"บุญ"...ใส่บาตรพระกรรมฐาน

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย DD., 4 มีนาคม 2009.

  1. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left width="96%" background=images/default/top2.gif></TD><TD width="3%">[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/default/left2.gif><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="90%" align=center bgColor=#efffef border=0><TBODY><TR><TD>"บุญ"...ใส่บาตรพระกรรมฐาน


    กรรมฐาน เป็นคำเรียกโดยรวม ในหมวดของการปฏิบัติธรรมประเภทหนึ่งในพระพุทธศาสนา หมวดกรรมฐาน ประกอบด้วย ตัวกรรมฐาน และโยคาวจร ตัวกรรมฐาน คือ สิ่งที่ถูกเพ่ง ถูกพิจารณา ได้แก่ อารมณ์ต่าง ๆ


    ส่วนโยคาวจร คือ ผู้เพ่ง หรือผู้พิจารณา ได้แก่ สติสัมปชัญญะ และความเพียร การฝึกกรรมฐานว่าโดยธรรมาธิษฐาน จึงหมายถึงการใช้สติสัมปชัญญะพิจารณาอารมณ์ที่มากระทบอย่างระมัดระวัง ไม่ให้บาปเกิดขึ้น เพียรหมั่นระลึกถึงกุศล และรักษากุศลนั้นอยู่มิให้เสื่อมไป

    คติความเชื่อของพุทธศาสนิกชนที่เชื่อสืบต่อกันมาว่า การใส่บาตรกับพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยพระที่ปฏิบัติกรรมฐานจะได้บุญมาก

    และที่ผ่านมา มีการนิมนต์พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมตักบาตรมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ชมรมพุทธศาสนาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มูลนิธิหลวงปู่หลุยส์ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ชมรมพุทธศาสนา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ คุรุสภา องค์การเภสัชกรรม และศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นต้น


    อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ เวลา ๐๗.๓๐ น. ผศ.ยุวดี ชาติไทย อาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้นิมนต์ พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน ๑๕ รูป มาในงานบุญใส่บาตรพระสายกรรมฐาน เนื่องในโอกาสทำบุญประจำปี ณ บ้านเลขที่ ๑๘๐๕/๑๑ ซอยจรัญฯ ๕๗ แยก ๓-๗ (ซอยวัดรวกบางบำหรุ) ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กทม.

    เสร็จแล้ว เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหาร และถวายสังฆทาน เวลา ๐๙.๓๐ น. แสดงพระธรรมเทศนาโดย หลวงปู่บุญมา คมฺภีรธมฺโม และรูปอื่นๆ เวลา ๑๐.๓๐ น. ทอดผ้าป่าสามัคคี ปัจจัยสร้าง ตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    "ปกติทำงานรับใช้พระพุทธศาสนามาตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ โดยเข้าวัดครั้งแรก คือ วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี จากนั้นได้เรียนรู้และศึกษาธรรมะจากพระในสายนี้ ทำให้รู้ว่าพระสายกรรมฐานของหลวงปู่มั่น เป็นการเดินทางมาในสายบุญที่ถูกต้องแล้ว ขณะเดียวกัน ก็อยากให้บ้านของตนเองเป็นบ้านบุญ จึงนิมนต์พระสายกรรมฐานมาทำบุญที่บ้าน ในปีแรกๆ คนมาร่วมบุญอยู่ในระดับหลักร้อยต้นๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบัน น่าจะอยู่ในหลักพัน โดยได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านใกล้เคียง ให้ใช้เป็นสถานที่ร่วมกันจัดงาน จนกลายเป็นว่า บุญใส่บาตรพระสายกรรมฐาน เป็นบุญประเพณีประจำซอยวัดรวก" นี่คือเหตุผลของ ผศ.ยุวดี

    พร้อมกันนี้ ผศ.ยุวดี กล่าวว่า นอกจากเป็นอาจารย์ประจำคณะพยาบาลศาสตร์ ศิริราชพยาบาลแล้ว หน้าที่อย่างหนึ่งที่ต้องทำคือ ทำงานให้ชุมนุมพุทธธรรมศิริราช โดยมีหน้าที่นิมนต์ครูบาอาจารย์มาแสดงธรรมในช่วงงานเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา มาแสดงธรรมให้ข้าราชการประชาชนที่สนใจมารับฟังโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ได้เริ่มทำมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ จากนั้นก็รู้จักมักคุ้นกับพระอาจารย์ต่างๆ ในสายกรรมฐานเป็นอย่างดี

    ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป มีโอกาสสร้างบุญบารมีร่วมกับพระสงฆ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ และอำนวยความสะดวกให้ทุกคนมากราบครูบาอาจารย์ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพื่อไปทำบุญกับครูบาอาจารย์แต่ละรูป ซึ่งอยู่ตามต่างจังหวัดไกลๆ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากมาย จึงนิมนต์พระสายกรรมฐานมาที่บ้าน และบอกข่าวให้ผู้มีศรัทธามาร่วมบุญ

    ในงานบุญครั้งนี้ จึงพยายามคัดเลือกนิมนต์พระสงฆ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ แต่ละจังหวัดเกือบทั่วประเทศ มาร่วมงาน โดยพยายามเลือกครูบาอาจารย์ที่ท่านกำลังทำประโยชน์ให้ส่วนรวม

    รายนามพระกรรมฐานที่นิมนต์มาในครั้งนี้ เช่น หลวงปู่บุญมา คมฺภีรธมฺโม วัดป่าพนมประชาราม จ.สกลนคร หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปญฺโญ วัดใหม่บ้านตาล จ.สกลนคร พระราชภาวนาพินิจ วัดพุทธบูชา กทม. หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย พระครูประโชติปัญญาวุฒิ (ชำนาญ) จ.เลย ศิษย์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงตาสมหมาย อตฺตมโน จ.อุดรธานี ศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล พระพิศาลศาสนกิจ (เยื้อน ขนฺติพโล) จ.สุรินทร์ ศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล หลวงพ่อประสาทศิลป์ อภิวณฺโณ จ.อุดรธานี ศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล

    "การเชิญคนจำนวนมากมาร่วมบุญกัน อานิสงส์ผลบุญจะยิ่งได้มาก เพราะต่างก็อนุโมทนาบุญซึ่งกันและกัน และเป็นการร่วมบุญที่ได้ผลคุ้มค่าที่สุด โดยเมื่อปีก่อน ได้ซื้อเตียงมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ ในจ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี การจัดงานบุญนี้ เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ และจัดมาทุกปี ปีละครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๖ จุดมุ่งหมายต่อไปคือ ต้องการให้สถานที่แห่งนี้ เป็นศูนย์รวมบุญแห่งพระกรรมฐานสืบไป" ผศ.ยุวดี กล่าวทิ้งท้าย

    บุญสร้างโรงพยาบาลสว่างแดนดิน

    เนื่องด้วยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน อยู่ในแหล่งชุมชนหนาแน่น ปัจจุบันมีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้น ตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉินเก่าอยู่ห่างไกลจากตึกผู้ป่วยนอก ถึง ๓๕๐ เมตร ทำให้ลำบากต่อการส่งผู้ป่วยไปใช้บริการระหว่าง ๒ ตึกนี้ ยามฉุกเฉินอาจจะช่วยเหลือผู้ป่วยไม่ทันการ จำเป็นต้องสร้างตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉินใหม่ ให้อยู่ใกล้กับตึกผู้ป่วยนอก

    ลักษณะเป็นอาคาร ๑ ชั้น พื้นที่ประมาณ ๖๐๐ ตารางเมตร มีห้องใช้สอยผู้ป่วยฉุกเฉินต่างๆ รวม ๑๘ ห้อง

    สำหรับตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉินเก่า จะปรับปรุงเป็นตึกไอซียูต่อไป งบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้าง ประมาณ ๒๐ ล้านบาท

    สำหรับการทอดผ้าป่าสามัคคีในงานบุญครั้งนี้ ปัจจัยที่ได้ทั้งหมด โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ จะนำไปสร้างอาคารอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งต้องใช้งบประมาณการก่อสร้างประมาณ ๒๐ ล้านบาท โดยได้รับความเมตตาจาก ท่านพระอาจารย์ทองปาน จารุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดป่าสันตินิมิต จ.ศรีสะเกษ ซึ่งท่านถือกำเนิดที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    พุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางไปร่วมงานบุญในวันดังกล่าว สามารถนำรถไปจอดในบริเวณวัดรวกบางบำหรุ และโรงเรียนวัดรวกฯ อยู่ห่างบ้านงานประมาณ ๕๐ เมตร (เจ้าภาพได้เตรียมชุดสังฆทานและผ้าไตรไว้แล้ว)

    ส่วนปัจจัยที่ท่านร่วมทำบุญทั้งหมด จะนำถวายพระสงฆ์ทุกรูปที่มาในวันงาน หรือร่วมทำบุญโอนผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช เลขที่บัญชี ๐๑๖-๔-๐๗๘๐๑-๘ ชื่อบัญชี "กองทุนทำบุญถวายพระกรรมฐาน" ติดต่อสอบถามได้ที่ ผศ.ยุวดี ชาติไทย (โรงพยาบาลศิริราช) โทร. ๐-๒๔๒๔-๘๑๒๐, ๐๘-๙๘๑๖-๔๓๔๓


    ttp://www.komchadluek.net/2009/02/11/x_phra_j001_336113.php?news_id=336113



    http://www.budpage.com/forum/view.php?id=4600

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD style="PADDING-RIGHT: 2px; PADDING-LEFT: 2px; PADDING-BOTTOM: 2px; PADDING-TOP: 2px" bgColor=#efffef>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    อนุโมทนาครับ ถ้านำรูปมาลงตอนผู้ป่วยมาใช้บริการในตึกก็เห็นภาพชัดเจน ครับ ถ้าเราไปตามโรงพยาบาลของรัฐก็จะเห็นภาพเหล่านี้ โดยเฉพาะตึกอุบัติเหตุหรือแผนกอายุเวช จะมีผู้ป่วยมาก เตียงไม่พอต้องมานั่งที่รถเข็นแทนเตียงคนไขก็มีขณะรอตรวจ
     
  3. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    เคยได้ยินหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังเหมือนกัน

    พระท่านที่ออกจากกรรมฐาน ส่วนใหญ่
    ถ้าท่านออกนิโรธสมาบัติ แล้วเราไปทำบุญ
    กับท่าน ก็จะได้อานิงส์อย่างมาก

    ผมจึงจะบอกในสิ่งที่เคยได้ยินมา ให้ฟังต่อไปนี้ว่า

    "ต้องทำทาน กับพระที่ได้ฌาณสมาบัติ แล้วอฐิษฐาน"
    ผลบุญอันนี้ จะทำให้ร่ำรวย มากด้วยสมบัติ
    เกิดมาชาติภพต่อไปก็จะได้เป็นเศรษฐี

    แต่อย่างว่า สมัยนี้ เราหาพระท่านที่ออกกรรมฐานแบบนี้ยากมาก
     
  4. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ถือว่าภัทรก็โชคดีที่ในชีวิตนึงได้มีโอกาสเช่นกัน เมื่อ7-8 ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสใส่บาตรให้กับหลวงพ่อที่พึ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาพอดี แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นวันอะไร ปลื้มปิติมากค่ะ เจอหลวงพ่อครั้งแรกเลย ภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสได้ใส่บาตร ทำบุญกับท่านค่ะ
     
  5. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ทำบุญ ทำทาน ทำกุศล

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>[​IMG]


    ถาม ทำบุญอะไร มากและน้อยอย่างไร จึงจะได้บุญมาก


    ตอบ ทำบุญอย่างหนึ่ง ทำทานอย่างหนึ่ง ทำกุศลอย่างหนึ่งไม่เหมือนกัน

    แต่ลงที่ เจตนาอันเดียวเป็นรากฐาน ทำบุญ นั้น มีเจตนาศรัทธาเป็นทุนก่อน จะมีวัตถุหรือไม่ก็ตาม ศรัทธานั้นเต็มเปี่ยมบริบูรณ์อยู่ในใจแล้ว ยิ่งมีวัตถุสิ่งของเป็นเครื่องแสดงให้ไปก็ยิ่งเพิ่มศรัทธาขึ้นเป็นทวีคูณ นี่เรียกว่า บุญ บุญคือ ความยินดีในสิ่งที่ตนให้แล้วเกิดเต็มเปี่ยมขึ้นมาในใจ

    ทำทาน นั้น จะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม

    คิดจะให้แล้วก็ให้ไปเลย ไม่ว่าสิ่งของอะไรทั้งหมด ถ้ามีเจตนาศรัทธาเลื่อมใสในบุคคลผู้รับและสิ่งที่ตนให้นั้น หรือเอ็นดูต่อบุคคลผู้รับนั้นแล้วให้ไปเรียกว่า ทาน สมดังคำว่า ทานํ เทติ เทก็หมายความว่า เทให้ ทอดให้ ให้สิ่งของจึงเรียกให้


    สรุปได้ว่า



    ทำทาน คือ ให้สิ่งของพัสดุนั้นไม่ว่ามากหรือน้อยหยาบหรือละเอียด ไม่ปรารถนาผลตอบแทน แต่มีเมตตาจิตเป็นพื้นฐาน แม้ที่สุดให้ด้วยแก้ความรำคาญ เรียกว่าทำทาน



    การทำบุญนั้น ต้องมีเจตนาศรัทธาเป็นพื้นฐาน ก็การให้นั่นแหละ เรียกว่า ทำบุญ จะให้สิ่งของอะไรมากและน้อย หยาบและละเอียดก็ตาม ให้แล้วหวังผลตอบแทน เช่น ปรารถนาว่าด้วยอำนาจอานิสงส์ที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญแล้วในครั้งนี้ ขอให้ได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ เป็นต้น


    การกุศล นั้นคือ ทำบุญทำทานนั่นเอง แต่เป็นกุศโลบายของท่านผู้รู้ทั้งหลายที่จะให้พ้นจากความยากและความหิวทั้งปวงทำไปเพื่อให้ใจผ่องใสสะอาดไม่พึงปรารถนาสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่จิตคิดจะทำภาวนาสมาธิก็เช่นเดียวกัน


    ทำบุญ ทำทาน ทำกุศล ไม่ว่ามากหรือน้อย วัตถุมิใช่ตัวบุญแท้

    ตัวบุญแท้มันเกิดที่หัวใจ คือ เจตนาของบุคคลนั้นต่างหาก ถ้าเจตนาศรัทธาในขณะใด ในบุคคลใด ในสถานที่ใด ในที่นั้นๆ ได้บุญมาก ฉะนั้น บุญในพุทธศาสนานี้ คนทำจึงไม่รู้จักหมดจักสิ้นสักที พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาไว้สองพันกว่าปีแล้วว่า ทำบุญได้บุญเช่นไร มาในปัจจุบันนี้หรือในอนาคต ต่อไปก็ได้อย่างนั้นเช่นเคย คนทำบุญมากเท่าไรก็จะได้บุญมากเท่าที่ตนนั้นสามารถจะรับเอาไปได้ เหมือนกับคนนับเป็นหมื่นๆ แสนๆ ถือเทียนมาคนละเล่มไปขอจุดจากผู้ที่มีเทียนที่จุดอยู่แล้ว ย่อมได้แสงสว่างตามที่ตนมีเทียนเล่มโตหรือเล่มเล็ก ส่วนดวงเดิมที่ตนขอจุดต่อนั้นก็ไม่ดับเทียน หลายดวงยิ่งเพิ่มแสงสว่างยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

    ที่มา : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี


    --------------------ที่นี่ดอตคอม​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. TKP969

    TKP969 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +34
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...