ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อุตุฯ ใต้ย้ำระวังฝนซ้ำ-ยะลาท่วมโรงเรียนเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท

    [​IMG]

    ภูมิภาค 10 พ.ย.- สพท.ยะลา เขต 1 เผยปัญหาน้ำท่วมมีโรงเรียนได้รับผลกระทบ 37 แห่ง เสียหายเบื้องต้นกว่า 8 ล้านบาท ด้านสถานีอุตุฯ นราธิวาส เตือนยังเฝ้าระวังฝนตกอีกระลอกช่วงปลายสัปดาห์นี้

    นางภัทธราภรณ์ ศิริโภคา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ยะลา เขต 1 เปิดเผยความเสียหายของโรงเรียนหลังน้ำลดลงแล้วว่า โรงเรียนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากครั้งนี้ 37 แห่ง ซึ่งขณะนี้หลายโรงเรียนยังไม่สามารถเปิดสอนได้ เพราะครูและนักเรียนต้องเร่งทำความสะอาดอาคารสถานที่ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน เช่น โรงเรียนวัดหน้าถ้ำ (พุทธไสยานุสรณ์) ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา มีทหารชุดเฉพาะกิจยะลาที่ 11 เข้ามาช่วยเหลือขนย้ายโต๊ะเก้าอี้ เฉพาะความเสียหายของโรงเรียนแห่งนี้ประมาณ 800,000 บาท หากรวมทั้งหมด 37 โรงเรียน ประเมินไว้กว่า 8 ล้านบาท

    นายมะณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส รายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่วันนี้ (10 พ.ย.) ยังมีเมฆเป็นส่วนมาก ฝนกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ เรือประมงควรงดออกจากฝั่ง เนื่องจากทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และระหว่างวันที่ 12-13 พ.ย.นี้ อาจมีฝนตกหนักบางพื้นที่ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม อย่างไรก็ดี เช้าวันนี้ นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง และ อ.รือเสาะ ยังคงนำเครื่องอุปโภคบริโภคแจกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 10:47:17

    ชาวเขาแม่ฮ่องสอนแห่ตุนฟืนห่วงอากาศหนาวจัด

    [​IMG]

    แม่ฮ่องสอน 10 พ.ย.- นายเดชา สัตถาผล นายอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางอำเภอเตรียมแผนรับมือปัญหาภัยหนาวไว้แล้ว โดยเร่งสำรวจผู้ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว

    เบื้องต้นมีประมาณ 20,209 คน หรือร้อยละ 39 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในอำเภอแม่สะเรียง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวยากจนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส คนชรา และผู้พิการ ทางอำเภอจะเร่งแจกเครื่องกันหนาวให้ทั่วถึง เพราะคาดว่าช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้อุณหภูมิจะลดลงอีก และจะยิ่งหนาวจัดราวปลาย ๆ เดือนธันวาคม

    ขณะเดียวกันราษฎรชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูงหลายหมู่บ้านทั้งในอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอสบเมย เริ่มออกหาไม้ไว้ทำฟืนให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อใช้ก่อไฟผิงคลายความหนาวเหน็บในช่วงค่ำและเช้ามืด เพราะขณะนี้อากาศเริ่มเย็นลง โดยเฉพาะเช้ามืดมีหมอกปกคลุมหนาทึบ. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 10:16:54

    ชาวบ้านพื้นที่ลุ่ม-ริมฝั่งยังเผชิญปัญหาน้ำท่วม

    [​IMG]

    ภูมิภาค 10 พ.ย.- พื้นที่ภาคใต้เริ่มดีขึ้นมาก หลังระดับน้ำท่วมลดลงเกือบเป็นปกติทั้งสงขลาและนราธิวาส เหลือเพียงพื้นที่ลุ่มและริมฝั่งที่ระดับน้ำยังทรงสูง เพราะบางจุดเป็นแหล่งรับน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล

    นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ล่าสุดเกือบสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ลุ่ม 4 อำเภอ ยังมีน้ำท่วมขัง คือ จะนะ เทพา บางกล่ำ และสะเดา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำระบายออก โดยเฉพาะ อ.บางกล่ำ เป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนไหลระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลา ขณะเดียวกันการช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายโตน กร่อมี นายอำเภอบางกล่ำ จะเรียกประชุมสรุปสถานการณ์เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรจากประตูระบายน้ำตามคันคลอง ร.1 ชำรุด และระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ช้า รวมทั้งเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมระลอกสองช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

    ส่วน จ.นราธิวาส สภาพน้ำท่วมทั้ง 13 อำเภอ ดีขึ้นมาก หลังจากฝนหยุดตกมา 3 วัน ส่งผลระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกเว้น 3 อำเภอ คือ รือเสาะ ตากใบ และสุไหงโก-ลก ยังมีน้ำท่วมขัง 80-100 เซนติเมตร เพราะแม่น้ำสายหลักทั้งแม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี อยู่ในภาวะน้ำล้นตลิ่ง ราษฎรเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน

    ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินถล่ม จังหวัดนราธิวาส รายงานความเสียหายเบื้องต้นจากน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.ถึงขณะนี้ว่า ชาวบ้านเดือดร้อน 26,525 ครัวเรือน รวม 124,335 คน มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บ้านเรือนเสียหาย 17 หลัง บ่อปลา 130 บ่อ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 26,054 ไร่ ถนนถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 119 สาย สะพานและคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 14 แห่ง ถนนสาย 4062 ช่วงเขตรอยต่อระหว่างบ้านกูมุง – บ้านไอร์ซากอ อ.จะแนะ กับ อ.สุคิริน ขาดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ วัดและมัสยิดถูกน้ำท่วมขัง 7 แห่ง

    นอกจากนี้ ผลพวงของการระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลโดยผ่านประตูระบายน้ำบางนราตอนบน ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังแถบบริเวณอ่าวมะนาวและเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทำให้ปลาเก๋าและปลากะพงตายไปจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 09:56:06

    สงขลายังแย่คลองอู่ตะเภาล้นเอ่อท่วมสะพานเชื่อมหมู่บ้าน

    [​IMG]

    สงขลา 9 พ.ย.- ชาวบ้านริมคลองอู่ตะเภายังเดือดร้อนอย่างหนักจากน้ำล้นตลิ่ง ท่วมสะพานเชื่อมหมู่บ้าน 2 อำเภอ ส่วนโรงเรียนแม้จะเปิดเรียนแล้ว แต่สภาพห้องเรียนยังใช้ไม่ได้ เพราะมีคราบโคลน ต้องเร่งทำความสะอาด

    ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลา แม้ล่าสุด (9 ต.ค.) หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ริมคลองอู่ตะเภาที่ยังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำในคลองอู่ตะเภาเอ่อท่วมตลอดเวลา ทำให้สะพานข้ามคลองอู่ตะเภา เชื่อมระหว่าง ต.พะตง อ.หาดใหญ่ และ ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรไม่ได้ นอกจากนี้ โรงเรียนกว่า 90 แห่ง สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 2 ประสบภาวะน้ำท่วมเช่นกัน แม้วันนี้จะเปิดเรียน แต่ไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ อย่างที่โรงเรียนวัดบางศาลา อ.คลองหอยโข่ง นักเรียนมาเรียนตามปกติ และต้องช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียน เนื่องจากยังมีโคลนและขยะที่ไหลมากับน้ำท่วม รวมทั้งเอกสารการเรียนการสอนเสียหาย

    นายสงวน ศรีสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สงขลา เขต 2 กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าโรงเรียนจำนวน 74 แห่ง ถูกน้ำท่วมเสียหาย และโรงเรียนอีก 16 แห่ง ที่เส้นทางไปโรงเรียนถูกน้ำท่วม ทำให้ในวันนี้แม้จะเปิดเรียนตามปกติ แต่ช่วงเช้าคงต้องทำความสะอาดสถานที่ก่อน คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-09 10:12:26

    สสจ.สงขลา เตือนประชาชนระวังโรคที่มากับน้ำท่วม

    [​IMG]

    สงขลา 9 พ.ย.-นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เตือนประชาชนให้ระมัดระวังสุขภาพมากยิ่งขึ้น หลังเกิดน้ำท่วมต่อเนื่องหลายวัน โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องแช่น้ำเป็นเวลานาน ให้ระวังโรคน้ำกัดเท้าและโรคไข้ฉี่หนู โดยควรใส่รองเท้าบู๊ทเมื่อต้องเดินย่ำน้ำ และล้างมือล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้งหลังจากเดินย่ำน้ำ หรือถูกน้ำสกปรก

    นอกจากนั้น ยังต้องเฝ้าระวังโรคระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งพบว่าหลังน้ำท่วม มีผู้ป่วยเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลและคลินิกเพิ่มขึ้นกว่าปกติ รวมทั้งอุบัติเหตุ อุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งไฟฟ้าช๊อต อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมลงป่อง ที่อาจจะหนีน้ำมาหลบอยู่ในบริเวณบ้าน และการพลัดตกน้ำจมน้ำ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นน้ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พ่อแม่ผู้ปกครอง จึงต้องระมัดระวังคอยดูแลเป็นพิเศษ .-สำนักข่าวไทย

    2009-11-09 15:26:31

    พัทลุงน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมอีก 1 ราย

    [​IMG]

    พัทลุง 9 พ.ย.-ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง เริ่มคลี่คลาย หลังจากฝนหยุดตกตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา แต่ในส่วนของพื้นที่ติดทะเลสาบ ยังมีน้ำท่วมขังใน 4 อำเภอ 12 ตำบล คือ

    ต.มะกอกเหนือ ต.พนางตุง ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ต. พญาขันต์ ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี ต.ลำปำ อ.เมือง ต.เขาชัยสน ต.หารโพธิ์ ต.จองถนน อ.เขาชัยสน ต.นาปะขอ ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว มีน้ำท่วมสูง 30-40 ซม. ประชาชนอย่างน้อย 2,500 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะโคและกระบือ กำลังขาดอาหาร เนื่องจากแปลงหญ้ากว่า 500 ไร่ ของชาวบ้านที่อยู่ริมทะเลสาบถูกน้ำท่วมขัง ส่วนประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มป่วยเป็นไข้หวัด อุจจาระร่วง และโรคน้ำกัดเท้า ซึ่งจังหวัดได้จัดส่งทีมแพทย์พร้อมยารักษาโรค เข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนแล้ว

    อย่างไรก็ตาม จ.พัทลุง มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเพิ่มอีก 1 ราย คือ นายสมชาย แดงนวล อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 1 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน เสียชีวิตเนื่องจากขับรถจักรยานยนต์ลุยน้ำเข้าบ้านพักเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่พลัดตกคูน้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว รวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว 3 ราย.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-09 13:55:35

    ปัตตานีสรุปน้ำท่วม 8 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 1.8 หมื่นคน

    [​IMG]

    ปัตตานี 9 พ.ย.-นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม จ.ปัตตานี เปิดเผยยอดสรุปความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม ถึงวันนี้ (9 พ.ย.)

    มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยจำนวน 18,727 คน จาก 6,229 ครัวเรือน ในพื้นที่ 89 หมู่บ้าน 28 ตำบล ของ 8 อำเภอ จากทั้งหมด 12 อำเภอ ของ จ.ปัตตานี คือ

    1. อ.ยะรัง พื้นที่ถูกน้ำท่วม 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,515 ครัวเรือน

    2. อ.หนองจิก น้ำท่วม 9 ตำบล 31 หมู่บ้าน 2,470 ครัวเรือน ประชาชน 14,687 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 37 หลัง นาข้าว 185 ไร่ กระชังปลา 39 กระชัง และสวนยางพารา 10 ไร่

    3. อ.สายบุรี น้ำท่วมใน 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน

    4. อ.ทุ่งยางแดง น้ำท่วมใน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน นาข้าวรอเก็บเกี่ยวเสียหาย 45 ไร่

    5. อ.กะพ้อ น้ำท่วม 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน ถนนเสียหาย 13 สาย

    6. อ.แม่ลาน น้ำท่วม 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน ราษฎร 1,144 ครัวเรือน จำนวน 6,040 คน ได้รับความเดือดร้อน ถนนเสียหายสัญจรไม่ได้ 1 สาย

    7. อ.ไม้แก่น น้ำท่วม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน ที่นาเสียหาย 120 ไร่ กระชังปลา 20 กระชัง และ

    8. อ.เมือง น้ำท่วมใน 3 ตำบล 17 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน จำนวน 1,100 ครัวเรือน.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-09 11:41:02

    พาราเมอร์เตอร์ตกใส่พิธีเปิดสุพรรณบุรีเกมส์

    [​IMG]

    ภูมิภาค 10 พ.ย. - เกิดเหตุพาราเมอร์เตอร์ตกใส่นักเรียนขณะกำลังแสดงพิธีเปิดกีฬาสุพรรณบุรีเกมส์ ทำให้นักเรียนหญิงและคนขับพาราเมอร์เตอร์บาดเจ็บสาหัส

    หน่วยกู้ชีพช่วยกันปฐมพยาบาล ด.ญ.อัมไพ เกิดประกอบ นักเรียนโรงเรียนสงวนหญิง ก่อนนำส่งโรงพยาบาล หลังเกิดอุบัติเหตุพาราเมอร์เตอร์ ซึ่งเข้าร่วมพิธีเปิดสุพรรณบุรีเกมส์ ที่บริเวณสนามกีฬากลางสุพรรณบุรี เครื่องยนต์ขัดข้อง ก่อนเสียหลักตกใส่นักเรียนซึ่งกำลังแสดงอยู่กลางสนาม ทำให้ ด.ญ.อัมไพ ขาซ้ายหัก ส่วนนายดำรง พวงบุปผา คนขับพาราเมอร์เตอร์ บาดเจ็บสาหัส - สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 01:06:15

    ยังตื่นข่าวชายแดน ชาวกัมพูชาแห่ซื้อเครื่องบริโภค

    [​IMG]

    สระแก้ว,จันทบุรี 9 พ.ย.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว และจันทบุรี ยังเป็นปกติ ไม่มีการปิดด่าน แต่ชาวกัมพูชาบางส่วนยังหวั่นวิตกแห่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากผิดปกติ

    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เช้าวันนี้ ( 9 พ.ย.) ยังมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาค้าขายและซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภคจะซื้อกันมากว่าปกติ เช่น พืชผักผลไม้ น้ำดื่ม จากการสอบถามชาวกัมพูชาบางส่วนยังวิตกกับสถานการณ์ชายแดนกรณีมีข่าวจะปิดด่าน ประกอบกับวันนี้ตรงกับวันชาติของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพราน 1206 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ได้อธิบายให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเหตุการณ์ยังปกติ ไม่มีการปิดด่าน

    นายอิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย – กัมพูชา จ.จันทบุรี กล่าวว่า วันนี้มีผู้ค้าชาวกัมพูชาเข้ามาเปิดร้านขายของตามปกติ ส่วนปริมาณส่งออกสินค้าจากชายแดนจันทบุรีไปยังกรุงพนมเปญของกัมพูชา หลังจากรัฐบาลไทยและกัมพูชาเรียกทูตกลับประเทศ พบว่าการขนส่งสินค้าเริ่มลดลง จากเดิมมีรถบรรทุกนำสินค้าอุปโภคและบริโภคเข้าไปส่งวันหลายสิบคัน ขณะนี้เหลือไม่ถึง 10 คัน อาจเป็นเพราะผู้ประกอบการชาวกัมพูชาหันไปสั่งซื้อสินค้าจากเวียดนามและจีนแทน สำหรับกรุงพนมเปญถือเป็นตลาดสำคัญอีกแห่งของการค้าชายแดน โดยแต่ละเดือนมีการสั่งซื้อสินค้าไทยมูลค่าหลายร้อยล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-09 10:52:27

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เมื่อคืนนี้ 9 พย. (ทางช่อง 3) นั่งดูรายการทูไนท์โชว์ เพื่อติดตามเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติ ที่คาดว่าน่าจะเกิดในปี 2012 และเรื่องราวสั้นๆ เกี่ยวกับการติดต่อมนุษย์ต่างดาว

    พร้อมทั้งที่เพิ่งเปิดไปดูช่อง 9 ที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องปฏิทินมายันและภัยพิบัติในวันที่ 21 ธค. 2012

    เข้านอนประมาณเที่ยงคืนกว่า กลางคืนไม่ฝันอะไรเลย (ก่อนนอนสวดมนต์ทำวัตรเย็นและแผ่เมตตราธรรมดา) ในตอนเช้าก่อนลืมตา จู่ๆ ก็มีคาถาภาษาบาลี เข้ามาว่า นานาธาตุวิมุตติกยานะ ได้ยินแบบนี้นะ จำได้

    พอสายๆ ก็เลยมาหาคำนี้ใน google ปรากฏว่าขึ้นมา 2 ประโยคที่ใกล้เคียงมาก

    นานาธิมุตติกะญาณะ แปลว่า รู้อธิมุตของสัตว์ทั้งหลาย

    และ นานาธาตุญาณะ รู้โลกมีธาตุอย่างเดียวและมากอย่าง

    หลังจากนั้น ค้นหาดูว่า อยู่ในบทสวดใดบ้าง จึงพบว่าอยู่ในบทสวด พระคาถาอาการะวัตตาสูตร

    โดยเป็นบทที่ 11

    1. อิติปิโสภะคะวา อะระหัง
    อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ
    อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สุคะโต
    อิติปิโสภะคะวา โลกะวิทู
    อิติปิโสภะคะวา อะนุตตะโรปุริสะธัมมะสาระถิ
    อิติปิโสภะคะวา สัตถาเทวะมะนุสสานัง
    อิติปิโสภะคะวา พุทโธ
    อิติปิโสภะคะวา ภะคะวาติ
    (พุทธะคุณะวัคโค ปะฐะโม)

    2. อิติปิโสภะคะวา อะภินิหาระ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อุฬารัชฌาสะยะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะนิธานะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา มะหากะรุณา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะโยคะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ยุติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ชุติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คัพภะโอกกันติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คัพภะฐิติ ปาระมิสัมปันโน
    (อะภินิหาระวัคโค ทุติโย)

    3.อิติปิโสภะคะวา คัพภะวุฏฐานะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คัพภะมะละวิระหิตะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อุตตะมะชาติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คะติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะภิรูปะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สุวัณณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา มะหาสิริ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อาโรหะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะรินาหะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สุนิฏฐะ ปาระมิสัมปันโน
    (คัพภะวุฏฐานะวัคโค ตะติโย)

    4. อิติปิโสภะคะวา อะภิสัมโพธิ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สีละขันธะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สะมาธิขันธะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปัญญาขันธะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ทะวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
    (อะภิสัมโพธิวัคโค จะตุฏโฐ)

    5. อิติปิโสภะคะวา มะหาปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปุถุปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา หาสะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ชะวะนะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ติกขะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปัญจะจักขุ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อัฏฐาระสะพุทธะกะระ ปาระมิสัมปันโน
    (มะหาปัญญาวัคโค ปัญจะโม)

    6. อิติปิโสภะคะวา ทานะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สีละ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา เนกขัมมะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วิริยะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ขันตี ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สัจจะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะธิษฐานะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา เมตตา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อุเปกขา ปาระมิสัมปันโน
    (ปาระมิวัคโค ฉัฏโฐ)

    7. อิติปิโสภะคะวา ทะสะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ทะสะอุปะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ทะสะปะระมัตถะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สะมะติงสะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ตังตังฌานะฌานังคะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะภิญญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สะติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สะมาธิ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วิมุตติ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วิมุตติญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    (ทะสะปาระมิวัคโค สัตตะโม)

    8. อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะวิปัสสะนาวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา มะโนมะยิทธิวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อิทธิวิทธิวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ทิพพะโสตะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะระจิตตะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปุพเพนิวาสานุสสะติวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ทิพพะจักขุวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จะระณะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จะระณะธัมมะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะนุปุพพะวิหาระ ปาระมิสัมปันโน
    (วิชชาวัคโค อัฏฐะโม)

    9. อิติปิโสภะคะวา ปะริญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะหานะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สัจฉิกิริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ภาวะนา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะริญญาปะหานะสัจฉิกิริยาภาวะนา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จะตุธัมมะสัจจะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปะฏิสัมภิทาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    (ปะริญญานะวัคโค นะวะโม)

    10. อิติปิโสภะคะวา โพธิปักขิยะธัมมะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สะติปัฏฐานะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สัมมัปปะทานะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อิทธิปาทะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อินทรียะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา พะละปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา โพชฌังคะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อัฏฐังคิกะมัคคะธัมมะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา มะหาปุริสะสัจฉิกิริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะนาวะระณะวิโมกขะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะระหัตตะพะละวิมุตติ ปาระมิสัมปันโน
    (โพธิปักขิยะวัคโค ทะสะโม)

    11. อิติปิโสภะคะวา ทะสะพะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ฐานาฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วิปากะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สัพพัตถะคามินีปะฏิปะทา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา นานาธาตุญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา นานาธิมุตติกะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อินทริยะปะโรปะริยัตตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา นิโรธะวุฏฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปุพเพนิวาสานุสสะติญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จุตูปะปาตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อาสะวักขะยะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    (ทะสะพะละญาณะวัคโค ทะสะโม)

    12 . อิติปิโสภะคะวา โกฏิสะหัสสานังปะกะติสะหัสสานังหัตถีนังพะละธะระ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปุริสะโกฏิทะสะสะหัสสานังพะละธะระ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปัญจะจักขุญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ยะมักกะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สีละคุณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คุณะปาระมิสะมาปัตติ ปาระมิสัมปันโน
    (กายะพะละวัคโค ทะวาทะสะโม)

    13. อิติปิโสภะคะวา ถามะพะละ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ถามะพะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา พะละ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา พะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปุริสะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะตุละยะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อุสาหะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คะเวสิญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    (ถามะพะละวัคโค เตระสะโม)

    14. อิติปิโสภะคะวา จะริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา โลกัตถะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา โลกัตถะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ญาณัตถะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ญาณัตถะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา พุทธะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา พุทธะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ติวิธะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปาระมิอุปะปาระมิปะระมัตถะ ปาระมิสัมปันโน
    (จะริยาวัคโค จะตุระสะโม)

    15. อิติปิโสภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุอะนิจจะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุทุกขะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุอะนัตตะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อายัตตะเนสุติลักขะณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อัฏฐาระสะธาตุสุติลักขะณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วิปะรินามะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
    (ลักขะณะวัคโค ปัณณะระสะโม)

    16. อิติปิโสภะคะวา คะตัตถานะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา คะตัตถานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วะสิตะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา วะสิตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สิกขา ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สิกขาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สังวะระ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สังวะระญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    (คะตัตถานะวัคโค โสฬะสะโม)

    17. อิติปิโสภะคะวา พุทธะปะเวณี ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา พุทธะปะเวณีญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จะตุพรหมวิหาระ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะนาวะระณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา อะปะริยันตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา สัพพัญญุตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
    อิติปิโสภะคะวา จะตุวีสะติโกฏิสะตะวัชชิระ ปาระมิสัมปันโน
    (ปะเวณีวัคโค สัตตะระสะโม)


    ทั้งนี้ก่อนนอนมีความสงสัยเรื่องภัยพิบัติเป็นปกติ (เชื่อว่าจะเกิดขึ้นแต่ไม่รู้เมื่อไหร่)

    จากการสืบค้น google (อีกครั้ง) อนิสงส์ของบทสวดเด่นในเรื่องการคุ้มครองภัยพิบัติดังข้างล่างนี้ (ก็เลยนำข้อมูลมาโพสให้เพื่อนๆ )

    เพื่อที่จะเป็นอีกบทสวดหนึ่ง ที่ควรแก่น้อมนำมาสวดมนต์เป็นสิริมงคลและป้องกันภัยพิบัติที่ใกล้จะมาถึงในยุคสมัยนี้ค่ะ

    อานิสงส์พระอาการะวัตตาสูตร

    ..........ชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ได้เจริญพระอาการะวัตตาสูตรนี้ แม้เพียงครั้งหนึ่งจะคุ้มครองภัยอันตราย ๓๐ ประการ ได้ถึง ๔ เดือน ยกเว้นแต่ภัยอันตรายที่บังเกิดขึ้นแล้วแต่ผลวิบากแห่งอกุศลกรรมเท่านั้น ถ้าผู้ใดเจริญ พระสูตรนี้เป็นนิจ บาปกรรมทั้งปวงก็จะไม่ได้ช่องหยั่งลงไปในสันดาน เว้นแต่กรรมเก่าตามมาทันเท่านั้น ผู้ใด อุตสาหะตั้งจิตใจเล่าเรียน ได้ใช้สวดมนต์ก็ดี บอกเล่าผู้อื่นให้เลื่อมใสก็ดี เขียนเองก็ดี กระทำสักการะบูชา เคารพนับถือพร้อมกาย วาจา ใจก็ดี ผู้นั้นจะปราถนาสิ่งใดก็จะสำเร็จผลทุกประการ แม้จะปราถนา พระพุทธภูมิ พระปัจเจกภูมิ พระอัครสาวกภูมิหรือ จะปราถนามนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ก็ส่งผลให้ได้สำเร็จสมความปราถนาทั้งนั้น
    <O:p</O:p






     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ขอเชิญชมเทปบันทึกภาพการให้สัมภาษณ์

    ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์นายแพทย์เทพนม เมืองแมน


    โดยคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์

    ในรายการ TONIGHT SHOW

    คืนวันจันทร์ที่ 9-11-2009

    [​IMG]
    เทพพนม เมืองแมน มนุษย์ต่างดาว Tonight Show 9Nov09 4/6
    Runtime: 10m:59s

    [​IMG]
    เทพพนม-เมืองแมน-มนุษย์ต่างดาว Tonight Show 9Nov09 5/6
    Runtime: 10m:59s

    [​IMG]
    เทพพนม-เมืองแมน-มนุษย์ต่างดาว Tonight Show 9Nov09 6/6
    Runtime: 10m:28s<!-- google_ad_section_end --> ​
     
  4. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 10.33 น.ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • E13.jpg
      E13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      126.1 KB
      เปิดดู:
      1,684
  5. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    วันนี้เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศลาวหลายครั้ง
    <TABLE class=MsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; MARGIN: auto auto auto 27.25pt; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450pt; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm; mso-border-insideh: .5pt solid windowtext; mso-border-insidev: .5pt solid windowtext" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=1><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt; mso-yfti-irow: 0"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 92.95pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=bottom noWrap width=124>
    Date

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 91.85pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=bottom noWrap width=122>
    Time<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 58.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=78>
    Dep(Km.)<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 102.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=136>
    Magnitude<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 104.8pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=140>
    Location<O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15pt; mso-yfti-irow: 1; mso-height-source: userset"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 92.95pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=bottom noWrap width=124>
    10 NOV 09<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 91.85pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=122>
    19:04:418<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 58.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=78>
    10.50<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 102.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=136>
    3.90<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 104.8pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=140>
    <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:pLAOS</ST1:p</st1:country-region><O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15pt; mso-yfti-irow: 2; mso-height-source: userset"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 92.95pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=bottom noWrap width=124>
    10 NOV 09<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 91.85pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=122>
    15:40:291<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 58.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=78>
    9.00<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 102.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=136>
    4.00<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 104.8pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=140>
    <st1:country-region><ST1:pLAOS</ST1:p</st1:country-region><O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15pt; mso-yfti-irow: 3; mso-height-source: userset"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 92.95pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=bottom noWrap width=124>
    10 NOV 09<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 91.85pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=122>
    15:01:499<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 58.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=78>
    15.00<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 102.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=136>
    4.20<O:p</O:p
    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 104.8pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=140>
    <st1:country-region><ST1:pLAOS</ST1:p</st1:country-region><O:p</O:p

    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15pt; mso-yfti-irow: 4; mso-height-source: userset; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 92.95pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=bottom noWrap width=124>
    10 NOV 09<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 91.85pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=122>
    14:36:561<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 58.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=78>
    11.10<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 102.2pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=136>
    4.40<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 104.8pt; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 15pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" noWrap width=140>
    <st1:country-region><ST1:pLAOS</ST1:p</st1:country-region><O:p</O:p


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • E11.JPG
      E11.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.3 KB
      เปิดดู:
      1,578
  6. access

    access เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +175
    ภัยบ้างส่วนอาจจะเกิดปลายปีนี้ก็ได้นะ ดูๆช่วงนี้คงมีหลายท่านฝันเห็นคลื่นลมแรง น้ำท่วมพายุฝนกันบ่อยๆ แล้ะประเทสไทยเราอาจจะเกิดมากกว่าที่เห็นตอนนี้ คลื่นที่ว่าอาจจะมาเร็วๆนี้ก็ได้ คงไม่ต้องรอปี 2012 รึ 2030 ก็เป็นไปได้
    อะไรๆที่มหัศจรรค์ ที่ๆคนเราไม่คิดว่ามันจะเกิด ่วงๆนี้เราคงได้พบเห็นสิ่งแปลกๆเรื่องเหลือเชื่ีอกันบ่อยขึ้น
    เมื่อ1 อาทิตย์ที่ป่านมาฝันเห็นลมแรง เกิดขึ้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีทางสูงพาดอยู่เหนือบ้านคนมองเห็นทะเลอยู่ทั้ง2 ฝั่ง ไม่แน่ใจว่าทางมอเตอร์เวย์ ไปชลบุรี พัทยารึเปล่า มีลมแรง มาก พัดน้ำทะเล และมีจังหวัดอีกจังหงวัดในเสลาเดียวกันฝนตกแรงถนนถูกตัดขาดมีเต่าใหญ่มานอนขวางทางน้ำ แต่อีกจังหงัดที่มีทางผ่านเป็ฯมอเตอร์เวย์ เกิดคลื่นถล่มครั้งแรก ยังเหลือซากปรักหักพัง ส่วนที่จังหวัดเล็กๆชายฝั่งที่ยังเหมือนหมู่บ้านที่พายุฝนเข้าและน้ำท่วม นั้นพอคลื่นครั้งที่ 2 มา จะไม่เหลือเลยทั้งสองที่
    คือตามในฝันนะค่ะ ประมาณว่ามันจะเกิดอยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรก เหลือคนรอดและบ้านเรือนพังเหลือซากอยู่และอีกทีก็อน้พท่วมทางขาด ต่อมาเกิดอีกครั้ง น้ำมาพาไปหมดเลยไม่เหลือซากให้เห็นนะค่ะ ประมาณนี้
    จริงๆก็แค่ฝันนะค่ะ เอามาแลกเปลี่ยนกันนะค่ะ จะเกิดไม่เกิดเราก็ยังไม่รู้ค่ะ
    .... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำทุกๆวันให้มีค่ามีความสุข ทำสิ่งที่ดีไม่สร้างความเดือดร้อนแค่นี้ก็พอแล้วจริงไหมค่ะ อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด มันอาจจะเป็นการซักล้างที่ดี เพื่ออนาคตของเผ่าพันธ์มนุษย์ที่ดีในอนาคตก็เป็นได้ จักรวาลอาจจะถูกจัดสรรค์ ให้ดีกว่าเดิม ก็ได้จริงไหม
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ช่วงนี้แผ่นดินไหวตามรอยแนวริงค์ออฟไฟร์ครับ

    ลองดูด้านล่างใต้ดินไม่เสถีนรอย่างมากเลยครับ

    อย่าได้ประมาทธรรมชาติกันครับ
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะคำสอนพระพุทธเจ้า ****

    ใครที่เห็นว่า สัจจะเป็นลัทธิ
    ก็ขอให้พิจารณาใหม่
    พระพุทธเจ้ามีสัจจะตัดลดนิสัย
    เป็นตัวอย่างของผู้ทำได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 ริกเตอร์นอกชายฝั่งหมู่เกาะนิโคบาร์

    [​IMG]

    นิวเดลี 10 พ.ย. - สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งหมู่เกาะนิโคบาร์ วันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้บาดเจ็บ

    ยูเอสจีเอส รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.48 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 09.48 น. ในไทย และอยู่ลึกลงไป 18 กม. มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากเมืองพอร์ต แบลร์ เมืองเอกของหมู่เกาะอันดามัน และนิโคบาร์ ดินแดนของอินเดีย ในอ่าวเบงกอล ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ราว 405 กม. แต่ยังไม่มีประกาศเตือนภัยการเกิดคลื่นสึนามิ. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 13:17:43

    เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในอินเดีย เสียชีวิต 41 คน

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    เจนไน 10 พ.ย.- ตำรวจอินเดียรายงานว่า เกิดฝนตกหนักทางตอนใต้ของอินเดีย ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและแผ่นดินถล่ม คร่าชีวิตประชาชนไป 41 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

    รายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในหลายเมืองของรัฐทมิฬนาฑูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 คนแล้ว โดยฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างต่อทั้งอาคารบ้านเรือนและผลผลิตทางการเกษตร โดยในเขตนิลกิริส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเจนไนไปทางตะวันตก 450 กม. มีปริมาณฝนตกวัดได้ 24 นิ้วในช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีรายงานหมู่บ้านได้รับความเสียหายทั้งหมู่บ้าน

    รายงานระบุว่า หน่วยกู้ภัยกำลังระดมกำลังช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการจมน้ำ กระแสไฟฟ้าดูด หรือกำแพงพังถล่มลงมาทับ มีรายงานว่า โรงเรียนในหลายพื้นที่ปิดการเรียนการสอน และคาดว่าจะยังคงมีฝนตกหนักต่อไปอีก 24 ชม. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 17:07:45

    พายุไอดาอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ทำให้ต้องผลิตน้ำมันลดลง 1 ใน 3

    [​IMG]

    โมบิล,แอละแบมา 10 พ.ย.- พายุไอดาอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว แต่ทำให้เกิดฝนตกหนักตามพื้นที่ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกและโรงกลั่นน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันเกือบ 1 ใน 3

    พายุไอดาเคยทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนระดับ 2 แต่ได้อ่อนกำลังลงเมื่อเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นเหลือ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งใกล้เมืองโมบิล รัฐแอละบามาในเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น และจะอ่อนกำลังลงอีกเมื่อเข้าใกล้ฝั่ง เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยคนงาน 2 คน จากแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ถูกพายุพัดเสียหาย และได้ปิดท่าเรือน้ำลึกโมบิล ปิดการสัญจรในอ่าวโมบิล ซึ่งเป็นปากน้ำของอ่าวเม็กซิโก สั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ทำการรัฐบาลตามเมืองชายฝั่งในรัฐแอละแบมาและรัฐฟลอริดา รวมทั้งขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมอพยพออกจากบ้านเรือน ก่อนหน้านี้ไอดาทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในเอลซัลวาดอร์ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 134 คน

    ด้านสำนักงานจัดการทรัพยากรสหรัฐเผยว่า พายุไอดาทำให้การผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกลดลงร้อยละ 29.6 และ 27.5 ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทน้ำมันหลายแห่งปิดแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งและอพยพคนงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดไนเม็กซ์งวดส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นพรวดพราด 2 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่บาร์เรลละ 79.43 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ ตลาดพลังงานอ่อนไหวต่อพายุในอ่าวเม็กซิโกนับตั้งแต่การผลิตได้รับผลกระทบหนักจากเฮอริเคนประจำฤดูเมื่อปี 2547 และ 2548 ทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 09:39:06

    เรือรบเกาหลีเหนือยิงปะทะเรือรบเกาหลีใต้

    [​IMG]

    โซล 10 พ.ย. - เรือรบของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยิงปะทะกันในทะเลห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี ผลการปะทะทำให้เรือตรวจการณ์ของเกาหลีเหนือลำหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    โฆษกของคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ ยืนยันว่า เกิดการปะทะกันในทะเล แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัพรายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า เรือตรวจการณ์ของเกาหลีเหนือแล่นข้ามเขตแดนที่เป็นข้อพิพาททางทะเล ทำให้เรือรบของเกาหลีใต้ต้องยิงกระสุนเตือน แต่เรือของเกาหลีเหนือยังคงมุ่งลงใต้ ทำให้เรือรบของเกาหลีใต้ตัดสินใจระดมยิงไปที่เรือของเกาหลีเหนือ ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้น

    เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้บอกว่า เรือเกาหลีใต้ปลอดภัย แต่เรือของเกาหลีเหนือได้รับความเสียหายครึ่งลำ แต่ยังแล่นกลับเข้าไปในเขตของเกาหลีเหนือได้
    สำหรับเขตแดนที่เป็นจุดการปะทะนี้ มีเส้นแบ่งเขตที่กำหนดโดยกองทัพสหประชาชาติว่า “Northern Limit Line” เมื่อสิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 2496 แต่ฝ่ายเกาหลีเหนือไม่เคยยอมรับเส้นแบ่งเขตแดนนี้ และต้องการให้ลากเส้นแบ่งลึกลงมาทางใต้อีก. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 11:31:42

    อิหร่านตั้งข้อหานักปีนเขาอเมริกัน 3 คน เป็นสายลับ

    [​IMG]

    อิหร่าน 10 พ.ย. - 3 นักปีนเขาชาวอเมริกัน ถูกอัยการอิหร่านตั้งข้อหาเป็นสายลับ หลังจากที่ถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

    สำนักข่าวไอร์อาร์เอ็นเอ ของอิหร่าน รายงานว่า เชน เบาเออร์ ซาราห์ เชราด์ และโจช ฟัตทาล ถูกตั้งข้อหาข้อหาเป็นสายลับ หลังจากที่ถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อัยการระบุว่า ทั้งหมดเดินทางข้ามพรมแดนจากอิรักมายังอิหร่านอย่างผิดกฎหมาย และมีพฤติกรรมเป็นสายลับ จึงจะต้องถูกส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี

    ด้านนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ บอกว่า ข้อกล่าวหาของอิหร่านไม่เป็นความจริง และเรียกร้องให้อิหร่านปล่อยตัวทั้ง 3 คนเป็นอิสระ ด้านสมาชิกครอบครัวของชาวอเมริกันทั้ง 3 คน เปิดเผยว่า ทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวอยู่ระหว่างปีนเขา และพลัดหลงเข้าไปในพรมแดนของอิหร่านโดยไม่ได้ตั้งใจ. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 04:07:58

    เวเนซุเอลากำลังเร่งหาทางยับยั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่

    [​IMG]

    10 พ.ย. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเวเนซุเอลากำลังเร่งหาทางยับยั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระบาดอย่างรุนแรง ในหมู่ชนพื้นเมืองอเมซอนที่มีกลุ่มคนงานเหมืองและคนจากต่างถิ่นเป็นพาหะนำโรค

    อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของเชื้อ H1 N1 ในหมู่ชาวอินเดียนแดงเผ่ายาโนมานิ ในแถบป่าผืนอเมซอน ดูเหมือนจะควบคุมได้แล้ว หลังจากมีการแจกจ่ายยาให้แก่ผู้ติดเชื้อได้อย่างทันท่วงที ชนพื้นเมืองดังกล่าวถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด โดยมีประชากรราว 30,000 คน และไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอก จนกระทั่งเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ที่มีคนงานเหมืองทองคำเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ รวมทั้งคนจากต่างถิ่น ซึ่งได้นำพาโรคร้ายเข้ามาด้วย ขณะนี้กำลังมีการสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตของชาวเผ่ายาโนมานิ 6 คน ว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส H1 N1 หรือไม่

    ขณะเดียวกันรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า การผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อ H1N1 ในช่วงสิ้นเดือนนี้ อาจช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากขาดแคลนไวรัสที่ใช้ในการผลิตวัคซีน อย่างไรก็ตาม คาดว่าปลายเดือนธันวาคมสถานการณ์น่าจะกลับมาเป็นปกติ. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 12:49:39

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในอินเดียมากกว่า 500 คนแล้ว

    [​IMG]

    นิวเดลี 10 พ.ย. – กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยวานนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากกว่า 500 คนแล้ว นับตั้งแต่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวรายแรกเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา

    รายงานระบุว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในรัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของประเทศ 207 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดจากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 502 คน นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วประเทศมากกว่า 14,000 คนแล้ว นับตั้งแต่มีรายงานครั้งแรกในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

    รายงานจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ประชาชนทั่วโลกมากกว่า 5,700 คนเสียชีวิต นับตั้งแต่มีการค้นพบไวรัสชนิดดังกล่าวเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยพบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในภูมิภาคอเมริกา. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 16:39:03

    จีนเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ซึ่งคร่าชีวิตแล้ว 30 คน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 10 พ.ย.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนเดินหน้ารณรงค์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจำนวนมากและดำเนินมาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งเกือบ 60,000 คน และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเกือบ 2 เท่าเป็น 30 คนแล้ว

    โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ขณะนี้พบตัวเลขของผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ และพบการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ที่ไม่เคยพบมาก่อน รายงานกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ขยับขึ้นเป็น 30 คนเมื่อนับถึงวานนี้ เพิ่มจากจำนวน 16 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคดังกล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 5,000 คนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เป็น 59,478 คน ในจำนวนดังกล่าวกว่า 240 คนมีอาการรุนแรง


    นับถึงเมื่อวานนี้ มีประชาชนชาวจีนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว 8.7 ล้านคนโดยทางการจีนหวังว่า จะสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชากรได้ถึง 65 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ในไตรมาสแรกของปี 2553 จะมีการผลิตวัคซีนเพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านโดส. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 16:05:38

    ชายชาวอเมริกันเผยมีใบหน้าพระเยซูอยู่ที่หน้าต่างรถทุกเช้า

    [​IMG]

    แอนนาโนวา ดอท คอม 10 พ.ย.- ชายชาวอเมริกันอ้างว่าเกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดขึ้น เมื่อไอน้ำเกิดการควบแน่นปรากฏเป็นภาพใบหน้าของพระเยซูที่หน้าต่างรถกระบะของเขาในเวลาเช้า

    นายจิม สตีเวนส์ จากเมืองโจนส์โบโร รัฐเทนเนสซี บอกว่า ใบหน้าของพระคริสต์มาอยู่ที่รถของเขาเกือบทุกเช้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว และจะหายไปเมื่อไอน้ำระเหย แต่ก็จะกลับมาอีกในเช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งไม่ว่าเขาจะหมุนกระจกขึ้นหรือลงก็จะมีภาพนี้ปรากฏอยู่ทุกครั้ง

    สตีเวนส์บอกว่าไม่ใช่คนเคร่งศาสนา แต่ก็รู้สึกกลัวที่มีสิ่งนี้มาปรากฏอยู่ที่รถ และว่าเขาไม่ได้ดัดแปลงแต่งเติมสิ่งใดทั้งสิ้นกับรถอีซูซุกระบะคันนี้ จึงยังเป็นปริศนาที่ค้างคาใจรอคำตอบมาถึงปัจจุบัน.- สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 16:49:18

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • E14.jpg
      E14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.4 KB
      เปิดดู:
      1,228
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภูเขาไฟในฟิลิปปินส์พ่นเศษเถ้าถ่าน หวั่นอาจเกิดการระเบิด

    [​IMG]

    มะนิลา 11 พ.ย.- สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ภูเขาไฟมายอนหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังไม่ดับของฟิลิปปินส์ พ่นเศษเถ้าถ่านสู่ท้องฟ้าเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ พร้อมออกคำเตือนให้ประชาชนท้องถิ่นอพยพในกรณีที่เกิดการระเบิด

    เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ภูเขาไฟมายอนเกิดการปะทุ ทำให้เศษขี้เถ้าสีเทาปกคลุมหมู่บ้านโดยรอบ 9 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านเรือนของประชาชนประมาณ 22,000 คน การเตือนภัยภูเขาไฟดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับ 2 ซึ่งหมายความว่า อยู่ในภาวะไม่สงบซึ่งอาจนำไปสู่การระเบิดที่รุนแรง ขณะที่ประชาชนได้รับคำแนะนำให้อยู่ห่างจากบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ และถ้าหากมีการเพิ่มระดับคำเตือน จะมีการอพยพประชาชนในหมู่บ้านโดยรอบ ส่วนในกรณีที่มีเศษขี้เถ้า ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบควรจะอยู่ในบ้าน สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นหรือใช้ผ้าสะอาดที่ชุ่มน้ำปิดจมูกไว้

    ภูเขาไฟมายอน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ เคยระเบิดมาแล้วถึง 48 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มทำการบันทึก โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2549 ด้านนักแผ่นดินไหววิทยากล่าวว่า ภูเขาไฟมายอนเริ่มแสดงความผิดปกตินับตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 16:33:19

    ผู้ประสบอุทกภัยในเอลซัลวาดอร์นับหมื่นขาดแคลนอาหาร

    [​IMG]

    เวราปาซ 11 พ.ย. - โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ เผยชาวเอลซัลวาดอร์อย่างน้อย 10,000 คน กำลังต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหาร หลังเกิดน้ำท่วมและดินถล่มสร้างความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 160 คนแล้ว

    ประธานาธิบดีเมาริซิโอ ฟูเนส กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนตกหนักเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 160 คน แต่ลดจำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยลงมาเป็น 12,930 คน และยังมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน

    โครงการอาหารโลกยูเอ็น ระบุว่า กำลังให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ผู้ประสบภัยราว 500 คน ในค่ายพักพิงที่จังหวัดซานวีเซนเต หนึ่งในพื้นที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด และคาดว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกหลายพันคนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากน้ำท่วมสร้างความเสียหายแก่ผลผลิตทางการเกษตร บ้านเรือน และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ขณะนี้โครงการอาหารโลกมีขนมปังกรอบให้พลังงานสูง 90 ตัน ไว้พร้อมเตรียมส่งไปให้ผู้ประสบภัยในเวลา 2 วัน ซึ่งเพียงพอเลี้ยงคน 70,000 คน ได้นาน 4 วัน นอกจากนี้ยังมีอาหารอีก 1,000 ตัน ในเอลซัลวาดอร์. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 08:39:25

    ออสเตรเลียจะเริ่มลาดตระเวนทางอากาศชายหาดซิดนีย์

    [​IMG]

    ซิดนีย์ 11 พ.ย. – ออสเตรเลียจะเริ่มส่งเฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนเหนือชายหาดนครซิดนีย์ในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือน ธ.ค. - ม.ค. นี้ เนื่องจากมีรายงานพบฉลามมากขึ้นในบริเวณดังกล่าว

    นครซิดนีย์มีรายงานถูกฉลามเล่นงานถึง 3 ครั้งแล้วในปีนี้ โดย 2 ครั้งเป็นการทำร้ายคนเล่นกระดานโต้คลื่นบริเวณหาดบอนไดและหาดอวาลอน ส่วนอีก 1 ครั้ง เป็นการทำร้ายนักประดาน้ำของกองทัพเรือในบริเวณท่าเรือซิดนีย์ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนรอดชีวิตจากการโจมตี ชายหาดหลายแห่งของซิดนีย์มีการติดตั้งตาข่ายป้องกันฉลามนอกชายฝั่งมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่การทดลองลาดตระเวนทางอากาศจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 19 ธ.ค. 2552 – 10 ม.ค. 2553 ที่จะถึงนี้

    ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลกล่าวว่า การปกป้องสภาพแวดล้อมของชายหาดและอ่าวซิดนีย์ ส่งผลให้ท้องทะเลสะอาดมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ดึงดูดฉลามให้เข้าใกล้ฝั่งมากกว่าเดิม. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 15:08:41

    ภาวะโลกร้อนจะส่งผลกระทบต่อแม่น้ำแยงซีของจีน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 11 พ.ย. - ผลการศึกษาล่าสุด ระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้พื้นที่ลุ่มแม่น้ำแยงซีของจีน เผชิญปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย เช่น น้ำท่วม แห้งแล้ง และพายุ ที่อาจเป็นอันตรายต่อเมืองต่าง ๆ อาทิ นครเซี่ยงไฮ้

    รายงานที่ทำขึ้นร่วมกันระหว่างกองทุนสัตว์ป่าโลก สภาวิทยาศาสตร์จีน และสถาบันวิจัยอื่น ๆ พบว่า ในช่วงอีกไม่กี่ 10 ปีข้างหน้าภาวะโลกร้อนจะทำให้ธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยละลายมากขึ้น แล้วน้ำจะไหลไปถึงแม่น้าแยงซี ที่มีประชากรอาศัยมากถึง 400 ล้านคน และตัดผ่านตอนกลางของจีน รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่ของประเทศ ส่งผลให้การเพาะปลูกพืชอาหารแถบลุ่มน้ำแยงซีลดลง ทำให้ระดับน้ำในพื้นที่แถบแนวชายฝั่งเพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังจะส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติ เช่น พายุ และความแห้งแล้งเพิ่มขึ้น

    รายงานระบุว่า ในอีก 50 ปีข้างหน้าอุณหภูมิบริเวณลุ่มน้ำแยงซี จะเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 1.5-2 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยขึ้น แม้ว่าปกติพื้นที่แถบนี้จะเผชิญภัยธรรมชาติรุนแรงอยู่แล้ว อาทิ น้ำท่วม คลื่นความร้อน และความแห้งแล้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยระหว่างปี 2533-2548 มีอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น 1.04 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกัน ระดับน้ำทะเลที่นครเซี่ยงไฮ้ เพิ่มสูงขึ้น 11.5 ซม. ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และจะเพิ่มขึ้นอีก 18 ซม. ภายในปี 2593 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อน้ำอุปโภคบริโภคของเมือง
    ปัญหาโลกร้อน ยังจะทำให้การเพาะปลูกพืชบริเวณลุ่มน้ำแยงซี เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลีพันธุ์ที่ปลูกในฤดูหนาว และข้าว มีผลผลิตลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะข้าวที่อาจมีปริมาณผลผลิตลดลงมากถึงร้อยละ 9-14 ภายในช่วงสิ้นสุดศตวรรษนี้

    การเปิดเผยรายงานฉบับนี้มีขึ้นก่อนที่ถึงการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์กในเดือนหน้า เพื่อหาข้อตกลงใหม่แทนที่พิธีสารเกียวโตที่จะครบเป้าหมายแรกในปี 2555 โดยจีน และสหรัฐ เป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุของปัญหาโลกร้อนรายใหญ่ที่สุดในโลก. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 14:59:36

    เกิดเหตุไฟฟ้าดับในหลายเมืองสำคัญของบราซิล

    [​IMG]

    เซาเปาลู 11 พ.ย. – หลายเมืองสำคัญของบราซิล รวมถึงนครเซาเปาลู และนครรีโอเดจาเนโร สองเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ต้องตกอยู่ในความมืดมิดหลังไฟฟ้าดับเมื่อวานนี้ โดยในเบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากเหตุขัดข้องที่เขื่อนผลิตไฟฟ้าแห่งหนึ่ง

    เหตุไฟฟ้าดับเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 07.15 น. ตามเวลาไทย ก่อนจะขยายวงกว้างทั่วทั้งเซาเปาลู และรีโอเดจาเนโร รวมทั้งรัฐมีนัสเชไรส์และรัฐเอสปีรีตูซันตู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ รัฐมาตูโกรสซูโดซูล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และหลายพื้นที่ของรัฐโกยาส ทางตอนกลางของประเทศ รวมถึงกรุงบราซิเลีย

    สถานีโทรทัศน์โกลโบรายงานว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการควบคุมระบบไฟฟ้าแห่งชาติกล่าวโทษเหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้ว่า เกิดจากระบบพลังงานขัดข้องในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอิไตปู ซึ่งบราซิลใช้ร่วมกับปารากวัย แต่ข้อมูลดังกล่าวยังไม่สามารถตรวจสอบได้ในทันทีว่าเป็นความจริงหรือไม่ ขณะที่กระทรวงพลังงานกำลังพยายามตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุไฟฟ้าดับดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 10:39:02

    เกาหลีใต้ส่งเรือรบอีก 2 ลำไปที่น่านน้ำที่เกิดความขัดแย้ง

    [​IMG]

    โซล 11 พ.ย.-เจ้าหน้าที่ทางทหาร กล่าวว่า เกาหลีใต้ส่งเรือรบอีก 2 ลำไปคุ้มกันบริเวณชายแดนที่มีข้อพิพาทกับเกาหลีเหนือในทะเลเหลือง หลังจากเกิดเหตุยิงปะทะกันในทะเลระหว่างเรือของเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้

    เกาหลีใต้ส่งเรือตรวจการณ์ระวางขับน้ำ 1,800 ตันเพื่อเพิ่มการเฝ้าระวังบริเวณเขตแดนทางทะเล อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังไม่ยืนยันรายงานนี้ เพียงแต่บอกว่าไม่สามารถแสดงความเห็นในประเด็นปฏิบัติการทางทหารได้

    ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การปะทะกันทางทะเลระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ จะไม่กระทบต่อการตัดสินใจส่งทูตพิเศษของสหรัฐไปยังเกาหลีเหนือ เพราะสิ่งนี้คือก้าวสำคัญที่จะโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือเข้าสู่โต๊ะการเจรจาเพื่อกำจัดอาวุธนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 15:31:24


    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6922 ข่าวสดรายวัน


    "คิลิมันจาโร" ใกล้ไร้ธารน้ำแข็ง


    หมุนก่อนโลก

    วิทยา ผาสุก - wittayapasuk@hotmail.com



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ไม่นานมานี้เพิ่งมีข่าวจาก "ภูฏาน" ประเมินว่า

    ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยอาจละลายหมดภายในไม่กี่สิบปี

    เพราะผลกระทบจากปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หรือ วิกฤตโลกร้อน!

    ล่าสุด คุณลอนนี่ ทอมป์สัน นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็ง (กลาเซียร์) ประจำศูนย์วิจัยขั้วโลก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และคณะ ออกมาเตือนภัยในลักษณะเดียวกัน ว่า

    ถ้าสถานการณ์ โลกร้อนยังคงไม่บรรเทาเบาบาง ลง ภายในปีค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) หรืออีก 12-13 ปีข้างหน้า กลาเซียร์ รวมถึงน้ำแข็ง และหิมะ จะมลายหมดสิ้นไปจากยอดเทือกเขา "คิลิมันจาโร" ประเทศแทนซาเนีย!

    ท่านที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว ย่อมคุ้นหูกับชื่อ "คิลิมันจาโร" เป็นอย่างดี เนื่องจากถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในแทนซาเนีย

    ได้รับการขนานนามว่า "หลังคาแห่งกาฬทวีป" เพราะครองสถิติยอดเขาสูงสุดในทวีปแอฟริกา ด้วยความสูงเกือบ 6,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

    และด้วยความสูงเสียดฟ้านี่เอง ทำให้อุณหภูมิยอดเขาเย็นจัดจนเกิดเป็นธารน้ำแข็ง ครอบคลุมอาณาบริเวณประมาณ 4,500 เมตร

    อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจปริมาณความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำแข็งบนยอดคิลิมันจาโร ระหว่างปี 2000 จนถึง 2007 (พ.ศ.2543-2550) พบว่า

    หายไปกว่า 1 ใน 4

    โดยธารน้ำแข็งส่วนที่หนาที่สุดตรงจุด "ขั้วน้ำแข็งตอนเหนือ" เคยหนา 50 เมตร

    แต่มาบัดนี้ความหนาของเส้นผ่านศูนย์กลางหายไป 1.9 เมตร

    นอกจากนั้น น้ำแข็งดังกล่าวยังมีอัตราการละลายเร็วมากขึ้นตามลำดับ (ปัจจุบัน ตัวเลขอยู่ที่ราว 2.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี)

    เคราะห์ยังดีที่ประชากรในพื้นที่ไม่ได้พึ่งพาน้ำจากธารน้ำแข็งมาใช้ในการดำรงชีพ หรือทำการเกษตร

    ฉะนั้นในอนาคตถ้าน้ำแข็งสูญพันธุ์หมดไป คงไม่ส่งผลกระทบมากนักในแง่นี้..

    แต่ความเสียหายทางธรรมชาติอื่นๆ จากภัยโลกร้อนจะ มีอะไรตามมาบ้าง เป็นประเด็นที่น่าวิตกยิ่งกว่า!

    ชี้"สัตว์เลี้ยง"อายุมากเสี่ยงเป?นมะเร็ง เจ้าของหมั่นสังเกตอาการ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>สัตว์เลี้ยงก็มีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคมะเร็งเหมือนมนุษย์ โดยเฉพาะยิ่งอายุมากขึ้น แนะเจ้าของหมั่นสังเกตความผิดปกติ

    รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ไศละสูต หัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวบนเวทีเสวนาเรื่อง "ความก้าวหน้าในการวินิจฉัยมะเร็งในสัตว์เลี้ยง" ในงาน "เปิดโลกบัณฑิตศึกษา 2552" ภายในอาคารจามจุรีสแควร์ ว่า ปัจจุบันพบโรคมะเร็งในสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมวเพิ่มขึ้น สาเหตุมาจากการที่เจ้าของดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของตัวเอง ทำให้มีอายุยืน ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกับในคน เพราะโรคมะเร็งเกิดขึ้นในกลุ่มที่มีอายุมากในสัตว์พบช่วงอายุ 6-7 ปี เทียบกับคนช่วงอายุ 50-60 ปี สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงเซลล์ภายในร่างกาย รวมถึงสภาพแวดล้อมที่สัตว์อาศัย เช่น อยู่ในพื้นที่แหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี หรือในสถานที่ที่มีฝุ่นควัน รวมถึงอาหารที่ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะไปส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื้อเยื่อ

    "มะเร็งที่พบมากที่สุดในสัตว์ ได้แก่ มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งเต้านม การรักษาโรคมะเร็งในสัตว์พบว่าแพทย์ที่รักษาเฉพาะทางในไทยยังมีจำนวนไม่มาก ประกอบกับค่ารักษาค่อนข้างราคาสูง และไม่รับประกันว่าจะหายขาดหรือไม่ เพราะเป็นโรคที่ติดต่อทางพันธุกรรม" รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ระบุ

    ส่วนข้อสังเกตดูว่าสัตว์เลี้ยงอาจเป็นโรคมะเร็งหรือไม่ เจ้าของทำได้ด้วยการหมั่นคลำลำตัวสัตว์เลี้ยงหากพบก้อนเนื้อ เม็ดหูด หรือไฝ รวมถึงเมื่อสัตว์มีบาดแผลแล้วเรื้อรัง เลือดออกไม่หยุด ให้รีบนำไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบ บางตัวอาจไม่แสดงอาการ แต่มีข้อสังเกต เช่น เบื่ออาหารหรือน้ำมูกไหล อย่างไรก็ตาม มะเร็งในสัตว์ไม่สามารถติดต่อไปยังผู้เลี้ยงหรือมนุษย์อย่างไรก็ตาม มะเร็งในสัตว์ไม่สามารถติดต่อไปยังผู้เลี้ยงหรือมนุษย์

    สัญญาณ"เยซู"

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    [​IMG]ข่าวจากเมืองโจนส์โบโรห์ รัฐเทนเนสซี แดนมะกัน บอกว่า

    ลุงจิม สตีเวนส์ ตื่นตะลึงตกกะจัยย์ขนลุกซู่ หลังจากเดินมาขึ้นรถกระบะยามเช้าแล้วเห็นภาพไอน้ำคล้ายใบหน้า "พระเยซู" ศาสดาศาสนาคริสต์ โผล่อยู่บนกระจก!

    "ภาพพระเยซูปรากฏครั้งแรกวันที่ 2 พฤศจิกาฯ จากนั้นก็เกิดขึ้นอีกตั้งหลายครั้งแน่ะโดยไม่ทราบสาเหตุ" จิม เล่าระทึก



    คนไทยหนี้ท่วมหัว-ซื้อบ้าน-หวย



    น.พ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 10 พ.ย. รับทราบสรุปผลเบื้องต้นการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี"52 ตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกเดือน จากครัวเรือนทั่วประเทศ 26,000 ครัวเรือน

    โดยพบว่า รายได้ครัวเรือน ช่วง 6 เดือนแรกปี"52 ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 21,135 บาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการทำงาน (72.2%) ด้านค่าใช้จ่าย ใน 6 เดือน พบว่า มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 16,225 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ 33.5% เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ซึ่งมีค่าเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ 1.5%) แต่ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ค่าภาษี ของขวัญ เบี้ยประกันภัย ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ดอกเบี้ย สูงถึง 12.1%

    สำหรับหนี้สินครัวเรือนช่วง 6 เดือนแรกปี"52 พบว่า ครัวเรือนมีหนี้สิน 61.8% โดยมีจำนวนหนี้สินเฉลี่ย 133,293 บาท/ครัวเรือน ส่วนใหญ่ 68.8% เป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในครัวเรือนคือ ซื้อบ้าน/ที่ดิน 36.3% ใช้ในการอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ ครัวเรือนที่มีหนี้สิน ส่วนใหญ่เป็นหนี้สินในระบบอย่างเดียว 82.9% โดยพบว่าจำนวนเงินเฉลี่ยที่เป็นหนี้ในระบบสูงกว่านอกระบบ ถึง 21 เท่า คือ เป็นหนี้ในระบบเฉลี่ย 127,152 บาท และเป็นหนี้นอกระบบเฉลี่ย 6,140 บาท/ครัวเรือน ขณะที่ครัวเรือนภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้สูงสุดถึง 81.5%


    ช่วยโจ๋ติดทะเลน้ำแข็งพร้อมลูกหมี




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    บีบีซีรายงานว่า เมื่อ 10 พ.ย. หน่วยกู้ภัยแคนาดาส่งทีมค้นหาและช่วยเหลือกระโดดร่มชูชีพจากเฮลิคอปเตอร์ลงไปบนก้อนน้ำแข็งสูง 15 เมตร เพื่อช่วยเหลือหนุ่มแคนาดาวัย 17 ปี ที่เผชิญนาทีระทึกขวัญติดอยู่บนก้อนน้ำแข็งลอยเท้งเต้งกลางทะเลในมหาสมุทรอาร์กติก พร้อมกับลูกหมีขั้วโลก 2 ตัว ขณะที่อุณหภูมิอยู่ที่ -20 องศา ทำให้ชายหนุ่มมีอาการร่างกายเย็นจัดและเนื้อเยื่อตาย

    เจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัย เมืองออนตาริโอเผยว่า เด็กหนุ่มเผ่าอินุตออกล่าสัตว์กับชายอีกคน แต่รถลุยหิมะเสียระหว่างทาง จังหวะนั้นเองแผ่นน้ำแข็งที่ยืนอยู่ก็แตกและลอยแยกตัวออกไป ทำให้ชายหนุ่มติดแหง็กอยู่บนก้อนน้ำแข็งทั้งคืน โดยมีหมีขั้วโลก 3 แม่ลูกอยู่ด้วย ชายหนุ่มยิงแม่หมีตาย เพื่อป้องกันตัว ทำให้ลูกหมีขั้วโลก 2 ตัวต้องกำพร้า

    หน่วยกู้ภัยออกช่วยเหลือหลังได้รับรายงานว่ามีคนหาย โดยครั้งแรกมองเห็นหนุ่มเคราะห์ร้ายจากทางอากาศ แต่พอลงมาค้นหากลับไม่พบตัว กระทั่งความมืดเข้าครอบคลุม จึงต้องหยุดการค้นหา และเริ่มต้นอีกครั้งในตอนเช้า กระทั่งพบตัวหนุ่มคนนี้บนก้อนน้ำแข็งที่ลอย
    ห่างจากฝั่ง 7 กิโลเมตร ส่วนชายอีกคนอยู่ไม่ไกลจากรถลุยหิมะ มีอาการร่างกายเย็นจัด
    เช่นกัน

    2โสมดวลเดือดกลางทะเล-ไฟลุก!




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอพีรายงานว่า เมื่อ 10 พ.ย. เกิดเหตุการณ์เขย่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เมื่อเรือสองฝ่ายยิงปะทะกันสนั่นทะเล ตรงน่านน้ำฝั่งตะวันตกของเมืองอินชอน 220 กิโลเมตร เมืองท่าทางตะวันตกของกรุงโซล ผลของการปะทะทำให้เรือลาดตระเวนเกาหลีเหนือเกิดไฟลุกไหม้ และล่าถอยเข้าไปในน่านน้ำของฝ่ายตน ส่วนด้านเรือรบของเกาหลีใต้ถูกยิงเสียหายเพียงเล็กน้อย

    รัฐบาลสองฝ่ายต่างกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายทำให้เกิดการปะทะขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปีตรงพรมแดนแม่น้ำเหลือง ทั้งยังเกิดในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐจะมาเยือนเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า

    ประธานาธิบดีลี เมียงบัก ผู้นำเกาหลีใต้ เรียกประชุมฉุกเฉินพร้อมสั่งการให้นายคิม แตยัง รมว.กลาโหมแจ้งให้กองทัพเกาหลีใต้จับตาความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด พร้อมกล่าวว่าเกาหลีเหนือเจตนาโจมตีฝ่ายเกาหลีใต้โดยตรง เพราะเรือของฝ่ายเกาหลีเหนือรุกล้ำน่านน้ำเข้ามาก่อน เรือรบลาดตระเวนเกาหลีใต้จึงยิงแจ้งเตือน แต่เรือดังกล่าวกลับเปิดฉากยิงใส่เรือรบลาดตระเวนเกาหลีใต้ จึงเกิดการปะทะขึ้นเป็นเวลานานประมาณ 2 นาทีเศษ ก่อนที่เรือรบของเกาหลีเหนือจะถูกยิงจนไฟลุก

    ด้านเกาหลีเหนืออ้างว่าเกาหลีใต้เป็นผู้รุกล้ำและเปิดฉากยิงใส่เรือรบลาดตระเวนของเกาหลีเหนือก่อน เรือรบเกาหลีเหนือจึงยิงโต้ตอบอย่างรุนแรง จนเรือรบของเกาหลีใต้ล่าถอย พร้อมทั้งกล่าวว่าเกาหลีใต้ควรออกมาขอโทษเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

    การยิงปะทะดังกล่าวนับเป็นสถานการณ์ตึงเครียดล่าสุดนับตั้งแต่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลในเดือนเม.ย และทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดินเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งประธานาธิบดีโอบามาเพิ่งตัดสินใจจะส่งทูตพิเศษของสหรัฐไปยังรัฐบาลเกาหลีเหนือ เพื่อเปิดเจรจาแบบตัวต่อตัวครั้งแรก นับตั้งแต่โอบามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

    รถยนต์ไฟฟ้า" พาหนะแห่งอนาคต

    หมุนก่อนโลก

    วิทยา ผาสุก wittayapasuk@hotmail.com




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ่านบทความเกี่ยวกับงานแสดงรถยนต์ "โตเกียวมอเตอร์โชว์" ปีนี้แล้วเห็นชัดเจนว่า

    ค่ายรถ "ญี่ปุ่น" กำลังตั้งเข็มทิศ มุ่งหน้าไปสู่การพัฒนาและผลิตรถยนต์ "ไฮบริด" ซึ่งใช้เครื่องลูกผสมระหว่างน้ำมันกับไฟฟ้า กับ "รถยนต์พลังไฟฟ้า" (อีวี) เต็มรูปแบบ

    รัฐบาลหลายๆ ประเทศเล็งเห็นทิศทางนี้เช่นกัน เนื่องด้วยมองว่า จะเอาแต่พึ่งพาน้ำมันลูกเดียวเหมือนก่อนคงไม่ได้

    เพราะนอกจากจะเป็นตัวการทำลายสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ยังมีราคาแพงมากขึ้นตามลำดับ

    ข้อมูลจากหนังสือ "สรรสาระ" ฉบับเดือนพฤศจิ กายน บอกว่า "รัฐ บาลอังกฤษ" เป็นหนึ่งในชาติที่ ประกาศแผนทุ่มงบประมาณสนับ สนุนการพัฒนา "ยานพาหนะไฟฟ้า" เพื่อหวังก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้

    แล้วรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจะมีลักษณะเด่นอะไรบ้าง?

    "ทอม บราวน์" เขียนเล่าเอาไว้ผ่านบทความ "รถยนต์ล้ำกาลเวลา" ในสรรสาระ ว่า

    1. บนหลังคารถ จะกลายเป็นที่ติดตั้งแผงเซลล์สุริยะ หรือ "โซลาร์เซลล์" เพื่อคอยแปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า

    2. รถไฟฟ้ามีข้อดีมากมาย แต่ข้อเสียสำคัญที่ต้องระวัง คือ ไม่มีเครื่องยนต์หรือเครื่องยนต์เดินเงียบมาก ฉะนั้นจึงมีการคิดค้นระบบเล่นเสียงเพลงขึ้นมาระหว่างขับขี่ เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้คนสัญจรตามท้องถนน โดยเฉพาะผู้พิการรับรู้

    3. ระบบเบรก จะผลิตกระแสไฟฟ้าส่งกลับคืนไปเก็บไว้ยังแบต เตอรี่ได้ และขณะนี้รถหรูบางรุ่นก็นำมาใช้แล้ว

    4. รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จะไม่มีเครื่องยนต์ เพราะล้อหมุนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า นักออกแบบจึงมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับเพิ่มลูกเล่น และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปในตัวรถ

    5. ตัวถังจะไม่หนักหนาสาหัสแบบรถรุ่นเก่า เพราะไม่ได้ทำจากโลหะ แต่ผลิตจากวัสดุ "ไบโอพลาสติก" ซึ่งรีไซเคิลมาจากน้ำมันพืช แป้งข้าวโพด หรือสาหร่ายทะเล

    6. รถทุกคันจะติดตั้งดาวเทียมนำทาง (จีพีเอส) บอกตำแหน่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ หรือตำแหน่งชาร์จไฟฟ้า

    7. ยามไม่ใช้รถ ไฟฟ้าที่ยังเหลือในแบตเตอรี่สามารถต่อพ่วงจ่ายไฟใช้งานภายในบ้าน

    หรือนำไป "ขาย" ด้วยการต่อเข้ากับระบบสายไฟในชุมชนก็ยังได้!

    ญี่ปุ่นเดินหน้าสร้าง"โรงไฟฟ้าอวกาศ" ผลิตพลังงาน"แสงอาทิตย์"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>รัฐบาลญี่ปุ่นระดมสมองร่วมกับภาคเอกชนและนักวิจัย เดินหน้าแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในห้วงอวกาศ ขนาด 1 กิกะวัตต์ มูลค่า 7.35 แสนล้านบาท จากนั้นใช้เล เซอร์และคลื่นไมโครเวฟ ส่งพลังงานกลับมาใช้หล่อเลี้ยงอาคารบ้านเรือน 3.5 แสนหลังในกรุงโตเกียว ตั้งเป้าใช้งานจริงในปีพ.ศ.2573

    ทางการญี่ปุ่นระดมเอกชนและนักวิจัยร่วมโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในอวกาศ ตามแผนแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ล่าสุด บริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดันตรีส์ หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ แถลงว่า แสงอาทิตย์เป็นพลังงานสะอาดที่มีอยู่เหลือเฟือในอวกาศ และเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาขาดแคลนพลังงานและโลกร้อน

    โครงการโรงไฟฟ้าอวกาศดังกล่าว ใช้แผงโซลาร์เซลล์ขนาดหลายตารางกิโลเมตรเป็นตัวรับแสงอาทิตย์ ซึ่งมีความเข้มข้นมากกว่าแสงที่ส่องถึงพื้นโลกอย่างน้อย 5 เท่า จากนั้นใช้แสงเลเซอร์หรือคลื่นไมโครเวฟถ่ายทอดพลังงานที่ผลิตได้มายังจานรับคลื่นขนาดยักษ์ ซึ่งอาจติดตั้งไว้ในทะเล หรืออ่างเก็บน้ำ โดยองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น ยืนยันว่า เทคโนโลยีส่งพลังงานด้วยแสงเลเซอร์ หรือคลื่นไมโครเวฟ มีความปลอดภัย

    เบื้องต้น นักวิจัยญี่ปุ่นตั้งเป้าพัฒนาโรงไฟฟ้าอวกาศขนาด 1 กิกะวัตต์ มีศักยภาพเท่าโรงไฟฟ้าปรมาณูขนาดกลาง แต่ต้นทุนผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าต้นทุนปัจจุบัน 6 เท่า

    ขั้นต่อไปมีแผนส่งดาวเทียมสู่วงโคจรระดับต่ำเพื่อทดสอบการส่งพลังงานด้วยคลื่นไมโครเวฟ พร้อมกับทด สอบโรงไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้าต้นแบบ 250 เมกะวัตต์

    เปิดสองมุมมองแตกต่าง โครงการ"นิวเคลียร์องครักษ์"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ลักษณะเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ในต่างประเทศ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2532 สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เคยหารือในประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการด้าน "นิวเคลียร์" ในประเทศไทย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ "ความปลอดภัย" จากการใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาด 2 เมกะวัตต์ ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ในพื้นที่เขตบางเขนติดกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เนื่องจากในการประชุมร่วมของพล.อ.ชาติชาย กับทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ "ไอเออีเอ" ก่อนหน้านั้นมีการระบุว่า เครื่องปฏิกรณ์ดังกล่าวจัด ตั้งขึ้นไม่ตรงกับหลักความปลอดภัยสากล ที่ต้องอยู่ห่างจาก "สนามบิน นานาชาติ" 14 กิโลเมตร

    แต่เครื่องปฏิกรณ์ของ ปส. กลับตั้งอยู่ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 8 กิโลเมตร ทำให้การประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติควรให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติย้ายเครื่องปฏิกรณ์เก่าไปยังสถานที่ใหม่ โดยเลือกพื้นที่ ต.ทรายมูล อ.องครักษ์ จ.นครนายก จัดตั้งเป็น "ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์" เพื่อย้ายเครื่องปฏิกรณ์เก่าไปสถานที่ใหม่ แต่ภายหลัง การศึกษาแนวทางการย้ายเครื่องปฏิกรณ์ของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ กลับพบว่าในทางเทคนิคไม่สามารถดำเนินการย้ายเครื่องปฏิกรณ์เครื่องเก่าตามที่ ครม. มีมติได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือจะต้องจัดซื้อเครื่องใหม่เท่านั้น

    และด้วยเหตุของการจัดซื้อเครื่องปฏิกรณ์เครื่องใหม่นี้เองเป็นสาเหตุนำไปสู่ปัญหาความไม่โปร่งใสของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนงำทุจริตหลายประการ จนแม้กระทั่งปัจจุบันผลการตรวจสอบก็ยังไม่เสร็จสิ้น ประกอบกับเสียงคัดค้านจากฝ่ายต่อต้าน และไม่เห็นด้วยกับการสร้างเตาปฏิกรณ์ฯ ในพื้นที่ อ.องครักษ์ เพราะไม่มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ทำให้โครงการ "ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์" ยังไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) หลายสมัยพยายามผลักดันก็ตาม



    ล่าสุด ภายหลังจากกาลเวลาผ่านมาหลายสิบปี ชื่อของโครงการศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์ก็ได้หวนหลับสู่การรับรู้ของสังคมไทยอีกครั้ง

    พลันที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรี วิทยาศาสตร์ในคณะรัฐบาลยุคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นเปิดประเด็นนี้ขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ ก่อน โดยประกาศชัดเจนว่า เตรียมสานต่อโครงการนิวเคลียร์ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่อ.องครักษ์

    ภายหลังคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่วนใหญ่เห็นประโยชน์มหาศาลที่จะได้รับจากการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูในประเทศไทยขึ้นอีก หลังจากที่ประเทศไทยเสียโอกาสในการนำนิวเคลียร์มาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์และอุตสาหกรรมอัญมณีไปมาก

    เนื่องจากต้องนำเข้ารังสีมาจากต่างประเทศ สูญเสียงบประมาณปีละกว่า 25,000 ล้านบาท

    พร้อมกันนี้ ยังเตรียมของบประมาณกว่าห้าพันล้านบาทเพื่อใช้ในเรื่องนี้โดยเฉพาะอีกด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    1.โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

    2.ถังทิ้งกากกัมตรังสี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "เรื่องนี้เห็นว่าประเทศไทยน่าจะมีการดำเนินการโครงการต่อเพื่อให้สามารถนำเครื่องปฏิกรณ์มาใช้ประโยชน์ได้ ตอนนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และจัดทำโครงการใหม่แล้ว ซึ่งหากได้รายละเอียดแล้วก็คงจะนำเข้า ครม. พิจารณาต่อไป ในขณะที่เรื่องของการตรวจสอบก็จะต้องดำเนินการต่อไปแต่จะต้องแบ่งเป็นเรื่องๆ ไป" คุณหญิงกัลยากล่าว



    ด้าน นายสมพร จองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยีนิวเคลียร์ (สทน.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูใช้งานอยู่เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น เป็นเครื่องปฏิกรณ์ฯ ขนาด 2 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ บางเขน มีอายุใช้งานเก่าถึง 47 ปีแล้ว เดินเครื่องทุกวันเพื่อผลิต "รังสีไอโซโทป" ส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ 25 แห่ง เพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งให้กับผู้ป่วยได้ประมาณ 20,000-30,000 ราย

    นอกจากนี้ ยังใช้ประโยชน์ในการฉายรังสีให้กับอัญมณี ผลิตผลทางการเกษตร รวมถึงการวิจัยในด้านต่างๆ ด้วย ซึ่งจากการดูงานของคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการฯ ส่วนใหญ่เห็นว่าเครื่องปฏิกรณ์ฯ ของไทยที่ใช้อยู่มีอายุมากเกินไปไม่สามารถที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่แต่ละปีมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2 แสนคน ทำให้ประเทศต้องนำเข้ารังสีไอโซโทปเป็นมูลค่ามหาศาล ถ้าเทียบกับที่ผลิตได้เองทั้งหมด

    ดังนั้น หากมีการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ขึ้นใหม่ ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ ไม่เพียงแต่จะลดการนำเข้าแล้ว ยังเป็นการช่วยผู้ป่วยมะเร็งยากจน ได้อีกจำนวนมาก

    ทั้งนี้ สทน. ได้ว่าจ้างศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูขนาด 10 เมกะวัตต์ ที่อ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งเป็นสถานที่เดิม

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าในต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย หรือออสเตรเลีย ล้วนใช้เครื่องปฏิกรณ์ที่มีขนาดใหญ่กว่า คือ "30 เมกะวัตต์"

    หากจะสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฯ ใหม่ในประเทศไทย ก็น่าจะเป็นเครื่องที่มีขนาดไม่ต่ำกว่า 20 เมกะวัตต์ เพราะทำประโยชน์ได้มากกว่าและไม่ล้าสมัย

    "จากข้อมูลเราพบว่า ประเทศไทยต้องใช้รังสีนำเข้ามาเพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อัญมณี เกษตรกรรม ปีละ 10 ตัน ในขณะที่เราสามารถผลิตได้เองเพียง 300-400 กิโลกรัม ทำให้เราต้องสูญเสียรายได้ไปมหาศาลทีเดียว จากการพูดคุยกับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยต่างๆ การสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฯ เพียงแค่ 10 เมกะวัตต์ จึงดูจะเล็กไปแล้ว ถ้าจะสร้างจริงๆ ก็ควรที่จะมีขนาด 20 เมกะวัตต์ขึ้นไปเพราะไม่อย่าง นั้นเราจะตามประเทศอื่นๆ ไม่ทัน ทั้งที่เราล้ำหน้าเขามาก่อนตั้งนาน" นายสมพร กล่าว



    ในประเด็น "ความปลอดภัย" ซึ่งหลายฝ่ายเป็นห่วงและเป็นข้อถกเถียงสำคัญนั้น นายสมพร กล่าวว่า ตามปกติการตั้งเครื่องปฏิกรณ์ฯ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดจะต้องมีการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้มาตรฐานระดับโลก คือ "ไอเออีเอ" รวมทั้งการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกวัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เช่น เครื่องปฏิกรณ์ฯ ที่เดินเครื่องที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่ บางเขน ซึ่งมีการเดินเครื่องผลิตรังสีไอโซโทปทุกวันก็ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยทั้งในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ จึงสามารถรับประกันในความปลอดภัยได้

    ส่วนข่าวการ "รั่วไหล" ในต่างประเทศที่เคยมีนั้นเป็นการตีข่าวใหญ่โต ให้น่ากลัวไปเอง เพราะการรั่วไหลแต่ละครั้งเป็นเพียงเล็กน้อยที่สามารถ ควบคุมได้ทั้งสิ้น

    "ในช่วงระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ทุกกลุ่ม ตั้งแต่โรงเรียน วัด ผู้นำชุมชน แม่บ้าน ครอบครัวต่างๆ เกี่ยวกับประโยชน์ ข้อดี ข้อเสียที่สามารถควบคุมได้ และยังได้เชิญมาดูการทำงานของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติที่บางเขนด้วย ซึ่งทุกฝ่ายมีความเข้าใจดีขึ้นมาก ในส่วนของเอ็นจีโอ เราอยากพูดคุยทำความเข้าใจด้วยเช่นกัน อยากให้มองเห็นประโยชน์ของชาติมากกว่าจะค้านอย่างเดียว เพราะที่ผ่านมาคนไทยมักถูกบอกให้เชื่อว่านิวเคลียร์น่ากลัว เหมือนกับผี ที่บอกว่าน่ากลัวแต่ไม่เคยเห็นเลยว่าผีน่ากลัวอย่างไร จึงอยากให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจมากขึ้น" นายสมชาย กล่าว



    คราวนี้หันมาทางฝ่ายเสียงจากฝ่าย "คัดค้าน" โครงการกันบ้าง

    นายสันติ โชคชัยชำนาญกิจ กลุ่มศึกษาพลังงานทางเลือกเพื่ออนาคต กล่าวว่า หากพิจารณาแล้วเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ จะทำหน้าที่ผลิตรังสี โดยเฉพาะ "ไอโซโทปกัมมัน ตรังสี" ที่มีประโยชน์ด้านการแพทย์เป็น ส่วนใหญ่

    แต่ก็พบว่าเทคโนโลยีนี้ความจริงล้าหลังไปมาก เพราะปัจจุบันสามารถใช้ "เครื่องเร่งอนุภาค" ที่สามารถผลิตรังสีได้ในหลายช่วงคลื่น และไม่ก่อผลกระทบ ไม่มีกากกัมมันตรังสีได้แทน และกำลังได้รับความนิยม

    ขณะเดียวกัน ในทางการศึกษาก็ยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ จึงไม่เข้าใจว่า หากมีทางเลือกอื่น ทำไมกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังดันทุรังจะสานต่อโครงการที่มีปัญหาอีก



    ด้าน นายธารา บัวคำศรี ผู้ประสานงานรณรงค์ประจำประเทศไทย กลุ่มอนุรักษ์ "กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ระบุว่า การรื้อฟื้นโครงการสร้างเครื่องปฏิกรณŒนิวเคลียร์ ที่องครักษ์ ตนคิดว่าควรจะต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็นด้วยกัน นั่นคือ

    หนึ่ง แนวคิดเรื่องนี้ไม่ควรที่จะแยกเรื่องของการสร้าง "เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการวิจัย" ออกจากเรื่องของการสร้าง "เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้ผลิตไฟฟ้า" เพราะผู้ผลิตเตาปฏิกรณ์ทั้งสองชนิดก็ล้วนแต่เป็นบริษัทเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นเตาปฏิกรณ์ที่มีขนาดเพียง 10 เมกะวัตต์ เพื่อใช้ในการวิจัย หรือเตาปฏิกรณ์ขนาดใหญ่เพื่อผลิตไฟฟ้าก็ไม่ได้มีความแตกต่างกัน

    สำหรับประเด็นที่สอง เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการเดิมที่จะมีการสร้างเตาปฏิกรณ์เพื่อการวิจัย ที่อ.องครักษ์ ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่าเคยเกิดปัญหาเรื่องของความไม่โปร่งใสเป็นเรื่องราวยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่กำลังจะมีการรื้อโครงการขึ้นใหม่ ซึ่งตนคิดว่ายังไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้ว่าจะออกมาบอกว่าจะมีการดำเนินการตรวจสอบกันต่อ แต่ในเมื่อทุกอย่างยังไม่ชัดเจน กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก็ยังไม่ควรนำโครงการเดิมมาต่อยอดปัดฝุ่นขึ้นอีก

    "ผมเข้าใจว่าคุณหญิงกัลยา ท่านเรียนจบมาทางด้านวิศวะ นิวเคลียร์ และต้องการที่จะนำเรื่องของนิวเคลียร์เข้ามาเพื่อต้องการให้นักวิทยา ศาสตร์เรามีความรู้เรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งเราไม่ได้ปฏิเสธ แต่การที่จะรื้อฟื้นโครงการที่ยังไม่มีความชัดเจน โปร่งใส ทั้งในเรื่องของการดำเนินการโครงการเอง รวมไปถึงเรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่ แม้ว่าจะออกมาบอกว่าทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว และยังจะนำเงินถึง 5 พันล้าน มาต่อยอดจึงเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าหลายฝ่ายคงไม่สบายใจเท่าไหร่" นายธารา กล่าว



    ส่วนในประเด็นที่ได้มีการหยิบยกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา 10 กว่าปี ที่นายสมพร ผอ.สทน. ระบุว่า ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชุมชนบริเวณใกล้เคียงแล้ว นายธาราแสดงความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวที่เคยทำงานกับชุมชนมาเช่นเดียวกันนั้น จริงๆ แล้วมีอยู่หลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มชาวบ้านชุมชนที่ไม่ได้มีความเห็นอะไรมากนักกับเรื่องนี้ กับกลุ่มที่มีความห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นใกล้บ้านของตัวเอง

    แม้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่จะเกิดขึ้นถูกระบุว่ามีขนาดเล็กและใช้เพื่อการศึกษาวิจัย รวมถึงใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ตามที่กล่าวอ้าง แต่ตนคิดว่าไม่ว่าเตาจะเล็กหรือใหญ่ ต้องมีการศึกษาอย่างครบถ้วนรอบด้าน และต้องเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไม่ว่าจะเป็นการทำรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) การรับฟังความคิดเห็นจากชุมชน และขั้นตอนต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ ใหม่ทั้งหมด

    ไม่ใช่การนำโครงการเก่า ซึ่งมีปัญหามาต่อยอด และอ้างว่าได้รับการยอมรับจากประชาชนเท่านั้น

    "การที่มีการออกมาพูด โดยบอกว่าทำความเข้าใจกับประชาชนแล้วจะยิ่งทำให้เกิดความสับสนกับประชาชนในภาพรวม โดยเฉพาะประเด็นปัญหาเดิมของโครงการที่ยังไม่รู้ว่าดำเนินการไปถึงไหน แต่กลับมีการนำมาต่อยอด ถ้าหากรัฐบาลอนุมัติเงิน 5 พันล้านเพื่อทำโครงการต่อย่อมเกิดคำถามว่าจะนำไปสู่อะไร และอาจนำไปสู่การสร้างเตาปฏิกรณ์เพื่อทำโรงไฟฟ้าก็ได้ เรื่องนี้น่าจะเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล และอาจทำให้รัฐบาลสั่นคลอนได้หากยังมีการดื้อรั้นจะดำเนินการต่อไป" นายธารา ฝากข้อคิดส่งท้ายไปถึงรัฐบาล
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีหลายข่าว ในช่วงหลายวันนี้ ที่ทำให้เห็น เค้าราง ของภัยพิบัติที่จะปรากฏชัดขึ้นส่งผลกระทบต่อชาวโลกและชาวไทยมากขึ้น ในช่วงปลายปีนี้ต่อไปถึงขึ้นปีหน้าเป้นต้นไป


    1. หน้าหนาวที่มาถึงในหลายประเทศส่งผลให้การระบาดระลอกใหม่ของไข้หวัดซึ่งคงมีต่อไปเป็น2009-2012 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้นในหลายประเทศ

    2.สงครามเริ่มเกิดขึ้นให้เห็นจากกรณีเรือรบของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่เกิดปะทะกันขึ้น ซึ่งอาจขยายออกเป็นสงครามหรือการประกาศสงครามต่อกัน(คนเชื้อชาติเดียวกันแท้ๆ แต่ต่างชาติมาสร้างปมแห่งการแบ่งแยกแตกแยกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นอินเดียกับปากีสถาน เรื่องแคว้นอัสสัมให้เป็นพื้นที่ทับซ้อน หรือ จะเป็นแถบเอเชียอาคเนย์ที่มีกรณีพิพาทเรื่องเขตแดนทับซ้อนเอาไว้ จนใกล้ประทุเป็น.....)

    สรุปว่า สงครามคงใกล้ปรากฏชัดตามที่มีพระสงฆ์ท่านเมตตาเตือนเอาไว้

    3.จากสภาพภูมิอากาศ พายุ ที่เข้าทำให้พื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำ หลายพื้นที่ในโลกประสพภัย ส่งผลให้ บางประเทศเช่น ฟิลิปปินน์อันเป็นประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่รายหนึ่ง ต้องประกาศซื้อข้าวจากประเทศอื่นกิน

    ดังนั้นแนวโน้มเรื่อง ข้าวยากหมากแพง เราคงหลีกเลี่ยงไม่พ้น ดังนั้นทบทวนความคิด แนวคิด ปรับกระบวนทัศน์ของเราเองและครอบครัวเราใหม่เรื่อง ความพอเพียงเอาไว้


    4.แผ่นดินไหวที่รุนแรงและถี่ขึ้นในหลายพื้นที่ของโลก อาจส่งผลที่ไม่คาดคิดเมื่อไรก็ได้

    ดังนั้นเมื่อไรที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงใกล้เเนวเลื่อนในประเทศไทยของเรา ก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะส่งผล ส่งแรงสั่นสะเทือน มาในพื้นที่ของไทยได้เช่นกัน รวมทั้งการเกิดสึนามิด้วย

    การเฝ้าระวัง หมั่นติดตามข้อมูลไม่ประมาทเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

    ล่าสุดเกิดแผ่นดินไหวที่หมู่เกาะนิโคบาร์ ไม่ไกลจากเรามากนัก

    5.น้ำแข็งขั้วโลกและตามเทือกเขาสำคัญๆในโลก ละลายในอัตราเร่งเร็วมากกว่าที่เราได้รับข่าวสาร ทางสื่อต่างๆ

    เรื่องนี้สำหรับผู้ที่ได้ญาณสมาธิหลายท่านพบตรงกันว่า มีปัจจัยหลายอย่างมากที่ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขุดเจาะใช้พลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

    -ทำให้ฉนวนน้ำมัน และฉนวนอากาศ(ก๊าซธรรมชาติ)ตามธรรมชาติของโครงสร้างโลก ที่เป็นฉนวนกันความร้อนจากหินหลอมเหลวหรือลาวาใต้ภิภพไม่ให้ส่งแผ่ความร้อนมายังผิวโลก เมื่อเราขุดน้ำมัน และก๊าซออกมาใช้มากเท่าไร ฉนวนยิ่งบาง ความร้อนแผ่จากใต้โลกไปละลายน้ำแข็ง ในอัตราที่อาจมากกว่า ก๊าซเรือนกระจกด้วยซ้ำ

    -การระเหยของเชื้อเพลิงจำพวกเบนซิน แอลกอฮอล์ ที่ระเหยไปบดบังชั้นบรรยากาศมีปริมาณมหาศาลแต่ไม่เคยได้รับการคำนวน ปริมาณที่สร้างความเสียหายนั้น

    ดังนั้นตั้งสติ มองให้เห็นเหตุแห่งปัญหา ใช้ปัญญาหาทางแก้ไข
     
  14. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • E12.JPG
      E12.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.4 KB
      เปิดดู:
      1,065
  15. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • E13.JPG
      E13.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.2 KB
      เปิดดู:
      1,619
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุหิมะถล่มปักกิ่ง ในต้นเหมันตฤดูที่เร็วที่สุดในรอบ 22 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 พฤศจิกายน 2552 20:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอเจนซี--จู่ๆพายุหิมะก็ตกกระหน่ำกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นการมาเยือนของหิมะในต้นเหมันตฤดูที่เร็วที่สุดในรอบ 22 ปี นอกจากสร้างความประหลาดใจแก่ชาวแดนมังกรกันถ้วนหน้าแล้ว ยังสร้างความวุ่นวายจากสภาพจราจรติดขัดทั่วเมือง สร้างความยากลำบากในการสัญจรทั่วหย่อมหญ้า ถึงกับมีการยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติมังกร พยากรณ์ว่าในวันพุธ(11 พ.ย.) ว่า หิมะจะตกกระหน่ำานี้ในช่วง 2-3 วันนี้

    ขณะนี้ จีนได้ระดมเจ้าหน้าที่ กว่า 150,000 คน เพื่อกวาดล้างหิมะ แต่ถนนสายต่างๆก็ยังถูกปิดล้อมด้วยหิมะ ทางหลวงสายต่างๆที่มุ่งสู่กรุงปักกิ่ง และมณฑลเพื่อนบ้าน เหอเป่ย ซันซี ยังถูกปิดอยู่

    การที่หิมะโหมโรงฤดูหนาวในจีน ด้วยการตกกระหน่ำดุเดือดเช่นนี้ มิใช่เรื่องธรรมดา กลุ่มผู้เชี่ยวชาญต่างโทษว่าเหตุพายุหิมะครั้งนี้เกิดจากการสร้างปรากฎการณ์เทียมแทรกแซงธรรมชาติของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์

    หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ไม่เผยนาม ว่าสำนักงานปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศ (Weather Modification Office) ได้สร้างปรากฏการณ์เทียมในธรรมชาติ โดยพ่นสารเคมีก่อเมฆฝน ซึ่งเร่งการรวมตัวของละอองน้ำเร็วขึ้นกว่า 20 เปอร์เซนต์ ของอัตราปกติ

    กลุ่มผู้เชี่ยวชาญยังเตือนอีกว่าการปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศจะส่งผลกระทบข้างเคียงอันไม่พึงปรารถนาในระยะยาว

    เมื่อผู้สื่อข่าวเอเอฟพีโทรศัพท์สอบถามเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศในวันอังคาร(10 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า พายุหิมะที่กำลังตกอยู่นี้ เป็นไปตามธรรมชาติ

    “ไม่มีใครรู้หรอกว่าการเปลี่ยนแปลงฟ้าดินจะเปลี่ยนฟ้าไปเพียงไร” เสี่ยว กัง อาจารย์ประจำสถาบันศึกษาฟิสิกส์ในชั้นบรรยากาศจีน กล่าว พร้อมแสดงความเห็นว่า “เราไม่ควรพึ่งพิงมาตรการทำเทียม เพื่อสร้างฝน หรือหิมะ เพราะจะสร้างความแปรปรวนแก่ฟ้า”

    นอกจากนี้ จ้าว หนัน วิศวกรในปักกิ่ง เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้สารคลอไรด์มากกว่า 5,500 ตัน เพื่อกัดเสาะละลายหิมะตามถนนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคาร ซึ่งอาจถึงกับ “ทำลายโครงสร้างเหล็กของตึกอาคารต่างๆ”

    ในปี 2548 สารละลายหิมะได้โค่นล้มต้นไม้ในปักกิ่งถึง 10,000 ต้น และสังหารหญ้าไปเป้นพื้นที่ถึง 2 แสน ตารางเมตร ไชน่าเดลี่เผย โดยอ้างเจ้าหน้าที่สำนักสถิติ

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000136202
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2009
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มอบถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ชุด ช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่พัทลุง

    [​IMG]

    พัทลุง 10 พ.ย.-ที่วัดท่าสำเภาใต้ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง วันนี้ นายประสงค์ วิทูรย์กิจจา เลขาธิการคณะกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะนำถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 520 ชุด มอบให้กับราษฎร ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหาย 4,500 ไร่ สร้างความปลื้มปีติแก่ผู้ประสบภัยเป็นอย่างยิ่ง

    นอกจากนี้ ยังนำถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 480 ชุด ไปมอบให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน ด้วย สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้นในพื้นที่ราบลุ่มริมทะเลสาบ อ.ควนขนุน อ.เมือง และ อ.เขาชัยสน ยังมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 40 ซม.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 13:35:00

    ปัตตานีระดมช่วยพื้นที่ปะกาฮารังน้ำสูง 2 เมตร

    [​IMG]

    ปัตตานี 10 พ.ย. - นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และนายปัญญศักดิ์ โสภณวสุ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี

    เข้าพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง ซึ่งยังประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร จนต้องมาพักอาศัยเต็นท์ของทางการจัดไว้ให้ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ต.ปะกาฮารัง พร้อมนำเครื่องอุปโภคบริโภคมาบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และขณะนี้ฝนทิ้งช่วงมาแล้ว 2 วัน หากไม่มีฝนตกลงมาอีก เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมโดยรวมจะคลี่คลายไม่ช้า. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 16:07:17

    ด.ช.วัย 13 ลงเล่นน้ำในคลองถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดจมหาย

    [​IMG]

    สงขลา 10 พ.ย.- เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมชุดประดาน้ำของมูลนิธิกู้ภัย เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุนักเรียนโรงเรียนมุสลีมินศึกษา ม.16 บ้านดินลาน ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จมน้ำหายไปในคลองระบายที่ 1 หรือคลอง ร.1

    จากการสอบสวนทราบว่า เด็กที่จมน้ำคือ ด.ช.มูฮัมหมัด หวังโส๊ะ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมุสลีมีนศึกษา ซึ่งในช่วงโรงเรียนพักเที่ยง ได้ออกจากโรงเรียนพร้อมเพื่อนวัยเดียวกัน 14 คน มาเล่นน้ำในคลอง ร.1 โดย ด.ช.มูฮัมหมัด ได้กระโดดจากสะพานข้ามคลอง สูงประมาณ 5 เมตร ลงสู่คลอง จากนั้นว่ายมาได้ระยะหนึ่งก็มีอาการคล้ายเป็นตะคริวจะจมน้ำ เพื่อนจึงได้ลงไปช่วย แต่ในที่สุด ด.ช.มูฮัมหมัด ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป เพื่อน ๆ จึงรีบวิ่งไปบอกคุณครู

    ทั้งนี้ บริเวณคลอง ร.1 ในระยะนี้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากและกระแสน้ำพัดแรง เนื่องจากเพิ่งเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ โดยนักประดาน้ำได้ลงงมค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ยังไม่พบศพ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว คาดว่าศพจะถูกพัดไปไกลจากที่เกิดเหตุ ซึ่งคงต้องรอให้ศพลอยขึ้นมาเอง.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 16:21:38

    เพิ่มเครื่องสูบน้ำพื้นที่บางกล่ำ ห่วงฝนซ้ำยิ่งท่วมหนัก

    [​IMG]

    สงขลา 10 พ.ย.- นายสุรพงษ์ มาตรนอก หัวหน้าฝ่ายสูบน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 16 สงขลา เปิดเผยถึงการระบายน้ำท่วมออกจากพื้นที่การเกษตรหลายพันไร่ ใน อ.บางกล่ำ ว่า ล่าสุด ได้ระดมเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว อีก 6 เครื่อง เข้ามาเสริมการระบายน้ำ

    เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพกลายเป็นคลอง ขณะที่เครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง สามารถระบายน้ำลดลงไปเพียงเล็กน้อย แม้จะสูบน้ำมานาน 2 วัน จึงต้องเสริมเครื่องสูบน้ำอีก เพื่อไม่ให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย ซึ่งมีทั้งสวนยางพารา นาข้าว และทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ โดยจะเร่งระบายน้ำให้หมดภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝนระลอกใหม่ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีฝนอีกช่วง 3-4 วันข้างหน้า หากไม่เร่งระบายน้ำ ประชาชนอาจเดือดร้อนเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 16:33:36

    ชาวนราธิวาสยังหวั่นน้ำท่วมระลอก 2 หลังมีฝนตกหนักอีกครั้ง

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 พ.ย. - ตลอดคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในพื้นที่ ทั้ง 13 อำเภอ ของนราธิวาส หลังทิ้งช่วงไป 3 วัน ทำให้บ้านเรือนของราษฏรในบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และแม่น้ำสายบุรี มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงขึ้นจากเดิม ที่อยู่ในระดับ 60 - 80 เซนติเมตร

    ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเป็นพาหนะในการสัญจร และจากภาวะน้ำท่วมขังติดต่อกันเป็นนานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลให้น้ำเน่าเสียและสิ่งกลิ่นเหม็น เด็กและคนชราเริ่มมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้า ขณะที่ผู้ประสบภัยส่วนหนึ่ง ยังคงปักหลักอยู่ที่ศูนย์อพยพ แม้สถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลาย เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ เกรงจะมีฝนตกหนักอีกระลอก รวมทั้งอาจมีน้ำป่าจากเทือกเขาไหลทะลักลงมาอีก

    ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เตือนประชาชนดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะ โรคฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรสิส ซึ่งมักจะแพร่ระบาดในช่วงน้ำท่วมขัง หากมีอาการไข้กะทันหัน ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก มีตาแดง โดยเฉพาะอาการภายหลัง 2 - 14 วัน ที่สัมผัสสัตว์ หรือ ลุยย่ำน้ำ ต้องรีบพบแพทย์ทันที. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 09:17:12

    อุทกภัยปัตตานี-พัทลุงสร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 พ.ย.- ปภ.ปัตตานี เผยน้ำยังคงขยายวงกว้าง 8 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อนเพิ่ม มากสุดที่หนองจิก ประเมินเสียหาย 11 ล้านบาท เช่นเดียวกับพัทลุงยังคงประกาศเขตพิบัติภัย 11 อำเภอ แม้น้ำลดเป็นปกติแล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังอีก

    นายปัญญศักดิ์ โสภณวสุ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ในฐานะเลขานุการศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุกทกภัย วาตภัย ดินถล่ม จ.ปัตตานี สรุปความเสียหายเบื้องต้นจากปัญหาน้ำท่วมขณะนี้ในพื้นที่ 8 อำเภอว่า ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่สถานการณ์น้ำขยายวงกว้างสร้างความเดือดร้อนให้ราษฎรเพิ่มขึ้นเป็น 57,854 คน จากวานนี้ (10 พ.ย.) 30,000 คน

    โดยเฉพาะอำเภอหนองจิก มีผู้ประสบภัยมากสุด 20,031 คน รองมา อ.เมือง 16,600 คน และ อ.ยะรัง ส่วนความเสียหายเพิ่มขึ้นเช่นกัน อาทิ ถนน 102 สาย จากเดิม 15 สาย สะพาน 3 แห่ง วัด-มัสยิด 3 แห่ง โรงเรียน 2 แห่ง สถานที่ราชการ 2 แห่ง นาข้าวกว่า 10,000 ไร่ รวมทั้งด้านปศุสัตว์ ประเมินความเสียหายทั้งหมด 11 ล้านบาท สำหรับการช่วยเหลือขณะนี้ได้เพิ่มเรือท้องแบนเป็น 9 ลำ เต็นท์ 14 หลัง และแจกถุงยังชีพผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

    ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพัทลุงรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอว่า ล่าสุดคืนสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่มีฝนตก แต่จังหวัดยังประกาศเป็นพื้นที่พิบัติภัย และต้องเฝ้าระวังพื้นที่ไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2553 เพราะอาจเกิดน้ำท่วมอีกหลายระลอก สำหรับความเสียหายเบื้องต้นจากน้ำป่าหลากท่วม 11 อำเภอ 39 ตำบล 340 หมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 4-11 พฤศจิกายน

    คือ อ.เมือง ตะโหมด ป่าบอน กงหรา ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ ป่าพะยอม เขาชัยสน ควนขนุน บางแก้ว และปากพะยูน ราษฎรเดือดร้อน 13,950 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย บ่อปลา 120 ราย นาข้าว 30,200 ไร่ ถนน 55 สาย ท่อระบายน้ำ 5 แห่ง ฝาย 5 แห่ง ความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-11 11:21:47

    เร่งรัฐยกปัญหาคลื่นเซาะชายฝั่งเป็นวาระแห่งชาติ

    [​IMG]

    สงขลา 10 พ.ย.- นักวิชาการด้านวิศวกรรมโยธาทางทะเลห่วงคลื่นเซาะฝั่งภาคใต้ตะวันออกเสียหายหนัก พบสภาพสมบูรณ์เหลือไม่ถึงร้อยละ 10 ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เร่งรัฐรีบป้องกันและยกระดับปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ

    ผศ.ดร.สมบูรณ์ พรพิเนตรพงศ์ นักวิชาการด้านวิศวกรรมโยธาทางทะเล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุทรศาสตร์ เปิดเผยถึงปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมาหลายปีว่า สภาพชายหาดภาคใต้ฝั่งตะวันออกระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร ในขณะนี้ถูกทำลายจนเหลือชายหาดที่สมบูรณ์ไม่ถึงร้อยละ 10 ปัญหาสำคัญคือสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำชายหาด ถือเป็นการแทรกแซงธรรมชาติอย่างรุนแรง

    ทั้งแนวทางแก้ปัญหากลับกลายเป็นยิ่งเป็นการเพิ่มสิ่งก่อสร้างลงไปในทะเลและชายหาด ทั้งเขื่อนกันคลื่น เขื่อนกันทราย การวางกระสอบทรายริมหาด ล้วนแล้วส่งผลกระทบต่อชายหาดทั้งสิ้น ซึ่งการแก้ปัญหาสำคัญควรเริ่มต้นจากการยอมรับก่อนว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากคลื่นซัดเข้าทำลายชายฝั่งรุนแรงขึ้น แต่มาจากน้ำมือมนุษย์ที่ปลูกสร้างสิ่งรุกล้ำชายฝั่ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างชายฝั่งของประเทศ ทำให้ปัญหารุนแรงมากขึ้นทุกปี

    ผศ.ดร.สมบูรณ์ กล่าวว่า ในทางวิศวกรรมศาสตร์พบว่าขณะนี้ชายหาดอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้แล้ว เปรียบเสมือนคนไข้ที่อยู่ห้องไอซียู รอวันสิ้นใจ หากยังคงมีแนวคิดเดิมคือปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งมาจากคลื่นลมแรง ในอนาคตจะไม่มีชายหาดที่สวยงามอีกต่อไป ที่สำคัญรัฐบาลควรเข้ามาแก้ปัญหาทรัพยากรสำคัญของชาติด้วยการยกระดับปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งเป็นวาระแห่งชาติ มีกฎหมายคุ้มครองชายหาด เช่นเดียวกับป่าชายเลนและปะการัง.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 11:38:14

    แม่ฮ่องสอนพบไก่ตายยกเล้า-ระดมฉีดพ่นยาหวั่นหวัดนกระบาด

    [​IMG]

    แม่ฮ่องสอน 10 พ.ย.- นายจำลอง อริยะจักร ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน กำชับให้เจ้าหน้าที่นำยาฆ่าเชื้อเข้าฉีดพ่นในพื้นที่หมู่ 11 ต.ปางหมู อ.เมือง ช่วงสายวันนี้ (10 พ.ย.) หลังรับแจ้งมีไก่เลี้ยงพื้นบ้านทยอยตายหมดทั้งเล้า

    โดยมีอาการชักกระตุกก่อนตายเมื่อวันที่ 9 พ.ย. จำนวน 10 ตัว และล่าสุดอีก 9 ตัว เจ้าหน้าที่จึงแนะนำวิธีฝังกลบที่ถูกต้องแก่ผู้เลี้ยงไก่ พร้อมฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อป้องกันไข้หวัดนกระบาดทั้งบริเวณบ้านและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งเก็บตัวอย่างมูลไก่ส่งไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตว์แพทย์ภาคเหนือ ตอนบน จ.ลำปาง เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุ โดยเฉพาะการติดหวัดนกหรือไม่ คาดว่าจะรู้ผลภาย 1 สัปดาห์ แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นโรคประจำถิ่น.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 11:53:09

    พัทลุงห่วงควายพื้นที่น้ำท่วมเสี่ยงปอดบวม-เท้าเปื่อย

    [​IMG]

    พัทลุง 10 พ.ย.- นายวิชิต บัวแดง เลขานุการชมรมอนุรักษ์ควายไทย เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงควายในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ตำบลพะนางตุง และตำบลทะเลน้อย อ.ควนขนุน ซึ่งเลี้ยงควายกว่า 2,000 ตัว ยังประสบปัญหาน้ำท่วมสูง หมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษ

    โดยเฉพาะอย่าให้แช่น้ำนานหลายชั่วโมง และคอกลานควายจะต้องอยู่ในที่สูงและมุงหลังคา รวมทั้งให้ควายได้มีความอบอุ่น เนื่องจากสภาพน้ำท่วมขณะนี้ทำให้ควายขาดแคลนหญ้าสด และต้องแช่น้ำนาน เพื่อกินหญ้าใต้น้ำ เพราะการที่ควายต้องอยู่ในน้ำนานวันละหลายชั่วโมง อาจป่วยเป็นโรคปอดบวม โรคปาก เท้า เปื่อย หรือโรคตาแดงตามมา

    พร้อมกันนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือเลี้ยงสัตว์ ทั้งเรื่องอาหาร ยา-เวชภัณฑ์ เพราะควายทะเลน้อยเป็นควายปล่อยทุ่งฝูงสุดท้ายของประเทศ ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในจังหวัดพัทลุง หากเกิดโรคระบาดยากที่จะแก้ไขภายหลัง.- สำนักข่าวไทย

    2009-11-10 15:40:15

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2009
  18. เส้นทางสายใหม่

    เส้นทางสายใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +360
    เคยได้ยินเค้าว่า วันที่โลกจะสิ้นสุด จะปรากฏดวงอาทิตย์ ขึ้น 7 ดวง (อันนี้จำไม่ได้ว่าได้ยินมาจากไหน) แต่ อ.ที่สอนกรรมฐานท่านบอกว่า ดวงอาทิตย์ที่จะเกิดขึ้นมาอีก 6 ดวง (ดวงที่มีอยู่ในปัจจุบัน 1 ดวง เป็นดวงอาทิตย์จริง ๆ ) จะเกิดจากมนุษย์ มันคือดวงอาทิตย์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อทำลายล้างซึ่งกันและกัน มันคือ อาวุธนิวเคลีย์ ที่ถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้มีความรุนแรงสูงสุด มีความรุนแรงกว่าระเบิดที่ทิ้งที่ญี่ปุ่น เป็น 1,000 หรืออาจจะเป็น 10,000 เท่า จำไม่ได้ และจะถูกจุดขึ้นพร้อมกัน คือยิงใส่กันพร้อมกันทั้ง 6 ลูก วันนั้นจะเป็นวันสิ้นโลก (สิ้นสุดทุกสิ่งของสิ่งมีชีวิต โลกอาจไม่แตก แต่สิ่งมีชีวิตจะตายหมด กลายเป็นโลกเปล่า ๆ)

    เอามาเล่าสู่กันฟัง อีกนานเลยแหละ คงจะเกิด-ตาย เกิด-ตาย เกิด-ตาย หลายรอบกว่าจะถึงตอนนั้น
     
  19. เส้นทางสายใหม่

    เส้นทางสายใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +360
    อะนึกได้อีกอย่าง อ. ที่สอนกรรมฐานท่านบอกว่า กรุงเทพฯ จะเกิดภัยร้ายแรง

    แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร เพราะท่านไม่ได้บอกไว้ เลยสงสัยว่ามันจาเกิดอะไรขึ้นน๊ะ ใครพอจะรู้ช่วยบอกให้ฟังหน่อยสิครับ (คงจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้แหละ ท่านให้รีบเร่งทำความดีกันเยอะ ๆ เพื่อจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง)



    อันบนเนี้ยอีกนาน เรื่องดวงอาทิตย์ 7 ดวง

    แต่อันนี้เนี้ย น่ากลัวเพราะจะเกิดเร็ว ๆ นี้ ไม่ได้บอกเวลา แต่บอกว่าจะเกิด และร้ายแรงด้วย - -*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2009
  20. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    [​IMG]

    A previously undiscovered asteroid came within 14,000 km of Earth last week, and astronomers noticed it only 15 hours before closest approach.

    อุกาบาต มาแบบไม่รู้ตัว เอาเข้าจริงรู้ล่วงหน้าแค่ 15 ชม. เอง

    ถ้ามาชนโลก อพยพไม่ทันแน่
     

แชร์หน้านี้

Loading...