การโทรจิตติดต่อมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทยและหลักฐานการพิสูจน์ UFO

ขอบอกว่าไม่ใช่แต่คนไทยเท่านั้นที่เรียกยูเอ็ฟโอได้ ทางอเมริกาเขาก็มี

 

ขอบคุณคุณเกษมมากครับ มีข้อมูลใหม่ๆเอามาลงเพิ่มเลยครับ..ผมรออ่านอยู่...


4=magnetic field generator 6=propulsion equipment 10=gelatinous mass 11=floating cabin 12=magnetic cavity 13=magnetic field generator 17=exterior wall


(A diagram of an Ummite spaceship allegedly supplied by the Ummites themselves. The ship which the Ummites call 'Oawoolea Uewa Oemm', is apparently powered by a mixture of bismuth and lithium - which is. to say the least, remarkable for a vessel capable of negotiating the perils of interstellar space)

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD height=10><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD>โครงการแม่บทเกี่ยวกับการค้นคว้าจานบินและมนุษย์ต่างดาว</TD><TD align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR vAlign=center align=middle><TD width=350></TD><TD width=350></TD></TR></TBODY></TABLE>
ในปลายปี 1972 โรเบิร์ต อีเมนเนกเกอร์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และอัลแลน แซนเดลอร์ ได้รับการติดต่อจากนายทหารระดับสูงแห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ให้ถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับโครงการลับของทางราชการ โรเบิร์ตรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อทราบว่าสารคดีที่จะถ่ายทำนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับจานบิน (ยูเอฟโอ) เนื่องจากคาดว่า เรื่องราวต่างๆ คงจะสานต่อจากโครงการบลูบุ๊คที่ปิดฉากลงเมื่อปี 1969
ทั้งสองมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อได้รับเชิญให้ไปยังหน่วยเพนตากอนของสหรัฐฯ ซึ่งที่นั่นพวกเขาได้พบกับนายทหารอากาศระดับสูงสองสามคนรวมทั้งนาวาเอกวิลเลียม โคลแมน และจอร์จ วีนเบรนเนอร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับโครงการบลูบุ๊ค โรเบิร์ตได้เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า บัดนี้กองทัพอากาศพร้อมที่จะเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดแก่สาธารณชนแล้ว
สิ่งที่ทำให้เขาทั้งสองประหลาดใจมากก็คือ ทางกองทัพอากาศได้นำภาพถ่ายและภาพยนต์ที่ไม่เพียงแต่เรื่องจานบินเท่านั้น ยังมีภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวผิวหนังสีเทา ทั้งที่ยังมีชีวิตและสิ้นชีวิตแล้วมาฉายให้ชมด้วย
โรเบิร์ต อีแมนเนกเกอร์ได้เล่าให้ผมฟังว่า เขาได้เห็นภาพยนตร์ 16 มม. เกี่ยวกับเรื่องมนถุษย์ต่างดาวในที่ทำงานของนายทหารอากาศคนหนึ่ง มนุษย์ต่าวดาวที่เห็นรอดชีวิตจากจานบินตกเมื่อปี 1949 และต่อมาถูกนำไปกักขังไว้ในที่ลับและปลอดภัยแห่งหนึ่งในลอสอะลามอส รัฐนิวเม็กซิโก จนกระทั่งได้สิ้นชีวิตด้วยสาเหตุลึกลับในปี 1952
ในช่วงต้นปี 1973 โรเบิร์ตและอัลแลนได้รับเชิญไปยังฐานบินนอร์ตันซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการบินแห่งกองทัพอากาศที่เมืองซานเบอร์นาร์ดิโน แคลิฟอร์เนีย ทำให้พวกเขาได้พบกับหัวหน้าทีมงานสอบสวนพิเศษของฐานปฏิบัติการกองทัพอากาศ (เอเอฟโอเอสไอ) และพอล ชาร์เติล อดีตหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย และหัวหน้าแผนกโปรแกรมโสตทัศนวัสดุแห่งนอร์ตัน ทั้งสองได้ทราบว่า ในช่วงเดือนเมษายน ปี 1964 มียานอวกาศนอกโลกลำหนึ่งได้ลงมายังพื้นโลกที่ฐานบินฮอลโลแมน เมืองอะลาโมกอร์โด รัฐนิวเม็กซิโก หลังจากจอดไว้เพียงชั่วครู่ มนุษย์ต่าวดาวก็เดินออกมาจากยานและได้ติดต่อสื่อสารกับทีมนักวิทยาศาสตร์และนายทหารอากาศหลายนาย เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้บันทึกไว้ในภาพยนตร์ทั้งสิ้น และโรเบิร์ต อีเมนเนกเกอร์ และอัลแลน แซนเดลอร์ได้ตกลงทำสัญญาถ่ายทำเป็นภาพยนตร์สารคดี สรุปเรื่องราวลงในฟิล์มขนาดความยาว 800 ฟิต โดยต้องหาเรื่องราวและข้อมูลเพิ่มเติมอีกหลายพันฟิต
โรเบิร์ตได้กล่าวว่า มีนักค้นคว้าจานบินคนหนึ่ง ได้รับอนุญาตให้นำภาพยนตร์ดังกล่าวกลับไปฉายดูที่บ้าน แต่ปรากฏว่าเขาได้ปฏิเสธผม ในช่วงระหว่างพูดคุยกันครั้งหนึ่งในหลายครั้งที่ลอสแอนเจลิส อย่างไรก็ตาม ทราบว่าต่อมานาวาเอกโคลแมนได้ยกเลิกการอนุญาตให้ยืมภาพยนตร์อย่างกะทันหัน โดยให้เหตุผลว่า ในช่วงนั้นสถานการณ์ทางการเมืองไม่เหมาะสม เนื่องจากมีเรื่องเอื้อฉาวเกี่ยวกับคดีวอเตอร์เกต
แต่ถึงอย่างไร ภาพยนตร์ดังกล่าวก็ได้รับอนุญาตให้นำมาประกอบการถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับจานบิน
ในหนังสือเรื่อง "จานบิน : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต" ของโรเบิร์ต อีแมนเนกเกอร์ ซึ่งได้พิมพ์เมื่อปี 1974 ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ฐานบินฮอลโลแมน ตอนหนึ่งดังต่อไปนี้
เมื่อเวลา 05.30 น. ในวันนั้นเสียงโทรศัพท์ในห้องที่ฐานปฏิบัติการบินฮอลโลแมน ได้ดังขึ้น และจ่าอากาศแมน ได้รับแจ้งว่ามียานอวกาศลึกลับเข้ามายังฐาน ที่ห้องเรดาร์พบว่าในจอเรดาร์มีเป้าบนจอปรากฏขึ้นหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องเรดาร์ได้ประกาศว่า ยานอวกาศประหลาดได้เข้ามาตรงจุดพิกัดที่ 49-34 องศาทางตะวันตกเฉียงใต้ ตามเส้นทางเข้าไม่เด่นชัด
ย้อนกลับไปยังหอควบคุม พนักงานวิทยุได้พยายามติดต่อกับยานลึกลับนั้นหลายครั้งว่า
"นี่คือหอควบคุมฐานบินฮอลโลแมนแห่งกองทัพอากาศ โปรดแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับยานของท่าน ท่านกำลังล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าเขตทหารคำเตือน

 

"ยอดนิยมคะแนนเยอะเรื่องดีด้วย"

ท่าน เกษม นี่น่าจะได้ขึ้นเป็นสมาชิกยอดนิยมได้แล้วนะว่าไหม?

 

ไปพิสูทธิ์เขาแบบนั้น มันจะสำเร็จได้อย่างไร เข้าข่ายการโชว์ ของพวกนี้เขาไม่แสดงให้คนทั้ว ๆ ไปให้รับรู้ได้ง่าย ๆ หรอก

 

ผม ตอนแรกไม่ค่อยมีความสนใจเรื่องนี้เท่าไรหรอก แต่ผมได้อ่านกระทู้นี้ ผมก็เริ่มชอบขึ้นมาเลย ผมสนใจเรื่อง จดหมาย Ummo นั้นนะคับบ ถ้ามีเวลาก็อยากให้เล่าเรื่อง จดหมายUmmo ทุกฉบับ เลย อิอิอิ

 

ไม่น่ามีจริง ๆ หรอก มนุษย์ต่างดาว เพราะผมไม่เคยเจอเลย เอิ๊ก ๆ ๆ

 

เรื่องจดหมายจากมนุษย์ต่างดาวอุมโม[Ummo] มีรายละเอียดที่น่าสนใจมากครับ..แล้วว่างๆจะนำมาลงให้อ่านกันค่อ..เรื่องนี้ Dr.สุวินัย แปลเอาไว้ครับ..ในหนังสือชุดมังกรจักรวาล แต่ตอนนี้อาจจะหายากหน่อยนะครับเล่มนี้..

เอา ufo clipไปดูเล่นกันก่อนครับ (ในป่าแห่งหนึ่ง โดยตากล้องสมัครเล่น)

[VDO]http://palungjit.org/attachments/a.66375/[/VDO]​

​

 

ผมขอล้อเล่นหน่อยนะครับ คงไม่เสียหายนะครับ(แต่กลัวง่ะพูดจริงๆนะครับ)
แบบว่าภาษาอักษรเขาเป็นยังไงออกเสียงยังไง เทคโนโลยีเป็นยังไง อาหารการกินเป็นยังไงมากกว่า
มีการค้นพบมนุษย์ต่างดาวจริงหรือไม่ผมไม่ทราบ... แต่เงินที่ใช้ไปน่ะ...(...)

 

หรือว่าอีที ของสตีเว่นส์ สปีเบริก์ เป็นข้อมูลจริง เพราะหน้าที่คุณmead ให้มาเหมือน อีทีเลย

 

ในไทยผมคิดว่า เมืองกาญจนบุรีน่าจะมีนะ เพราะผมเคยเห็นไฟแปลกๆแวบไปแวบมาแถวๆเทือกเขาอ่ะคับ

 

เชื่อว่ามีจริง

 

ความลับเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว (EBE)​

EBE เป็นคำย่อมาจาก Extreterrial Biological Entity ที่ใช้เรียกมนุษย์ต่างดาวอย่างเป็นทางการอีกคำหนี่ง นอกจากคำว่า Aliens หรือ E.T.

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรี่องที่บุคคลในระดับสูงสุดสองคน ในกลุ่มคณะบุคคลที่กุมความลับเกี่ยวกับจานบินและมนุษย์ต่างดาว ของรัฐบาลที่ใช้ชื่อรหัสว่า "ฟอลคอน (falcon)"เป็นคนเปิดเผย ร่วมกับอีกคนหนึ่งที่ใช้รหัสลับว่า "คอนดอร์(condor)" ในลักษณะการให้สัมภาษณ์ กับหน่วยข่าวกรอง แม้จะเป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่มีคุณค่า แก่ผู้สนใจทั่วโลกทีเดียว

"...ในช่างปี 1951-1952 เคยมีเครื่องบินไอพ่นขับไล่หลายลำ ติดตามยานของมนุษย์ต่างดาว ปรากกฎว่าเครื่องบินไอพ่นทุกลำตก โดยไม่ปรากฎเจตนาในการกระทำของมนุษย์ต่างดาวแต่อย่างใด (อาจเกิดจากระบบการป้องกันตัวของเขาก็เป็นได้)
เท่าที่ผมเห็นจากภาพถ่าย หรือที่ปรากฎในวีดีโอเทป รวมทั้งข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบทางการแพทย์ สังเกตได้ว่า มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธ์นี้ สูงประมาณ 3ฟุต 4 นิ้ว ถึง 3 ฟุต 8 นิ้ว มีดวงตาใหญ่มากคล้ายตาแมลง และตาแต่ละข้างจะมีหนังตาสองชั้น บางทีอาจเป็นเพราะเขาเกิดอยู่บนดาวที่มีพระอาทิตย์สองดวงก็เป็นได้ โลกของเขาสว่างไสวเจิดจ้ากว่าโลกของเราสองสามเท่า ตรงที่เป็นจมูก จะเป็นรูเล็กๆ สองรู และเท่าที่เราทราบ พวกเขาไม่มีฟันแต่มีส่วนที่เป็นเหงือกหนามากๆ อวัยวะภายในร่างกายไม่มีมากมาย ไม่สลับซับซ้อนเหมือนของมนุษย์ เช่น มีอวัยวะภายในชนิดหนึ่ง คล้ายกับหัวใจและปอดของมนุษย์อยู่ในร่างกาย ระบบย่อยก็เป็นระบบที่ง่าย มีเพียงขับถ่ายเฉพาะอุจจาระเหลว ไม่มีอุจจาระแข็งหรือหยาบ โครงสร้างผิวหนังมีลักษณะ ยืดหยุ่นแต่หนาและหยาบมาก (อาจมีสาเหตุจากความร้อนจากดวงอาทิตย์สองดวงของเขาก็เป็นได้) ส่วนสมองของเขามีก้อนเดียวแต่ดูสลับซับซ้อนกว่าของเรา เนื่องจากมีส่วนที่เป็นกลีบและลอนในลักษณะที่แตกต่างกันมากกว่า

อวัยวะเพศของมนุษย์ต่างดาว มีทั้งเพศชายและหญิง คล้ายของมนุษย์ แตกต่างกันตรงระบบรังไข่ ไตและกระเพาะปัสสาวะอยู่รวมกัน แต่มีอยู่ชิ้นหนึ่งซึ่งเราไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ผมเชื่อว่ามันมีหน้าที่เปลี่ยนอุจจาระที่แข็งและหยาบให้เป็นอุจจาระเหลว อาหารทุกอย่างที่ทานเข้าไปก็จะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลว

พวกเขาสามารถรับประทานอาหารพื้นๆ จำพวกผัก และผลไม้ได้ แต่ผมเชื่อว่าพวกเขาคงประสบปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารจำพวกเนื้อ และผมก็ไม่เชี่อว่าบนโลกของมนุษย์ต่างดาวจะบริโภคเนื้อสัตว์เช่นเดียวกับเรา...."

"...ฟอลคอนได้เล่าต่อไปว่า อายุหรือช่วงชีวิตของมนุษย์ต่างดาว ประมาณ 350-400 ปี และหลายฝ่ายเชื่อว่ามีมนุษย์ต่างดาวพันธุ์หรือตระกูลต่างๆ มาเยือนโลกเราประมาณเก้าพันธุ์แล้ว มีทั้งประเภทพันธุ์เตี้ย พันธุ์สูง และพันธุ์ที่มีขนตามร่างกายและรูปร่างสูงใหญ่ นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายกับแมลง ตามรายงานการพบเห็นในแฟ้มลับที่เขื่อถือได้ของเรา..."

​

 

โห!!! คุณเกษมคะ ตัวหนังสือเล็กน่ะค่ะ น่าสนใจ เด่วไปเรียกน้องNiNe อุ้ย ปู่ไนน์มาแจมอีกคนค่ะ แหมห้องนี้ฮอตเจงๆ

 

โห!!! คุณเกษมคะ ตัวหนังสือเล็กน่ะค่ะ น่าสนใจ เด่วไปเรียกน้องNiNe อุ้ย ปู่ไนน์มาแจมอีกคนค่ะ แหมห้องนี้ฮอตเจงๆ

 

ช่วงนี้ข่าวการพบเห็นUFO ในประเทศไทยเงียบหายไปนะครับ มีใครบ้างที่เคยมีประสบการณ์ หรือเคยถูกเขาจับตัวไปฝังชิบแล้วบ้าง! (บางคนอาจไม่รู้ตัวก็ได้นะครับ...)
มีเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นกันตัวเองและเพื่อนๆครับ หลังจากการไปดูนักพลังจิตจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ มาชุมนุมกันโดยมีแกนนำคือ จสอ.เชิด ชื่นสำนวน เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2541 ที่จังหวัดสิงห์บุรีฃึ่งมีคนมารอชมจานบินนับหมื่นคน และส่วนหนึ่งก็ได้เห็น และผมก็บันทึกภาพได้ในวันนั้นและชัดเจนที่สุด ทำให้ผมมั่นใจเต็มร้อยครับว่าเป็นUFOของจริงแน่ ซึ่งภาพที่ได้เห็นเป็นรูปด้านข้างทรงสามเหลี่ยมสมมาตรสีเงินยวง(สะท้อนแสงอาทิตย์วาบขึ้นมา) มีเสาอากาศเล็กๆด้านบนด้วย เคลื่อนที่เร็วซิกแซกไปมาและหยุดกลางอากาศได้ ไม่ใช่เครื่องบินธรรมดาแน่นอน..(เป็นภาพที่ออกข่าวช่อง 7สี ในตอนนั้น)
จากวันนั้นเป็นต้นมาทำให้ผมได้รู้จักกับกลุ่มเขากะลา และ ดร.เทพนม และนักพลังจิตหลายๆคน เช่น อ.ศักดา ดร.สุวินัย เพื่อที่จะทำการพิสูจน์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้นต่อไป..
และมีอยู่วันหนึ่งในช่วงปลายเดือนนั้นเอง ผมกับเพื่อนๆ 4 คนกำลังขับรถอยู่ในกรุงเทพตอน5ทุ่มกว่าๆ กำลังคุยกันเรื่องนี่อยู่พอดี..เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันครับ..อยู่ๆก็มีวัตถุบินขนาดใหญ่บินตัดหน้ารถระยะห่างประมาณ 150 -200 เมตร สูงราวตึก 4 ชั้น บินตัดเฉียงลงมาจากทางซ้ายไปทางขวาด้วยความเร็วสูง เหมือนจะโหม่งโลก เปิดไฟสีแดงๆ เหลืองๆ กระพริบถี่ๆ เหมือนไฟแฟรท แต่เงียบไม่มีเสียงสักนิด พวกผมพากันอึ้งไปเลยครับ ทั้งตกใจ และวูปๆไปหมด...(แถวนั้นไม่ใช่ทางผ่านของเครื่องบินด้วยครับ..)
หลังจากนั้นผมจึงมาถามพวกเพื่อนๆคนอื่นๆที่มาเขากะลา จึงได้รู้ว่าพวกเขาก็ถูกไปตามให้มาที่นี่คล้ายๆกันเลยครับ... คิดว่าเขาส่งยานไปตาม หรือย้ำให้พวกเราเชื่อยิ่งขึ้นว่าเขามาที่นี่จริงๆ...

 

คลิปวีดีโอด้านบน เป็นของปลอมครับ......

 

ผมเคยได้อ่านเรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับจักรวาลถ้าจำไม่ผิดนะครับ
เห็นเขายกตัวอย่างคำพูดของพระพุทธเจ้า เกี่ยวกับว่า พระพุทธเจ้าบอกเรื่องการเกิดและดับ ของจักรวาล ตรงกับความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ เขาบอกว่าพระพุทธเจ้าบอกว่าทุกสิ่งมีเกิดต้องมีดับศูนย์ไป แม้แต่จักรวาล
และยังได้พูดถึงเรื่องมนุษย์ต่างดาวว่า
มีมากมายหลายชนิด ทั้งที่เหมือนเรา และไม่เหมือนเรา คือมีกายทิพย์
และยังบอกอีกว่า ชั่วชีวิตของมนุษย์เรา คือ100ปี ไม่มีทางเลยที่จะเดินทางไปสู่ดาวดวงอื่นที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ได้เลย แม้จะไช้ความเร็วสูงสุด ตรงนี้เขาบอกเป็นภาษาบาลี ซึ่งแปลว่าความเร็วแสง
และยังบอกอีกว่าชีวิตของมนุษย์บนดาวต่างๆ ขึ้นอยู่กับการที่โลกของมนุษย์ต่างดาวนั้นโคจรรอบดวงอาทิตย์ และว่าดวงอาทิตย์ของมนุษย์ต่างดาว บางพวก มีขนาดไหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของโลกหลายเท่านัก และบางพวก มีดวงอาทิตย์มากกว่าโลกเราหลายดวงอีกด้วย
ตรงนี้ มันช่างเหมือนกับเรื่องเวลาบนสวรรค์ซะจริงๆ ที่ว่า1วันบนสวรรค์เท่ากับ1ปี บนโลกมนุษย์

ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่าจริงหรือไม่ ที่จำๆได้ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง

 

มีจริง

 

เวลาของดาวแต่ละดวงต่างกันแน่นอน อายุขัยก็ต่างกันครับ มีหลายภพภูมิที่ซ้อนมิติอยู่ในที่ที่เดียวก้นหรือต่างที่กัน เวลาก็อาจสวนทางกันอีก การปรากฎตัวที่ชัดเจนก็เกิดขึ้นยากเหลือเกิน อาจมองเห็นแบบบิดเบื้ยวหรืองเป็นเงาลางๆ หรีอเป็นแสงสว่างได้เท่านั้นครับ..ส่วนใหญ่จะเป็นของจริง..( ของจริงย่อมไม่ชัดเจนครับ..)

ส่วนUFO ที่สังเกตุเห็นได้ชัดเจนมาก อาจเพราะอยู่ในมิติที่ใก้ลเคียงกันกับโลกของเรา ธาตุวัสดุ เวลาที่ต่างกันไม่มาก ค่าสนามแม่เหล็กใกล้เตียงกัน ในระบบสุริยะเดียวกัน หรือกาแลคซี่เดียวกันมากกว่า (หรือไม่ก็อาจเป็นของปลอมที่ทำขึ้นครับ..) แต่ก็ไม่สามารถอยู่ได้นาน ได้แต่เห็นแวปๆไปมาอยู่ดี...หาดูยากครับ...

เขามาเพราะมีภาระกิจลับๆ ที่ยังเปิดเผยได้ไม่มาก ผมคาดว่าเราต้องรออีกซักไม่เกิน 5-10 ปีนี้ละครับ คงจะเห็นกันด้วยตาเนื้อแบบจะๆกันเลยทีเดียว...(มากว่า3เผ่าพันธุ์แน่นอน)


วันอาทิตย์ที่ 18 มิย.49 เวลา 22.10 น. อย่าลีมชมรายการ "ย้อนรอย"กันนะครับ ทราบจากกลุ่มเขากะลา ว่าเขาจะนำข้อมูล UFO ในประเทศไทยมาให้ชมกันอีกครั้ง ..