การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 19 มิถุนายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เมื่อวานได้ดูรายการ สำนึกรักบ้านเกิด (ถ้าจำไม่ผิด) ช่องสุวรรณภูมิ ทางเคเบิ้น ทีวี รายการสดเวลาประมาณ 6โมงครึ่งถึง 2 ทุ่ม

    มีอ. ปริญญา ตันสกุล มาบอกกล่าวถึงเหตุที่ได้รับข่าวสารมา ปรากฏว่าก็ตรงกับข้อมูลที่พี่ชยุตแปลไว้ ซึ่งแปลเปลี่ยนเพิ่มลด ได้ 20% ทั้งช่วงเวลาและความรุนแรง

    และอาจารย์บอกว่า จะชำระครั้งใหญ่ไม่เกินปี คศ. 2026 ประมาณนี้ครับ

    ยังพอมีเวลายกระดับจิตสำนึก
     
  2. เตารีด

    เตารีด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +52
    คุณชยุตครับ ผมดีใจนะครับที่ภัยพิบัติเลื่อนออกไปเป็นปี พ.ศ. 2561
    อย่างน้อยก็จะได้มีเวลาไปทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ

    แล้วตกลงที่พูดๆกันว่าปี ค.ศ. 2012 จะมีการชำระล้างโลก ก็ไม่จริงใช่มั้ยครับ ?
    ผมก็สับสนอ่ะครับ ใครรู้จริงเรื่องนี้ตอบหน่อยครับ

    อนุโมทนานะครับ [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เท่าที่ผมสรุปไปแล้ว และเท่าที่ติดตามอ่าน ติดตามแปลข้อมูลมาจากทั่วทุกสารทิศนี่
    ในความเห็นของผม ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะตอบคำถามของคุณได้หรอกครับ

    เพราะผู้ที่อยู่บนโลกเพียงหนึ่งคน ไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้ลงมือดำเนินการจริงๆเมื่อไหร่
    และปัจจัยที่พวกเขาใช้ในการตัดสินใจดำเนินการ ก็คือ

    "ระดับจิตสำนึกโดยรวมของคนและที่ไม่ใช่คนของทั้งโลก"


    ซึ่งมันก็แปรเปลี่ยน เพิ่ม - ลด อยู่ตลอดเวลาซะด้วย


    ดังนั้น อนาคตังสญาณก็เถอะ เอาไม่อยู่ครับ

    ดังนั้น แทนที่จะมามัวพะวงถึง "ช่วงเวลา"
    ก็หันมา "ทำในสิ่งที่ควรทำ" เพื่อประโยชน์ตน และประโยชน์ท่านของโลกทั้งใบกันเถิด

    ............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โครงการอุปสมบทหมู่ 7,000 รูป 7,000 ตำบลทั่วไทย
    [ 27 มิ.ย. 2552 ] - [ ผู้อ่าน : 4088 ]

    [​IMG]
    เจ้าภาพงานบวช
    โครงการอุปสมบทหมู่ 7,000 รูป 7,000 ตำบวลทั่วไทย

    ร่วมบุญผ่านทางธนาคาร: ชมรมพุทธศาสตร์สากล
    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#000000 cellSpacing=0 cellPadding=3 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ธนาคารกรุงเทพ



    </TD><TD vAlign=top>บัญชีสะสมทรัพย์


    </TD><TD vAlign=top>สาขาคลองหลวง


    </TD><TD vAlign=top>เลขที่ 222-080881-6


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ธนาคารไทยพานิชย์


    </TD><TD vAlign=top>บัญชีออมทรัพย์


    </TD><TD vAlign=top>สาขาคลองหลวง


    </TD><TD vAlign=top>เลขที่ 314-2-90247-5


    </TD></TR></TBODY></TABLE>กรุณาแฟกซ์สลิปโอนเงิน วงเล็บว่า "เจ้าภาพงานบวชรุ่น....."
    พร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ส่งมาที่ 02-831-2773
    ทางเจ้าหน้าที่จะจัดส่งใบอนุโมทนาบัตรให้ท่านทางไปรษณีย์
    ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพผู้มีบุญทุกท่าน
    รุ่นเข้าพรรษาร่วมบุญ 3,000 บ. ร่วมงานวันเจ้าภาพมอบผ้าไตร เสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2552 ตั้งแต่เวลา 8.30-10.30 น. ที่ชมรมพุทธศาสตร์สากล

    ที่มา: http://www.dmc.tv/pages/announcement/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%8A%207000%20%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B.html

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ที่มา: DMC ธรรมะ กฎแห่งกรรม นรก สวรรค์ สมาธิ พุทธประวัติ สรรสาระดีๆ ที่คุณต้องรู้!!

    ตักบาตรพระ 10,000 รูป นานาชาติ หาดใหญ่
    [ 11 ส.ค. 2552 ] - [ ผู้อ่าน : 129 ]
    <DIV id=article-body>
    <DIV id=article-content>

    <DIV><META content=Word.Document name=ProgId><META content="Microsoft Word 12" name=Generator><META content="Microsoft Word 12" name=Originator><LINK href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CUCHALA%7E1.DKC%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.%3Clink%20rel=" rel=File-List><LINK href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CUCHALA%7E1.DKC%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.%3C%21--%5Bif%20gte%20mso%209%5D%3E%3Cxml%3E%0A%20%0A%20%20Normal%0A%20%200%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20false%0A%20%20false%0A%20%20%0A%20%20EN-US%0A%20%20X-NONE%0A%20%20TH%0A%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%0A%20%20MicrosoftInternetExplorer4%0A%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%20%0A%20%20%0A%3C/xml%3E%3C%21%5Bendif%5D--%3E%3C%21--%5Bif%20gte%20mso%209%5D%3E%3Cxml%3E%0A%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%20%0A%20%0A%3C/xml%3E%3C%21%5Bendif%5D--%3E%3Cstyle%3E%0A%3C%21--%0A%20/*%20Font%20Definitions%20*/%0A%20@font-face%0A%09%7Bfont-family:" rel=colorSchemeMapping><DIV align=center><DIV"></DIV">มหาสังฆทานครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ภาคใต้


    </DIV><DIV>

    <DIV"><DIV><DIV align=center>ตักบาตรพระ 10,000 รูป</DIV></DIV><DIV>
    </DIV"><DIV align=center><DIV"><DIV>นานาชาติ คณะสงฆ์ 4 ประเทศ 14 จังหวัดภาคใต้ </DIV><DIV></DIV><DIV></DIV></DIV"></DIV><DIV"><DIV><DIV align=center><DIV">INTERNATIONAL ALMS <DIV"></DIV">OFFERING AND MAHASANGHADANA
    TO 10,000 MONKS

    [​IMG]
    </DIV><DIV>

    <DIV"><DIV><DIV"><DIV"><DIV align=center>วันอาทิตย์ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2552 </DIV><DIV">
    ถ.นิพัทธ์อุทิศ 3 ใจกลางเมืองหาดใหญ่ เวลา 06.00 น.



    <DIV"><DIV></DIV><DIV></DIV><DIV></DIV></DIV"><DIV"><DIV><DIV align=center>กำหนดการ</DIV><DIV align=center></DIV><DIV">
    14 สิงหาคม พ.ศ.2552 เวลา 18.30 น. ชมนิทรรศการตักบาตร 500,000 รูปทั่วไทย บริเวณห้องโอเดียน


    <DIV"><DIV>15 สิงหาคม พ.ศ.2552 เวลา 17.00 น. ขอเชิญทุกท่านแต่งชุดขาวเข้าร่วมพิธีริ้วขบวนอัญเชิญพระประธานโครงการสู่ศูนย์กลางพิธี ตั้งขบวนที่ห้างโรบินสัน</DIV><DIV> </DIV><DIV></DIV><DIV></DIV><DIV><DIV"></DIV">16 สิงหาคม พ.ศ.2552 เวลา 06.00 น. พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป


    <DIV"></DIV"><DIV"><DIV>หนึ่งในแผนงานโครงการตักบาตร 500,000 รูป 76จังหวัดทุกวัดทั่วไทย</DIV><DIV>ตลอดทั้งปี ตั้งแต่ พ.ศ.2551-2552 </DIV><DIV>จัดโดยดำริของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) โดยมูลนิธิวัดพระธรรมกาย </DIV></DIV></DIV></DIV></DIV></DIV></DIV></DIV></DIV>​
    </DIV></DIV>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ที่มา: http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=479

    จิตร่วมหากมากพอจะช่วยโลกได้

    <hr size="1">
    [​IMG]

    จิตร่วมหากมากพอ - ช่วยโลกได้


    หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
    30 เมษายน 2543 กองบรรณาธิการ
    คอลัมน์ - ความทรงจำนอกมิติ


    บทความวันนี้จะพูดถึงความพยายามของคนจำนวนน้อยมากๆ จำนวนหนึ่ง
    ที่เชื่อว่าโลกกำลังก้าวสู่ความพินาศหายนะจากประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์
    และกับรูปแบบของสังคมเศรษฐกิจ และการเมืองที่เบี่ยงเบนไปจากธรรมชาติ
    ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แทบทุกคนเชื่อว่า ศตวรรษนี้จะเป็นศตวรรษที่ - หากเราไม่ช่วยกันทำอะไรเสียแต่ขณะนี้วันนี้
    มนุษยชาติจะต้องประสบกับความเจ็บปวดสูญเสียและความทุกข์ทรมาน
    อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    คนจำนวนน้อยทั่วทั้งโลกที่ว่านั้นเชื่อว่า หากว่าเรามาช่วยกันทำสมาธิหรือสวดภาวนาร่วมกัน
    ด้วยกระแสจิตที่ อบอุ่นดีงามเปี่ยมความรักความเมตตา ก็อาจสามารถจะให้พลังอำนาจ
    ให้ความหมายอันลึกล้ำกับมนุษยชาติและกับโลก ที่จะยังความสงบสุขความปลอดภัย
    ให้แก่มวลมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกได้


    ในหนังสือเรื่องปรากฏการณ์ของมนุษย์ ปิแอร์ เตยา เดอ ชาดัง
    (Pierre Teihard de Chardin, The Phenomenon of Man, Revised English Ed.,1965)
    บอกว่า โลกนั้นนอกจากมีมิติหรือระนาบทางภูมิธรณี (geosphere) ที่อยู่บนผิวโลก และใต้ผิวโลกลงไป
    และไบโอสเฟียร์อันเป็นระนาบแห่งชีวิต (biosphere) ที่อยู่บนผิวโลกขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศโลกชั้นแรกแล้ว
    ก็ยังมีระนาบหรือชั้นแห่งจิตหรือวิญญาณ (noorsphere) ที่อยู่นอกสุดของ ชั้นบรรยากาศโลก

    หากว่าเมื่อไรก็ตามที่จิตที่ดีงามสูงส่งมีพลังงานมากพอที่
    จะจุดให้เกิดเป็นประกายแสงขึ้นในระนาบชั้นแห่งวิญญาณ


    “....ไม่ว่าที่จุดใด หากประกายแสงที่มีพลังพอได้ปรากฏขึ้น นั่นคือจุดกำเนิดของการระเบิดที่ต่อเนื่อง รุนแรงที่สุด
    ที่ในทันใดจะทำให้โฉมหน้าของโลกสว่างไสวไปทั่ว และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของโฉมหน้าใหม่ของโลก ”

    อย่าคิดว่านั้นเป็นวาทะของจักจิตนิยมธรรมดา เพราะเตยาไม่ใช่ธรรมดา นอกจากจะเป็นนักปรัชญา
    และเป็นนักบวชในนิกายคาทอลิกแล้ว เตยายังเป็นนักโบราณคดีวิทยาศาสตร์และนักปฐพีวิทยา
    ระดับนำของโลกด้วย ที่ในปัจจุบันนี้นักวิชาการต่างยอมรับว่าเป็นปราชญ์ อัจฉริยะคู่กับศรีอรพินโธ

    ประเด็นก็คือจะต้องเป็นพลังจิตเท่าไร จะต้องมีจำนวนคนมากน้อยแค่ไหน ถึงจะให้ประกายไฟ
    พอที่จะก่อปฏิกิริยาลูกโซ่ของพลังจิตทำให้เกิด การระเบิดอย่างรุนแรงดังกล่าว
    จนทำให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงของโลกและ มนุษยชาติที่ว่าได้?

    นักปฏิบัติจิตและกูรูซาวรัสเซียที่มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้มีพลัง จิตอย่างแรงกล้าชื่อ เกิร์ดเย็ฟฟ์ (GI Gurdjieff)
    บอกว่า ไม่จำเป็นต้องจำนวนมาก เพียงหนึ่งร้อยคนก็อาจเพียงพอที่จะให้ประกายที่จะก่อปฏิกิริยาลูกโซ่ได้

    “ แต่ต้องเป็นการตรัสรู้ที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง ”

    ซึ่งทุกวันนี้เราสามารถจะค้นหาผู้ ตรัสรู้ผู้ได้นิโรธสมบัติเช่นนั้นได้ที่ไหน?

    นักฟิสิกส์และนักจิตวิทยาชื่อ ปีเตอร์ รัสเซลล์ เสนอว่า

    “ ทางเลือกก็คือหากว่าผู้ที่ปฏิบัติจิตปฏิบัติสมาธิเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม - ที่แม้ว่าจะไม่ถึงระดับตรัสรู้สักจำนวนหนึ่ง -
    ทำสมาธิร่วมกันโดยมีเป้าหมายต่อโลก ต่อมนุษยชาติอย่างเดียวกัน ก็อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงระดับโลกได้”

    มหาฤาษีมเหศโยคีเองก็บอกเช่นนั้น และกล่าวว่า หากประชากรโลก เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ปฏิบัติสมาธิด้วยวิธีของท่าน
    (TM Sidhi) เป็นประจำทุกวัน ในเวลาเดียวกัน ก็จะสามารถโน้มนำให้มนุษยชาติโดยรวม
    มีวิวัฒนาการทางจิตสูงขึ้นได้ นั้นคืออรุณรุ่งสู่ “ยุคแห่งการรู้แจ้ง”


    ด้วยทฤษฎีทางฟิสิกส์มี ผู้คำนวณออกมาได้ว่า พลังจิตในสมาธิจะให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    ที่สะท้อนไปมารอบผิวโลกในบรรยากาศชั้นสูงสุด โดยจะมีความถี่คลื่นเท่ากับความถี่คลื่นสะท้อน
    ของคลื่นวิทยุที่มีความถี่ 7.5 Hz


    ด้วยความถี่ขนาดนี้ คลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าเมื่อได้วิ่งไปรอบโลกจนครบรอบและกลับมาถึงที่เดิม
    ก็จะพอดีกับรอบ ของคลื่นชุดต่อไป (in-phase) เช่นเดียวกับคลื่นจิตจากสมาธิของคนอื่นๆ
    ทำให้เกิดพลังสะท้อน (resonance) มีความเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากสภาวะซ้อน ซ้ำของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในทุกๆ รอบ

    นั้นคือหลักการของการรวมความเข้มของแพ็กเกตของอนุภาคโฟตอนที่มารวมกันในการสร้างลำแสงเลเซอร์

    นักฟิสิกส์คำนวณว่า ความแรงหรือความเข้มของคลื่นจะมีค่าเท่ากับผลรวมของจำนวนคลื่นยกกำลังสอง
    นั้นก็คือ หากว่าเป็นคลื่นสองคลื่น ความเข้มของคลื่นก็จะมีค่าเท่ากับสี่เท่าของคลื่นแม่เหล็กคลื่นเดียว
    ดังนั้นหากเป็นคลื่นสิบคลื่นก็จะให้ความเข้มความแรงคลื่นเท่ากับหนึ่งร้อยเท่า (10 x 10)

    เพราะฉะนั้น หากว่าคน 80,000 คน คิดอย่างใจจดใจจ่อ หรือคิดแผ่กระแสจิตให้เป็นความรักความเมตตา
    แก่ทุกสรรพสิ่ง หรือการสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน ก็จะสามารถทำให้ชาวโลกทั้งหมด
    (80,000 x 80,000 = 6,400,000,000 คน) มีการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณได้
    หรือสามารถยังความปลอดภัยให้แก่โลกได้ ไม่ว่าชาวโลกบางคนนั้นๆ จะเป็นคนเลวคนชั่วคนเล่เก๊
    หรือคิดวุ่นวายไม่ได้เรื่องอย่างไร ต่างก็จะมีการปรับความคิดของตัวเองสู่ความรักความเมตตาพร้อมกันไปด้วย
    ซึ่งสุดท้ายก็จะแผ่เป็นความ ปรารถนาดีที่มีต่อโลกและต่อสรรพสิ่งทั้งหมด


    อย่าลืมว่าความคิดกระแสจิต ก็คือพลังงาน ก็คือคลื่นที่ทุกวันนี้สามารถพิสูจน์ได้บางส่วนแล้วว่า
    ส่วนหนึ่งของชีวพลังงานเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (BEM - Bioelectromanetic wave)

    ดังนั้นเอง ผู้ห่วงใยโลกและมนุษยชาติถึงได้เชิญชวนให้เราหลายๆ คนมาร่วมปฏิบัติจิตด้วยกัน

    ปัจจุบันนี้มีคนจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ที่มีการปฏิบัติสมาธิ มีการร่วมกันสวดมนต์ภาวนากันเป็นประจำวัน
    แทบว่าในทุกประเทศ


    คาร์ล จุง บอกว่า เราทุกคนมีศักยภาพของการมีจิตร่วมกันสื่อต่อกัน (synchronicity) ได้
    โดยไม่มีเวลาของอดีต - อนาคต จุงเล่าว่า ในช่วงสองสามปีก่อนที่นาซียึดครองเยอรมนี
    และยึดครองจิตร่วมของชาวเยอรมัน คนไข้จำนวนมากเหลือเกินมีลางสังหรณ์เกี่ยวกับความป่าเถื่อนความรุนแรง
    และความทรมานของมนุษยชาติ

    ที่ยุโรปทุกวันนี้ เหตุการณ์เช่นนั้น อาจอธิบายได้ด้วยความจริงทางแควนตัม

    การสำรวจชาวอเมริกันเร็วๆ นี้พบว่า ร่วม 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ได้ปฏิบัติสมาธิเป็นประจำ
    (Duane Elgin ; Global Consciousness Change, 1996) ที่แน่นอน ย่อมชี้บ่งสภาวะจิตของผู้ปฏิบัตินั้นๆ

    แม้ว่าการปฏิบัติที่มากขึ้นจะมีเป้าหมายอยู่ที่ตนเองหรือครอบครัว หรือจะต่างคนต่างทำ (random)
    แทนที่จะเป็นความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ ต่อสรรพสิ่งและต่อโลกทั้งหมด
    ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้คลื่นพลังจิตมีความ เข้มข้นพอที่จะจุดประกายให้เกิดการระเบิด
    และให้การเปลี่ยนแปลงที่ลึกล้ำต่อ จิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ได้

    ปีเตอร์ รัสเซลล์ บอกว่า แม้ผู้ปฏิบัติมี ถึงหนึ่งร้อยคนที่ให้พลังงานคลื่นหนึ่งร้อยคลื่น
    แต่หากต่างคนต่างทำ และเป้าหมายไม่ตรงกัน ก็จะมีค่าของความเข้มข้นไม่ถึงสิบคลื่น

    (Peter Russell ; Global Brain Awaken, 1996) แทนที่จะได้พลังงานที่มีความเข้มข้น
    ยกกำลังสอง (100 x 100)

    ปัจจุบันมีสมาคม มีชมรม หรือองค์กรผู้ปฏิบัติจิต ปฏิบัติสมาธิ เพื่อมวลมนุษย์และสรรพสิ่ง
    รวมทั้งเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของโลกมากมาย ที่ทุกคนในโลกสามารถมีส่วนร่วมในเว็บไซต์ต่างๆ
    ในอินเทอร์เน็ต โดยชมรมสมาคมเหล่านั้น ต่างกำหนดเวลาและความยาวนานของการปฏิบัติ มากน้อยแตกต่างกันไป
    เช่นการทำจิตให้แน่นิ่งอยู่กับความเมตตาปรารถนาดี ต่อมนุษย์และสรรพสิ่งเป็นเวลานานครั้งละ 15 นาที
    ในช่วงเวลาเที่ยงวัน ของวันที่หนึ่งของเดือนในทุกๆ เดือน ที่ผู้เขียนร่วมด้วยเป็นครั้งคราว

    มีอยู่องค์กรหนึ่งชื่อ

    “ ความรักความเมตตาเท่านั้นดำรงอยู่อย่างสถาพร ”

    ที่เชื้อเชิญให้ผู้สนใจตั้งจิตและภาวนาแต่ประโยคที่ว่านั้นซ้ำๆ (Only Love Prevails..Only Love Prevails...etc.)
    เป็นประจำ เมื่อไรก็ได้ ซึ่งองค์กรดังกล่าวเชื่อว่า ผลที่ได้มาจะต้องเป็นบวกหรือเป็นด้านดีงามอย่างไม่ต้องสงสัย
    เช่นที่ ทอม ฮาร์ตแมน กล่าว

    “ยิ่งมีผู้ปรารถนาดีให้ความเมตตาให้อภัย มากเท่าไร ก็จะมีจำนวนคนที่มีความเมตตาให้อภัยเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น -
    ยิ่งมีคนปรารถนาความสงบแสวงหาความดีงามทางจิตใจมากเท่าไร ความสุขสงบความปลอดภัย
    ก็จะเกิดแก่โลกมากขึ้นเท่านั้น”


    (Thom Hartmann, The Last Hours of Ancient Sunlight, 1999).


    คัดย่อและอ้างอิงจาก
    http://www.thaipost.net/index.asp?bk...&cat_id=110805
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chayutt [​IMG]
    ที่มา: http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=479

    จิตร่วมหากมากพอจะช่วยโลกได้


    <hr size="1">


    เพราะฉะนั้นหากว่าคน 80,000 คน คิดอย่างใจจดใจจ่อ หรือคิดแผ่กระแสจิต
    ให้เป็นความรักความเมตตาแก่ทุกสรรพสิ่ง หรือการสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน
    ก็จะสามารถทำให้ชาวโลกทั้งหมด (80,000 x 80,000 = 6,400,000,000 คน)
    มีการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณได้ หรือสามารถยัง ความปลอดภัยให้แก่โลกได้
    ไม่ว่าชาวโลกบางคนนั้นๆ จะเป็นคนเลวคนชั่วคนเล่เก๊ หรือคิดวุ่นวายไม่ได้เรื่องอย่างไร
    ต่างก็จะมีการปรับความคิดของตัว เองสู่ความรักความเมตตาพร้อมกันไปด้วย
    ซึ่งสุดท้ายก็จะแผ่เป็นความ ปรารถนาดีที่มีต่อโลกและต่อสรรพสิ่งทั้งหมด


    อย่าลืมว่าความคิดกระแสจิตก็ คือพลังงานก็คือคลื่นที่ทุกวันนี้สามารถพิสูจน์ได้บางส่วนแล้วว่า
    ส่วนหนึ่ง ของชีวพลังงานเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (BEM - Bioelectromanetic wave)




    คัดย่อและอ้างอิงจาก
    | ไทยโพสต์
    </td></tr></tbody></table>
    มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะรวบรวมคนมาได้ครั้งละ 80,000 คน
    เพื่อที่จะมาร่วมทำสมาธิกัน ส่งกระแสจิตออกไปช่วยโลกได้ !!!

    มันจะมีสถานที่ไหนในโลกนี้ ที่จะรองรับคนได้ทีละ 80,000 คน !!!

    และและหากว่ามีสถานที่นั้นอยู่จริงๆบนโลก มันต้องใช้เงินสร้างมากมายมหาศาลสักเท่าไหร่? !!!

    แต่ว่า ถึงแม้จะมีสถานที่ดังกล่าวนี้ อยู่บนโลกนี้จริงๆแล้ว
    จะทำยังไงคนทั้ง 80,000 คน ถึงจะมารวมตัวกันทำสมาธิได้ จะต้องพูดยังไง ?
    และใครหละจะเป็นคนพูด ใครหละจะเป็นศูนย์กลางหรือแกนนำของกิจกรรมเหล่านี้ ?

    และหากแม้นว่ามีคนผู้นั้นอยู่จริงๆบนโลกใบนี้ คนผู้นั้นจะถูกสังคมมองว่ายังไง
    จะมีใครกล้าถูกด่า ถูกประนามอย่างนั้นเลยเหรอ ?


    เพราะว่า ถ้าจะไปเที่ยวระดมเงินทองมาสร้างอะไรต่ออะไรให้ใหญ่โตแบบนั้น ให้คนมาชุมนุมกันมากแบบนั้น

    ใครเขาจะเข้าใจวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้หละ อธิบายตรงๆก็คงไม่มีใครเชื่อหรอกนะผมว่า

    เพราะมนุษย์เรา ต่างคนต่างก็อาศัยอยู่ในจักรวาลแห่งความคิด แห่งวิถีจิตของตนเอง
    มีพื้นฐานความรู้ ความคิด และความเข้าใจที่แตกต่างกัน

    พวกเรามักจะคิดว่า มันจะเป็นการดี ถ้าเราเห็นอะไรผิดพลาดในสายตาเราแล้ว เราช่วยกันบอกกล่าวและยับยั้งมันเสีย
    แต่เราก็อย่าลืมว่า นั่นมันเป็นการตัดสินใจด้วยความคิด ความรู้ และสติปัญญาอันจำกัดของเราเองเท่านั้น

    บางทีโลกที่ยังคง"ไม่มีอันเป็นไป" อยู่กระทั่งถึงทุกวันนี้ได้ ถ้าตามนัยของข้อความที่ผมคัดลอกมาโพสต์ไว้
    ด้านบนนี้หนะนะครับ
    ก็อาจจะมาจากกลุ่มคนที่เราเฝ้ากร่นด่า เฝ้ารังเกียจเดียดฉัน เฝ้าดูหมิ่นดูแคลน
    เป็นนักเป็นหนาอยู่นี่ก็ได้


    และถ้าตามนัยยะของโพสต์ดังกล่าว อีกครั้งหนึ่ง มันก็น่าคิดอยู่นะว่า
    ก็เพราะกลุ่มคนที่เรากำลังนั่งด่า ยืนด่าอยู่นี่แหละ ที่ทำให้เราได้มีโลกที่ยังไม่มีอันเป็นไป
    เอาไว้ยืนด่า นั่งด่าพวกเขาอยู่ถึงทุกวันนี้



    มันเป็นอะไรที่ตลกดีจริงๆ...ผมนึกถึงเรื่องนี้ทีไร ผมก็อดจะขำไม่ได้ทุกทีเลย


    .................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chayutt [​IMG]
    มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะรวบรวมคนมาได้ครั้งละ 80,000 คน
    เพื่อที่จะมาร่วมทำสมาธิกัน ส่งกระแสจิตออกไปช่วยโลกได้ !!!

    มันจะมีสถานที่ไหนในโลกนี้ ที่จะรองรับคนได้ทีละ 80,000 คน !!!

    และและหากว่ามีสถานที่นั้นอยู่จริงๆบนโลก มันต้องใช้เงินสร้างมากมายมหาศาลสักเท่าไหร่? !!!

    แต่ว่า ถึงแม้จะมีสถานที่ดังกล่าวนี้ อยู่บนโลกนี้จริงๆแล้ว
    จะทำยังไงคนทั้ง 80,000 คน ถึงจะมารวมตัวกันทำสมาธิได้ จะต้องพูดยังไง ?
    และใครหละจะเป็นคนพูด ใครหละจะเป็นศูนย์กลางหรือแกนนำของกิจกรรมเหล่านี้ ?

    และหากแม้นว่ามีคนผู้นั้นอยู่จริงๆบนโลกใบนี้ คนผู้นั้นจะถูกสังคมมองว่ายังไง จะมีใครกล้าถูกด่า ถูกประนามอย่างนั้นเลยเหรอ ?

    เพราะว่า ถ้าจะไปเที่ยวระดมเงินทองมาสร้างอะไรต่ออะไรให้ใหญ่โตแบบนั้น ให้คนมาชุมนุมกันมากแบบนั้น

    ใครเขาจะเข้าใจวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้หละ อธิบายตรงๆก็คงไม่มีใครเชื่อหรอกนะผมว่า

    เพราะมนุษย์เรา ต่างคนต่างก็อาศัยอยู่ในจักรวาลแห่งความคิด แห่งวิถีจิตของตนเอง
    มีพื้นฐานความรู้ ความคิด และความเข้าใจที่แตกต่างกัน

    พวกเรามักจะคิดว่า มันจะเป็นการดี ถ้าเราเห็นอะไรผิดพลาดในสายตาเราแล้ว เราช่วยกันบอกกล่าวและยับยั้งมันเสีย
    แต่เราก็อย่าลืมว่า นั่นมันเป็นการตัดสินใจด้วยความคิด ความรู้ และสติปัญญาอันจำกัดของเราเองเท่านั้น

    บางทีโลกที่ยังคง"ไม่มีอันเป็นไป" อยู่กระทั่งถึงทุกวันนี้ได้ ถ้าตามนัยของข้อความที่ผมคัดลอกมาโพสต์ไว้
    ด้านบนนี้หนะนะครับ
    ก็อาจจะมาจากกลุ่มคนที่เราเฝ้ากร่นด่า เฝ้ารังเกียจเดียดฉัน เฝ้าดูหมิ่นดูแคลน
    เป็นนักเป็นหนาอยู่นี่ก็ได้


    และถ้าตามนัยยะของโพสต์ดังกล่าว อีกครั้งหนึ่ง มันก็น่าคิดอยู่นะว่า
    ก็เพราะกลุ่มคนที่เรากำลังนั่งด่า ยืนด่าอยู่นี่แหละ ที่ทำให้เราได้มีโลกที่ยังไม่มีอันเป็นไป
    เอาไว้ยืนด่า นั่งด่าพวกเขาอยู่ถึงทุกวันนี้



    มันเป็นอะไรที่ตลกดีจริงๆ...ผมนึกถึงเรื่องนี้ทีไร ผมก็อดจะขำไม่ได้ทุกทีเลย


    .................................

    ...............................
    </td></tr></tbody></table>

    หรือจะเป็นที่นี่...

    "พลังจิตร่วมที่มากพอ..สามารถช่วยโลกได้"

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ที่มา: วารสารอยู่ในบุญ - ๒๒ เมษายน ถวายมหาสังฆทาน ๓๐,๐๐๐ วัด จารึกประวัติศาสตร์ สร้างองค์พระปิดเจ

    <TABLE borderColor=#0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 align=center border=0><TBODY><TR><TD scope=col><TABLE borderColor=#f57365 cellSpacing=5 cellPadding=5 width=802 align=center border=2><TBODY><TR><TD class=pair20 scope=col width=776 bgColor=#fffffb height=43><TABLE width=780 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE width=300 border=0><TBODY><TR><TD>ทบทวนบุญ
    เรื่อง : ธรรม์ ชยังกูร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=706 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=700>[​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=750 align=center border=0><TBODY><TR><TD> หากจะกล่าวว่า การสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ คือ ตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกหน้าหนึ่งของมวลมนุษยชาติก็คง จะไม่ผิดนัก เพราะเจติยสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จักเป็นสถานที่นำมา ซึ่งสันติสุขอันแท้จริงแก่มวลมนุษย์และ ก่อเกิดสันติภาพที่แท้จริงแก่โลก ทั้งใบ กว่า ๑๔ ปี ที่นักสร้างบารมีผู้มีศรัทธาอันสว่างไสวในดวงจิต ได้ร่วมแรงร่วม
    ใจกันสถาปนาให้บังเกิดขึ้น ตลอดระยะเวลาแห่งการสถาปนา ระหว่างทางจากจุดเริ่มต้นที่เดินมาสู่วัน ประกาศชัยชนะ สร้างองค์พระปิดเจดีย์ในวันนี้ มิใช่เพียงศาสนวัตถุ คือ เจดีย์องค์สำคัญได้อุบัติขึ้น แต่ยังก่อเกิดคนดีเพิ่มขึ้นในโลกนับแสน..นับล้านคน
    ผู้มีบุญหลายท่านสารภาพว่า ชีวิตการสร้างบารมีของเราเริ่มต้นจากการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ รวมถึง มหาธรรมกายเจดีย์แห่งนี้ยังให้กำเนิดยอดนักรบกองทัพธรรม ที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรจำนวนมากมาย และวันนี้ถือเป็นวันแห่งการจารึกตำนานหน้าสุดท้าย แห่งการสถาปนาอย่างสง่างามของพวกเขา
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    ๒๒ เมษา วันอันเป็นทัสนานุตริยะ
    สิ่งที่ยังไม่เคยเห็น วันนี้เราก็ได้มาเห็น ถ้าไม่ได้มาวันนี้เสียดายไปทั้งชีวิต เป็นคำรำพึงของหญิงสาวในชุดขาวผู้หนึ่ง หลังจากเห็นภาพของพระภิกษุนับแสนที่เดินทางมายังจุดนัดหมายสภาธรรมกายสากล เธอเล่าว่า หนูมาจากเชียงใหม่ ไม่ได้นั่งรถไฟมาหรอกพี่ แต่ยืนรถไฟมา เพราะคนแน่นจนไม่มีที่นั่ง แม้แต่ที่จะยืนยังไม่มี แต่...ให้หนูยืนไป-กลับ อีก ๑๐๐ รอบ แล้วได้มาเจอภาพอย่างนี้มันก็คุ้ม ผู้มีบุญอีกหลายท่านคงรู้สึกไม่แตกต่างจากเธอนัก บางท่านที่เดินทางมา จากต่างประเทศถึงกับลงทุนจองตั๋วเครื่องบินมาจนแทบจะเหมาลำ บางท่านเหมารถไฟทั้งโบกี้ เพราะทุกคนตระหนักว่า การถวายมหาสังฆทาน ๓๐,๐๐๐ วัดและการปิดเจดีย์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ง่ายและพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    แม้จะผ่านการเดินทางอันยาวไกลและยากลำบากเพียงใด ทุกคนต่างก็มีรอยยิ้มให้กัน มีหัวใจดวงเดียวกันเพื่อที่จะตักตวง
    บุญบารมีติดตัวไปให้มากที่สุด โดยร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรตั้งแต่เช้า พอช่วงสายเมื่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ประธานสงฆ์ เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี ท่านก็ได้เมตตานำบูชาพระรัตนตรัย นำนั่งสมาธิ จากนั้นก็เป็นพิธีมอบปัจจัยช่วยเหลือครู
    ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้
    ในช่วงสายหลังถวายปัจจัยบูชาธรรม เราก็ได้ร่วมกันกล่าวคำถวายองค์พระธรรมกายประจำตัว การกล่าวคำถวาย องค์พระธรรมกายประจำตัวครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญเพราะเป็นการกล่าวคำถวายก่อนปิดเจดีย์ โดยผู้แทนสาธุชนในการกล่าวคำถวาย คือ กัลฯ ศุภชัย ศรีศุภอักษร และกัลฯ กฤษฎา จ่างใจมนต์ นำกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    พิธีถวายโล่วัชรเกียรติคุณ แด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์
    เมื่อคณะสงฆ์และสาธุชนผู้มีบุญ ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในภาคบ่ายก็ได้ เดินทางมายังมหารัตนวิหารคด คณะสงฆ์แปรแถวเข้าประจำแท่น สาธุชนผู้มีบุญแปรแถวเข้าประจำพื้นที่นั่งถวายไทยธรรม ช่วงบ่ายวันนี้มีพิธีถวายโล่วัชร เกียรติคุณ พุทธคุณูปการ แด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) โดย คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และพิธีถวายโล่ ประกาศเกียรติคุณแด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ โดยแม่ทัพภาคที่ ๔ และผู้ว่าราชการจังหวัด ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    พิธีกลั่นโลกแก้วในวันคุ้มครองโลก
    หลังพิธีมอบโล่เสร็จเรียบร้อย พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้นำนั่งสมาธิกลั่นใจให้ใส บริสุทธิ์ เพื่อกลั่นโลกใบนี้ให้ใสสว่างดั่ง มณีโชติรส นับจากอดีตจนถึงปัจจุบันผู้คนต่างเห็นตรงกันว่า โลก ที่เราอาศัยอยู่นี้มีสภาวะที่ร่อแร่ลงทุกวัน ทั้งจากปัญหา สภาวะโลกร้อน ปัญหามลภาวะท่ เป็นพิษ ผู้นำระดับสูงของนานาประเทศเรื่อยมาจนถึงนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างช่วยกัน รณรงค์ และแก้ปัญหาของโลกเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ปัญหาของโลกก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย ยิ่งหาทางแก้ไขก็ ยิ่งกลับกลายเป็น ปัญหาโลกแตก น่าปวดหัว เพราะต่างก็ไม่รู้เลยว่า การแก้ปัญหาของโลก ต้องเริ่มแก้ที่ใจของมนุษย์เพราะใจเป็นเครื่องควบคุม ความคิด คำพูดและการกระทำของมนุษย์ เมื่อไฟในใจมอดดับ โลกของเราใบนี้ก็เย็นลง การแก้ปัญหาของโลก โดยการ ทำใจ ให้หยุดนิ่ง เพื่อนำใจ กลับเข้าสู่แหล่งแห่งความสุขภายใน เป็นวิธีการที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้ชี้แนะผู้คนตลอดมาและ เป็นวิธีที่ผู้คนทั่วโลกที่ได้มาพิสูจน์ต่างก็ยืนยันว่า การนั่งสมาธิเป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะยังสันติสุขและสันติภาพให้เกิดขึ้น กับโลกใบนี้ได้ วันนี้เราจึงได้เห็นพุทธบริษัทสี่ จากทั่วโลกได้นั่งหลับตา นำพาใจสู่ความสงบ สว่าง และความชุ่มเย็นภายใน แม้เป็นเวลาบ่ายคล้อยแต่เรากลับรู้สึกว่า บรรยากาศของบ่ายวันนี้สงบเย็นอย่างน่าอัศจรรย์
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    พิธีเจริญพระพุทธมนต์
    เมื่อใจของทุกคนสงบนิ่งชุ่มเย็นดีแล้ว สาธุชนทั้งหลายก็ได้ร่วมกันฟังพระพุทธมนต์บทธัมมจักกัปปวัตนสูตรอันศักดิ์สิทธิ์ โดยได้รับความเมตตาจากพระเถรานุเถระหลายรูปด้วยกัน เช่น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ แม่กองบาลีสนามหลวง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการ มหาเถรสมาคม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๑ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม โดยมี พระเดชพระคุณพระพรหมเวที กรรมการ มหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๘ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นผู้นำเจริญพระพุทธมนต์ เสียงสวดมนต์อันไพเราะ ของพระเถรานุเถระและพุทธบุตรจำนวนนับแสนรูปจาก ๓๐,๐๐๐ กว่าวัด กึกก้องไปทั้ง บริเวณมหารัตนวิหารคด ทำให้เรา รู้สึกว่า ได้นั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ หลังการเจริญพระพุทธมนต์จบลง เราก็ได้ฟังสัมโมทนียกถา อันทรงคุณค่า จากสมเด็จพระมหา รัชมังคลาจารย์ โดยท่านได้ชี้แนะวิธีปฏิบัติเพื่อการคุ้มครองโลกให้สงบร่มเย็น คือ การดำรงตนอยู่ในศีล ๕ ถ้าทุกคนมีศีลธรรมประจำใจอย่างเคร่งครัด โลกก็ถือว่า ได้รับความคุ้มครองจากศีลธรรม จากนั้นพระราชภาวนาวิสุทธิ์น้อมถวาย ครื่องสักการะจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และสมเด็จ พระมหาวีรวงศ์
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    พิธีถวายมหาสังฆทาน พุทธบุตร ๓๐,๐๐๐ วัดทั่วประเทศ
    และพุทธบุตร ๒๖๖ วัด ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ มหารัตนวิหารคด
    เมื่อใจของสาธุชนทั้งหลายใสสะอาดดีแล้วด้วยอานุภาพแห่งสมาธิและอานุภาพ แห่งพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสม
    ที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ พิธีกรรมอันสำคัญยิ่งในบ่ายวันนี้ ก็เริ่มขึ้น คือ พิธีถวายมหาสังฆทาน พุทธบุตร ๓๐,๐๐๐ วัด ทั่วประเทศ และพุทธบุตร ๒๖๖ วัด ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้แทนสาธุชนคือ กัลฯ บุญชัย เบญจรงคกุล นำกล่าว อัญเชิญเทวดา และกล่าวคำถวายจตุปัจจัยไทยธรรม จากนั้นพระราชภาวนาวิสุทธิ์และคณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย น้อมถวาย สักการะจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระเดชพระคุณพระพรหมเวที และตัวแทนคณะสงฆ์ ๔ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ บริเวณแท่น นั่งรับรอง และเมื่อสัญญาณฆ้องดังขึ้น พิธีกรก็ได้กล่าวเชิญเจ้าภาพผู้มี บุญน้อมถวายปัจจัยไทยธรรม แด่พุทธบุตร ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ และพุทธบุตร ๒๖๖ วัด ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเสร็จสิ้นพิธีถวาย พระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้กล่าวขอบคุณ พระเดชพระคุณพระ พรหมเวที พระเถรานุเถระ พุทธบุตร ๓๐,๐๐๐ กว่าวัด ทั่วประเทศ ที่มาร่วมงาน และกราบอาราธนา มาร่วมงานในวันคุ้มครองโลก ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จากนั้นผู้แทนสาธุชน คือ กัลฯ อนันต์ อัศวโภคิน ได้นำเจ้าภาพผู้มีบุญ กล่าวคำอาราธนาพระมหาเถระ และพุทธบุตรทุกรูป มาเป็นเนื้อนาบุญ แก่ญาติโยม ทั้งหลายในวันคุ้มครองโลก ปี พ.ศ. ๒๕๕๓
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    เมื่อสิ้นสุดคำอาราธนาเสียง สาธุการ ของคณะสงฆ์ก็กึกก้องไปทั้งมหารัตนวิหาคด จากนั้นพระเดชพระคุณพระพรหมเวที ผู้นำเจริญพระพุทธมนต์ และคณะสงฆ์ ก็ได้เจริญพระพุทธมนต์ให้พร สาธุชนทั้งหลายน้อมรับพรด้วยใจอันปีติ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่ง ที่เราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าด้วยการสร้างมหาทานบารมีกับพระสงฆ์ทั่วประเทศซึ่งเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง แต่เราก็ ได้รับโอกาสนั้นแล้วจากความเมตตาของพระคุณเจ้าทั้งหลายที่ท่านได้เสียสละเวลาอันมีค่าจากศาสนกิจที่มีมากมายในวัด ของท่าน เดินทางไกลด้วยความยากลำบาก เพื่อมาเป็นเนื้อนาบุญแก่ญาติโยมทั่วประเทศ ยังความชื่นใจและกำลังใจให้เกิดแก่ พุทธบริษัททั้งปวง
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    พิธีเวียนประทักษิณ ณ มหารัตนวิหารคด
    หลังจากที่ได้ถวายมหาสังฆทานด้วยความอิ่มใจในบุญ สาธุชนทั้งหลายก็ได้ตั้ง แถวริ้วขบวนเพื่อเตรียมประกอบ พิธีเวียน ประทักษิณ โดยมีคณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย เป็นผู้นำแถว ขณะเวียนประทักษิณก็ได้พากันสวดมนต์สรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ไปด้วย ภาพของพุทธบุตรนำแถวสาธุชนในชุดขาว ที่ก้าวย่างด้วยอาการสงบสำรวม พร้อมเปล่งเสียงสวดมนต์ด้วยน้ำเสียง อันเปี่ยมศรัทธาเป็นภาพที่งดงามและน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ยิ่งตอกย้ำให้พวกเราได้ประจักษ์ว่า มหาธรรมกายเจดีย์แห่งนี้จักเป็น สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์และยังจิตของชาวโลกให้กลับสู่แหล่งแห่งความสงบสุขภายในอย่างแท้จริง
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    เสร็จพิธีเวียนประทักษิณ ณ มหารัตนวิหารคด คณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย และสาธุชนผู้มีบุญแปรแถวเข้าประจำแท่น และพื้นที่หล่อพระธรรมกายประจำตัว ณ ลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ และร่วมกันถ่ายภาพประวัติศาสตร์ จากนั้น พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์ นำบูชาพระรัตนตรัยและนำนั่งสมาธิ เมื่อใจทุกคนสงบนิ่งก็ได้ร่วมกัน กล่าวคำอธิษฐานจิต หล่อพระธรรมกายประจำตัว
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    จากนั้นพระเดชพระคุณพระราชภาวนวิสุทธิ์ ก็ได้เป็นผู้นำในการประกอบพิธีหย่อน มหาสุวรรณนิธิ ลงบนรางรับ ผู้แทนคณะสงฆ์รับไปใส่ในเตาหลอม จากนั้นเจ้าภาพผู้มีบุญหล่อพระธรรมกายประจำตัว ก็ได้ร่วมกันหย่อน มหาสุวรรณนิธิ ลงในรางรับตามลำดับโดยมีตัวแทนคณะสงฆ์ นำมหาสุวรรณนิธิไปใส่ในเตาหลอม ขณะที่คณะสงฆ์ประกอบพิธีเทน้ำโลหะ ลงในเบ้าหล่อพระธรรมกายประจำตัว คณะสงฆ์และสาธุชนก็ได้ร่วมกันสวดบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยไปด้วย
    หลังเสร็จสิ้นพิธีหล่อองค์พระธรรมกายเพื่อประดิษฐานภายในมหาธรรมกายเจดีย์ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์ ก็ได้นำอธิษฐานจิต และนำแผ่เมตตา แล้วพลุอันสว่างไสวและงดงามก็ส่องประกายบนท้องฟ้า ถือเป็นศุภนิมิตแห่งความสำเร็จ ของผู้ที่ทุ่มสุดฤทธิ์ ปิดเจดีย์ ปิดตำนานหน้าสุดท้ายแห่งการสถาปนาอย่างสง่างาม ก่อนกลับบ้านวันนี้เรายังได้รับเหรียญระลึก รุ่นทุ่มสุดฤทธิ์ ปิดเจดีย์ กันอีกด้วย
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๒ วันแห่งการทุ่มชีวิตปิดเจดีย์วันนี้
    จะเป็นวันอันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของชีวิตและหน้าประวัติศาสตร์โลก เพราะนับจากนี้ไปเมื่อพระธรรมกายประจำตัว
    ประดิษฐานครบล้านองค์ทั้งภายนอกและภายในมหาธรรมกายเจดีย์ โลกใบนี้จักได้การคุ้มครองด้วยสภาวธรรมอันบริสุทธิ์ จากการประพฤติปฏิบัติธรรมของผู้คนทั่วโลกอย่างแท้จริง
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    วันนี้ เป็นวันมหามงคลที่เราจะได้มาร่วมกันหล่อพระธรรมกายประจำตัว เพื่อประดิษฐานภายในมหาธรรมกายเจดีย์ ให้ครบล้านองค์ เอาไว้ให้มนุษย์และเทวดาได้กราบไหว้บูชา เพื่อเป็นเครื่องระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นการสืบทอด อายุพระพุทธศาสนา แล้วก็เป็นทางมาแห่งบุญใหญ่ของเราด้วย เราได้เตรียมใจและก็ตั้งใจกันมาหล่อพระธรรมกาย ซึ่งเราได้พยายามถอดแบบออกมาเป็นพุทธปฏิมากร ที่เมื่อได้เห็นแล้วก็จะได้ระลึกนึกถึงว่า ในตัวเรา รวมทั้งทุกๆ คนในโลก ต่างก็มีพระธรรมกายเช่นนี้ แล้วก็จะได้มุ่งแสวงหาเข้าไปสู่ภายใน ให้เข้าไปถึงพระธรรมกายภายในตัว ซึ่งเป็นกายตรัสรู้ธรรม ของมวลมนุษยชาติ และก็เป็นตัวจริงแท้ของพระรัตนตรัย ที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงของเรา ของมวลมนุษยชาติตลอดจน สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    พระธรรมกายมีพุทธลักษณะที่สวยงามมาก ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ บุคคลใดก็ตาม ที่มีบุญลักษณะได้ลักษณะมหาบุรุษ ท่านเรียกว่า เป็นพระมหาบุรุษ ดังเช่น พระบรมโพธิสัตว์ของเรา เมื่อท่านมีบารมีเต็มเปี่ยม บริบูรณ์แล้ว ก็จะได้ลักษณะมหาบุรุษปรากฏขึ้นในพระวรกาย และก็สามารถตรัสรู้ธรรมได้ด้วยพระองค์เอง เป็นพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ลักษณะมหาบุรุษจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยากในโลก ผู้ที่ได้ลักษณะ มหาบุรุษจะมีคติเป็นสอง คือ ถ้าอยู่ในทางโลกจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ถ้าอยู่ในทางธรรม ก็จะได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ดังนั้น การให้ได้มาซึ่งลักษณะมหาบุรุษ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านผู้รู้ ที่ปรารถนาความหลุดพ้นจากพญามาร เพราะสุดยอดปรารถนาของท่านผู้รู้ คือการให้ได้รูปกายมหาบุรุษในกายมนุษย์ เพื่อปราบมารไปสู่ที่สุดแห่งธรรม เหตุเพราะว่า เมื่อเอากายเนื้อที่ถึงพร้อมด้วยลักษณะมหาบุรุษนี้ ไปซ้อนกับกายธรรมภายใน จะสวมซ้อนกันได้สนิท และจะเป็นฐานรองรับความรู้
    อันยิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ จากท่านผู้รู้ทั้งหลายในอายตนะนิพพาน กระทั่งสามารถเข้าไปถึงต้นแหล่งแห่งกุศลธรรมที่ละเอียดที่สุด ถ้าหากว่ามีความละเอียดมากกว่าฝ่ายอกุศลธรรม ก็จะสามารถปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้ ฉะนั้นการได้ลักษณะมหาบุรุษจึงมีความสำคัญมาก และเป็นสิ่งที่ฝ่ายอกุศลธรรมกลัวมากที่สุด
    ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายอกุศลธรรม จึงส่งกระแสบาปเข้ามาบังคับจิตใจมนุษย์ ให้มีความโลภ ความโกรธ ความหลง แล้วบาปก็ ทำลายทุกอย่างให้เสื่อมลง ทั้งรูปกายที่ไม่สมบูรณ์ ทรัพย์ก็วิบัติ มีความเขลาเบาปัญญา เป็นต้น แต่บุญจะทำหน้าที่ตรงกันข้าม คือจะปรุงแต่งให้ทุกอย่างสมบูรณ์ขึ้น ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ให้สมบูรณ์หมด เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ได้ลักษณะ มหาบุรุษที่สมบูรณ์ ก็จะต้องสั่งสมบุญ คือ จะต้องสร้างบารมีทั้ง ๓๐ ทัศให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ โดยจะต้องมีพื้นฐานมั่นในกุศลธรรม มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ หมั่นให้ทาน สมาทานรักษาศีล รักษาอุโบสถศีล เจริญสมาธิภาวนาและปฏิบัติดีต่อบิดามารดา ต่อสมณะผู้ทรงธรรม รวมทั้งต้องให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่ในตระกูล และมีความเคารพอย่างยิ่งในธรรม จะต้องทำอย่างนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นจริตอัธยาศัย และทำไปทุกภพทุกชาติจนกว่าบารมีจะเต็มเปี่ยม
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    บุญหล่อพระธรรมกายประจำตัวนี้ เป็นการประกอบเหตุสร้างบุญอีกทางหนึ่ง ที่จะทำให้เราได้อานิสงส์ใหญ่ คือ ไม่ว่าเรา จะไปบังเกิดในที่ใด ก็จะเกิดอยู่ในร่มเงาบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป และจะมีความเจริญรุ่งเรืองในธรรมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเราจะเป็นผู้ที่ทั้งมนุษย์และเทวดา ให้ความเคารพสักการบูชา อีกทั้งจะเป็นผู้ที่น่าเลื่อมใส เราจะเพียบพร้อมไปด้วยที่สุดแห่งรูปสมบัติ จะได้มีส่วนแห่งลักษณะมหาบุรุษที่สมบูรณ์ เราจะได้ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ มีสมบัติ จักรพรรดิตักไม่พร่องบังเกิดขึ้นจะได้ที่สุดแห่งคุณสมบัติ ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน วิชชาธรรมกาย และจะปิดอบายไปสวรรค์ มีความสุขในปัจจุบัน
    ความประทับใจของผู้ที่มาร่วมงานวันคุ้มครองโลก


    [​IMG]
    พระวิสุทธิวงศาจารย์
    กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ วัดปากน้ำ​
    ได้เข้ามาในวัดพระธรรมกาย มองดูแล้วทุกแห่งเป็นบุญเขตของชาวโลก คือเป็น เนื้อนาบุญของชาวโลก ทั้งนี้ ก็เพราะว่าพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ท่านเกิดมาเพื่อยังโลกนี้ให้สว่างไสว นำเอาวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อ วัดปากน้ำ มาเผยแผ่ให้คนทั้งหลายที่ยังไม่ทราบได้ทราบ เมื่อทราบแล้วจะได้ปฏิบัติตาม ก็ยังจิตใจของเขานั้นให้สว่างไสว จากอวิชชา ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ถ้าจะกล่าวไปแล้วไม่ใช่ว่าจะยกย่องสรรเสริญ ท่านอาจจะเป็น ผู้สร้างบารมี ซึ่งอาตมาเคยกล่าวว่าท่าน เป็นพี่ ถึงแม้ว่าอายุจะน้อยกว่า แต่ว่าท่านได้ธรรมะอันลึกซึ้งกว่าอาตมา ตามหลักในทางศาสนาก็ถือว่า ผู้นั้นเป็นพี่ในทางธรรม ก็ขออนุโมทนา กับท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์

    [​IMG]
    พระครูมงคลสารคุณ
    วัดโคกหญ้า ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี​
    การที่ได้มาวัดพระธรรมกายทุกครั้ง ได้รับความอบอุ่น ความมีน้ำใจทุกแผนก ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ทางคณะสงฆ์ก็ดี คณะกัลยาณมิตร คือ อุบาสกอุบาสิกาที่ให้การช่วยเหลือโดยทั่วไปก็ดี ประทับใจทุกครั้ง ไม่เฉพาะหลวงพ่อนะ แม้แต่ประชาชนในหมู่บ้าน ชาวบ้านในละแวกวัดหลวงพ่อก็ ประทับใจ โดยเฉพาะ ในขณะนี้การประกอบอาชีพ การทำมาหากินก็ลำบาก ถ้าไม่ได้หลวงพ่อธัมมชโย เข้ามาช่วยเหลือ ก็คงจะแย่ ประทับใจมาก

    [​IMG]
    His Eminence Tsugla Lopen Rinpoche Samten Dorji
    รองสังฆราชภูฏาน​
    แหล่งกำเนิดของสันติภาพโลกและของสังคมนี้ คือ ธรรมะ และเมื่อได้เห็นคณะพระภิกษุสงฆ์ และผู้คนจำนวนมาก มาร่วมงานวันนี้ รู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้รู้ว่า ธรรมะยังรุ่งเรืองอยู่ในโลกนี้ และยังรู้สึกดีมากๆ ที่ได้เข้าร่วมพิธีกรรมนี้ อาตมาจะนำไปใช้เป็นตัวอย่างในชีวิต นำเอาแนวทางไปปรับใช้ที่วัดในภูฏานด้วย


    [​IMG]
    Most Ven. Lenadora lewata Nayaka Thera
    Abbot Sri Bodhi Raja Viharaya Matale Sri Langa​
    ผมไม่เคยเห็นงานที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้มาก่อน แม้ผมจะไปมาหลายที่ สิงคโปร์ อินเดีย ครั้งนี้เป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตของผม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TH scope=col> </TH></TR></TBODY></TABLE>
    .................................................................................................
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ที่มา : DMC ธรรมะ กฎแห่งกรรม นรก สวรรค์ สมาธิ พุทธประวัติ สรรสาระดีๆ ที่คุณต้องรู้!!

    สนใจเป็นเจ้าภาพหลักจัดตักบาตรทั่วไทย ติดต่อได้ที่ผู้ประสานงานโครงการฯ

    1. คุณสมโชค 087-591-3335
    2. คุณอิสรภาพ 083-540-5011




    <TABLE style="WIDTH: 586px; BORDER-COLLAPSE: separate; HEIGHT: auto" borderColor=#ffffff cellSpacing=0 cellPadding=0 width=586 bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD class=tdstyle align=middle bgColor=#fff9aa colSpan=6>ตารางกำหนดการตักบาตรประจำปี</TD></TR><TR><TD class=tdstyle align=middle width=10 bgColor=#cccccc></TD><TD class=tdstyle align=middle bgColor=#cccccc>วันที่</TD><TD class=tdstyle bgColor=#cccccc>
    ประจำเดือน

    </TD><TD class=tdstyle align=right width=60 bgColor=#cccccc>จำนวนพระ(รูป)</TD><TD class=tdstyle align=middle width=10 bgColor=#cccccc></TD><TD class=tdstyle bgColor=#cccccc>เบอร์ติดต่อ</TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    สิงหาคม พ.ศ. 2552


    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    16/08/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ถ.นิพัทรอุทิศ3(สาย 3) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา​

    </TD><TD vAlign=top>
    10,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-599-9040​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    22/08/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ.วังนารายณ์ราชนิเวศน์ อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี​

    </TD><TD vAlign=top>
    2,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-452-6522​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top colSpan=2>
    กันยายน พ.ศ. 255

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    13/9/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ.ถนนกลางเมือง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่​

    </TD><TD vAlign=top>
    1,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-530-1954​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    ตุลาคม พ.ศ. 2552

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    3/10/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ.บนถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน กทม​

    </TD><TD vAlign=top>
    10,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-870-1759​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    10/10/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ. อนุสรณ์สถาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี (ยกจักรแก้ว วันเกิดหลวงปู)​

    </TD><TD vAlign=top>
    10,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-667-5087​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    17/10/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ.อินทยงยศ อ.เมือง จ.ลำพูน​

    </TD><TD vAlign=top>
    2,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-530-1954​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    28/11/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ.ถนนนิมมานเหมินทร์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่​

    </TD><TD vAlign=top>
    10,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-530-1954​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>
    ธันวาคม พ.ศ. 2552

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    19/12/52​

    </TD><TD vAlign=top>
    ณ.อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน​

    </TD><TD vAlign=top>
    1,000​

    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    081-530-1954​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>ปรับปรุงล่าสุด: 10/8/52
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD><TD vAlign=top>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​




     
  11. JiNaNiE

    JiNaNiE Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +49
    หรืออาจจะเป็นที่นี่



    [​IMG]

    Maracana Stadium ประเทศบราซิล
    เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1950 สถิติผู้เข้าชม 199,854 คน ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 1950


    คือถ้าแมนยูลงเตะที่สนามนี้แล้วให้ไปฟรีรวมถึงให้เงินเพิ่มอีกคนละห้าพันบาทคนก็คงล้นความจุแน่ๆๆ

    ก็คงเหมือนวัดพระธรรมกายที่จ่ายให้พระอย่างน้อยองค์ละ5000บาท พอดีมีลุงเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ท่านเล่าให้ฟังว่าพระที่ไปส่วนใหญ่ก็จะบ่นเพราะต้องถือของพะรุงพะรังแล้วก็ต้องเดินไกลร้อนด้วยบางทีท่านลุงก้ต้องไปช่วยพระแก่ๆๆถือของเพราะสงสารท่าน พระบางองค์ก็บ่นว่าไม่มาแล้วเอาของเค้าอยากเหลือเกิน "เอาของเค้ายากนี่หมายความว่ากว่าจะได้5000นี่เหนื่อยมาก" ท่านลุงเองก็ไม่อยากไปแต่เค้านิมนต์แล้วแล้วประมาณว่าท่านลุงแกมีตำแหน่งด้วยแล้วพระชั้นผุ้ใหญ่เค้าก็ต้องไปกันทั้งนั้น วันนั้นวันพระท่านลุงก็เล่าให้ชาวบ้านที่ไปทำบุญให้ฟังว่าจ่ายคนละห้าพันแล้วพระที่ไปวันนั้นจำตัวเลขไม่ได้แต่คูณออกมาแล้วมหาศาลายาเบิกบานมากมาย ก็ไม่รู้เค้าเอาเงินมาจากไหนนัก
    ก็คงเป็นเงินศรัทธาจากมหาชนที่ใช้ศรัทธามาก่อนปัญญาตามหลักศาสนาเป๊ะ
    แต่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้คนมีศรัทธา แต่ศรัทธาของพระองค์นั้นต้องผ่านการพิจารณาด้วยปัญญาให้รอบคอบเสียก่อน
    มันจึงเป็นเช่นนั้นแล
     
  12. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ฮ่าๆๆ ;)
     
  13. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    การชำระล้างโลก จริง กำลังทำอยู่ ภัยพิบัติขณะนี้ เกิดที่บางประเทศ
    บางประเทศนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของโลก ใช่ม๊า..
    ปี 2012 ก็จะมีภัยพิบัติ ที่บางประเทศเหมือนกัน
    การชำระล้างโลกตูมเดียวทั่วทั้งโลก ได้เปลี่ยนมาเป็น ทะยอยเกิด
    ที่นั่นบ้าง ที่นี้บ้าง หรือ 3 ปีเกิดหนักๆซ่ะที แล้วก็ไปเป็นปี ต่อปี เช่นนี้เป็นต้น
     
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณชยุต มันจำเป็นด้วยเหรอว่าจะต้องมาร่วมทำกันในสถานที่เดียว นัดเวลากันทำแต่ต่างคนต่างทำในต่างสถานที่กัน ก็น่าจะได้
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    นั่นแหละ คือสิ่งที่ผมได้บอกคุณมาตลอด.

    และก็ ยังจะบอกอีกต่อไป อีกหลายครั้งด้วย.


    ............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2009
  16. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    ข้อความที่ 488 คุณ Chayutt คงจะคลิกแช่ไปหน่อยนะครับคุณ JiNaNiE
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    อันนี้ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าผลมันจะต่างกันไหม๊

    เพราะว่าในความทรงจำของผมมันมี ความทรงจำที่แตกต่างกันอยู่สองอย่าง

    อย่างแรก คือทำพร้อมๆกัน ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ เพราะพลังจิตจะไปทำปฏิกิริยากันเอง
    ได้ผลเหมือนกัน

    อย่างที่สองคือ ทำในเวลาเดียวกัน และสถานที่เดียวกันจะได้ผลมากกว่า
    ไม่งั้นคงไม่ต้องล้อมวงและต้องจับมือกันด้วยซ้ำไป..คุ้นๆอันนี้ไหม๊

    แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ที่อาจารย์ปริญญาเคยเขียนไว้ในหนังสือว่า
    พลังจิตรวมของมนุษย์ที่ร่วมกันทำอะไรซักอย่างนั้น มันไม่ได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนคนที่ร่วมกันทำ
    ในลักษณะของการ "บวก" เพิ่มนะ แต่มันเป็นไปในลักษณะ "ยกกำลัง" เพิ่ม อะไรแบบนั้น

    เช่น ถ้าสมมุติให้พลังงานจากกระแสจิตของคนเพียงหนึ่งคนมีค่า = 10
    ดังนั้น ถ้ามีคน 2 คน พลังงานมันก็ควรจะเป็น 2x10 = 20 ใช่ไหมหละคับ

    แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะมันจะมีค่า = 10 ยกกำลัง 2 = 100 แทน

    คำว่ากิจกรรมที่ร่วมกันทำในความหมายของผมนี่ หมายถึงกิจกรรมอะไรก็ได้นะครับ
    ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือเป็นบาปก็ตาม ก็จะให้ผลออกมาในทำนองเดียวกันนี้

    เช่นร่วมกันประท้วงรัฐบาล 3 หมื่นคน ต่างคนต่างพุ่งกระแสจิตสาบแช่ง ประนาม
    และพุ่งความรู้สึกอะไรที่เลวร้ายทั้งหลายไปหาพวกเขา ผลก็จะเป็น 10 ยกกำลัง 3 หมื่นด้วย

    และตัวอย่างที่คุณ JiNaNiE ยกมาเรื่องสนามกีฬานี้ ก็มีผลในทำนองเดียวกันด้วย
    ในสนามกีฬามีแต่กระแสจิตที่สั่นสะเทือนในระดับหยาบ เพราะขุ่นมัว เครียด ลุ้นให้ฝ่ายตนชนะ
    ลุ้นให้ฝ่ายอื่นแพ้ เป็นต้น กระแสจิตพวกนี้แหละที่ต้นเหตุแห่งการชำระโลก

    แล้วแบบนี้ เราควรจะชื่นชมยินดีกับกระแสจิตแบบไหนหละครับ

    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2009
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ผมอ่านดูข้อความของคุณแล้วผมก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย พร้อมๆกับรู้สึกผิดนิดๆว่า
    นี่ผมได้เผลอไปกวนกระแสความเกลียดชังที่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งหัวใจของใครขึ้นมาแล้วเหรอเนี่ย

    เพราะกระแสนั้นมันรุนแรงมากจริงๆ จนน่าตกใจ

    แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายลงไปกว่านี้ ผมมีอะไรจะเล่าให้ฟัง

    ผมไม่รู้ว่าคุณจะเคยเป็นแบบผมบ้างไหม๊ คือ เวลาผมเห็นวัดไหนมีคนไปทำบุญทำกุศล ปฏิบัติธรรมมากๆ
    ผมจะโมทนาสาธุด้วย ในใจผมไม่มีวัดไหนเลย ที่ผมแอนตี้เป็นพิเศษ และแน่นอนว่า วัดพระธรรมกายผมก็ไม่แอนตี้ด้วย
    แม้ว่าจะเคยแอนตี้มาก่อน เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมาโน้นก็ตาม

    คุณเคยรู้สึกแบบนี้บ้างไหม๊ แม้เพียงชั่ววูบเดียว ก็ยังดี

    ที่ว่าเวลาคุณรู้ว่าช่วงเช้าชาวอิสลามเขาจะทำละหมาดกัน ทำพร้อมๆกันหมด จนขนลุกไปหมดเลย
    แล้วคุณเคยรู้สึกชื่นชมยินดีกับพวกเขาด้วยไหม๊

    และในช่วงรอมมาดอนของพวกเขาที่พวกเขาถือศีลอดกันเป็นเดือน คุณเคยชื่นชมยินดีกับพวกเขาไหม๊

    เวลาคุณเดินผ่านโบสถ์คริสต์คุณได้ยินเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้าที่พวกเขาร้องประสานเสียงกันอย่างไพเราะเพราะพริ้ง
    คุณเคยรู้สึกชื่นชมยินดีกับพวกเขาด้วยสักครั้งไหม๊

    ที่เล่ามานี้ผมเป็น คือผมชื่นชมยินดีกับพวกเขาเหล่านั้น เดี่ยวจะอธิบายว่าเพราะอะไรนะครับ

    แต่ก่อนอื่น ต้องขอสกิดให้กลับไปอ่านชื่อกระทู้กันก่อนนะครับ ว่ากระทู้นี้ชื่อว่าอะไร และเนื้อหามันว่าด้วยอะไร

    ผมกำลังจะบอกว่า เพราะมันเป็นกระทู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ ซึ่งผมเชื่อว่า 100% สาเหตุมันมาจาก
    กระแสจิตที่เลวร้ายของมนุษย์โลกเอง และเจ้ากระแสจิตนี่มันก็เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นแล้วไม่ยอมหายไปไหนซะด้วยสิ
    มิหนำซ้ำ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในมิติของจิต มันจะส่งผมกระทบและเกิดขึ้นในมิติทางกายภาพด้วยเสมอ

    อันนี้ชัดเจน และแน่นอนที่สุดนะ อ่านมาจนป่านนี้ คงไม่มีใครสงสัย หรือคัดค้านตรงนี้นะครับ

    ดังนั้น สิ่งที่ผมกล่าวถึง โยงไปถึง ยกมาให้ดู และให้ความสนใจ ก็ยังจะเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อยู่ทั้งนั้นเลย

    ผมไม่ได้สนใจว่าวัดพระธรรมกายจะใช้อะไรนำปัญญา หรือจะจ่ายเงินพระรูปนั้นไป 5000 บาท
    เพื่อให้มาร่วมนั่งสมาธิ สวดมนต์ และรับสังฆทานด้วย อะไรก็ตามแต่

    แต่ประเด็นที่สนใจก็คือ กระแสจิตรวมที่พวกเขาได้ร่วมกันแผ่ออกมาแล้ว กำลังแผ่อยู่ และจะแผ่อีกต่อไป
    ไม่ว่าคุณจะเกลียดหรือแอนตี้พวกเขามากแค่ไหนก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้พวกเขาเลิกแผ่เมตตาให้คุณและโลกใบนี้ได้

    ไม่ว่าใครจะไปทำอะไรดีงามหรือชั่วช้าในสายตาของใครก็ตาม แต่ประเด็นที่ผมสนใจคือกระแสจิตที่สว่างไสวด้วยพลังสมาธิ
    ของคนนับแสนนับล้าน มันก็ได้เกิดขึ้นจริงๆแล้ว อันนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้

    และเพราะว่าเจ้ากระแสจิตทั้งหลายนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆธรรมดาๆ ดังนั้น ไม่มากก็น้อย ที่มันจะมีผลช่วยโลกได้
    และก็คิดว่าช่วยไปหลายครั้งแล้วด้วย อันนี้ตามนัยยะของสิ่งที่ผมนำมาให้ท่านอ่านทั้งหลายนี้นะครับ

    ดังนั้น ณ.ช่วงเวลาแห่งกระแสจิตใดๆที่เป็นบวก ของใครก็ตาม ผมจึงชืนชมยินดีด้วยทั้งสิ้น ไม่มียกเว้นวัดไหนเลย

    ช่วงเวลาที่ละหมาด คือช่วงเวลาที่พวกเขาส่งกระแสจิตพุ่งไปถึงพระเจ้าของพวกเขาเพียงจุดเดียว เป็นพลังบวก
    เป็นพลังที่โลกต้องการ อย่างน้อยก็ทำให้โลกสงบสุขได้ ในช่วงเวลานั้นๆ แม้เพียงไม่กี่นาทีก็ตาม

    ช่วงเวลาที่พวกเขาถือศีลอด ก็เป็นช่วงที่พวกเขาจะได้ฝึกให้รู้จักความหิวโหย จะได้ไม่มองข้ามผู้ทุกข์ยากหิวโหย
    จะได้รู้จักเมตตากรุณาต่อกัน นี่ก็เป็นเจตนาที่ผมรู้สึกว่างดงาม และน่าชื่นชมยินดีมากๆ ถ้าทำได้จริงยิ่งจะดีใหญ่เลย

    ช่วงเวลาที่สวดมนต์สรรเสริญพระเจ้า ก็คือช่วงที่กระแสจิตของพวกเขาเบิกบาน อิ่มเอิบ และเป็นบวก
    นั่นก็เป็นกระแสจิตที่โลกต้องการด้วย

    แต่ตรงกันข้ามกับวัดพระธรรมกายนะ อันนี้เป็นเรื่องที่จะว่าน่าขำ ก็น่าขำ คือ

    ในช่วงเวลาที่วัดพระธรรมกายมีงานบุญอะไรใหญ่ๆโตๆ กระแสจิตของคนในวัดนับแสนนับล้านที่ร่วมกันสร้างขึ้น
    ก็สว่างไสว เป็นบวก แผ่ออกไปแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย และโลกใบนี้

    แต่กระแสจิตของผู้คนนอกวัดนับแสนนับล้านหรือหลายล้านด้วย (อันนี้เฉพาะคนไทยเท่านั้นนะครับ
    เพราะคนชาติอื่นๆ เขาไม่ได้มาแอนตี้วัดนี้เหมือนคนไทยเราเองหรอก) ก็จะผลิตกระแสจิตแห่งความโกรธแค้น ชิงชัง
    ดูหมิ่นประนาม ออกมาในขณะเดียวกันด้วย สรุปว่าช่วยกันผลิตกระแสพลังด้านลบ ที่โลกไม่ต้องการ

    นี่แหละคนไทยเรา ไม่ได้ช่วยผลิตกระแสจิตที่ดีงามออกมาตอบแทนโลกที่ตนเองอยู่แล้ว
    มิหนำซ้ำ ยังจะมาซ้ำเติมโลกด้วยกระแสจิตแห่งความโกรธแค้นชิงชังของตนเองอีก

    ถึงตรงนี้คุณคงจะพอเลือกวางจิตได้บ้างแล้วนะครับ ว่าควรวางจิตอย่างไรให้เป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้
    เอาออกไปซะเถิด ความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนของตนเองหนะ อย่ายึดให้มากนักว่าเป็นเขาเป็นเรา

    ถ้าโจทย์ตั้งธงไว้ว่า "เขา" ผิด คำตอบมันก็จะเป็นว่า "เรา" ถูก ทั้งๆที่เราเองที่ประกาศปาวๆว่าเขาผิดนั้น
    ผลิตแต่กระแสจิตแย่ๆออกมามากกว่าผู้ที่เราประนามอยู่ปาวๆนี่ซะอีก

    ชั่วโมงนี้ วันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ โลกกำลังนับถอยหลังสู่การชำระล้างอยู่แล้ว ยังจะมาสนใจแต่เรื่องของตนเอง
    เอาตนเองเป็นใหญ่อีกอยู่หรือ?? ไม่ได้คิดจะช่วยอะไรโลกบ้างเลยหรือ?

    หรือต้องฆ่า ห้ำหั่นกัน หรือเผาวัดนั้นให้มันวอดวายสาบสูญไปจากประเทศไทย
    ให้สาสมกับความเกียดชังที่มันอัดแน่นอยู่ในใจนั้นเลยดีไหม๊

    สิ่งนี้หรือที่ได้รับจากการอ่านกระทู้นี้มาตั้งนมนาน ได้แต่ความเกลียดชังเท่านั้นเองหรอกหรือ

    ปล.ผมไม่ได้เกลียดหรือโกรธคุณนะครับ แต่ "ยา" รักษาโรคส่วนใหญ่มักจะมีรสขมนะ
    คุณว่าไหม๊ ว่าแล้วก็..หลังจากอ่านโพสต์นี้จบแล้ว ก็อย่าลืมดื่มน้ำตามมากๆแล้วนอนพักผ่อนสักครู่นะครับ

    เดี๋ยวก็จะหายป่วยเองในไม่ช้า

    ..................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2009
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    Copy PM ที่คุยกันหลังไมล์กับกลุ่ม "จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์"
    มาให้อ่านนะครับ เพราะมีคนขอมา


    ......................................................................

    มาเล่าความรู้สึกของตัวเองบ้างนะครับ

    บอกตามตรงว่าที่แปลๆอะไรต่ออะไรอยู่นี่ (ที่ยังไม่ได้โพสต์ก็มีอีกเยอะ)
    ก็พอจะได้ข้อมูลและเชื่ออยู่บ้าง แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ก็ยังมีเลศนัยอยู่

    เพราะว่าเป็นที่แน่ชัดเหลือเกินว่า "เขา" มาสื่อสารกับพวกเราทั้ง 2 ฝ่ายครับ

    ไม่มีใครยอมใครเลย ไม่มีใครขี้เกียจเลย ไม่มีใครโง่กว่าใครเลย

    ทั้งฝ่าย "สว่าง" และ ฝ่าย "มืด"

    จงระวังข้อมูลที่ได้รับมาให้หนักว่า

    1. ถึงแม้อะไรต่อมิอะไรที่ "ถูกกำหนดให้เกิดขึ้นจริง" เพื่อวัตถุประสงค์ในทางที่ดีจริงๆ
    คือการยกระดับจิตวิญญาณของโลกและของมนุษย์ชาติก็ตามที
    แต่ "ฝ่ายโน้น" เขาก็แอบใช้เหตุนี้ มาเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเองด้วยนะ

    คือจะบอกว่า เหตุการณ์หนะ จะเกิดขึ้นจริงแน่ แต่ช่วงเวลาที่เกิด
    ผมเชื่อว่ามัน "ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกโดยรวมของมวลหมู่มนุษยชาติ" เป็นหลัก
    ว่าจะช้าหรือเร็ว

    ดังนั้นฝ่าย "สว่าง" ก็จะรอดูช่วงโอกาสที่เหมาะสม เพื่อปฏิบัติการณ์
    ด้วยความเมตตากรุณา และรักอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อมนุษย์โลก
    เพื่อให้มนุษย์บางส่วนที่ยังไม่ "ตื่น" ได้มีเวลาเพียงพอ ที่จะ "ตื่น"

    แต่ "อีกฝ่าย" ก็จะใช้ข้อมูลเดียวกันนี้ มา "เร่ง" ให้มันเกิดเร็วขึ้น
    เพื่อให้มีจำนวนมนุษย์ที่ยังไม่ "ตื่น" อยู่เยอะๆ จะได้เป็นหุ่นเชิดของพวกเขาต่อไป

    ดังนั้น ในความคิดเห็นของผม ก็คือ การเผยแพร่ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
    มันมีผลได้ผลเสียเกี่ยวข้องอยู่กับทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ

    คือฝ่ายสว่าง ก็จะทำให้ผู้ที่ "ใกล้จะสว่าง" หรือ "พร้อมที่จะสว่าง" ได้ตื่นขึ้น

    ส่วนอีกฝ่ายคือ "ฝ่ายมืด" ก็จะได้ประโยชน์ตรงที่ พวกคนที่ "มืดบอด" อยู่เป็นปกติอยู่แล้ว
    ก็จะตื่นตระหนก และ ที่โชคร้ายคือ พวกนี้แหละที่เป็นคนส่วนใหญ่ของโลก

    ดังนั้น กระแสจิตที่ตื่นตระหนกและหวาดกลัวมวลรวมที่มากมายมหาศาลของพวกเขา
    ก็จะไป "เร่ง" ปฏิกิริยาให้เร็วขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเราเลี่ยงไม่ได้

    ดังนั้น โดยส่วนตัวผมจริงๆแล้ว ผมก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน
    เพราะถ้าไม่เผยแพร่เลย พวกที่ใกล้จะตื่น หรือควรจะตื่น ก็จะไม่ตื่น
    และถ้าพวกเขาตื่นแล้ว มันก็คุ้มค่าสำหรับเราแล้ว

    แต่พวกที่ยังไงๆก็จะไม่ตื่นอยู่แล้ว ถ้าไม่บอก ก็ต้องตายไปแบบไปไม่ดี
    แต่ถ้าบอกไปก็ตยังคงต้องตายไปแบบไปไม่ดีอยู่ดี แถมยังจะฉุดให้เหตุการณ์เกิดเร็วขึ้นอีก

    นี่แหละที่ผมกำลังจะบอกว่า ตกลงนี่พวกเราทำผิดหรือทำถูกกันแน่เนี่ย

    เพราะยังไงๆ ก็ต้องมีทั้งผลได้ผลเสียอยู่ดี

    ลองช่วยผมชั่งน้ำหนักหน่อยเถอะครับ เพราะพวกเราทั้งหลาย
    ผมเชื่อว่า..หน้าที่อีกอย่างหนึ่งก็คือ "เป็นผู้ปลุก" ให้คนอื่นตื่น เหมือนๆกับผมนี่แหละ

    เอ่อ..ชื่อนี้ผมตั้งขึ้นมาเองนะ ตามความคิดและความรู้สึกของตนเอง
    ที่ได้ทำเช่นนี้อยู่แล้วมานานหลายปีหนะครับ

    ชยุต
     
  20. JiNaNiE

    JiNaNiE Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +49
    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><COLGROUP><COL width=256><TBODY><TR><TD vAlign=top width="100%">
    และตัวอย่างที่คุณ JiNaNiE ยกมาเรื่องสนามกีฬานี้ ก็มีผลในทำนองเดียวกันด้วย
    ในสนามกีฬามีแต่กระแสจิตที่สั่นสะเทือนในระดับหยาบ เพราะขุ่นมัว เครียด ลุ้นให้ฝ่ายตนชนะ
    ลุ้นให้ฝ่ายอื่นแพ้ เป็นต้น กระแสจิตพวกนี้แหละที่ต้นเหตุแห่งการชำระโลก

    แล้วแบบนี้ เราควรจะชื่นชมยินดีกับกระแสจิตแบบไหนหละครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    ขอตอบเรื่องสนามฟุตบอลก่อนนะ ที่เลือกสนามฟุตบอลแห่งนี้มาก็เพราะเห้นว่าจุคนได้เยอะดีเกิน 80000 แล้วที่เลือกแมนยูก็เพราะว่าคนชอบเยอะดีตอนนั้นดันไปคิดว่าแมนยูเตะกับไทยมันเป็นภาพที่คนเชียร์เชียร์ทั้งสองฝ่ายแบบว่ามีความสุขทุกครั้งที่มีประตูเกิดขึ้น มันก็เลยไม่มีกระแสด้านลบ อีกภาพนึงนึกถึงตอนโรนัลโด้เปิดตัวที่มีจำนวนคนดูมากที่สุดในโลกคือคนเสียตังซื้อตั๋วไปดูโรนัลโด้คนเดียวด้วยความชื่นชมยินดี
    นึกถึงภาพครองราชครบ60ปีของในหลวงที่ผู้คนเสียสละเวลาเสียเงินทองค่าเดินทางไปด้วยความศรัทธาและไม่มีผลตอบแทนใดๆๆไปด้วยความสมัครใจยินดี
    มันไม่ใช่ภาพแบบที่สนามราชมังคลาหรือว่าสนามบินสุวรรณภูมิที่อาจมีทั้งคนสมัครใจไปและโดนจ้างไปพอดีมีป้าของเพื่อนเป็นสปอนเซอร์เดือนละ
    100000บาทให้กับเสื้อสีหนึ่ง เพื่อไปจ่ายให้พวกที่ไปร่วมประท้วงโดยที่แกก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนแกก็คงให้เพราะศรัทธานำ


    ท่านผู้อ่านพอจะเห็นภาพมั๊ยเดี่ยวจะมาต่อกระทู้ 496 พอดีตอนนี้ทำงานอยู่ พระท่านว่ากระทำงานคือการปฏิบัติธรรมและต้องขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้มีกระแสความคิดลบหรือว่าการแอนตี้ใดๆๆ มีแต่ความคิดความเห็นที่ก่อให้เกิดปัญญาโดยให้ท่านผู้อ่านพิจารณาตามเอาเองหากไม่เห็นด้วยก็แย้งกันได้ทุกข้อความทุกความคิดเห็นเป็นไปเพื่อการลับปัญญาทั้งสิ้นเรามันปัญญาชนแล้วเราก็ไม่ได้มานั่งด่ากัน เรามาเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดปัญญา แต่ก็อีกแหละพระพุทธเจ้าเปรียบมนุษย์เป็นบัวสี่เหล่า ปัญญามีแค่ไหน ก็ใช้ไอ้ที่มีนั่นแหละ พิจารณากันไป
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...