แนวทางปฏิบัติธรรม ของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ( เรียบเรียงโดย : อุบาสกนิรนาม )

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 28 ตุลาคม 2009.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คนที่จ่มเจ่า ไม่รู้จักชีวิตในมุมที่กล้างขวาง ก็อาศัยลำพังแต่ คำพูดที่ปรากฏ ไม่สนใจ
    การคบหาอยู่ใกล้

    อาศัยถ้อยคำที่ปรากฏเฉพาะในเว็บ เท่าที่แลเห็นเพียงหางอึ่ง ก็เอามาแปลความ ลุล่วง
    ทำนายว่ารู้ถ้วน ก็เป็นเรื่องแปลก ปราศจากอกาลิโก

    เพราะเอาเข้าจริงๆ ชีวิตของคนที่ตนปรักปรำว่าเขาเป็นมาร ว่าเขาขาดศีล ในชีวิต
    จริงอีกร้อยละ 90 เป็นอย่างไรก็ไม่เคยทราบทั่วถึง กาลข้างหน้า กาลข้างหลังของ
    คนๆนั้น ที่ตนปรักปรำว่า เขาไม่มีศีล เป็นมาร เป็นพาล ก็ไม่เคยแลเข้าไปเห็น

    อาศัยเพียงคำพูดเพียงส่วนน้อยที่ปรากฏในเว็บ เฉพาะเวลานี้ ก็อวดอ้างได้ว่า ทำสิ่ง
    ที่เป็นอกาลิโก

    บอกตรงๆ มันเป็นการพูดของคนไม่รู้จักความหมายของ อกาลิโก

    อย่างวิธีการสอนของพระที่มีต่อศิษย์ ซึ่งก็ทราบกันดีว่า แต่ละคนจะได้รับโศลกธรรมะ
    ที่เป็นของเฉพาะตัว ไม่ใช่ปรากฏแบบนี้เช่นนี้ เฉพาะเท่าที่คุณรังเกลยีด แต่ปรากฏเสมอใน
    พระไตรปิฏก เช่น พระบางองค์ก็ได้รับคำสอนให้ดูดอกบัว บางคนให้ดูผ้าขี้ริ้ว แต่เพราะ
    สายตาที่สั้น มองได้แค่ว่า นั่นเป็นคำสอนเฉพาะบุคคล แล้วไปยกว่า พระแสดงธรรมะ
    ไม่เป็นอกาลิโก โดยลืมไปว่า คนๆนั้น เขาเอาโศลกธรรมนั้นๆ ปฏิบัติตั้งแต่แรก จนพ้นโลก
    เข้าสู่โลกุตระกันได้ทั้งนั้น

    แล้วคนที่ไม่เข้าใจ คิดว่ามีความแตกต่าง มีความเป็นปัจเจก ก็จะสำคัญผิด แล้วพูดขึ้นว่า
    ก็เรียกว่า ไปต่อว่า พระพุทธองค์เสียแล้ว เพราะพระพุทธองคในสัมยพระพุทธกาล อันมี
    ข้อความปรากฏในพระไตรปิฏก ก็ปรากฏว่า คนๆหนึ่ง ก็ได้รับโสลกธรรม อุบายธรรม
    ไปอย่างหนึ่ง แต่ละคนไม่เหมือนกัน
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ผมขอพิศูจน์ได้ไหมคับคุณขันธ์
     
  3. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เปลี่ยนชื่อแต่ไม่เปลี่ยนใจก็ค่าเท่ากันแหละ ชอบลองของไปเรื่อย เอาเลยชอบดูคนลองของ ชอบจริงๆ ไม่รู้จะโดนของใครบ้าง ทำไมไม่ลองทั้งสองคนเลยละจะได้มีข้อเปรียบเทียบไงครับ นักปราบเทวดา 5555
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อืม นั่นซินะ คุณขันธ์เค้าเชิญให้พิศูจน์ เราก็ถามไป ถ้าไม่ได้ก็ ไม่พิศูจน์ ... ก็ว่ากันไปตามโอกาศ
     
  5. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    งั้นผมขอถามก่อนช่วยกรุณาตอบทั้งสองคนนะครับ
    ๑ คำว่า มรรค กับ ผล มีความต่างกันอย่างไร
    ๒ โอกาสใดที่ จะมีเฉพาะ มรรค อย่างเดียว และโอกาสใดที่มีมรรคแล้วต้องมีผลเลย
    ๓ การเรียงลำดับธรรมนั้นควรจะเป็น
    แบบที่หนึ่ง
    โสดามรรค
    โสดาผล
    สกิทาคามรรค
    สกิทาคาผล
    อานาคามรรค
    อานาคาผล
    อรหัตมรรค
    อรหัตผล

    แบบที่สอง
    โสดามรรค
    สกิทาคามรรค
    อานาคามรรค
    อรหัตมรรค
    โสดาผล
    สกิทาคาผล
    อานาคาผล
    อรหัตผล
    แบบไหนมีได้แบบไหนมีไม่ได้ครับ แล้วทำไมครับ ถามทุกคนครับ
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ผมตอบก่อนเลย ... ผมยังไม่เป็นพระโสดาบัน เลยตอบไม่ได้ เลยไม่รู้ว่า มรรค ตัวแรกที่คุณเก่งเก่งนี่ ถามนั้น มันเป็นยังไง เลยตอบไม่ได้ทั้งหมดที่ถามมา ... ต้องรอให้คนที่เค้าผ่านตรงนั้นมานะ ...
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    หลายประโยคแต่ประเด็นเดียว คือ นายขันธ์ ไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
    คุณ นิวรณ์ ที่ไม่ควร และ เหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย เพราะว่า ผมไปตำหนิ กิเลสคุณ และ พวกพ้องของคุณไง
    นั่นแหละ คือ เหตุผล ที่ไม่ควร คนเราต้องดูที่ ธรรม ไม่ใช่ไปดูตามเหตุผลกลไกของตนเอง ว่ามากระทบตน
    เอาที่ผ่านมา กี่ข้อนั้น คุณยังชี้แจงเหตุผลไม่ได้ จะมาบอกว่า ผมทำไม่ควร ไม่เหมารวมไปหน่อยหรือ
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นเป็นคำถามปริยัติ ไม่ใช่คำถามจากใจ เป็นคำถามจากความคิด
    ถ้าคำถามจากใจ จะต้องเจอจริง แล้วจึงถาม
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อีกประการหนึ่ง คือ การตั้งคำถาม ที่จะพิสูจน์ ควรเอาคำถามที่มาจากการปฏิบัติของตนเองเป็นที่ตั้ง
    แล้ว ประจักษ์แล้วในระดับที่ตนรู้ชัด แล้วถาม เมื่อถามแล้วจะได้ความว่า คนที่เราถามนั้นทราบความหรือไม่
    มีเหตุมีผลหรือไม่ และเหตุผลนั้น จะกินความเป็น ธรรมครอบแค่ไหน คนปฏิบัติเท่านั้นจึงจะรู้

    ถ้า ยังอยู่กับความคิด จะไม่รู้ธรรม
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมยินดี ให้คุณพิสูจน์ แต่ต้องพร้อมที่จะโดนตำหนิกลับ หากคุณพิสูจน์ไม่เป็น
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อย่างนี้ซิ ถึงจะเรียกนักปฏิบัติ จะไปกลัวทำไม คำตำหนิ

    การสนทนาธรรมตามกาล ย่อม ส่งรับ อารมณ์อยู่แล้ว มีแต่คนสอบตกเท่านั้นล่ะที่วิ่งหนี แล้วอ้างว่าเป็นผู้ มีสัมมาทิฐิ


    เดี๋ยว ผมมาถาม ..
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ความมัวเมาลุ่มหลงตนเอง ยกเอาคุณความดีเหล่านี้ขึ้นมาเป็นข้อเปรียบเทียบ
    เพื่อยกตนข่มผู้อื่น
    ( เช่นเป็นพหูสูตเป็นวินัยธร เป็นธรรมกถึก ถืออยู่ป่า ถือผ้า
    บังสุกุล ถือรุกขมูล ถือฉันมื้อเดียวหรือได้ฌาณสมาบัติเป็นต้นแล้วภูมิใจตน คิด
    ดูถูกผู้อื่นว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นท่านว่าเป็นอสัตบุรุษ ..ม.อุ. 14/184-190/137-140.


    มีศีลสัมปทาแล้วดีใจภูมิใจยกตนข่มผู้อื่น ชื่อว่าเป็นผู้ประมาท ม.มู.12/3488365 )
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาแบบนี้ ใครวิปัสสนามา จะต้องติด เมื่อติดแล้วจะต้องหาทางออก
    เคยมี คนถามผม ว่า ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่า อารมณ์แบบนั้นแบบนี้คงอยู่ แต่ทำไมจึงละไม่ได้
    เช่น รู้ว่าความกลัวมีอยู่ แต่ทำไมละไม่ได้ มันติดตัวโง่ตัวไหน หาอุบายละ และ ไถ่ถอนอย่างไร
    แบบนี้ ผมก็ทราบแล้วว่า นี่วิปัสสนาเห็นทุกข์ นี่

    แต่ ทีนี้ จะชี้ไป มันก็สามารถชี้ได้ ด้วยอุบายของเราเอง หรือ จะชี้ให้เห็นวิธีที่จะพิจารณาอุบาย นี่ก็บอกทาง ได้หลายแบบ
    ดังนั้น จึงบอกว่า จะต้องผ่านวิปัสสนาของจริงมา แล้วจะรู้ทันทีว่า ใครดำเนินวิปัสสนาได้แค่ไหน ติดอะไร
    สำหรับ ในส่วนของสมาธิ ก็จะทราบเช่นกัน ว่า ไปถึงไหนอย่างไร

    นี่จึงเรียกว่า พิสูจน์ได้
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อ้าว คุณ นิวรณ์ คุณยกเหตุผลขึ้นมา ทำไมคุณไม่ดูแค่เหตุผล ทำไมล่วงไปจนถึง เรื่องของการยกตนข่มท่านอันเป็นสิ่งพ้นวิสัย ที่จะทราบความจริงได้เพราะอยู่ในใจคน เพราะถ้าเช่นนั้นแล้ว คุณจะต้องตำหนิ พระศาสดาด้วย เพราะพระศาสดากล่าวว่า ลัทธินั้นลัทธินี้ ไม่ดีเช่นนั้นเช่นนี้ ทางที่ตรงคือทางของเรา
     
  15. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เห็นไฟของ ราคะ โทสะ โมหะ ที่เผาใจอยู่หรือไม่ และได้ก้าวออกจากไฟหรือไม่


    เห็น อริยสัจ เห็น ทุก สมุทัย นิโรจ มรรค

    ผู้เห็นอริยสัจ ได้ชื่อว่าเห็น ได้ซึ่งปัญญา
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาแบบนี้ ปัญหาแรก ที่ผมเคยเจอคือ เมื่อพิจารณา ทุกขสัจแล้ว เห็น ปรากฎขันธ์ 5 เกิดดับ เพียงบางตัว
    เช่น สัญญา เกิดดับ แต่ว่า ภาพรวมในส่วนของ อายตนะ เรายังมีปัญญาไปไม่ถึง มันสังเกตุเห็น สัญญาเกิดดับจริง
    เห็น รูปเสียง เกิดดับ จริง แต่ทำไม ดับกิเลสไม่ได้ขาด
    ก็แสดงว่า อวิชชายังมี อวิชชา หน้าตาเป็นอย่างไรหรือ เราก็ต้องมานั่งควานหา ว่าลักษณะอวิชชาที่ปรากฎกับจิตนั้นมีลักษณะอย่างไร
    แล้ว ทำไมเรามองเห็นขันธ์ 5 แตกได้แล้ว เรายังละกิเลสไม่ได้ แล้ว ถ้าละได้แล้ว เราจะเห็นอะไร มีอาการอย่างไร
    นี่คือ คำถามที่ต้องมีในนักปฏิบัติ

    ไม่ใช่ว่า บอกว่า ดูเฉยๆ แล้วก็แล้วกัน
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เราอย่าคิดนะ ว่า เห็นขันธ์ 5 เกิดดับแล้วเราจะดับทุกข์ได้ เพราะว่า มองตรงนี้ ขันธ์ 5 ก็ดับ แต่ไอ้ตัวที่ มันเป็น อวิชชา ที่ก่อสังขารนั้น มันซ่อนตัว เรียกว่า สักกายทิฎฐิ ซึ่งมันไม่มีตัวตนหรอก มันมาจากอวิชชา ก็พูดแบบนี้ ใครจะเห็นได้เท่าไร ก็แล้วแต่วาสนา
    แต่ ต้องศึกษา ว่า ลักษณะแห่งความโง่ ของเราไหลไปทางใด แต่ให้รุ้ไว้ว่า เมื่อปรากฎ ทุกขสัจ เมื่อไร สมุทัย คือความโง่ ความหลงเป็นต้นสายแน่นอน แต่ เราจะหามันไม่เจอ เพราะไม่รู้จักลักษณะของมัน

    นี่ แหละ จึงต้องมาทำสมาธิ ทำอินทรีย์กัน ทำมหาสติกัน ให้กล้าแข็งเพียงพอที่จะไว และ ทันที่จะจับอวิชชา
     
  18. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เห็นธรรมนี่เห็นต่างที่ต่างเวลาต่างวาระมันก้เห็นเรื่องเดียวกันนะครับ
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    การบอกว่า มอง โทสะ ทัน มอง ราคะทัน มองใจเต้นทัน
    ก็ต้องถามว่า มองทันแล้วยังไง จะไปละ โทสะ เป็น พระอนาคามีหรือ

    สักกายทิฎฐิ วิจิกิจฉา สีลพตรปรามาส อวิชชา อายตนะสัมผัสบริสุทธิ์ เรายังสังเกตุมันไม่ทัน อวิชชาในส่วนสังโยชน์สาม นี่รุ้แล้วหรือ ว่า แต่ละตัวหน้าตาอย่างไร ริอาจจะ มองโทสะ ไอ้โทสะ ตัวเป้งๆ นั่นมันลูกกระจ๊อก

    ไอ้ตัวใหญ่จริงๆ นี่ ปฏิฆะ ระลอกเล็กๆ วิ่งกระเพือมๆๆ นิดๆ ตัวเล็กๆ เหมือนไม่มีอะไร นี่แหละ พ่อแม่มัน มองเห็นไหม ทันหรือยัง ถ้ายังไม่ทันไม่ต้องมาเถียง
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่จะว่า อวดก็อวดเถอะ พูดให้ฟังกัน ให้พอหอมปากหอมคอ ว่าสิ่งทีต้องทำ อันดับต้นนี่ สำหรับ คนทั่วไป คือ การอบรมอินทรีย์ให้พอดี แล้วอย่าทิ้ง
    มหาสติมหาปัญญา คอยสังเกตุ ทุกข์
    เดินออกจากกองที่พิจารณาอยู่ให้เป็น แต่ไม่ใช่หนี เข้าใจแล้วปล่อย เหนื่อยก็พัก เอาสมาธิพัก ใช้ชีวิตตามคนทั่วไป
    คอยประคองไม่ให้กิเลส มีกำลังมากเกินไป ไม่มั่วไม่หลง นั่นแหละ จะเป็นทางให้ถึงฝั่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...