้ำน้ำมันนางเงือกเรียกคู่ เหลือ 5 ขวดสุดท้ายครับท่านที่จองโอนเงินด่วนหมดแล้วหมดเลยครับ

ขุนแผน 7ท่า พิเศษเทียบเท่าองค์ครู เนื้อมวลสารพิเศษไม่ทาทอง





ให้บูชาองค์ละ 1500.0 บาท

ขุนแผน 7 ธาตุเนื้อผงยาเสน่ห์สาวหลง<o></o>​

ความเป็นมา-วิธีการใช้ขุนแผน ๗ ธาตุ<o></o>​

ใน หลักปรัชญาแห่งการก่อกำเนิดสรรพสิ่งใดๆนั้นได้กล่าวไว้ว่าสรรพสิ่งใดใดก็ดี จะถือกำเนิดขึ้นได้นั้นต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ๒ ประการคือ
๑. พลังสัญลักษณ์แห่งผู้สร้างและผู้กระทำ เรียกว่า “ ธาตุพ่อ”
๒. พลังสัญลักษณ์แห่งผู้รับและให้กำเนิด เรียกว่า “ธาตุแม่”
สองพลังสัญลักษณ์แห่งเพศผู้และเพศเมีย ( พ่อและแม่ ) นี้ เมื่อมารวมประสานกันจะทำให้เกิดพลังงานรูปแบบใหม่เรียกว่าพลังงานของผลแห่งความปรารถนา ( ความสุขสำเร็จและความสมหวังการบรรลุต่างๆ ) ด้วยเหตุอันนี้หากจะสร้างวัตถุอาคมใด รูปนั้นควรเป็นสัญญาลักษณ์แห่งผู้ให้กำเนิดพลังแห่งความสมหวัง ๗ อย่างจึงเหมาะสมที่สุด
แต่ โบราณวิชาการทางมติไสยนิกายนับถือรูปลักษณะของผู้ให้กำเนิดบิดามารดาเป็น ใหญ่ท่านได้กำหนดมงคลลักษณะท่าแห่งผู้สร้างไว้ ๗ ลักษณะตามหลักอาถรรพณ์การสนองความต้องการของมนุษย์ไว้ โดยถือธรรมชาติแห่งการก่อกำเนิดของมนุษย์ใน ๗ วัน แต่ละวันจะมีพลังแห่งการบรรลุอันแรงกล้า ๗ ประการดังนี้
ท่ากามสูตรในวันอาทิตย์ สำเร็จในยศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจอัครมหาสถาน
ท่ากามสูตรในวันจันทร์ สำเร็จในเสน่ห์ เย้ายวน รูปจริต ทุกประการ
ท่ากามสูตรในวันอังคาร บังเกิดความกล้าหาญ โดดเด่นหน้าที่การงาน
ท่ากามสูตรในวันพุธ สุดยอดบทกวี หัวดีติดต่อ เจรจา
ท่ากามสูตรในวันพฤหัส รอบรู้เชิงปรัชญาสาขาความรู้ทั้งปวง
ท่ากามสูตรในวันศุกร์ สมหวังในห้วงทรัพย์สิน โชคลาภเงินทอง
ท่ากามสูตรในวันเสาร์ ทำลายอุปสรรค พลิกแพลงกลยุทธ์ชนะศัตรูทั้งปวง
๗ ธาตุ ประสานร่วมกัน ก่อให้เกิดมงคลลักษณะพลังแห่งเทพบิดรและเทพมารดาเข้าปกปักษ์อุ้มชูอุปการะ รักษาบุตรผู้สักการบูชาให้ประสพสุขไร้ทุกข์แผ้วพาน มงคลลักษณะทั้ง ๗ ประการนี้เป็นสิ่งที่ครูอาจารย์แต่ดั่งเดิมเข้าใจในความหมาย และรู้จักศิลปะวิธีที่จะนำเอาขุมพลังแห่งรูปกามสูตรทั้ง ๗ เหล่านี้ออกมาใช้
หาก มองในแง่มุมแห่งปรัชญาการสร้าง วัตถุมงคลเหล่านี้จึงมิได้ตีความหมายเพียงว่าเป็นเครื่องรางที่นับถือกันทาง เสน่ห์แต่อย่างเดียวเท่านั้น หากเราศึกษาให้ถึงแก่นแท้ของบรรพบุรุษครูผู้สร้างแล้ว จะเข้าใจ ถึงศิลปะต่าง ที่มีมาแต่โบราณอีกด้วย เมื่อเข้าใจเหตุผลแห่งการสร้างแล้วที่นี้มาศึกษาองค์ประกอบของมวลสารดูบ้าง ว่าแต่ละอย่างสำคัญอย่างไร
<o></o>

มวลสารสูตรเสน่ห์สาวหลง เพื่อสร้างขุนแผน ๗ ธาตุ ​

ประกอบด้วยว่านยาและสิ่งอาถรรพณ์ที่มีพลังวิเศษส่งเสริมอานุภาพให้แก่ผู้ครอบครอง ๗ ชนิด คือ ​

1.ว่านนะหน้าทอง มีพลังมงคลเกิดเมตตาเสริมสง่าแก่ผู้พบเห็น
2.ว่านเสน่ห์สาวหลง ชื่อก็บอกสรรพคุณ อยู่ในตัวอยู่แล้วว่า ดีทางเป็นที่ชื่นชมแก่สาวๆ ที่ได้พบปะสัมพันธ์
3.ว่านสาลิกาป่าช้า ว่าน ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายหัวนกตามตำรากล่าวไว้ว่ามีพลังทางส่งเสริมให้ผู้คน หลั่งไหลกันมาชื่นชมเมตตาในน้ำคำเจรจาติต่อค้าขายประเสริฐยิ่งนัก
4.ว่าน ว่าเทพรำลึก ว่านเทพรัญจวน ว่านเทพประชุมพร ว่านทั้งหมดนี้มีอานุภาร่วมกันกล่าวคือต้องนำมาผสมร่วมกันจึงจะเกิดอานุภาพ ดลใจให้ผู้คนรักใคร่เมตตาาห่วงหาเอื้ออาทรตามธรรมชาติ
5. ว่านตระกูลดอกทองทั้งหมด ได้แก่นางดอกทอง มีอำนาจทางทางเสริมเสน่ห์ยั่วยวนแก่ผู้พบเห็น นางตอแหล มีอำนาจทางทำให้ผู้ฟังหลงเชื่อ นางตัณหา มีอำนาจทำให้ผู้เข้าใกล้เกิดราคะติดใจ ทั้งหมดนี้เป็นตัวยาเรียกคนให้มาปรารถนาสังวาสกับเรา
6. น้ำมันช้างย้อย ของ สิ่งนี้หาได้ยากแต่ก็วิเศษยิ่งนักเพราะต้องใช้อำนาจจิตสูงในการสะกดจิตช้าง พลายที่กำลังตกมันอย่างหนักให้สงบลง เพื่อที่จะเข้าไปนำน้ำมันของมันที่ออกมาจากรูขุมขนบริเวณหูออกมาผสมทำพระ เครื่องรางรุ่นนี้ ถ้าอำนาจจิตสูงไม่เข้าขั้นอาจถูกช้างทำร้ายถึงแก่ชีวิตได้เดียวว่ากันว่า ลำพังแค่น้ำมันช้างย้อยเพียงอย่างเดียงว ใครพกติดตัวก็สามารถที่จะสยบจิตคนให้มาลุ่มหลงได้ดีถึงใจยิ่งนัก
7. รังนกสาลิกาหลงรัง ตัวยาสุดท้ายนี้จะหายากที่สุกเพราะท่านอาจารย์ให้หารังนกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติคือนกต้องไปคาบว่านเครือ (สาว ) เขา หลงมาทำเป็นรังเท่านั้นยังไม่พอมันจะต้องตายคารังด้วยจึงจะเรียกว่ารังนกสา ริกาหลงรังของแท้ต้องตามตำราของสิ่งนี้นับถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นส่วนประสม สำคัญในการปรุงเสน่ห์ยาแฝดพญาเทครัว ว่ากันว่าใครได้ไว้ครอบครอง แล้ว ตลอดชีวิตนี้ไม่ต้องกลัวอดเรื่องรสเสน่ห์หา อาจารย์ท่านเขียนไว้เป็นตำราถึงอย่างนั้น
กรรมวิธี การปรุงยาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ท่านให้นำมวลสารทั้งหมดมาโขลกให้ละเอียดแลัว นำมาผสมกับ แป้งหินร่ำในคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ จากนั้นให้ปั้นเก็บไว้เป็นแท่งดินสอ กระทั่งตัวยาหมด รอให้ได้ฤกษ์เที่ยงคืน ( พระจันทร์ตรงศรีษะ ) จึงนำแท่งยามาเขียนยันต์ นะหน้าทองบนแผ่นกระดานชนวนขณะเขียนให้บริกรรมคาถานะเทพนิรมิต คาถานะลือชา สาลิกา โรงลิเกแตก แล้วนำมาปลุกเสกคาถารวมเป็นชุดเดียวกันเสกให้ได้จำนวน ๕๐๐ จบ ในวันพระจันทร์เต็มดวงของทุกเดือนจนครบ ๗ เดือน เมื่อสำเร็จเรียกว่าผงยาเสน่ห์สาวหลงกลืนเมตตาคนแล จึงหาผงดิน ๗ สถานมาผสม คือ
ดิน ๗ ท่าน้ำคนขึ้นลงมิขาด
ดิน๗ โป่งอาถรรพณ์
ดิน ๗ ยอดจอมปลวก
ดิน ๗ ต้นโพธิ์ใหญ่
ดินสถานคณิกา ๗ แห่ง
ดินทั้งหมดนี้ท่านให้เอาาปลุกเสกด้วยคาถาปถมังแฝดกำเนิดเสียก่อนดังนี้ ๑,๐๐๙ จึงค่อยนำมาผสมกับผงที่กล่าวมาข้างต้นแล้วรอฤกษ์สุดท้ายของการทำพิธีเสกแป้งสูตรผงยาเสน่ห์สาวหลงแล้วนำมากดพิมพ์ “ ขุนแผน ๗ ธาตุ ” ดังกล่าวเมื่อสำเร็จดีแล้วก็นำมาปลุกเสกอีก100,000 จบ(หนึ่งแสนจบ) หรือตราบจนพบเทพนิมิต 7 ประการคือ
1. ปรากฏนิมิตมงคลพบพญานาครัดเทพบุตรหรือเทพธิดาบนกองวัตถุมงคล
2. ปรากฏพญาจิ้งจกเผือกปี้กันสุดลูกหูลูกตา
3. ปรากฏปลิงทองคำเกาะลึงค์และโยนีเทพเทวา
4. ปรากฏนิมิตได้แหวนอัญมณี 7สีลอยลงมาสวมนิ้วนาวเทพธิดาและเทพบุตร
5. ปรากฏนิมิต เทพอุ้มนางฟ้าเปลือยอกมาวางอยู่ที่ตัก
6. ปรากฏนิมิต พบเห็นกามเทพเสพสมเต็มท้องฟ้า
7. ปรากฏนิมิตหมู่ทวยเทพจัดขบวนขันหมากมา เทพได้ประทานไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรคู่กันเสกเป่าลงไปในกองวัตถุมงคล
เมื่อนิมิตได้บังเกิดนิมิตมงคลทั้ง 7อย่าง นี้แล้วตามตำราสืบมาถือว่าเทพทเวาท่านจะปกปักษ์พิทักษ์รักษาผู้ใดมีไว้บูชา แนบกายจะเป็นเสมือนแก้ววิเศษเป็นที่รักที่ปรารถนาในโลกียเสน่หาขอให้หมั่น ปฏิบัติตามตำหรับการบูชาจะสมปรารถนาทุกประการ
ตำรับการบูชาขุนแผน 7 ธาตุอย่างพิสดาร
การจะนำเครื่องราง ๗ ท่านี้มาใช้ประโยชน์นั้นจะต้องล่วงรู้ถึงเคล็ดลับ 3 อย่าง เสียก่อนนั่นคือ ล่วงรู้ มนตรา ล่วงรู้วิธีการ ล่วงรู้การวางอารมณ์ สามสิ่งนี้เป็นหัวใจในการที่จะยังให้ความปรารถนาทั้งปวงประสบความสำเร็จได้ กล่าวคือ รู้จักนำเอาขุมพลังแห่งรักและเมตตาของเทพบิดรและเทพมารดามาใช้ให้เกิด ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน กระทำได้ดังนี้
<o></o>

วิธีการทำให้เกิดโชคลาภและขายของดี<o></o>​

ทุกวัน ให้จัดดอกไม้ 10 ดอก ธูป 10 ดอก เทียนเล็ก 10 เล่ม เงิน 12 บาทเพื่อบูชาครูเมื่อได้ครบแล้วให้นำภาชนะอะไรก็ได้มาบันจุน้ำเปล่าแล้วนำขุนแผน 7 ธาตุใส่ลงไปในน้ำนั้นเพื่อทำน้ำมนต์ประพรมสินค้าและร้านค้าจากนั้นให้ตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วสวดคาถาดังนี้
นะวิเศษเมตตา โมเทพชักยันต์ลงร้านข้า พุทเสด็จลงมาเปล่งราศี ธาให้สว่างทั่วท้องธรณี ยะให้เป็นรัศมี ผุดผ่องลาภา มะอะอุ อุอะมัดกระหวัดจิต ติดกักขัง พระอะระหังให้คนทั้งหลาย จังงังด้วยเอหิจิตตัง ปิยังมะมะ พุทธังนิรมิตเงินมา ธัมมังนิรมิตทองมา สังฆังนิรมิตลาภผลพูลมา เทพสถิตอยู่ที่ร้านข้าอ้ายอี (ชื่อ….) เห็นหลงไหลจงใจไม่สมประดี พุทธายินดี พุทธะเอ็นดู หญิงชายใดเข้าร้านกู ต้องนะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ ซื้อง่ายขายดี นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ ซื้อง่ายขายดี นะโมพุทธายะนะมะพะทะ จะภะกะสะ ซื้อง่ายขายดี อมเพี๊ยง (เป่าลมลงไปที่ขันน้ำมนต์)
แล้วสวดตั้งแต่นะโม 3 จบต่อด้วยคาถาใหม่อีกเรื่อยไปจนกว่าจะครบตามกำลังวันนั้นคือ อาทิตย์ 6 จบ จันทร์ 15 จบ อังคาร 8 จบ พุธ 17 จบพฤหัส 19 จบ ศุกร์ 21 จบ เสาร์ 10 จบ ) เสร็จแล้วจึงนำน้ำมนต์อันนั้นมาประพรมสินค้าและร้านค้าให้ทั่วก็จะขายดีสมปรารถนาทุกประการ
คาถาบทนี้เรียกเทพนิรมิตใช้สวดบูชาขุนแผน ๗ ธาตุเพื่อทำน้ำมนต์ เมื่อต้องการให้บังเกิดโชคลาภค้าขายดีขณะสวดภาวนาให้น้อมนึกภาพในใจว่า บุคคลทั้งหลายเกิดความหลงรักอยากได้สินค้าของเราแห่กันมาซื้อสินค้าของเราจนหมดคิดเช่นนี้เรื่อยไปจนกว่าจะสวดคาถาจบ

วิธีทำให้คนรักคนทักคนชม<o></o>​

ทุกเช้าเมื่อตื่นนอนมาให้นำขันล้างหน้ามาใส่นำให้เต็มแล้วนำขุนแผน 7 ธาตุใส่ลงไปในน้ำนั้นเพื่อทำน้ำมนต์ผสมอาบหรือล้างหน้าแปรงฟันจากนั้นให้ตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วสวดคาถาดังนี้
นะ มัดจิต นะมัดใจ นะมัดอาลัย เอหิจิตตังปิยังมะมะต้องนะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ รักกูหลงกู นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ รักกูหลงกู นะโมพุทธายะ นะมะพะทะะ จะภะกะสะ รักกูหลงกู อมเพี๊ยง (เป่าลมลงไปที่ขันน้ำมนต์แล้วสวดตั้งแต่นะโม 3 จบต่อด้วยคาถาใหม่อีกเรื่อยไปจนกว่าจะครบตามกำลังวันนั้นคือ อาทิตย์ 6 จบ จันทร์ 15 จบ อังคาร 8 จบ พุธ 17 จบพฤหัส 19 จบ ศุกร์ 21 จบ เสาร์ 10 จบ ) เสร็จแล้วจึงนำน้ำมนต์อันนั้นมาผสมอาบล้างหน้าแปรงฟันจะสมปรารถนาใครเห็นรักทักปราศรัยทุกคน
คาถาบทนี้เรียกหัวใจผูกเสน่หาใช้สวดบูชา ขุนแผน ๗ ธาตุในใจทุกครั้งที่ต้องการให้บังเกิดคนหลงไหลเสน่หาในตัวเรา

วิธีทำให้ผู้คนสนใจคำพูดเราเชื่อฟังเราคล้อยตามเรา<o></o>​

ทุกวันก่อนออกจากบ้านให้นำเสื้อผ้าของเรามารวมกันก่อนใส่แต่งตัวแล้วให้หันหน้าไปทางทิศเหนือจากนั้นให้ตั้งใจสวดคาถาดังนี้ นะโม ๓ จบ
โอมสะโหมติด โอมสะโหมโต นกสังการะเวกโก ตัวอยู่ไพรสน บินบนเทิงอากาศ ลิราศเสียงหวาน ฝูงหญิงงามสาวน้อย อ่อนอ้อยเสียงเจ้าม่วน นกบินอยู่สวนในใจคน เสียงสู่นก นกก็ร้อง เสียงสู่ฆ้อง ฆ้องก็ดัง เสียงสู่คนฟังก็มาร้องให้หากูทีละร้อยทีละร้อย ก็มาอ่อนอ้อยที่ละพันทีละพัน ครั้นเจ้าส่งสกุลเสียงขันให้ หลงภาษลืมเดชด้วยเดชเสียงวิเศษสนธิ ร้องใส่ช้าง ช้างลืมงา ร้องใส่ปลา ปลาลืมน้ำ ร้องใส่ถ้ำเทพก็ลืมคูหาทอง ร้องใส่น้องก็ลืมแม่ติดกายพี่ด้วยเดชเดชะเจ้านกแก่นแก้วตัวดี โอมสะโหมติดสะ (เป่าลมลงไปที่เสื่อผ้าแล้วสวดตั้งแต่นะโม 3 จบต่อด้วยคาถาใหม่อีกเรื่อยไปจนกว่าจะครบตามกำลังวันนั้นคือ อาทิตย์ 6 จบ จันทร์ 15 จบ อังคาร 8 จบ พุธ 17 จบพฤหัส 19 จบ ศุกร์ 21 จบ เสาร์ 10 จบ ) เสร็จแล้วจึงนำเสื้อผ้านั้นมาใส่แต่งตัวเสร็จแล้วให้เอามือลูบปาก 3 หนแล้วพูดว่า สาลิกามาดี สาลิกาเสริมศรี สวัสดีลาโภ กะระวิกัสสะโรนะโมพุทธายะ
คาถา ตอนนี้เรียกว่า คาถาสาลิกาโรงลิเกแตกเป็นมนต์สำหรับผูกใจคนให้หลงไหลในเสียงของเรามิรู้คลาย แม้แต่ทวยเทพทั้งหลายได้ยินก็ต้องมาอวยพร อาจารย์ แต่ก่อนท่านหวงนัก สำนักเพชรแสงแก้วเผยแพร่เป็นวิทยาทานใช้สวดบูชาขุนแผน ๗ ธาตุในใจครั้งที่ต้องการให้เกิดคนหลงไหลรำลึกนึกรักเราปักคาใจติดอกติดใจใน เสียงของเราทุกเวลาแม้กลับบ้านไปยังคิดถึงบ่นถึงหาตลอดเวลาทีเดียว

วิธีทำให้เกิดเสน่ห์แก่เพศตรงข้าม<o></o>​

ทุก วันก่อนออกจากบ้านให้น้ำหอมเยลหรือน้ำมันใส่ผมของท่านชายหรือเครื่องสำอาง ต่าง ๆของท่านหญิงมารวมกันก่อนใส่แต่งตัวแล้วให้หันหน้าไปทางหน้าบ้านเรา จากนั้นให้หลับตาน้อมนึกภาพสัญลักษณ์ชายหรือหญิงที่เราปรารถนากำลังกอดกับ เราด้วยความรักอยู่บนยอดภูเขาสูงมีแสงสว่างออกมารอบตัว ให้คิดเช่นนี้ตลอดเวลาแล้วตั้ง นะโม ๓ จบพร้อมกับสวดคาถาว่า
โอมรำพึงมหารำพึง นะมัดจิต…ชื่อ.ให้คิดถึง นะมัดใจ…ชื่อ..ให้รำพึงตรึงจิต ตรึงใจ สะโหมติ โอมสะโหมติ โอม… นางหรือนาย….อยู่มิได้ร้องไห้มาหากู อยู่วันละ ๗ หน โอมสะโหมติ โอมนะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ รักหรือไม่รัก(ตอบเองว่า)รัก หลงหรือไม่หลง(ตอบเองว่า)หลง นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ รักหรือไม่รัก(ตอบเองว่า)รัก หลงหรือไม่หลง(ตอบเองว่า)หลงนะโมพุทธายะ นะมะพะทะะ จะภะกะสะ รักหรือไม่รัก(ตอบเองว่า)รัก หลงหรือไม่หลง(ตอบเองว่า)หลง อมเพี้ยง (ตอนที่สวดว่ารักหรือไม่รักให้น้อมจิตถามรูปคนที่เรานึกถึงในนิมิตให้เขาตอบเองว่ารัก ตอบเองว่าหลง พอจบให้เป่าลมลงไปที่เครื่องหอมที่นำมาเสกแล้วสวดตั้งแต่นะโม 3 จบต่อด้วยคาถาใหม่อีกเรื่อยไปจนกว่าจะครบตามกำลังวันนั้นคือ อาทิตย์ 6 จบ จันทร์ 15 จบ อังคาร 8 จบ พุธ 17 จบพฤหัส 19 จบ ศุกร์ 21 จบ เสาร์ 10 จบ ) เสร็จแล้วจึงนำเครื่องหอมนั้นมาแต่งตัวตามปกติทำเป็นประจำทุกวันได้ผลฉมังนัก
หัวใจเทพรำพึงนี้ใช้สวดบูชาขุนแผน ๗ ธาตุ ในใจทุกครั้งที่ต้องการให้บังเกิดคนหลงใหลรำพึงให้บ่นหาแต่เราเสมอ

วิธีทำให้มีแฟนคนรัก หรือคนรักมั่นคงกับเราคนเดียว<o></o>​

ในทุกวันก่อนนอน ให้จัดดอกไม้ 10 ดอก ธูป 10 ดอก เทียนเล็ก 10 เล่ม เงิน 12 บาทเพื่อบูชาครูเมื่อได้ครบแล้วให้นำขุนแผน 7 ธาตุ มาใส่ไว้ที่มือพร้อมอธิษฐานว่าขอให้เราได้พบเนื้อคู่สำหรับคนที่ยังไม่มีคู่ หรือขอให้คนนั้นคนนี้รักเราอยากอยู่ร่วมชีวิตกับเรา แต่มีข้อแม้ว่าบุคคลนั้นต้องเป็นคนที่ไม่มีเจ้าของ หรืออธิษฐานถึงคนรักของเราคนให้รักเราแต่เพียงผู้เดียวจากนั้นให้น้อมนึก มโนภาพว่าเรากำลังทำท่ามีความรักอยู่กับบุคคลนั้นตลอดเวลาเมื่อทำได้แล้วให้ ตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วสวดคาถาดังนี้
นะรัญจวนป่วนจิต นะรำจวนป่วนใจ นะรัญจวนอยู่มิได้ นะร่ำไห้มาหากู นะท่าตากลม นะชมแต่เงา นั่งแอบคลึงเคล้าภิรมย์ชมเชย จิตตัง ( ชื่อ ….) เอ๋ย มานิมามา สัมพะหุลา ราคะพันติ ราคะพันตัง ราคะพันทะนัง ราคังพันติ อมรักเอ๋ยมาประจำรัก อมรักเอ๋ยมาประจำโขลง จำโรงแม่เอ๋ย นางทองอย่าเลือก นางเผือกจำไร จำกูไว้ให้ได้ พระนารายณ์ใช้ให้จำ จำรัก จำปัก จำใจ เสน่หาอาลัย จำใจ รักใคร่เมตตา มะอะอุเสน่หา พระเจ้าสั่งมา พระโมคคัลลายันตี นะสังกะวิยะธากะปุ มิตจิตสะล้อป นะสังปะวิยะธากะปุ มิตจิตสะลอรายมนุษย์ทั้งหลายหลงลืมสติวิญญานะพันธะโร เอหิจิมาเรโส เอหิโสจิมาเร สัมมาคะมะ พันทะนัง ภะวังติดสะ
คาถาสามบทนี้เรียกว่าวิชาหัวใจมัดวิญญาณคน ใช้ สำหรับเรียกผูกวิญญาณคนให้รักเราไปตลอดชีวิตมิรู้คลายด้วยมโนภาพจิตบวกกับ คาถาทำให้เกิดอิทธิฤทธิ์สมปรารถนาด้วยทวยเทพทั้งหลายรักษาอวยพรใช้สวดบูชา ขุนแผน ๗ ธาตุควบกันไปขณะทำเสน่ห์เล่ห์กลโดยตรงหมั่นทำทุกวันจะสมปรารถนาในชีวิตรัก และครอบครัวตลอดไปคำว่าอดเสน่ห์หาเป็นไม่มีเลยทีเดียว
เคล็ดวิชาเหล่านี้ใช้บูชาขุนแผน ๗ ธาตุ ของสำนักเพชรแสงแก้ว เป็นสิ่งที่มองได้หลายแง่มุมทั้งทางบวกและทางลบในจิตใจ สำหรับ ที่สำนักเพชรแสงแก้วแล้ว ขุนแผน ๗ ธาตุเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์แก่สานุศิษย์ทั้งหลาย เพื่อหวังให้ได้รับผลดีจากการก่อกำเนิดผลทางเสน่ห์ให้ถึงที่สุด ทางเมตตาค้าขายปรารถนาสิ่งใดสมใจปรารถนาผู้ใดสมใจ ใครมีไว้ขอให้หมั่นปฏิบัติบูชา เป็นที่ถือมั่นเป็นประจำตลอดชีวิต จะมีแต่คนรักช่วยเหลือ โชคดีมีแต่ความสุขเจริญรุ่งเรือง สมดังอาจารย์เก่าเจ้าของตำราท่านสรรเสริญว่าเกิดมาไม่ผิดแผ่นดินแล

 

ขุนแผนพรายพญาหลง รุ่นพิเศษ เทียบเท่าองครูเนื้อมวลสารพิเศษ





ให้บูชา 1500.0 บาทค่าส่ง 50.0 บาท

ขุนแผนพรายพญาหลง​

เกร็ดความรู้เรื่องมวลสารการจัดสร้างขุนแผนพรายพญาหลง
ใน ตำรับวิชาเสน่ห์โบราณของสำนักเพชรแสงแก้วตอนหนึ่งกล่าวถึงพิธีกรรมการจัด สร้างขุนแผน หากจะสร้างวัตถุมงคล “ขุนแผน”เพื่อเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างเอกอุแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องประกอบด้วยเนื้อหาสาระความศักดิ์สิทธิ์ของมวลสารและ การเพิ่มพลังอานุภาพมวลสารให้ถึงจุดสูงสุดพิถีพิถันเรื่องอักขระเลขยันต์ที่ นำมาประกอบใช้ในการปลุกเสก สิ่งที่สำคัญหากผู้สร้างไม่แตกฉานในเรื่องของมวลสารแล้วย่อมยากที่จะสามารถ สร้างวัตถุมงคลที่ทรงคุณวิเศษสามารถใช้ได้ผลตามอุปเทห์ที่เขียนบันทึกไว้ในตำรา

ฉบับนี้ผู้ เขียนจะขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคุณวิเศษต่าง ๆ ของมวลสารที่นำมาใช้พร้อมคาถาปลุกเสกมวลสารในการจัดสร้างขุนแผนพรายพญาหลง ให้แก่สานุศิษย์และท่านผู้สนใจใคร่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเป็นวิทยาทาน ได้ศึกษากันดังนี้

ขุนแผนพรายพญา หลงนี้ สรางจากวัตถุอาถรรพณ์อันทรงอานุภาพทางเสน่ห์แต่ละอย่างแต่ละชนิดล้วนแต่คัด เลือกของที่เป็นสุดยอดทั้งสิ้นเพื่อให้เป็นวัตถุมงคลที่มีความเข้มขลังทาง ด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมที่สุด ให้เกิดผลตามอุปเท่ห์ตามต้นตำราเดิมที่ได้บันทึกไว้แต่ครั้งสมัยโบราณดังนี้

ใครไม่มีคนรัก เมื่อบูชาอย่างถูกวิธีแล้วต้องมีคนรัก ใครที่คนรักไม่ไหลหลงเมื่อบูชาอย่างถูกวิธีแล้วคนรักต้องไหลหลง ศัตรูกลับกลายมาเป็นมิตร มิตรกลายเป็นบริวาร มีโชคลาภในด้านหน้าที่การงาน พบแต่ความสุข ความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง ซื้อง่ายขายดี และที่สำคัญเป็นที่สุดสามารถเสริมดวงชะตาความรักและแก้เคล็ดคู่สามีภรรยาจืด จางเอาใจออกห่างนอกใจ หรือไปมีคนใหม่ได้อย่างชะงัด เคยมีผู้สงสัยถามว่าระหว่างขุนแผนปะฉะดะกับพระขุนแผนพรายพญาหลงวัตถุมงคล ทั้งสองรุ่นนี้แตกต่างกันตรงไหน อย่างไรในด้านสรรพคุณความศักดิ์สิทธิ์ขอตอบดังนี้

ขุนแผนปะฉะดะ จะโดดเด่นในด้านการดลใจให้ผู้คนเมตตารักใคร่เชิงชู้สาวเชิงกามารมณ์สมหวังใน ด้านเจ้าชู้เชิงราคะส่วนลาภผลที่จะได้มาเพราะด้วยแรงเสน่หาแก้เคล็ดไฝปานลับ ในร่างกลายกลับร้ายให้กลายเป็นดีฯลฯส่วนขุนแผนพรายพญาหลงนั้นจะเน้นไปในทาง ด้านแก้ไขปัญหาบุคคลที่ดวงอาภัพรัก คนรักจืดจาง นอกใจให้กลับมารักมาหลงไหลเหมือนแต่ก่อนหรือยิ่งกว่า ส่วนคุณวิเศษด้านอื่นก็จะเป็นพวก สามารถนำผงไปขูดผสมลงในตุ่มน้ำในบ้านเพื่อให้คนในบ้านกินปรองดองกันสามัคคี ไม่ทะเลาะวิวาทบาดหมางกันและสามารถนำมาอาราธนาแช่น้ำสำหรับทำน้ำมนต์ไว้ ประพรมสินค้าให้ขายของดีชนิดเทน้ำเท่าเป็นยิ่งทวีคูณอีกด้วย

คุณวิเศษทั้ง หมดที่กล่าวมานี้มีรวมอยู่ในขุนแผนพรายพญาหลงทั้งสิ้นและสิ่งที่ทำให้ขุนแผน พรายพญาหลงรุ่นนี้ทรงพลานุภาพมากมายหลายประการได้สำเร็จนั้นมวลสารเป็น ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญปู่หมอนาคท่านใช่มวลสารตามตำราเดิมอันเป็นสูตรยา อาถรรพณ์ที่เรียกชื่อตามตำราเดิมว่าสูตรว่านหัวใจพญานางหลง

สูตรว่านหัวใจพญานางหลง ​

สูตรว่านหัวใจ พญานางหลงก็คือมวลสารหัวใจทางเสน่ห์ไหลหลงอาถรรพณ์ 7 อย่างที่มีอานุภาะพสำหรับครอบงำหัวใจมนุษย์ผู้คนทั้งหลายที่เกิดในวันทั้ง 7 ให้รักให้หลงซื่อสัตย์ จงรักภักดีกับไม่รู้หลาย ไม่เสื่อมคลายอันประกอบไปด้วย

เครือเถาวัลย์หลง
เป็นพันธ์ไม้ ชนิดหนึ่ง ประเภทเถาวัลย์มี ขนาดใหญ่ประมาณข้อมือเด็กขึ้นไปจึงจะนำมาใช้ทำมวลสารได้พันธ์ไม้ชนิดนี้ชอบ เลื้อยไปมาตามต้นไม้ต่าง ๆ หากใครเดินเข้าไปในเขตของมันเข้าจะต้องหลงป่าหาทางออกไม่เจอในทันทีไม่เว้น แม่กระทั้งสัตว์ป่าผู้มีความชำาญและเป็นเจ้าของป่าเองก็ตามพันธ์ไม้ชนิดนี้ พวกพรานป่าจะกลัวและระวังมากเป็นพิเศษเพราะหากหลงเข้าไปอาจหาทางออกไม่ได้ และหลงป่าตายในที่สุดและด้วยอานุภาพของมันนี้เองแต่โบราณหากผู้มีวิชาอาคมใด นำกลับออกมาจาป่าได้มักจะปิดบังหวงแหนเป็ฯอย่างมากหากนำออกมาใช้ก็จะนิยมบด ให้ละเอียดผสมกับขี้ใคลของตนเองแล้วเสกด้วยคาถาดังนี้

คาถาเสกเครือเถาวัลย์หลง นะโม 3จบ
นะพาวนนะพาเวียน นะพาอุปเถียร แนะพาเวียน แนะพาวน นะพางง หลงมาหากู นะปลงใจทัก นะรักอุ้มชู เอหิรักกู เอหิ หลงกู สวัดสวาหะ
อมหลงมหาหลง หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงหมดหัวจิต หลงหมดหัวใจ หลงหมดเนื้อ หลงหมดตัว ช้างต้องหลงให้น้ำตาตก นกต้องหลงให้น้ำตาไหล (ชื่อ…)เอ๋ยต้องมนต์หลงกู หยุดอยู่มิได้ หลงร่ำไห้มารักกู อมหลง หลงมหาหลง หลงสวาหะ

อยากให้ใครรัก ใครหลงก็เอา ผงอันนี้ไปแอบผสมอาหารต่าง ๆให้ผู้ที่เราปรารถนากินรับรองเสร็จทุกรายหรือบางครั้งก็นิยมนำมาบดผสมลงใน สีผึ้งสีปากเวลาพูดกับใครเขาก็รักเขาก็หลง นิยมชมชอบเราเป็นที่สุดพรรณนาหากนำมาบดผสมลงในวัตถุมงคลใดก็ดีมีอานุภาพสูง ทำให้คนหลงไหลเป็นที่รักที่ชอบใจอย่างไม่ลืมหูลืมตาทีเดียวสำหรับเครือ เถาวัลย์หลงนี้เป็นของคู่ใช้สะกดผู้หลักผู้ใหญ่ให้เกิดความเมตตารักใคร่โดย เฉพาะคนเกิดวันอาทิตย์จะแพ้ทางหลงเสน่ห์ผู้ครอบครองพันธ์ไม้ป่าชนิดนี้ยิ่ง นัก

เครือสาวหลง
เป็นพันธ์ไม้ ป่าอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีอาถรรพรณ์ทางด้านเสน่ห์หลงงงงวยดุจดั่งต้องมนต์พบมาก ในป่าลึกแถบจังหวัดชัยภูมิและภาคอีสาณ มีสองสี คือสีดำตัวเมียและสีน้ำตาลแดงตัวผู้ ลักษณะคล้ายเส้นผม แต่ทรงอานุภาพดีเด่นทางทำให้ผู้คนลุ่มหลงเคลิบเคลิ้ม หากผู้ใดเกิดเดินเข้าไปในป่าแล้วเดินข้ามหรือจับต้องพันธ์ไม้อาถรรณ์ชนิดนี้ เข้าจะต้องหลงป่าจนหาทางออกไม่เจอและถ้าหากไม่มีการบนบานสานกล่าวขอขมา บอกกล่าว ขอให้เปิดทางออก ต่อเจ้าป่าเจ้าเขาสุดท้ายต้องหลงป่าตายทุกคนเนื่องด้วยอำนาจความ ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติของเคลือสาวหลง เหตุนี้เองบูรพาจารย์แต่โบราณจึงกำหนดๆไว้ให้นำเครือเขาหลงมาเป็นหนึ่งใน หัวใจมวลสารของขุนพรายพรายพญาหลงใช่สำหรับทำให้คนเกิดวันจันทร์หลงผู้ครอบ ครองไม้ป่าพันธ์นี้โดยเฉพาะ

คาถาปลุกเสกเครือสาวหลง
นะนาสังสิโม โมโมสิสังนา พุทรักข้า ธาอย่าลืม ยะสะอึก ยะสะอื้น ลืมคืนลืมวัน พุทธะสังมิอย่าลืมกัน พันติ จิตตังพันตังจิตติ ติดติด สวาโหม โอม ละลวย มหาระลี พระฤๅษี ยก อี….. นี่ให้กู สวาหะ

ไม้พญากาหลงนกเกาะตายคาต้น
เป็นไม้ อาถรรพณ์ป่าอีกชนิดหนึ่งที่ทรงพลานุภาพทางเสน่ห์หลงงงวยแต่เป็นไปในทางนำโชค ลาภแต่โบราณพระอาจารย์ผู้ล่วงรู้คาถาอาคมท่านนิยมออกไปตระเวนหาไม้ชนิดนี้ ตามป่าเขาลำเนาไพรโดยหมายเอาต้นกาหลงที่มีลักษณะคือบริเวณนั้นจะมีแต่นกมา บินกองตายอยู่ใต้ต้นกาหลงเต็มไปหมดจึงใช่ของแท้เมื่อพบแล้วท่านก็จะทำการบัด พลีขอเอาจากเจ้าป่าเจ้าเขาและนำมาปลุกเสกด้วยคาถาหัวใจพญาหลงดังนี้

พระคาถาหัวใจพญาหลง
นะพาวน นะพาเวียน นะพาอุปเเถียร นะพาเวียน มาหากูนะ โมพาวน โมพาเวียน โมพาอุปเถียร โมพาเวียน มาหากูโม พุทพาวน พุทพาเวียน พุทพาอุปเถียร พุทพาเวียน มาหากูพุท ธาพาวน ธาพาเวียน ธาพาอุปเถียร ธาพาเวียน มาหากูธา ยะพาวน ยะพาเวียน ยะพาอุปเถียร ยะพาเวียน มาหากูยะ นะปลงใจรัก โมชักมือกอด พุททอใจวาง ธาแนบข้าง ยะหลงกู สวาหะ

ต้นพญานางพญา หลงที่นำมาปลุกเสกแล้วนี้เป็นของดีใช้ได้ทั้งต้นนับต้นตั้งแต่ใบกิ่งก้านราก และดอกยังนำเอามาทำเสน่ห์ยาแฝดได้เป็นอย่างดีเฉียบขาดด้วยความวิเศษนี้พระโบ ราณจาารย์จึงบันทึกไว้ให้เป็นอีกหนึ่งในมวลสารหลักขุนแผนพรายพญาหลงใช้ สำหรับผูกใจคนเกิดวันอังคารโดยเฉพาะ

กาฝากต้นกาหลง
จัดเป็นต้นไม้ ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการเจริญเติบโตโดยไม่ต้องใช้รากหยั่งลงไปในพื้น ดินแต่มักฝังตัวอยู่กับต้นกาหลงอย่างเดียวแต่โบราณกาฝากกาหลงนี้นิยมนำมาทำ เครื่องรางของขลังทางเสน่ห์เมตตาค้าขานยกันมากโดยเฉพาะนกสาริกาเชื่อกันว่า หากผู้ใดมีกาฝากกาหลงหมั่นบูชาติดตัวจะมีแต่คนรักนับถือหลงใหลในคำพูดของเรา มากมายหรือที่โบราณนิยมเรียกว่ารัก มากนักขนาดจมหูทีเดียว เป็นเสน่ห์ทั้งชายหญิง เข้าไหนเข้านั้น ทั้งเสือสิงห์กระทิงแรดก็ต้องรักเราไม่ทำร้ายเรานิยมปลุกเสกบูชาด้วยคาถาดัง นี้

คาถาปลุกเสกกาฝาก
นะเมตตาสาริกา ลิ้นทอง ครั้นกูออกเสียงร้อง กา กิ เก กา ผู้คนก็ละทวยเอาใจ อุตัวกูนี้ไซร้งามดั่งเทพยาธร อะแขนกูทั้งสองงามดั่งพระนารายณ์ มะคือตามีแสงฉายดั่งดวงสุริยัน หญิงชายทั้งหลายนั้น อามะภันเต มัดถะเจ มัดถะจัง เสียงกูจังงังสาริกาสิงใจ กูจะพูว่าสิ่งใดมึงต้องอามะพันเต โอมสะหะ สะโหม สะหอมติดหะ

กาฝากกาหลง เป็นต้นไม้ที่หาได้ยากแต่พบได้มากในป่าเมืองกาญแถวสังขละบุรีเป็นหนึ่งในของ ดีที่พระโบราณาจารย์นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก จึงกำหนดไว้ให้นำมาใช้สร้างพระขุนแผนพรายพญาหลงสำหรับใช้มัดหัวใจคนเกิดวัน พุทธให้รักผู้ครอบครองไม่จืดจาง

รังนกสาริกาหลงรัง
รังนกสา ริกาหลงรังนี้เป็นของขลังลำดับที่ห้าที่พระโบราณจารย์กำหนดให้จะนำมาผสมขุน แผนพญาหลงเป็นของที่หาได้ยากสุด ๆ เพราะรังนกชนิดนี้เป็นรังที่มีลักษณะแปลกคือจะต้องมีนกหลงรังจนตายแต่ไม่ เน่าเปื่อยคงลักษณะแห้งตายไปเฉย ๆ และเมื่อได้มาแล้วต้องทำการทดสอบกล่าวคือให้หาลูกไก่เจี๊ยบมาหนึ่งตัวแล้ว เอามันวางลงในรังนกนั้นทิ้งไว้ 3 วันถ้าเป็นรังนกสาริกาหลงรังจริงลูกไก่จะไม่ยอมไปไหนไกลๆ เลยสุดท้ายต้องกลับมานอนที่รังเสมอจนกว่ามันจะตาย รังนกสาริกาหลงรังนี้เป็นมวลสารธรรมชาติที่เกิดจากนกป่าไปนำเอาพันไม้อา ถรรพร์สารพันธ์นานาชนิดทั้งที่เรารู้จักแลไม่รู้จักแต่มีอานุภาพในทางเมตตา มหานิยมลุ่มหลงงงงวย มาทำรังจนกระทั้งตัวมันเองไม่สามารถต้านทานอำนาจพลังจากพันธุไม้อาถรรพ์นานา พันธ์นั้นได้ในที่สุดจึงหลงรังตายคารังแต่ด้วยอานุภาพของไม้อาถรรพณ์นั้นก็ ยังรักษาร่างของมันให้เพียงแค่แห้งลงไปเฉยๆไม่เน่าเหม็นนับเป็นสิ่งอาถรรพณ์ ที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งพระโบราณาจารย์ท่านได้กล่าวว่าใครมีรังนกนี้ไว้ บูชาติดตัว ผัวจะไม่หนีเมียจะไม่หน่าย ขายของจะดีมีแต่กำไรผู้คนทั่วไปรักใครลุ่มหลงหมั่นทักหมั่นมาหาเสมอมิขาดสาย และมีพลังผูกมัดใจคนเกิดวันพฤหัสโดยตรงเป็นของดีที่หายากยิ่งนัก

คาถาปลุกรังนกสาริกาหลงรัง
พุทโธ พุทธัง พุทธะเมตตา สาริกาหลงรัง จิตติ จิตตัง มนุสาพันทังนัง ปิยังมะมะ
ธัมโม ธัมมัง ธัมมะเมตตา สาริกาหลงรัง จิตติ จิตตัง มนุสาพันทังนัง ปิยังมะมะ
สังโม สังฆา สังฆะธะเมตตา สาริกาหลงรัง จิตติ จิตตัง มนุสาพันทังนัง ปิยังมะมะ
เทวะ เทวา เทวดาเมตตา สาริกาหลงรัง จิตติ จิตตัง มนุสาพันทังนัง ปิยังมะมะ

ว่านช้างหลงโลงหรือช้างประสมโขลง
ต้นว่านชนิด นี้มีลักษณะหัวเหมือนดังหน่อไม้แรกแทงหน่อแต่ไม่มีก้านหุ้มเหมือนแบบหน่อไม้ หัวว่านเหมือนหัวหอม สีของหัวมีสีเขียวสด ใบมีสีเขียวอ่อนยาวเรียวดั่งใบว่านน้ำ แต่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยมองดูคล้ายกับใบข้าวก็มีว่านชนิดนี้มีพลานุภาพ ทั้งต้นนิยมหั่นหัวว่านเป็นแว่นล็กๆ ใช้ติดตัวเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เข้าติดต่อสมาคมผู้หลักผู้ใหญ่ดียิ่งนักหากเจรจาต่อรองประการใดให้นำว่าน ชนิดนี้ติดตัวไปจะได้รับผลดีทุกประการ ทำมาค้าขายสิ่งใดผสมแกว่งทำน้ำมนต์จะซื้อง่ายและขายดี หัวของว่านชนิดนี้หากนำมาเสกด้วยคาถาช้างประสมโขลง
อมนางรักเอ๋ย มาประจำรัก อมนางรักเอ๋ยมาประจำปลัก อมนางรักเอ๋ยมาประจำแปลง ดำแดงขาวผ่อง จำทองประไพร จำจิตจำใจ จำเนื้อ จำตัว อมแม่เฒ่า อย่าปล่อยอีลูกให้ไปไกล จำกูไว้ให้ได้ พระนารายณ์เจ้าใช้ให้จำ จำเหล็ก จำขอ จำหมอ จำควาญ สวาหะ
แล้วนำไปใส่ใน ตุ่มน้ำหรือของกินให้บ้านเรือนใดคนในบ้านเรือนนั้นจะรักใคร่ปรองดองกันไม่ ทะเลาะวิวาทกันเลยและหากอธิฐานรักใครชอบใครต้องการให้เขารักตอบ ท่านให้เอาผงว่านนี้ ไปผสมน้ำหรืออาหารให้เขากิน บุคคลนั้นจะรับรักตอบ และหันมาหลงไหลเอาอกเอาใจเราสารพัด ที่ดีไปยิ่งกว่านั้นก็คือยังมีสรรพคุณสามารถพอกแก้ฝีหัวเดียวได้อย่างชะงัด อีกด้วยว่านช้างหลงโขลงนี้พระโบราณาจารย่ท่านว่าดีนักทางทำให้คนรักกันโดย เฉพาะคนเกิดวันศุกร์

น้ำมันช้างหลงโขลง
คือน้ำมัน อาถรรพณ์ที่ได้มาจากช้างตกมันอยากผสมพันธุ์กับตัวเมียมันจะมีน้ำมันไหลออกมา จากกกหูทั้งสองข้างพวกควาญช้างที่รู้คาถาอาคมก็จะนิยมซับมาเก็บไว้เพื่อให้ ทำน้ำมันช้างหลงโชลงโดยนำมาผสมกับตะไคล่หรือขี้ไคลของเสาตะลุงช้างแล้ว เคี่ยวในคืนวันเพ็ญกับน้ำมันหอมเสร็จแล้วจึงนำไปเสกที่ป่าช้าให้ได้ สองอังคารจึงนำเอามาใช้น้ำมันชนิดนี้มีฤทธิ์เหมือนน้ำมันพรายแต่ดีกว่าตรง ที่ไม่มีโทษป้ายสัตว์ที่พยศดุร้ายให้คลายจิตมารักเราเลี่ยนสํตรูให้กลายดป็น มิตรมิตรให้กลายเป็นบริวารแต่ถ้านำมาหุงได้7เสาร์เจ็ดอังคารนำมาป้ายสาวคน ไหนหนุ่มคนไหนจะรักเราไปจนวันตายไม่เสื่อมคลายเลยทีเดียวใครก็ตามที่มี น้ำมันชนิดนี้จะนิยมหวงแหนยิ่งนักและให้บูชาด้วยคาถาดังนี้
อมช้างกอดงา นั่งน้ำตาไหล นางนั่งร้องไห้ เมื่อพี่มารักน้อง รักกูเอ๋ยเหมือนช้างรักงา รักูเอ๋ยเหมือนปลารักน้ำ รักกูเอ๋ยเหมือนราชสีห์รักถ้ำพระคูหา อมจำปลัก อมจำแปลง ดำแดงขาวผ่อง จำทองอย่าพลัดไพร จำจิตจำใจ จำเนื้อ จำตัว จำกูไว้ให้ได้ พระนารายณ์ใช้ให้จำ อิติจำเหล็ก จำขอ จำหมอ จำควาญ สวาหะ
ใครก็ตามที่มี วัตถุมงคลที่มีน้ำมันชนิดนี้ผสมอยู่ก็ใช้ได้น้ำมันช้างหลงโขลงหรือประสมโขลง ก็ถูกจัดเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่งของขุนแผนพรายพญาหลงดีมากในการ ดลใจคนให้มารักใคร่ให้ความเมตตาช่วยเหลือและเป็นเสน่ห์แก่เพศตรงข้ามอย่าง แรงทีเดียวสามารถที่จะทำให้ผู้คนลุ่มหลงผู้ครอบครองได้อย่างสมใจปรารถนาโดย เฉพาะผุ้ที่เกิดวันเสาร์สำคัญนัก

ความ ศักดิ์สิทธิ์ของมวลสารทั้งหมดเมื่อจะนำมารวมกัน พระบูรพาจารย์ท่านให้โขลกในวันจันทร์ที่ตรงกับฤกษ์งามยามดีหรือวันเพ็ญก็ได้ เมื่อสำเร็จแล้วก็ให้นำมาขึ้นรูปสำเร็จเป็นพระขุนแผนพรายพญาหลง ปลุกเสกด้วยคาถาที่กล่าวมาแล้วข้างต้นบทละหนึ่งพันกับอีกเก้าจบจนครบทุกบท แล้วจะเสริมด้วยพระคาถาบทใดเพิ่มเติมอีกก็ได้ตามชอบใจ จึงค่อยนำเอาออกมาใช้ติดตัวสำหรับที่สำนักเพชรแสงแก้วนั้นนี้จะนำมาโขลกรวม กันและปั้มขึ้นเป็นองค์เฉพาะแต่ในวันที่มีฤกษ์ ราชาฤกษ์และเทวีฤกษ์ เป็นส่วนใหญ่เพราะเป็นฤกษ์ที่ถือว่ามีอำนาจวาสนาบารมีส่งผลให้เกิดความอุดม สมบูณณ์แก่ผู้บูชขาทั้งชายและหญิงทั้งยังทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลสูงสุด เมื่อได้ครอบครองจะทำให้เกิดมีกระแสพลังแห่งเมตตามหานิยมอุดมเสน่ห์แก่ เพศตรงข้ามทรงคุณวิเศษตามคัมภีโบราณของไทยที่ได้นับถือกันมา ผู้ใดบูชาเทพขุนแผนจะเรืองวิชาอาคม เทพขุนแผนจะตามคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภัยทั้งปวง เป็นที่รักของผู้ใหญ่เจ้านายทั้งเป็นที่ยำเกรงของภูตผีปีศาจ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเลี้ยงกุมารทอง ถ้าหากมีขุนแผนบูชาจะช่วยให้สามารถขอความช่วยเหลือจากกุมารทองต่างๆได้ง่าย ยิ่งขึ้นหมั่นบูชาและหมั่นเคารพรำลึกนึกถึงอย่างจริงใจสิ่งใดที่ปรารถนาไม่ นานสิ่งนี้ก็จะสมหวังทุกประการเหตุนี้เองเทพขุนแผนจึงกลายเป็นวัตถุมงคลที่ ได้รับการเคารพศรัทธาสืบมาแต่ครั้งโบราณกาล

การทำขุนแผนพรายพญาหลงให้ทรงอำนาจทางความต้องการเชิงโลกีย์อย่างมากทั้งชายและหญิงนำมาหั่นและโขลกให้ละเอียดในวันพระอาทิตย์ทรงกรดเวลาเที่ยงตรง(โบราณเรียกว่าพระนารายณ์ฤกษ์)แล้วตากให้แห้งจึงนำมารวมกับน้ำมันดังกล่าวออกวางกลางแจ้งทุกข้างขึ้น๑ค่ำถึง๑๕ค่ำเพื่อให้ได้รับพลังงานตามธรรมชาติจากแสงจันทร์วันเพ็ญเรื่อยไปจนกว่าจะถึงวันจันทร์ขึ้น๑๕ค่ำจึงจัดพิธีหุงน้ำมันในเวลาที่พระจันทร์ขึ้นตรงกลางศีรษะและสายน้ำในคลองหยุดไหล ด้วยคาถามหาลาภ 7 โบสถ์ 7 วัด ผสมว่านทางโชคลาภเช่นว่านกวักเงินกวักทองดอกว่านนางอายว่านพญากระบือว่านพุทธกวักว่านมหาโชคว่านมหาลาภว่านเศรษฐีขอดทรัพย์ว่านพัดโบก(โพธิ์ลังกา) ว่านไพรปลุกเสก(ฤาษีสร้าง) ว่านภควัมบดี (เศรษฐีใบพาย) ว่านเศรษฐีหงสาว่านเงินไหลมาว่านรางเงินว่านกวักนางพญาใหญ่ จึงปั้นเป็นแท่งดินสอเพื่อลงอักขระนะ-ยันต์ทำเป็นผงวิเศษโขลกผสมทำเป็นแท่งดินสอแล้วนำมาลงอักขระเขียนผงวิเศษสูตรอิทธะเจผงมหาราชผงปถมังเสน่ห์ยาแฝดและผงพญานกการเวกจึงเอาผงทั้งหมดผสมกับสูตรยาอาถรรพณ์ชื่อ “หัวใจพญานางหลง” ปลุกเสกด้วยคาถาพญาหลง 8,4000 จบให้ได้ 7 เสาร์ 7 อังคาร จึงประกอบพิธีกดพิมพ์ “ขุนแผนพรายพญาหลง” ที่ต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะและความเชี่ยวชาญอย่างมากจึงทำพิธีสร้างสำเร็จ สมเจตนาให้มีวัตถุมงคลเครื่องรางเข้มข้นเปี่ยมล้นซึ่งความขลังในแบบพิมพ์สวย งามที่หาได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน

 

ขุนแผนพยางึดเนื้อพิเศษ





ให้บูชา 2000.0 บาทคา่ส่ง 50.0 บาท

“ขุนแผนพญางึด”​

คำว่า“พญางึด” เป็นภาษาที่ใช้ในวิชาไสยะศาสตร์แดนอีสาน ตรงกับคำว่า “ละลวยงวยงง”ใน วิชาไสยศาสตร์ภาคกลาง คือวิชาที่ใช้สำหรับสะกดจิตใจของผู้คนทั้งหลายให้หลงใหลอยู่ภายใต้อำนาจผู้ ใช้มนต์บังคับเป็นหลัก ด้วยศาสตร์วิชานี้ปรากฏเนื้อมนต์ว่า
อมละลวย มหาละลวย ให้งวยงงจงใจรักกู …(คาถา) …กูจะลองช้างช้างก็อ่อนงา…(คาถา)…กูจะลองปลาปลาก็อ่อนเงี่ยง…(คาถา) กูจะลองสาวน้อยเนื้อเกลี้ยงก็อ่อนอกอ่อนใจ…(คาถา)…ใครเห็นใครรักลุ่มหลงเป็น บ้า…. (คาถา)……ลืมผ้าที่นอน ลืมฟูก ลืมหมอน ทิ้งเหย้าทิ้งเรือน ฟั่นเฟือนรักกู (ให้ชื่อ….) มึงลืมพ่อลืมแม่ เร่มาทันใจ ด้วยไฟราคะ กามะรักคา ด้วยกูคือสายสวาท มึงรักกูจะขาดใจตาย มึงรักกูถวายชีวิต มึงเฝ้าคิดถึงกูอยู่วันละหมื่นหน …(คาถา)…ให้มึงร้อนรนทนอยู่มิได้ร้องให้มาหากู อมเดชะสิทธิ พ่อครูให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่กู นะสาวหุมติด
จึงมาต่อ เนื้อหาในฉบับนี้ว่า มนต์บทที่ได้กล่าวมานี้เรียกว่าหัวใจพญางึด เป็นมนต์มหาละลวยสะกดหัวใจคน ถอดเนื้อความจากมนต์ตอนที่ขุนแผนขึ้นไปตีเมืองเชียงทองซึ่งอยู่เขตอีสาน ตามรับสั่ง(คำสั่ง)ของพระพันวสา พอตีได้สำเร็จก็เดินทางมาพักทัพศึก ที่หมู่บ้านจอมทองแต่ไม่ทำการย่ำยีหมู่บ้านนั้น ๆ นายแสนคำแมน นายแคว้นหมู่บ้านเกิดสำนึกในบุญคุณจึงยกนางลาวทองบุตรสาวให้ขุนแผนเป็นภรรยา
แต่…เมื่อคราว ขุนแผนพบหน้านางลาวทอง นางเกิดคิดอิดเอื้อนไม่เต็มใจ(เราะไม่ได้มีจิตเสน่หาแต่ประการใด) ขุนแผนจึงชวนนางนั่งคุยทำความรู้จักกันเสียก่อนแล้วจึงเสกหมากด้วยบทมนต์ ข้างต้นให้นางลาวทองกิน พอนางกินเข้าไปจึงเปลี่ยนใจยอมเป็นของขุนแผนด้วยความเต็มอกเต็มใจด้วยความ พิสวาสสุดแสนจะขาดใจทันที
จึงสรุปในชั้น นี้ได้ว่าผู้ใช้มนต์บทนี้จะมีอำนาจสามารถบังคับจิตของผู้ต้องมนต์ได้อย่าง วิเศษ ถึงขนาดยอมมอบกายมอบใจให้ด้วยความพิศวาส แม้เพียงแค่พบหน้าครั้งแรกก็ให้ถึงกับลืมบิดามารดาและบ้านเรือนทีเดียว
ตามตำรับสำนัก เพชรแสงแก้วระบุว่า ใครโดนมนต์บทนี้เป่าเข้าไปเป็นต้องหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ด้วยถึงบ้านทีเดียว และหากใครเรียนมนต์บทนี้จนสำเร็จและไปเป่าใครเข้าต้องรับเลี้ยงดูยกย่องให้ เป็นคู่ครองจริงจัง มิเช่นนั้นครูบาอาจารย์ท่านสาปแช่งให้กลายเป็นผีเป็นสางตายตกไปตามกันทันที ทันใด(บาปกรรมอย่าได้คิดสร้างหรือสะสมเลย)
มนต์บทนี้ใน เขตอีสาน บรรดาอาจารย์เก่าแก่และครูผู้เฒ่าทั้งปวงท่านเรียกเป็นภาษาอีสานว่า “พญางึด” ที่เขียนมาเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น และใช่ว่าจะจบลงแค่มนต์บทเดียวเท่านั้น ยังมีวิชาอื่นอีกหลายส่วนที่มีเนื้อหาหลักและเนื้อความปลีกย่อยอีกมากเพราะ สูตรพญางึดถ้ากล่าวนับทั้งหมดให้ครบถ้วนกระบวนความแล้วก็จัดให้เป็นตำรับ ใหญ่ที่อาจารย์แต่โบราณท่านได้ผูกไว้เพียง ในที่นี้หยิบยกมาเพียงส่วนหนึ่งที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่องขุนช้าง-ขุนแผนเท่า นั้นดังต่อไปนี้


ตำราการสร้างผงพญางึด

การทำผงพญางึด นั้นมีหลายขั้นตอน โบราณจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า “ใครทำได้สำเร็จแล้วจะร่ำรวยมหาศาล แม้ปรารถนาสิ่งใดก็จักได้สมดั่งใจปรารถนาทุกประการ” ตามตำรับระบุว่าผงพญางึดสร้างจากพิธีกรรมอันสลับซับซ้อนประกอบด้วยมวล สารวิเศษหลายชนิด แต่ละชนิดจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและหาได้ยาก แต่ทรงคุณอำนาจคุ้มค่าแก่การเสาะหายิ่ง ส่วนใหญ่มีพลานุภาพโดดเด่นทางทำให้ลุ่มหลง-งวยงงเป็นหลัก หากผู้ใดสามารถนำสูตรผงยามาประกอบด้วยกันครบสูตรแล้ว ผู้นั้นจะเป็นที่ละลวยหลงงงงวยในหัวใจในผู้คนรอบข้างด้วยความรักใคร่เต็มใจ ยิ่ง หากปรารถนาสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือร่างกายจากใคร ก็จักได้สมความปรารถนาทุกประการ
การสร้างผงยาพญางึด

เริ่มแรก-พิธี เข้าป่าอาถรรพณ์เพื่อหามวลสารก็ดีหรือจะทำการใด ๆ ก็ดี จะต้องถืออุโบสถศีลให้ได้เสียก่อน 7 วัน จึงจะเริ่มประกอบพิธีได้ มิเช่นนั้นแล้วจะมีผลให้เป็นบ้า-งวยงง ไปเสียก่อนสร้างผงสำเร็จ เพราะไม่อาจต้านทานอำนาจอาถรรพณ์แห่งองค์มวลสารทั้ง 5 ดังนี้
ว่านเครือเขาหลง (เครือสาวหลง)

ว่านวิเศษพวก นี้มีสองเพศคือตัวเมียและตัวผู้(สีแดงและดำลักษณะคล้ายเส้นผมมนุษย์ บางแห่งเรียก “เกล้านางนี-ธรรมชาติ”) มักแฝงหลีกเร้นอยู่ตามเขตป่าอาถรรพณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณที่มีสัตว์ป่าต่าง ๆ นอนตาย ชุกชุมเป็นระยะ ๆ เช่น นก เก้ง กวางหรือลิง
เหตุเพราะแพ้ อาถรรพณ์ของว่านเครือเขาหลง(เครือสาวหลง) บันดาลให้หาทางออกไม่เจอจึงหลงตายอยู่ในป่าบริเวณนั้นเอง สิ่งนี้แต่โบราณนับถือกันว่าเป็นของวิเศษสุดยอด ทางเมตตามหาละลวยงวยงง
เถาวัลย์หลง

“เถาวัลย์หลง”เป็น พรรณไม้ป่าอาถรรพณ์อีกอย่างหนึ่งที่นำมาสร้างพญางึด มีสองเพศคือตัวเมียใบอ้วนหลังใบเป็นพรายปรอท มีดอกสีขาวส่วนตัวผู้ใบเรียวหลังใบเป็นพรายปรอทดอกสีม่วง การที่นำเอาเถาวัลย์หลงมาทำเป็นผงยาพญางึดได้สำเร็จนั้นต้อง เลือกหาแต่เฉพาะเถาวัลย์หลงที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป (มีลำขนาดใหญ่ ประมาณเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วขึ้นไป)เนื้อในสีเหลืองอ่อน และที่จะใช้ได้ดีที่สุดก็คือเป็นเถาวัลย์ที่เกาะกันสอดกันเองตามธรรมชาติ คล้ายรังนก และในรังนั้นจะต้องมีนกและสัตว์ต่าง ๆ เข้าไปตายทับถมจำนวนมากจึงจะจัดว่าถูกต้องตามตำรา ใครจะเข้าไปเอาต้องทำพิธีกรรมเซ่นพลีแก่เจ้าป่าให้ดีเสียก่อน 7 วัน และต้องงดเว้นกามคุณต่าง ๆ ให้ได้ก่อนเข้าไปทำพิธีนำออกมา 7 วัน มิเช่นนั้นแล้วก็จะเป็นเหมือนสัตว์ที่นอนตายซากอยู่ในป่าเท่านั้นเอง นอกจากนี้เวลาจะเข้าก็ดีจะออกก็ดีต้องรู้จักมนต์คาถาภาวนาประสระเปิดป่าทุก ฝีก้าว ไม่เช่นนั้นก็เป็นผีเฝ้าป่าสถานเดียว
“เถาวัลย์หลง”นี้ ดีนักทางเรียกคนจูงใจให้มาลุ่มหลงโดยมากแต่โบราณใช้ทางทำมาค้าขายดี ยิ่งถ้าได้ผู้มีวิชาอาคมกำกับปลุกเสกเพิ่มเติมแล้วด้วย็จัดได้ว่าเป็นของดี ที่สุดยอดทาง “เสน่หาลุ่มหลง”ทีเดียว
แก้วตาเสือโคร่ง

เสือ เป็นสัตว์ที่มีอำนาจ จัดอันดับให้เป็นเจ้าป่า เวลาจะจับเหยื่อมันจะใช้ดวงตาของมันเพ่งสะกดให้เหยื่อหมดแรงดวงตาทั้งสองของ เสือนั้นนักไสยเวทย์หรือพรานป่าที่เล่นของแต่โบราณ เมื่อฆ่าเสือได้แล้วมักนิยมนำมาดองเหล้าเก็บเอาไว้พร้อมใส่ตัวยาสูตรลับ บางอย่างอาทิปรอทป่า หัวดองดึง ว่านสายรุ้ง ว่านพญาริบตีนปู หนวดเสือไฟ ไส้แมลงป่องดำ ฯ ลฯ ​

ยาทั้งหมดนี้ นำมาหมักไว้กับแก้วตาเสือโดยต้องตั้งหิ้งบูชาต่างหากจัดขันธ์ 5 ขันธ์ 8 วางไว้ซ้าย-ขวา วางตรงกลาง แล้วเก็บไว้บูชามีผ้าแดงรองพื้นการวางต้องวางลักษณะให้เปิดภาชนะตลอดเวลา ต้องเซ่นไหว้ด้วยอาหารคาวหวานทุกเช้าวันละมื้อ ปลุกเสกด้วยคาถาเสือสมิงวันละ 152 จบ ทุกวันจนกว่าเหล้าในภาชนะจะระเหยออกหมดเหลือแต่ผงตัวยาจึงนำมาผงยามาผสมกับ ยางไม้ปั้นเป็นก้อนทิ้งไว้ให้แข็งแล้วติดตัวเป็นเครื่องรางเรียกว่า “แก้วตาเสือสมิง” ใครมีติดตัวแล้วจะเป็นมหาอำนาจยิ่งนัก ทั้งสัตว์ทั้งคนเห็นแล้วจะเกรงอำนาจและอ่อนแรงลงทันที ด้วยอำนาจอาถรรพณ์ของคาถาสมิงสะกดเหยื่อนั่นเอง
คาถาสมิงสะกด เหยื่อนี้แต่โบราณจัดเป็นวิชาลับของพวกข่า มีขะลำแรง(อาถรรพณ์หรือข้อห้าม)คือใครเรียนแล้ว ห้ามส่องกระจกเดือนเมษายนตลอดทั้งเดือนอีกทั้งวันขึ้น15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ แม้เงาตัวเองในน้ำก็ห้ามมอง หากถือขะลำนี้ไม่ได้จะกลายเป็นผีเสือสางไปในเวลาต่อมา
สลักงูเหลือม

งูเหลือมจัด เป็นสัตว์ที่มีอำนาจจิตสูงอีกชนิดหนึ่งเพราะมันสามารถใช้สลักของมันสะกดหนู และสัตว์เล็ก ๆ ให้ตกอยู่ในอำนาจไม่สามารถขยับตัวได้ ดังนั้นในวิชาไสยศาสตร์ สลักงูเหลือมจึงเป็นของวิเศษอีกอย่างที่ต้องนำมาผสมสร้างเป็นตัวยาพญางึด แต่ใช่ว่าสลักงูเหลือมทุกอันจะนำเอามาใช้ได้เสมอไป บังคับให้ต้องเป็นงูเหลือมป่าที่มีลำตัวขนาดใหญ่(อย่างน้อยเท่าน่องของคน) เพราะถือว่าสลักของมันเป็นสิ่งที่มีคุณภาพเนื่องจากผ่านการใช้สะกดเหยื่อมา อย่างโชกโชนนั่นเอง
ว่านพญาไก่แดง

ว่านพญาไก่แดงจัดเป็นว่านชนิดหนึ่งมิได้อยู่ในตระกูลว่านดอกทอง แต่มีอาถรรพณ์แรงทางเสน่ห์และโชคลาภดียิ่งไม่แพ้ว่านดอกทอง ว่านป่าชนิดนี้เป็นที่นิยมรู้จักและหวงแหนกันมากของนักไสยศาสตร์ ใครที่รู้แหล่งขุดไปเอามามักจะไม่ยอมปริปากบอกใครเลยเหตุเพราะ ความวิเศษของว่านชนิดนี้เปรียบเหมือนดาบสองคมแก่ผู้ได้ครอบครอง ว่ากันว่าหัวของว่านไก่แดงนั้นหากหยิกออกมาเพียงนิดแล้วโยนให้ลูกไก่กิน ครั้นพอมันกินแล้วมันจะมันจะทิ้งแม่แล้วมาเดินตามเราทันทีถ้าหากเอาไปผสม อาหารของกินให้ใครแล้วเป็นอันว่ามั่นใจได้เลยว่าสำเร็จสมใจความวิเศษ ที่กล่าวมานี้จึงทำให้มันกลายเป็นตำนานว่านวิเศษในทันทีดังนั้นมันจึงถูกจัด ให้เป็นอีกส่วนผสมที่อย่างยิ่งหนึ่งในการสร้างผงพญางึดที่มีสืบมาแต่โบราณ
ตัวยาทั้งหมด 5 ชนิดนี้เมื่อหามาได้แล้ว จะต้องทำพิธีบวงสรวงเสียก่อนจึงค่อยนำเอามาผสมกันแต่ที่ยากไปกว่านั้นก็คือ การจะโขลกยาเหล่านี้เพื่อผสมกันจะทำได้แต่เฉพาะวันเพ็ญเดือน 12 ขณะดวงจันทร์ขึ้นตรงศีรษะเราเท่านั้น เวลาที่โขลกยาก็ต้องทำกลางแจ้งและจำกัดคือทำตอนที่ดวงจันทร์ลอยสูงสุด และน้ำในแม่น้ำไหลหยุดนิ่ง เท่านั้นจึงถูกต้องและเกิดผงศักดิ์สิทธิ์ตามตำรา เมื่อทำสำเร็จก็ต้องนำมาประกอบพิธีการปลุกเสกแบบหนุนธาตุตามลำดับวิชาแตก ต่างดังนี้ในทันทีคือ
1. เสกด้วยคาถามหาละลวยแล้ว หนุนธาตุเทพรัญจวนทั้ง 25 ตัว 108 คาบ (สำเร็จเป็นเมตตามหานิยมค้าขายดี)จึงต่อด้วย
2. คาถาเสือสะกดเหยื่อแล้ว หนุนธาตุเสือสะกดเหยื่ออีก 36 ตัว 108 คาบ (ทำให้ร้อนรนทนอยู่มิได้ต้องมาหา)จึงต่อด้วย
3. คาถาปลุกกาม แล้วหนุนด้วย ธาตุตัณหา 16 ตัว 108 คาบ (ทำให้ตกภะวัง หมั่นคิด หมั่นรัก หมั่นฝันหา) จึงต่อด้วย
4. คาถาผูกจิตผูกราคะ แล้วหนุนธาตุโมหะกิเลสอีก 42 ตัว 108 คาบ(ทำให้ติดใจในรสกาม)จึงต่อด้วย
5. คาถาอุตริกาม แล้วหนุนธาตุตัณหาอวิชชาอีก 18 ตัว108 คาบ( ทำให้หมกมุ่นอยู่แต่ในอำนาทาสกามารมณ์)จึงสวดยัตติธาตุเป็นขั้นสุดท้ายเพื่อไม่ให้ของเสื่อมเป็นสำเร็จพิธี
พิธีการที่ กล่าวมาแล้วนี้จะต้องประกอบติดต่อกันไปในครั้งเดียวและอาสนะเดียวคือหมายถึง เมื่อเริ่มนั่งเสกแล้วจะลุกไปไหนอีกไม่ได้เลยตราบจนกว่าจะจบสูตรของพิธีนับ ว่าต้องใช้ทั้งสมาธิและความเพียรอย่างสูงยิ่งทีเดียว
ผงที่สำเร็จ นี้แล้วเรียกว่าผงพญางึดดีนักทางสะกดหัวใจคนนิยมเรียกชื่อในต้นตำราเดิมว่า “ผงเทพบิดร-เทพมารดา” เป็นสูตรที่มีสืบมาแต่ดั้งเดิมก่อนสมัยพุทธกาล แพร่หลายอยู่ในหมู่นักไสยะ ฯ ชาวทมิฬแถบประเทศอินเดียใต้เรียกว่า “มนต์กำเนิด” มนต์อันนี้หากนำไปเข้าหนุนธาตุ เสริมอยู่ในมนต์ทางเสน่ห์บทใดแล้วจะทำให้มนต์บทนั้นทวีเข้มขลังขึ้นมาอีก หลายสิบเท่าตัวทันที หรือหากนำไปปลุกเสกใส่ธาตุอันใด สิ่งนั้นจะกลายเป็นวัตถุธาตุที่มีพลังทางเสน่ห์สามารถดึงดูดใจแก่คนรอบข้าง ทั่วไปในทันที ดังนั้นถ้าจะพูดให้ตรง ๆเกี่ยวกับคุณวิเศษของผงพญางึดขนานนี้แท้ที่จริงก็คือผงยาเสน่ห์ชั้นยอด ตำรับลับสุดยอดของสำนักเพชรแสงแก้วนั่นเอง
คุณวิเศษของขุนแผนพญางึด

ผงยาพญางึดนี้ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดๆก็ดีเช่น เป็นลูกอม เป็นแท่งหรืออยู่ในรูปพระขุนแผนดังที่ทางสำนักเพชรแสงแก้วได้สร้างขึ้นนี้ ก่อนจะนำออกมาให้บูชาจะต้องผ่านพิธีการปลุกเสกเสียก่อน เรื่องของการปลุกเสกเท่าที่ทราบข้อมูลจากปู่หมอนาคท่านกล่าวว่า
เป็นเรื่องที่ ยากมากสำหรับคนที่มีพื้นฐานทางไสยะไม่เข้มแข็ง เพราะนอกจากจะต้องรวมจิตให้จดจ่อสมาธิให้อยู่แต่ในมนต์บริกรรมแล้วจะต้องไม่ เผลอสติลุ่มหลงกับนิมิตที่เกิดขึ้นเป็นอันขาดมิเช่นนั้นแล้วจะได้เสกแต่ ชีวิตไม่ได้คืน เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่สามารถใช้สติเอาชนะอาถรรพณ์ของผงว่านยาที่นำมา ใช้สร้างพระนั่นเอง แต่ถ้าใครสามารถลงมือเสกผงยานี้แล้วได้ชีวิตคืนมาเป็นปกติถือว่ามีความ สามารถดีมีสติเข้มแข็งปราบผงได้อยู่หมัด และเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่ามีพื้นฐานทางไสยะมั่นคงดีแล้ว ส่วนเรื่องวิธีการใช้คุณประโยชน์จากผงยาพญางึดนี้ ความจริงปู่ไม่ค่อยอยากบอกมากเพราะถ้ารู้หมดอยู่กับคนดีก็ดีไปแต่ถ้าอยู่กับ คนไม่ดีแล้วลูกเมียชาวบ้านเขาจะเดือดร้อนมากเอาเป็นว่าจะบอกให้ตามสมควรก็ แล้วกัน
วิธีปลุกขุนแผนพญางึด

การปลุกขุนแผนพญางึดนั้นมีสองวิธีด้วยกัน วิธีแรกคือปลุกสิริข้างบนได้แก่การกล่าวคาถาดังต่อไปนี้
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วจึงว่าพระคาถานี้

“อม ละลวย มหาละลวย นะให้งวยงงจงใจรักกู สวาหะ กูจะลองช้างช้างก็อ่อนงา สวาโหม กูจะลองปลา ปลาก็อ่อนเงี่ยงสวาหุม กูจะลองสาวน้อยเนื้อเกลี้ยงก็อ่อนอกอ่อนใจ หุนลู หุนลู ใครเห็นใครรักลุ่มหลงเป็นบ้า สวาหับ ลืมผ้าที่นอน ลืมฟูก ลืมหมอน ทิ้งเหย้าทิ้งเรือน ฟั่นเฟือนรักกู (ชื่อ….) มึงลืมพ่อลืมแม่ แร่มาทันใจ พะกะพะกะ ด้วยไฟราคะ กามะรักคา ด้วยกูคือสายสวาท มึงรักกูจะขาดใจตาย มึงรักกูถวายชีวิต มึงเฝ้าคิดถึงกูอยู่วันละหมื่นหน เอหิพันนัง ให้มึงร้อนรนทนอยู่มิได้ร้องให้มาหากู อมเดชะสิทธิ พ่อครูให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่กู นะสาวหุมติด” ​

คาถานี้ชื่อหัวใจมหาละลวยภาวนา 1-9 จบ จากนั้นให้ใช้นิ้วนางของเราข้างไหนก็ได้จับติ่งหูซ้ายแล้วลูบหน้าลงมาหาคางขณะลูบนึกว่า พุทรัก จากนั้นนำนิ้วนางมาจับที่ติ่งหูขวาแล้วว่า ธะสังมิ เป็นเสร็จพิธีทีนี้ก็ให้อธิษฐานตามใจอยากได้อะไรก็ให้บอกครูขุนแผนที่อยู่ในพระของเราให้ช่วยเราเท่านี้เป็นได้การ
ทีนี้เมื่อ ปลุกสิริบนเสร็จถ้าให้ถูกเคล็ดต้องปลุกสิริล่างด้วยสิริล่างของชายและหญิง อยู่ที่….นึกเอาเองเวลาปลุกให้เอานิ้วนางแตะเหมือนกันว่า อิติรักพันนัง 3 ครั้งเท่านั้นจากนั้นจึงเอานิ้วนางนั้นมาแตะที่หว่างอกแล้วว่าในใจว่าพ่อครูให้กูมาติดใจคน สวาหะ
เป็นอันเสร็จพิธี พิธีปลุกพื้นฐานมีเท่านี้

แต่ อันที่จริงแล้วเรื่องเคล็ดวิธีการปลุกที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องของการ สร้างความมั่นใจและเอาใจคนที่ชอบมีกลเม็ดเด็ดพรายเท่านั้นหากศิษย์คนใดทั้ง ชายหญิงมีความศรัทธาในวัตถุมงคลของปู่แล้วตั้งนะโม 3 จบแล้วอธิษฐานเลยก็ใช้ได้ผลเหมือนกัน​

ส่วนกรณีถ้า รักใครจริง ๆ จะรับเลี้ยงดูไม่ทิ้งขว้างและไม่แย่งใครต้องเอาพระไปขูดที่ทางสามแพร่ง เวลาไปทำต้องมีไก่ 1 ตัวเหล้าขาวหนึ่งขวดไปเซ่นด้วย เวลาจะทำต้องเป็น 6 โมงเย็นไปแล้วเท่านั้นเมื่อไปถึงให้จุดธูป 3 ดอกบอกความประสงค์แก่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าพ่อเจ้าแม่ที่อยู่ตรงทางสามแพร่งนั้น บอกเสร็จจุดธูป 1 ดอกแล้วปักไว้ที่ตัวไก่ จึงบอกให้ท่านให้มากินไก่กับเหล้าเสร็จแล้ว ให้เอารูป(เขียนชื่อและนามสกุล)ของคนที่เรารักวางกับพื้นจึงเริ่มลงมือขูด พระเวลาขูดต้องให้ผงหล่นอยู่แต่ในรูปเท่านั้นพร้อมว่าคาถาเรื่อยไปจนกว่าธูป จะหมดได้ครึ่งดอกจึงเอาขวดเหล้า ทับรูปและผงไว้ใต้ขวดเหล้า แล้วว่าคาถาเป่าไปที่ขวดเหล้าให้ได้อีก 9 ที (เท่าอายุของคนที่เรารักยิ่งดี) เสร็จแล้วจึงบอกเจ้าที่ขอผงคืนแล้วฉวยเก็บไว้ในถุงพลาสติก หันหลังกลับเดินทีเดียวให้ถึงบ้านอย่าหันหลังกลับไปอีกเด็ดขาด ถ้าหันกลับไปเป็นอันว่าของที่ทำมาทั้งหมดจะกลับเข้าไปอยู่ที่ทางสามแพร่ง นั่นแหละ
ผงนี้เวลาจะ ใส่ให้ใครกินดูให้ดีเสียก่อนว่าคนนั้นมีเจ้าของแล้วหรือยัง ถ้ายังทำได้ แต่ถ้ามีแล้วปู่ว่าอย่าทำเลยอาจารย์ท่านแช่งไว้แรงทั้งบาปมากที่สุดจะเดือด ร้อนเสียใจภายหลัง

 

ขุนแผนหน้าทอง รุ่นพิเศษเทียบเท่าองค์ครูเนื้อพิเศษ





ให้บูชา 1500.0 บาทค่าส่ง 50.0 บาทครับ

ขุนแผนหน้าทอง ข้อมูลที่หาได้บางส่วนมีดังนี้
ขุนแผนหน้าทองเป็นขุนแผนที่รวมวิชาทั้งสี่เข้าด้วยกันดังนี้

1 วิชาแต่งตัว
วิชาสุวรรณลักษณ์ ว่าด้วยเรื่องการใช้เวทมนต์คาถาบันดาลให้รูปกายแลดูงดงามมีสง่าราศีเป็นที่ จับตาจับใจผู้คนที่ได้พบเห็น ตำรับวิชานี้มีมากมายหลายแขนงดังตัวอย่างเช่น “นะหน้าทอง” คือวิชาเสกใบหน้าให้งดงามเป็นสูตรโองการนะหน้าทององค์ใหญ่ตำรับครอบเศรี ยรครู มีคาถา5อย่าง บันดาลให้เกิดความเมตตา (วิชามัดใจคน) คือแก้วสุวรรณปฐพี แก้วมณีโชติ แก้วศรีปริสุทธิสังข์ แก้วศรีสุริยัน แก้วมณีมุกขนารถ (5วิชานี้ลง ณ จุดทั้ง5 ทั่วใบหน้าและศรีษะ)
“สาลิกาเสียงทอง”และ “สาลิกาป้อนเหยื่อ” คือวิชาเสกน้ำเสียงให้ไพรเราะเสนาะหูผู้ฟัง เป็นพิธีลงทองที่ปลายคาง ให้เป็นเสน่ห์มัดใจคน หญิงชายทั้งหลายหลงรักเราไม่วาย-รีบเร่งมาหา-เร่งรัก-เร่งทักเจรจาเห็นหน้า แล้วอยากกลับมาหาเราทุกคืนวัน-เงินทองสารพันไหลมาเทมาเพราะเดชะนกเทวดาเสด็จ ลงมาปกปักพิทักษ์รักษาเรา
วิชาเสกรูปกายให้น่ารักดูมาสง่าราศี พิธีลงทองตำรับ “อักขระพระนาเรศแปลงรูป” อยู่ต้นแขนซ้าย อักขระ “นารายณ์แปลงรูป” อยู่ต้นแขนขวา ให้มีเทพชายหญิงรักษาอยู่ใกล้กัน คนไม่มีรัก จะพบรัก คนไม่มีคู่จะพบคู่ คนที่แตกแยกกันจะคืนดีกัน
“วิชาพระลักษณ์จับตา” วิชาเสกดวงตาให้ผู้แรกพบสบตาเกิดความรักความสงสารจนหมดหัวใจ
“มณีจินดามนต์” วิชาเสกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้แลดูน่ารักมีสง่าราศีน่าเอ็นดู ให้เกิดความสงสารรักใคร่จับจิต
“วิชาเทพรัญจวน” วิชาเสกเครื่องหอมต่างๆให้ดลจิตใจผู้คนให้รักใคร่หลงใหลจับใจ
ที่ว่ามานี้ เป็นวิชาลงทอง สิริลักษณ์19ตามตำรับสำนักเพชรแสงแก้ว ว่าด้วยเรื่องวิชาการลงทองตามตำแหน่งต่างๆในร่างกายมนุษย์ เพื่อให้มีเทวดาสถิตรักษาอยู่ให้เกิดมงคลมีสง่าราศีเป็นที่จับตาจับใจแก่ผู้ พบเห็นทั้งยังหนุนส่งดวงชะตาให้สูงเด่นอีกด้วย

2 วิชาเขียนลบผง
โบราณเรียกตำรับ”ผงยาวิเศษ”มีด้วยกันหลายอย่าง แต่ที่สำคัญมากที่สุดทุกครั้งตามหลักสูตรการใช้ผงเมตตามหาเสน่ห์ที่นิยมกัน มาแต่โบราณเพื่อให้คนทั้งหลายมารุ่มรัก รุมหลงประกอบด้วย
1. สูตรผงมหาราช ราชาแห่งเมตตามหานิยม
2. สูตรผงอิทธิเจ ราชาแห่งวิชามหาเสน่ห์
3. สูตรผงนะหน้าทอง ราชาแห่งวิชาเสกแป้งผัดหน้าเห็นแล้วเกิดเมตตา เจราจา แล้วเกิดติดใจจากไปแล้วเกิดติดใจให้หวนคิดถึง


3 วิชามนต์มหาละลวย
วิชานี้ตามโบราณมาถือว่าใช้ดีที่สุดในเรื่องการเสกของให้คนกิน เมื่อกินแล้วจะเคลิบเคลิ้มหลงใหลแล้วเกิดติดใจจากไปแล้วหวนให้คิดถึง (ตามตำนานพื้นบ้านเรื่องขุนช้างขุนแผน ขุนแผนใช้มนต์นี้เสกหมากพลูหรืออาหารให้สตรีกิน ด้วยมนต์นี้จะบันดาลให้หญิงสาวทั้งหลายยอมมอบกายมอบใจให้ขุนแผนทุกครั้ง)

4 วิชาผูกพยนต์ยาแฝด
วิชานี้นำมาใช้หลายวิธีในเรื่องขุนช้างขุนแผนก็มีการกล่าวถึงวิชาการผูก หุ่นพยนต์ในเชิงเสน่ห์ฝังรูปฝังรอย เช่นเมื่อนางสร้อยฟ้าใช้ให้เถรกวาดทำเสน่ห์เล่ห์กลใส่หมื่นไวยวรนาถ เพื่อให้หลงรักนางแต่ผู้เดียวจนหน้ามืดตามัว แม้ขุนแผนจะทัดทานอย่างไรก็ไม่ฟัง(ตอนนี้ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านว่าใช้มน มาละพันจิต)ด้วยการเสกหุ่นโดยการใช้ขี้ผึ้งผสมกับสูตรยาต่างๆ มาปั้นเป็นรูปชายหญิงกอดกันห่อด้วยใบร้กซ้อน มัดด้วยตราสัง จึงนำไปฝังในป่าช้าคู่หนึ่ง แล้วให้นางสร้อยฟ้าใต้เตียงอีกคู่หนึ่ง
วิชาทั้ง4นี้ คณาจารย์โบราณถือว่าเป็นสุดยอด4ตำรับทางวิชาทางเมตตามหาเสน่ห์นำมาทำวัตถุ มงคล “ขุนแผนหน้าทอง”ยังต้องสร้างผงวิเศษประชุมกันอีก5ประการเพื่อให้เทวดา 5ตระกูลรักษาคือ อินทร์ พรหม คนธรรณ์ วิทยาธร ฤาษี ซึ่งจำเป็นต้องทำพธีเขียนผงวิเศษจนลอดกระดานทั้งหมดจึงใช้ได้และเมื่อขึ้น รูปเป็นวัตถุมงคลแล้วต้องเสกให้ได้ 84000 จบ

คาถาขุนแผนหน้าทอง
นะโม3จบ
นะเมตตา โมหน้าทอง ส่องแสงเรืองรองผูกจิตอาลัย หน้ากูงามคือพระจันทร์ ฟันกูงามคือพระนารายณ์ ฝูงคนทั้งหลายร่ำไห้มาหากู นะมะพะทะเห็นกูอยู่มิได้ร่ำไห้มารักกูอมสะหุมติด 3จบ 5จบ 7จบ 9จบ บางท่านไม่มีเวลาก็ให้1จบก็ได้ คาถานี้เป็นของเก่าแก่ดั่งเดิมมากตั้งแต่สมัยคุณปู่ทวดของปู่หมอนาคเลยที เดียว ปรารถนาจะให้ผู้ใดเมตตาให้ใส่ชื่อผู้นั้นลงไปแทนคำว่าฝูงชนทั้งหลาย

 

วัตถุมงคลของพ่อปู่หมอนาค แนะนำนะครับ เมื่อได้มาให้ไปเลี่ยมพลาสติคทันที เพราะมดแมลงจะมากัดกินมวลสาร
เวลาเลี่ยมให้เจาะรูเล็กๆ เพื่อให้มีกลิ่นของมวลสารที่เป็นจำพวกว่านต่างๆ ครับ รับรองได้ผล

 

โอนเงินให้แล้วนะครับวันนี้ผ่านATM ธ ทหารไทย จำนวนเงิน 550 บาท แจ้งที่อยู่ทาง PM นะครับ

 

ครับส่งของให้วันนี้นะครับ

 

เหลือ 8 ขวดสุดท้ายครับ ท่านที่จองโอนเงินด่วนครับหมดแล้วจริงๆ ท่านที่โอนเงินก่อนได้ก่อนเลยครับ ผมสอบถามไปที่วัดหมดแล้วจริงๆครับ

 

ได้รับของแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

โอนให้แล้วครับ 550 บาท วันนี้ 10/09/2552 เวลา 9.15 น.
ที่อยู่แจ้ง PM ครับ

 

โอนแล้วนะคะ รบกวนเช็คยอดด้วยค่ะ เดี๋ยวส่ง PM ไปบอกที่อยู่นะคะ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width=189>บัญชีผู้โอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left width=355> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXX039968</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ยอดเงินคงเหลือในบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXXXX บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=left>บัญชีผู้รับเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>0250065513 - Mukda wongkham</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ชื่อบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>MOOKDA WONGKH</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>โอนแบบทันที</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left height=15></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=30></TD><TD align=left width=189>จำนวนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left width=355> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>จำนวนเงินที่ต้องการโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>550.00 บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ค่าธรรมเนียม</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>25.00 บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>คำอธิบาย</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ค่าน้ำมัน</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วันที่ทำรายการ</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2552</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วันที่หักเงินจากบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2552</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โอนแล้วค่ะ

โอนแล้วนะคะ รบกวนเช็คยอดด้วยค่ะ เดี๋ยวส่ง PM ไปบอกที่อยู่นะคะ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width=189>บัญชีผู้โอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left width=355> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXX039968</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ยอดเงินคงเหลือในบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXXXX บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=left>บัญชีผู้รับเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>0250065513 - Mukda wongkham</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ชื่อบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>MOOKDA WONGKH</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>โอนแบบทันที</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left height=15></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=30></TD><TD align=left width=189>จำนวนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left width=355> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>จำนวนเงินที่ต้องการโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>550.00 บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ค่าธรรมเนียม</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>25.00 บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>คำอธิบาย</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ค่าน้ำมัน</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วันที่ทำรายการ</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2552</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วันที่หักเงินจากบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2552</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โอนแล้วค่ะ

โอนแล้วนะคะ รบกวนเช็คยอดด้วยค่ะ เดี๋ยวส่ง PM ไปบอกที่อยู่นะคะ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width=189>บัญชีผู้โอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left width=355> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXX039968</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ยอดเงินคงเหลือในบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXXXX บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=left>บัญชีผู้รับเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>0250065513 - Mukda wongkham</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ชื่อบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>MOOKDA WONGKH</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>โอนแบบทันที</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left height=15></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=30></TD><TD align=left width=189>จำนวนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left width=355> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>จำนวนเงินที่ต้องการโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>550.00 บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ค่าธรรมเนียม</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>25.00 บาท</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>คำอธิบาย</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ค่าน้ำมัน</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วันที่ทำรายการ</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2552</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วันที่หักเงินจากบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2552</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Sirasree R.
AAPC (Thailand) Limited
36 Floor, The Offices at Centralworld,
999/9 Rama 1 Road, Patumwan,
Patumwan, Bangkok 10330

 

ครับเดี่ยวส่งของให้วนนี้นะครับ

 

เลขที่ส่งของครับ

คุณ ณรงค์ เลขที่ EG047670913TH
คุณ ศุภชัย เลขที่ EG047670900TH
คุณ มนตรี เลขที่ EG047670895TH
คุณ ชำนาญ เลขที่ EG047670887TH

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]ใช้ท่องคาถาตอนไหนครับ เวลาใช่ตอนเช้าหรือว่าทำยังไงครับ
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ[/FONT]

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]ใช้ท่องคาถาตอนไหนครับ เวลาใช่ตอนเช้าหรือว่าทำยังไงครับ
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ[/FONT]

 

โอนเงินให้แล้วนะค่ะ วันนี้ เวลา 18.26 น ผ่านตู้เอทีเอ็ม สถานที่ 7662
จำนวน 550 บาท ลองเช็คดูนะค่ะ
รบกวนส่ง
อัญญารัตน์ คณากูล
119/10 ม.9 ถ.เทพารักษ์ กม.19
ต.บางปลา อ.บางพลี
จ.สมุทรปราการ 10540
ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ครับได้รับแล้วครับ จะจัดส่งของให้นะครับ

เวปพลังจิตเข้ามายากมากครับช่วงกลางวัน เพราะมีสมาชิกเข้ามาเยอะเลยทำให้โหลดช้า การตอบอาจจะล่าช้าไปบ้างนะครับ