ความแตกต่างของอรหันตสาวก และอรหันตโพธิสัตว์ สังเกตุได้ดังนี้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ชาไม่รู้, 13 มีนาคม 2009.

  1. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    อ้าว.. แล้วถามว่า ถ้าปัญญาแจ้ง ในส่วนนี้ แต่ยังเหลือสังโยชน์ จะต้องอาศัย บารมี คือเจโตวิมุตติหรือเปล่า ถึงจะได้ " อรหันตโพธิสัตว์ " ทีนี้ส่วนที่บอกว่า เป็นอรหันตโพธิสัตว์ เพราะว่า อาศัยบารมีของพระโพธิสัตว์ เพื่อหลุดพ้น เลยต้องมา ชำระหนี้หรือทำหน้าที่เพื่อให้คนอื่นพ้นทุกข์ด้วย จึงไม่เข้านิพพาน ว่างั้นหรือเปล่าคะ

    hello3
     
  2. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878


    ปัญญาแจ้ง เรียกว่าอรหันต์ แต่อาจมีกิเลสเหลือได้
    หมายถึง แม้มีกิเลสบางส่วน แต่คนที่มีปัญญา
    ก็ปัญญาแจ้งถึงอรหันต์ได้ โดยไม่ต้องชำระกิเลสหมดนะคะ


    ส่วนบารมีนี่อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าบารมีถึงโพธิสัตว์ ก็คือโพธิสัตว์
    ใครจะปฏิบัติจนปัญญาแจ้ง ก็ได้ทั้งนั้น ไม่ห้ามว่า คนมีบารมี
    ถึงโพธิสัตว์แล้วปัญญาจะแจ้งไม่ได้นะค่ะ


    ดังนั้น คนที่มีบารมีถึงโพธิสัตว์ ก็ปัญญาแจ้งถึงอรหันต์ได้
    โดยยังเหลือกิเลสไว้บางส่วน ก็สามารถเกิดได้อีกดังนี้
    จึงเรียกว่า "อรหันตโพธิสัตว์" ค่ะ


    ส่วนบารมีเก่าช่วยให้บรรลุอรหันต์นั่นก็ใช่
    คือ ถ้าบารมีเก่าถึงโพธิสัตว์ อรหันต์แล้ว
    ก็คือ "อรหันตโพธิสัตว์" ค่ะ
     
  3. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    อ้อ ...มีเมตตาว่างั้น
     
  4. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    อ๋อ

    เข้า ใจ ไม่ ตรง กัน เนื่อง จาก ยก ภาษามาเป็น สื่อ กลาง

    มัน คือ อัน นั้น เหมือน กัน แล
     
  5. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ตามที่ผมเข้าใจ แต่ก่อนที่ไขว่สายกันระหว่างสายพระโพธิสัตว์ กับสายพระอรหันต์ เมื่อทราบความเป็นมาของสายอรหันต์แล้ว สิ่งที่ควรทราบต่อไปว่า สายพระโพธิสัตว์ เขาบรรลุธรรมกันอย่างไร ก็ขอเริ่มต้นจาก...

    พระมานุษิโพธิสัตว์

    พระมานุษิโพธิสัตว์เป็นพระโพธิสัตว์ที่อยู่ในสภาพมนุษย์ทั่วไป ยังต้องฝึกอบรมตนเองและทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้อื่นไปพร้อมๆ กัน เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน พระมานุษิโพธิสัตว์มี 2 ประเภท คือ 1) อนิยตมานุษีโพธิสัตว์ คือผู้บำเพ็ญบารมียังไม่ถึงภูมิ 10 มีมุทิตาเป็นเบื้องต้น และมีธรรมเมฆาเป็นที่สุด 2) นิยตมานุษีโพธิสัตว์ คือผู้บำเพ็ญบารมีถึงขั้นภูมิ 10 แล้ว


    พระมานุษิโพธิสัตว์หลังจากได้บำเพ็ญบารมี 10 ประการข้างต้นโดยสมบูรณ์แล้ว สภาวะแห่งจิตของพระโพธิสัตว์ก็จะเจริญเข้าสู่ทศภูมิหรือภูมิ 10 ข้อของพระโพธิสัตว์ ได้แก่


    ภูมิที่ 1. มุทิตาภูมิ พระโพธิสัตว์ยินดีในความไร้ทุกข์ของสัตว์ (ทานบารมี)
    ภูมิที่ 2. วิมลาภูมิ พระโพธิสัตว์ละมิจฉาจริยาได้เด็ดขาด ปฏิบัติแต่ในสัมมาจริยา (ศีลบารมี)
    ภูมิที่ 3. ประภาการีภูมิ พระโพธิสัตว์ทำลายอวิชชาได้เด็ดขาด มีความอดทน ทุกประการ (ขันติบารมี)
    ภูมิที่ 4. อรรถจีสมดีภูมิ พระโพธิสัตว์มีความเพียรในการบำเพ็ญธรรม (วิริยะบารมี)
    ภูมิที่ 5. ทุรชยาภูมิ พระโพธิสัตว์ละสภาวะสาวกญาณกับปัจเจกโพธิญาณ ซึ่งเป็นธรรมเครื่องกั้นพุทธภูมิ (ญาณบารมี)
    ภูมิที่ 6. อภิมุขีภูมิ พระโพธิสัตว์บำเพ็ญยิ่งในปัญญาบารมี เพื่อรู้แจ้งเห็นชัดในปฏิจจสมุปบาท (ปัญญาบารมี)
    ภูมิที่ 7. ทูรังคมาภูมิ พระโพธิสัตว์มีอุบายอันฉลาดแม้บำเพ็ญกุศลน้อย แต่ได้ผลแก่สรรพสัตว์มาก (อุบายบารมี)
    ภูมิที่ 8. อจลาภูมิ พระโพธิสัตว์บำเพ็ญหนักในปณิธานบารมี
    ภูมิที่ 9. สาธุบดีภูมิ พระโพธิสัตว์แตกฉานในอภิญญาและปฏิสัมภิทาญาณ (พลบารมี)
    ภูมิที่ 10. ธรรมเมฆภูมิ พระโพธิสัตว์ไม่ติดในรูปธรรม นามธรรม (ญาณบารมี)


    อาจกล่าวได้ว่าทศภูมิจะสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง บ้างก็เรียกพระโพธิสัตว์ระดับนี้ว่า
     
  6. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ฉะนั้น พระอรหันตโพธิสัตว์ จะงานหนัก มาก จึงต้องมีพร้อมทุกอย่าง และต้องเจออุปสรรคมากมาย จนมีความเข้าใจว่าผู้อื่น อาจจะต้องเจอแบบนั้นเช่นกันจึงต้องช่วย
    แต่ส่วนพระอรหันต์ ไม่ได้มุ่งบำเพ็ญเพื่อช่วยใคร ละสังโยชน์แล้ว มีความเบื่อหน่าย ในสังสารวัฎจึงจบกิจ เพราะไม่มีอะไรต้องทำอีกแล้ว
     
  7. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    ขอบคุณชาไม่รู้นะครับ

    ผมเองก็กำลังปฏิบัติอยู่เช่นกันนะครับ เวลาที่ผมตอบ หรืออธิบายส่วนใหญ่จะเป็นธรรมจากการปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่กรณีของคุณผมได้อธิบายด้วยเหตุผลการปฏิบัติกับคุณไปแล้วในบางประเด็น ยังทำให้ท่านกระจ่างไม่ได้เท่านั้น และส่วนเรื่องอย่างไรถึงเรียกว่าพระอรหันต์ได้ เราจะคิดเองไม่ได้ เพราะคำนี้เป็นสมมุติบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงสมมุติว่าหลักเกณฑ์ควรจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เราไปตั้งเอาเองได้นะครับ ดังนั้นนำพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้ามาตอบนั้นดีที่สุดครับ

    "แม้ว่าตัวเรา คำพูดต่างๆ จะเป็นเพียงสมมุติ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราก็ตาม แต่คำพูดที่ออกมาแล้วนั้น สามารถยังให้เกิดวิบากกรรมแก่ผู้ที่พูดบิดเบือนพุทธพจน์ต่อไปในภายหน้าได้" นะครับ

    หากว่า คุณไม่ใช่คนในพระพุทธศาสนาจะบัญญัติคำว่า "อรหันตโพธิสัตว์" อย่างไรก็ได้ แต่หากเป็นพุทธศาสนิกชนแล้ว คำว่าอรหันโพธิสัตว์ ไม่ควรจะมีเลย หรือหากมีก็ไม่ควรจะเป็นดั่งความหมายที่คุณตั้งกระทู้มาเลย จะใกล้เคียงที่สุด ก็คือ พระโพธิสัตว์ที่พยายามบำเพ็ญตนเป็นพระอรหันต์ แต่หาใช่ผู้ที่เป็นอรหันต์ไปแล้วกลับถอยมาเป็นพระโพธิสัตว์ได้อีก ดังนั้นถอนทิฐิความเชื่อนี้จะดีกว่าครับ เพราะจะเป็นการบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าได้...

    ลองคิดดูนะครับ หากบัญญัติอย่างที่ดังคุณกล่าวไป ไม่แน่ในอนาคตอาจจะบิดเบือนไปกว่านี้อีกถึงตอนนั้นอาจจะกลายเป็นพระอรหันต์เก้กันทั่วบ้านทั่วเมืองได้..พุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2009
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ผมว่าเป็น ธรรมดาเมื่อ ผู้เป็นผู้เจริญแล้ว...ย่อมมีเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งปวง
     
  9. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    ก็มันมีจริงนิหว่า....*-+..........
    หาสมการมาตั้งไปเหอะ..........
    หาไปก็ไม่เจอ......คิ คิ.........
    .
     
  10. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    อั้งไล้ ลูกป๋ะป๋า สมการไม่ต้อง เด๊ยวป๋ะป๋าจัดให้

    อันนี้แล้วแต่ความคิด แต่ที่เคยประสบมา (ยังกับปฏิบัติได้แน่ะ)

    เมื่อไรที่ปฏิบัติไประยะหนึ่ง จิตจะรับรู้เองว่า จริตตนมาทางสายใด
    สมมติว่า .... (สมมติ)
    จิตเราปรารถนามาทางพุทธภูมิ แต่เมื่อถึงวาระหนึ่ง หยั่งรู้ว่าอนาคตไปไม่ไกลแน่
    กว่าจะหลุดพ้น คงคางเหลือง ไม่เอาแล้ว ชาตินี้ชาติเดียวพอ ป๋ะป๋าเกิดหน่ายชาติภพ
    ป๋ะป๋า ขอหลุดพ้นในชาติปัจจุบันดีกว่า

    ป๋ะป๋า ก็ต้องจิตอธิฐานต่อองค์พระศาสดาว่า ณ บัดนี้ ลูกขอละแล้วซึ่งพุทธภูมิ ขอเป็นสาวกภูมิแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอไปอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระองค์ และขอนำพาไปสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

    อันนี้ เรียกว่า ลาพุทธภูมิ ไปเป็นสาวกภูมิ จึงน่าจะเปรียบได้ว่าเป็น อรหันต์โพธิสัตว์ เพราะของเดิมเป็นพุทธภูมิ และได้ปฏิบัติบรรลุตามนั้นไปแล้ว เพียงแค่พลิกกายตามจิตอธิฐาน ก็จะบังเกิดเป็น สาวกภูมิ ในทันที

    ในลักษณะทำนองเดียวกัน การลาจากสาวกภูมิ ไปเป็นพุทธภูมิ จากฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการช่วยเหลือหรือโปรดสรรพสัตว์ ก็จะเรียกว่า อรหันต์โพธิสัตว์ ด้วยเช่นกัน

    ไม่รู้จะถูกหรือเปล่า คนอื่นลองคิดบ้างดิ




     
  11. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ท่านไม่ได้รับบุญ ท่านให้บุญต่างหาก บุญนั้นจะเป็นของผู้ที่บริจาคเงินทองซึ่งเป็น
    ปุถุชน บุญนั้นจำเป็นด้วยหรือต้องรับได้หมดหรือไม่หมด บุญนั้นรับได้ตลอดสร้าง
    บุญมากก็มีมากสร้างน้อยก็มีน้อย ท่านเปิดโครงการช่วยชาติมา ท่านก็ไม่ได้ไป
    บังคับข่มขู่ใครมาทั้งนั้น ทุกคนที่มาบริจาคก็ล้วนมาด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เมื่อคน
    ให้ทานบริสุทธิ์ใจ สิ่งของที่ทานก็ได้มาโดยสุจริต ผู้รับก็บริสุทธิ์ นี่แหละครับเขาถึงเรียกว่ามหาบุญแห่งทาน ท่านเคยมาวัดป่าบ้านตาดหรือป่าว ถ้ายังจงรีบมาขอขมาท่านซะ ถ้ามาแล้วอยู่ในวัดก็จงระวังความคิดตัวเองให้ดีเดี๋ยวจะโดนท่านทักเอาได้ หึหึ ขอบอก ๆ
     
  12. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437

    แบบนี้สิครับ ถึงจะเรียกว่า มีเหตุ มีผล ทรงไว้ซึ่งพระพุทธวจนะ

    อนุโมทนา สาธุการครับ

    เมตตาวิหารี
     
  13. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    [​IMG] [​IMG] มีสองตาแล้ว
     
  14. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    คริคริ

    ด้วย เหตุ เท่า ใด ถึง จะ ถูด เรียก ว่า โพธิสัตว์

    เป็นไปได้จริงหรือ ว่า จะ ถูก เรียก ว่า โพธิสัตว์ ถ้า จะ ไม่ ได้ เป็น ผู้ เที่ยง แท้ ใน การ เป็น พุทธะ
     
  15. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    อรหันต์คือผู้ไกลจากกิเลส อาศัยธรรมวินัยครองไว้ดีจึงจะนิพพานได้
    หลังจากดับขันธปรินิพพานแล้ว

    แต่หากไม่ครองธรรมวินัยไว้ดี ก็จะได้แค่
    นิพพานดิบ ไม่ได้นิพพานสุก


    ถ้าอรหันต์แล้วนิพพานเที่ยง ธรรมวินัยก็ไม่ต้องมารักษากัน จะเฮโลกันไป
    ทำอะไรก็ได้ ไม่ยึดแล้ว นิพพานเที่ยงแล้ว
    อย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็คงไม่ต้องมาตราธรรมวันัยให้


    อย่าไปอาศัยช่องโหว่ของกฏหมายเพื่อโกงกิน
    อย่าไปอาศัยช่องโหว่ของไตรปิฎกเพื่อโกยผลประโยชน์


    คิดดีๆ บาปหนักอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2009
  16. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878

    ปฏิบัติให้รู้แจ้งด้วยตน นี่คือ คำสอนขององค์ศาสดา
    ไม่ใช่ "อ้างช่องโหว่ของตำรา, กฏหมาย, ไตรปิฎก"
    มาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แบบนักการเมืองเขาทำ
    มันเป็นวิชชามารที่ครอบงำคนโง่ได้ แต่ผู้มีปัญญาเขาไม่ทำกัน
     
  17. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    กรรมของสัตว์
     
  18. ^บัวหลวง^

    ^บัวหลวง^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +661
    ขอโทษด้วยนะคะ ตั้งแต่อ่านกระทู้มายังไม่เห็นว่าคุณ siratsapon จะแสวงหาผลประโยชน์แบบนักการเมืองอย่างที่คุณว่าเลย ก็เห็นมีแต่ช่วยอธิบายให้คนอ่านหลายๆคนมีสัมมาทิฐิ มีความเห็นที่ถูกต้องค่ะ จะกล่าวหาเพื่อนสมาชิกคนใดต้องมีหลักฐานนะคะ ถ้าทำอย่างนี้ก็จะไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมกับเพื่อนๆสมาชิกค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...