เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    ดีใจค่ะที่ไม่มีอะไร แ่ต่ก็เตรียมมาม่าไว้ แหะๆ ยังไงก็ได้กิน เอ้อ ไปปักขิงไว้
    ไม่รู้ตายไปแล้วยัง 555555 เลยไม่แนะนำคุณอธิษฐานนะคะ ขอข้าม

    ขอบคุณพี่ดาวทะเลทรายค่ะอุตส่าห์หารูปมาให้หายกังวล หลวงปู่ท่านยังคงความเมตตา
    แต่หากคนยังไม่ช่วยกันทำความดี หลวงปู่ เทพทั้งหลาย คงท้อ คงต้องปล่อยวาง
    ให้เป็นตามเวรตามกรรม
     
  2. เห็ดหอม

    เห็ดหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +1,805
    อาจารย์ลืมเรื่องสำคัญไปเรื่องนะคราบ

    หลวงปู่บอกคาถาแก้มาให้เพราะปัจจุบันเชื้อโรค

    มันพัฒนาไปจากเดิมแลัวไม่ใช่โจมตีแค่ปอด

    อย่างเดียวเดี๋ยวนี้มันลงกระเพาะลำไล้ทำให้

    ท้องเสียด้วยหลวงปู่ให้ใช้คาถาหลวงพ่อโอภาสีดังนี้

    " อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ

    ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง "

    เป็นคาถาปรับธาตุนะครับ ทั้งธาตุน้ำ ธาตุดิน

    ก็ตั้งใจหมั่นสวดกันหน่อยนะขรับหลวงปู่ท่า่น

    อุส่าห์มีเมตตามาบอกด้วยพระองค์ท่าน


    สาธุ สาธุ สาธุ เป็นมหากุศล เป็นบุญจริง

    สำหรับสมาชิกที่ได้ทราบกรุณาแจ้วต่อๆไปด้วยก็ดีครับ

    ช่วยๆกันฟันฝ่าให้ผ่านพ้นนนนนนน
     
  3. เห็ดหอม

    เห็ดหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +1,805
    พระบูชาหลวงปู่พระโคะเจ้า(หลวงปู่ทวด)ปางธุดงด์ปัจจุบัน

    ผมนิมนต์ท่านมาโปรดอยู่่ีที่บ้านผมแล้วครับ เดิมผมมีพระบูชา

    ท่านอยู่แต่ไม่มีปางธุดงด์ก็มีความปรารถนาจะได้ไว้บูชา

    แล้วท่านก็มาโปรด หลวงปู่องค์นี้หลวงปู่พรหมปัญโญ(ดู่)

    ปลุกเสกครับเท่าที่ทราบ ลูกสิทธ์สายตรงยังไม่มีเลยครับ

    บุญจริงๆๆเลยครับโมทนาบุญครับ สำหรับผู้นำบุญ

    สำหรับไม้ครู(ไม้เท้า)ก็เช่นกัน มีเวลาว่างผมจะถ่ายรูป

    มาโพสย์ให้ท่านยลกันนะครับ เพราะพึ่งกลับมาจาก

    แม่สอด เดียวจะเดินทางต่อไปปราจีนบุรีแล้วแวะเข้ามาแปลบเดียว
     
  4. เห็ดหอม

    เห็ดหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +1,805
    สวัสดีครับอาจารย์suwi เห็นเข้ามาอ่านเมื่อวาน

    ไม่แวะเข้าไปที่บูธอาจารย์ คนแยอะมากและก็มี

    เรื่องฮาๆๆๆๆหลายเรื่อง
     
  5. unclenon

    unclenon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +228
     
  6. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    คุณเห็ดหอมเจ้าคะ นี่มันบทเดียวกับบทสวดบูชา หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ หรือเปล่าคะ?

    เพราะดิฉันสวดบทนี้ทุกวัน ครั้งละ 15 เที่ยว มาหลายปีแล้ว
    และอาจารย์สามตาก็เคยดูให้นานมาแล้วด้วย ว่าหลวงปู่ทวดดูแลอยู่
    ซึ่งก็คงเป็นเพราะเราสวดมนต์บทนี้นี่แหละ ใช่หรือเปล่าคะ?

    แล้วหลวงพ่อโอภาสีนี้เป็นอะไรกับหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ละคะ งง จริงๆ?
    หรือเป็นชื่อเรียกอีกชื่อ อะค่ะ?
     
  7. TriKun

    TriKun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,346
    ขอโมทนาทุกๆ ท่านนะครับสำหรับจิตที่เป็นกุศล
    โดยเฉพาะการสวดบทประจำตัวของหลวงปู่ทวด และหลวงปู่โอภาสี
    กระผมเองก็สวดบทของหลวงปู่โอภาสีเป็นประจำทุกวันเช่นกันครับ
    เพราะรู้สึกศรัทธาและเลื่อมใสในปฏิปทาของท่าน ก็เลยใช้เป็นคาถาประจำตัวเลยครับ
    การสวดนั้น ผมสวด ๓ จบครับ ถ้าขยันหน่อยก็ ๙ จบ
    ถ้าใครใช้เป็นคำภาวนาในการนั่งสมาธิก็จะดีนะครับ........
     
  8. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    หลวงพ่อโอภาสี เป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา จ.นครนายก
    ซึ่งสำเร็จทางเตโชกสิณ มีนามเดิมว่า “ชวน” เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช บุตรของนายมิตร นางล้วน
    นามสกุล “มลิวัลย์” อายุได้ 5 ขวบ บิดาและมารดานำไปฝากไว้กับอาจารย์ ณ สำนักวัดใต้
    เพื่อที่จะได้เล่าเรียนหนังสือ ก่อนจะนำไปฝากบวชเป็นสามเณร ณ สำนักวัดโพธิ์
    โดยมีท่านอาจารย์ที่วัดนี้เป็นพระอุปัชฌาย์ เล่าเรียนพระปริยัติธรรมอยู่เป็นเวลานาน
    พอสมควรจนความรู้แตกฉาน จึงได้ลาบิดาและมารดาเดินทางมาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ โดยฝากตัวเป็นศิษย์ของ
    สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ศึกษาได้ระยะหนึ่งจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และเล่าเรียนทางด้านพระพุทธศาสนาในวิชาการต่างๆ
    เป็นเวลานานหลายปี จึงได้เข้าสอบไล่แปลพระปริยัติธรรม สอบได้เปรียญ 3 ประโยค กระทั่งถึงเปรียญ 7 ประโยคตามลำดับ

    ท่านมหาชวนได้เป็นที่เคารพของประชาชน ทำให้คนรู้จักท่านมากขึ้น เพราะเห็นว่า
    การปฏิบัติภารกิจประจำวันของท่านเริ่มเปลี่ยนไป เพราะแทนที่จะนั่งหลับตาภาวนาเหมือนกับ
    พระเกจิอาจารย์อื่นๆ แต่ท่านกลับบูชาเพลิงพร้อมกันไปด้วย ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะเป็นทรัพย์สินเงินทองมีค่าใดๆ
    ก็ถูกนำเอาไปโยนเข้ากองไฟเสียหมด ไม่มีการเสียดายด้วยประการใดทั้งสิ้น แม้ท่านจะเผาไปมากเท่าใด
    ก็มีผู้ศรัทธานำไปถวายให้เผามากยิ่งขึ้น

    สิ่งของที่ท่านนำไปบูชาเพลิงนั้น หากท่านผู้ใดต้องการจะขอ ท่านก็ยินดีให้ การกระทำของท่าน
    ประชาชนจึงนำไปวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วกรุง บางคนก็มองในแง่อัศจรรย์ ซึ่งไม่เคยพบเห็น
    บางคนก็คิดว่าท่านวิกลจริต เพราะได้เห็นท่านมุ่งการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
    โดยจะจุดธูปเทียนบูชาพระมีควันตลบอบอวนไปทั่วห้อง ทำให้บางคนคิดว่าไฟกำลังไหม้กุฏิของท่าน

    แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นท่านนั่งสงบอยู่ที่หน้าบูชาพระ
    ในลักษณะของผู้ที่กำลังทำสมาธิ จึงจะเข้าใจว่าท่านเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน โดยที่ตัวท่านเองไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
    แต่จะยึดมั่นความสันโดษเป็นที่ตั้ง และท่านจะฉันอาหารเพียงมื้อเพลมื้อเดียวเท่านั้น

    สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ที่หน้าโต๊ะบูชาในกุฏิของท่านและบริเวณรอบๆ จะเต็มไปด้วยพระบรมรูปหล่อ
    และพระบรมรูปฉายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นจำนวนมากมาย
    ทุกวันเมื่อฉันเพลเสร็จท่านจะเข้าห้องเพื่อทำสมาธินานจนกระทั่งถึง 4 โมงเย็น หลังจากนั้นก็จะไปทำวัตรสวดมนต์เย็นในโบสถ์
    เสร็จแล้วก็จะกลับเข้าห้องบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิต่อไปจนเช้าของอีกวันหนึ่ง

    เมื่อท่านปฏิบัติเช่นนี้นานเข้า ได้มีผู้ที่เคารพไปหา ท่านมักจะกล่าวเสมอๆ ว่า “มหาชวนนั้นตายไปแล้ว อาตมาไม่ใช่มหาชวน”

    แต่ถ้าถามถึงอายุ ก็จะได้รับคำตอบว่า “อายุของอาตมานั้นไม่ทราบ แต่เวลานี้ 60 ปีเศษแล้ว”
    ทุกคนที่ได้ฟังต่างก็แปลกใจและตีความหมายไม่ออก จึงทำให้มีผู้เชื่อกันไปว่า หลวงพ่อโอกาสีมิใช่ตัวของมหาชวนโดยแท้จริง
    แต่เป็นวิญญาณของเทพเจ้าหรือผู้วิเศษองค์หนึ่งที่มาอาศัยร่างของมหาชวนอยู่เท่านั้น

    ประมาณปีพ.ศ. 2484 หลวงพ่อโอภาสีได้ออกจากสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร
    นัยว่าเสด็จพระอุปัชฌาย์ไม่ทรงโปรดการกระทำของท่าน
    และได้จาริกธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆ จนพบกับองค์พจนสุนทร
    พระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในการค้นคว้าเรื่องวิญญาณ และได้รับคำแนะนำให้ไปอยู่ที่ ต.บางมด อ.บางขุนเทียนซึ่งมีศาลเจ้าอยู่ด้วย

    เมื่อเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวก็เกิดความพอใจและได้ปักกลดลงในที่ของนายเนียม คหบดี
    ซึ่งเป็นผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาคนหนึ่งในย่านนั้น ในตอนกลางคืน ท่านได้ใช้ความสงบวิเวกในบริเวณสวนนี้
    ทำกิจของท่านด้วยการนั่งหลับตาพนมมือเข้าสมาธิอยู่ใกล้กับกองไฟที่ท่านสุมไว้อย่างสว่างไสว

    ต่อมาเจ้าของสวนและชาวบ้านละแวกนั้นได้เรียกชื่อท่านว่า “หลวงพ่อโอภาสี”
    และได้พร้อมใจกันสร้างกุฏิเล็กๆ ถวายเพื่อป้องกันแดดฝน แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจมากนัก และก็ยังคงเคร่งครัดการสุมไฟไว้ตลอดทั้งคืนเช่นเดิม

    ในเวลาต่อมา การก่อไฟของหลวงพ่อได้กลายมาเป็นการเผาจตุปัจจัยสิ่งของต่างๆ ที่ประชาชนนำมาถวาย
    เป็นต้นว่า ธนบัตรนับจำนวนหมื่นๆ ผ้าที่ประชาชนนำมาทอดเครื่องอุปโภคบริโภค
    เครื่องกระป๋อง หรือแม้แต่เครื่องประดับต่างๆ ก็โยนเข้ากองเพลิงทั้งสิ้น

    เหล่าชาวบ้านที่รู้จุดประสงค์ของท่านก็ต่างนำน้ำมันก๊าซไปถวายเพื่อใช้ในการเผาปัจจัยต่างๆ นั่นเอง ซึ่งหลวงพ่อเคยกล่าวว่า

    “โดยปกติ แสงไฟที่เผาผลาญสรรพสิ่งอื่นๆ จนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านไปนั้นก็จัดเป็นธาตุที่มีความร้อนสูงอยู่แล้ว
    แต่ทว่าจิตใจของมนุษย์เรายังมีความร้อนยิ่งไปกว่า กล่าวคือ ร้อนด้วยความโลภ โกรธและหลง
    ไม่มีที่สิ้นสุด ฉะนั้น การที่อาตมานำเอาจตุปัจจัยไทยทานทั้งหลายที่มีผู้นำมาถวายมาเผาเสียเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นพุทธบูชา
    ขอให้ช่วยดับความร้อนในกายใจของมนุษย์ให้หมดไป หรือกล่าวอย่างง่ายๆ ก็คือ เผากิเลสทั้งหลายให้หมดไปนั่นเอง”

    หลวงพ่อโอภาสีมรณภาพไปเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2498 เป็นเวลาเกือบ 60 ปีแล้ว
    แต่สังขารยังมิได้มีการเผา ยังคงอยู่ในสวนอาศรมบางมด มีพุทธศาสนิกชนผู้เคารพศรัทธาไปกราบไหว้
    บูชามิได้ขาด ประหนึ่งท่านยังมีชีวิตอยู่

    [​IMG]
     
  9. tantawan

    tantawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +1,756
    เคยงงๆและ..สงสัยจริงๆค่ะ...ว่า
    หลวงพ่อโอภาสี เป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา จ.นครนายก หรือ จ.ลพบุรี...กันแน่??
     
  10. TriKun

    TriKun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,346


    หลวงปู่กบ วัดเขาสาริกา จ.ลพบุรี ครับผม
     
  11. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    แสดงว่า บทสวดที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่บทสวดบูชาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    วัดช้างไห้
    อย่างนั้นหรือคะ?

    ยัง งง อยู่

    ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
     
  12. เห็ดหอม

    เห็ดหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +1,805
    คุณอธิษฐานคาถาที่แจ้งไว้เป็นคาถาของ

    หลวงพ่อโอภาสีครับ ของหลวงปู่พระโค๊ะเจ้า(หลวงปู่ทวด)

    สวดดังนี้ครับ "นะโม โพธิสัตโต อะคันติมายะ อิติภะคะวา"

    คุณunclenon ที่สอบถามมาว่าสวดกี่จบ ก็ตอบว่า

    ตามสบายครับท่านไม่ได้ระบุนึกได้ก็สวดแล้วกันนะครับ
     
  13. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  14. apholpra

    apholpra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +947
    เข้ามาลงชื่อ่านและขอคารวะทุกท่านครับผม

    ตอนนี้อ่านเพิ่งจะถึงหน้าที่สิบกว่า ฮี่ๆ
    สนุกตื่นเต้นได้ความรู้ดีครับ

    ขอบพระคุณที่นำประสบการณ์มาเขียนให้พวกเราอ่าน
     
  15. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    ตาสว่างแล้วค่ะ

    ข้าพเจ้ามั่วเองแหละ

    เพราะสวดมนต์ทั้ง 2 บท ที่เหล่าท่านช่วยกันลงมา
    จนตัวเอง งง เอง

    คือบทหลวงพ่อโอภาสี เดิมเข้าใจว่า ใช้สวดไหว้เจ้าที่ ทุกวันนี้ยังใช้สวดไหว้เจ้าที่อยู่ ก่อนออกจากบ้าน และตอนเข้าบ้าน
    เพราะเคยมีคนบอกว่า ใช้สวดแล้ว เจ้าที่จะเมตตา ชอบ

    เวลาไปต่างที่ ก็ใช้บทหลวงพ่อโอภาสีนี้เหมือนกัน
    อ่านจากหนังสือแม่ชีทศพร ชื่อเกิดแต่กรรม ถ้าจำไม่ผิด เล่มแรกๆ
    จำมา และเอามาสวดเรื่อยดังกล่าว
    โดยท่านบอกว่า เดินทางไปไหน สวดไปเรื่อยๆ ขอเปิดทางกับเทพเทวา
    อะไรเทือกนี้หนะค่ะ

    ส่วนบทสวดหลวงปู่ทวด เป็นอย่างที่คุณเห็ดหอมแนะมาข้างต้น
    จะสวดทุกวันเหมือนกัน แต่จะสวดบูชา หลวงปู่ทวด

    ไม่ งง แล้วค่ะ
     
  16. daGaz

    daGaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,706
    กลับจากสอบ ช่างปวดหัวจริงๆ พรุ่งนี้ก็สอบอีก

    ไม่รู้เพราะอ่านหนังสือมาก จนเพี้ยน ได้ยินคนเรียกจากข้างหลังซะได้

    ตอนแรกก็ไม่ได้ยิน ไปๆมาๆ เสียงมันก็เริ่มดัง แบบทุ่มๆ ก็แปลกใจ ใครเรียก

    เพื่อนรอบตัว มันก็ไม่ได้เรียกนิหว่า เฮ้อ พอทำไม่สนใจ ก็เสียงแหบกว่าเก่าอีก งงๆ

    เลยต้องลองหันดู แล้วก็ไม่เจออะไร เฮ้อ ก็นึกว่าจะเจออะไร เสียดายดีมั้ยครับเนี่ย

    หลวงพ่อโอภาสี วัดท่านอยู่ฝั่งธนฯ ใช่มั้ยครับ

    เห็นบทสวดแล้วนึกขึ้นได้ เพราะเคยไปมา 2 ครั้ง ซึ่ง ครั้งแรก ก็ไปขอท่านไว้ว่าจะมาเข้าเรียนแถวนั้น ฮ่าๆ
     
  17. เห็ดหอม

    เห็ดหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +1,805
    คุณvisnu มอไซค์เป็นไงบ้างครับ
    เรียบร้อยรึยังครับเห็นเข้ามาอ่าน
     
  18. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)
    .............................................
    วันต่อมา..มาอีกชิ้น
    เป็นไม้เท้า ยาว สวยงาม ลงมุกประดับลาย
    มีปุ่ม หัวไม้เท้า และมีด้านเรียว ที่เป็นปลายไม้เท้า
    มีลายสลักชื่อ ว่า สร้างโดย หลวงปู่ดู่ แห่ง วัดสะแก
    ..........................................................
    เอามาวางตรงหน้า เรา...
    เพื่อให้ ช่วยสะแกน ว่า มีพลัง พิเศษ ด้านไหน
    เราใช้ตาในมอง..โอ้โฮ...ร้อนแรง หวั่ะ!!!!
    ไม่กล้าจับ...ต้องให้ ว่า ที่เจ้าของ เขาจับ
    ....................................................
    พอเขาจับ ด้วยสองมือ
    เอามือซ้าย จับ ด้านหัว.เอามือ ขวาจับด้านปลาย
    มีอาการสำลัก...สำมะคัญ ยิ่ง นัก จับผิด ด้าน ก็ไม่ได้
    ไม้เท้า แรงฏทธิ์ อันนี้..ก็เลยต้องบอกให้ เขา
    จับใหม่ เอามือขวา จับด้านหัว ...เอามือซ้าย จับ ด้านปลาย
    .................................................................
    พอจับใหม่เท่าน้นแหละ...
    พลังมาซู่ซ่า เลย จน คนจับ หน้า แดง ก่ำ
    ........................................................
    เอ...แล้วทำอย่างไรดี หล่ะ..จะได้ รู้ว่า พลัง แรงแค่ไหน
    พลันมีเสียงกระซิบ มาทางหูขวา..
    ...."..ให้มันแบก บ่า..ให้ มันแบกบ่า.."
    เราก็สั่งต่อ ตามที่เขาบอกมา..
    ........................................................
    ว่าที่เจ้าของ ก็ทำตาม..ยกพาดหลัง
    ในท่า ยกน้ำหนัก .."คลีน แอนด์ เจิร์ก "
    พลังยิ่งมาแรง จนหน้า แดงก่ำ เหมือนคนดื่มสุรา
    ......................................................
    .เสียงกระซิบ บอก ต่อมาอีก
    ..."ให้มันค่อยๆๆ ยก..ชูขึ้นแบบ ยก น้ำหนักแข่งขันยกน้ำหนัก "
    เขาก็ทำตามอย่างช้าๆๆ
    ..............................................................
    โอ้โฮ พลังมาแรงเป็น สามเท่า ของ จาก ปกติ
    เป็นพลังความร้อน และให้กำลัง แบบ กำยำ แขง แรง
    ปลุกไฟธาตุ และให้ความแข็ง แกร่ง..กำลัง วังชา
    ...........................................................
     
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เอ...พลังร้อนแรงดี...น่าจะก๊อปปี้ พลัง เก็บไว้
    แล้ว วันหลัง ก๊อปปี้..แจกคนอื่นๆๆได้ โดยไม่มีวันหมด
    ........................................................
    ก็อปปี้..ใส่อะไร...ไว้ดีหล่ะ
    หันไป หันมา..ก็เจอ ห่อกระดาษ ยาว
    ที่ หุ้ม ไม้เท้า ตะพด มาตั้งแต่ต้น
    ก็เลยกำหนดจิต ก็อปปี้ พลัง จาก ไม้เท้า ของ จริง
    ลงมาใว้ที่ กระดาษ ห่อ
    ..................................................
    พอเสร็จ ก็ เอามาวาง คู่กัน..
    ระหว่างไม้เท้า จริง กับ กระดาษ
    ที่ ห่อมา ที่ยังคงรูปไม้เท้าอยู่
    ให้ พวกสมาชิก ชมรมคนตาทิพย์...
    ลอง จับดูว่า พลัง ก็อปปี้ ได้ ใหม
    ........................................
    พากันร้อง ..ไอ๋ หย๋า..กระดาษ แรงกว่า มากมาย
    ก็มานั่งคิด ว่า ทำไม
    ในที่สุดก็คิดออกว่า กระดาษ ต้องแรงกว่า สามเท่า
    เพราะ ตอนที่ก็อปปี้..อักตอน พลังสูง สุด
    ส่วนไม้เท้า พอ เอามาวาง..ไม่ได้ เร่งพลัง..ก็เลยปกติ
    ...........................................................
     
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ไม้เท้านี้..พบว่า สวยงามมากที่สุด ประดับลายมุก.
    และมีพลังมากที่ สุด ที่ ให้คุณ แก่สังขาร
    ราคา ค่าเช่ามา คงจะหลายพัน บาท
    ....................................................
    เห็นสมาชิกชมรม สอง คน อยากได้..เพราะเป็นของหายาก
    เห็น หายแวบๆ...พักใหญ่ๆๆๆ..ก็เดินกลับมา
    ถือไม้เท้า หัวตะพด ธรรมดา...แบบ คนหวงลูกสาว
    ถือมาคนละอัน...
    อ้อ ที่หายไป นี่..แอบไปเอาไม้เท้าธรรมดาๆๆ
    มาให้ อัดพลัง นั้นเอง
    .............................................
    เราก็ไม่ขัดศรัทรา...แต่จะอัดมั่วไม่ได้ เพราะ ของ มัน แรงจัด
    ลองเทียบดู ว่า พลัง ของ เขาสอง คน รับ พลัง จากอันไหน ได้ ดี
    ระหว่าง ไม้เท้า จริง กับ ห่อกระดาษ ห่อ ไม้เท้า
    ................................................................
    ในที่สุดก็ได้ คำตอบ...พลังจาก ห่อกระดาษ แรงมากไป
    ขืนเอาไปใช้...คนใช้จะเดียง เอา
    อัดก็อปปี้ พลัง ลงไป จากไม้เท้า จริง..ก็พอดี ลงตัว
    ทุกคนพอใจ
    ห่อกระดาษนั้นแรงมากๆๆ ก็ เอาใว้ในตู้
    เผื่อจะมีคนมาขอให้ อัดพลัง ลงไป อีก
    จะได้ใช้กัน อย่างกว้างขวาง
    .............................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...