มีวิธีการไหนบ้างที่จะทดสอบว่าพระรูปไหนแจ่ม หรือ ไม่ได้เรื่อง

คุณธรรมแห่งตนมีแค่ไหน จะไปทดสอบผู้อื่น
คำตอบที่เสนอมา ไม่เพียงพอต่อการชี้วัดความเป็นพระสุปฏิปัณโณ
เอาเรื่องกสิณมาทดสอบ ไม่ได้คำตอบหรอก
พระดีดีบางองค์ ไม่สอนกรรมฐานเลยด้วยซ้ำ ในการสนทนากันครั้งแรก ท่านอาจจะแนะนำให้สร้างกุศลอื่นๆ เช่น ทาน ศีล
พระแจ่มหรือไม่แจ่ม จะสนทำไม ถ้าใจตัวเองยังไม่แจ่มเลย...

 

การเเต่งกายไม่ได้เเสดงถึงความเป็นผู้มีธรรม

กิริยาที่ไม่สำรวมของพระอริยเจ้ามีให้เห็นถมไป เช่น พระอรหันต์จี้กง

เพราะฉะนั้น ความสำรวมไม่ได้เกิดจากผู้อื่น เเต่เกิดจากตนเองสำรวมกิริยา

ระวัง มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม เกิดจากตนเองทำให้จิตตนเองหมองมัว

ไม่ใช่เพราะ คนอื่นทำให้เราขุ่นเคือง

 

พลังจิตกลับมาแรงแล้ว บางทีการเมตตาทำให้ความห้าวหาญลดลง
แต่หน้าที่ปราบอวิชชาให้สติผู้หลงอัตตา เป็นสิ่งสมควร...

ผลของกรรมตามเจตนา ด่าให้ได้สติ ไม่ผิดศีลข้อ2หรอกครับ

 

อย่าได้ไปตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ทดสอบผู้อื่นอยู่เลย มีแต่เสียกับเสีย


เสียอย่างแรก..ไม่ว่าท่านจะเป็นสุจิปันโน หรือไม่ ท่านก็เสียความอ่อนน้อมถ่อมตน ข้อที่ 4ในบุญกิริยาวัตถุ 10 บุญที่ทำให้การเข้าถึงธรรมได้ง่าย หากอยากรู้ธรรมเห็นธรรม ก็ละซะ อย่างท่านผมว่าเป็นผู้มีปัญญาดีอยู่แล้ว(สังเกตุเอา) ก็พิจารณาให้เห็นด้วยปัญญาท่านเอง ไม่ต้องเชื่อผม

เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างนี้ละ ทนงตน เจ้าสำบัดสำนวน ชอบเอาชนะผู้อื่นด้วยโวหาร สำคัญตนว่าอ่านมามาก รู้มาก พิจารณาย้อนหลังไปแล้ว คิดสมเพทตัวเอง สงสารตัวเอง ทำไม่มันโง่แท้

ต่อให้ท่านเป็นพระอรหันต์ แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรจากท่าน ในเมื่อใจเรามันมืดบอดซะอย่างนี้

ดูตัวเราดีกว่า ได้ประดยชน์กว่า

 

การปรามาสผู้อื่น เพราะ จิตตนเองที่ไม่บริสุทธิ์

เมื่อเห็นผู้ใดไม่ดี เพราะ จิตตนเองจ้องจับผิด

สรุป คนที่จิตตกก็ คือ ตนเอง ไม่ใช่คนที่เราไปปรามาส

ระวังความคิด เมื่อใดที่ คิดจงมองให้ออกว่า เรากำลังคิดอะไร

 

พระ...หากท่านปฎิบัติดี เราลังเลสงสัยนึกปรามาส...กระทำบาปล่วงไปแล้ว...เราขาดทุน
หากท่านไม่ได้ดีไม่ได้ชอบ....เราปรามาสตำหนิ..ใจเราเศร้าหมอง...เราขาดทุน
ขาดทุนทั้งครึ่งทั้งล่อง...ลดการตำหนิกล่าวโทษ เพ่งโทษต่อผู้อื่น...แล้วเพ่งโทษ จับผิดใจเราให้มาก...ได้ประโยชน์...วิกิจฉาหนอ วิกิจฉาหนอ...ขอให้เจริญในธรรม

 

แค่ปริยัติธรรมก็มีความลุ่มลึกเกินกว่าสติปัญญาคนสามัญจะแทงตลอดได้ทั้งหมด แล้วการปฏิบัติธรรมจะขนาดไหน ธรรมปฏิบัติมีความลุ่มลึกดังมหาสมุทร เราได้ปฏิบัติกันแค่ไหน เทียบกับพระอริยเจ้าแล้ว พวกเราส่วนใหญ่แค่ไปเห็นทะเล ยังไม่ได้เอาขาแหย่ลงในน้ำด้วยซ้ำไป

 

บาป บาป บาป

กรรม
​

 

ผม เคยฝัน ว่ามีพระมานั่งดื่มเหล้า อยู่หน้าบ้าน แต่ในฝันกลับ เห็นรัศมีสดใสสว่างและดูสงบ จึงไหว้ไปในฝัน เกิดความปีติขึ้นในจิตใจ ภายในใจนั้นได้ตระหนักว่า ภายนอกไม่สามารถตัดสิน ภูมิธรรม ความบริสุทธิ์ของจิตของ อริยชน ได้เลย
เราจึงไม่ควรตัดสินและกล่าวโทษใคร ได้ว่าภูมิธรรม หรือความบริสุทธิ์ของท่านนั้นแท้จริงหรือไม่
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เลือกที่จะไม่ตัดสินใครเลย เพียงรู้แล้วก็ไม่ตัดสิน คิดว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุด
หากใครได้ศึกษา ธรรมะ และการปฏิบัติตัว ของ ท่านพระอรหันต์จี้กง นั่นก็เป็นตัวอย่างนึง แต่ก็ไม่ทั้งหมด
ทางที่ดี ที่ผมแนะนำ เมื่อเราเห็นท่านไม่ดีอย่างที่เรานึกเองตามมาตรฐานเรา ก็ให้เพียงรู้ไว้ แต่อย่าปรามาสหรือตัดสิน เป็นดีที่สุด ขอบคุณครับ นี่คือความเห็นของผม

 

ถ้าคุณเจอพระที่เขาตอบคุณว่า "อาตมายังด้อยปัญญา กิเลสยังบังอยู่ อาตมายังหาทางค้นพบไม่ถูกต้อง อาตมาต้องขออภัยคุณโยมจริงๆ "

แล้วเท่าที่ดูมา พระรูปนั้น เป็นพระที่มีปฏิปทาอันดีชอบ คุณจะรู้สึกยังไง

แล้วอีกอย่าง คำถามของคุณ ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อทั้งคุณและผู้รับสาร เขาตอบคุณมาไม่ดี คุณอาจเกิดความสนุกสนานบ้าง แต่ลึกๆ คุณอาจจะรู้สึกแย่ พระเองก็รู้สึกแย่

ลักษณะของคุณ เหมือนครั้งหนึ่งในพุทธกาลมาแล้ว พราหมณ์สักแต่ว่าตนเป็นพราหมณ์ เข้าไปถามสกุลลุนชาติพระพุทธองค์

อย่างไรก็ตาม ผมไม่อยากพูดรุนแรงกับคุณเพราะยังถือว่าผมอาวุโสน้อย แต่ผมอยากเตือนคุณในฐานะชาวพุทธด้วยกัน ว่าสิ่งที่เป็นจุดมุ่งหมายของพระนิพพานของพระพุทธองค์ ไม่ใช่กสิณ ไม่ได้เจาะจงที่อะไรเลย เพราะทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎปฏิจจสมุปบาททั้งนั้น คุณไม่ควรจะยึดถือ ว่าภิกษุรูปนี้ดี ดีเพราะรู้กสิณ คุณลองเปรียบเทียบกับพระเทวทัตสิ พระเทวทัตรู้กสิณ แต่ก็กลับทำร้ายพระพุทธเจ้า

คุณควรถอนจิตยึดมั่นเสีย การทดสอบภูมิผู้อื่นแม้กระทั่งพระสงฆ์ ถือเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่ง เมื่อพระพุทธองค์ทรงสอนว่า บุคคลผู้สำคัญคัญตนว่าฉลาด ย่อมไม่ได้รับสิ่งดีๆ จากผู้รู้จริง

คุณควรกลับมาใส่ใจธรรมะข้อง่ายๆ ก่อนดีมั้ยครับ ดีกว่าเอาเวลาไปซักถามพระที่คุณใคร่ทดสอบ เรื่องเรียนกสิณของคุณผมว่าไม่สำเร็จแน่นอน ถ้าคุณยังไม่สามารถฝึกธรรมะเด็กๆ อย่างเรื่องความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิจยังไม่ได้ (พระถือเป็นผู้ควรบูชา) เสมือนตึก ถ้าฐานตึกเป็นดินดิบก่อ ตอนบนเป็นคอนกรีต อย่างไรก็ดี ตึกก็ต้องทรุดหรือพังอยู่วันยังค่ำแหละครับ

 

ทุกๆท่าน....อย่าไปสนใจคนถ่อยเลย.....กรรมใดใครก่อไว้...ให้เค้ารับกรรมไป....พวกบัวยังไม่พ้นโคลนตม...

 

<TABLE class=tborder id=post2097888 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">12-05-2009, 01:06 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ซาตานคลั่ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2097888", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Dec 2006
ข้อความ: 232
<IF condition="">
</IF>Groans: 2
Groaned at 12 Times in 8 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 0
ได้รับอนุโมทนา 2,596 ครั้ง ใน 217 โพส
พลังการให้คะแนน: 80



</TD><TD class=alt1 id=td_post_2097888 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->มีวิธีการไหนบ้างที่จะทดสอบว่าพระรูปไหนแจ่ม หรือ ไม่ได้เรื่อง<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&dt=1242257065796&lmt=1242257065&output=html&slotname=7252767143&correlator=1242257065796&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-187063.html&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%2F&frm=0&ga_vid=2071051480.1234756828&ga_sid=1242254564&ga_hid=1998650967&ga_fc=true&flash=10.0.12.36&w=250&h=250&u_h=900&u_w=1440&u_ah=900&u_aw=1440&u_cd=32&u_tz=420&u_his=5&u_java=true&dtd=32&w=250&h=250&xpc=hj78R581WN&p=http%3A//palungjit.org" frameBorder=0 width=250 scrolling=no height=250 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>
การที่จะดูว่าภิกษุรูปไหนเข้าท่า รูปไหนไม่ได้เรื่องมีหลายแบบหลายวิธี บางคนที่เก่งๆหน่อยก็อาจจะใช้วิธีกำหนดจิตถามจากพระพุทธเจ้าหรือจากนายบัญชี ถ้าคนที่ประมาทลงมาหน่อยก็จะใช้วิธีดูจิต ซึ่งถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วสามัญชนจะมองไม่เห็นเพราะใสติ๋งไปหมด
แต่บางคนก็อาศัยวิธีดูจริยาว่าน่าเลื่อมใสมากน้อยแค่ไหน หรืออาจจะดูว่าเป็นสายของอาจารย์ที่ตนศรัทธาหรือเปล่า หรือไม่บางคนก็อาศัยฟังตามชาวบ้านไป เขาว่าดีเราก็ว่าดีตามเขาแค่นั้น ง่ายดี

สำหรับผมแล้วผมมีวิธีง่ายๆอยู่วิธีหนึ่ง(ใช้บ่อยกว่าใช้มโนซะอีก เพราะสามารถสร้างพยานบุคคลได้) นั่นคือ การถามเรื่องการฝึกกษิณ ซึ่งผมมักจะใช้วิธีง่ายๆ(มั้ง)อย่างนี้ คือ

คลานเข้าไปกราบนมัสการ บอกกับภิกษุรูปนั้นว่า"ผมมีปัญหากรรมฐานอยากขอคำแนะครับ"
- ถ้าได้คำตอบมาว่า ลองว่ามาสิ ก็แปลว่า ยังพอคุยกันได้
- ถ้าได้คำตอบมา ไม่ตรงกับคำถามที่อยู่ในใจ(คำตอบแบบคนอวดรู้) ก็เลิกคุยเถอะ
- ถ้าได้คำตอบมาว่า ไม่มีกรรมฐานหรอก เรื่องของคนบ้า อันนี้ก็เลิกเถอะ เพราะสมัยนี้หาหลวงพ่อที่เป็นแบบหลวงพ่อเนียมวัดน้อย ที่หลวงพ่อปานไปเรียนด้วยยากเต็มทน คงไม่มีเหลือแล้วแหละ

ถ้าได้คำตอบแรก ลองคุยต่อไป ผมมักจะถามว่า "ผมอยากรู้เรื่องการฝึกกษิณครับ
- ถ้าได้คำตอบมาว่า อาตมาก็ไม่รู้เหมือนกันนะ อันนี้ถือว่าพอคุยกันได้ ถือว่าไม่บอกเพราะไม่รู้ เพราะเดี๋ยวนี้ก็หาคนที่เข้าใจเรื่องกษิณยากเต็มที
- ถ้าได้คำตอบมาว่า อย่าไปฝึกมัน กษิณมันเป็นวิชาของพวกโยคีพวกฤาษี ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า อันนี้เลิกคุยกันได้เลย คงจะได้เห็นหน้าผมครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย

แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอ พอได้คำตอบหลัง ผมก็แกล้งหัวเราะเหอะๆ แล้วมักจะได้ยินต่อไปว่า "เสียดาย น่าจะมาเร็วกว่านี้ จะให้อารมณ์กรรมฐานไปฝึก"

ได้ยินอย่างนั้นผมก็มักจะคิดในใจทุกครั้ง "พวกองุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน ตัวเองทำไม่ได้แล้วไปด่าว่ากษิณไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า ก็อย่าสะเออะมาให้อารมณ์กรรมฐานฉันเลย"


ผมใช้วิธีนี้ทดสอบพระแก่ๆหรือพระดังๆประจำแหละ ก็มีบ้างใช้มโนครึ่งกำลังปรึกษานายบัญชี

คนอื่นๆมีวิธีการไหนบ้างเหรอ

<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>




คุณ เจ้าของกระทู้ นับถือศาสนาอะไรเหรอครับ
ผมว่าคำตอบที่สอง นั้นถูกต้องแล้ว

แค่คุณยึดติดอยู่กับ กษิณ เนี่ย ก็ไม่ต้องไปคุยกับพระแล้ว
<SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=undefined&dt=1242257515390&lmt=1242257515&format=undefinedxundefined&output=html&correlator=1242257515390&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87.187063/page-3&ea=0&frm=0&ga_vid=2071051480.1234756828&ga_sid=1242254564&ga_hid=2022870409&ga_fc=true&flash=10.0.12.36&w=-1&h=-1&u_h=900&u_w=1440&u_ah=900&u_aw=1440&u_cd=32&u_tz=420&u_his=7&u_java=true&dtd=47" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>

 

ดูผมหน่อยซิ ว่าเข้าท่าหรือยัง ใช้มโนท่านดู ถามพระพุทธ ถามนายบัญชีมาด้วย ขอบคุณ ^-^

 

แค่วิธีแรกๆก็ผิดแล้ว เช่นที่ว่าไปถามพระพุทธเจ้านั้นน่ะ
หากมีฌานหรือได้ญานจริงๆแบบติดต่อพระพุทธเจ้าได้นั้น ถ้าไปถามท่าน เทวดาฝ่ายมิจฉาทิษฐิก็คงถีบหน้าหงายว่า ขนาดนี้แล้ว มึ...ก็ดูเอาเองซิวะ มาถามทำไม(ฮา)
มีกรณีหลวงพ่อฤาษีลิงดำพาศิษย์ไปพิสูจน์พระอรหันต์ ก็มีการเขียนไว้แล้ว
แต่อยากจะบอกสักนิดว่า พระบางองค์ที่ว่าเก่งๆ เก่งนักเก่งหนา อาจไม่ใช่พระอริยะสงฆ์เลย คือ ไปได้ดีทางฤทธิ์ แต่ตัดกิเลศไม่ได้ก็มีถมเถไป อย่าหลง
เพราะพระที่เก่งจริงๆนั้น ต้องดูแบบพระอาจารย์มั่น คือเป็นอริยะ-อรหันต์แบบ ปฏิสัมภิทัปปัตโต คือแบบสมบูรณ์ รวมอรหันต์อีก3แบบเข้าไว้ด้วยกันคือ แบบสุกขวิปัสสโก แบบเตวิโช แบบฉฬภิญโญ(อภิญญา6) นี่ อย่างนี้จึงเรียกว่าเก่งจริง และแทบไม่ต้องพิสูจน์อะไรเลย เพราะแค่อยู่ต่อหน้าท่านแล้วคิดอะไร ท่านก็รู้หมดแล้ว ว่าเจ้านี่ สัตว์นรกหนีมาเกิด ฮา