สงสัยว่าพระอรหันต์ รู้สึกขำและหัวเราะได้ไหม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิศว, 11 กันยายน 2009.

  1. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    ในหนังสือ หลวงปู่ฝากไว้

    ในสายตาของศิษยานุศิษย์ และอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย เห็นว่าหลวงปู่ดุลย์ ท่านมีความสงบเสงี่ยมเป็นปกติ งดงามตามควรแก่สมณวิสัยอยู่ตลอดเวลา ไม่แสดงอาการพลิกผันแปรปรวนไปตามเหตุการณ์ต่าง ๆ

    เมื่อประสบอารมณ์ที่น่าพอใจ หลวงปู่ก็เพียงแต่ยิ้ม หรืออย่างมากก็หัวเราะน้อยๆ

    แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ช่วงที่หลวงปู่อยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เนื่องจากอาพาธคราวนี้เอง ที่เคยเห็นท่านหลวงปู่หัวเราะอย่างเต็มที่ และมีอาการสะกดกลั้นการหัวเราะนั้นเป็นระยะ เพื่อให้ตนเองหยุดหัวเราะ

    นับเป็นการหัวเราะครั้งแรก ครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายของหลวงปู่ เท่าที่ลูกศิษย์ลูกหาเคยได้พบเห็น!

    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลวงปู่เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสุรินทร์เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๘ ในครั้งนั้นแล้ว ข่าวคราวการเข้าโรงพยาบาลของหลวงปู่ก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว การเยี่ยมเยียนเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งญาติโยมพุทธบริษัททั่วไป ตลอดทั้งพระภิกษุสามเณรและคณาจารย์เจ้าสำนักต่างๆ ก็พากันมาเยี่ยมไข้หลวงปู่มิได้ขาด

    ช่วงบ่ายวันหนึ่ง พระอาจารย์รูปหนึ่ง มากับโยมสองสามคน ครั้นกระทำสามีจิกรรม คือ กราบนมัสการหลวงปู่แล้ว ก็กรากเข้าไปชิดหลวงปู่กรีดกรายฝ่ามือประคองต้นแขนหลวงปู่อย่างนุ่มนวล พลางพูดเสียงอ่อนเสียงหวานว่า

    "หลวงพ่อ อย่าไปคิดอะไรมาก ปล่อยวาง ปล่อยวาง สังขารทั้งหลายมันไม่เที่ยงอย่างนี้แหละนะ หลวงพ่อนะ ปล่อยวาง ปล่อยวางนะหลวงพ่อ"

    แล้วพระอาจารย์องค์นั้นยิ้มอ่อนโยนน่าประทับใจ ทำเอาหลวงปู่เกิดความขบขันเป็นอย่างมาก ท่านหัวเราะออกมาอย่างชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วท่านก็พยายามสะกดกลั้นเป็นระยะๆ ครู่หนึ่งอาการหัวเราะก็หยุดลง วางสีหน้าเฉยเป็นปกติ แล้วเอ่ยวาจาขอบอกขอบใจพระอาจารย์รูปนั้น และญาติโยมที่อุตส่าห์มาเยี่ยม และก็สนทนาธรรมดาอื่นๆ ต่อไปด้วยอาการราบเรียบตามปกติของหลวงปู่
    <!--MsgFile=1-->
     
  2. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    พระอรหันต์ จิตแยกขาดออกจากขันธ์
    ขันธ์อยู่ส่วนขันธ์ จิตอยู่ส่วนจิต
    เมื่อขันธ์โดนกระทบผ่านอายตนะ
    จึงแสดงออกไปตามความเป็นจริงนั้น
    โดยบริสุทธิ์ มีเหตุเข้ามาอย่างไร
    กิริยาของขันธ์แสดงออกรับตามส่วน

    อากาศหนาวนัก รู้สึกหนาว กายสั่นได้
    อากาศร้อนนัก เหงื่อไหล กระหายน้ำ
    มีเหตุชวนขัน ก็ยิ้ม ขำ หัวเราะได้
    มีเหตุชวนสลดสังเวช ก็น้ำตาไหลได้

    ตัวอย่างที่ดีเรื่อง จิตแยกจากขันธ์คือ
    ตอนที่หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    ท่านมีแผลที่ขาอักเสบมาก
    หมอตัดสินใจผ่าตัดสด แต่ขาดยาชา
    ท่านนิ่งให้ผ่าจนเสร็จ บอกหมอว่า
    คราวหลังให้เบาๆหน่อยแล้วกัน

    เจริญในธรรมครับ.
    คัดลอกจาก คุณธรรมสังเวช <!--MsgEdited=4-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2009
  3. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    พระพุทธเจ้ายังทรงกล่าวไว้เลยว่า...
    พระอรหันต์นั้นละกิเลสได้แต่วาสนานิสัยที่ติดตัวมาท่านไม่สามารถละได้

    ผู้ที่ละได้ทั้งสองอย่างคือกิเลสและวาสนานิสัยที่ติดตัวนั้นก็มีแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียว

    ในครั้งพุทธกาลก็มีเรื่องราวปรากฎอยู่ ที่พระอรหันต์รูปหนึ่งท่านปกติพูดคำหยาบคาย
    อยุ่เป็นนิจ จนมีผู้ที่ไม่ชอบและนำเรื่องไปฟ้องพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าก็รับรองว่าพระรูปนี้เป็นผู้สิ้นกิเลสแล้ว
    <!--MsgFile=14-->
     
  4. murano

    murano Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +57
    เอ่อ... แค่อ่านยังขำเลย อิอิ
     
  5. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    ผมเองกลั้นหัวเราะ...อมยิ้ม นึกขำ...

    นึกถึงกิเลสในหัวใจของคน มันไม่เลือกพระสงฆ์องค์เจ้าฯ

    มายากิเลสหลอกลวง..ย่ำยีหัวใจ กล่าวอ้างเป็นธรรมต่างๆนานา

    อยากโอ้อวดแสดงธรรม...แก่พระอรหันต์ผู้หมดกิเลส.
     
  6. คนอีสาน

    คนอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +283
    ธรรมมีไว้เพิกเฉย
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    อ่านแล้วอดยิ้มไม่ได้...

    ขออนุโมทนาในธรรมทานค่ะ

    Numsai
    ;aa10
     
  8. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    หลวงปู่น่ารักมาก เวลายายผีป่าเดินสวนกับท่านที่ถนน ยายผีป่่าจะก้มลงกราบท่าน ท่านก็จะยิ้ม แล้วถามว่า วันนี้กินข้าวหรือยัง จะไปไหนกันหรือลูก(ส่วนมากท่านจะเห็นยายผีป่าเดินกับพี่ชาย)

    ตอนไปกราบท่านที่ตึกสงฆ์อาพาธ อาคาร ๘ ชั้นสอง โรงพยาบาลสุรินทร์ ลุงจำรัส บุรัษพยาบาล และคุณหมอสมบัติ เป็นผู้ดูแลท่าน ท่านจะชอบการให้นอนห้องพิเศษ ท่านจะนอนเตียง ๑ หันหัวไปทางตึกเอ๊กซเรย์เก่าค่ะ ท่านยิ้มเสมอ ยิ้มพอสมควร ไม่ใช่อาการกลั้น ท่านไม่จำเปนต้องกลั้นเพื่อสำรวมจริยานะคะ ท่านยิ้มเท่าที่ควรยิ้ม หัวเราะพอสมควร อาการกลั้นนั้น เหมือนการสร้างภาพ ท่านไม่สร้างภาพ เวลาท่านดุท่านก็ดุแล้ววาง ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์

    เทียดของยายผีป่าเคยเป็นอาจารย์ท่านแรกที่สอนกรรมฐานท่าน เห็นพ่อเคยเล่าว่า หลวงปู่ตอนอยู่วัด บ้านตราดคอโคสมัยนั้น ขยันมากๆ ไม่เคยที่จะเอาแต่เรื่องส่วนตัว งานวัดนี่ท่านช่วยตลอด ไม่เกี่ยงงาน ไม่บ่น ไม่นินทาใคร ไม่ยุยงให้ใครแตกแยก ไม่ชี้ฟ้อง


    น้าชายยายผีป่าตอนบวช ได้เรียนธรรมกับหลวงปู่พรรษาหนึ่ง ท่านป่วยและมีกิจนิมนต์บ่อย ท่านก็ให้ท่านอื่นสอน แต่ท่านขยันมาด้อมๆ มองๆ เรียกไปสอบปากเปล่ากับท่านก็มีค่ะ

    เด็กๆ วิ่งในวัด นี่ท่านสอนทั้งทางตรงและทางอ้อม ยายผีป่าจะวิ่งทะลุวัดกลางไปวัดบูรณ์ประจำ รู้สึกชอบวัดหลวงปู่ แม้ใครจะว่าหลวงปู่ดุก็ตามที

    หลวงปู่มอบเหรียญให้มากมาย ขอขมาเจ้าค่ะ ที่ยายผีป่าไม่เก็บไว้ หายไปเยอะ ขนาดพระกริ่งราคาหลายแสน ยังรักษาไม่ได้ เขาเรียกว่า ไก่ได้พลอยค่ะ

    ...................................
     
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พระอรหันต์ ก็ไม่ต่างกับปุถุชน

    จะต่างก็แต่ จิตพระอรหันต์ท่านแยกออกจากกายเป็นแบบเด็ดขาด และ ได้ดับไปแล้ว

    นอกนั้นก็แสดงกิริยาไม่ต่างกับชาวบ้านธรรมดา แต่อาการไปอาการมาของพระอรหันต์ ท่านใช้คำว่าอกิริยา

    ไม่มีบุญบาปมารองรับจิตได้ ให้เกิดอุปาทานได้อีก เพราะรูปนามวิญญาณได้ดับไปแล้ว เมื่อหมดเหตุปัจจัยก็เข้าพระนิพพานเป็นการยุการเกิดก่อ
     
  10. NaCl

    NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +289
    อ่านไปยังขำเลย

    แบบนี้ ยิ่งกว่าสอนปลาให้ว่ายน้ำซะอีก ฮิฮิ
     
  11. Nefertity

    Nefertity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +634
    พระอรหันต์ยิ้มได้?

    ตามหลักอภิธรรม พระอรหันต์สามารถยิ้มได้ด้วยอเหตุกกิริยาจิต 1ดวงคือ หสิตุปาทจิต เป็นดวงจิตที่เกิดพร้อมด้วยโสมนัสเวทนา เหตุเพราะระลึกสภาวะที่หลุดพ้นอย่างที่หลวงปู่ได้ยินในขณะเดียวกันที่พระผู้พูดยังคงไม่หยั่งลงสู่สภาวะที่ระลึกถึงความปล่อยวางจากขันธ์ทั้งหลาย (อุปาทานขันธ์) จึงยิ้มไปตามความรู้สึกว่าหลวงปู่เองพ้นภพและชาติได้แล้ว และที่มีอาการขำ เหตุเพราะอาจรู้ถึงวาระจิตของพระรูปดังกล่าวว่าเป็นห่วงท่านจริงๆ โดยไม่รู้ถึงภูมิธรรมของหลวงปู่แต่เมตตาจิตของท่านก็แสดงให้พระรูปดังกล่าวเขาใจว่าทานยอมรับฟัง ซึ่งสอดคล้องกับเรื่อง"ความเป็นผู้ว่าง่าย"
     
  12. palungwat

    palungwat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +41
    ผมว่าพระอรหันต์ก็ยิ้มได้ แต่ยิ้มเพราะขำคงไม่มี เนื่องจากไม่ปรุงแต่งผัสสะเป็นขำแล้วน่ะครับ ดังนั้นหากหัวเราะเพราะขำ จะไม่มีโดยอัตโนมัติ

    >>>>
    สรุป
    >>>>
    ยิ้มได้ แบบแย้ม
    ยิ้มเพราะขำไม่มี
    ปรุงแต่งเป็นขำไม่มี
    หัวเราะเพราะขำไม่มี
     
  13. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ....ใช่ๆ....กาย....ตามโลก....ใจ ไม่ตาม....
     
  14. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    เห็นท่านยิ้ม....หัวเราะ..
    เป็นปกติทั่วไปนะครับ..

    แต่ดวงจิต..คงไสหมดสิ้นกิเลสแล้วครับ
     
  15. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ขำอะไรกันเหรอ รู้วาระท่านกันด้วย ... ^-^
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    พระอรหันต์ หัวเราะออกจะบ่อย ดูอย่างหลวงตามหาบัวสิครับ

    เคยไปสนทนากับ พระอริยะท่านหนึ่งท่านบอกว่า พวกที่บอกว่า พระอรหันต์หัวเราะไม่ได้ นั้นเคยเป็นพระอรหันต์หรือ

    วันก่อนหลวงตาบอกว่า เรื่องของธาตุขันธ์ ก็เป็นตามธาตุขันธ์ คือ ง่วงก็มี หัวเราะยิ้่ม เป็นได้หมด

    แต่ เท่าที่สังเกตุ ถ้าเป็นพระอนาคามี จะไม่ค่อยหัวเราะหรือยิ้ม เพราะว่า จิตอยู่ใน ฌาณตลอด

    แต่ พระอรหันต์ พ้นภพตรงนั้นแล้ว ก็พ้นสมมติทั้งหมด ท่านก็เป็นไปได้หมด เป็นเอกภาพ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ติดกับสภาวะใดๆ แม้แต่ข้อบังคับ ที่ว่า สำรวม ก็ไม่ติด
     
  17. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ไม่เข้าใจ ทำไมขันธ์อยู่ส่วนขันธ์ จิตอยู่ส่วนจิต ช่วยอธิบายหน่อยว่าเป็น
    ขันธ์ตัวไหนอ่านแล้วงง ไม่เข้าใจข้อความ
    อันนี้ก็ไม่เข้าใจครับ ทำไมพระอรหันต์รู้เหตุแห่งทุกข์แล้ว ทำไม่ดับเหตุเลย
    กายสั่น กระหายน้ำ หัวเราะ น้ำตาไหล นี้เป็นผลอันเกิดจากเหตุหรือเปล่า
    คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับครูบาอาจารย์นะครับ เพียงอยากทราบความเห็นในข้อ
    ความจขกท เพราะเกิดความสงสัย จากข้อความอ้างอิงข้างบน แสดงว่า
    หลวงปู่ ไม่มีอารมณ์เวทนาหรือความเจ็บปวดแล้ว ทำไมหลวงปู่ถึงเอ่ยคำ
    ว่า "คราวหลังให้เบาๆหน่อยแล้วกัน"
    .... ข้อมูลที่จขกทได้รับมา รบกวนให้รายละเอียดมากกว่านี้ได้มั้ย เพราะ
    อ่านข้อมูลท่านแล้วรู้สึกงงๆ ไม่เข้าใจครับ
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจ คือ เวลา่ คนคิดแก้ปัญหา แรกๆ คิดก็สนุก แต่พอแก้ไม่ได้ แล้วมันเครียด มันก็เกิดความหงุดหงิด

    ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า ตัวคิดไม่ใช่ตัวปัญหา แต่ ตัวอารมณ์ที่เข้าไปโง่ต่างหากนั่นคือตัวปัญหา

    จึงว่า จิตส่วนจิต ขันธ์ส่วนขันธ์ เพราะไม่ได้โง่ตามไปหลงให้เกิดอารมณ์ และ ความอยาก

    คนหิว จะไปดับมันอย่างไร มันหิว มันเป็นเรื่องของท้องหิว แต่ใจไม่ได้อยากให้มันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และเข้าใจตามสภาพความเป็นจริง

    เช่น คนอยากกินของอร่อย แบบนั้นใจมันอยาก แต่ว่ากายไม่ได้อยาก
    แต่ถ้า หิวน้ำเพราะไม่ได้กินน้ำ อันนี้เป็นเรื่องของธาตุขันธ์ ก็ต้องไปดื่มน้ำ เรียกว่า เข้าใจสภาพความเป็นจริงได้ถูกต้อง
     
  19. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    มันอยู่ที่ใจ.....................
     
  20. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ตอนแรกอยากให้ท่านจขกทมาตอบ แต่ท่านขันธ์มาตอบเองนับเป็นโชคดีครับ
    เลยรบกวนถามเพิ่มเติมครับ ดูจากข้ออ้างอิงของจขกท คงจะสื่อให้เห็นว่า
    ขันธ์ที่ว่านี้คือกาย สิ่งที่ทำให้สงสัยก็คือที่ว่า จิตส่วนจิต ขันธ์ส่วนขันธ์ แต่
    ทำไมบอกเมื่อขันธ์โดนกระหน่ำผ่านอายตนะ จึงแสดงออกไปตามความจริง
    นั้น ถ้าเป็นดังนี้ ขันธ์ไม่ส่วนขันธ์ จิตไม่ส่วนจิตนะซิครับ และยิ่งไปกัน
    ใหญ่ก็คือสิ่งที่จขกทกล่าวอ้างเป็นถึงพระอรหันต์ เรื่องการแยกรูปแยกนาม
    เป็นเรื่องเล็กสำหรับท่านอยู่แล้ว
    .....สิ่งที่ผมสงสัยนั้นเกิดจาก การอ่านข้อความของจขกททั้งประโยครวมกัน
    ซึ่งผมว่าจขกทก็ต้องการ จะอธิบายในสิ่งหนึ่งสิ่งใด จากข้อความทั้งประโยค
    ไม่ใช่การเอาคำมาเป็นคำๆแล้วมาอธิบายความครับ
    .....ในส่วนที่ท่านอธิบายเรื่อง นามขันธ์ ก็ต้องขอขอบพระคุณครับ
    พอจะเข้าใจครับเรื่องอารมณ์ เรื่องความคิดก็คือขันธ์ อารมณ์เป็นเหตุ
    สมุทัยรู้แล้วรีบดับ

    ยอมรับครับที่ท่านกล่าวมาข้างบน แต่ปัญหาผมไม่ได้อยู่ที่ตรงส่วนนี้ มันอยู
    ตรงที่จขกทบอกว่า มีเหตุชวนขันก็ยิ้มหรือหัวเราะได้หรือมีเหตุชวนสังเวชสลด
    ก็น้ำตาไหลได้ ที่ไม่เข้าใจมันอยู่ตรงนี้แต่วิธีการถามต้องยกข้อความมาทั้งหมด
    เพื่อความเข้าใจ และชี้ให้เห็นว่ามันแย้งและขัดกันอยู่ ไหนๆแล้วก็
    รบกวนถามท่านแทนเลยว่า ที่ว่าขันธ์ส่วนขันธ์จิตส่วนจิต ทำไมมีเหตุชวนขัน
    แล้วต้องหัวเราะหรือมีเหตุชวนสลดสังเวชน้ำตาทำไมไหลได้
    ...ถามด้วยความนับถือนะครับอย่าคิดเป็นอื่น
     

แชร์หน้านี้

Loading...