เครียดค่ะ...อยากลดความอ้วน แต่ลดความอยากไม่ได้ !!

คือ ก้อยเป็นคนอ้วนง่ายผอมง่าย ใจจริงแล้วอยากลดความอ้วนมากๆ แต่พอเห็นอาหารที่ชอบมากๆทีไร อย่างเช่น ไอติมชอกโกแลต ครีมเค้ก คอหมูย่าง ผัดซีอิ๊ว ฯลฯ ก็อดทานไม่ได้ และอาหารพวกนี้ก็มักจะนึกอยากทานตอนเย็นหรือมื้อดึกทุกที (อาหารบางอย่างก็เริ่มขายตอนเย็น เช่น คอหมูย่าง) มันอดใจไม่ไหวจริงๆง่ะค่ะ เห็นอาหารพวกนี้ทีไร ท้อใจที่จะลดความอ้วนทุกที อีกอย่างนานๆทีจะกลับมาบ้าน(ต่างจังหวัด)ได้ปิดเทอมยาวๆแบบนี้ ได้กินอาหารอร่อยๆที่มหาลัยไม่มี ต่อไปก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้านแล้ว ก้อยจะลดหรือไม่ลดความอ้วนดีคะ และถ้าลดจะมีวิธีไหนที่ไม่เกิด yoyo และควบคุมน้ำหนักได้อย่างถาวรคะ??? (ตอนนี้น้ำหนักก้อยเกินมาตรฐาน BMI แล้วน่ะค่ะ)

 

เราว่าลดน้ำหนักก้อเป็นสิ่งดี จะได้ไม่เกิดโรคหลายอย่าง แต่มันก้อเหนื่อยอ่ะนะ และทุกข์ที่ต้องมาทนอดอาหาร หรือไม่ได้กินในสิ่งที่อยากกิน ถ้าจะลดก้อสู้สู้นะ จะเอาใจช่วย แต่ถ้าไม่ลดก้อคงจะไม่มีความทุกข์เมื่อเห็นสิ่งที่อยากกินแต่ไม่ได้กิน ไม่ทรมานร่างกายดีอ่ะนะ

 

สิ่งแรกที่ควรทำไม่ใช่ลดความอ้วนแต่แก้ความเครียด
หัดปล่อยวางบ้าง เปลี่ยนความคิดให้เป็นสัมมาทิฏฐิซะ
จงมองตนด้วยเหตุผล ไม่ใช่ราคะ เริ่มต้นด้วย

1.อ้วนจริงหรือ น้ำหนักเกินจากมาตรฐานตามวงการแพทย์หนรือเปล่า
เอา ส่วนสูง ลบด้วย 110 นั่นคือนำ้หนักมาตราฐาน อาจเกินจากนี้ 2-3 กิโล ถือว่า ปกติ
2. ในสภาพที่เป็นอยู่มีปัญหาสุขภาพไหม เช่น เหนื่อยง่ายไหม ปวดเข่าไหม สุขภาพแข็งแรงดีไหม อารมณ์หงุดหงิดง่ายไหม ความสมดุลของร่างกายเป็นไง ถ้าในสภาพที่เป็นอยู่สุขภาพดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรลดอาหารแต่เปลี่ยนนิสัยการกิน

3.เครียดมากไหม สำรวจตัวเองหน่อย บางทีสาเหตุของการกินมากอาจมาจากความเครียดบางอย่าง

4. ออกกำลังกายและ พักผ่อนเพียงพอไหมควรออกกำลังกายให้ออกเหงื่อวันละ 1 ชั่วโมง

5. กินอาหารถูกส่วนไหม ครบ 5 หมู่ ใน แต่ละวันไหม วิตามินกินครบไหม ดูความสมดุของการกินกับการใช้พลังงานด้วย เช่น ใช้สมองมากควรเน้นโปรตีนจากนมและถั่ว

ที่สำคัญไม่ต้องลดเพียงเพื่อต้องการความสวยงามของร่างกายอย่าคิดว่าผอมเป็นไม้เสียบผีอย่างดาราแล้วจะสวยนะเพราะนั่นคือความแห้งแล้งอย่างผีเดินได้ ร่างกายต้องอยู่กับเราไปจนแก่ควรปฏิบัติกับมันอย่างถูกต้องกินให้ถูกส่วนออกกำลังกายให้เหมาะสมจะได้ไม่สะสมปัญหาสุขภาพไว้เมื่อเรามีอายุมากขึ้น

ถ้าน้ำหนักไม่เกินมากก็ไม่ต้องลดหรอก ดูกรรมพันธ์ด้วยนะว่ามีใครอ้วนหรือเปล่าถ้ามี ไม่ต้องคิดที่จะลดหรอกแต่ปรับการกินให้เป็นอาหารสุขภาพก็พอ

ความสวยไม่ใช่อยู่ที่ภายนอกหรอกแต่มันคือความแจ่มใสจากภายในต่างหากหากเรามีจิตใจที่ดีแล้วแจ่มใสส่องออกมาจากภายในจิตคนย่อมสัมผัสกันได้นะ

ตรงกันข้าม หากลดแล้วไม่สบายกายหรือไม่สบายใจมันย่อมเป็นทุกข์เป็นโทษ อย่าทำเลยดีกว่า
สวยสดใสจากภายในอย่างที่เป็นอยู่ ยังดีกว่าเยอะ

 

เป็นกำลังใจให้ก้อยจ้า
จริงๆ พี่ก็อ้วนง่ายมาก
แต่หลัง ๆพยายามทานผักเยอะ ๆ
เช่นทานก๋วยเตี๋ยวก็เป็นเกาเหลาแทน ไม่ใส่เส้น
ไม่ใส่กระเทียมเจียว ช่วงนี้เริ่มชิน ไม่ค่อยทานของทอด
เมนูหลักที่บ้านจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา แทน
และที่สำคัญทุกมื้อพยายามให้มีผักมาก ๆ หน่อย
คิดไม่ออกก็สลัดผักจานโต ๆ แล้วก็ผลไม้อีกจาน
นมก็ใช้นมพร่องมันเนย คงต้องใช้หลาย ๆ อย่างประกอบกันไป
ออกกำลังกายด้วย ทำจิตใจให้สดชื่นด้วย เพราะเครียดทีไรต้องหา
อะไรหวาน ๆ หม่ำทุกทีเลย ก็เลยต้องหลีกเลี่ยงอาการเครียด

พี่ว่าก้อยก็ทำได้แน่ ๆ เรื่องง่าย ๆ แค่ไม่ทานตามใจปากแค่นี้เอง
แต่อย่าเครียดมากนะ ค่อยเป็นค่อยไปจ้า

 

จะผอมไปทำไม อ้วนๆแหละดีแล้ว ผู้หญิงผอมๆหุ่นนางแบบเห็นแล้วเซ็ง มีตังเอาไปซื้อเสื้อผ้าซื้อเครื่องประทินผิวหมด แทนที่จะเอาตังไปกินข้าว เห็นแล้วอนาถใจ เซ็งจิต

 

เหมือนกานอะคับ พอเลิกเล่ยฟิตเนส นำหนักขึ้นเร็วมากอะ แต่มีคนเคยบอกให้กอนข้าวันละ 32 คำอะ เฉลี่ย 3 มื้อ

 

ต้องเลือกค่ะ ว่า กินตามใจปากแต่อ้วน

หรืออดใจแต่หุ่นดีค่ะ อย่างงี้ก็ได้ กินเป็นมื้อๆอ่ะ อย่ากินจุกจิก ลดได้ผลเลยนะคะ ^__^

 

นี่มัน........ ตั้งแต่ปี 2006....

 

เราก็อ้วน อิอิ เพิ่งมาลดได้เดือนนึงตอนเรียนจบอ่ะจ้า อิอิ เดือนนึงลดไป เจ็ดโลค่ะ

กินข้าวมื้อเดียว-จะเน้นพวกผัดผักนะคะ กินเนื้อนิดนึง แต่กินข้าวน้อยๆ

ตอนเย็นเผื่อหิวก็ทานไข่ต้มสัก 2 ฟองค่ะ ไข่ต้ม 2ฟองมี 150 แคลอรี่เอง เน้นนะคะ ต้องเป็นไข่ต้ม

ถ้าไข่ดาวมี 150 แคลอรี่ต่อฟอง ไข่เจียวมี 250 แคลอรี่ต่อฟอง ค่ะ อิอิ

ระหว่างวัน ถ้าหิวก็จะทานแตงโมหรือสัปปะรด ค่ะ หรือกินโยเกิร์ตก็ได้ ทำให้ถ่ายนะคะ

สองอย่างนี้น้ำตาลน้อยมากค่ะ แตงโมลูกนึงมีน้ำถึง 92% เลยนะคะ

แต่ชอบทานสัปปะรดมากกว่าค่ะ เพราะกากเยอะ จะได้ขับถ่ายทุกวัน

แต่ก่อน ปล่อยตัวค่ะ ไม่ได้ดูแลตัวเองมากนัก หยิบได้ก็เข้าปากทันที อิอิ

ไม่ค่อยได้ถ่ายด้วยค่ะ อาทิตย์นึงถ่ายวันละ 1-2ครั้งเองค่ะ แต่พอได้ปรับเปลี่ยนการกินแล้ว ถ่ายทุกวันเลยค่ะ พุงหายไปเยอะค่ะ

เอ่อ ขอแนะนำนะคะ กินน้ำแร่วันละ 3 ลิตร อิอิ เราไม่ชอบกินน้ำเปล่าอ่ะ ชอบน้ำแร่มิเนเร่ค่ะ วันนึงก็สองขวดใหญ่ๆอ่ะคะ ค่อยๆจิบไป

ดื่มน้ำเยอะๆก็ช่วยลดอาการหิวได้นะคะ แล้วยังช่วยให้ผิวพรรณสวยขึ้นอีกด้วยค่ะ รับรอง เพราะทดลองมากับตัวเองค่ะ

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้า

 

กินของที่ชอบได้แต่ลดปริมาณลงและก็งดพวกแป้งเลี่ยงได้ก็เลี่ยง มื้อเย็นงดค่ะ อย่ากินพวกไส้กรอกหรือของทอด งดได้ก้งดน่าค่ะ ห้ามใจไว้ๆๆ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละชม.

อ้วนเหมือนกัน แตตอนนี้ลดมาแหละ2โล...โคตรดีใจเลย รออีก3โลก็กลับคืนสู่ปกติ-*-...

ไม่น่ากินเยอะเลย เฮ้อออออออออ.....

 

เราเป็นเหมือนกันค่ะ ที่ห้ามใจไม่ได้ ดังนั้นคุมที่เราก่อน คือตุนอาหารที่แคลอรี่น้อยไว้เลย ตอนเย็นจะได้ไม่ออกจากห้องไปตลาดแล้วตบะแตก

คุมให้ได้วันละไม่เกิน 1300 KL ถ้าชอบกินหมูย่าง ก็กินอาทิตย์ละครั้งพอ แค่ 1 ไม้เอาที่ไม่ติดมัน ถ้าเป็นคนที่ตอนเย็นจำเป็นต้องกิน เลี่ยงไม่ได้ ให้กินเช้ากับกลางวันแบบแคลอรี่ต่ำ ตอนเย็นอย่าให้เกินข้าวแกง 1 จาน และต้องกินก่อน 6 โมงเย็นด้วย นอนให้เร็ว ยิ่งนอนดึกยิ่งหิว

ของในตู้เย็นที่ดึกๆต้องเปิดกินทุกที ต้องเป็นเป็นผลไม้ หรืออาหารไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำให้หมด อย่าตุนของอ้วนๆ ไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด

ต้องมีความอดทน อดกลั้น ทนแค่ 1 เดือนพฤติกรรมก็จะเปลี่ยนแล้ว เริ่มชินแล้ว

ถ้าอดกินไม่ได้จริงๆ ทางออกสุดท้ายคือ ต้องเต้นแอโรบิควันละ 1 ชั่วโมง อาทิตย์ละ 6 วัน ก็จะควบคุมน้ำหนักได้ ถ้าออกกำลังกายบวกกับคุมแคลอรี่ จะลดเร็ว 1 เดือนก็เริ่มสวยแล้ว ไม่โทรมด้วย

 

โห.....
แสดงว่ามีตังค์กินอาหารกับขนมเยอะเลยเน๊อะ
.....
หือ....ฮือ..ฮื่อ...ฮือ....

 

จกกท.ลดได้ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้(deejai)

 

คุณก้อยยย! เป็นเหมือนผมครับ เมตาบอลึซึมหรือระบบเผาผลาญต่ำ เชื่อไหมผมเคยเกิน 110 กิโลกรัมนะ แต่เรื่องนี้อาศัยกำลังใจล้วนๆครับ และผมลดน้ำหนักแบบไม่ใช้ยาด้วย (ยาใช้แล้วมีแต่อ้วนขึ้น ไม่เชื่อก็ลองดูครับ จะดีใจได้แค่สองสามเดือนแรกเท่านั้นล่ะ)

ผมแนะนำให้คือ :

- งดอาหารทอดทุกชนิดครับ ฝึกตัวเองทานแต่ของต้ม หรือ นึ่ง

- งดข้าวครับ ไม่อดตายหรอกครับ ท้องจะโหวงๆแค่วันสองวันแรก ลองเปรียบเทียบดูได้ครับ ระหว่างสมัยกินข้าว กับช่วงที่งดข้าว จะได้รู้ว่าแป้งจากข้าวนี้มันหนักและเผาผลาญยากขนาดไหน

- งดเนื้อสัตว์ทั้งหมด ถ้าเป็นผู้เริ่มต้น อนุญาติให้ 1.ทานปลา (ไม่ให้ทานหอย ปู กุ้ง ปลาหมึก ปลาคือปลาจริงๆเช่น ปลาทู ปลานิล) 2.ไก่ แต่ต้องห้ามกินหนังนะ ห้ามกินไก่"ทอด" ด้วย ไก่ต้ม ไก่นึ่ง พอรับได้ครับ

- งดดื่มทุกอย่างยกเว้น น้ำเปล่า และ ชา (ชาห้ามเป็นชาตามเซเว่นนะ พวก โออิชิ หรือ อะไรที่มันทำมาขายน่ะ ชาก็คือผงชาจีน ผงชาไทยจริงๆ มันจะออกขมๆ ช่วยสลายไขมันที่เกาะตามผนังเลือด) น้ำเย็นงดเช่นกัน ไม่ได้มีผลประโยชน์เลย มีแต่ผลเสีย

-มื้อแรก ทานตอนเช้า มื้อสองทานตอนเที่ยง มื้อสามทานก่อนพระอาทิตย์ตกดิน อย่าผิดเวลาจนเสียนิสัย เพราะถ้าไม่ได้กินมื้อเช้าตอนเช้า ร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารช่วงเช้า รับร้องวันนั้นคุณกินแหลก และมื้อสามให้ทานก่อน 6 โมงเย็น (ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ไม่งั้นพอตกกลางคืน น้ำหนักจะขึ้น ลองดูได้จ๊ะ)

-จำไว้ว่าชาจีน ชาไทย ระงับหิวได้ยาว ดื่มก่อนกินอาหารสัก 10 นาที แล้วท้องจะตื้อเกือบ ห้าชั่วโมงเชี่ียว ห้ามกินตอนกลางคืน เพราะมีฤทธิ์คล้ายกาแฟ จะนอนไม่ได้

-เมื่อหิว จงเปลี่ยนนิสัย ห้ามกินขนม ห้ามกินข้าว กินผลไม้สิ ที่มันตื้อๆท้องและมีน้ำตาล มีอะไรบ้างล่ะ เยอะมาก แอปเปิ้ล กล้วย มังคุด มะละกอ มะม่วง"สุก" (ฝรั่งห้าม แป้งเยอะ อันตรายเท่าข้าว 5555+) ปล.ที่ร่างกายเราหิวตลอดเพราะมันอยากได้ความหวาน หรือ น้ำตาล แต่เราดันไปเอาน้ำตาลจากซองขนมให้มัน มันก็อ้วนสิ เอาน้ำตาลจากผลไม้ดีกว่า

 

- เตือนอีกครั้ง เปลี่ยนพฤติกรรมคุณก้อย และคอยระวัง เมื่อหิวไอติม ขนม ของหวาน วิ่งหาผลไม้ทันที

- เมื่อพ้นอาทิตย์แรกจะรู้เลยว่ากระเพาะหด แล้วจะเริ่มทานน้อยลง ตรงนี้เริ่มมีความเป็นจอมยุทธ์แล้ว ลองดูสิว่าทานข้าว เหมือนพระฉันได้หรือป่าว คือทานแค่เช้า กับ เที่ยงเท่านั้น

-ออกกำลังกาย ไม่ต้องไปบ้าเลือดแบบฟิตเนส เพราะแบบบ้าเลือดนั้น เราจะสู้แค่ไม่เกินเดือนเท่านั้นก็เลิกออกกำลังกายเลย เอาเดินธรรมดาพอ คนบอกว่าเดินไม่เห็นได้อะไรเลย มันก็ใช่ เพราะคุณเดินน้อยไปไง ต้องเดินอย่างน้อย 30 - 60 นาที หรือ จะเวิร์กจริงๆ ก็ลองขอเดินตามพระบิฑบาตรดูครับ (555+) ทีนี้ใครบอกเดินไม่ได้ผล ก็ช่วยไม่ได้แล้วนะ

-น้ำหนักอย่าชั่งบ่อย ให้ชั่งได้แค่วันละครั้งเท่านั้น เหตุผลไม่อธิบาย เกี่ยวกับกำลังใจ

- ฝึกหายใจลึกๆแบบ อาณาปาณสติ (แบบ พุธ-โธ อ่ะ) อย่าหายใจเร็วมาก หรือ สั้นมาก อันนี้เหตุผลยาวครับ เกี่ยวกับพลังเผาผลาญในท้องน้อย

-นอนแต่หัวค่ำ สามทุ่มกำลังดี อันนี้เหตุผลยาวคัรบ ไม่อธิบาย

- อย่าหวังยาวๆ เอาแค่ช่วงสั้นๆ แล้วค่อยขยับ เช่นพรุ่งนี้ขอ 4 ขีด หรือ น้ำหนักไม่เพิ่มพอ อย่าคิดว่า ต้องเหลือ น้ำหนัก 50 โลให้ได้ ตั้งกำลังใจผิด เสียใจภายหลังครับ

 

วิธีผมคือแก้ที่ต้นเหตุเลย "You are what you eat" "you are how you move" (กินแบบไหนหุ่นก็จะเป็นแบบนั้น ขยับได้เท่าไหร่ก็สวยได้ขนาดนั้น)
นี่เราแก้กันที่จิต กินยาไม่ได้ช่วยหรอก ถ้ายังกินขนม หมูปิ้ง คอหมูย่างเหมือนเดิม เพราะเลิกกันยาเมื่อไหร่ละก็ ... ไม่ต้องพูดนะ ผมกำลังให้คุณก้อยแก้ที่จิต และ กำลังใจเลย เพราะจิตนี้ฝึกได้ พอจิตมีระเบียบ มีกำลังใจ ทีนี้ก็ไม่ต้องง้อยาแล้วครับ

เกิดมาเป็นคนอ้วนต้องอดทน เราเกิดมาเพื่อฝึกสติ ฝึกระเบียบ (555+) สู้ๆนะครับ คืบหน้ายังไง ก็บอกผมด้วย เป็นกำลังใจให้ครับ เข้าใจความรู้สึก

ผลของความสำเร็จในการลดน้ำหนักเป็นสิ่งสวยงามครับ ชีวิตที่ดีขึ้น สุขภาพตามมา ความรักไม่บกพร่อง ไม่มีเสียงล้อเลียน และที่สุด การชนะใจตัวเองครับ !

tanapon-ray@hotmail.com

สู้ๆครับ

ปล.กระทู้นี้ก็ตั้งสองปีแล้ว ไม่รู้คุณก้อยจะเห็นโพสผมหรือป่าว แต่ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยคนอื่นๆก็ได้อ่าน เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

 

ไม่ทานแป้งเลย ทานแต่ผัก ไข่ และปลาทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ/น้ำมันดอกทานตะวัน

จากนั้น ซื้อ เลซิติน เม็ด มาหม่ำ มีอยู่หลายยี่ห้อ

เมื่อหายหิวบ่อยๆ แล้ว ให้เล่น โยคะ หรือ ฟิตเนส หรือ เดิน/วิ่งเร็วๆ 20 นาที/วัน

 

ฮั้วเองก็เป็นเหมือนเจ้าของกระทู้เลย
อยากลด ๆๆๆ
แต่ปากก็กิน ๆๆ ตลอดเลย
ช่วงปิดเทอม กะไปลดที่บ้าน แต่กลายเป็นว่า
แม่ทำอาหารอร่อยๆ ที่มหาลัยฯไม่มีอีก อ่าว!! โชคดีแล้วไง
จับได้ก็เข้าปากอีกตามเคย
55

..

ตอนนี้ก้อตั้งใจจะลดอีกแล้ว ( ตั้งใจมาสี่ปีจะห้าอยู่แล้วเนี่ย )

เห้อ


:z1
มียันต์หยุดกินไหมค๊าา
เอามาแปะปากฮั้วที!!!!!!!