพวกเราได้มากแค่ไหน โดยไม่ทำให้ชาวโลกเกิดความกลัว
หากว่าพวกเรานำมันมาใช้ ?

- มันจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่งี่เง่า หรือเป็นเรื่องที่ทำให้เบาใจมากกว่ากัน หากจะบอกว่า
การที่พวกเราได้มาอยู่ที่นี่ พวกเราได้ช่วยปกป้องโลก จากการพยายามรุกรานของมนุษย์ต่างดาวอีกฝ่ายหนึ่ง อยู่ ?

- เรื่องที่ถูกปกปิดไว้ ควรจะนำมาเปิดเผยให้รู้ได้มากน้อยแค่ไหน ?

- เราควรจะบอกเรื่องที่รัฐบาลต่างๆของพวกคุณ ได้เคยปฏิเสธข้อเสนอของพวกเรา
ที่เคยยื่นข้อเสนอ เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีของพวกเรา กับการยุติการพัฒนาอาวุธและการสงครามของพวกเขา
ซึ่งมันสามารถทำลายล้างพวกคุณทั้งหมดได้ นั้นดีไหม๊ ?

- มันจะมีผลกระทบอย่างไร หากบอกให้ชาวโลกรู้ว่า มีรูปธรรมชีวิตต่างดาว ทั้งฝ่ายธรรมะ และ ฝ่ายอธรรมมากมาย
ที่ได้มาดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกคุณ จนกระทั่งในขณะนี้ และก็กำลังส่งอิทธิพล
ต่อวิถีชีวิตของพวกคุณอยู่ในขณะนี้ด้วย ?

- รายการนี้ ควรจะนำเอาผู้ที่เคยถูกลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว ทั้งฝ่ายเทพและฝ่ายมาร
มาบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันดีไหม๊ ?

- เราควรจะบอกอะไรเกี่ยวกับ “เจ้าสีเทาตัวน้อย” (Little Greys) ทั้งหลาย
ที่ได้มาอาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ใต้พื้นโลกนี้ มานานหลายปีแล้วดี ?

- เราควรจะนำโฆษกที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักการเมือง นักการศาสนาต่างๆ มาร่วมในรายการด้วยจำนวนเท่าไหร่ดี ?

9). มันมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากมาย ว่าจะแพร่ภาพออกอากาศเมื่อไหร่ดี

รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ครั้งหนึ่งเคยออกมาปฏิเสธการมีตัวตนอยู่ของพวกเรามากที่สุด
แต่ตอนนี้ กลับสนับสนุนให้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยให้เร็วที่สุด

- ตัวแทนของพวกคุณบางคน ต้องการที่จะทำประชาพิจารณ์ เพื่อสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนมากกว่านี้ก่อน
เพื่อที่จะได้รู้ว่าข้อมูลระดับลึกแค่ไหน ที่ชาวโลกสามารถรับได้ในตอนนี้

- บางคนจากทั้งฝ่ายเราและฝ่ายพวกคุณ ก็อยากที่จะให้มีการรายงานกับผู้นำประเทศทุกๆประเทศ
เป็นการส่วนตัวก่อน ว่าจะมีอะไรในรายการนี้

- แต่หลายคนก็บอกว่า แค่ส่งเค้าโครงของรายการไปให้แต่ละท่านดู ก็น่าจะเป็นมารยาททางการทูตที่ดีเพียงพอแล้ว

10). กระบวนการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ ที่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ตอนนี้ ได้มาถึงจุดที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ก็จะปรากฏออกมาสู่ภายนอกได้แล้ว

รายการ “ปลุกโลกให้ตื่น” (Earth Awakening) นี้ ก็จะถึงเวลาออกอากาศ

ผู้ที่เคลื่อนไหว และ ผู้ที่เขย่าทั้งหลาย ที่มีความซื่อสัตย์ มีสติปัญญา และมีความเชื่อมั่นทางจิตวิญญาณ
จะไม่ถูกครอบงำโดยการขู่เข็ญ สินบน และแม้แต่การพยายามลอบสังหารโดยกลุ่มผู้ต่อต้าน

ซึ่งกลุ่มผู้ต่อต้านนี้คุณอาจจะเรียกพวกเขาว่า “อิลลูมินาติ” (Illuminati)
หรือกลุ่ม “อีลิต”(Elite) ก็ได้ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างลับๆ เพื่อจุดประสงคืทางการเมือง
หรือ “รัฐบาลแห่งโลกใหม่” (New World Government) หรือ “รัฐบาลลึกลับ” (Secret Government),
หรือ “ผู้บงการแห่งโลกใหม่” (New World Order) หรือ ฝ่ายมืด

ซึ่งไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตามแต่ แต่มันก็คืออย่างเดียวกัน

มันคือกลุ่มคนหลายๆกลุ่ม ที่อยู่ในสถานะแตกต่างกันมากมาย ที่ปฏิบัติการภายใต้อิทธิพลของพลังจากโลกมืด
ซึ่งส่งมาในรูปแบบของ สนามพลังงานแห่งกระแสจิตด้านลบอันมหาศาล
ซึ่งเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นความลับ มากเกินกว่าที่จะเผยแพร่ออกไปในรายการนั้นได้

แต่ข้อเท็จจริงทั้งหมด เกี่ยวกับกลุ่มประชากรชาวจักรวาลทั้งหลายเหล่านี้ จะถูกเปิดเผย
เมื่อดาวเคราะห์โลกได้เจริญก้าวหน้า เข้าไปสู่ระนาบพลังงานที่สูงขึ้นไปได้แล้ว

ผมคิดว่านี่น่าจะครอบคลุมทุกอย่างแล้วนะ

ขอบคุณมากนะครับแมททิว


(ยังมีต่อครับ)
.......................................

 

การสื่อสารทางโทรจิตจาก Matthew Ward – 19 พฤศจิกายน 2009

ผู้รับการสื่อสาร: Suzy Ward
วันที่โพสต์: ศุกร์, 20 พฤศจิกายน 2009
ผู้โพสต์: Jane
ที่มา: International Spirit Guide - Spiritual Articles - Matthew Ward 19th November Channelling_Suzy Ward channelling Matthew Ward(38)

ตอนที่ 2 / 3

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>11). Matthew: ขอบคุณครับท่าน Hatonn

และตอนนี้ ก็เป็นเวลาที่ดีที่จะมาตอบคำถามต่างๆที่ได้รวบรวมเอาไว้กันแล้ว

การพิสูจน์ถึงการมีตัวตนอยู่จริงของรูปธรรมชีวิตต่างพิภพ จะทำให้มนุษยชาติตื่นขึ้นทางจิตวิญญาณ
สู่ความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสรรพสิ่งกับพระผู้เป็นเจ้าได้ง่ายขึ้นหรือไม่ ?

พวกเราก็ปรารถนาให้เกิดสิ่งนั้นขึ้น กับมนุษย์โลกทุกคน มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นั่นแหละ
แต่พวกเราคงต้องบอกว่า มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก การพิสูจน์ถึงความมีอยู่ของรูปธรรมชีวิตทรงภูมิปัญญานอกโลก
จะไม่ทำให้เกิดการรู้แจ้งทางจิตวิญญาณ แก่อารยธรรมที่อาศัยอยู่ในมิติที่ 3 นี้ โดยอัตโนมัติหรอก
และชาวโลกส่วนใหญ่ ก็จะยังคงมีระดับจิตวิญญาณ อยู่ในระดับเดิมนั้นต่อไปนั่นแหละ

เกี่ยวกับข้อเท็จจริงหลายอย่าง ซึ่งได้ถูกปกปิดเอาไว้มานานแล้ว ที่จะถูกเปิดเผยขึ้นมานั้น
มีอยู่อย่างหนึ่ง ที่หลายคนยากที่จะยอมรับมากที่สุด คือต้นกำเนิดและวัตถุประสงค์ของศาสนาบางศาสนา
และมันก็จะมีการต่อต้านอย่างรุนแรงขึ้น ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ที่แน่นหนามากเพียงพอ

เพราะความไม่เข้าใจว่า มีคนบางคนที่ละโมบ กระหายอำนาจ ได้ประดิษฐ์หลักคำสอนทางศาสนาต่างๆขึ้นมา
เพื่อใช้ควบคุม และแบ่งแยกชาวโลกออกจากกัน และทำให้พระผู้เป็นเจ้ากลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
ที่คอยตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆให้ใครๆต้องปฏิบัติตาม ทั้งๆที่เป็นบุคคลเหล่านั้นเองหนะแหละ
ที่สร้างกฎเกณฑ์เหล่านั้นขึ้นมา เพื่อสนองความต้องการของตนเอง

และเพราะว่าสาส์นจากพระผู้เป็นเจ้า ที่ถ่ายทอดผ่านมาทางผู้รับสาส์นตัวจริงทั้งหลาย ก็ถูกบิดเบือนและถูกละเลยไปเสีย
ในคัมภีร์ทางศาสนาทั้งหลาย มันจึงไม่ทำให้เกิดการวิวัฒน์ทางจิตวิญญาณ
และการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ ได้แต่อย่างใด

12). ท่าน Hatonn ได้กล่าวถึงการต่อต้านที่ยากจะจัดการ ต่อการรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่จริง
ของรูปธรรมชีวิตต่างพิภพ การต่อต้านที่ว่านี้ รวมถึงการสร้างความหวาดกลัวต่อรูปธรรมชีวิตนอกโลกทั้งหลาย
ผ่านทางภาพยนตร์หลายๆเรื่องด้วย ซึ่งพวกมารได้ใช้วิธีการนี้ ผ่านแหล่งบันเทิงเริงรมย์ทั้งหลายมานานแล้ว

ในขณะเดียวกัน มันก็อาจจะปรากฏว่า มีรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่ชื่อว่า “V”
ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเสวนากันเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เกี่ยวกับการเปิดเผยตัวตนของพวกเรา
ให้ชาวโลกได้รับรู้อย่างเป็นทางการแล้ว พวกเขาก็ได้วางแผนอย่างแยบยล
ที่จะทำให้รายการโทรทัศน์ที่จะเปิดเผยดังกล่าวนี้ ดูมีเลศนัยแอบแฝงเป็นอย่างอื่น
เพื่อบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดกลัวขึ้น

เช่นเดียวกันกับภาพยนตร์เรื่อง 2012 ที่ออกแบบมา เพื่อก่อให้เกิดความหวาดกลัวขึ้น
เพราะคิดว่าโลกอาจจะมาถึงจุดจบ เหมือนอย่างที่ศาสนาหลายๆศาสนาได้พยากรณ์ไว้จริงๆ

เพราะว่าสื่อเพื่อความบันเทิงนั่นเองแหละ ที่คอยชี้นำให้เกิดความเชื่อและความกลัวต่อมนุษย์ต่างดาวอยู่
นี่ยังไม่ได้พูดถึงการชี้นำไปสู่ความรุนแรง ด้วยสื่อเพื่อความบันเทิงที่เป็นที่นิยมกันอยู่ในรูปแบบอื่นๆเลยนะเนี่ย

พวกคุณคงรู้แล้วว่า ทำไมพวกเราจึงต้องพิจารณากันอย่างพิถีพิถันกันนักกันหนา ในทุกๆด้าน
เกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ ที่จะเปิดเผยตัวตนของพวกเรานี้

13). ความกลัว คืออาวุธที่ทรงพลังมาก ที่ฝ่ายมืดได้ใช้ต่อสู้กับฝ่ายแสงสว่างมาโดยตลอด
เพราะว่าพลังงานของความกลัว ไม่ใช่แค่จะไปสร้างกำแพงขวางกั้น การติดต่อระหว่างจิตสำนึก
กับจิตวิญญาณของมนุษย์ไว้ได้เท่านั้น แต่มันยังจะไปเติมเชื้อเพลิง ให้กับความมืด ให้เจริญเติบโตได้ดีขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย

วิธีการอื่นๆ เพื่อให้พวกมารบรรลุวัตถุประสงค์ทั้ง 2 อย่างนี้ และเพื่อลดจำนวนประชากรของโลกลง
ก็คือ การพัฒนาไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ๆขึ้นมา ซึ่งสายพันธุ์ที่สำคัญๆและชั่วร้ายที่สุดของพวกมัน
ก็คือสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคระบาดรุนแรงขึ้น ซึ่งในประวัติศาสตร์ของพวกคุณ
ก็เคยได้เผชิญกับความหวาดกลัวและความตาย กันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
นี่คือการสร้างสภาวะให้เกิดการล้มตายกันขึ้นมากๆบนโลก เพื่อให้ชาวโลก
ผลิตพลังงานแห่งความหวาดกลัวออกมา ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

14). ความเจ็บป่วยที่ลึกลับ ที่กำลังจู่โจมประทศยูเครนอยู่ในขณะนี้ และก็กำลังแพร่ระบาดออกไป
ยังประเทศข้างเคียงอยู่ในขณะนี้ คือผลจากการพัฒนาต่อเนื่อง ของอาวุธเชื้อโรคชนิดหนึ่ง ของฝ่ายมืด
หลังจากที่พวกมันล้มเหลว จากการปุกปั่นกระแสความกลัวและความตายระดับโลกขึ้น
โดยใช้ไวรัส SARS, ไข้หวัดนก และไข้หวัดหมู (N1H1) ไปแล้ว เพราะว่าพวกเรา
ได้ทำให้พวกมันเป็นกลาง โดยใช้เทคโนโลยีจากครอบครัวชาวจักรวาลของพวกเราไปแล้ว

เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในยูเครนอยู่ขณะนี้ เป็นผลจากการพัฒนารวมสายพันธุ์ไวรัสเข้าด้วยกัน
โดยผู้ที่อยู่ฝ่ายมืด เพื่อให้มันไม่สามารถถูกทำลายได้ง่ายๆ เหมือนกับ 3 สายพันธุ์ที่แล้ว
ซึ่งมีความเป็นพิษน้อยกว่า และถูกพัฒนาขึ้นจากห้องปฏิบัติการเหมือนๆกัน

15). การแพร่ระบาดของโรค และการล้มตายของผู้คนเป็นจำนวนมากจะไม่เกิดขึ้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถรักษาผู้ป่วยทุกรายให้หายได้ เพราะว่าคนบางคน
ก็ตายเพราะหมดอายุขัย ที่ได้เลือกเอาไว้เอง ตั้งแต่ก่อนการลงมาเกิด

บางคนก็ตายจากไป ก่อนที่จะทำพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณให้บรรลุผล

ในสรวงสวรรค์ จิตวิญญาณเหล่านั้น จะพบว่าการทำให้บทเรียนแห่งกรรมของมิติที่ 3 ที่พวกเขาได้เลือกเอาไว้
บรรลุผลนั้น มันง่ายดายกว่าที่จะทำได้ในช่วงชีวิตที่มีกายเนื้ออยู่มาก เพราะว่าทุกๆบทเรียน
มันไม่ใช่การเรียนรู้ใหม่อะไร แต่มันแค่เป็นการระลึกรู้สิ่งที่จิตวิญญาณของคุณรู้ดีอยู่แล้วเท่านั้นเอง
และเพราะว่าทุกๆบทเรียน จะถูกทำให้ง่ายขึ้นด้วยพลังงานแห่งความรักในโลกจิตวิญญาณของดาวเคราะห์โลก

นี่คือความจริงสำหรับทุกๆคนที่ได้ตายไปแล้ว หรือกำลังจะตายจากโลกนี้ไป ก่อนที่จะทำภารกิจให้บรรลุผล
รวมถึงผู้ที่ได้ร้องขอที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณดั้งเดิมของตนเองด้วย

16). อีกสาเหตุหนึ่งแห่งความกลัว ที่ได้แพร่ระบาดทั่วไปอยู่ในขณะนี้ ก็คือ
การขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อากาศบริสุทธิ์, อาหาร, และน้ำ เป็นต้น

ซึ่งผู้ที่อยู่ฝ่ายมืดทั้งหลาย ก็ไม่ยอมลดราวาศอก ที่จะหมั่นเพียรทำให้ธรรมชาติของโลกแปดเปื้อนอยู่ต่อไป
พอๆกับการที่ปฏิเสธความช่วยเหลือ แม้แต่ด้านปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
แก่ประชากรของโลกนับพันๆล้านคน

ฝ่ายมืด ได้ควบคุมชาวโลกไว้นานแสนนานมาแล้ว โดยผ่านทางการปลูกฝังความหวาดกลัว
ผ่านทางสภาวะกดดันทางด้านจิตใจ และผ่านทางสถานการณ์ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ๆ
เพื่อทำให้เกิดการเสียขวัญ, ความเจ็บไข้ได้ป่วย, ความทุกข์ทรมาน, และความตายแก่ผู้คนบนโลกนี้

17). ผมต้องการอธิบายถึงประโยคที่ผมได้พูดไปแล้วเมื่อครั้งก่อน ให้ผู้อ่านหลายคน
ที่ตีความข้อความของผมผิดไปว่า ผมบอกว่า อาหารดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) ไม่มีอันตรายอีกซักเล็กน้อย

ไม่ ! ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย ! เพราะผมได้บอกไปว่า อาหารดัดแปลงพันธุกรรม
และอาหารที่ปลูกได้เพียงฤดูกาลเดียวนั้น เป็นหนึ่งในตัวอย่างของสิ่งที่ฝ่ายมืด
ได้คิดค้นขึ้นมา เพื่อสร้างผลกระทบในแง่ลบให้แก่ชีวิตของพวกคุณ และเพื่อบำรุงรักษาความหวาดกลัว
ให้เจริญงอกงามอยู่ต่อไป

คุณแม่ครับ กรุณาคัดลอกข้อความในส่วนที่ผมกำลังกล่าวถึงอยู่นี้ มาลงไว้หน่อยนะครับ

“ข้อมูลอื่นๆที่ส่งเวียนถึงกันอยู่ ก็ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อก่อให้เกิดความกลัวขึ้น
เช่น เมล็ดพันธุ์ ผลไม้ และพืชผัก ที่ผลิตขึ้นมาโดยวิธีการติดตา ต่อกิ่ง
และบริโภคกันมายาวนานหลายทศวรรษ โดยปราศจากอันตรายใดๆแล้วนั้น
ดังนั้น อาหารที่ได้จากวิธีการดัดแปลงพันธุกรรม (Genetically Modified Foods)
จะเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่?

และการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ด้วย
ซึ่งก็เหมือนกับประดิษฐกรรมอื่นๆที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ทั้งหลาย มันก็จะมีอายุสั้นเหมือนกัน
เวลากำลังจะหมดลงแล้วสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดจากโลกมืด”

18). ขอบคุณครับคุณแม่ ผมเพิ่งมาระลึกได้ว่า ข้อความของผมอาจจะถูกถ่ายทอดได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
ว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรม และเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ มาจากเจตนารมณ์ด้านมืด
เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้น แต่เพราะว่าในตอนนั้น ทั้งคุณแม่ของผมและตัวผมเอง
ต่างก็เข้าใจความหมายนี้ดีแล้ว ดังนั้น พวกเราจึงไม่มีใครฉุกคิดว่า เราควรจะกล่าวให้ชัดเจนกว่านี้อีก

และผมคิดว่าผมน่าจะกล่าวย้ำถึงประโยคช่วงสุดท้าย ของข้อความที่ตัดตอนมานี้อีกสักหน่อย
ถึงแม้ว่ามันจะไม่กำกวมแต่อย่างใดก็ตาม ว่า

“เวลากำลังจะหมดลงแล้วสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดจากโลกมืด”

(ยังมีต่อครับ)
............................................
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->

 

ตอนที่ 3/3 สุดท้ายนี้
มีเนื้อหาท้าทายความเชื่อเดิมของพวกเรามากๆเลยนะครับ

แต่ผมคิดไปคิดมาแล้วก็..คิดว่าน่าจะโพสต์ๆไปเถอะ
เพราะคนอ่าน เขาก็คงจะใช้วิจารณญาณของเขาเองแหละ

และอีกอย่าง ผมคิดว่า รับรู้ไว้ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
เพราะเราก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามัน "ไม่จริง"

เอ่อ...จะว่าไปแล้ว ก็มีเนื้อหาคล้ายๆที่อาจารย์ โนวา อนาลัยพูดไว้เหมือนกันนะเนี่ย



เอ๊า..ลองอ่านกันดู และพิจารณากันดูเอาเองนะครับ

..................................................

 

การสื่อสารทางโทรจิตจาก Matthew Ward – 19 พฤศจิกายน 2009

ผู้รับการสื่อสาร: Suzy Ward
วันที่โพสต์: ศุกร์, 20 พฤศจิกายน 2009
ผู้โพสต์: Jane
ที่มา: International Spirit Guide - Spiritual Articles - Matthew Ward 19th November Channelling_Suzy Ward channelling Matthew Ward(38)

ตอนที่ 3 / 3

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} /* List Definitions */ @list l0 {mso-list-id:641619709; mso-list-type:hybrid; mso-list-template-ids:-1759973412 -2006951728 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715;} @list l0:level1 {mso-level-start-at:6; mso-level-tab-stop:36.0pt; mso-level-number-position:left; text-indent:-18.0pt; mso-bidi-language:TH;} @list l1 {mso-list-id:1110516328; mso-list-type:hybrid; mso-list-template-ids:1505018420 2143616208 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715;} @list l1:level1 {mso-level-start-at:29; mso-level-tab-stop:36.0pt; mso-level-number-position:left; text-indent:-18.0pt; font-family:Arial; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} ol {margin-bottom:0cm;} ul {margin-bottom:0cm;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->20). พวกเราเข้าใจว่า เมื่อพวกคุณเห็นโลกของพวกคุณตกอยู่ในสภาวะแห่งความสับสนอลหม่าน
จากความทรมาน ความโศกเศร้า ความหิวกระหาย โรคภัยไข้เจ็บ และความยากจน
และสิ่งที่ข่าวสารทั้งหลายพุ่งประเด็นนำเสนอแล้ว
มันก็เลยเป็นการยากสำหรับพวกคุณ ที่จะมองให้เห็นความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ความสวยงาม
และความดีงามที่พบได้บ่อยๆในโลกของพวกคุณ มันอยู่รอบๆตัวพวกคุณเสมออย่างอุดมสมบูรณ์
หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อของพวกคุณ แต่มันอยู่ใกล้จิตวิญญาณของพวกคุณมาก

เมื่อใดที่คุณรู้สึกว่า คุณได้รับข่าวสารด้านลบมากเกินไป คุณจงนึกภาพขึ้นในใจว่า มีโลกแห่งความสงบสุข
และความรักความเมตตา กำลังรอคอยคุณอยู่ เมื่อถึงเวลานั้น

แต่ในระดับของกาลเวลาแห่งจักรวาลแล้ว มันได้มีอยู่เรียบร้อยแล้ว

จงปล่อยให้ความรู้สึกสุขสันต์และความรักความเมตตา หลั่งไหลเข้า-ออกจิตใจของคุณ
เพราะความรักมีศักยภาพที่ประมาณค่าไม่ได้ ที่จะสามารถยกระดับจิตใจของคุณและของคนรอบๆข้างคุณทุกคน
ให้สูงขึ้นได้ และพลังงานนี้ มีอำนาจมหาศาล ที่จะแผ่ไปสู่ดินแดนอันไกลโพ้นอื่นๆได้

21). แต่ตราบจนกระทั่งบัดนี้ ก็ไม่ใช่ว่าทุกๆคนจะเลือกที่จะโอบกอดเอาพลังงานนี้ไว้หรอกนะครับ
แม้ว่ามันจะส่งผลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เกิดการเปิดใจสู่สัจธรรมต่างๆก็ตาม
ซึ่งสัจธรรมอันสูงสุดในบรรดาสัจธรรมทั้งหลายนี้ก็คือ

“ความเป็นหนึ่งเดียวกัน” ของทุกสรรพสิ่ง
“ความแบ่งแยกไม่ได้” ของทุกๆชีวิตแห่งพระผู้เป็นเจ้า และพระผู้สร้าง

เพราะฉะนั้น จงอย่ารู้สึกเสียใจ หากว่ามีบุคคลอันเป็นที่รักของคุณ ไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างได้
และโปรดอย่ารู้สึกว่า มันเป็นความรับผิดชอบของคุณ ที่จะต้องไปกระตุ้นพวกเขา
เพราะทุกๆคนมีช่วงเวลาที่จะตื่นขึ้นมาเป็นของตนเอง หากไม่ใช่ในช่วงชีวิตนี้ ก็อาจจะเป็นในชาติต่อๆไป
ด้วยโอกาสเพื่อการเจริญเติบโตด้านจิตวิญญาณที่เหมือนๆกัน

ไม่ว่าคุณและบุคคลที่คุณรักจะไปอยู่ในมิติไหนก็ตาม พันธะแห่งความรักอันเป็นนิรันดร์
ก็จะยังคงอยู่กับคุณตลอดไป เพราะว่าชีวิตก็สิ่งอันเป็นนิรันดร์ จิตวิญญาณคือสิ่งที่เป็นอมตะ

22). ถ้าหากฉันมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นความเป็นพระเจ้าผู้ชาย-พระเจ้าผู้หญิง <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
(อันที่จริงศัพท์มันคือ god & goddess ซึ่งถ้าแปลตรงๆ ก็จะได้ว่าเทพบุตร – เทพธิดานั่นแหละ
แต่ผมว่ามันยังไม่ตรงความหมายซะทีเดียว ก็เลยขอใช้คำที่แปลไปนี้ก็แล้วกันนะครับ – Chayutt)
ของตนเองและของผู้อื่นแล้ว ปัญหานี้จะลดโอกาสที่ฉันจะได้เลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมกับโลกหรือไม่ ?

ใครก็ตามที่สำคัญตัวเองว่า เป็นภาพลักษณ์ใดภาพลักษณ์หนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า
แสดงว่าเขาผู้นั้นกำลังมองดูตัวเองและผู้อื่นจากภายนอก แทนที่จะรับรู้มาจากภายใน

เพศชาย-เพศหญิง คือสิ่งที่พวกคุณแต่ละคน ได้เลือกตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิด ที่จะมาเป็นในภพชาตินี้

คุณถูกกำหนดให้มาเป็นพระเจ้าผู้ชาย หรือพระเจ้าผู้หญิง แต่ความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้ ไม่ใช่สาระสำคัญ

จงรู้ว่าพวกคุณทุกๆคน คือส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า
พระผู้เป็นเจ้าคือสิ่งที่เป็นทั้งเพศชายและเพศหญิง และไม่ใช่ทั้งเพศชายและเพศหญิง ในขณะเดียวกัน
เป็นสิ่งที่มีความสมดุลระหว่างพลังของทั้งเพศชายและเพศหญิง
และเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเพศเลยแม้แต่น้อย แต่เกี่ยวข้องกับแก่นแท้ของจิตวิญญาณมากกว่า

23). มันอาจจะเป็นประโยชน์ และถูกต้องเหมือนกัน ที่จะคิดว่ามนุษย์คือแก่นแท้ของพระผู้เป็นเจ้า
แทนที่จะคิดว่ามนุษย์แต่ละคนคือพระเจ้าผู้ชาย หรือพระเจ้าผู้หญิง เพราะมันเป็นเครื่องแสดงเพศ
ที่แต่ละคนเลือกมาใช้เฉพาะในชาติภพนี้เท่านั้น เพราะว่าสิ่งนี้มันสามารถนำไปสู่คำถามเกี่ยวกับผู้ที่ผิดเพศต่อไปได้อีก

ผมขอย้ำว่า มันคือ “แก่นแท้” ที่เป็นสาระสำคัญของชีวิต ไม่ใช่รูปลักษณ์หรือรายละเอียดปลีกย่อย
หรือเรื่องทางเพศ หรือเพศ

มันเป็นทางเลือกของพวกคุณแต่ละคน ที่จะเลือกนำเอาแก่นแท้ ซึ่งเป็นตัวก่อเกิดชีวิตอันนั้น
มาใช้ในการดำเนินชีวิต บนหนทางแห่งพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่

ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ของเรา เชื่อมต่ออยู่กับพระผู้เป็นเจ้า และไม่สามารถแบ่งแยกออกจากพระผู้เป็นเจ้าได้ตราบชั่วนิรันดร์

ไม่ว่าคุณจะเรียกพระผู้เป็นเจ้านี้ว่าอะไรก็ตาม แต่ทุกๆสรรพชีวิตก็ยังจะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวนั้นอยู่ตลอดไป

การรู้จักสิ่งนี้ การรู้สึกถึงสิ่งนี้ นี่คือส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ ที่จะทำให้คุณเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่สูงขึ้นได้

24). ทารกและเด็กๆทั้งหลาย จะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมกับโลกด้วยไหม๊ ?

ใช่, พวกเขาจะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมกับโลกจริงๆ นอกเสียจากว่า คนผู้นั้น ได้เลือกที่จะมาเกิดในเวลาอันสั้นมากๆ
เพื่อทำประโยชน์บางอย่าง ให้กับตัวเองและผู้อื่น ตามพันธะสัญญาที่ได้ทำไว้ตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิดแล้วเท่านั้น

25). แล้วการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอะไร ที่พวกเด็กๆจะต้องเผชิญบ้าง
เมื่อร่างกายของพวกเขาเปลี่ยนระดับไปสู่มิติที่ 4 แล้ว ?

บางคนที่เพิ่งลงมาเกิด ก็มีโครงสร้างของเซลในร่างกาย เป็นคริสตอลแล้ว
ซึ่งเด็กๆเหล่านี้ จะไม่มีอาการทางกายและทางอารมณ์ อันไม่น่าพึงพอใจ มากเหมือนกับพวกผู้ใหญ่
ที่โครงสร้างเซลของร่างกาย กำลังปรับเปลี่ยนจาก Carbon-based ไปเป็น Crystalline

ในส่วนของผู้ใหญ่ การปรับเปลี่ยน จะเป็นแบบถอนรากถอนโคน และสลัดทิ้งรูปแบบความคิดทั้งหลาย
ที่ถูกฝังอยู่ในความทรงจำระดับเซล ซึ่งก่อให้เกิดระบบความเชื่อ และพฤติกรรมต่างๆขึ้น

เพราะว่าพวกเด็กๆ เพิ่งเกิดมายังไม่นาน และยังไม่ได้ถูกปลูกฝังระบบความเชื่อและความคิดแน่นหนามากนัก
พวกเขาจึงตอบสนองต่อคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นได้มากกว่า และเป็นบวกมากกว่าพวกผู้ใหญ่

มนุษย์ที่เพิ่งเกิดมาภายใน 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้ ตระหนักรู้ถึงความเชื่อมโยงกับพระผู้เป็นเจ้าของตนเอง
และตระหนักรู้ถึงตำแหน่งที่ถูกต้องของตนเอง ในครอบครัวแห่งจักรวาลของพวกเราแห่งนี้

เพราะความรู้ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของพวกเขา ไม่ได้หายไปเพราะร่างกายในมิติที่ 3 แต่อย่างใด
พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ให้กำเนิดที่เด็กๆเหล่านี้ได้เลือกมาเกิดด้วยทั้งหลาย จะสงวนรักษา
แทนที่จะไปสกัดกั้น ความสามารถพิเศษที่เหนือธรรมดา อันเป็นภูมิปัญญาตั้งแต่บรรพกาลของพวกเขาเหล่านี้ไปเสีย

26). เราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนคือการหยั่งรู้ของเรา และอันไหนคือความคิดของเราเอง ?

การหยั่งรู้ คือปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นทันทีทันใด ต่อสถานการณ์ หรือ ข้อมูลใหม่ๆ และจะรู้สึกได้มากกว่า
ความนึกคิดที่เราปรุงแต่งขึ้นมาเอง สิ่งที่คุณเรียกมันว่า “ความคิดชั่วแล่น” นั่นแหละ อาจจะเป็นการหยั่งรู้ก็ได้

แต่ถ้าหากคุณมีความรู้สึกซาบซึ้งหรือความชื่นชม หลังจากที่ได้มีความรู้สึกหรือข้อมูลนั้นๆ สักพักหนึ่งแล้ว
และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในใจแล้วหละก็ อันนั้นหนะคือความคิด

การพิจารณาหรือวิเคราะห์เรื่องใดๆ คือความคิดของคุณเอง

การหยั่งรู้ อาจจะเป็นสัญญาณที่มากระตุ้นคุณ ให้ต้องทำอะไรบางอย่าง อย่างฉับพลันทันที
เพื่อตอบสนองออกไปตามธรรมชาติของคุณก็ได้

หรือการหยั่งรู้ อาจจะเป็นการคิดอย่างจริงจัง ว่าทำไมคุณถึงได้ตอบสนองแบบนั้นออกไปก็ได้

เพราะว่า บางที มันอาจจะเป็นมาตรการเพื่อช่วยเหลือชีวิต หรือเพื่อให้เปลี่ยนการกระทำก็ได้ ตามลำดับ

27). ดูเหมือนพวกเราจะเผชิญกับประเด็นเกี่ยวกับ “ความมืด” มากกว่าที่เคยซะแล้ว

มันมีเส้นตายไหมว่า พวกเราจะต้องจัดการกับความรู้สึก, ทัศนคติ, อารมณ์, ความหมกมุ่น และอื่นๆ
ที่เป็นด้านลบทั้งหลาย ให้หมดไปภายในกำหนดระยะเวลาเท่าไหร่ ?
หรือพวกเราควรจะเพียงแค่ตามรู้พวกมันเท่านั้น แล้วพวกเรา ก็จะสามารถก้าวข้ามพวกมันไปได้เอง
เมื่อพวกเราขึ้นไปถึงมิติที่ 4 แล้ว ?

การพินิจพิเคราะห์ตามดูตามรู้พวกมันแบบนี้ จะเป็นการตามดูตามรู้ ตรงไปสู่ใจกลางของความเป็นทวิภาค
(Duality – คือมีทั้งดีและชั่วในคนๆเดียวกัน - chayutt) ของมิติที่ 3 ซึ่งเป็นสเปกตรัมของอารมณ์,
คุณลักษณะเฉพาะ, และพฤติกรรมของมนุษย์ และจิตวิญญาณที่เวียนว่ายตายเกิด นับภพนับชาติไม่ถ้วนนี้
ก็เพื่อมีประสบการณ์ และก้าวล่วงหลุมพราง ของความเป็นทวิภาคเหล่านั้น

28). อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะสามารถพูดได้ว่า มันมีกำหนดเส้นตาย คือภาวะแห่งความตาย
สำหรับการทำให้บรรลุผลสำเร็จ ซึ่งประสบการณ์ที่ได้เลือกเอาไว้ ในแต่ละภพชาติ

แต่ว่ามันไม่มีเส้นตาย ภายในเส้นเวลาระดับปรมัตถ์ ที่ๆชีวิตหลากหลายชาติภพ
(ประสบการณ์ของจิตวิญญาณ ที่กำลังประสบกับการเป็นเจ้าของร่างหลัก ที่แต่ละคนมีร่างหลักเป็นของตนเอง
ไม่ละเมิดซึ่งกันและกัน) กำลังเกิดขึ้นและดำเนินไปพร้อมกันหมดทุกชาติภพหรอกนะครับ

มันเป็นการยาก ที่จะอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้ ในสิ่งที่พวกคุณไม่สามารถจดจำได้
ในฐานะประสบการณ์ส่วนบุคคล และเพราะไม่มีกรอบแห่งสติสัมปชัญญะให้อ้างอิงด้วย
เช่นเรื่องของการดำรงชีวิตอยู่ โดยปราศจากกาลเวลาที่เป็นเส้นตรง ในแบบที่พวกคุณรู้จัก
และเรื่องของการเป็นจิตวิญญาณ ที่ประกอบด้วยจิตวิญญาณหลายๆดวง มาเป็นเจ้าของร่างร่วมกัน เป็นต้น
แต่ว่าพวกเราก็จะพยายามอธิบายให้ดีที่สุด ในสิ่งที่พวกคุณรู้ดีอยู่แล้ว ในระดับจิตวิญญาณ

29). ในกาแล็กซี่ของพวกคุณ ดาวเคราะห์โลก คือหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุด
สำหรับการเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเป็นทวิภาค (duality) นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกคุณจึงมาอยู่ที่นี่

การสำเร็จการศึกษา ซึ่งอาจจะเรียกอย่างนี้ก็ได้ ก็คือการจัดการกับความท้าทายต่างๆของความเป็นทวิภาคได้
แล้ววิวัฒน์ขึ้นไปสู่มิติที่ 4 ที่ไม่มีความเป็นทวิภาคอีกแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้ อาจจะใช้เวลาแค่ 2 – 3 ภพชาติ
หรือหลายร้อยภพชาติ สำหรับแต่ละจิตวิญญาณที่เป็นเจ้าของร่างหลัก เพื่อให้มีคลื่นความสั่นสะเทือนของความคิด,
อารมณ์, แรงจูงใจ และการกระทำต่างๆในด้านบวก หรือด้านแสงสว่างเท่านั้น ไม่ใช่คลื่นความสั่นสะเทือนด้านลบ หรือด้านมืด

30). การเวียนว่ายตายเกิดในแต่ละภพชาติ ในโลกของจิตวิญญาณแห่งดาวเคราะห์โลกดวงนี้
จะเป็นการเตรียมการสำหรับเจ้าของร่างหลัก ในภพชาติต่อๆไปด้วย

จิตวิญญาณจะระลึกเรื่องราวทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นในภพชาติล่าสุดของตนเอง ซึ่งในกระบวนการนี้
จะไม่ใช่เพียงแค่มองเห็นทุกชั่วขณะของเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตนั้นเท่านั้น
แต่จะรู้สึกได้ถึง ทั้งอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง และของคนรอบข้างทุกๆคน ที่มีปฏิสัมพันธ์ด้วย ด้วย
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจิตวิญญาณนั้นๆได้ทำตามพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ ที่ได้ทำไว้ก่อนการลงมาเกิด กับคนอื่นๆ
ที่ร่วมอยู่ในพันธะสัญญานั้น ในช่วงชีวิตนั้น มากน้อยแค่ไหนด้วย

คุณอาจจะเรียกกระบวนการทบทวนนี้ว่า “สวรรค์” และ “นรก” ในทางศาสนาก็ได้

31). แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการทบทวนนี้ เหมือนกับกฎแห่งกรรม ที่ไม่มีทั้งการให้รางวัล และการลงโทษ
มันเป็นการประเมินผล ของภพชาติล่าสุด ในสภาพแวดล้อมแห่งช่วงชีวิต ของเจ้าของร่างหลักนั้นๆ
และมันเป็นการวินิจฉัยว่า ควรจะเติมเต็มอะไรลงไปในช่องว่าง หรือจุดแข็ง หรือจุดอ่อน ของประสบการณ์สะสมนั้นๆ

เพราะว่าเป้าหมายของทุกๆจิตวิญญาณ ก็คือการวิวัฒน์ทางจิตวิญญาณ ดังนั้น ผลจากการทบทวนนี้
ถ้าจิตวิญญาณดวงใดพบว่า ตนเองกำลังล้าหลังอยู่ ก็อาจจะร้องขอคำแนะนำจากจิตวิญญาณรุ่นพี่
ที่มีความตระหนักรู้ก้าวไกลกว่าก็ได้

ส่วนจิตวิญญาณดวงใด ที่ทบทวนแล้วพบว่า ภพชาติที่ผ่านมาของตนเอง ยังหย่อนยานเกินไป
ก็อาจจะขอคำชี้แนะจากจิตวิญญาณที่มีประสบการณ์มากกว่า เพื่อที่จะเลือกสิ่งที่จำเป็น มาใส่ในภพชาติต่อไปของตนเองก็ได้

32). ในโลกทั้งหลายของจิตวิญญาณ “ผู้เป็นหนึ่งเดียวของทุกสรรพสิ่ง” (The Oneness of All) เป็นที่รู้จักกันดี
และคำชี้แนะ และคำแนะนำ ก็ถูกส่งมอบให้ด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข

ซึ่งหลักการนี้ ก็เป็นหลักการเดียวกันกับ การแบ่งปันช่วงชีวิตร่วมกัน (ใช้ร่างร่วมกัน –Chayutt) ของจิตวิญญาณหลายๆดวงด้วย

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการที่จิตวิญญาณบางดวง ยอมแบกรับบทบาท “หนักๆ” เพื่อช่วยให้ผู้อื่น
ได้มีโอกาสมีประสบการณ์ที่พวกเขาต้องการ เพื่อการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณของพวกเขาด้วย

เพราะว่าจิตวิญญาณทั้งหลาย ไม่สามารถที่จะแบ่งแยกได้ แต่ทำหน้าที่แยกจากกันเป็นอิสระ เป็นเจ้าของร่างหลักร่างใดร่างหนึ่งได้

วิวัฒนาการของจิตวิญญาณดวงใดดวงหนึ่ง จะนำมาซึ่งวิวัฒนาการของจิตวิญญาณทุกดวง

ในทางตรงกันข้าม เพื่อการพัฒนาด้านจิตวิญญาณของตนเอง เพราะความเป็นจริงข้อนี้ จิตวิญญาณทั้งหลาย
จึงมีความพยายามอย่างที่สุด ที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

การอธิบายถึงแรงกระตุ้นนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึง ความต้องการที่จะร่วมมือกัน ของจิตวิญญาณทั้งหลายเท่านั้น

เพราะว่า “ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข” นี้ เป็นอะไรที่มากกว่าพื้นฐานของพันธะสัญญาก่อนลงมาเกิด และการให้คำแนะนำทั้งหลาย

“ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข” นี้ เป็นสิ่งที่ประดับตกแต่งจิตวิญญาณที่แท้จริง

33). ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นอย่างนี้ มันก็มีเหตุผล ที่จะสงสัยว่า ทำไมจิตวิญญาณดวงใดดวงหนึ่ง
จึงกลายเป็นจิตวิญญาณแห่งโลกมืดไปได้

เพราะว่าความพยายามอ่อนล้าลง และเพราะยอมมอบพลังแห่งพระผู้เป็นเจ้าของตัวเอง
ให้กับสิ่งที่เสนอรางวัลแห่งโชคลาภมาให้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการถูกควบคุม ให้ตกอยู่ในความโลภ,
ความเหี้ยมโหด, ความอัปยศ, การกดขี่ข่มเหง เป็นต้น

สิ่งที่ยื่นข้อเสนอมาให้นั้น รู้จักกันในนามของ “พลังแห่งความมืด” (Dark force)
ซึ่งเป็นสนามพลังงานแห่งความคิดด้านลบอันมโหฬาร และจิตวิญญาณที่ถูกหลอกล่อด้วยของรางวัลเหล่านี้
ก็จะปฏิบัติตัวและมีพฤติกรรมสอดคล้องไปกับรูปแบบความคิดเหล่านี้
จึงตกลงมาจากความเป็นแสงสว่างดั้งเดิมของตนเอง แล้วจมลงไปในความมืด

34). และตอนนี้ จิตวิญญาณดวงใดดวงหนึ่ง ก็จะเลือกสิ่งที่จะให้เกิดมีในแต่ละภพชาติของตนเอง
โดยเริ่มจากการเลือกผู้ให้กำเนิด เพื่อให้ได้พันธุกรรม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมตามที่ต้องการ

จากนั้นก็จะเลือกทักษะพิเศษ, พรสวรรค์, ความสนใจ, บุคลิกลักษณะ และทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่จะทำให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองขึ้นมา

การผสมผสานสิ่งที่เลือกมาทั้งหมดนั้น จะทำควบคู่ไปกับการเลือกปฏิสัมพันธ์โดยตั้งใจ กับทุกๆจิตวิญญาณ
ที่จะมาร่วมแบ่งปันช่วงชีวิตด้วยกัน เพื่อให้กลายเป็นพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณอันใหม่ ของเจ้าของร่างหลักขึ้น
ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของพันธะสัญญาก่อนการถือกำเนิด

35). ทารกแรกเกิด จะมีความตระหนักรู้ถึงพันธะสัญญาก่อนการถือกำเนิดอย่างครบถ้วน
แต่มันจะค่อยๆเลือนหายไป เพราะทารกจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับร่างกายเนื้อ และสภาวะของผู้ให้กำเนิดด้วย

ยิ่งเด็กทารกนั้นโตขึ้นมากเท่าไหร่ ผลกระทบจากเพื่อน, ครุ, และบุคคลที่เข้ามามีส่วนในชีวิตทั้งหลาย
ก็ยิ่งมีมากขึ้นด้วยเท่านั้น

ดังนั้น ไม่เพียงเฉพาะทุกสิ่งที่อย่างเกี่ยวกับพันธะสัญญาเท่านั้นที่จะถูกลืมเลือนไป
แต่มันยังจะมีความกดดันเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอื่นๆ และความคาดหวังอื่นๆเข้ามามีส่วนด้วย

วิญญาณจะคงสภาวะการติดต่อกับเจ้าของร่างหลักของตัวเอง ผ่านทางความรู้สึกผิดชอบชั่วดี, การหยั่งรู้,
สัญชาตญาณ, แรงบันดาลใจ, และความมุ่งมาดปรารถนา ซึ่งจะคอยกระตุ้นเจ้าของร่างหลัก
ไปตลอดหลักสูตรแห่งพันธะสัญญานั้นๆ

แต่ความปรารถนา ที่จะแสดงออกซึ่งความต้องการโดยอิสระของตนเอง ก็จะแรงกล้ามากจริงๆ
ซึ่งในที่นี้ มันวางอยู่บนความท้าทายต่างๆ ของความเป็นทวิภาคนั่นเอง ว่าเจ้าของร่างหลัก จะสนใจ, ปรารถนา
และพุ่งเป้าไปที่ปลายขั้วข้างไหนของสเปกตรัม (ดี หรือ ชั่ว, สว่าง หรือ มืด) ของทวิภาวะนี้มากกว่ากัน

36). ตอนนี้ขอให้พวกเรานำพวกคุณทั้งหมด และนำเบื้องหลังทั้งหมดนั้น
เข้ามาสู่ช่วงขณะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนโลกใบนี้ก่อน จริงๆแล้วไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจักรวาลนี้น่าจะถูกกว่า

ผมจะกล่าวเพียงคร่าวๆ เพราะว่าได้กล่าวถึงอย่างครอบคลุมและยืดยาวมากแล้ว ในข้อความก่อนๆนี้ ว่า

ดาวเคราะห์โลกใกล้จะออกจากมิติที่ 3 แล้ว แต่เพราะว่า เพราะการกระทำของพลังแห่งโลกมืด
เธอจึงอ่อนแอมากเกินกว่าที่จะทำได้เองเพียงลำพัง เธอจึงร้องขอให้พวกเราช่วย

รูปแบบหนึ่งของความช่วยเหลือจากพวกเรา ก็คือ การเติมพลังงานแห่งเพศหญิงหรือพระเจ้าผู้หญิงเข้ามาให้เธอ
เพื่อสมดุลพลังแห่งเพศชายที่มีอำนาจครอบงำอยู่นานมาแล้ว และเป็นแหล่งต้นกำเนิดของพลังแห่งโลกมืด

การผสมผสานกันของพลังทั้งสอง ทำให้เกิดการเพิ่มสูงขึ้นของทุกๆอารมณ์ และทุกๆคุณลักษณะ
และก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างผู้ที่ฝักใฝ่แสงสว่างและผู้ที่ฝักใฝ่ความมืด อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งสภาวะแห่งความเป็น “เมล็ดข้าว และ แกลบ” ในครั้งนี้ ก็จะทำให้คุณได้เห็นตัวของคุณเองชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย

พฤติกรรมที่แสดงออกต่อผู้อื่น นั่นแหละคือกระจกเงาที่สะท้อนให้เห็นความเป็นคุณ

37). นี่คือ “ประตูมิติ” แห่งจักรวาล (Universal Window) บานหนึ่ง สำหรับการเลื่อนระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลก
และตอนนี้เวลาก็กำลังเดินหน้าไปเรื่อยๆแล้ว

ดาวเคราะห์โลกได้รับการรับประกันว่า จะไปถึงจุดหมายปลายทางได้ในเวลาที่เหมาะสม

แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะร่วมเดินทางไปกับเธอทั้งกายเนื้ออย่างนี้ คุณต้องรีบทำให้บทเรียนแห่งกรรมทั้งหลาย
ในมิติที่ 3 นี้ จบสิ้นลงโดยเร็ว ตามที่คุณได้เลือกเอาไว้ในพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณของคุณนั่นแหละ

จงจดจำไว้ว่า จิตวิญญาณจะกระตุ้นให้จิตสำนึกของคุณ ทำตามพันธะสัญญานั้นๆ

ความรู้สึกที่ไม่สะดวกสบายทั้งหลาย ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นตัวกูของกูของคุณ คือข้อความที่มีความสำคัญ
เพราะช่วงเวลานี้ มันไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่จะมารับรู้ความรู้สึกที่ไม่สะดวกสบาย ด้านทัศนคติและพฤติกรรมของคุณเฉยๆ
แต่มันเป็นโอกาส ที่มีกรอบของเวลา เพื่อให้คุณปรับเปลี่ยนพวกมันเสีย

38). การวิวัฒน์จากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 4 ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพียงเพราะว่าคุณกำลังอยู่บนดวงดาว
ที่กำลังเลื่อนระดับขึ้นเท่านั้น

แต่วิวัฒนาการของคุณ ต้องมาพร้อมกับ ความเอาใจใส่ต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และการหยั่งรู้
และสติปัญญาด้านอื่นๆ ที่วิญญาณของคุณให้มา เพื่อชี้ทางให้คุณปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับพันธะสัญญาของคุณเอง

มันต้องมาพร้อมกับ การทบทวนความคิดหรือความรู้สึกของตัวเอง, การกระทำด้วยความซื่อสัตย์,
เคารพนับถือรูปธรรมชีวิตในธรรมชาติทุกๆชนิด, แยกแยะความจริงออกจากความเท็จให้ได้,
จงเลียนแบบ แต่อย่าลอกแบบ บุคคลผู้ที่คุณเคารพนับถืออย่างสูง, และอย่าไปตัดสินผู้อื่น

มันต้องมาพร้อมกับ การระลึกรู้และการรู้สึกสำนึกบุญคุณ สำหรับสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ,
ต้องรู้จักให้อภัยต่อตนเองและผู้อื่นที่ทำให้คุณต้องประสบกับความอยุติธรรม

มันต้องมาพร้อมกับการดำเนินชีวิตอยู่ด้วยหัวใจ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิญญาณของคุณ

39). คุณไม่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวเลย ตลอดการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง และเพื่อวิวัฒนาการนี้
ยังมีพระหัตแห่งพระผู้เป็นเจ้า จำนวนนับไม่ถ้วน อยู่กับคุณ คือพวกเทวดาทั้งหลาย, ผู้นำทางจิตวิญญาณ
และจิตวิญญาณอิสระทั้งหลาย รวมถึงผู้ที่เป็นที่รักทั้งหลายของคุณในสรวงสรรค์,
รูปธรรมชีวิตต่างพิภพที่มีความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณสูงๆทั้งหลาย และพลังงานของจิตสำนึกแห่งพระคริสต์
ที่ปรากฏออกมาในรูปแบบของความรักและแสงสว่าง และอื่นๆ

________________________

ด้วยรักและสันติสุข

Suzanne Ward

.........................................

 

การวิปัสสนาตัวเอง ขาดไม่ได้เลยจริงๆ และ "อย่าไปตัดสินผู้อื่น" เป็นสิ่งที่มนุษย์สมัยนี้และคนรุ่นใหม่ ควรตระหนักให้หนักๆเข้าไว้


ปล.ข้อ 22-23 นี่ ต้องอาศัยความเข้าใจ จากความใจกว้างและการเปิดใจมากๆเลยจากความเชื่อเดิมเรื่อง "บัณเฑาะก์" รูปกายนั้นสำคัญไฉน 555 *0*

 

เห็นด้วยค่ะ ขอสนับสนุนข้อนี้
เหมือนคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ท่านให้เพ่งโทษตัวเองก่อน

ขอขอบคุณ คุณชยุตที่แปลมาให้อ่านแก้เหงา(f)

 

เท่าที่อ่านมาก็มีสาระที่น่าสนใจคล้ายๆโนวา อนาลัย และอาจารย์ปริญญาด้วยนะครับต้องขอบคุณคุณชยุตที่แปลมาให้อ่านกัน...ขนาดหัวไม่วาง หางไม่เว้น ก็ยังแปล อิอิ คืนก่อนฝันเห็นคุณชยุตเอาของอะไรมาให้ตั้งหลายอย่าง ทั้งรูปปั้นหุ่นยนต์ หนังสือ กุณแจ ฯลฯ คงมีความหมายซ่อนอยู่นะครับ

 

ฝันแม่นอีกคนแล้วครับ..

กำลังเตรียมการอยู่พอดีเลย

เพราะเห็นกระทู้เกี่ยวกับปี 2012 โผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด..

แล้วก็ชี้นำไปในด้านลบกันทั้งนั้น...

ก็เลยคิดว่าจะนำข้อมูลด้านวิชาการมาแชร์ให้อ่านกันซะหน่อยหนะครับ


หุ่นยนตร์ => น่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับความใหม่ ความล้ำสมัย และวิทยาการที่ล้ำหน้า

หนังสือ => อันนี้น่าจะเป็น ข้อมูล ข่าวสาร วิชชา ความรู้ อะไรทำนองนั้น

กุญแจ => อันนี้ โป๊ะเชะเลยครับ มันเป็นสิ่งที่จะช่วยไขประตูไปสู่ความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ


มีครบหมด อยู่ในกระทู้ที่ผมกำลังเตรียมการให้อยู่นี้แหละครับ

......................................

 

catt1 ขอปูผ้า มานอนรออ่านเลยนะคะ *0*

 

เข้ามาปูเสื่อรอด้วยคนครับ;aa10

 

มารออ่านต่อครับ

ขอบคุณครับผม

 

กลุ่ม TVI EXPRESS ร่วมกับ คุณณัฐพบธรรม และ คุณกมลเวช
คุณกมลเวช ที่เป็นหัวหน้าของคุณavatarboyเป็นเพื่อนกับคุณณัฐพบธรรม

เรียนเชิญทุกคน
ฟังธรรมะออนไลน์คืนนี้กับ คุณณัฐพบธรรม [ถ้ารู้(กู)ทำไปนานแล้ว]

ครั้งแรกกับการบรรยาย(สด)ธรรมะออนไลน์

จากแขกรับเชิญพิเศษ
ผู้เขียนหนังสือธรรมะที่ดังที่สุดในขณะนี้
ถ้ารู้...(กู)...ทำไปนานแล้ว

เรียนคุณๆ

จุดประสงค์ในการจัดการบรรยายธรรมนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ธรรมะ จากคำสอนของพระพุทธองค์ ที่ไม่ว่าใครก็ตามถ้าได้ศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจ พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติตาม ชีวิตของเขาไม่ว่าจะไม่ดีอย่างไร หรือประสบปัญหาอะไรมากมายแค่ไหนมาก่อนก็ตาม ก็จะได้พบกับแสงสว่างที่นำทางชีวิตให้เขาใหม่ได้

จึงขอเรียนเชิญคุณ
เข้าร่วมฟังการบรรยายธรรมะออนไลน์ครั้งแรก

ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2552
เวลา

20.00 น. การบรรยายธรรมะ
จากประวัติชีวิตของคุณณัฐพบธรรม ธนันท์เมธากรณ์
21.00 น. การถามตอบปัญหาธรรมะสดออนไลน์

คุณสามารถเลือกเข้าห้องประชุมได้จาก 1 ใน 2 ห้องนี้
ณ.ห้องประชุมออนไลน์ Omnoivia ความจุ 400 คน
คลิ๊กทีนี่เพื่อเข้าห้องประชุม

และห้องประชุม Camfrog ความจุ 250 คน
ชื่อห้อง bizmeeting
ดูตัวอย่างการติดตั้งห้องประชุมได้ที่นี่
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=qo8oB_rN-08"]http://www.youtube.com/watch?v=qo8oB_rN-08[/ame]

Password ที่ใช้ Log in ได้ทั้ง 2 ห้องคือ
ติดต่อผมมา

ถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้ง 2 ห้อง

กรุณาเข้าห้องประชุมออนไลน์ก่อนเวลาอย่างน้อย 10 นาที
เพื่อประกันว่าคุณไม่พลาดโอกาสสำคัญครั้งเดียวนี้


สิ่งที่ท่านจะได้เรียนรู้เคล็ด (ไม่) ลับของธรรมะกับความก้าวหน้าของชีวิต

เคล็ดลับในการทำบุญให้ได้ผลลัพธ์ดีต่อชีวิตการงานหรือธุรกิจ

คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นำมาช่วยทำให้เรามีฐานะที่ดีขึ้นได้จริงหรือ

กฎแห่งกรรม บาปบุญ มีจริงไหม เป็นการหลอกให้ทำดี หรืออธิบายด้วยเหตุผลได้จริง

บุญช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้จริงหรือ อย่างไร

บาปทำให้ชีวิตเราแย่ลงจริงหรือ อย่างไร

ผมขอแบ่งบุญกุศลที่ผมได้เคยทำมาทั้งหมดไม่ว่าจะกี่ชาติกี่ภพก็ตาม ให้กับทุกท่านที่อ่านอีเมล์นี้ เพื่อความสุขและความเจริญของท่านเองครับ
สาธุ

การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”

กรุณา Forward เมล์นี้ออกไปให้มากที่สุด เพราะท่านไม่อาจรู้ได้ว่า

ท่านอาจจะกำลังได้ให้ความช่วยเหลือแก่คนที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดในชีวิตก็ได้
หรือโดยการคลิ๊กที่ลิงค์ข้างล่างนี้ เพื่อทำการ Forward ครับ

http://getresponse.com/forward.html?x=a62b&m=JwEl&s=hcbZi&y=u&

มีคนได้รับเมล์นี้เกิน 70,000 คน กรุณาเตรียมตัวของท่านให้ดีครับ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ถ้ารู้...(กู) ทำไปนานแล้ว </TD><TD vAlign=top align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>ISBN : 9786115190102</TD></TR><TR><TD><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=ctl00_ContentPlaceHolder1_BookDetail1_dlMain_ctl00_dlPerson border=0 cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>ผู้เขียน : ณัฐพบธรรม ธนันท์เมธากรณ์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 20px">สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ</TD></TR><TR><TD>ประเภท : ธรรมะ/ปรัชญา/ข้อคิด</TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="PADDING-TOP: 10px">หนทางแห่งการเป็นคนดีและมั่งมีศรีสุขพร้อมให้คุณพิสูจน์แล้ว</TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="PADDING-TOP: 10px">พบเคล็ดลับการทำบุญที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปทุกชาติ

สร้างหลักประกันชีวิตดีๆ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
สะสมความดี เพิ่มดอกเบี้ยบุญ
รู้จักเกราะคุ้มกันเรื่องบุญ บาป ที่ง่ายและถูกต้อง
เริ่มวันนี้เพื่อเสริมความสุข ความมั่นคง มั่งคั่งให้ชีวิตคุณ

ทำไมบางคนทำอะไรก็มีแต่เจริญรุ่งเรือง ? บางคนเป็นคนดี ทำไมยังไม่ได้ดี ยังไม่รวยสักที ? บางคนเป็นคนดี คนรวยอยู่แล้ว แต่ทำไมอยู่ๆ ก็จนลงอย่างน่าใจหาย ?
คนจำนวนมากค้นหาคำตอบ แต่คุณกำลังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้คำตอบ

หนังสือเล่มนี้ใช้หลักเหตุและผลศึกษา วิธีการเป็นคนดีและรวยอย่างมั่นคง จากพระไตรปิฎก และค้นพบความจริงว่า "ธรรมะกับความรวย" นั้นไปด้วยกันได้ และเกื้อหนุนกันเป็นอย่างดี คำตอบทั้งหมดรออยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อาทิตย์หน้ากลุ่ม TVI EXPRESS ไปเชิญคุณศิริพงคนเขียนหนังสือ ความสำเร็จจากพระพุทธเจ้ามาบรรยาย คุณกมลเวชรวยหลายล้านจาก TVI EXPRESS เลยมาแบ่งปันรวยทางธรรม

ใครสนใจติดต่อมาทาง PM นะครับ ผมไม่ค่อยเข้ามาอ่านกระทู้เท่าไร

ทำไมทำบุญตั้งมากมายไม่รวยสักที..จากหนังสือความสำเร็จที่มาจากพระพุทธเจ้า

การที่คนทั่วไปทำบุญแล้ว ไม่เห็นผล ไม่เจริญก้าวหน้า ไม่ได้ในสิ่งที่ตนปราถนา เหตุก็เพราะว่า คนทั่วไปนั้นทำบุญไม่เป็น ไม่รู้จักวิธีทำบุญที่ถูกต้อง จึงทำเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นผลสักที ถึงแม้จะทำบุญมาก็จะได้ผลน้อย ถ้าทำบุญน้อย ก็จะยิ่งได้น้อยขึ้นไปอีก แม้จะทำด้วยใจก็ตามที เปรียบเสมือนคน 2 คนถือข้าวเปลือกคนละ 1 กำมือ คนแรกโรยข้าวเปลือกไปบนแผ่นคอนกรีต คนที่ 2 โรยไปบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์และมีน้ำชุ่ม ลองคิดดูเถิดว่าข้าวเปลือกของใครจะเจริญงอกงามกว่ากัน สำหรับคนแรกที่โรยไปบนแผ่นคอนกรีตนั้น แม้ว่าโรยข้าวเปลือกลงไปมากเท่าใด ก็ย่อมได้ผลน้อย แต่คนที่ 2 นั้น ถึงจะโรยข้าวเปลือก แต่น้อยลงบนผืนดินที่เหมาะสม ข้าวก็จะเจริญงอกงามอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับการทำบุญ ถ้ารู้จักการทำบุญที่ถูกต้อง ก็ย่อมจะได้ผลบุญมากเกินความคาดหมายนั่นเอง
ที่มา: หนังสือ ความสำเร็จที่มาจากพระพุทธเจ้า โดย อ.ศิริพงษ์