แปลกใจกรรมฐาน

ดิฉันได้นั่งกรรมฐาน ได้ปีแล้วคะ ด้วยใจอยากนั่งเองไม่มีใครบังคับ ดิฉันแปลกใจตัวเองว่า ดิฉันทำไมสามารถ ทายทัก คนที่กำลังลำบากได้ โดยเวลาจับตัวเขาดิฉันจะ มีความรุ้สึกว่าเหมือนรับรู้ได้ว่าเขาคิดอะไร และพอเขาถามอะไรมาดิฉันสามารถนึกเห็น และแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาเจอหรือบอกได้ว่าเขา กำลังเจอกับอะไร แปลกมากคะ ทั้งๆที่ดิฉันนั่งกรรมฐานไม่นาน และก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไร
เป็นเพราะอะไรคะ ช่วยๆตอบกระทู้หน่อยนะคะ งง ตัวเอง กลัวว่าจะไปแนะนำเขาผิดๆ แต่สังเกตดูหลายๆคนที่เข้ามา และต้องช่วยเหลือเขา ทุกคนจะเจอเหตุการ์ที่ดิฉันได้บอกไปจริงๆ และแนะนำให้เขาแก้ ทุกคนก็เป็นผล สบายใจกันทั่วหน้าคะ แต่ดิฉันไม่ได้คิดเงินอะไรเขานะคะ เพียงแค่แนะนำหนะคะ (f)

 

ถ้าไม่จบด้วยการเป็นหมอดูพลังจิต เก็บเงิน 200 บาทต่อคน ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆด้านครับ

 

คือว่า อยากให้ใครแนะนำหน่อยคะว่า มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังงัย ดิฉันไม่อยากเป็นแบบนี้นักเพราะรู้สึกเหนื่อยและปวดหัวทุกทีที่ ช่วยเหลือคะ

 

สวัสดีครับ หลังจากที่ได้อ่านนะครับขอตอบตามความเห็นส่วนตัวของผมเอง

การที่ได้พลังในแบบต่างๆมาง่ายๆ เนื่องจากชาติก่อนยังไม่ผ่านพลังจิตทางด้านนั้นๆมา
ถ้าได้มาแบบยากๆ หมายถึงต้องผ่านการฝึกฝนแทบเป็นแทบตาย อันนี้มีไว้ช่วยเหลือผู้อื่นครับและยังโดนทดสอบอีกต่างหาก

ถ้า ผ่าน หมายถึงเราจะไม่ให้ความสำคัญกับทุกรูปแบบของพลังเลย คือพลังมันจะเป็นยังไงก็ช่างมันไม่สนใจ แม้รู้ถึงกระแสจิตของคนอื่นก็นิ่งเฉย และส่งเคราะห์บุคคลที่ควรจะส่งเคราะห์

ถ้าคุณช่วยเหลือผู้อื่นนั่นคือ คุณไปยุ่งในกรรมของคนอื่นเขา แม้ว่าจะต่อติดกับเจ้ากรรมและนายเวร
ของเขาได้ และเจ้ากรรมนายเวรนั้นๆยอม อโหสิกรรมให้ แต่คุณต้องได้รับเศษกรรมนั้นๆด้วยครับ
ตามที่หลวงพี่เล็ก ท่านกล่าวไว้ " เจ้ากรรมนายเวร เล็งปืนไปที่เขา เรามาโดนขวางไว้ เราจะโดนยิงก่อน เจ้าของกรรม "

โดยปกติทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง การใช้พลังต่างๆนานา เพื่อให้ความทุกข์ต่างๆบรรเทา นั้นเป็นการหนีกรรม คุณหนีกรรมในชาตินี้ได้ ชาติหน้าก็ต้องได้รับอีก นอกจากเจ้ากรรมนายเวรนั้นอภัยให้บวกกับเศษกรรมที่ต้องได้รับในชาตินั้นๆ หรือเข้านิพพานไปในชาตินี้เลย คือทำอะไรไว้ต้องได้รับสิ่งนั้นตอบแทน จะหนีกันง่ายๆไม่ได้หรอกครับ

ลองไปศึกษาดูห้อง พุทธภูมิ สิครับ อาจจะพบคำตอบก็เป็นได้ ผมแนะนำให้ปฎิบัติ ทาน ศีล ภาวนา
และวางเฉย ( อุเบกขา )

Tree

โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ

 

ขอบคุณมากนะคะคุณ treeufo ที่ช่วยตอบให้กระจ่างคะ ว่าแต่แล้วคนที่เราเคยช่วยเหลือหนะคะ เราจะหลีกเลี่ยงเศษกรรม ได้งัยคะ (ที่เพิ่งช่วยไปหนะคะ)

 

สิ่งที่คุณได้มา ไม่ถือว่าเป็น สิ่งที่เป็นจุดมุ่งหมายของทางศาสนา มันเป็นผลที่พลอยได้ ไม่ควรไปยึดติดกับมัน หลายคนที่ ทำ กรรมฐานได้พบได้ เห็นในสิ่งต่างๆๆ หลายอาจารย์สอนว่าอย่าไปยึดติดกับมัน ให้รับรู้ ให้เพียงรู้ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ตั้งใจเพื่อที่ จะวิปัสนากรรมฐาน มุ่งผลในการ ดำรง สติ เพื่อเกิดปัญญา เพื่อ บรรลุผลนิพพาน ต่อไป
การช่วยเหลือ มนุษย์ โลก ก้อเป็นสิ่งที่ดึ มีเจตนาบริสุทธิ์ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก้อตาม กรรมคือสิ่งที่เราได้ทำการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เรามีเจตนาที่บริสุทธิ์ ถ้าจะมีเศษกรรม เข้ามากระทบเราจริงคงไม่รุนแรง เพราะเราไม่ได้เป็นผู้กระทำกรรมนั้นเอง ขอให้สบายใจได้ สิ่งที่สำคัญ นั่น คือการ ตั้งมั่นอยู่ใน ทาน ศีล และที่สำคัญคือ ในการภาวนา เพื่อ จิตที่สงบ ก่อให้เกิด ปัญญา ต่อไป เมือ่เราบริสุทธิ์ ด้วย ศีล ภาวนา ความร้ายแรงอันใดก้อ คงไม่สามารถทำอะไรกับเราตามแรงของมัน ดู อย่าง องคุลีมาล ท่าน ฆ่าคนมากมายขนาดนั้น พอ บรรลุในธรรม กรรม ยังไม่สามารถทำอะไรท่านได้ เพียงแต่ได้รับ เศษ กรรม โดย ถูก ญาติพี่น้องคนที่เคยถูก ท่านฆ่า เอาหินขว้างปา ตอนบวชเป็นพระ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขอให้ เจริญในธรรมครับ

 

ปล่อยวาง ค่ะ
...
สิ่งที่ได้ มา อย่าประมาณ
แค่รับรู้ แล้วปล่อย วาง

 

ทุกวันนี้เริ่มนั่งๆ นอนๆ แล้วค่ะหลังจากย้ายมาเป็นอาจารย์สอนคอมที่ราชภัฏอุบล ชักเหนื่อยไม่ค่อยจะว่างนั่งสมาธิ
ขออนุโมทนากับผู้ที่นั่งสมาธินะค่ะ

 

ผลของการนั่งสมาธิ มันไม่เหมือนกันหรอก
ของดิฉัน เมื่อต้นปี มาจนถึงเดือน 5 มักนิมิตรว่าน้ำท้วม น้ำล้น น้ำหลาก
ซากศพ นรก เนี้ย ก็รู้สึกรำคาญ ตัวเองสังสัยอยากพิสูจน์ว่าเราไม่ได้บ้าคิดไปเองแต่ก็รู้สึกเชื่อมั่นว่ามันต้องใช่แน่ๆ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะ สมาธิผลของมันเป็นสิ่งที่รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน

ถ้าจะให้ดี ควรแผ่เมตรตาจิตร และแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล ให้แก่คนที่เขามาขอความช่วยเหลือและเจ้ากรรมนายเวร

 

ต้องขอบขอบคุณทุกๆท่านเลยนะคะ ที่มีเมตตาช่วยแนะนำให้สว่างขึ้น คะ ดิฉันจะหมั่นกรรมฐาน จะพยายามปล่อยวาง จะพยายาฝึกฝนตนเองให้สู่พระนิพพานคะ