อรหันต์แล้ว ไม่สนใจศีล จิตไหลออกจากสาวกภูมิ เข้าพุทธภูมิ สุดท้ายไม่นิพพาน ได้อรหันตโพธิสัตว์

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ชาไม่รู้, 9 มีนาคม 2009.

  1. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    [​IMG]
     
  2. cmessage

    cmessage สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +11
    ไม่ทราบไปเอาข้อมูลจากที่ไหนนะครับ แต่เป็นข้อมูลที่เห็นผิดโดยตรงและทำให้ธรรมมะบิดเบือน พระอรหันจะไม่มีวันกลับมาเป็ฯปุถุชนได้ได้อีกนั่นไม่ไช่ฐานะและโอกาสเป็นไปได้ แต่ยังไม่อีกหลายคนที่คิดว่าตนได้อรหันแล้วซึ่งความจริงยังไม่ได้อะไรเลยการบำเพ็ญจึงไม่ก้าวหน้ากลุ่มที่กลับมาถอยหลังอีกจะอยู่ในกลุ่มนี้ ส่วนพระอรหันที่ไช่แน่นอน จะไม่มีทางถอยกลับมาได้อีกเด็ดขาดเพราะถือได้ว่ามีสติสมบูรแล้ว กิจที่ต้องทำไม่มีแล้ว ดังพุทธพจที่ได้กล่าวไว้ในหลายตอน ขอให้กลับไปศึกษาให้ละเอียดกว่านี้นะครับ;aa27
     
  3. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ใช้สติใช้ปัญญาไตร่ตรองก่อนนะครับคุณชา

    ถ้าคุณอ่านตำรามาอย่าอ่านสำนักเดียวครับ อ่านหลายๆสำนักครับ

    แล้วใช้สติใช้ปัญญาของตนเองพิจารณาดูก่อนว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นถูกต้องแล้วหรือยัง????
     
  4. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    ทุกอย่างไม่พ้นความเสื่อม ปฏิบัติถึงได้ ไม่รู้จักรักษาธรรมวินัย
    สิ่งที่เคยได้ ก็เสื่อมได้ ตราบใดที่ยังมีกายสังขาร ขันธ์ห้ายังไม่ดับ
     
  5. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    เฮ้อ.....พุทธศาสนิกชน
     
  6. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ศึกษาให้มากๆ...
    อย่าเดาด้น...ปัญญาแค่หางอึ่ง
    แต่...มาอวดภูมิธรรมความรู้
    ทุกข้อ...แค่ปัญญาทรามของปุถุชนขี้เหม็น
    มาวิพากวิจารณ์พระอรหันต์..พระพุทธเจ้า
    บาปหนักหนา...หนูเอ๋ย
    ขอขมาพระรัตนตรัยซะนะ...
    เพื่อบาปจะได้ลดลง
    การบรรลุธรรมของพระอรหันต์..จิตไม่ยึดมั่นในขันธ์ 5
    จึงไม่มีอุปทานยึดมั่นถือมั่นในชาติภพ...
    ส่วนเรื่องกรรมเป็นเรื่องอีกส่วนหนึ่ง...
    ที่ท่านจะต้องรับกรรมนั้นในชาติสุดท้าย...
    แต่จิตไม่เสวยสุขหรือทุกข์
    มีแค่เวทนาในกายไม่มีเวทนาในจิต
    เพราะดับเวทนาในขันธ์ 5
    ถ้ามาเิกิดอีกเป็น....อรหันต์แต่งตั้ง....เก๊
    ส่วนเรื่อง...พระชินปัญจระ บรรลุธรรมตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ
    บรรลุธรรมขั้นอนาคามี ไม่ใช่พระอรหันต์...มั่วมาก

    นายฉันนะ ขณะนั้นยังไม่เป็นพระอรหันต์ มีทิฐิมานะมาก
    เพราะถือว่า...เป็นข้ารับใช้เก่าแก่ของเจ้าชายสิทธิถัตธะ
    ส่วนการลงโทษพรหมทัณฑ์
    เป็นเรื่องการห้ามคณะสงฆ์ไม่สั่งสอนไม่ยุ่งเกี่ยวพระฉันนะ
    จนท่านสำนึกผิดมาขอขมาต่อพระพุทธเจ้าและคณะสงฆ์
    ต่อมาจึงสำเร็จเป็น พระอรหันต์ ในภายหลัง
    เป็นพระอรหันต์สุภัททะกับพระสุภัททะที่ปรามาสธรรมวินัย้ป็นคนละองค์กัน
    ชื่อเหมือนกัน มั่วอีกแล้ว

    ศึกษาให้แจ่มแจ้ง....อย่ามัวแต่อ่านสัทธรรมปฏิรูป (ธรรมที่ดัดแปลงแต่งเติม)
    จะได้ไม่โง่..เป็นเหยื่อมารศาสนา...หลอกให้ลงนรก
    นะ.....หนูนะ....ยังไม่สาย
    ถ้ากลับใจ...สำนึกผิด
    แต่ถ้าจะอวดทิฐิ....ไม่สำนึก...
    กรรมใครกรรมมัน...ก็แล้วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2009
  7. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    อรหันต์แล้ว ไม่สนใจศีล จิตไหลออกจากสาวกภูมิ เข้าพุทธภูมิ สุดท้ายไม่นิพพาน ได้อรหันตโพธ�



    เเหมคุณเเค่ชื่อเรื่องก็เป็นไปไม่ได้เเล้ว ถ้าพระถือศีลไม่ครบจะไปอรหันตร์ได้ไง
    ไปยังไงขับจรวดไปหรือ หรือนี่ >>>>hello8 :z8 & ect... อิๆ
    ถ้าไม่รุ้ หรือไม่เเน่ใจ ก็ควรจะถามคนอื่นเอาก่อน คิดตั้งกะทู้ไปเองนะคะ
     
  8. Mcafee.x

    Mcafee.x เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +118
    โลกนี้ไม่มีใครถูกหรือผิดหรอกครับ มีแต่่รู้กับไมุ่็รู้ หากเขาไม่รู้ก็ไม่ควรไปตำหนิเขา ควรลองแนะนำดูก่อน แนะนำไม่ได้ก็ยอมรับกฏของกรรมไปเถอะครับ
     
  9. Mcafee.x

    Mcafee.x เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +118
    ผมจะไม่กล่าวว่าใครถูกผิด พระไตรยปิฏกเหมือนช้าง พวกเราเหมือนผู้ตาบอดพอได้ลูบคลำบางส่วนย่อมตีความไปต่างๆนาๆ ส่วนพระอริยสงฆ์ผู้มีดวงดาปราศจากธุลีมาบดบังเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา ย่อมสั่งสอนให้สาธุชนได้มีความแจ่มแจ้ง ดังนั้นการเข้าไปหาพระอริยสงฆ์เหล่านั้นแล้วถามจึงเป็นการสมควร จึงเป็นการนอนใจได้ว่าธรรมนั้นเป็นของแท้ ปฏิบัติตามท่านเหล่านั้นย่อมจะพาไปในทางที่ไม่เสื่อม ถึงสุคติที่หวังได้เป็นแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2009
  10. kittikorn

    kittikorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    2,232
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,846
    จขกท.ก็แค่ใบลานเปล่า.............หรือลิงถือใบลาน
     
  11. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก
    คุณชาไม่รู้..อิโหน่อิเหน่
    แก่ และ มีลูกแล้ว
    จึงดัดยากมากๆ
    แต่
    สังคมให้อภัย
    ถ้าคิดกลับใจ
    ไม่เป็น
    ชาล้นถ้วย
     
  12. naf06

    naf06 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +2,227
    Mahamotana_Satukan
     
  13. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    จากหนังสือวงศ์มังกร


    ในอดีตกาลครั้นองค์สมณโคดมเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ครานั้นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า คือ พระโมคคัลลานะ ผู้เลิศในอิทธิฤทธิ์ และ พระสารีบุตร ผู้เลิศในปัญญา

    ณ.เมืองพาราณสี มีเด็กน้อยนามว่า ชินนะ บุตรของมะติโตะ พราหมณ์และนางยะถานา พราหมณี โคตร ปัญจะระ เลื่อมใสในพระพุทธ ศาสนาแห่งองค์พระศาสดาแต่ครั้งเยาว์วัย ได้บวชเป็นสามเณร และ เป็นศิษย์ของ พระโมคคัลลานะ สามเณรชินนะ ทรงภูมิปัญญา เป็นที่เฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ศรัทธาในการบิณฑบาตอย่างสงบ ขยันหมั่นเพียรเป็นนิจ ครั้นอายุได้เพียง 7 ปี ก็สำเร็จอรหันต์
    สามเณร ชินนะ ปัญจะระ นับว่ามีรูปงาม เสียงไพเราะ รู้พิธี มีระเบียบ รอบคอบ สะอาด ตั้งอยู่ในศีลาจารวัตรอันงดงาม

    ครั้นย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม รูปร่างของท่านชินนะปัญจระ ยิ่งสวยสดงดงาม ผิวขาวละเอียดประดุจหยก หน้าแดง ระเรื่อสีชมพู ไว้ผมเกล้าจุก คิ้วรูปงามเหมือนคันศร ตางามเหมือนเหยี่ยว จมูกโด่งงาม เดินดั่งพญาราชสีห์ กายนั้นมีแสงเหมือนพระอาทิตย์ เสียงไพเราะเหมือนนกการะเวก เป็นที่ต้องตาต้องใจสตรีเพศ จึงมีสตรีเพศต่างหลงใหลในตัวของท่านชินะเป็นอย่างยิ่ง ด้วยท่าน ชินนะนั้น ยึดพรหมจรรย์เป็นสรณะจึงมีแต่ความสงบ

    ท่านชินนะ นับว่าเป็นผู้รอบรู้พิธีการต่าง ๆ ของโลกวิญญาณ ท่านสามารถสวดมนต์ พระคาถา ได้อย่างเยี่ยมยอด ยามท่านสวดพระคาถาไม่ว่าบนโลกหรือสวรรค์ เสียงของท่านจะก้องกังวาลทั่วนรกภูมิ และ สวรรค์สามสิบสามชั้น เทพพรหมได้ยินจะสะเทือนจิตออกจากสมาบัติ เพื่อรับทราบพิธีการที่ท่านชินนะจัดขึ้น
    แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ท่านชินนะ ได้ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ได้มีหญิงผู้หนึ่ง ซึ่งแอบหลงรักท่านชินนะ มิอาจยับยั้งใจเอาไว้ได้ จึงได้โผผวาเข้ากอดท่านชินนะอย่างลืมตัว ท่านชินนะเห็นอาการของผู้หญิงคนนั้นกระทำแก่ท่าน ดังนี้ ก็บังเกิดความสังเวชอย่างใหญ่หลวง อันพรหมจรรย์ของท่านต้องมาแปดเปื้อนเสียดังนี้ ความยึดมั่นในพรหมจรรย์ของท่านต้องมาสะบั้นลง ท่านจึงดำริขึ้นว่า........

    ตัวท่านนี้มีรูปงามเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมแก่อิตถีเพศ เป็นการสร้างบาปให้เกิดขึ้นด้วยรูปกายนี้เป็นเหตุ จะมีอีกสักเท่าใดกันหนอ ที่ปรารถนาล่วงพรหมจรรย์ของท่านเช่นหญิงคนนี้.......

    ท่านจึงละสังขารไว้เมื่อยังไม่ถึงกาล อายุท่านเพียง 23 ปี 6 เดือน กายละเอียดไปบังเกิดในพรหมโลก เป็นหัวหน้ารูปพรหม 16 ชั้น ควบคุมดูแลชั้นพรหม ทั้งนี้ด้วยท่านละสังขารก่อนถึงกาล และเจตนาคติในกาลเกิดมาเพื่อช่วยงานศาสนกิจ พุทธกิจ แห่งองค์สมเด็จพระทศพล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านชินนะคิดดังนี้ เห็นกายเป็นเหตุ กายทำให้พรหม์จรรย์จิตเสื่อมสลาย กายก่ออกุศลจิตเป็นบาป กับอิตถีเพศผู้ยังมัวเมาในรูป ท่านจึงเดินสมาบัติถอดกายออกจากร่าง แต่งานที่ตั้งใจมาเกิดยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังตนให้อยู่ชั้นพรหมโลก เพื่อสืบสานสายงาน อาณาจักร พุทธจักร มรรค ผล นิพพาน แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในตำแหน่งหัวหน้าพรหม หน้าที่เป็นหน้าที่ ท่านต้องยังอยู่พรหมโลก เพื่อดำรงคติตามหน้าที่ที่รับมอบหมายมาจากต้นธาตุ ต้นธรรม วงศ์มังกร ฉะนั้น รูปจำลองของท่านจึงเป็น รูปยืน เท้าเหยียบเต่าและงู ตำแหน่งผู้พิชิตมาร ดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้
     
  14. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    เท่าที่ค้นพบมีการบันทึกว่าท่านชินปัญจระอรหันต์ตอน 7 ขวบ
    ก็กล่าวตามหนังสือบันทึกนั้น ไม่ทราบว่าใครบิดเบือนกันแน่คะ


    แล้วที่ว่าบรรลุอนาคามีนั้นเอามาจากไหนคะ?
     
  15. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    <TABLE width=562><TBODY><TR><TD vAlign=top width=554>พระประวัติ
    ท่านท้าวมหาพรหม ชินนะปัญจะระ ท่านเกิดในสมัยพุทธกาล ในครอบครัวตระกูลพราหมณ์ บิดาของท่านชื่อ มะติโตะ และมารดาของท่าน ชื่อยะถานา ในวัยเด็กท่านสังเกตเห็นนักบวชในสำนักองค์สมณโคดมท่านหนึ่งออกบิณฑบาตร ด้วยกิริยาสงบน่าเลื่อมใส ต่อมาจึงทราบว่าท่านผู้นั้นคือ พระโมขคัลลานะ อัครสาวกของพระพุทธเจ้า ท่านชินนะจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใส ออกบวชเป็นสามเณร ลูกศิษย์ของพระโมคคัลลานะ ตามประวัติกล่าวว่าท่านสำเร็จจิตเป็นพระอรหันต์ ตั้งแต่อยู่ในช่วงอายุ 7 ขวบ ต่อมาเมื่อท่านเจริญวัยขึ้นมีลักษณะรูปงามน่าศรัทธาทำให้หญิงสาวทั้งหลายเกิดขาดสติหลงใหล จนกระทั่งเมื่อท่านอายุ 23 ปี เกิดเหตุไม่คาดฝันขณะที่ท่านเดินบิณฑบาตรได้มีสตรีกระโดดเข้ากอดท่าน เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ท่านชินนะเกิดความสังเวชใจยิ่ง และเป็นเหตุให้ท่านอธิษฐานถอดจิต ละสังขารสู่พรหมโลก โดยไม่ได้เข้าสู่แดนอรหันต์ คุณลักษณะตามคำบอกเล่าของสมเด็จหลวงพ่อโต เมื่อสมัยที่ท่านมาทำงานโปรดมนุษย์ ณ สำนักปู่สวรรค์กล่าวว่า

    คุณลักษณะ ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระยิ่งใหญ่
    เทพพรหมนั้นมีมากมายกว่าเมล็ดทรายในท้องมหาสมุทร แต่มีพรหมที่มีตบะแรง พรหมที่มีอวุโส มีตำแหน่งในพหรมโลกนั้นมีไม่กี่องค์ ในพรหมโลกมีพระพรหม ๔ องค์ที่เป็นใหญ่ในพรหมโลก มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับพรหมโลก คือ
    1. <LI class=text-normal>ท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ <LI class=text-normal>ท้าวอัปราพรหม <LI class=text-normal>ท้าวจตุรพรหม
    2. ท้าวมหาพรหมสามภพ
    พระพรหมชินนะนี้ เป็นผู้พร้อมทุกอย่าง เขาเรียกว่าเป็นผู้สำเร็จสมัยองค์สมณโคดม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นพรหมที่ไม่ขึ้นต่อพรหมโลก เขาเรียกว่าเป็นพรหมเอกเทศในพรหมโลกและมีบารมีแห่งฌานสมาบัติอันแก่กล้า พรหมองค์นี้ไม่ใช่พรหมที่จะติดสินบนกับมนุษย์ ทรงไว้ด้วยความยุติธรรม และเป็นผู้รอบรู้สรรพสิ่ง เรียกว่าเจ้าพิธีการของโลกวิญญาณ เป็นหัวหน้ารูปพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น เป็นพระพรหมที่เรียกว่าเทวดาผู้หญิงหล พรหมผู้หญิงที่ฝึกยังไม่ถึงชั้น ๕ พรหมชั้น ๔ ยังติดกาเม ก็ยังหล แต่มีกฎว่าผู้ใดถูกแม้แต่เท้าพระพหรมชินนะ ผู้นั้นจะต้องถูสาปมาเป็นเกิด เพราะว่าเป็นพรหมที่เกลียดสตรีเพศ พรหมองค์นี้เป็นพรหมที่มติสามโลกเอื้อมไปไม่ถึง ท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ เป็นคนมีวินัย รักความสะอาด สงบเสงี่ยม สุขุมคัมภีรภาพ มีความเฉลียวฉลาด เป็นพรหมยิ่งใหญ่ของพรหมโลกที่ขจัดมารได้ทั่วภิภพ... ตอนออกรบจะพิชิตมาร หมายความว่าพรหมโลกเกิดเรื่องยุ่งก็ดี เทวโลกเกิดยุ่งก็ดี ยมโลกเกิดยุ่งก็ดี มารโลกเกิดมาเรื่องมาก เขาช่วยกันไม่ได้ เขาก็ต้องมาเชิญองค์พระพหรมชินนะ พระพหรมชินนะจะออกศึกก็มีพาหนะ
    พาหนะ
    เท้าขวาเหยียบเต่า ท้ายซ้ายเหยีบพญานาค เป็นพาหนะประจำตำแหน่ง พาหนะเหล่านี้เป็นวิญญาณทิพย์เป็นวิญญาณที่จำศีล เตรียมตัวเกิดเป็นสาวกในยุคพระศรีอริยเมตไตรย เต่ามีอายุยืนนานและแข็งแกร่ง ท้าวขวาท่านหนักมาก ถ้าเหยียบพยานาครับรองว่าแบน ก็เอาเต่ามารอง เท้าซ้ายไม่ค่อยหนักก็เอาพญานาคเหยียบ เต่านั้นถือว่าเป็นสัตว์บก พญานาคเป็นสัญลักษณ์ของน้ำ เหยีบพญานาคหมายถึงเหยียบสมุทร แสดงว่าทั้งบกทั้งน้ำอยู่ใต้ตีนข้า เวลาท่านประทานน้ำมนต์อาบคนใข้ สองหน่อนี้ก็มาช่วยอยู่
    วรกาย
    พระวรกายมีแสงดั่งพระอาทิตย์ จิตใจงามเหมือนพระจันทร์ คิ้วโก่งเหมือนคันศร นัยน์ตางามและคมเหมือนเหยี่ยว ผิวกายละเอียดเหมือนหยกขาว ผมเกล้าจุกขมวดไว้บนพระเศียร เศียรมีปิ่นเพชร ปิ่นเพชรมีสีทอง พระพรหมชินะ ไม่ยอมอธิษฐานแปลงกายแห่งกายทิพย์ของตนให้เป็นแปดหน้าสี่กร หรือสี่หน้าแปดกรการที่พระพหรมมีหลายๆหน้า เพราว่าท่านมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของพรหมโลก และต้องดูแลในการจัดการที่จะมาต้านของเหล่ามาร ที่จะมารังควานในการนั่งสมาธิของพรหม อันนี้อาจจะถามว่า แล้วเหตุไฉนพระพรหมชินนะจึงไม่ต้องมีหลายหน้า เพราะว่าพระพหรมชินนะนั้นมีรังสีแห่งวรกายของแก้ว ๗ ชั้นคลุมอยู่ จึงไม่ต้องใช้หน้ามาก เพียงแต่เปล่งรัศมีแผ่ไป พรหมเขาก็รู้พวกมารหรืออะไรเขาก็รู้นี่พรหมองค์นี้มา ก็คือสัญลักษณ์ของท้าวมหาพรหรหมองค์นี้มา ท่านจึงไม่ได้เนรมิตในร่างกายให้ผิดแปลกกว่าเขา กายนั้นเปล่งรัศมีรอบวรกายเป็นพระอาทิตย์ขาวขึ้น ในภาวการณ์ที่เรียกว่า ถ้าพระพหรมองค์นี้ไปไหน เทวดาเห็นเป็นพระอาทิตย์เคลื่อนที่มีรัศมี ๕๐๐ เส้น เทพพรหมจะรู้ว่าท้าวมหาพรหมชินนะมา แต่พวกอมรมนุษย์ เทพ พวกรุขเทวดาเหล่านี้ยังไม่รู้จัก เพียงแต่คิดว่า เอ๊ะ พรหมองค์นี้มีรัศมีมากเพียงพอหนอ
    เครื่องแต่งกาย
    การแต่งกายของโลกวิญญาณนั้น เสื้อผ้าที่แต่งนั้นเป็นของทิพย์ พอใจก็นุ่งชุดนี้ตลอดกาล ทีนี้การแต่งตัวของท้าวมหาพรหมชินนะเขาเรียกว่าแต่งแบบครึ่งกึ่งพระกึ่งพรหมคือ ทั้งชุดที่นุ่งนั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เพราะว่ากายเนื้อทิพย์ของพระพรหมชินนะเป็นเนื้อหยกขาว ชุดที่นุ่งนั้นก็เป็นชุดขาวละเอียด พระวรกายก็เป็นสีที่เรียกว่าขาวอย่างมีสีนวล เปล่งรัศมีไกลถึง ๕๐๐ เส้น
    คฑา
    มือขวาถือคทาเรียกว่า “คฑาพรหม” เป็นจามจุรีทิพย์หัวคทามีแสงพุ่งออกมาเป็นรัศมีเป็นรุ้ง ๓ สี

    วิมาน
    วิมานท่านอยู่พรหมโลกชั้นที่ ๑๓ วิมานนั้นเนรมิตสร้างขึ้นด้วยแก้วมรกต พื้นวิมานปูด้วยทองคำบริสุทธิ์รอบในหลังคามุงด้วยเพชร บรรทมด้วยสิงห์ ไม่มีคนใช้ไม่มีบริวาร ส่วนมากอยู่เอกเทศเพียงองค์เดียว ไม่ชอบพูดกับใคร ไม่มีใครกล้าเหยียบวิมานโดยพลการ พหรมเอกเทศหมายความว่า ไม่ขึ้นกับพหรมโลก จะอยู่ในพรหมโลกก็ได้ ไม่อยู่ก็ได้ แล้วแต่ความพอใจ วิมานมีหลายแห่ง
    ลัทธิชินโตโนะ
    ในประเทศญี่ปุ่นนับถือท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระมาก เขานับเป็นพระอรหันต์ในตำราของเขา แล้วชินนะปัญจะระชินศรีเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เพราะฉะนั้นในญี่ปุ่นเขานับถือท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระมาก แต่เขาเรียกเป็น “ชินโตโนะ” หรือ ศาสนาชินโตโนะ คือบูชาพระอาทิตย์ ที่เขาบูชาพระอาทิตย์เพราะ ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระก่อนจะปรากฏร่าง จะต้องเป็นแสงอาทิตย์ เรียกว่ารัศมีพุ่งเป็นรุ้ง ฉะนั้นในญี่ปุ่นเขานับถือเป็นลัทธิหนึ่ง คือ ลัทธิชินโตโนะ
    ผู้พิชิตมารทั่วพิภพ
    ท้าวมหาพรหมชินนะ ท่านเป็นพระพรหมที่มีฤทธิ์เดช ที่เรียกว่าพญามารหรือมารทั้งหลายกลัว ในด้านของมารโลเก โลกของมารของพวกวิญญาณ ดังนั้นก็เรียกว่า ท่านมีรูปของท้าวมหาพรหมชินนะอยู่ในบ้านก็คิดว่าอุปสรรคในการกลั่นแกล้งของวิญญาณ พวกที่เรียกว่ารุกขเทพก็ดี พวกอมรมนุษย์ก็ดี พวกผีเปรตอสุรกายก็ดี คิดว่าไม่กล้าย่างกราย


    </TD></TR><TR><TD>
    เมื่อจะระลึกถึงท่าน กล่าวพระคาถาบูชา
    ชินนะ ปัญจะระ ๓ จบ
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    พระอรหันต์ชินปัญจระ ได้รับการบันทึกไว้ว่าบรรลุอรหันต์ตั้งแต่ 7 ขวบ
    แต่ถ้าเราไปปรามาสท่านว่าท่านบรรลุเพียงอนาคามี จะมีกรรมเท่าไรคะ?
     
  17. Sarikanon

    Sarikanon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +22
    อรหันต์มาเกิด ก็ไม่ใช่อรหันต์แล้ว
     
  18. Sarikanon

    Sarikanon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +22
    จากหนังสือวงศ์มังกร
    นี่แหละ ตัวอย่างของสัจธรรมปฏิรูป

    ถ้าถือว่าเป็นพุทธ และนิกาย เถรวาท
    ก็ต้องถือว่า ต้องยอมรับพระไตรปิฏกเป็นใหญ่ เหตุอะไร ที่มาขัดแย้งถือว่าตกไป

    จิตของผู้ที่บรรลุอรหันต์ จะไม่เคลื่อนต่ำลงมาเป็นอันขาด!
    นอกเสียจากอรหันต์เก๊ อรหันแต่งตั้ง ซึ่งมีเยอะ
     
  19. Sarikanon

    Sarikanon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +22
    ๕) การรับเงินทอง

    "พระอรหันต์หลายท่านหลงเพลิน สุดท้าย เงินเข้ามากๆ เกิดปัญหาว่าจะเอาไปทำอะไรดี ก็ได้คำตอบว่า “ทำสิ่งกุศล” ดังนี้ “บุญบารมี” ก็เกิด เมื่อเกิดแล้ว “ชาติภพ” ก็ตามมา ไม่สิ้นสุด ไม่จบ ไม่นิพพาน นี่ละ ปัญหาสำคัญ สุดท้ายกลายเป็น “อรหันตโพธิสัตว์”นั่นเอง "

    พระอรหันต์หลงเพลินกันเงิน???? อรหันอะไรเนี่ย หลงเพลินกับกาม ลุ่มหลงในกาม 55+
    และบุญทำให้เกิดภพเกิดชาติ????
    เข้าป่าไปเรื่อยๆ เลยนะ มั่วชัดๆ

    กุศลกรรม พระอรหันต์ทำได้ แต่พระอรหันต์ไม่เกิดอีก เพราะ อวิชาดับ
    ดังนั้น เมื่อเข้านิพพาน หลุดออกจาก 3 โลกไปแล้ว กรรมดีที่จะให้ผล
    ก็ให้ผลไม่ได้ เพราะไม่มีที่จะให้ผล จึงกลายเป็นอโหสิกรรม คือกรรมที่ไม่ให้ผลใดๆ


     
  20. Sarikanon

    Sarikanon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +22
    เรื่องที่บอกว่าเป็นอรหันต์แล้ว สุดท้ายตายเป็นพรหม นั่นสัจธรรมปฏิรูปแล้ว
    อรหันอะไร ตายแล้วเกิด สงสัยเป็นอรหันต์แต่งตั้ง เรื่องนี้เห็นมาหลายที แล้วแต่ไม่อยากจะ
    ขัดแย้ง แต่พักหลังๆหลายคนเริ่มเอามา เป็นข้อโต้แย้ง และบานปลาย คนไม่รู้ก็จะเข้าใจผิดอีก

    ยิ่งคำว่าอรหันต์โพธิสัตว์ นี่ยิ่งเพ้อใหญ่ มั่วได้ใจ

    ปล.ถ้าตายแล้วเกิดเป็นพรหม ไม่ใช่อรหันต์แน่นอน เพราะยังมีเชื้อกิเลส อยู่
    พระอรหันต์ มีแต่ตายแล้วไม่เกิด จิตไม่ไปจุตติใหม่ พระไตรปิฏกก็เขียนอยู่โทงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...