คนมีทิฐินี้เขามีกรรมหนักมาก่อนใช้ไหมค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย piramid111, 16 มีนาคม 2009.

  1. piramid111

    piramid111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +1,204
    คนที่มี ทิฐิ....มากๆ จนไม่สามารถรับรู้กับการให้อภัยคนอื่นนั้น เขาคนนั้นจะปาบกรรมมากไหม เหตุใดหรือกรรมใดจึงทำให้เขาแล้งนํ้าใจได้ขนาดนั้น บางครั้งเรื่องไม่เป็นรื่องก็มีทิฐิ ...ว่าข้าทำถูกแล้ว ใครอย่าตัดสินตัวข้า นอกจากข้าเอง.... ฟังดูก็อาจจะเอื้อมระอากับคนประเภทนี้มาก แต่คิดว่าหลายท่านคงพบเห็นคนเช่นนี้ได้ไม่ยาก ยอมเขาก็ได้ใจ สวนให้ก็โมโหออกอาการ ทั้งทางจิต และ ทางปาก อยากได้วิธีชี้แนะให้คนประเภทนี้ทำใจร่มๆ บ้างนะค่ะ แนะนำด้วยค่ะ ขนาดคนในบ้านเขาเองยอมขอโทษแล้ว แกสวนเลย...ไม่รับคำขอโทษ ...โวยวายด่าท้อลั่นไปหมด ถ้าเถียงต่อเหมือนเติมไฟ ถ้ายอมเดี๋ยวก็เงียบไปเอง พาไปนั่งสมาธิจะดีไหมค่ะ เพื่อธรรมะจะซึบเข้าไปในใจเขาบ้าง อยากรู้กรรมอะไรถึงส่งผลให้ ทิฐิแรงขนาดนั้น แต่เขาก็แขวนพระเต็มคอนะค่ะ คนแถวบ้านไม่ค่อยมีใครคบด้วยเท่าไรค่ะ เกรงกลัวเขาพระเดชเยอะค่ะ เราเองก็โดนหางเลขบ่อยๆค่ะ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เอ....ไม่รู้ว่าท่านชอบเลี้ยงสุนัขไหม

    ถ้าชอบก็พอมีอุบายธรรมอยู่ครับ แต่ต้องเป็นการเลี้ยงอย่างมีเป้าหมายนะครับ
    จะไปซื้อแล้วเอามาโยนให้ท่านเลี้ยง อันนี้ไม่เกิดประโยชน์

    การเลี้ยงสุนัขให้มีเป้าหมาย ก็เช่น ให้มันรับคำสั่งได้ ให้มันเดินข้างๆ เพื่อ
    รอคำสั่งได้ ไม่ใช่วิ่งนำหน้าเราตะพึด

    สุนัข เขามีข้อดีอยู่อย่าหนึ่ง คือ อารมณ์โกรธ มันจะมีอารมณ์โกรธรุนแรง
    ไปเลย หากไม่มีก็จะหดไปเลย คือ ถ้ามันไม่เป็นเจ้า ไม่เป็นจ่าฝูง มันจะ
    ยอมเป็นลูกฝูง และการที่มันจะเลือกว่า ตอนนี้มันจะเป็นเจ้า หรือ มันจะเป็น
    ลูกฝูงมันจะอ่านมาที่จิตใจคน

    หากคนไหนจิตใจไม่ตั้งมั่น ดุดัน เจ้ากี้เจ้าการ แต่ออกมาโดยที่ใจหวาดกลัว
    หวั่นไหวภายใน สุนัขจะรู้ว่า คนนั้นแหย แกล้งทำขึงขังไปอย่างนั้น สุนัขอ่าน
    จิตได้อย่างนั้น มันจะเทคโรวเป็นจ่าฝูงทันที มันจะวิ่งนำ มันจะไม่รับคำสั่ง

    แต่หากเราเกลี้ยกล่อมให้ท่านนั้นมีความต้องการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังได้แล้วละ
    ก้อ ก็ค่อยๆบอกว่า หากท่านผ่อนคลายจิตใจ ทำจิตให้เบาๆ สบายๆ ตั้งมั่น
    อยู่กับการรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลาย ไม่เคร่งไม่เครียด แล้วเปล่งวาจาเป็นคำสั่ง
    ออกไป พร้อมกับเอามือแตะตัวสุนัขเบาๆที่สีข้าง(เป็นการบอกว่าฉันสื่อสาร
    กับแกอยู่นะ ต้องใช้ภาษากายไปก่อน) จนมันรู้ว่าท่านกำลังคุยด้วย แล้ว
    มันมองมาเห็นจิตใจที่ผ่อนคลาย ไม่ได้หวาดระแวง ไม่ได้กลัวมันไม่รับคำสั่ง
    มันจะรู้ทันทีว่าตอนนี้ ท่านมีจิตใจมั่นคงกว่ามัน มันจะยอมเป็นลูกฝูง และทำ
    ตามคำสั่ง

    ผลที่ได้คือ เขาจะเห็นประโยชน์ที่ได้จากการสั่งสอน การแสดงความคิด การ
    ใช้พระเดชที่ไม่เจือความหวั่นไหว เขาจะเห็นว่า คำสั่ง การแสดงความคิดนั้น
    ออกไปจากใจจริง เมื่อเห็นบ่อยๆ ก็จะรู้ว่า ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเค้นความ
    หวาดกลัวฝังเอาไว้ อัดเอาไว้ ห้อยคอเอาไว้มากมาย เพื่อที่จะได้แสดงคำสั่ง

    ในเมื่อ แสดงคำสั่งแบบจิตใจปลอดโปล่ง ยังสั่งสุนัขได้รู้เรื่อง

    * * *

    แต่ห้ามหลุดคำว่า สุนัขมันอ่านใจคนได้นะครับ แค่บอกว่า ให้ทำใจผ่อนคลาย
    แล้วสั่งคำสั่งดู สั่งโดยไม่ต้องจ้องตามัน หากมันไม่ฟังก็แค่เอาอะไรไปสะกิด
    สีข้างมันหน่อย ( สุนัขมีโมหะมาก บางที่มันเผลอ ) แค่นั้นพอ
     
  3. piramid111

    piramid111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +1,204
    ขอบคุณในคำแนะนำค่ะ จะพยายามบอกคนในบ้านเขาให้ค่อยเืตือนเขา ขอให้ได้ผลด้วยเถิด
     
  4. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    รู้จักคนแบบนี้
    แต่ตอนนี้เดินคนละเส้นทางแล้ว
     
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,244
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,001
    การนั่งสมาธิช่วยได้เเน่นอนครับ เเต่ัยังไงควรศึกษาธรรมะควบคู่ไปด้วยโดยเข้ามาในเวปพลังจิตนี้เเล้วอ่านครับ จะได้เข้าใจถึงกลไกของชีวิตเราที่เเท้จริงครับ อนุโมทนาครับ http://www.buddhism-online.org/Index1.htm มาศึกษาที่เวปนี้ก้ได้ครับ ลองอ่านบทเรียนที่สองก่อนดู เดี๋ยวจะเข้าใจเอง
     
  6. ZeusInw

    ZeusInw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +333
    เจอมาบ่อย


    เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก


    เถียงก้อไม่ได้


    ฉานถูกตลอดเวลา


    เมื่อผิด ก้อยังถูกหนอ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อีกอย่างนะครับ อันนี้เป็นไม้ตาย หากคุณเป็นลูกเป็นหลานเขา ไม่ได้ห่างๆ
    แต่เป็นลูกหลานที่อยู่ใกล้ชิดมาแต่เด็ก ก็มีไม้ตายอีกท่าหนึ่ง

    แต่ชื่อมันบอกอยู่ว่า เป็นไม้ตาย ก็แปลว่าหนักเอาการสำหรับผู้ใช้ คนใช้ใน
    ที่นี้ก็คือคุณ จขกท

    ปรกติคนที่เคยเลี้ยงดูเรามา เขาจะเห็นเราตั้งแต่เล็ก เขาจะถือว่ารู้จักความ
    คิดความอ่านพัฒนาการณ์ของเราได้ เหมือนกับว่าเขาดูจิต อ่านจิต อ่านใจ
    เราได้

    ท่าไม้ตายก็อยู่ที่จุดนี้ เราต้องทำให้เขาอ่านไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ไปกวนประสาท
    เขานะ ให้เขาอ่านไม่ได้ก็คือ ให้ฐานข้มูลเดิมที่เขาเคยเห็นเรามีพัฒนาการ
    มาอย่างไรนั้นมันใช้เป็นสมมติฐานไม่ได้อีก เรียกว่า ผลิดหน้ามือเป็นหลังมือ
    เปลี่ยนชนิดฟ้าถล่มดินทลายไปในทางที่ดีขึ้น เขาถึงจะระลึกได้ว่า เขาอ่านเรา
    ไม่ได้อีกแล้ว คุณดีขึ้นจนผิดหูผิดตาที่เคยเห็น แบบนี้จะทำให้เขาฟังคุณได้บ้าง
    จากที่ไม่เคยรับฟังเลย

    ก็แน่นอนหละครับว่า การดีขึ้นชนิดฟ้าถล่มนั้นก็ต้องเป็นเรื่องปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
    ในทางศาสนานี่แหละ เริ่มต้นที่ตัวเองเป็นหลัก ดูใจของเราเป็นหลัก อย่างเช่น
    เรื่องในกระทู้นี้ จะเป็นเรื่องของกรุณาจิตของ จขกท ที่ตรึกไปในความเป็นไปของ
    ท่านคนนั้น ลองระลึกดู ลองนับดู วันหนึ่งๆ ตรึกกี่ครั้ง เห็นใจมันพุ่งไปหาเขา วิ่ง
    ออกไปจากสภาวะปรกติกี่ครั้ง แต่ละครั้งนานแค่ไหนกว่าจะระลึกได้ว่า ตรึกไป
    แล้ว ลองนับดู จิตวิ่งไปข้างนอกให้รู้สึก จิตกลับมาตรึกเรื่องของตัวเองให้รู้สึก

    การหมั่นรู้สึก จิตที่ส่งไปข้างนอก กับ จิตอยู่ในกายในใจตน จะเป็นการยกจิตดู
    สภาวะธรรมที่จิตครองอยู่ จับอยู่ เรียกว่า การเจริญสติ

    คำว่า เจริญ ภาษาบาลี คือคำว่า ภาวนา ดังนั้น เราก็จะได้ยินคำกล่าวสั้นๆว่า
    การ ภาวนา หากพูดเต็มๆ ก็คือ ภาวนาเจริญสติ

    เราเจริญสติ เพื่อให้จิตมันมีความชำนาญในการเห็นสภาวะธรรมที่จิตครอง ที่จิต
    จับ ที่จิตยึด พออบรมไปเรื่อยๆ จิตมีสติปัญญาแก่รอบเข้า มันก็จะระลึกซ้อน
    ได้อีกทีว่า มีจิต กับ สิ่งที่จิตไปยึด ไปจับ ไปครอง แล้วสองส่วนนั้นแยกออก
    จากกันให้เห็น จิต หรือ ใจ คือ ส่วนของผู้รู้ผู้ดู หรือ จิตพุทธะ ก็เรียก แล้วส่วน
    ที่จิตไปจับ เข้าไปรู้ เข้าไปครอง หิวที่จะมีนั่นคือส่วนของ ขันธ์5 ส่วนของสังขาร
    ธรรม

    พอเห็นว่ามีจิตผู้รู้ แยกจาก ส่วนของขันธ์5 เนืองๆ ก็จะมีปัญญาเล็งเห็นว่า ขันธ์5
    ที่จิตวิ่งเข้าไปยึด เข้าไปจับ มันหนัก มันเป็นทุกข์สัจจของจิต พอเห็นได้แบบนี้ก็จะ
    เกิดการตัดสินการเห็น จิตผู้รู้ จะแยกออกจาก ขันธ์5 อยู่สักสองสามขณะจิต ช่วง
    นั้นก็จะเกิดฌาณสมาธิที่เคยสะสมมาผุดขึ้นมารองรับอริยมรรค เพราะจิตได้เห็น
    อริยสัจจแห่งจิต ถ้าถึงตรงนี้ได้ รับรองว่า เขาจะเริ่มอ่านคุณไม่ออก เมื่อนั้นเขาจะ
    เริ่มฟังคุณครับ
     
  8. humanbeing

    humanbeing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +214
    คิดว่าอ่านหนังสือ หรือ ฟังธรรมะ และปฏิบัติธรรมช่วยได้นะคะ

    อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้ใจเย็นลง และมีเหตุมีผลมากขึ้น

    หรือพาไปวัด ให้พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีเทศน์ก็ได้นะคะ บางทีคนผู้นั้นอาจจะเห็นว่าเราด้อยอาวุโสกว่า เลยอาจจะไม่ฟัง
     
  9. piramid111

    piramid111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +1,204
    สุดยอดเลยค่ะ คุณนิวรณ์ ขอบคุณทุกท่านทีให้คำแนะนำมาค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...