เน

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 15 มิถุนายน 2006.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    เจ้าชาย"ภูฏาน" ขอเจริญรอยตาม "ในหลวง''

    [​IMG]<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>









    </TD><TD vAlign=top align=right>
    [​IMG]






    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    สมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปน ทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชื่อ "โตยซอน เด โอโร" (ขนแกะทองคำ) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน คาร์ลอส ที่ 1 แห่งสเปน ทรงเป็นผู้ถวายรางวัลนี้แด่พระมหากษัตริย์ไทย นับเป็นเครื่องราชฯที่ทรงคุณค่าและเก่าแก่มากที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก โดยเริ่มมอบกันมาตั้งแต่ ค.ศ.1429 เพื่อสรรเสริญเชิดชูผู้ที่ประกอบคุณงามความดีอันควรค่าแก่การยกย่องและจดจำสืบต่อไป










    </TD></TR></TBODY></TABLE>มกุฏราชกุมาร"ภูฏาน" ปลาบปลื้มพระทัยในความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยขอยึดแนวพระราชดำริในหลวงเป็นแบบอย่างในการพัฒนาอาณาจักร "ภูฏาน" ประมุขหลายพระองค์เสด็จชมโครงการในพระราชดำริ



    หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พระราชวงศ์ พระประมุขและผู้แทนประมุขจาก 25 ประเทศ ที่เสด็จฯมาร่วมพระราชพิธี บางส่วนได้เสด็จกลับประเทศ ขณะที่บางส่วนได้เสด็จฯไปตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยตามพระราชอัธยาศัย

    **ประมุขสวาซิแลนด์ชมโครงการสวนจิตรฯ

    ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 14 มิถุนายน สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ เสด็จพระราชดำเนินยังโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อเยี่ยมชมกิจการต่างๆ ของโครงการส่วนพระองค์ โดยมีนางสาวรสริน สมิตะพินทุ รองผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์ ถวายการบรรยายนำชม

    สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 เริ่มต้นการเยี่ยมชมที่โรงโคนม ที่ขณะนี้มีจำนวนโคนมทั้งสิ้น 40 ตัว เป็นโครีดนม 25 ตัว ผลิตนมได้ 14-16 ลิตรต่อวันต่อตัว จากนั้นเสด็จฯยังโรงนมยูเอชทีสวนจิตรลดา (สเตอ ริไลซ์) ชมกระบวนการบรรจุกล่องและหีบห่อ เพื่อออกจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป ต่อจากนั้นเสด็จฯทอดพระเนตรศูนย์ผลิตภัณฑ์นม ประกอบด้วย โรงเนยแข็ง โรงนมผง และโรงนมเม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถวายนมอัดเม็ดแด่ สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3

    จากนั้น ทรงเยี่ยมชมโรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา พร้อมกับทรงรับฟังการถวายอธิบายขั้นตอนการสีข้าว และส่วนประกอบที่ได้จากการสีข้าว ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้ชาวนารวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์ สีข้าว และแบ่งไว้รับประทานกันเอง ส่วนที่เหลือให้นำออกจำหน่ายเป็นรายได้ ซึ่งจะสามารถช่วยให้ลดปัญหาการโก่งราคาของพ่อค้าคนกลางได้ แล้วทรงเยี่ยมชมโรงบดแกลบ เปลือกที่ได้จากการสีข้าวนั้นสามารถใช้ความร้อนและอัดให้เป็นแท่ง เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงลดค่าใช้จ่าย

    **กษัตริย์-ราชินีซื้อเพชร-สินค้าแบรนด์เนม

    นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สายการตลาด สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ เปิดเผยว่า ช่วงระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายนที่ผ่านมา มีพระราชอาคันตุกะที่เข้าร่วมในพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯมายังห้างดิเอ็มโพเรียมและทรงเลือกซื้อของเป็นสินค้าแบรนด์เนมและเครื่องเพชร โดยกษัตริย์มาเลเซีย พระราชินีบรูไนและเจ้าหญิง 3 พระองค์ได้เสด็จมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ทรงเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ เช่น เวอร์ซาเช่ ชาแนล และในวันที่ 13 มิถุนายน พระราชินีจากประเทศสวาซิแลนด์เสด็จฯมายังห้างดิเอ็มโพเรียมทรงเลือกซื้อเพชร

    นางณัฐศมนกล่าวว่า ระหว่างนี้พนักงานของดิเอ็มโพเรียมและสยามพารากอน ต้องมีการเตรียมตัวตลอดเวลา เพื่อรอรับเสด็จกษัตริย์และพระราชินีจากประเทศต่างๆ ที่มาซื้อสินค้า เพราะเวลาเสด็จฯจะแจ้งหมายกำหนดการให้ทราบล่วงหน้าไม่นาน

    **จักรพรรดิญี่ปุ่นเยือนอยุธยา

    เวลา 11.00 น. สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำเสด็จฯพร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน และคุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ

    เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เสด็จพระราชดำเนินถึงศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา มีเด็กนักเรียนชั้นประถมจากโรงเรียนประถมสาธิตราชภัฏอยุธยา ประชาชนชาวไทย รวมทั้งชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก โดยเด็กจากโรงเรียนประถมส่งเสียงต้อนรับขณะที่สมเด็จพระจักรพรรดิและพระจักรพรรดินี กำลังเสด็จพระราชดำเนินผ่านว่า "โยโกโสะ อยุธยา เอะ" ซึ่งหมายความว่า ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีหันมาทอดพระ เนตรพร้อมกับพระสรวลในความน่ารักของเด็กๆ และโบกพระหัตถ์ให้อย่างอบอุ่น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    มกุฏราชกุารภูฏาน










    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นายเอนก สีหามาตย์ ผู้อำนวยการ สำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ให้สัมภาษณ์ว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต ทรงถามว่าเศียรพระพุทธรูปที่ต้นโพธิ์อยู่ตรงนี้มาแต่เดิมหรือไม่ จากนั้นทรงถามเกี่ยวกับความสำคัญของวัดมหาธาตุ และพระนครศรีอยุธยา ได้กราบบังคมทูลว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเวนิสตะวันออกตามที่ชาวตะวันตกที่มาค้าขายเขียนถึง และมีหมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกสอยู่ด้านใต้ ทั้งนี้ยังทรงมีความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ทรงให้ความสนพระทัย สถาปัตยกรรมของไทยมาก แต่เสียดายมีเวลาน้อย

    **ชาวญี่ปุ่นในไทยดีใจได้เข้าเฝ้าฯ

    นางสาวมานามิ ฟูกุโมโต๊ะ พนักงานบริษัท ฟูรูกาว่า ไฟเทล ประเทศไทย จำกัด ชาวญี่ปุ่นซึ่งมาเฝ้าฯรับเสด็จ ให้สัมภาษณ์ว่า มาทำงานเมืองไทยได้ 2 ปีแล้ว ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่เคยเห็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์จริง เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ไม่คิดว่าจะได้เฝ้าฯที่นี่ รู้สึกมีความสุขมาก ตื่นเต้นมากๆ

    นายโออิกาว่า ฮิซาโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แมนูแฟคเจอริง ประเทศไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเข้าเฝ้าฯรับเสด็จแบบนี้เลยสักครั้ง เคยเห็นพระองค์แต่ในทีวี วันนี้พาพนักงานญี่ปุ่นมาเฝ้าฯรับเสด็จฯทั้งบริษัท บรรยายไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เพราะตื่นเต้นมาก รู้สึกปลาบปลื้มที่ได้เข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิด ความรู้สึกของคนญี่ปุ่นที่มีต่อองค์พระจักรพรรดินั้นก็เปรียบเสมือนคนไทยที่รักและเทิดทูนกษัตริย์ประเทศไทย

    ***เจ้าชายลิกเตนสไตน์ชื่นชมกรุงเก่า

    ทางด้านมกุฎราชกุมารแห่งลิกเตนสไตน์ เสด็จยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเช่นกัน โดยเมื่อเวลา 09.45 น. เจ้าชายอาโลอิส มกุฎราชกุมารแห่งลิกเตนสไตน์ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามพระตำหนักสิริยาลัย เขต อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทอดพระเนตรความงามของวัดไชยวัฒนารามที่เป็นโบราณสถานชื่อดังของเมืองมรดกโลก โดยมีนายถาวร พรหมมีชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมด้วยประชาชนจำนวนมากเฝ้าฯรับเสด็จ

    ทั้งนี้ เมื่อเสด็จฯถึง เจ้าชายอาโลอิสได้ทอดพระเนตรและทรงปลาบปลื้มในความงามของโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี 2173 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมารดาและเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์

    **ประมุขเลโซโทเสด็จฯเชียงใหม่

    เวลา 13.39 น. สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโท และสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซ เสด็จถึงท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ ด้วยเที่ยวบินที่ทีจี 110 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถวายพวงมาลัยข้อพระกร และนำผ่านซุ้มไม้ดอกไม้ประดับภายในตัวอาคารบริเวณช่องทางขาเข้าท่าอากาศยาน โดยมีเจ้านายฝ่ายเหนือ ข้าราชการ ทหาร และตำรวจ เฝ้าฯรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ และนักศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่บรรเลงดนตรีพื้นเมืองและฟ้อนสายไหมถวายตามประเพณีล้านนาอย่างสวยงาม โดยตลอดสองข้างทางมีนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าแถวโบกธงชาติไทยและธงประจำสหราชอาณาจักรเลโซโท

    **ทรงสนพระทัยโครงการหลวง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในนามชาวเชียงใหม่กราบบังคมทูลขอพระราชทานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ณ ห้องเลอกองส์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ดาราเทวี สถานที่ประทับแรมในระหว่างพำนักอยู่ใน จ.เชียงใหม่ พร้อมเตรียมกล่องเครื่องเงินและผ้าไหม สัญลักษณ์ของชาวล้านนาทูลเกล้าฯถวายแด่พระราชาธิบดีและพระราชินีแห่งราชอาณาจักรเลโซโท เพื่อเป็นที่ระลึก

    อนึ่ง วันที่ 15 มิถุนายน สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 และสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซ มีกำหนดการเสด็จเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อ.ดอยสะเก็ด โครงการในพระราชดำริ วันที่ 16 มิถุนายน เสด็จเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมโอท็อป บ้านถวาย และเสด็จเยี่ยมชมบ้าน 100 อัน 1,000 อย่าง อ.หางดง ส่วนวันที่ 17 มิถุนายน เสด็จเยี่ยมชมวัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร และเสด็จกลับกรุงเทพฯ

    **เจ้าชายโมนาโกจะช่วยพัฒนาภูเก็ต

    ด้านเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 พระประมุขแห่งราชรัฐโมนาโก พระราชทานสัมภาษณ์พิเศษแก่สำนักข่าวไทยเป็นการส่วนพระองค์ ว่า พระองค์ทรงมีความยินดีที่จะช่วย หากประเทศไทยต้องการพัฒนาภูเก็ตให้เป็นมอนติคาร์โลแห่งตะวันออก นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเปิดเผยถึงความสำเร็จในการสร้างมอนติคาร์โลให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรูหราระดับโลกว่า เกิดมาจากความทุ่มเททำงาน การสร้างทีมงาน การวางเป้าหมายให้ถูกต้อง การสร้างโอกาส รวมถึงการสร้างพันธมิตรกับประเทศรอบข้างและทุกๆ ประเทศในโลก เจ้าชายอัลแบร์ทรงย้ำด้วยว่า ภารกิจการพัฒนาถือเป็นการสร้างคนและการสร้างชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นแต่เพียงการทำงานเพื่อประเทศตัวเอง หากแต่หมายรวมถึงการช่วยพัฒนาประเทศอื่นๆ ด้วย

    **เผยเครื่องราชฯเก่าแก่ทูลเกล้าฯถวายในหลวง

    ส่วนกรณีที่สมเด็จพระราชินีโซเฟีย แห่งสเปน เป็นผู้แทนสมเด็จพระราชาธิบดีฆวน คาร์ลอส ที่ 1 แห่งสเปน ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ชื่อว่า โตยซอน เด โอโร (ขนแกะทองคำ) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายหลังเสร็จสิ้นงานเลี้ยงถวายพระกระยาหารค่ำแด่พระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีจากต่างประเทศที่เสด็จมาร่วมพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อค่ำวันที่ 13 มิถุนายน ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ภายในพระบรมมหาราชวัง นั้น เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าวนับเป็นเครื่องราชฯที่ทรงคุณค่าและมีความเก่าแก่มากที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก โดยเริ่มมีการมอบเครื่องราชนี้กันมาตั้งแต่เมื่อ ค.ศ.1429 เพื่อสรรเสริญเชิดชูผู้ที่ประกอบคุณงามความดีอันควรค่าแก่การยกย่องและจดจำสืบต่อไป

    **"แม้ว"หวังงานฉลองช่วยคนไทยสามัคคี

    เวลา 14.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานการประชุมเตรียมงานมหกรรมพืชสวนโลกและเยี่ยมชมพื้นที่จัดงาน ที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ถึงการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบทุกระยะ จนได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีกันอย่างเต็มที่ และมีโอกาสได้ติดตามพระราชพิธีต่างๆ ทำให้ประชาชนมีความซาบซึ้งและรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากขึ้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่ดี หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะนำมาซึ่งความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อบ้านเมืองจะได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้ทรงสบายพระราชหฤทัย

    **เผยต่างชาติเชื่อมั่นทรงเป็นศูนย์รวม

    ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสตอบรับจากต่างประเทศเป็นอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ดีมาก สำนักข่าวสำคัญของโลก เช่น ซีเอ็นเอ็น ซีซีทีวี ตลอดจนสำนักข่าวต่างประเทศที่มีพระราชาธิบดี ผู้แทนพระองค์ ก็ลงข่าวเกี่ยวกับแต่ละพระองค์ที่มาร่วมงานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ โดยเสนอภาพข่าวและเนื้อหาข่าวที่ดีมาก ทำให้คนไทยภาคภูมิใจมาก เมื่อถามว่า จะทำให้ความเชื่อมั่นของต่างประเทศในด้านการลงทุนที่มีต่อประเทศไทยดีขึ้นหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความเชื่อมั่นว่าพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ คนไทยมีความจงรักภักดี ศรัทธา ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นสิ่งที่ได้ประจักษ์ไปทั่วโลก ถือว่าดีมากๆ

    **"คงศักดิ์"ระบุต่างชาติทึ่งพระบารมีในหลวง

    ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีการถ่ายทอดผ่านระบบทาง ไกลผ่านจอภาพ (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) ไปยังศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ โดย พล.อ.อ.คงศักดิ์กล่าวขอบคุณข้าราชการทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และการถวายการต้อน รับพระราชอาคันตุกะ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับคำชมเชยค่อนข้างมาก ขณะนี้มีอยู่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ที่พระราชอาคันตุกะยังไม่เสด็จฯกลับ จึงขอให้ผู้ว่าฯถวายการต้อนรับอย่างเต็มที่จนกว่าทุกพระองค์จะเสด็จฯกลับ

    "ผมขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนน้อมรับกระแสพระราชดำรัสที่ได้ตรัสไว้เพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างจริงจัง เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่จะมีลักษณะที่ยิ่งใหญ่แบบประเทศไทย ซึ่งพระราชวงศ์ต่างๆ เขาทึ่งใน "ไซเลนซ์ เพาเวอร์" (อานุภาพเงียบ-พระบารมี) ซึ่งเป็นพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงทำทุกอย่าง รวมถึงพสกนิกรที่ทุ่มเทพลังเพื่อพระองค์ท่าน" พล.อ.อ.คงศักดิ์กล่าว และว่า ในส่วนข้าราชการทุกคนรับกระแสพระราชดำรัสมาปฏิบัติทั้งด้านการพัฒนาบ้านเมือง ความรัก ความสามัคคี โดยเฉพาะผู้ว่าฯให้นำแนวพระราชดำรัสดังกล่าวไปเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ปฏิบัติตามด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะเร่งเดินหน้าโครงการพระราชดำริให้เป็นรูปธรรมชัดเจนและขยายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน อย่างไรก็ตาม ขอให้ไปรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลืองจนถึงสิ้นปี 2549 ส่วนข้าราชการกระทรวงมหาดไทยให้สวมเสื้อสีเหลืองสัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันจันทร์และวันอังคาร


    [​IMG]


    **เจ้าชายภูฏานตามรอยในหลวง

    รายงานข่าวแจ้งว่า มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โดยมีพระราชดำรัสเรื่องความปลื้มใจในความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งยังทรงยินดีที่ได้เสด็จฯเยือนประเทศไทย และได้รับทราบถึงแนว ทางพระราชดำริในการบำรุงและพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะได้ทรงเจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชบิดา เพื่อเป็นแบบอย่างในการพัฒนาราชอาณาจักรภูฏาน

    เวลา 16.45 น.วันเดียวกัน สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ เสด็จฯมายังห้องสมุดโรงแรมโอเรียนเต็ล ประทานสัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความยินดีประเทศไทย และประชาชนไทยที่ได้มีโอกาสร่วมเฉลิมฉลอง 60 ปีแห่งการครองราชย์ รู้สึกประทับใจที่ได้มีโอกาสไปดูงานโครงการในพระราชดำริ เพราะเป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่สวาซิแลนด์จะได้กระชับสัมพันธ์กับไทยให้แน่นแฟ้นทั้งด้านการค้าการลงทุน

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา สำนักพิมพ์มติชน
    รูปประกอบเพิ่มจาก ผู้จัดการออนไลน์
     
  2. ดาวหางสีเงิน

    ดาวหางสีเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +795
    อ่านแล้วภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ^/\^
     
  3. หนูมาลี

    หนูมาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +1,148
    หน้าใสกิ๊กเลย น่าร้ากกกกกกกกกก

    <!-- Start Webbands -->
    <SCRIPT src="http://thaiblogger.org/webbands/weloveourking_left.js" type=text/javascript></SCRIPT><STYLE><!-- @import url(http://comed46.com/webbands/webband.css); --></STYLE>
    [​IMG]
     
  4. artty

    artty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    662
    ค่าพลัง:
    +2,388
    ดีใจเป็นที่สุด ที่ในหลวงของเราทรงเป็นแบบอย่างที่ดี ดีใจที่พระราชวงศ์ต่างประเทศทรงตั้งพระหฤทัยจะเจริญรอยตามในหลวงของเรา เย้ รักในหลวงที่สุดดค่ะ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ในฐานะที่อาร์ตเป็นคนไทยรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นไทย มีในหลวงเป็นพระประมุขแห่งสยามประเทศ แค่นี้ก็ปลื้มและภูมิใจมากพูดไม่ออกแล้วค่ะ

    นี่ปลื้มอีก มงกุฏราชกุมารแห่งภูฏาน จะทรงขอเจริญรอยตามในหลวงของเรา อิอิ พระองค์ท่านทรงสง่างามมากเช่นกัน มิน่าหล่ะสาวไทยกรี๊ดกันเป็นแถว อาร์ตอยู่นี่เห็นภาพเจ้าชายจากรายการพิเศษที่ถ่ายทอดสดยังทึ่งเลย
     
  5. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"เจ้าชายวังชุก" พระราชอาคันตุกะ ผู้ทำให้ 'ภูฏาน' เด่นชัดบนแผนที่โลก</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] -->[​IMG]

    ภาพความยิ่งใหญ่ของประมุขจากนานาประเทศ ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ตราตรึงเข้าไปอยู่ในหัวใจปวงชนชาวไทยแล้ว ประชาชนชาวไทยต่างพากันแซ่ซ้องสรรเสริญ พระจริยวัตรอันงดงามแห่งสายเลือดสีน้ำเงิน ของแต่ละพระองค์อย่างหมดใจ



    โดยเฉพาะ มกุฎราชกุมาร จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน คือเจ้าชายที่โดดเด่นที่สุด ณ เวลานี้! ด้วยพระพักตร์ขาวสะอาด พระวรกายผึ่งผายในชุดฉลองพระองค์ประจำชาติแบบแปลกตา ที่สะดุดใจยิ่งนักคือพระจริยวัตรอันนอบน้อม...ท่ามกลางท่าทีอันเรียบง่ายไม่ถือพระองค์ ไม่ว่าจะเสด็จฯ ยังที่ใด ภาพที่ประชาชนคนไทยเห็น คือทรงยกพระหัตถ์พนมไหว้แบบชาวพุทธอย่างงดงาม กอปรกับที่ทรงมีพระชนมายุเพียง 26 พรรษาเท่านั้น! ยิ่งทำให้เจ้าชายหนุ่มจากโลกตะวันออกพระองค์นี้ โดดเด่นสะดุดชาวไทยที่เฝ้าอยู่หน้าจอทีวียิ่งขึ้นไปอีก!!
    "เจ้าชายวังชุก" แห่งภูฏาน กลายเป็นเจ้าชายในฝัน (สาวไทย) ไปในพริบตา หลายคนบอกว่าหล่อสไตล์เอเชียแบบพระเอกเกาหลี แล้วถ้าเข้าไปดูในเวบไซด์เวลานี้ ก็จะเห็นทั้งพระฉายาลักษณ์ และพระราชประวัติของพระองค์ที่ถูกเหล่านักท่องโลกไซเบอร์นำมาโพสต์เอาไว้ทุกอิริยาบถ!!
    "ได้เห็นองค์จริงแล้วบอกได้เลยว่าทรงพระสิริโฉมมาก ถ้าพูดอย่างภาษาสามัญก็ต้องบอกว่าเป็น 'หนุ่มหล่อ' เลยทีเดียว แต่สิ่งที่เหนืออื่นใด คือบุคลิกสง่างาม และพระราชอัธยาศัย วิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นอิทธิพลของพุทธศาสนาที่มีต่อพระองค์ท่านอย่างมาก"
    จักรภพ เพ็ญแข รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หนึ่งในคณะทำงานฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งมีหน้าที่ทำงานถวายงานรับพระราชอาคันตุกะครั้งนี้ กล่าวถึงข้อมูลที่หลายคนกำลังกระหายใคร่รู้เกี่ยวกับมกุฎราชกุมารพระองค์นี้ว่า
    "ความนอบน้อมถ่อมตนของพระองค์ เป็นไปอย่างไม่เสียพระกิริยา ทรงงามอย่างพระราชา และทรงเป็นต้นแบบสุดยอดความสง่าโดยแท้จริง ใครอยากมีบุคลิกสมาร์ทโดยไม่เป็นการเย่อหยิ่งให้ดูมกุฎราชกุมารภูฏานเป็นแบบอย่าง"
    รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว จักรภพ อธิบายเพิ่มว่า เจ้าชายพระองค์นี้คือว่าที่พระมหากษัตริย์คนต่อไปของราชอาณาจักรภูฏาน เพราะพระราชบิดา คือ สมเด็จพระราชาธิบจิกมี ซิงเย วังชุก ทรงมอบราชสมบัติให้แล้ว โดยในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระเจ้าแผ่นดินภูฏาน ด้วยพระชนมายุเพียง 28 พรรษาเท่านั้น
    จากการที่ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับคนรอบข้าง จักรภพ บอกว่า จึงได้รู้ว่าทรงสนพระทัยเรื่องศิลปวัฒนธรรม รวมถึงเรื่องการท่องเที่ยวว่าบริหารจัดการอย่างไร ที่จะไม่ทำลายทรัพยากรของประเทศ
    ภูฏานเป็นประเทศเล็กมาก มีพื้นที่เพียง 47,000 ตร.กม. จึงทรงมีพระราชประสงค์ส่งเสริมให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่สำคัญพระองค์ทรงมีพระราชดำริตามรอยพระราชบิดา ซึ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงภูฏานให้เป็นสังคมสมัยใหม่ แต่แบบค่อยเป็นค่อยไป
    โดยทรงใช้หลักความสุขมวลรวมของชาติ แทนการวัดการพัฒนาเป็นค่าทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของภูฏานเป็นสังคมเกษตรกรรมที่เรียบง่าย ดำรงตามวิถีทางพุทธศาสนานิกายมหายาน และยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาช้านาน ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งนั้นมาจากพระราโชบายของสมเด็จพระราชาธิบดีวังชุก ซึ่งต้องการให้อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของภูฏานไว้
    นอกจากนี้ นโยบายการคัดเลือกและจำกัดนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศ โดยคิดค่าเข้าประเทศ 250 ดอลลาร์สหรัฐ! ทำให้มีแต่นักท่องเที่ยวคุณภาพดีเท่านั้น!!
    และภูฏานยังมีนโยบายจำกัดสื่อ จึงเพิ่งเริ่มที่จะมีโทรทัศน์ เมื่อปี 2542 และมีเพียงสถานีแห่งชาติสถานีเดียวเท่านั้น
    "ฉลองพระองค์" คืออีกเรื่องที่น่าติดตราต้องใจอย่างมาก จักรภพเล่าถึงเรื่องนี้ให้ฟังอย่างละเอียด "เป็นชุดประจำชาติ เรียกว่า 'โกะ' ภูฏานเป็นรัฐบนภูเขาอากาศจึงหนาวเย็น
    ชุดนี้มีความพิเศษตรงผืนผ้าที่คลุมพระอังสาปลดลงมาคลุมพระวรกายได้ แล้วถึงจะเป็นชุดที่ดูคล้ายนักรบ เพราะทรงสวมรองเท้าแบบบู๊ท แต่ก็ใส่ได้ทุกโอากส ผ้าคลุมพระอังสาสีเหลืองที่ทรงออกราชพิธีดูคล้ายเหมือนจีวรพระ คล้ายผ้าไหม แต่ไม่ได้มีสีนี้สีเดียวนะครับ สีเขียวก็มี
    ซึ่งเข้าใจว่าการทรงสีเหลืองเพื่อเฉลิมฉลองแด่องค์ในหลวง เหมือนที่คนไทยสวมเสื้อเหลืองกันเวลานี้" ชื่อประเทศภูฏานอ่านว่า พู-ตาน หรือ พู-ต๋าน ก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียกว่า พู-ถาน ก็ไม่ผิด จักรภพแจกแจง แล้วความรู้จากห้องเรียน ประเทศภูฏานเป็นประเทศยากจนที่สุดในโลก โดยมีรายได้ประชากรต่อหัวน้อยที่สุด เรื่องนี้ จักรภพ แสดงความคิดเห็นว่า
    "เงินไม่ใช่ปัจจัยวัดความสุขของคนเสมอไป ประเทศลาวคนมีเงินในกระเป๋าน้อยมาก แต่คนมีหน้าตาอิ่มเอิบ สุขใจ แต่งตัวมีเครื่องเงินเครื่องทองประดับงดงาม 'ความรวย' จึงไม่ได้วัดกันที่เงินเท่านั้น วัดที่ความสุขก็ได้ วัดที่ความมีวัฒนธรรมประเพณีที่รุ่มรวย อย่างภูฏาน เป็นต้น"
    ฟังอย่างนี้นักท่องเที่ยวไทยคงอยากแบ็กแพ็คเกอร์ไปท่องเที่ยวประเทศนี้กันใหญ่แล้ว! "คงต้องบอกว่า 'เจ้าชายวังชุก' ทรงทำหน้าที่สัญลักษณ์ของประเทศได้ดีที่สุด ฐานะกษัตริย์จากภูฏาน เพราะประมุขต้องทรงเป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศนั้น
    เพราะฉะนั้นการเสด็จฯ มาไทย แล้วเรามีความรู้สึกประทับใจในพระองค์ท่าน จนรักประเทศนั้น อยากไปประเทศนั้น ก็ถือว่าทรงทำหน้าที่พระมหากษัตริย์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ" จักรภพ ว่า พร้อมอธิบายประเด็น "กษัตริย์ทรงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ" เพิ่มเติมว่าถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด ด้วยทรงเป็นประมุขที่ต้องไปเยี่ยมเยือนผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรี หากแต่กษัตริย์มีความสำคัญกว่านั้นอีกมาก เช่น ทรงเป็นองค์ผู้นำในการรักษาไว้ซึ่งจารีตประเพณี สิ่งที่ทรงแสดงออกจึงต้องเป็น "สิ่งดีที่สุด" ของประเทศนั้นๆ อีกด้วย นอกจากเจ้าชายองค์นี้ จักรภพ ยังพูดถึง พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา ทรงเป็นสัญลักษณ์ประเทศเฉกเช่นเดียวกัน ทรงมีภูมิหลังเป็นเอกลักษณ์ โดยทรงมีความชำนาญเฉพาะทาง 2 ด้านด้วยกัน คือ การเป็นนักนาฏศิลป์ คล้ายกับพระราชบิดา คือ สมเด็จสีหนุ ทั้งศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ การร่ายรำ ทรงเป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับ และอีกด้าน คือ การทำงานระหว่างประเทศ โดยทรงเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเนสโกมาก่อน ความรู้ของพระองค์จึงรอบด้าน เพราะยูเนสโกทำงานทั้งทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ ซึ่งปัจจัยทั้งสามนี้จะขับเคลื่อนให้สังคมพัฒนาได้มากที่สุด โดยจักรภพเชื่อมั่นว่า "พระบรมนาถสีหมุนี" จะกลายเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความสำคัญมากของกัมพูชา เนื่องจากประเทศได้ผ่านพ้นยุคสงครามแล้ว ต่อไปคือยุคกัมพูชาใหม่ที่พระองค์จะเป็นผู้นำในการฟื้นฟูชาติ และฟื้นฟูรากเหง้าเดิมของกัมพูชา สถาบันกษัตริย์จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเอเชียโดยแท้ เป็นความอิ่มตาอิ่มใจของชาวไทยที่ได้ชื่นชมพระบารมี "เจ้าชายวังชุก" ที่ทรงประทับอยู่เมืองไทยถึงวันที่ 15 มิถุนายน นอกจากนี้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า "ทรงมีราชประสงค์อยากนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ดีในอนาคต โดยทรงสนพระทัยโครงการหลวง และโครงการพระราชดำริต่างๆ มาก ด้วยทรงมีพระราชปณิธานต้องการเป็น 'กษัตริย์ของประชาชน' เฉกเช่นเดียวกับองค์ภูมิพล" จึงเป็นคำบอกเล่าที่ทำให้เรารักเจ้าชายจากภูฏานพระองค์นี้ยิ่งขึ้นไปอีก
    ราชอาณาจักรภูฏาน ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับทิเบต 470 กิโลเมตร และอาณาเขตด้านอื่นๆ ติดกับอินเดีย 605 กิโลเมตร ไม่มีทางออกทะเล พื้นที่ 47,000 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวง กรุงทิมพู เมืองสำคัญต่างๆ เมืองพาโร เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ เมืองพูนาคา เป็นเมืองที่มีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ เป็นที่ตั้งของพระราชวังฤดูหนาว และเป็นที่ราบสำหรับทำการเกษตร ประชากร คน 752,693 คน ประกอบด้วย 3 เชื้อชาติ ได้แก่ Sharchops (ชนพื้นเมืองดั้งเดิม ส่วนใหญ่อยภาคตะวันออก) Ngalops (ชนเชื้อสายทิเบต ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันตก) และ Lhotshams (ชนเชื้อสายเนปาล ส่วนใหญ่อยู่ทางใต้) ศาสนา พุทธมหายาน นิกาย Kagyupa (มีลามะเช่นเดียวกับทิเบต) ภาษา ซองข่า (Dzongkha) เป็นภาษาราชการภาษาอังกฤษใช้เป็นสื่อกลางในสถาบันการศึกษาและในการติดต่อ ธุรกิจภาษาทิเบตและภาษาเนปาลมีใช้บางส่วนในทางภาคใต้ของประเทศ ประมุข องค์ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระราชาธิบจิกมี ซิงเย วังชุก ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2515 เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2006
  6. A~MING

    A~MING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,734
    ค่าพลัง:
    +1,730
    อื้ม เราคนไทยก็ซาบซึ้ง คนต่างชาติ ต่างภาษาก็ยังเข้าใจ
     
  7. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    ภาพจาก นิตยสารพลอยแกมเพชร
    ข้อความทั้งหมด โดยคุณ : <!--MsgFrom=115-->แต้ว บอกอ MODEL
    ที่มา :http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4452523/A4452523.html



    [​IMG]


    มกุฎราชกุมาร จิกมี เคซาร์ นัมยัล วังชุก ขณะพระชนมายุ 12 พรรษา ประทับยืนคู่กับ พระมารดา
    <!--MsgFile=119-->







    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ทีมงานพลอยแกมเพชร ทูลถาม เจ้าเคซาร์ ที่ประทับเรียบร้อยข้างพระมารดาว่า ทำไมทรงดูคล้ำไป โดยเฉพาะพระพักตร์ที่เคยเรื่อใส
    " เพิ่งไปพัทยามา ไปเล่นน้ำ เล่นสกีที่นั่น
    นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มา ครั้งนี้ได้ไปดรีมเวิร์ลด้วย เพิ่งจะเปิด คนไม่รู้จักเรา เพราะเราใส่ชุดธรรมดาไป . . ได้เล่น Bumping car ไปบ้านผีสิง"
    ภาษาอังกฤษของ เจ้าชายเคซาร์ ทรงใช้นั้นชัดเจน ถูกต้องดุจดังผู้ที่ผ่านการศึกษาจากต่างประเทศมาแล้ว


    <!--MsgFile=122-->







    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    [​IMG]


    ครั้งที่มาเมืองไทย ทรงพระชนมายุ 14 พรรษาแล้ว
    ทีมงานพลอยแกมเพชร ทูลถามพระองค์เรื่อง การดัดฟัน
    เจ้าชายเคซาร์ ทรงตอบอย่างสบายพระทัยว่า " เอาออกไปแล้ว รู้สึกฟันของฉันเป็นอิสระเสียที " พร้อมกับแย้มพระโอษฐ์ให้เห็นว่า ไม่มีลวดดัดพระทนต์แล้ว

    <!--MsgFile=121-->







    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    [​IMG]


    เจ้าชายเคซาร์ ทรงชุด โค อันเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติภูฏาน
    ลักษณะของ โค คล้ายกับชุดเสื้อคลุมกิโมโน แต่สั้นกว่า ข้างในจะมีฉลองพระองค์เชิร์ตยาวสีขาวพับปลายแขนตลบขึ้นมา และทรงถุงพระบาทยาวถึงพระชงค์ ดูคล้ายๆกับชุดพื้นเมืองชาวสก๊อต


    <!--MsgFile=126-->



    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    พระขนิษฐาอีก 2 พระองค์


    [​IMG]


    นอกจากนี้ ยังทรงมี พระขนิษฐาอีกพระองค์ที่ประสูติในประเทศไทย เป็นพระธิดาใน พระราชินี แซงเก โชเดน
    มีพระนามไพเราะว่า เพชราภรณ์ ประสูติที่เมืองไทย เพราะตอนนั้น พระราชินี แซงเก โชเดน ทรงมีปัญหาเกี่ยวกับพระครรภ์ ต้องมาทำการพระประสูติที่ รพ. สมิติเวช เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2536 โดยพระสหายคนไทย ช่วยตั้งชื่อให้

    <!--MsgFile=130-->



    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>


    สองพระราชินี ประเทศภูฏาน


    [​IMG]


    พระราชินี ทรงรู้สึกอย่างไรกับ บ้านเมืองของพระองค์
    " เราภูมิใจมากที่ภูฏานเป็นประเทศหนึ่งที่ไม่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของใคร เช่นเดียวกับประเทศไทย
    พระเจ้าแผ่นดินของเราก็ทรงงานหนักมาก เช่นเดียวกับพระเจ้าแผ่นดินของไทย เข้าใจว่า ยังไม่เคยเสด็จเป็นทางการมาเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินไทยเลย ทรงไม่อยากให้เป็นพระราชภาระ"
    แม้พระเจ้าจิกมีจะยังไม่เคยเสด็จเยือนประเทศไทย หากความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศก็กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงเคยเสด็จเยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ
    นอกจาก พระราชินีจะต้องโดยเสด็จไปด้วยแทบทุกครั้งที่พระเจ้าแผ่นดินเสด็จออกจากเมืองหลวง พระโอรสพระธิดา ก็ต้องออกเยี่ยมราษฎรด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะองค์มกุฎราชกุมาร ที่จะทรงมีโอกาสได้ฝึกงานในพระองค์ด้วย
    " บางครั้งพระเจ้าแผ่นดิน ก็ทรงให้ เคซาร์ ไปเปิดงานตามสถานที่ต่างๆด้วย เขาเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากทีเดียว "
    พระมารดา พระราชินีเทียริง เยนเดย์ ทรงกล่าวถึงพระโอรสด้วยความชื่นชม <!--MsgFile=133-->



    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>[​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    พระเจ้าจิกมี ซินเจย์ วังชุก ทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ที่พระชนมายุน้อยที่สุดในโลก ในขณะนั้นคือเพียง 17 พรรษา ในเดือนกรกฎาคม ปี 1972 <!--MsgFile=117-->

    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    ปัจจุบัน พระชนมายุ 51 พรรษา ทรงมีพระราชินีทั้งหมด 4 พระองค์ คือ 1. พระราชินี ดอร์จิ วังโม วังชุก 2. พระราชินี เทียลิง เพน วังชุก และ อีกสองพระองค์บนปก พลอยแกมเพชร
    พระราชินีทั้ง 4 พระองค์ เป็นพระภคิณี (พี่น้อง) ร่วมบิดามารดาเดียวกัน
    ทรงเข้าพิธีอภิเษกพร้อมกันในวันที่ 31 ตุลาคม 1978
    หลังพิธีอภิเษก พระราชินีแต่ละพระองค์ จะทรงมีวังแยกกันเป็นเอกเทศ แต่ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องยังคงเดิม เพราะทุกพระองค์เท่าเทียมกันหมด ไม่มีใครเป็นหนึ่ง เป็นสอง


    <!--MsgFile=118-->

    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Hippopo

    Hippopo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    กรี๊ดดดดดดด.................เจ้าชายทรงพระสิริโฉมจังเลยเพคะ อิอิ
     
  9. A~MING

    A~MING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,734
    ค่าพลัง:
    +1,730
    รอยยิ้มละลายใจสาวไทย หุหุ
     
  10. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    จัดให้...



    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]

    ที่มา :http://www.pantip.com/cafe/chalermth.../A4456139.html
     
  11. A~MING

    A~MING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,734
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ต๊ายยยยย พี่ข่ะ ภาพถูกใจสาวหมิงมากมาย หุหุหุ
    ขอบพระคุณมากนะคะ
     
  12. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    ตามมาเก็บ..พร้อมกริ๊ด(ในใจ)
     
  13. artty

    artty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    662
    ค่าพลัง:
    +2,388
    เอ่อ ทรงพระน่ารักเลยอ่ะ กึ๋ย!!!!!!! เหาจะรับประทานหัวมั้ยเนี่ย แอบกรี๊ดค่ะ
     
  14. supertor

    supertor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +257
    ขอบคุณคับ สำหรับข่าว
     
  15. น้องไข่แมงสาบ

    น้องไข่แมงสาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +501
    อิอิ อิอิ อิอิ เขินค่ะ
     
  16. koisung

    koisung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +3,469
    /me มาแอบดูสาวๆแถวนี้...ละลาย
     
  17. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    และแล้วพระโพธิสัตว์อีกหนึ่งท่านก็ปรากฎ
    ขอน้อมดวงจิตร่วมอนุโมทนากับกุศลเจตนาของพระองค์เคซาร์ ที่ทรงมุ่งเจริญรอยตามในหลวง
     
  18. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    เอามาฝากสาว ๆ เห็นกรี๊ดกันจังเลย



    [​IMG]
    มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฎาน เสด็จพระราชดำเนินด้วยเครื่องบินของบริษัทการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 921 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ตแล้ว เมื่อเวลา 09.25 น. วันนี้ (16 มิ.ย.)โดยมี นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนกระทรวงต่างประเทศ และประชาชน รอรับเสด็จ และถวายพวงมาลัยข้อพระกร


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ศูนย์ข่าวภูเก็ต-มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฎาน เสด็จฯถึงภูเก็ตแล้วเพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นการส่วนพระองค์ หลังทรงร่วมงานฉลองครองสิริราชสมบัติครบ60ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดภูเก็ตว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.25 น.วันนี้( 16 มิ.ย.) มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฎาน ได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยเครื่องบินของ บริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) เที่ยวบินที่ TG 921 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยมี นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนกระทรวงต่างประเทศ และประชาชน รอรับเสด็จ และถวายพวงมาลัยข้อพระกร

    หลังจากนั้นเสด็จไปยังห้องรับรองพิเศษVIP 1 ทรงมีพระราชปฏิสัญฐานกับผู้เข้าเฝ้ารับเสด็จ ต่อจากนั้นได้เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังโรงแรมอมันบุรี ในพื้นที่ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

    การเสด็จเยือนจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เป็นการเสด็จส่วนพระองค์ โดยมีหมายกำหนดการเสด็จประทับอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 16-18 มิ.ย. 2549 และมีหมายกำหนดการเสด็จกลับในวันที่ 18 มิ.ย. 2549

    อย่างไรก็ตาม สำหรับหมายกำหนดการเสด็จไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้มีการแจ้งหมายกำหนดการอย่างเป็นทางการ มีเพียงหมายเสด็จอย่างไม่เป็นทางการที่โปรดจะเล่นกีฬาพาราเซลลิ่ง หรือเรือลากร่มเท่านั้น ซึ่งการเสด็จมาครั้งนี้ มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฎาน ทรงฉลองพระองค์ด้วยเสื้อสีเหลือง ตราสัญลักษณ์พิธีฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
     
  19. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ที่จริงผู้ชายเองก็ยังชื่นชมท่าน ทรงมีพระจริยาวัตรงดงามอ่อนน้อมถ่อมตนมาก และมีจิตใจงดงาม เคยตรัสว่าจะเอาในหลวงเป็นแบบอย่าง สมกับเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์จริง ๆ เสียดายบ้านเรา.... (พูดต่อไม่ได้)
     
  20. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2006

แชร์หน้านี้

Loading...