เทวดา ตรวจกรรม โดย บอล วัตสุพล

[FONT=&quot] [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]อรัมภบท[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot] เรื่องเล่าที่ญาติธรรมจะได้อ่านต่อไปนี้ เกิดขึ้นด้วยจริต ความนึกคิดของผู้เขียน ซึ่งไม่ได้ศึกษาถึงที่มาที่ไป บรรจงเป็นตัวหนังสือ เป็นเรื่องเล่า กลั่นมาจากโมนสำนึกของตน โปรดใช้สติ ตรึกตรอง ถึงเหตุและผล ซึ้งผู้เขียน มิได้คิดจะบิดเบือนพระพุทธศาสนา หวังเพียงที่จะต่อยอดพระศาสนาต่อไปไม่ให้ล่มสลาย และเสื่อมถอยตามกาลเวลา และมิได้จะคิดอวดรู้กว่าท่านที่มีความรู้ต่างจากผู้เขียน[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]กล่าวถึงเทวดาที่ลงมาโลกมนุษย์ในกึ่งพระพุทธกาลนี้ มีมากมายหลายๆพระณาญบารมี บ้างก็เป็น สายฤษีชีไพร (ปู่ฤษี) บ่างก็เป็นสายญาณ บารมีสายพราหมณ์ หรือเชื้อสายไทย(ราชวงค์) ฯลฯ ซึ่งมีหลายๆพระณาญสุดจะกล่าวถึงหมด ซึ่งการที่จะเล่าเรื่องต่อไปนี้ผู้เขียนได้คิดตรึกตรองหลายต่อหลายรอบ เกรงจะไปพาดพิงท่านที่มีญาณที่มีบารมียิ่งใหญ่และกระทำแต่กรรมดี แต่ก็เป็นไปกฎเกณธรรมชาติ เหรียญยังมีสองด้าน มนุษย์สัตว์โลก ก็ต้องมีชัง มีชอบ เป็นที่ครหาเป็นธรรมดา ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้เขียนไม่ได้บอกก็ไม่มีใครทราบจริตของเรา อย่างไรก็ขออภัยท่านผู้รู้ต่างกับผู้เขียนครับ[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป ว่ากึงพระพุทธกาลนี้ มีเทวดาลงมาโลกมนุษย์หลายๆพระญาณบารมี กล่าวอ้างถึงพระไตรปิฎก ก็ได้เล่าให้ทราบว่า กึงพระพุทธกาลนี้เทวดาจะลงมาต่อยอดพระพุทธศาสนา ในจริต ของผม ภพภูมิเทวดา ยังโลกเทวดา ก็เฉกเช่นโลกมนุษย์ มนุษย์มีรัก โลภ โกรธ หลง เทวดาก็ไม่ต่างกัน โลกเทวดาก็มีเทวดาพระญาณบารมีสูงส่ง และมีเทวดาเกเรเช่นกัน เทวดาจะต่างจากมนุษย์ ก็คือ มีกายทิพย์ สามารถ เหาะเหินเดินอากาศ และสามารถ ล่วงรู้ถึงอนาคตมนุษย์ และสามารถดลบันดาลในสิ่งที่มนุษย์ร้องขอได้ และการที่เทวดาจะได้เลื่อนชั้นขั้นอภิญาญาณ นั้นต้องเข้าฌาน หลายต่อหลายกับ กลัน ในการเข้าฌานบารมี(เข้าสมาธิ)[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ถึงจะสามารถได้เลื่อนชั้นญาณบารมี ให้สูงส่งได้ และการเลื่อนชั้นขั้นญาณบารมี ของเทวดาก็มีอีกหนึ่งวิธี ซึ่งวิธีนี้จะสามารถ เลื่อนระดับขั้นชั้น บารมีให้สูงส่งขึ้นได้ไวกว่าการเข้าฌานหลาย กับ กลัน คือลงมาช่วยเหลือมนุษย์[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]และในกึ่งพระพุทธกาลนี้ที่กล่าว เป็นเวลาที่เทวดา ทั้งหมด ได้เพลาลงมาช่วยเหลือมนุษย์ เพื่อต่อยอดพระพุทธศาสนา ซึ่งโลกมนุษย์ [/FONT][FONT=&quot]เพลานี้ จึงเห็นได้ทั่วไป ในเทวดา ที่ลงมายังโลกมนุษย์ บ้างก็มาลงทรง บ้างก็มิใช่มาทรง แต่มาช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกาลต่างๆ ตรวจกรรมบ้าง เปิดกรรมบ้าง และช่วยเหลือมนุษย์ทางด้านอื่น[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]มีมามายฯลฯ สุดที่จะกล่าได้หมด ได้ด้วยเหตุและผลทั้งหมดนั้น เทวดามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือมาต่อยอดพระพุทธศาสนา ให้สืบต่อไป ไม่ให้ล่มสลายเลือนหายเสื่อมถอยตามกาลเวลา ต่อไปนี้จะกล่าวถึงเรื่องราวเทวดาลงทรง[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot] เทวดา ลง ทรง[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ทุกๆท่านนั้นมีเทพเทวดาคอย คุ้มครองรักษา ขึ้นอยู่ว่าท่านจะปฏิบัติกรรมดีเมื่อใด ปฏิบัติได้เทวดาก็จะลงมาคุ้มครองท่านๆจะแคล้วคลาด ต่อภัยอันตรายทุกสิ่ง และบางท่านที่เทวดาลงมาคุ้มครองเทวดาจะลงมาช่วยเหลือมนุษย์ผู้อื่นด้วย โดยที่มนุษย์กล่าวขานเทวดาซึ่งลงมาช่วยเหลือมนุษย์ และจะเรียกกันติดปากว่าเทวดาลงทรง หรือร่างทรงนั้นเอง เทวดาที่ลงมาทรงนั้นมีจุดหมายเพียงช่วยเหลือมนุษย์ ลงมาสร้างบารมีเผยแพร่หลักธรรมการปฏิบัติ ตามคำสอนพระพุทธองค์ และต่อยอดพระพุทธศาสนา ให้สืบเนื่องต่อไป มิให้ล่มสลายตามกาลเวลา[/FONT]<o>
</o><o></o>
[FONT=&quot] ร่างทรงที่ดีไม่เรียกร้องเงินทองของผู้ที่มาเฝ้าเข้าหาก็มีมาก และเป็นธรรมดาของสัตว์โลก ก็ต้องมีร่างทรงลงแล้วเรียกร้องเงินทองกอบโกยผลประโยชนให้ตน เองเช่นกัน ซึ่งคนที่ลงทรงเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วเทวดาไม่ได้มาลงทรงจริง หรือลงมาทรงจริงแต่ ร่างทรงโลภเทวดาก็ถอยเหลือเพียงร่างแกล้งลง คนที่ลงทรงประเภทนี้กล่าวได้ว่าคือ ร่างทรงปลอม ร่างทรงหลอกลวงนั่นเอง หรือบางร่างก็เป็นเทวดามา ลงจริงแต่เป็นเทวดาเกเร เทวดาที่มีพบภูมิ[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ไม่สูงนักมาสิงสู่ร่างกายมนุษย์ แอบอ่างใช้พระนามของเทวดาที่มีฌานบารมีสูงๆก็มีมากเช่นกัน และเทวดาจำพวกนี้จะคอยรียกร้องขนนี่ขอนั่น มากมายสุดที่จะขอได้ ท่านที่เข้าหาร่างทรงเหล่านั้นกว่าจะมีความสุขได้ตามที่ขอ ก็ต้องมานั่งทุกข์เพราะหมดเงินทองมากมาย ท่านพึงทราบได้ก็คือเทวดาที่ลงจริง ต้องไม่เรียกร้องเงินทอง ลงทรงแล้วต้องไม่ขอหรือเรียกร้องใดๆทั้งสิ้น (ลงมาเพื่อต่อยอดพระพุทธศาสนา และช่วยเหลือมนุษย์เท่านั้น )[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]เทวดา ตรวจดวง เปิดกรรม<o></o>[/FONT]
<o></o>
[FONT=&quot]เทวดา ตรวจดวงตรวจกรรม ภพภูมิ เทวดาดังกล่าวก็น่าจะม่ผิดแปลกแตกต่างกับ เทวดาลงทรงซักเท่าใด เพียงแต่ ไม่ต้องลงทรง สามารถ สื่อสารกับเทวดาได้เลย ในการตรวจกรรม ตรวจดวง ซึ่งกล่าวแบบ ให้เข้าใจได้ง่ายๆก็คือ รู้ทั้งสอง รู้ด้วยญาณใน ญาณนอก โดยจริตผู้เขียนจะขอแบ่ง ขั้นฐานจิตให้ทราบคร่าวดังต่อไปนี้[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ขั้นชั้น ของอภิญญา[/FONT]
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
[FONT=&quot]ขั้นชั้นอภิญญา แบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้[/FONT]

1. [FONT=&quot]โทรจิต[/FONT]
2. [FONT=&quot]นิมิต[/FONT]
3.[FONT=&quot]ถอดจิต[/FONT]
[FONT=&quot]ก่อนอื่นท่านที่ จะฝึกอภิญญา ให้ได้รับรู้กรรมของตน และกรรมของผู้อื่น[/FONT][FONT=&quot]และสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ขอกล่าวเรื่องระดับจิตก่อนครับ[/FONT]

[FONT=&quot]โทรจิต[/FONT][FONT=&quot] คือความนึกคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา เปรียบเทียบโทรจิต กับปัจจุบันคล้ายโทรศัพท์มือถือ ที่เราใช้พบพาสื่อสารไปได้ทุกๆที่โดยโทรศัพท์ ใช้การกดเบอร์ปลายทางที่เราต้องการสนทนาและติดต่อ โทรจิตก็[/FONT]
[FONT=&quot]คล้ายกันแต่การติดต่อนั้น ติดต่อโดยใช้จิตการติดต่อ จิตต้องนิ่งสมาธิกรรมฐานต้องให้ได้จะสื่อได้มิได้ ก็ขึ้นอยู่ ที่จิตจะสงบลงขนาดใด[/FONT]
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
[FONT=&quot]นิมิตความฝัน[/FONT][FONT=&quot] บางท่านอาจจะไม่ทราบว่า นิมิต กับ ความฝัน[/FONT][FONT=&quot]แตกต่างกันอย่างไร ดูแล้วมีความหมายคล้ายๆกัน นิมิต คือความฝัน ความฝัน คือนิมิตจริงหรือ เรามาตรองและเปรียบเทียบกันนิมิต คืออาการสงบของจิต เวลาพักผ่อนนอนหลับ ท่านที่ยังไม่ได้ปฏิบัติกรรมฐาน จิตของท่านยังไม่นิ่งพอ หลับไปความรู้สึกนึกคิด กลับกลายเป็น[/FONT][FONT=&quot]มโนภาพที่ตนครุ่นคิดจึงเก็บมาฝัน ส่วนนิมิตกล่าวได้ว่าเป็น การสงบของจิตในระดับหนึ่ง ถึงได้นิมิตถึงในสิ่งที่เป็นไป บางท่านก็ติดต่อทางโลกวิญญาณได้[/FONT][FONT=&quot]แล้วแต่จะเป็นบารมีของท่านนั้นๆ สรุปคือนิมิตแตกต่างจากความฝัน ที่จิตที่นิ่งสงบเป็นสมาธิ[/FONT]
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
[FONT=&quot]ถอดจิต[/FONT][FONT=&quot]คือสมาธิจิตที่การรวมจิตที่สงบนิ่งสูง การที่จะถอดจิตได้นั้น ต้องมีจิตสมาธิที่สงบ ปฏิบัติกรรมฐานต้องได้ตามที่กล่าว การถอดจิตทำได้หลายวิธี[/FONT][FONT=&quot]ผู้เขียนจะกล่าวโดยสังเขปดังนี้[/FONT]
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
1. [FONT=&quot]ถอดจิตโดยวิธี กรรมฐานนั่งสมา จิตสงบลงในขั้นสูง ก็จะสามารถถอดจิตไปตามที่ตนต้องการได้[/FONT]
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
2. [FONT=&quot]ถอดจิตโดย สติที่นิ่ง กำหนดลมหายใจ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดก็สามารถถอดจิตไปที่ๆต้องการได้ โดยรู้ทั้งสอง คือรู้รอบกาย และรู้ในที่ๆเราถอดจิตไป[/FONT]
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
[FONT=&quot]สรุป[/FONT]

[FONT=&quot]โทรจิต เป็นการสื่อในระดับต้นของ ผู้ปฏิบัติๆ จะสามาสื่อและรับรู้ ทางเสีย[/FONT][FONT=&quot]ภาพก็จะปรากฏตามความนึกคิดที่เรา ได้รับทางโทรจิตนิมิต[/FONT] [FONT=&quot]เป็นการสื่อในระดับปานกลางของ ผู้ปฏิบัติๆจะสามารถ รับรู้ได้ทางภาพและเสียง โดยการที่สติสงบจิตนิ่ง ในเวลาหลับพักผ่อน คือจิตรู้ และตัวตนรู้ตามในเวลาตื่นถอดจิต[/FONT][FONT=&quot]เป็นการสื่อในระดับสูงของผู้ปฏิบัติๆ จะสามารับรู้ด้วยจิต สามารถ[/FONT][FONT=&quot]มองเห็นทั้งภาพและเสีย ที่ไม่ใช่การที่ได้ยินหรือสื่อทางโทรจิตก่อน แล้วค่อย[/FONT][FONT=&quot]เห็นภาพ รับรู้ได้โดยที่ตนมีสติครบถ้วน ไม่ต้องหลับก็เห็นก็สามารถสื่อได้ การถอดจิตเป็น จิตขั้นสูงของการปฏิบัติ[/FONT] " [FONT=&quot]ถือศีลสวดมนต์ภาวนา สติเกิด จิตสงบ บารมีสูงส่ง[/FONT]"
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>
[FONT=&quot]ทราบถึงระดับขั้นอภิญญาของจิตแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดของการปฏิบัติ[/FONT][FONT=&quot]ให้ได้แนวทาง การเปิดกรรมของตัวเองได้คือ ต้องกำหนดตัวรู้ให้เกิดก่อนจะปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอิริยาบถใด นั้น ยืน เดิน นอน หิว[/FONT]<o>></o>
[FONT=&quot]อิ่ม สุข ทุกข์ ก็กำหนดให้ตนเองรู้ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการปฏิบัติ เจริญบารมี ทั้งทางโลกทางธรรมทุกท่าน[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ภพภูมิ มนุษย์ ในกึ่งพระพุทธกาล[/FONT]<o></o>
<o>

</o> [FONT=&quot]ภพภูมิมนุษย์ ในกึ่งพระพุทธกาลที่กล่าว มนุษย์มีความเลื่อม มีความโลภ โกรธ หลง มาคลอบงำ แก่งแย่งแข่งขัน ชิงดี ชิงเด่น เพื่อที่จะได้มาเป็นของตน โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่ถูก ที่ควร ในช่วงเพลาดังกล่าว กล่าวให้เข้าใจตามคำโบราณที่เล่าสืบทอดกันมาคือกลียุค ในช่วงกลียุคนี้ มนุษย์จะมีความเป็นอยู่ที่อยู่ดำรงชีวิตลำบาก เกิดการแก่งแย่งกันมาก ขึ้น ตนเองหาทางออกไม่ได้ แต่ก็ไม่ด้ย้อนดูตนเอง กล่าวขอพรแต่เทวดาให้ลงมาช่วยเหลือ[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]ภพภูมเทวดาที่กล่าวนั้นมนุษย์จะสามารถ มีเทวดามาคุ้มครองช่วยเหลือได้เต็มพระองค์นั้น มนุษย์ต้องหมั่นทำความดี สวดมนต์ภาวนา สมาธิกรรมฐาน เทวดาช่ายมนุษย์ได้ จริงหรือ ความจริงนั้นเทวดาสามารถดลบันดาล ช่วยเหลือมนุษย์ได้ ตามขอบเขต ตามวาระของกรรมที่มนุษย์สร้างมา การสวดมนต์ภาวนาสมาธิกรรมฐาน จะสามารถผ่อนกรรมจากหนักเป็นเบาได้ ตามจริต ผู้เขียน ในการสวดมนต์ภาวนานั้น จะขอพร พระทั้งสามประการได้ก็คือ ขอพระทางธรรมให้เจริญบารมีในการปฎิบัติธรรม[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จะไม่ขอพรทางโลกมนุษย์ เนื่องจาก พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ ไม่ยุงกับทางโลก แล้วทางโลกมนุษย์ละทำอย่างไร ทางโลกมนุษย์ก็ให้ ขอพระกับ เทวดา ขอพรกับเทวดานั้นก็อย่าขอปลายเหตุ ขอให้ร่ำรวย ขอความโลภ ต่างๆเทวดาช่วยได้ แต่ก็จะติดวาระกรรม ต้องการไปใช้ไม่มีวันจบสิ้น จะขอพรเทวดา ให้ขอเพียงแต่ ขอให้เจริญ บารมีทางโลกมนุษย์ และก็ปฎิบัติแต่วาระกรรมดี[/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]การตรวจกรรม ดูดวง เปิดดวง [/FONT]<o></o>
<o></o>
[FONT=&quot]การตรวจกรรม ดูดวง เปิดดวง ตามจริต ของผู้เขียน เห็นว่าไม่สามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้ นอกจากช่วยเหลือทางใจ ถ้ามนุษย์ไม่ทำความดี ต่อให้หมอดู ซักร้อยหมอ คนเปิดกรรม ซักร้อยคน ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ยิ่งเป็นในช่วงนี้ ปี[/FONT] 2552 [FONT=&quot]กล่าวได้ว่าเข้าสู่ ห่วงกรรมของ มนุษย์ คือกลียุค มนุษย์มีความเสื่อมมาก หมอดู ท่านผู้มีญาณ มีทั้งดีทั้งไม่ดี ปะปนกัน ท่านไปปรึกษาเจอคนดีก็ดีไป บางท่านเคราะซ้ำกรรมซัด ดวงไม่ดีอยู่แล้ว ไปเจอหมอไม่ดี ก็ยิ่งไม่ดีไปกันใหญ่ โดนหลอกลวงกอบโกยผลประโยชน์ เสียเงินทอง มากมาย เพราะฉะนั้นการดูดวง เปิดกรรม พึ่งคนมีณาน นั้นช่วยเหลือมนุษย์ ไม่ได้ นอกเสียจากมนุษย์ หันมาทำความดี[/FONT]<o>
</o><o></o>
[FONT=&quot]มนุษย์มิควรพึ่งเทวดา [/FONT]<o></o><o></o>
[FONT=&quot]
เทวดาก็มีกรรมเช่นกัน อยู่ ณ[/FONT].[FONT=&quot] สวรรค์ชั้นฟ้าถ้าไม่ทำความดี ก็ตกสวรรค์ เทวดาจึงต้องลงมาหมั่นสร้างบุญบารมีช่วยเหลือมนุษย์ เพื่อให้ทรงไว้คงอยู่ซึ่ง บารมี เพราะฉะนั้น มนุษย์นั้น ต้องช่วยตนเองไม่ควรพึ่ง เทวดา ให้หมั่นทำความดี ต่อยอดบุญให้บุญ แซงกรรม ก็จะไม่มีเคราะกรรม ไม่มีความเสื่อม เหมือดังคำโบราณว่าไว้ว่า [/FONT]<o></o>“[FONT=&quot]กลียุค[/FONT]”[FONT=&quot]ดังกล่าว และโลกมนุษย์ก็จะสูงส่งยิ่งๆขึ้น ถ้ามนุษย์หมั่นปฎิบัติกรรมดี พุทธศาสนา จะคงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน อนุโมทนา[/FONT][FONT=&quot]บุญ[/FONT]<o>

</o><o></o>
[FONT=&quot]บอล เรืองตะวัน คนเปิดกรรม<o></o>[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]<o>
</o>[/FONT]

 

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะว่า พวกเทพ เทวดา ที่ลงมาจุติในโลกมนุษย์เพื่อช่วยเหลือผู้คน
คนไหนเป็นเทพองค์ใหญ่ องค์เล็ก บารมีมากน้อยต่างกัน ไหนจะมีวิชาคาถา อาคม อิทธิฤทธิ์ อะไรอีกมากมาย บ้างก็มาจุติในร่างของ พระสงฆ์ ,คนทั่วไป เราจะรู้ได้ยังไงครับ
ผมเชื่อว่ายังมีเทพองค์ใหญ่หลายองค์ มาจุติในร่างของมนุษย์อีกหลายองค์
แต่โอกาสพบเจอท่านเหล่านั้นคงไม่ง่ายนัก

 

คุณบอลค่ะ ถ้าเราทำทุกอย่างที่เรียกว่าความดี ทาน ศีล สมาธิ ภาวนา แล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร โดยทั่วๆ ไป เพราะเราก็ไม่ทราบว่าเราทำกรรมอะไรไว้ กับใคร กับการที่เราดิ้นรนอยากรู้ รอคอยการตรวจกรรม พอรู้กรรม แล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเฉพาะเจาะจงเลย ยังไงดีกว่ากันค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ กับคุณบอลค่ะ กับเรื่องราวที่ดีที่นำมาให้ได้อ่านพิจารณาค่ะ

 

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคติธรรมดีๆ ทำให้เราได้หูตาสว่างขึ้นเลิกงมงายเรื่องหมอดูซะที
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้นคือทางที่จะพ้นทุกข์ได้

 

เทวดา นางฟ้า มีคู่ครอง ได้ไม๊คับ

 

ที่คุณบอลบอกให้ไปสวดมนต์พระคาถาชินบัญชร วันละ 3 จบ 7 วัน
แล้วค่อยโทรบอกคุณบอลอีกที
สงสัยว่า จะได้คำตอบจากบทความนี้ของคุณบอลแล้ว

คงไม่ต้องโทรกลับไปแล้ว.. เพราะต่อจากนี้ไป
จะรู้เท่าที่ควรรู้ จะเห็นเท่าที่ควรเห็น แค่นี้พอแล้ว
แต่จะทำตาม ทำอย่างที่คุณบอลแนะนำนะคะ

ขอบคุณคุณบอลที่เสียสละเวลาเพื่อเรา และคนอื่น ๆ ด้วย
ขออนุโมทนาบุญ กับคุณบอลด้วยค่ะ

ป.ล. สมาธินี่ ว่ายากแล้ว ให้คิดดี ยิ่งยากใหญ่
สิ่งรบกวนจิตใจ ช่างเยอะเหลือเกิน อคติในใจก็สลัดไม่หลุดซักที
แต่จะสู้ ๆ ค่ะ

 

เตือนตน .. เตือนใจไว้ให้ดี.. อ่านต่อ ๆๆๆๆ

 

เทวดาลงทรง ไม่เหม็นกลิ่นมนุษย์เหรอคะ..?

 

อนุโมทนา คะ พี่บอล รู้ในสิ่งที่ควรรู้ดีกว่า ทำบุญเยอะๆๆๆ ดีกว่า

คิดดี ทำดี ไม่อาฆาตมันยากจัง

 

อนุโมทนา สาธุค่ะ อาจารย์บอล ขอให้อาจารย์มีแต่ความเจริญ ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ

 

เออ...ผมมีเรื่องอยากรบกวนถามครับ... ทำไมผลสุดท้ายของการเปิดกรรม หรือดูกรรม...อาจารย์ที่เปิดกรรม หรือเปิดดวงต้องให้สวดมนต์ นั่งสมาธิล่ะครับ คือเรื่องของเรื่องบางท่าน...(จากเพื่อนที่เคยคุยๆ กัน) ก่อนไปการตรวจกรรม ดูดวง เปิดดวง... พวกเค้าก้อสวดมนต์ นั่งสมาธิเป็นประจำอยู่แล้ว.... แล้วก็ทำบุญบ่อย ๆ...ในแต่ล่ะเดือน....ทั้งทำสังฆทาน ทำบุญตามวัด หรือ.... วันสำคัญทางพุทธศาสนา ก็ไปฟังเทศน์ หรือร่วมกันไปทำบุญตามสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ... แต่ทำไม..ชีวิตพวกเค้า...ถึงไม่ดีขึ้นล่ะครับ...แต่ก็อยู่ปกติในช่วงวาระหนึ่งน่ะครับ แล้วพอมีปัญหา หรือมีทุกข์ เค้าก็อยากทราบว่า...เป็น"เพราะอะไร" เค้าถึงเจอกับปัญหาอย่างนั้น อย่างนี้ พอไปดูดวง หรือเปิดกรรม ก็อาจจะได้รับคำตอบแบบกำกวม(ไม่ชัดเจน) ไม่ตรงกับปัญหาที่ประสบ... เช่น...เป็นเพราะกรรมบ้าง...ทั้ง ๆ ที่บางท่านสอนว่าอย่าไปยึดติดกับอดีต(ชาติก่อน ๆ ๆ ๆ).... ยังไม่ถึงเวลาบ้าง(เวลาในชาตินี้ หรือชาติหน้าก็ยังไม่รู้เลยคือแล้วเวลาที่ถึงเนี้ย...เราจะรู้ได้อย่างไร)...หรือถึงเวลาที่ต้องใช้กรรม(ย้อนกลับไปเรื่องกรรมอีกน่ะครับ...) เจ้ากรรม นายเวร ก่อกวน ขัดขวางบ้าง (บุญ หรือการสวดมนต์ ไม่ช่วยป้องกันจากพวกนี้เลยเหรอครับ...แล้วแนะนำไปทำบุญซ้ำทำไม...งงน่ะครับ) ฯลฯ สุดท้ายก็ถูกแนะนำว่า...กลับไป "สวดมนต์(บทไหนก้อไม่ระบุ) นั่งสมาธิ" ซะแล้วจะดีเอง... ในห้วงอารมณ์ทุกข์ ๆ อย่างนั้น...จะมีอารมณ์ทำหรือป่าวล่ะครับ...เช่น บ้านจะถูกยึด หรือต้องขึ้นโรงขึ้นศาล สิ้นเดือนไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน หรือไม่มีเงินเลี้ยงดูลูกเมีย หรือถูกคนยืมเงินแล้วเบี้ยงบ้าง....แล้วให้มานั่งสมาธิ...สงบจิตใจ...จะมีซักกี่คนที่ทำได้ล่ะครับ..... ผมแค่อยากทราบว่า...ท่านที่ทำกิจกรรม(ดูดวง เปิดกรรม หรือ เปิดดวง)เหล่านี้...ได้แค่"บอกผ่าน"เท่านั้นเองเหรอครับ ไม่สามารถช่วยได้มากกว่านี้เหรอครับ....อยากทราบจริง ๆ ครับ ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดแอบแฝงเลย... ขอความกรุณาด้วนน่ะครับ...

 

อนุโมทนา....ในสิ่งดี ๆ ที่นำมาบอกกล่าวค่ะ

กำลังปฎิบัติตามที่คุณน้องบอลบอกค่ะ.....เพราะต่อไปข้างหน้าโลกเรากำลังจะแย่แล้ว....ผู้คนเริ่มเสื่อมที่จะทำความดีกัน....เพราะการทำความดี เห็นผลช้า ต้องค่อย ๆ สะสมทีละเล็กละน้อย....

พี่ขอให้น้องบอล....หาย ไว ไว นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

โมทนากับคุณบอลครับ ขึ้นบ้านใหม่แล้ว ขอให้มีชีวิตใหม่ที่ดีงามทั้งทางโลกและทางธรรม

 

คุณบอลยังเปิดกรรมอยู่หรือเปล่าคะ ส่ง SMS ไปประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว
เห็นยังเงียบ ๆ อยู่เลยไม่แน่ใจว่าคุณบอลไม่ว่าง หรือว่าไม่เปิดกรรมแล้วค่ะ

^_^

 

อนุโมทนาบุญกับคุณบอลด้วย หวังว่าคงมีบุญได้ให้ตุณบอลกรุณาช่วยเปิดกรรม ในอนาคตอันใก้ลนี้นะครับ

 

สาธุคับ พี่บอล เยอะจัง คิเกียจอ่าน อิอิ
เด๋วว่างๆ มาอ่านนะคับ ความรู้ๆๆๆๆ *-*

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ ขอให้คุณบอลนำเรื่องราวดีดีแบบนี้มาลงอีกนะคะ จะรออ่านเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

ขอบคุณมากมาย สำหรับคุณ"รักไร้พ่าย"ที่ทำให้ผมได้สร้างบุญกับญาติธรรมในเวปบอร์พลังจิต(เป็นผู้ตั้งกระทู้เรื่องราวผม) และของคุณกำลังใจจากญาติธรรมทุกๆท่านครับ

" เจริญบารมีทั้งทางธรรม และทางโลกครับ"

อนุโมทนา

บอล เรืองตะวัน คนเปืดกรรม<!-- google_ad_section_end -->

 

เรียนคุณบอลครับ อยากทราบว่ากินสตอเบอรีแก้เบาหวาน กินตอนใหนเวลาใหนครับ
ตอนนี้น้ำตาลผมขึ้นสูงครับ