สัมผัสกลุ่ม"หมอใจบุญ" ผู้ขอใช้เวลาช่วงท้ายชุบชีวิตคนตกทุกข์

​

ยังไม่ยุติสำหรับความขัดแย้งทางการเมือง ที่นับวันก็ดูจะร้อนแรง จนทำให้อุณหภูมิความแตกแยกพุ่งสูงปรี๊ดขึ้นทุกที แทบทุกคน แทบทุกภาคฝ่ายต่างก็สนอกสนใจแต่เรื่องการเมือง จนแทบจะไม่มีใครหันมาสนใจปัญหาสังคม ทั้งที่ทุกวันนี้ปัญหาสังคม คนจน คนตกทุกข์ได้ยากก็มีมากมายที่รอคอยการช่วยเหลือ แต่ ณ วันนี้ วันที่ทุกฝ่ายกำลังห้ำหั่น ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามกันอย่างสุดฤทธิ์ จะมีใครเล่าที่จะมีเวลานึกถึง หรือช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก

ยัง...ยังมี... หมอกลุ่มหนึ่งที่เกษียณอายุราชการแล้ว และหันหน้ามาทำประโยชน์ให้กับสังคม ด้วยการตั้งโครงการอักษรเวชการสงเคราะห์ โดยมีนายเนติ ตันติมนตรี นั่งเก้าอี้ประธานโครงการ เล่าถึงที่มาของการเปิดคลีนิคอักษรเวชการสงเคราะห์ว่า เกิดขึ้นจากการรวมตัวของศิษย์เก่าโรงเรียนอักษรวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนย่านคลองเตย โดยศิษย์เก่าที่จบไปแล้วเป็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการห้างร้านต่างๆ จึงมีความเห็นตรงกันว่า ในชุมชนแออัดอย่างชุมชนคลองเตยยังมีคนจนคนด้อยโอกาสอีกมากมายที่ยังไม่ไดัรับการดูแลอย่างทั่วถึง เพราะไม่มีเงินไปหาหมอที่โรงพยาบาลหรือคลีนิคต่างๆ ต้องนอนเจ็บป่วยทรมานอย่างไม่มีใครเหลียวแล อีกอย่างพวกคนไม่มีบ้าน คนเร่ร่อนก็ไม่สามารถไปขึ้นทะเบียนเข้ารับการรักษาของโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคได้ จึงรวมตัวกันก่อตั้งคลีนิค "อักษรเวชการสงเคราะห์" เพื่อให้บริการรักษาโรคต่างๆ ฟรี <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>



"คลีนิคอักษรเวชการสงเคราะห์เปิดรักษาที่ชุมชนคลองเตยมาพักใหญ่แล้ว เปิดให้บริการอาทิตย์ละ 3 วัน วันอังคาร วันพฤหัสบดีและวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 13.00 น. ให้บริการรักษาโรคทั่วไปตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยในปีนี้ได้ขยายคลีนิคมาให้บริการรักษาที่ศูนย์ฝึกอาชีพภัคคินีศรีชุมพาบาล ย่านห้วยขวาง เปิดรักษาทุกวันศุกร์เวลา 09.00-12.00 น."

ที่ผ่านมาผู้เดินทางมารับการรักษาจะเป็น คนยากจน คนด้อยโอกาส แต่ระยะหลังนี้คนที่ตากหน้ามาหาหมอส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งยังมีผู้หญิงหลายคนที่มาปรึกษาหมอเพราะเธอตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>


"ผมว่าปัญหาสังคมมันมากขึ้น คนไม่มีที่พึ่งมากขึ้น ยิ่งตอนนี้อุณหภูมิทางการเมืองมันกำลังร้อน ทุกคนจึงทุ่มความสนใจไปที่ตรงนั้น นโยบายทางสังคม การแก้ปัญหาสังคม การเยียวยาสังคมก็ชะงักหมด แล้วทีนี้คนด้อยโอกาส คนถูกกระทำความรุนแรงจะไปพึ่งใครได้ เพราะตอนนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายพันธมิตรต่างก็สนใจแต่เรื่องของตัวเอง เสียดายถ้าทุกคนเอาพลังแห่งความขัดแย้งมาช่วยเยียวยาสังคมก็คงจะดี"

ด้านนายแพทย์ เลี้ยง เปาอินทร์ อดีตจักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลวชิร วัย 70 ปี หรือ "หมอเลี้ยง" หมอประจำคลีนิคอักษรเวชสงเคราะห์ เปิดใจว่า หลังจากเกษียณอายุจากโรงพยาบาลวชิรก็ตัดสินใจมารักษาคนไข้ฟรีที่คลีนิคแห่งนี้ เพราะเห็นว่าเป็นงานที่ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ายุ่ง ทุกคนมาด้วยใจเมตตา ความรู้สึกที่ได้รักษาคนไข้ฟรีเหมือนได้ทำบุญช่วยเหลือคนยากจน คนด้อยโอกาสให้หายเจ็บป่วย คนไข้ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำไปวันๆ มีรายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท


"ผมรู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนด้อยโอกาส การมาทำงานตรงนี้ไม่มีใครมาบังคับ อยากทำ ทุกวันนี้คนไข้เข้ามารักษาประมาณ 30-40 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นโรคปวดหัว เป็นไข้ เวียนศีรษะ ความดันโลหิตสูง บางรายที่มีอาการรุนแรง ก็จะทำเรื่องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล คนไข้ที่เข้ามารักษาส่วนใหญ่จะบริจาคเงินคนละ 10 บาท 20 บาท สมทบทุนเข้าคลีนิคให้มีเงินหมุนเวียน ที่จะใช้ในการรักษาคนยากจนต่อไป"


หมอเลี้ยงบอกอีกว่า จะขอทำงานรักษาคนไข้ต่อไป เพราะครอบครัวไม่มีภาระอะไร ส่วนตัวก็มีเงินบำนาญไว้ใช้จ่าย ลูกๆ มีงานทำกันหมดจึงไม่รู้สึกห่วงอะไร ทุกวันนี้มีความสุขเพราะคนไข้ที่หมุนเวียนเข้ามาเปรียบเสมือนญาติพี่น้องครอบครัวเดียวกัน

ถือเป็นเรื่องดีสำหรับคลีนิคอักษรเวชการสงเคราะห์ ที่ยืนหยัดมุ่งมั่นช่วยเหลือคนจน คนด้อยโอกาส โดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาแอบแฝงแม้แต่บาทเดียว ที่นี่จึงนับเป็นที่พึ่งยามยากของคนจนอย่างแท้จริง



ที่มา : มติชน

 

เยื่ยมไปเลยคะคุณหมอ

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

โมทนา สาธุ

 

น่ารักดี

โมทนากับคุณหมอใจบุญทุกท่านด้วยค่ะ