ศาสนาพุทธในเมืองไทยเสื่อมหรือยังครับ

เคยไหมครับที่คนไทยเราไม่ว่าจะฝันอะไร
เห็นอะไรอะไรแปลกใหม่ก็มาตีเป็นหวย
ผมไม่ได้หลบหลู่นะครับ เพราะไม่มีอะไรให้ลบหลู่
ดูนะครับเมื่อเราเห็นสิ่งแบบนี้
ผู้ใหญ่มักบอกให้เรายกมือไหว้
นี่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เรากลัว........................
แล้วสิ่งที่เราเข้าไปหาท่านเพื่อ ขอ
ขอให้นู้น นั่น นี้ ขอเลขขอหวย
เครื่องบูชาเป็นสิ่งการันตีความขลัง
แล้วที่เห็นอยู่ผมมีคำถามครับ
1ทำไมจึงอยู่ภพมนุษย์
2ถ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำไมจึงไม่มีวิมานอยู่
3ใบหวยได้ แล้วผลฟุตบอลใบ้ได้ไหม
4แล้ว หุ้น ราคาน้ำมัน ราคาทอง การเมือง ใบ้ได้รึเปล่า
แล้วควรบูชาหรือไม่

แล้วเชื่อไหมครับ
สิ่งนี้ มีจัดจำหน่ายหรือบางทีสร้างที่วัด
นี่คือเครื่องสนองกิเลสโดยตรง เป็นผลิตภันท์ของระบบพุทธพานิชย์
สิ่งนี้ มีไว้ไม่หลุดพ้น
วัดเมืองไทยปัจจุบันนี้เมื่อมีวัตถุมงคลต้องมีคำว่ารวยอยู่พบเห็นกันบ่อยๆ
แล้วถ้าถามว่าบูชาเพื่ออะไร.....คำตอบคือบูชาแล้วรวย
นี่คือสิ่งที่นอกรีดหรือเปล่า

แล้วอันนี้ไม่ขอแสดงรูป
ท่านเคยพบเจ้าอาวาสบางวัดไหมครับ
บางวัดท่านน่านับถือครับน่าเลื่อมใสมาก
ท่านสั่งสอนสัจธรรม
ท่านชี้ให้เห็นทุกข์
และไม่ถือตัวอยู่อย่างสมถะ

แต่บางท่านเราจะเห็นว่าการพบเจ้าอาวาสบางวัดพบยากครับ
บางทีต้องมีซองมีปัจจัยบ้าง
พบว่าท่านมีกุฏิสวยงามนั่งโซฟาเปิดแอร์เย็น
มาถึงก็หลับตาทายทักเป่ากระหม่อม

คนที่เลื่อมใสก็คนที่มีทุกข์ทางกายใจ
เมื่อทุกข์ก็เข้าวัด
แต่สิ่งที่ได้รับไปเป็นสื่งที่ทำให้สุขปลอมๆ
บางท่านได้เข้าพบแล้วเกิดความข่นข้องใจหมองใจ
แต่ไม่กล้าพูดกลัวบาปบางท่านก็ไม่กล้าจะคิดกลัวบาปอีก

แล้ว ธรรมมะ ความสุข ความสงบ ที่แท้จริงมีเฉพาะบางวัดหรอครับ



ผมกลัวว่าวัตถุจะกลืนกินสัจธรรมที่เป็นความจริงอันถ่องแท้
พิธีกรรมต่างๆจะเข้ามาแทนที่การปฏิบัติ
แล้วศาสนาพุทธจะเป็นภาพที่การบูชามากกว่าการปฏิบัติ
แล้วเด็กรุ่นหลังจะหาธรรมะที่แท้จริงจากไหนครับ



ขออภัยหากใครไม่ชอบใจ
ผมอาจจะบาปที่เขียนข้อความแบบนี้
แต่ความคิดผมผมว่าผมไม่น่าจะบาปเพราะผมสบายใจครับ

วัตถุก็คือวัตถุ

 

ไม่เสื่อมหรอกครับ ผมเชื่อน่ะ

สิ่งดีๆยังมีอยู่ในเมืองไทยน่ะครับ

 

การเผยแพร่และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกท่านมิใช่รอเพียงแต่พระสงฆ์ พุทธศาสนิกชนทุกท่านควรที่จะร่วมมือร่วมใจกันอยู่ในศีลในธรรมและเดินตามคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความสงบสุขของมนุษย์ และดำรงไว้ซึ่งพระศาสนา

 

ยังไม่เสื่อมหรอกครับ ผมยังเห็นพระท่านยืนคนมาตักบาตรที่ท่าพระจันทร์ทุกๆเช้าอยู่เลย

 

จริงๆๆ รับ คนที่ตั้งกระทู้จิตใจเขาคิดแต่เรื่องแตกหักเช่นนี้ จะให้คนอื่น นิยมคำตน แต่คำที่เอามาเขียนกับตรงกันข้ามกับจิตใจเขานั้น มันคนละเรื่องเลยก็ว่าได้ ลองไปหาอ่านกระทู้ที่เขา ติดู

 

พระเต็มบ้านเต็มเมือง

 

เราดูที่พระธรรมวินัย ถ้าพระธรรมวินัย ยังทรงอยู่ได้
พระพุทธศาสนาก็ยังไม่เสื่อม

หมั่นไปดูที่ดีดี ที่ไม่ดี ก็อย่าไปทำตัวเป็นนายตำรวจของกฏแห่งกรรม
สนับสนุนพระที่ปฏิบัติปฏิบัติชอบ มีภาวนาเป็นวัตร สอนคนไม่ให้หลงงมงาย
ถ้าดูแต่ของไม่มีดีแล้วเกิดทุกข์ที่ใจตน ให้ดูใจของตนว่าทำไมมันชอบแส่หาเรื่องที่เป็นทุกข์
ทำไมถึงไม่เข้าหาเรื่องที่ทำให้ไม่เป็นทุกข์ เราเลือกได้ไหม หรือว่าใจมันเลือกของมันเอง
เผลอเมื่อไร ก็ไหลไปคิดแต่เรื่องที่เป็นทุกข์

ศาสนาควรเป็นสิ่งที่จรรโลงใจให้เป็นสุข ถ้ามีศาสนาแล้วมีทุกข์ แสดงว่าเราคงทำอะไรผิด
ไปแล้วล่ะ อาจมีความเคยชินผิดๆ คาดหวังอะไรผิดๆ เลยเป็นเหตุให้เกิดไม่ได้ดังใจ ขัดใจ แล้วก็เป็นทุกข์

ปล.เราจะไปแก้ที่คนหลงผิด มันคงจะยากส์ ที่ทำได้คือ แก้ที่ตัวเองอย่าให้หลงผิดตามเขาไป หรือหลง
ตามคนส่วนใหญ่ที่เราเองก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกหรือผิด แล้วทำตามความคิดของตัวเอง ที่คิดว่าดีและไม่
เบียดเบียนตนเองหรือผู้อื่น ช่วยทำด้านที่คิดว่าดีไม่หลงไม่งมงาย เป็นหลักที่มั่นคงไม่คลอนแคลน
ทำที่ตัวเองให้ได้ก่อน แล้วพอคนอื่นเขาเห็นดีด้วย เขาก็ทำตามเอง ไปบังคับให้คนอื่นเลิกหลงงมงาย
มันจะทำได้หรือ ถ้าเขายังคิดเองไม่ได้ เขาก็เห็นผิดเป็นถูกอยู่นั่นเอง

 

ศาสนาพุทธ ไม่มีวันเสื่อม เพราะเป็นสัจจธรรม เป็น ปรมัทถ์ เป็น ธรรมชาติบริสุทธิ์
แต่คนนั้นเสื่อม
เสื่อมแรก คือ กลุ่มที่ไปปฏิบัตินอกแนวทางของศาสนา เช่น ขูดหวย ทรงเจ้าเข้าผี นับถือ เทวดา ตรีมูรติฯลฯของฮินดู พราหมฯลฯ
เสื่อมสอง คือ กลุ่มที่มีอวิชชาอยู่เต็มอก ไม่เคยได้พบพระอริยะสงฆ์ พบแต่สมมุติสงฆ์ที่เอาคัมภีร์มาเทศน์ ก็จะไม่มีวันเข้าใจและมักไขว่เข้วออกจากแนวทางพุทธ ไปเล่นทางไสยศาสตร์ของ ฮินดูพราหม ไปโน่น
เสื่อมสาม คือกลุ่ม บวชตามประเพณี หมายความว่า ไม่สนใจศึกษาปฏิบัติ จึงยึดแต่บัญญัติสมมุติเป็นสรณะ ไม่ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
ง่ายๆ พวกผิดศีล5 คือ พวกอกุศลจิต อกุศลกรรมทั้งสิ้น ลองวิเคราะห์ตนเองหรือคนรอบข้างดู เมื่อพบ นั่นคือ ความเสื่อมของคน มิใช้ศาสนา

 

ศาสนา จะเสื่อมหรือไม่ ก็อยู่ที่พุทธบริษัท คือรวมพวกเราทุกคนน๊ะครับไม่ใช่ไปเน้นแต่

พระอย่างเดียว พวกเราเปรียบเหมือนอยู่ในบริษัทพุทธเดียวกัน ยิ่งในยุคข้อมูลข่าวสาร

การค้นหาที่สะดวกง่ายดายแค่ปลายนิ้ว เราก็ควรแสวงหาธรรมของจริงๆ แล้วช่วยเผยแพร่

ครูบาอาจารย์ ที่เน้นปฎิบัติ แนวสติปัฎฐาน ตราบใดที่ยังมีคนเจริญสติปัฎฐานสี่อยู่ แสดง

ว่าธรรมยังอยู่ ศาสนายังไม่เสื่อม แต่ถ้าไม่มีคนปฎิบัติภาวนา มีแต่ลัทธิบูชาวัตถุนิยม

ต่างๆ ถึงวันนั้นก็คงเรียกว่าศาสนาพุทธเสื่อมโทรมถึงขีดสุดแล้วล๊ะครับ......

 

ศาสนาไม่เสื่อม แต่คนต่างหากที่เสื่อม