การวัดค่าพลังงานด้วยระบบ (HADO)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ศิริพัฒน์, 2 สิงหาคม 2009.

  1. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    HADOISM<o></o>[FONT=&quot] พลังชีวิต คือพลังจิต[/FONT] (Dr.Yamanashi)[FONT=&quot]

    คำว่า [/FONT]HADO [FONT=&quot]มาจากศัพท์ทางฟิสิกส์ที่แปลว่าคลื่น [/FONT](wave, [FONT=&quot]波動[/FONT]) [FONT=&quot]ของคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นคำที่ใช้รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึก จิตวิญญาณ [/FONT]Telepathy[FONT=&quot] โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าคลื่นระดับใด[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]

    ปกติคำว่า [/FONT]HADO [FONT=&quot]เป็นศัพท์ทางฟิสิกส์ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า [/FONT]wave, micro-wave, undulation,[FONT=&quot]ภาษาญี่ปุ่นจะมีความหมายที่กว้าง หมายรวมถึง [/FONT]imagination, meditation [FONT=&quot]ซึ่ง รวมความหมายที่กว้างกว่าทั้งมุมมองทางปรัชญาและมุมมองของมนุษย์ เข้ากับคลื่นของสาร ในที่นี่จะไม่ใช้ตัวคันจิภาษาญี่ปุ่น แต่จะใช้ [/FONT]HADO<o></o>[FONT=&quot]

    ปัจจุบันเทคโนโลยีใหม่[/FONT] HADO[FONT=&quot] ได้รับการสนใจ[/FONT][FONT=&quot]เป็นอย่างมาก ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ค้นพบ ได้นำ [/FONT][FONT=&quot]HADO-Technology[/FONT][FONT=&quot]ไปใช้ในอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง[/FONT][FONT=&quot] แท้จริงแล้วมีใช้กันมายาวนานในประวัติศาสตร์ ทั้งอายุรเวทของอินเดีย หยินหยาง 5 วิถีของจีน เทคนิคการรักษาพยาบาลโดยใช้สมุนไพรและแร่ธาตุของอินเดียแดงรวมทั้งในปิรามิด ต่างๆมากมาย กล่าวโดยย่อว่า [/FONT]HADO-Technology [FONT=&quot]คือ พลังของการรับรู้ พลังความรู้สึก พลังจิต พลังธรรมชาติฟ้าดิน เทคนิคที่ใช้พลังแห่งพระเจ้า

    [/FONT][FONT=&quot]ในปัจจุบันได้มีการ[/FONT][FONT=&quot]นำ [/FONT]HADO [FONT=&quot]ไปใช้[/FONT][FONT=&quot]ด้านอุตสาหกรรม[/FONT][FONT=&quot]อย่างแพร่หลายเพราะ [/FONT]HADO [FONT=&quot]สามารถวัดได้ออกมาเป็น[/FONT][FONT=&quot]ตัวเลข จึงทำให้เข้าใจผลของพลังนี้อย่างชัดเจนมากขึ้น[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2009
  2. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]ความเป็นมาของ [/FONT]HADO<o></o>[FONT=&quot]

    เดิมทีผม(Dr.Yamanashi) ทำงานด้านวิจัยพัฒนาและพัฒนาสินค้าของบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ ปี1990 คุณ เอโมโต้ ได้นำเครื่องวัด [/FONT]HADO[MRA] [FONT=&quot]เป็นจุดเริ่มเข้าสู่โลกเหลือเชื่อของ [/FONT]HADO[FONT=&quot] เครื่องมือชิ้นนี้ประดิษฐ์ขึ้นโดยโรนัล เจ วินสต๊อก นักวิทยาศาสตร์หนุ่มชาวอเมริกัน เวลาต่อไป ได้ถูกพัฒนามาเป็น [/FONT]LFT (Life Field Tester) [FONT=&quot]ทำให้เทคโนโลยีด้าน [/FONT]HADO[FONT=&quot] ได้รับการสนใจอย่างมาก[/FONT]<o>

    </o><o></o>[FONT=&quot]เมื่อผมพบ [/FONT]HADO<o>
    </o><o></o>
    [FONT=&quot]ประธานบริษัทที่ผมทำงานได้บอกผมว่า -นี่คือ[/FONT]HADO[FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]เวลานั้นซื้อมาราคา 15 ล้านเยน [/FONT]<o></o>[FONT=&quot] ผมเป็นคนที่จบทางวิทยาศาสตร์ ในขณะเดียวกันทั้งเพื่อน รุ่นน้องที่เก่งๆ ก็จบด้านวิทยาศาสตร์ แต่ไม่มีใครสนใจ[/FONT]<o> </o>[FONT=&quot]เครื่อง[/FONT]LFT [FONT=&quot]ที่ซื้อมานี้ คนที่จบทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครสามารถใช้เครื่อง[/FONT]LFT [FONT=&quot]นี้วัด ทั้งๆที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดาที่มีโปรแกรมพื้นฐาน ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีคู่มือที่เหมาะสม ซื้อมาแล้ว ทิ้งไว้มุมห้องทดลองหลายเดือนจนฝุ่นจับก็ยังไม่มีใครแตะ [/FONT][FONT=&quot]

    ในวันหยุดวันหนึ่ง ผมเข้ามาที่บริษัทเพื่อเก็บงานที่คั่งค้างจากการไปดูงานข้างนอกทำให้งานสะสม ผมเกิดสนใจอยากจะเล่นเครื่อง[/FONT]LFT[FONT=&quot]เล่นไปเล่นมาผ่านไปครึ่งวัน เริ่มสามารถแยกความรู้สึกที่ใช้[/FONT][FONT=&quot]มือ[/FONT][FONT=&quot]สัมผัสแล้วเปลี่ยนไปแสดงเป็นตัวเลขได้

    หลักจากนั้น ตกเย็น เมื่อทำงานเสร็จ ผมจะเล่นเครื่องนี้อย่างสนุก 1เดือนผ่านไป ทำให้ผมทราบความแตกต่างของสภาพความแข็งแรงของคน การปลูกผักแบบทั่วไปและการปลูกผักแบบอินทรีย์ในรูปตัวเลขได้อย่างชัดเจน[/FONT]<o>

    </o>[FONT=&quot]หลังจากนั้นไม่นานสถาบันวิจัยการแพทย์องค์รวมด้านคลื่น ซึ่งมีนักวิจัยกว่า 50 คนแต่งตั้งให้ผมเป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านคลื่นทั้งๆตอนแรกมีความกังขาต่อเครื่องนี้[/FONT]<o></o>[FONT=&quot] แต่สำหรับผม ตอนนั้นคิดสงสัยเกี่ยวกับ เครื่องนี้ และ [/FONT][FONT=&quot]HADO [/FONT][FONT=&quot]มากๆ[/FONT]
     
  3. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    ขออนุญาตเสริมว่า เพื่อนๆที่สนใจ ให้ลองเข้าไปดู Hado.net จะเจอข้อมูลน่าสนใจ จะได้นำมาประกอบการศึกษาในหัวข้อนี้กัน
     
  4. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    จริงๆจ้า ลืมไปเลยเว็ปนี้ ของ Dr.Emoto ใช้ดูประกอบกัน ขอบคุณ คุณตุ๊มากครับที่ช่วยนำข้อมูลมาช่วยแบ่งปันให้ทราบ
     
  5. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    วัดค่าของอะไรคะ?
     
  6. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    วัดค่าของทุกๆอย่างที่สัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตจ้า เช่น อาหาร(คน-สัตว์) ยา เครื่องสำอางค์ ดิน น้ำ แหล่งน้ำสำหรับเพาะเลี้ยงสัตว์ จิตวิญาณฯลฯ ติดตามต่อนะครับ
     
  7. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]เครื่องวัดคลื่น [/FONT]= [FONT=&quot]จริงๆ คือ [/FONT]?<o></o>[FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ประธานบริษัทประทับใจในค่า[/FONT] HADO [FONT=&quot]ที่ผมทำ ทำให้ผมต้องเล่าอธิบายเรื่อง [/FONT]HADO [FONT=&quot]ให้กับครอบครัว พนักงาน คนรู้จักของประธานบริษัท เพื่อน และลูกค้า เนื่องจากท่านประธานบริษัทท่านนี้เป็นคนมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นทำให้เรื่องนี้รู้แพร่หลายทั่วประเทศ ผมเลยต้องนำเครื่องนี้เวียนไปตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ[/FONT]

    [FONT=&quot]ในที่สุด -ความจริงที่ทายถูก-ไม่ใช่ทฤษฎีของเครื่อง นั่นคือ [/FONT]HADO[FONT=&quot]สัมพันธ์กับความเป็นจริง [/FONT][FONT=&quot]ซึ่งสามารถใช้ตรวจสอบมะเร็งในระยะเริ่มต้น โรครักษายากที่ไม่ทราบมาก่อน ใช้ [/FONT]HADO[FONT=&quot] สามารถอธิบายสิ่งที่เชื่อมโยงกับชีวิตได้[/FONT]<o></o>

    <o></o><o></o>[FONT=&quot]ประวัติของ [/FONT]HADO

    [FONT=&quot]ได้กล่าวไว้แล้วว่า อายุรเวทของอินเดีย หยินหยาง5วิถีของจีนก็เป็น [/FONT]HADO[FONT=&quot] เทคนิคการตรวจวัดนี้ ในอดีต เครื่อง [/FONT]MRA [FONT=&quot]ซึ่งประดิษฐ์โดยนายโรนัล เจ วินสต๊อก จึงไม่ใช่เครื่องแรกที่สามารถวัดค่า HADO ได้[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ประมาณต้นปี 1900 นักวิชาการทางโรค[/FONT] [FONT=&quot]มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อเมริกา นาย [/FONT]Albert Abrams[FONT=&quot]ได้ทำการพัฒนาประดิษฐ์ต้นแบบของเครื่องวัด[/FONT] Radionics [FONT=&quot]เรียกว่า[/FONT] HADO<o></o>

    [FONT=&quot]ในยุโรปโดยเฉพาะเยอรมันใช้เครื่องตรวจ [/FONT]HADO [FONT=&quot]จำนวน[/FONT][FONT=&quot]25[/FONT],[FONT=&quot]000[/FONT]-[FONT=&quot]30[/FONT],[FONT=&quot]000 เครื่องในการรักษาพยาบาล ในญี่ปุ่น ดร.โอมุรา ใช้วิธีการตรวจ[/FONT] HADO[FONT=&quot] ซึ่งใช้การเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อคน เริ่มวิธีการทำ [/FONT]O-Ring Test [FONT=&quot]ทำนองเดียวกัน[/FONT][FONT=&quot]กรมน้ำประปาของญี่ปุ่นใช้[/FONT][FONT=&quot]เพื่อตรวจ แนวน้ำไหล และทิศทางน้ำ[/FONT]

    [FONT=&quot]ทำไมเทคนิคนี้[/FONT][FONT=&quot]และเครื่องวัด [/FONT]HADO[FONT=&quot] ซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่าแก่จึงไม่แพร่หลาย[/FONT][FONT=&quot]ไม่แพร่หลาย ก็เพราะว่าผู้วัดมีความสำคัญมากกว่าเครื่อง[/FONT][FONT=&quot]และไม่ใช่ว่าทุกคนทำได้ [/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]การก่อเกิด [/FONT]HADO-Technology [FONT=&quot]ในประเทศญี่ปุ่น[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ปี 1990 เครื่องตรวจ [/FONT]HADO[FONT=&quot] ถูกนำเสนอสู่ตลาดและผมสามารถใช้ได้ข่าวแพร่กระจายไปทั่วว่า -มีเครื่องมือฉลาด- และบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ซื้อเครื่องวัก HADO มาใช้[/FONT]<o></o>[FONT=&quot] ผลก็คือ มีเสียงตอบกลับมามากมายว่า -วัดไม่ได้- -เครื่องหลอกลวง- ด้วยสาเหตุดังกล่าว เพื่อไขความจริง บริษัทที่ซื้อ นักวิชาการ จึงได้ ร่วมก่อตั้งคณะกรรมการศึกษาเครื่องตรวจวัด[/FONT] HADO<o></o>[FONT=&quot]ผลก็คือ ผมสามารถตรวจ [/FONT][FONT=&quot]Blind Test[/FONT][FONT=&quot] ของสารเคมีเกษตรตกค้างความเข้มข้นต่ำได้ ซึ่งทางคณะกรรมการศึกษาเครื่องตรวจวัด [/FONT][FONT=&quot]HADO [/FONT][FONT=&quot]ได้จัดการทดลองขึ้นมาจึงต้องยอมรับปรากฏการณ์นี้[/FONT]
     
  8. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]การพัฒนา[/FONT][FONT=&quot]พลังของ[/FONT][FONT=&quot]สมองซีกขวา[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]

    ปี 1980 ญี่ปุ่นเริ่มวิจัยเกี่ยวกับสมองซีกขวา ซึ่งเป็นสมองเกี่ยวกับการเรียนรู้ของคน ไม่ใช่มุมมองทางการแพทย์ โดยมีดร.ชิงะ อิจิโอะ เป็น ดร. ทางวิศวกรรม และดร. นานาดะ มาโคโต เป็น ดร. ด้านการศึกษา นานาดะไชด์ เป็นผู้รับผิดชอบ[/FONT]<o></o>[FONT=&quot] ดร.ชิงะ อิจิโอะ ขอให้มีการวัดคลื่นสมองของเขา เนื่องจากเขากำลังวิจัยเรื่องคลื่นสมองซึ่งสำคัญต่อการใช้ศักยภาพของคนอย่างไร้ขีดกำจัด โดยการตรวจสอบคลื่นสมองของผู้มีชื่อเสียงด้านต่างๆ เริ่มจาก ยูริเงร่าคนที่มีพลังอำนาจพิเศษ วัยรุ่นอัจฉริยะ นักกีฬาชั้นแนวหน้า ผู้มีชื่อด้านหมากฮอร์ส เพื่อพัฒนาการฝึกอบรมคลื่นสมองโดยการดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมา[/FONT]<o>

    </o>[FONT=&quot] ดร.ชิงะ อิจิโอะ ค้นพบจากการทดลองว่า คลื่นอัลฟ่าเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งมี 3 ชนิด ในคลื่นอัลฟ่า 3 ชนิดนี้ คลื่นมิดอัลฟ่าหรือคลื่นอัลฟ่าขนาดกลางสำคัญที่สุด ซึ่งถูกสร้างได้จากการทำสมาธิและผ่อนคลาย[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]

    สโลอัลฟ่า[/FONT]:[FONT=&quot]เป็นคลื่นสมองขณะที่ผ่อนคลายสบายๆหากพ้นขีดจะทำให้ง่วงนอน
    [/FONT]<o></o><o></o>[FONT=&quot]คลื่นมิดอัลฟ่า[/FONT]:[FONT=&quot]เป็นคลื่นสมองขณะที่ทำสมาธิผ่อนคลายสบายๆ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]คลื่นฟาสอัลฟ่า[/FONT]:[FONT=&quot]เป็นคลื่นสมองขณะที่เริ่มทำสมาธิ ความรู้สึกเตรียมพร้อม หากพ้นขีดไปจะกลายเป็นความตึงเครียดและเปลี่ยนเป็นกระวนกระวาย[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ตัวอย่างคือทันทีที่นักหมากฮอร์สที่มีเก่งๆ ทราบว่า[/FONT][FONT=&quot]เดินเช่นนี้จะชนะหรือว่า[/FONT][FONT=&quot]ถ้าเดินเช่นนั้นจะแพ้ พบว่ามีคลื่นมิดอัลฟ่าออกมามาก หรือถ้าเป็นนักพลังจิต ในขณะที่กำลังใช้พลังจิต งอช้อน ก็[/FONT][FONT=&quot]พบว่าจะมีคลื่นมิดอัลฟ่าออกมามากเช่นเดียวกัน[/FONT]<o> </o>[FONT=&quot]หรือนักกีฬา[/FONT][FONT=&quot]อัจฉริยะ[/FONT][FONT=&quot]สามารถรักษาสภาพของคลื่นมิดอัลฟ่า แม้ในสภาวะคับขัน คลื่นมิดอัลฟ่าจะถูกสร้างขึ้นและคงสภาพอยู่แบบนั้น นักกีฬาอัจฉริยะจะมีความสามารถในการพัฒนาคลื่นสมองมิดอัลฟ่ามาแต่กำเนิด[/FONT]<o></o><o></o>[FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]การตรวจพบคลื่นมิดอัลฟ่าในการวัดคลื่นสมอง[/FONT]

    [FONT=&quot]ผมและดร.ชิงะ อิจิโอะ มีความเห็นตรงว่าขณะนี้เราทั้งสองยังไม่ได้เข้าสู่โลกของคลื่นสมองเลย[/FONT]<o> </o>[FONT=&quot]หลังจากที่เข้าใจเรื่องคลื่นสมองจากผลการตรวจวัดคลื่นสมอง อธิบายอย่างง่ายๆ คือ การวัด -คลื่นสมอง ณ เวลาใกล้ตาย- ลองคิด ภาพในละครทีวี -เวลาใกล้ตาย- สภาพผู้ป่วยบนเตียงคนไข้ติดเครื่องวัดคลื่นหัวใจซึ่งแสดงคลื่นหัวใจเป็นเส้นตรง โดยปกติขณะที่คนกำลังคิด คลื่นสมองจะมีลักษณะเป็นคลื่นเช่นเดียวกับคลื่นหัวใจ หากสามารถวัดคลื่นสมองได้ 8-10 ครั้งต่อวินาที เรียกว่า สภาพคลื่นมิดอัลฟ่า หากคลื่นสมองที่กำลังวัด มีลักษณะเป็นเส้นตรง นั่นคือสมองไม่ทำงาน ซึ่งเป็น -คลื่นสมองเวลาใกล้ตาย- มองจากคลื่นสมอง ทราบว่าไม่ใช่สภาพตัดสินใจคิดโดยปกติ นอกจากนี้สามารถกล่าวได้ดังนี้[/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อเปรียบเทียบกับทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินเทียบกับวงปีของต้นไม้ ผิวสมองซีเรบัมซึ่งทำหน้าที่ปล่อยคลื่นสมองจะเป็นส่วนผิวไม้ซึ่งเป็นชั้นสมองที่ใหญ่ที่สุด สมองมีวงปีเรียงลำดับตามนี้ คน->สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม->สัตว์เลื้อยคลาน ตามลำดับจากด้านนอกเข้าไป[/FONT]

    [FONT=&quot]สิ่งมีชีวิตสามารถควบคุมกิจกรรมของผิวสมองซีเรบัม ด้วยสัญชาตญาน[/FONT]<o> </o>[FONT=&quot]สภาพเช่นนี้ เรียกว่าสภาพ -ว่าง- ซึ่งเป็นสภาพที่ยิ่งใหญ่ราวกับท้องฟ้า[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]สุนัขจะมีสัญชาตญาณตัดสินว่าอะไรดีหรือเลว ในการเลือกภาชนะที่มีน้ำธรรมชาติใส่อยู่จาก ภาชนะ 2 ภาชนะ ที่มีน้ำประปาและน้ำธรรมชาติวางอยู่ นั่นคือ สามารถตัดสินได้จากความรู้สึกโดยธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า [/FONT]HADO<o></o>
     
  9. tingman

    tingman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +281
    อยากรู้ข้อมูลอีกครับ

    เป็นศาสตร์ใหม่ สำหรับคนไทยอย่างผม น่าสนใจครับ
    น่าจะมีประโยชน์อย่าง หาค่ามิได้ อยากรู้ข้อมูลอีกเยอะ ๆ ครับ
     
  10. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    ถ้าอย่างนั้น ที่ประเทศญี่ปุ่นคงจะพบคนเป็นมะเร็งในขั้นต้นๆได้พอสมควร เนื่องจากมีเครื่องนี้ แล้วมีการขายให้รพ.ในต่างประเทศไหมคะ?
     
  11. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    เท่าที่ทราบมารู้สึกว่าในประเทศไทยจะมีผู้ใช้ได้แล้ว 1คน แต่เข้าใจว่าตัวเครื่องยังไม่มี(แพงอยู่นาเครื่องนี้) และถ้าทางเอเชียนอกจากญี่ปุ่น ประเทศจีนก็เริ่มมีใช้ในอุตสาหกรรมแล้วนะครับ ส่วนในยุโรปมีหลายประเทศแล้วแต่ที่มีมากสุดน่าจะเป็นที่เยอรมันตามบันทึกของ Dr.Yamanashi

    ไม่ทราบว่าอ่านกันรู้เรื่องไหมครับ เพราะแปลมาจากบันทึกภาษาญี่ปุ่นที่ Dr.Yamanashi อธิบายเรื่อง HADO ให้กับ นพ. ของประเทศไทย(ผมต้องมาแปลไทยเป็นไทยอีกที)
     
  12. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]ในเวลาผมแนะนำการใช้เครื่องตรวจวัดคลื่น ผม(Dr.Yamanashi)จะอธิบายดังนี้ คือ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]1) ต้องตัดสินใจด้วยตนเอง[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]2) ไม่ต้องกังวล ตามความรู้สึก[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]3) เครื่องตรวจวัด เหมือนการวิ่ง 100 เมตร[/FONT]
    [FONT=&quot]วงจรของเครื่อง ตัดสินตามที่คิด หากคิดว่า -อันนี้ดี- ค่าคลื่นที่วัดได้ก็จะสูง หากรลังเลสงสัย ตัวเลขที่ได้ก็จะครึ่งๆกลางๆ[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]เรื่องที่ได้ฟังมาจากดร.ชิงะ อิจิโอะ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]
    ดร.ชิงะ อิจิโอะถาม เด็กอัจฉริยะคิดเลขในใจว่า -ทำไมจึงคิดได้[/FONT]–[FONT=&quot] เด็กจะตอบทันทีเมื่อถูกถามว่า [/FONT]–[FONT=&quot]อาข้างบ้านสอนให้- นั่นคือ ทันทีที่ได้ยินคำถาม คำตอบก็จะผุดขึ้น เหมือนกับไม่ได้คิดเอง แต่เป็นลักษณะเหมือนผีบอก สัตว์จะมีสัญชาตญาณเตือนภัย เสมือนเป็นเครื่องรับรู้ฟ้าดิน วิญญาณ -การทำให้ว่าง- ทำให้สามารถตัดสินได้อย่างยุติธรรม โดยไม่มีข้อคิดส่วนตัว หรือการตัดสินของคนเข้ามาเกี่ยวข้อง[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]มีการสอนวิธีทำให้ -ว่าง- ทำให้ -ไม่มี- หรือ การผ่อนคลายที่ปลดปล่อยอารมณ์ ตัวอย่างเช่น การนั่งสมาธิแบบเซ็น การยืนสงบในสายน้ำตก การหายใจจากท้องเป็นต้น ความจำเป็นในการมีพิธีกรรมเตือนเวลาเข้าสู่สภาพรับรู้ เช่น การโปรยเกลือของซูโม่ การสร้างภาพ เป็นสภาพที่ยังไม่ว่างจริง การปลดปล่อยพลังตามความรู้สึกที่มีอยู่ คิดว่าตามหลักการเป็นการทำให้ว่าง ณ สภาวะธรรมดา (ใส่เสื้อปกติ) โดยไม่ต้องอยู่ในสภาพสะอาดสะอ้านเลิศหรู (ใส่ชุดทักซิโด้)[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]สภาพการวิ่ง 100 เมตร เป็นการวิ่งด้วยพลังทั้งหมดเพื่อมุ่งไปที่จุดหมาย(วิ่งแบบลืมตัวเอง) เป็นสภาวะที่มุ่งไปสู่สถิติความเร็ว เป็นการทำสภาวะ -ว่าง-[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]การค้นพบระบบของสมองคน โดย พอล แมกครีน นักวิชาการด้าน เซรีบรัม อเมริกา[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]
    สมองแบ่งตามหน้าที่ออกเป็น 3 ชนิด คือ[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->1)<!--[endif]-->[FONT=&quot]สมองแบบสัตว์เลื้อยคลาน[/FONT]:[FONT=&quot]เป็นสมองที่อยู่ลึกสุด[/FONT] [FONT=&quot]ความต้องการเพื่อความอยู่รอด สมองรับรู้[/FONT] [FONT=&quot]เรียกอีกชื่อว่า [/FONT]Fairy Brain[FONT=&quot] จะเก็บข้อมูลพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->2)<!--[endif]-->[FONT=&quot]สมองแบบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม[/FONT]:[FONT=&quot]เป็นสมองคุมด้านอารมณ์ ความรู้สึกจิตใจ[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->3)<!--[endif]-->[FONT=&quot]สมองแบบมนุษย์ (สมองซีกซ้าย ซีกขวา)[/FONT]:[FONT=&quot]เป็นสมองคุมด้านการเรียนรู้ ความมีเหตุผล[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]ข้อมูลที่รวบรวมได้จากประสาททั้ง5จะถูกบันทึกลงในสมองแบบ สัตว์เลื้อย[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]คลานและข้อมูลถูกเปลี่ยนจากระบบประสาททั้ง 5 เป็นข้อมูลความรู้สึก 5 [/FONT]<o></o>[FONT=&quot]จากนั้น ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นอารมณ์ความรู้สึกของสมองแบบมนุษย์ และถูกส่งไปยังสมองแบบมนุษย์ สะท้อนภาพในสมองซีกขวา และคิดนึกในสมองซีกซ้าย[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]จาก มิดอัลฟ่า สู่ ความว่าง[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]คุณฟูนะอิ ผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยฟูนะอิซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น กล่าวไว้ว่า [/FONT]“[FONT=&quot]จากอีโก้[/FONT](Ego)[FONT=&quot]ไปสู่([/FONT]Eva)”[FONT=&quot] นั่นคือ จากสมัยของอีโก้ริซึ่มไปสู่ยุคของร่วมมือสมดุล การเรียนรู้[/FONT] “[FONT=&quot]ความว่าง[/FONT]”[FONT=&quot] โดยใช้การวัด [/FONT]HADO [FONT=&quot]คำว่า[/FONT]“Eva”[FONT=&quot] ของคุณฟูนะอิ[/FONT] [FONT=&quot]คือ [/FONT]“[FONT=&quot]ความว่าง[/FONT]”[FONT=&quot]ความตั้งใจจริงแบบมิดอัลฟ่า [/FONT]“[FONT=&quot]ถ้าลงมือทำ-เราทำได้[/FONT]”[FONT=&quot] ช่วยสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรมญี่ปุ่น การต้องการพ้น[/FONT][FONT=&quot]ขีดกำจัดของคน-ความพยายามอย่างสุดชีวิต เป็นความต้องการทำให้เป็นจุดเดียวและมองภาพแม็คโครเท่านั้น การมุ่งอุตสาหกรรมโดยไม่คำนึงความเสียหายของสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเกษตรโดยไม่คำนึงอันตรายต่อคน แน่นอน การมุ่งมั่นดังกล่าว สามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ [/FONT]“[FONT=&quot]ความว่าง[/FONT]”[FONT=&quot]คือ[/FONT]“[FONT=&quot]การใช้ตนเอง[/FONT]”[FONT=&quot] รู้สภาวะของตนโดยรอบ นั่นคือ การอยู่อย่างเข้ากับสภาพแวดล้อม รู้ความเจ็บปวดของรอบด้านของผู้อื่น เป็นเสมือนความเจ็บปวดของตนเอง[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]
    อาจารย์อุราดะ อาจารย์ลมปราณเยี่ยมยอดของสมาคม [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ความว่าง[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot]กล่าวว่าไม่ชอบคำว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]อาจารย์ลมปราณ[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot]แต่เพราะหาคำที่ง่ายกว่านี้ไม่พบ จึงใช้คำว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]อาจารย์ลมปราณ[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot]แนวคิดของอาจารย์อุราดะ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]อย่าติดยึด[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot]มีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ คือ เพียงแค่นี้ สามารถทำให้คนที่ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะนั่งรถเข็นตลอดชีวิต สามารถเดินได้ นั่นคือ ถาม คนที่ถูกปลดปล่อยออกจากรถเข็น ว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ทำไมไม่สามารถเดินได้[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] ได้รับคำตอบว่า[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]บาดเจ็บ[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ถามว่า[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ทำไมบาดเจ็บแล้วเดินไม่ได้[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] ได้รับคำตอบว่า[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]หมอบอกว่า ไม่เคยมีใครที่เป็นโรคนี้แล้วเดินได้ [/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]อาจารย์อุราดะอธิบายว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ตัวอย่างในอดีต เป็นความคิดที่สร้างมาจากประสบการณ์ของคน[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ทันทีที่ทำตัวเองให้มี [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ความว่าง[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] ทำให้สามารถเดินได้ การทำตัวเองให้มี [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ความว่าง[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot] จะทำให้สามารถปลดปล่อยออกจากกรอบ สัญญาณจากข้างบน สามารถรับความหมุนเวียนของธรรมชาติได้ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ความว่าง[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT][FONT=&quot]คือ การใช้ จิตตนเอง[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2009
  13. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    ในวันพรุ่งนี้ผมจะต้องไปเพชรบุรี 2วัน เดี๋ยวกลับมาแล้วจะมาต่อให้นะครับ ขออภัยมาที่นี้ด้วยครับ ^_^
     
  14. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    HADO[FONT=&quot] คืออะไร[/FONT]<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]เพื่อให้เข้าใจ[/FONT]HADO[FONT=&quot] ขอเล่าว่า[/FONT]HADO [FONT=&quot]เกิดที่ไหน เกิดอย่างไร[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]
    ร่างกายของคนเราประกอบด้วยเซลกว่า 60 [/FONT]trillion([FONT=&quot]60 ล้านล้านเซล[/FONT])[FONT=&quot]ซึ่งแต่ละเซลจะปล่อยคลื่น [/FONT]HADO [FONT=&quot]แบบออเคสตร้า แต่ละเซลจะเป็นส่วนหนึ่งในออเคสตร้า ทำหน้าบรรเลงดนตรี ปล่อย[/FONT] HADO[FONT=&quot] ของแต่ละเซลออกมา เซลตับจะมี [/FONT]HADO[FONT=&quot] ของเซลตับ[/FONT] [FONT=&quot]เซลสมองจะมี [/FONT]HADO[FONT=&quot] ของเซลสมอง เช่นเดียวกันไวรัสและเซลมะเร็งจะมี [/FONT]HADO [FONT=&quot]ที่ก่อกวนเซลปกติ [/FONT]HADO [FONT=&quot]ที่ออกจากร่างกายเป็น [/FONT]HADO[FONT=&quot] ที่ออกมาจากเซล[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของเซลซึ่งประกอบด้วยไมโตรคอนเดรียและนิวเคลียส ธาตุต่างๆ โมเลกุล อะตอม เมื่อมองละเอียดขึ้น จะกลายเป็นอนุภาค และควอนตัม[/FONT]<o></o>

    HADO[FONT=&quot] เป็นหน่วยที่เล็กที่สุด เป็นองค์ประกอบที่เล็กที่สุดในสิ่งของและในร่างกาย นั่นคือ อนุภาคถูกสร้างด้วยพลังงานที่เรียกว่า[/FONT] HADO [FONT=&quot]เช่นเดียวกัน ร่างกายของคนเรา ก็ถูกสร้างด้วยพลังงานที่เรียกว่า[/FONT] HADO<o></o>

    [FONT=&quot]ในร่างกายคน นอกจากความรู้สึกทั้ง 5 แล้วยังมีความรู้สึก เช่น ความแตกต่างระหว่างผ้าพันคอสำเร็จรูปที่ขายตามท้องตลาดและผ้าพันคอที่แฟนถักด้วยมือให้มา ความแตกต่างระหว่างข้าวปั้นที่ซื้อในร้านสะดวกซื้อ กับข้าวปั้นที่แม่ทำให้ คือ ความอบอุ่น ความผูกพัน ความระลึกถึง ความรู้สึก นักทฤษฎีทางวัตถุ อาจกล่าวว่า ถ้าใช้วัตถุดิบแบบเดียวกันก็จะเหมือนกัน อาจจะต่างกันตรงที่การถัก แรงจับที่แตกต่าง ทำให้ต่างกัน[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]นั่นคือ [/FONT]HADO [FONT=&quot]เป็นแหล่งเกิดหรือที่มาของความรู้สึกของสิ่งมีชีวิต เช่น สี เสียง กลิ่น รส นอกจากนี้ [/FONT]HADO [FONT=&quot]มีข้อมูลและเป็นพลังงานอย่างอ่อน นั่นคือ พลังงานในการเก็บข้อมูล[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]เครื่องตรวจ[/FONT]HADO Personnel Information Analyzer<o></o>

    [FONT=&quot]ดังได้อธิบายมาแล้วว่า เครื่องวัด[/FONT]HADO [FONT=&quot]ไม่ได้เป็นเครื่องวัด[/FONT]HADO [FONT=&quot]โดยตรง แต่เป็นเครื่องที่ใช้วัดความเปลี่ยนแปลงของปฏิกิริยาเคมีของคนผู้วัดด้วยเครื่อง [/FONT]PIA [FONT=&quot]ที่ผมพัฒนาขึ้นมา[/FONT][FONT=&quot] เป็นเครื่องมือวัด ที่ปรับปรุงการวัดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายให้สะดวกและง่ายขึ้น โดยอ้างอิงจาก[/FONT]เครื่องMRA [FONT=&quot]ของอเมริกาและเครื่อง[/FONT]LFT [FONT=&quot]ของญี่ปุ่นที่พัฒนามาจากเครื่อง[/FONT]MRA[FONT=&quot] ของอเมริกา[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น ขออธิบายเครื่องมือ[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->1)<!--[endif]-->[FONT=&quot]ใส่รหัส 4 ตัว แสดงอวัยวะและอาการป่วย[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot] เช่น ภูมิคุ้มกัน[/FONT]:2BD6, [FONT=&quot]มะเร็ง[/FONT]:3A9D,[FONT=&quot] หัวใจ[/FONT]:336E[FONT=&quot] เป็นต้น[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->2)<!--[endif]-->[FONT=&quot]วางสิ่งที่ต้องการวัดลงบนแผ่นเรียบซึ่งเป็นส่วนของอันเทน่า [/FONT](Antenna) [FONT=&quot]ของเครื่องวัด หรือแตะก้านที่ต่อจาก อันเทน่า [/FONT](Antenna)[FONT=&quot]และป้อนรหัสตำแหน่งที่จะวัดและอาการเข้าเครื่อง การวัดอาหารจะวางบนจาน คนที่จะวัดให้จับที่ก้าน และสามารถวัดสภาพความแข็งแรงของร่างกายผู้ป่วยระบบร่างกายของผู้ถูกวัดได้จาก ผม เลือด หรือน้ำปัสสาวะ[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->3)<!--[endif]-->[FONT=&quot]ในเครื่องวัดจะมี [/FONT]Probe[FONT=&quot] ซึ่งจะมีเสียงดัง ถ้าถุงมือของโอเปอร์เตอร์ไปแตะถูก ปลายสุดของ [/FONT]Probe[FONT=&quot] จะมีกระแสไฟฟ้าประมาณ 0.2-0.3 วินาที[/FONT],[FONT=&quot] 6 [/FONT]V, 30 mA[FONT=&quot] ปล่อยออกจากปลายถุงมือของโอเปอร์เตอร์ เพื่อตรวจความเปลี่ยนแปลงของความต้านทานผิวหนัง สภาพความต้านทานผิวหนังจะถูกเปลี่ยนเป็นเสียงได้ 2 ชนิด เสียง 2 ชนิด คือ เสียงเข้ากันได้หรือ [/FONT]Resonance [FONT=&quot]และเสียงเข้ากันไม่ได้หรือไม่[/FONT]Resonance[FONT=&quot] ประเมินสิ่งที่วัดด้วยความแตกต่างของเสียง[/FONT]<o></o>
    <!--[if !supportLists]-->4)<!--[endif]-->[FONT=&quot]หน้าจอของเครื่องวัด แสดงตัวเลข เริ่มวัด ณ จุด [/FONT][FONT=&quot]±[/FONT][FONT=&quot]0 ณ จุดนั้น หากเสียงเข้ากันได้หรือ[/FONT] Resonance[FONT=&quot]กัน ตัวเลขจะเป็นบวก และหากเสียงเข้ากันไม่ได้หรือไม่ [/FONT]Resonance[FONT=&quot]กัน ตัวเลขจะเป็นลบ[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]จากจุด [/FONT][FONT=&quot]±[/FONT][FONT=&quot]0 หากเสียงเข้ากันได้หรือ[/FONT]Resonance[FONT=&quot]กัน เพิ่มตัวเลข จาก +0[/FONT],[FONT=&quot] +1[/FONT],[FONT=&quot] +2 จนกระทั่ง เสียงจะเปลี่ยนเป็นเข้ากันไม่ได้หรือไม่ [/FONT]Resonance[FONT=&quot]กัน[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]จากจุด [/FONT][FONT=&quot]±[/FONT][FONT=&quot]0 หากเสียงเข้ากันไม่ได้หรือไม่[/FONT]Resonance[FONT=&quot]กัน ให้ลดตัวเลข[/FONT] [FONT=&quot]จาก [/FONT]-[FONT=&quot]0[/FONT],-[FONT=&quot]1[/FONT],-[FONT=&quot]2 จนกระทั่ง เสียงจะเปลี่ยนเป็นเข้ากันไม่ได้หรือไม่[/FONT]Resonance[FONT=&quot]กัน[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]การวัดตัวเลข มี 43 ขั้น จาก -20 [/FONT][FONT=&quot]∼ [/FONT][FONT=&quot]-0 [/FONT][FONT=&quot]±[/FONT][FONT=&quot]0[/FONT] +[FONT=&quot]0[/FONT] [FONT=&quot]∼[/FONT] +[FONT=&quot]20[/FONT] [FONT=&quot]ใช้วัดสิ่งของที่จะวัด[/FONT]<o></o>
    [FONT=&quot]สามารถวัดสภาพสุขภาพแข็งแรงของคน สภาพจิตใจ อาหารและยาดังกล่าวข้างต้น[/FONT]<o></o>
    <o></o>
     
  15. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    ผังแสดงย่านวัดค่า Hado
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Hado.jpg
      Hado.jpg
      ขนาดไฟล์:
      149.9 KB
      เปิดดู:
      215
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2009
  16. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]การวัด [/FONT]HADO[FONT=&quot]ทำอะไรได้หรือ[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]สามารถแบ่งการวัดได้ 3 อย่าง คือ การตรวจสอบสภาพสุขภาพของคน ทดลองวัดคุณและโทษของอาหารและยา ทดสอบความเข้ากันได้ระหว่างคน สัตว์ กับอาหารหรือยา อาหารสัตว์ เป็นต้น จะอธิบายการวัด 3 แบบ อย่างละเอียดดังนี้ คือ[/FONT]

    [FONT=&quot]การตรวจสอบสภาพสุขภาพของคน

    [/FONT]
    [FONT=&quot]การให้ค่าตัวเลขของสภาพร่างกายคน สามารถทำเป็นตาราง จากสภาพอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ตับ กระเพาะ ลำไส้ เป็นต้น สามารถทราบอาการป่วยต่างๆ ตั้งแต่ สภาพสมองข้อไขสันหลัง ที่ 1 ถึง 5 ระบบประสาท สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา โรคเบาหวาน ตับอักเสบ มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการป่วยต่างๆ [/FONT]<o></o>[FONT=&quot]สามารถวัดค่าตัวเลขของสภาพจิตใจ ความกังวล ความเครียด ความสุข [/FONT][FONT=&quot]มาตรฐานของตัวเลข จะเปลี่ยนแปลงตามอายุ ดังตาราง[/FONT]ด้านล่าง[FONT=&quot]

    ยกตัวอย่างเช่น ค่าภูมิคุ้มกันของคนอายุ [/FONT][FONT=&quot]60 เท่ากับ +9 จัดว่ายอดเยี่ยม เป็นสภาพสุขภาพแข็งแรงของวัย 50 แต่ถ้าหากค่าภูมิคุ้มกันของคนที่มีอายุ 30 เท่ากับ +9 เป็นตัวเลขแสดงความที่ไม่แข็งแรง<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] นอกจากนี้ ค่าภูมิคุ้มกันต่ำกว่า[/FONT][FONT=&quot] +6 แสดงว่ามีอาการเจ็บป่วยรุนแรงทั้งชนิดเรื้อรังและเฉียบพลัน

    [/FONT][FONT=&quot]กรณีสภาพจิตใจอารมณ์ โดยปกติ ค่าที่สูงกว่า [/FONT][FONT=&quot]+10 แสดงว่ามั่นคง สำหรับคนในยุคปัจจุบัน เพราะมีความเครียดต่างๆ ทำให้ตัวเลขอยู่ที่ +7 ค่าติดลบ แสดงถึงสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ เป็นค่าแสดงว่ามีความจำเป็นต้องรักษาทางประสาท<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การอบรมผู้ปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญมาก ในญี่ปุ่นมีการใช้ ฮาโด [/FONT][FONT=&quot]HADO ในการตรวจเช็คของแพทย์และทันตแพทย์ ควบคู่กับการตรวจวินิจโรคทางคลินิกเพิ่มมากขึ้นเป็นการตรวจที่เหมาะสำหรับ การสกรีนนิ่ง ที่ทำได้สะดวก สามารถตรวจได้ทั่วทั้งตัว ไม่ต้องยุ่งยากในการตรวจสอบ เช่น เจาะเลือด หรือใช้กล้องส่องกระเพาะ เป็นต้น<o></o>[/FONT]
    <style>tions */ @font-face {font-family:"MS Mincho"; panose-1:2 2 6 9 4 2 5 8 3 4; mso-font-alt:"MS 明朝"; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:modern; mso-font-pitch:fixed; mso-font-signature:-1610612033 1757936891 16 0 131231 0;} @font-face {font-family:Century; panose-1:2 4 6 4 5 5 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:647 0 0 0 159 0;} @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cambria Math"; panose-1:2 4 5 3 5 4 6 3 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1610611985 1107304683 0 0 159 0;} @font-face {font-family:"\@MS Mincho"; panose-1:2 2 6 9 4 2 5 8 3 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:modern; mso-font-pitch:fixed; mso-font-signature:-1610612033 1757936891 16 0 131231 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-unhide:no; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; text-align:justify; text-justify:inter-ideograph; mso-pagination:none; font-size:10.5pt; mso-bidi-font-size:12.0pt; font-family:"Century","serif"; mso-fareast-font-family:"MS Mincho"; mso-bidi-font-family:"Angsana New"; mso-font-kerning:1.0pt; mso-fareast-language:JA;} .MsoChpDefault {mso-style-type:export-only; mso-default-props:yes; font-size:10.0pt; mso-ansi-font-size:10.0pt; mso-bidi-font-size:10.0pt; mso-ascii-font-family:Century; mso-fareast-font-family:"MS Mincho"; mso-hansi-font-family:Century; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 72.0pt 72.0pt 72.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.

    <b</style>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]การทดลองกับอาหารและยาเวชภัณฑ์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    สามารถประยุกต์ใช้ได้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ในญี่ปุ่นจะประยุกต์ใช้แพร่หลายกับด้านอาหาร เกษตร ปศุสัตว์ เป็นต้น โดยเฉพาะการวิจัยพื้นฐาน[/FONT][FONT=&quot]<o> </o>[/FONT][FONT=&quot]เนื้อหารายละเอียด คือ บทท้ายๆ จะอธิบายด้วยตัวเลข[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ยกตัวอย่างเช่น ความปลอดภัยของผักผลไม้ ทดสอบประสิทธิผลของยาสมุนไพรจีนและสมุนไพรอื่นๆเป็นต้น สามารถใช้ตรวจดินในแปลงเกษตร และตรวจวัดน้ำในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ตรวจอาหารสัตว์สำหรับเลี้ยงสัตว์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT] เป็นต้น
    [FONT=&quot]
    อันดับแรก ขออธิบายวิธีการอ่านค่าและแนวคิด วิธีคิดหัวข้อตรวจวัด[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]ในตารางแสดงค่าตัวเลข[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    วิธีการคิดจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสารที่จะวัด สิ่งที่ขอให้จำ คือ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ค่าที่มากกว่า [/FONT][FONT=&quot]+15: มีฤทธิ์ยาสูงมาก<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ค่าที่มากกว่า [/FONT][FONT=&quot]+10: มีฤทธิ์ยามีผลในการรักษาสุขภาพ<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ค่า [/FONT][FONT=&quot]+ : สามารถปรับประสานเข้ากับร่างกายได้ดี โดยเฉพาะ จะไม่มีอันตราย<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ค่า [/FONT][FONT=&quot] - : ร่างกายจะต่อต้าน มีอันตราย[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]ขนมเค๊ก[/FONT][FONT=&quot](ขนมฝรั่ง) +15 คิดว่าไม่อร่อย ไม่สามารถใช้กินได้อร่อย จะกลายเป็นขนมเค๊กที่มีรสขม<o></o> เราคงไม่อยากกินขนมเค๊ก ที่ขมเหมือนยา ไม่ใช่ยาขมที่ทนขมชั่วประเดี๋ยวแล้วหาย แต่คงไม่อยากทนความขมของขนมเค๊ก [/FONT][FONT=&quot]2-300 กรัมเป็นแน่<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] เช่นกันหน้าที่ของแต่ละอย่างจะแตกต่างกัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ปัญหาอยู่ที่ว่า จะใช้ตรวจวัดอะไร[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
     
  19. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]การตรวจวัดความเข้ากันได้ของคนและสัตว์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    บนซองยา จะเขียนว่า สำหรับเด็ก [/FONT][FONT=&quot]1 เม็ด สำหรับผู้ใหญ่ 3 เม็ด เป็นต้น<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ยาแก้หวัดมีหลายชนิด ซึ่งผลิตโดยผู้ผลิตมากมาย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] แม้จะบอกว่ายานี้ดี หรือยาโน้นดี ที่จริงแล้วเราไม่ทราบ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    แน่นอน เวลาที่คุณหมอเขียนใบสั่งยาให้ บางท่านเคยประสบว่า ยาเหล่านั้นไม่เข้ากับร่างกายแต่ละคน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] อาการหวัดซับซ้อน การรับประทานยาหวัดหลายๆ เท่า ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ฮาโด [/FONT][FONT=&quot]HADO จะช่วยให้เลือกปริมาณและชนิดยาที่เหมาะสมที่สุด<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    นอกจากนี้ ปัจจุบัน วิธีการพัฒนาการผลิตอาหารสัตว์ อาหารปลา จะพัฒนาอาหารสัตว์ที่เหมาะกับปลาและสัตว์ จริงๆแล้วถ้าสามารถถามวัวและหมูถึงความชอบ เราก็จะทราบเหตุผลที่ไม่กินอาหารสัตว์นั้นๆ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] หากใช้ [/FONT][FONT=&quot]HADO จะช่วยให้ทราบว่าสารอะไรที่มีกระทบต่อร่างกายของปลาและสัตว์เลี้ยง ต่อจากนี้ไป จะอธิบายว่าวัดอย่างไร<o></o>[/FONT][FONT=&quot] เป็นการวัดความเข้ากันได้ของคนสัตว์กับ [/FONT][FONT=&quot]HADO และวัดสารด้วย HADO<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    กรณีของคน ดังภาพที่แสดงเพียงแค่มือจับแท่งตรวจ ก็เสร็จ กรณีสัตว์หรือปลา จะทำอย่างไรดี[/FONT][FONT=&quot]<o> </o>[/FONT][FONT=&quot]นั่นคือจะใช้ข้อมูลในร่างกายสัตว์ กรณีของคน เล็บ น้ำเลือด ผม น้ำปัสสาวะ เป็นต้น เป็นส่วนที่แสดงข้อมูล สามารถใช้วิเคราะห์ได้ แต่ความสดและสกปรกหรือสีย้อมที่ติดอยู่บนผม เล็บ จะมีการเปลี่ยนแปลงด้วย จึงไม่เหมาะใช้ทำเป็นข้อมูล[/FONT][FONT=&quot]<o> </o>[/FONT][FONT=&quot]โดยปกติ กรณีของสัตว์ ทดสอบโดยใช้เลือด แต่ของคนใช้เทคนิคที่บันทึกข้อมูลร่างกาย [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การเข้ากันได้และการเข้ากันไม่ได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

    [FONT=&quot]หลักการดังกล่าวข้างต้นนี้สำคัญมากในการวัด[/FONT][FONT=&quot] HADO<o></o>[/FONT]

    [FONT=&quot]การวัด[/FONT][FONT=&quot] HADO ไม่ได้ใช้ HADO วัดลงไปโดยตรง แต่จะเห็นปฏิกิริยาของเซลร่างกาย (การเปลี่ยนแปลงของการต่อต้านทางผิวหนัง)ของผู้ที่ได้รับการวัด เช่น ร่างกาย เซล ของผู้ถูกวัดเข้ากันได้ หรือ เข้าไม่ได้ กับ ฮาโด HADO<o></o>[/FONT]

    [FONT=&quot]ความหมายของการเข้ากันได้ [/FONT][FONT=&quot]Resonance ในภาษาญี่ปุ่นมี 2 ความหมาย คือ<o></o>[/FONT][FONT=&quot]
    1. การเข้ากันได้ของสังคมมนุษย์ : ความคิดและวิธีคิดตรงกัน<o></o>[/FONT] [FONT=&quot]2. ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ : หมายถึง ความแรงและจำนวนการสั่นจากภายนอกที่ทำให้การสั่นภายในหรือวงจรไฟฟ้า มีค่าการสั่นสูงขึ้น กรณีเสียง เป็นทฤษฎี Tuning Fork<o>
    </o>[/FONT][FONT=&quot]
    การเข้ากันได้โดยใช้ [/FONT][FONT=&quot]HADO มีความหมาย 2 ประการคือ <o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]HADOไม่ใช่ของที่แสดงด้วยคลื่นความถี่ ร่างกายของผู้ถูกวัดในขณะที่วัดด้วย HADO จะเกิดปรากฏการณ์เข้ากันได้ Resonance<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ความสมดุลหรือเข้ากันได้ของร่างกาย หรือ ในทางกลับกัน การเข้ากันไม่ได้ หรือการต่อต้าน จะส่งรหัสไปที่สมอง และสะท้อนเกิดปฏิกิริยาในร่างกาย [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]
    การวัดด้วย [/FONT][FONT=&quot]HADO ไม่เป็นวิธีที่รู้สึก HADO แต่ขอให้ทราบว่าการวัด HADO ช่วยยืดอายุการใช้ชีวิตของพวกเรา ปรากฏการณ์เข้ากันได้ หรือเข้ากันไม่ได้ เช่น ความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ การชื่นชม ความประทับใจ ภาพหรือดนตรี ความรักและการต่อสู้ แต่ คนหรือร่างกายที่มี ฮาโด HADO จะมีข้อมูลที่ซับซ้อน ข้อมูลบางส่วนอาจไม่ตรงกัน บางส่วนตรงกัน<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ข้อมูลที่กล่าวถึงในที่นี้ คือ การปรับ Tuning ฮาโด HADO เรียกว่า รหัส Code เช่น สามารถวัดได้ มากกว่า 2,000 รายการ ภูมิคุ้มกัน ตับ ไต เป็นต้น<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ปรากฏการณ์ที่คนชอบกัน ไม่ได้เปรียบเทียบข้อมูลทั้งหมด บางครั้งพิจารณาโดยมองข้ามสิ่งสำคัญด้วย[/FONT][FONT=&quot] ดังคำสุภาษิตญี่ปุ่นกล่าวว่า (ทั้งรอยปาน และรอยสิว)<o></o>[/FONT][FONT=&quot] หากรักแล้ว แม้จุดบกพร่องก็พอใจ หากไม่รักแล้ว แม้จะดีปานใด ก็ไม่ชอบ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การวัด [/FONT][FONT=&quot]HADO เป็นการเปรียบเทียบข้อมูลทั้งหมด ทั้งข้อดีและข้อเสีย มีคนค้นคว้าเรื่องนี้มา 10 ปี คน ร่างกาย และสิ่งของ ต้องพึ่งพากัน ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เป็นวิธีการขยายจุดดี ปรับแก้จุดอ่อน เป็นแนวคิดที่พัฒนาสินค้า การเข้ากันได้ของคน ต้องทราบจุดบกพร่อง และขยายจุดดี <o></o>[/FONT]
     
  20. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    [FONT=&quot]ตัวอย่างจริงของ [/FONT][FONT=&quot]HADO<o>

    </o>[/FONT] [FONT=&quot] จากนี้ไปจะแนะนำ HADO และค่า HADO โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมเกี่ยวข้องกับวงการอุตสาหกรรมอาหารมา 20 ปี จะคุยเน้นเรื่องอาหาร<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] และครั้งนี้ใช้ชื่อหนังสือว่า แนวทางฮาโด HADOISM เขียนเป็นอักษรจีน แปลว่า คลื่น ISM คือ วิถี แนวคิด ความรู้สึก เกี่ยวกับร่างกายของคนอย่างยุติธรรม โดยไม่คำนึงถึงชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ศาสนา นั่นคือ เป็นวิธีมองอย่างยุติธรรมแบบ HADO <o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    สารเจือปนในอาหารและคลื่น[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]
    อาหารแปรรูป เช่น อาหารกล่อง กับข้าว ขนมปัง แฮม ไส้กรอก บะหมี่สำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ซึ่งจำหน่ายในซุปเปอร์มาเก็ตและร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น แน่นอนต้องใส่สารเจือปนอาหาร การหาอาหารที่ไม่ใส่สารเจือปนอาหารนั้นหาได้ยาก ในญี่ปุ่นแบ่งสารเจือปนอาหารเป็น 2 ชนิด คือ สารเจือปนอาหารแบบสังเคราะห์ สารเจือปนอาหารแบบธรรมชาติ สารเจือปนอาหารแบบสังเคราะห์ นั้นได้มาจากปิโตรเคมี ปัจจุบันมี 344 ชนิด ปัจจุบันสารสีแดง (อาคาจึเน) ที่ใช้ผสมในคามาโบโก(แผ่นลูกชิ้นปลา) เป็นสารก่อมะเร็งซึ่งถูกห้ามใช้ เป็นสารเคมีที่ไม่มีในธรรมชาติ จึงไม่สามารถย่อยสลายได้ในตัวคน กลัวว่าจะมีผลกระทบต่อเซลและสารพันธุกรรม กลุ่มสารเจือปนอาหารแบบธรรมชาติ ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ สารสกัดจากพืช สัตว์ จุลินทรีย์ แร่ธาตุ เป็นต้น ปัจจุบัน มี 489 ชนิด<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    เราลองมาดูวัตถุดิบที่แสดงในโรสแฮมของผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] เนื้อหมูโรส[/FONT][FONT=&quot], แบะแซ, ไข่ขาว, โปรตีนจากพืช, โซเดียม Casein, สารปรุงรส (กรดอะมิโน เป็นต้น), โซเดียมฟอสเฟต, Polysaccharide, สารป้องกันอ๊อกซิไดซ์ (วิตามินซี), สารให้สี (โซเดียมไนเตรต), สารแต่งกลิ่น , สารแต่งสี (คารเมท)<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การพัฒนาสารเจือปนอาหารเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็น สำหรับคนที่ไม่มีนม การพัฒนานมผงมีความสำคัญต่อชีวิต อาหารกระป๋องและเทคนิคการแช่แข็งเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นในพื้นที่แห้งแล้งหนาวเย็น แต่อย่างไรก็ตามความหมายของอาหารซึ่งเป็นแหล่งพลังงาน ปัจจุบันความสำคัญของเทคโนโลยีคงเดิม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    แต่ปัจจุบันสารเจือปนอาหารส่วนมากจะเน้นการพิจารณาด้านต้นทุนวัตถุดิบ การเก็บรักษาอาหารได้นาน ทำให้ดูน่ารับประทาน นั่นคือ เทคโนโลยีโกหก หลอก เช่น เมื่อมาดูสารเจือปนอาหารของแฮมข้างบน กรดอะมิโนสารปรุงรส คือโซเดียมกลูตาเมต คือใส่ผงชูรสในแฮม[/FONT][FONT=&quot], สารให้สีแดงที่ทำให้แฮมมีสีแดง เป็นสารที่ใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเป็นสีดำ, ใส่โซเดียมฟอสเฟตเพื่อให้แฮมแข็งตัว นั่นคือเทคโนโลยีเพื่อให้ดูน่ารับประทาน<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    โทษภัยจากยาเคมีด้านการเกษตร เป็นที่ทราบกันว่าควบคุมในระดับ[/FONT][FONT=&quot]ppm แต่สารเจือปนอาหาร ไม่ใช่ระดับ ppm แต่เป็นระดับ % เช่น ในอาหาร 100 กรัม จะมี
    สารเจือปนอาหารในระดับ หลายกรัม<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    สารเจือปนอาหารในญี่ปุ่นและยุโรปอเมริกา พัฒนาก้าวหน้ามาก สารเจือปนอาหารอันตรายจะถูกเอาออก แต่กระนั้น ยังมีอันตรายของสารเจือปนอาหารต่อคน ซึ่งในบรรดาสารเจือปนอาหารนั้น สารกันบูด[/FONT][FONT=&quot], สารแต่งสี, สารให้สี เลวร้ายที่สุด<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ตัวอย่างเช่น สารกันบูด มีพิษแน่นอน เพราะใช้ฆ่าจุลินทรีย์และเชื้อราก็เป็นสิ่งมีชีวิต หากผสมโซเดียม..ที่ผสมในเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป๊ปซี่โคล่าและน้ำบำรุงกำลัง ลิโพวิตัน [/FONT][FONT=&quot]D ในอาหารในสัดส่วน 2%, 5% แล้วให้หนูกิน เราจะพบว่าหนูในกลุ่ม 2% จะมีน้ำหนักลดลง ความเจริญอาหารลดลง, หนูในกลุ่ม 5% ปัสสาวะไม่ออก, เกิดซีสและตาย นอกจากนั้นโซบิตอลโปตัสเซียมที่ใช้ในไวน์หรือซ้อสผลไม้ ก็ส่งผลความเป็นพิษเฉียบพลัน, เป็นสารก่อมะเร็ง, สารกลายพันธุ์ (เป็นพิษทำลายสารพันธุกรรม)<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] สารแต่งสี เช่น สีแดงย้อมให้ขิงดูแดงน่ารับประทานและสีผสมอาหารให้ดูสดใสต่างๆ ส่วนมากวัตถุดิบได้มาจากปิโตรเคมี เช่น สีทาร์ เช่น สีเหลือง [/FONT][FONT=&quot]No. 4, สีเขียว No. 1, สีแดง No. 102 โครงสร้างทางเคมีของสีทาร์ เป็นสารเคมีพิเศษซึ่งพันธะ azo, และพันธะxanthin ทำปฏิกิริยากันและยึดตืดโปรตีนแน่น หลุดออกยาก สงสัยจะก่อให้เกิดมะเร็งหรือผิดรูปร่าง ปัจจุบัน ใช้สีธรรมชาติ Cochineal ซึ่งเป็นสารที่สกัดออกมาจากแมลง ผสมในเครื่องดื่มน้ำอัดลม จะมีสีแดงไวน์ สีที่ได้จากธรรมชาติก็จะไม่แตกต่างจากเคมี เพราะเป็นคลื่น<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] เมื่อดู [/FONT][FONT=&quot]HADO และค่าความสมดุลฮอร์โมน จะต่ำมาก ความสมดุลฮอร์โมนเป็น “กฎกติกา” ของร่างกายคน สารเจือปนอาหาร หลอกโกหก ตรงข้ามกับ “กฎกติกา” ผลก็คือ ความสมดุลฮอร์โมนก็จะผิดปกติไป เราต้องคิดทบทวนกันใหม่<o></o>[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...