ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ไม่เชื่อ จงอยู่ ถ้าเชื่อ ถือของออกไปเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ไป!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

ช่วยได้ที่ช่วยได้ หรือถ้าไม่อยากไปไหน คืนนี้ ไปห้องเเชต ฟังพระไตรปิฎกนะคะ

เเล้วจะปลอดภัยคะ ขอทำลายโลกก่อนนะคะ

เเล้วจะสร้างให้ใหม่ เอาป่าว?

 

เอานะจ๊ะ งั้น คืนนี้ ไปนั่งฟัง พระไตรปิฎกนะคะ อย่าออกจากบ้าน นะเอย นะเอย

ไม่ต้องไปไหนก็ได้ ฟังพระไตรปิฎกปลอดภัยเเน่นอนคะ

เชื่อ สันโดษนะเอย นะเอย

เเล้วจะมาชวนสวดมนต์คะ

 

สัญญาจ๊ะ ว่าเเม่ไม่ทำอะไรลูกๆนะคะ

ไม่ต้องกลัว นะคะ ลูกๆ เเม่นะ ไม่ทำอะไร คนดีๆนะคะ

เเค่ ทำความสะอาดบ้านนิด นึงนะจ๊ะ

รักเเม่โลกหรือเปล่า เนีย โลกนะคะ

เป็น มนุษย์อยากถามอะไรก็ได้นะคะ

อยากรุ้ไหมว่าจะทำลายที่ไหนบ้าง

ถามได้ ไม่ต้องพิมพ์เดี๋ยวตอบเองคะ

เเม่นะโลก นะไม่ใช่มนุษย์อาศัย ผู้หญิงชื่อ มีอาจอยอยู่คะ ลูก

 

หืมมมม


เกิดอะไรขึ้นน

 

จริงๆ ด้วยเเหม พวกกูขี้เกียจจริงๆๆๆๆ

เเหม เอางี้ เดี๋ยว พวกเรา จะไปดูว่า มีอะไรเหลือจากการทำลายบ้าง

จะได้ เอา มาทำงานให้ได้ ดังใจ เเม่

 

^-^

 

^ ^ ปลอดภัยเเน่ๆคะ

 

งง....นึกว่าเข้าเว็ปผิด อืม....ให้อภัย ....._/|\_ q--_--p

 

เตรียมพร้อมที่จะรับมือทุกสถานการณ์ไว้เสมอ คงจะดีที่สุด รวมทั้งความตามด้วย จริงไหมค่ะ

 

หึหึ

 

*** ผู้ทำได้ คงต้องมา ****

สงสารศาสนาพระโคดม...
ความเชื่อนอกศาสนา...เข้ามาบดบัง สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ตนพึ่งตน ****

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

พยายามสร้างการกระทำเที่ยง ไว้เป็นที่พึ่ง
กาย วาจา ใจ ตรงกันด้วย...สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อายตนะ หมายถึงดึงดูด หรือบ่อเกิด ​

พระมงคลเทพมุนี(สด จันทสโร)​

ความหมายและอายตนะแบบต่างๆ

หลวงพ่อวัดปากน้ำได้ให้ความหมายของคำว่า อายตนะ ไว้ว่า หมายถึงดึงดูด หรือบ่อเกิด ท่านกล่าวว่า

"บ่อเกิดของตาดึงดูดรูป บ่อเกิดของหูดึงดูดเสียง บ่อเกิดของจมูกดึงดูดกลิ่น บ่อเกิดของลิ้นดึงดูดรส บ่อเกิดของกายดึงดูดสัมผัส บ่อเกิดของใจดึงดูดธรรมารมณ์"

ซึ่งเราสามารถจับคู่ได้ดังนี้

ตา ดึงดูดกับ รูป
หู ดึงดูดกับ เสียง
จมูก ดึงดูดกับ กลิ่น
ลิ้น ดึงดูดกับ รส
กาย ดึงดูดกับ สัมผัส
ใจ ดึงดูดกับ ธรรมารมณ์ หรือธัมมารมณ์

ท่านขยายความคำว่าอายตนะออกไปอีกว่า อายตนะ มีอยู่ 2 แบบ คือ โลกายตนะ กับธัมมายตนะ โลกายตนะ เป็นอายตนะในภพ 3 โลกันต์ที่ดึงดูดสรรพสัตว์ไปตามภพภูมิต่างๆ ตามอำนาจของบุญและบาป ส่วนธัมมายตนะ คือ อายตนนิพพานที่ดึงดูดสรรพสัตว์ที่หมดกิเลส

อายตนะ 12 จัดอยู่ในโลกายตนะ ที่ดึงดูดสรรพสัตว์เอาไว้ในภพ 3 นี้ พระมงคลเทพมุนีได้อธิบายไว้ว่า

"อายตนะภพ 3 มันดึงดูดเหมือนกัน กามภพดึงดูดพวกติดในกาม รูปภพดึงดูดพวกติดรูป ติดรูปแล้วต้องไปอยู่ชั้นนั้น อรูปภพดึงดูดพวกติดอรูป ไปติดไปอยู่ชั้นนั้น"

"โลกายตนะหรือโลกมันดึงดูด รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส รูปที่ชอบใจมันก็ดึงดูดมาให้ไปติดกับมัน หรือเอาไปติดกับตา หรือเอาไปติดกับรูป เสียงที่ชอบใจมันก็ดึงดูดหู หรือหูดึงดูดเสียงเอามา กลิ่นที่ชอบใจก็ดึงดูดจมูก หรือจมูกก็ดึงดูดกลิ่นเอามา รสที่ชอบใจมันก็ดึงดูดลิ้น หรือลิ้นก็ดึงดูดมันมา สัมผัสที่ชอบใจมันก็ดึงดูดกาย หรือกายไปดึงดูดเอามันมา มันดึงดูดอย่างนี้ มนายตนะส่วนใจ ธรรมารมณ์ที่ชอบใจ มันก็ดึงดูดใจ หรือใจก็ไปดึงดูดเอามันมา นี้มันดึงดูดกันอย่างนี้ ดึงดูดแน่นทีเดียว หลุดไม่ได้ทีเดียว ไม่ว่าแก่เฒ่าชรา หญิง ชาย ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ชนิดใดละ ถูกอายตนะของโลกดึงดูดเข้าอย่างนี้ก็อยู่หมัด ไปไหนไม่ไหวละ อยู่หมัดทีเดียว อายตนะโลกมันดึงดูดอย่างนี้ ไม่ใช่ดึงดูดพอดีพอร้าย อายตนะดึงดูดเหล่านี้ผิวเผินนะ ดึงดูดลงไปกว่านี้อีกอายตนะของโลก

ถ้าว่าสัตว์ในโลก มีธรรมดำล้วน ไม่ได้มีธรรมขาวเข้าไปเจือปนเลยเท่าปลายผม ปลายขน ดำล้วนทีเดียว แตกกายทำลายขันธ์ โน่น อายตนะโลกันต์ดึงดูด ต่ำกว่าภพ 3 ลงไปนี้ เท่าภพ 3 ส่วนโลกันต์เท่ากับภพ 3 นี้ แต่ต่ำกว่าภพ 3 ลงไปอีก 3 เท่าภพ 3 นี้นั่นมันอายตนะโลกันต์ดึงดูด ดึงดูดโน่น ไปอื่นไม่ได้ อายตนะโลกันต์มีกำลังกว่า พอถูกกระแสถูกสายเข้าแล้วจะเยื้องยักไปทางอื่นไม่ได้ อายตนะของโลกันต์ก็ดึงดูดทีเดียว ไปติดอยู่ในโลกันต์โน่น กว่าจะครบกำหนดออกน่ะมันไม่มีเวลา เวลาน่ะนานนัก ไม่ต้องนับเวลากันละ เข้าถึงโลกันต์แล้ว กว่าจะได้ออก อจินฺเตยฺโย ไม่ควรคิด ไม่มีกำหนดกัน นั่นแน่น ดึงดูดติดขนาดนั้น นั่นอายตนะโลกันต์หนา

อายตนะอเวจี ถ้าจะไปตกนรกอเวจี ก็ฆ่าพระพุทธเจ้า ฆ่าพระอรหันต์ ฆ่าพระพุทธเจ้า หรือฆ่าพระอรหันต์ ทำลายโลหิตพระพุทธเจ้าให้ห้อขึ้น ยุยงให้สงฆ์แตกจากกัน เหล่านี้ ปิตุฆาต มาตุฆาต ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา เหล่านี้ แตกกายทำลายขันธ์ ต้องไปอเวจี อ้ายนี้อยู่ในภพ ขอบภพข้างล่าง ขอบภพข้างล่างพอดี อเวจี สี่เหลี่ยม เหล็กรอบตัวสี่ด้าน สี่เหลี่ยมทีเดียว ไปอยู่ใน ห้องขังนั้น ในห้องขังอเวจีนั้น แดงก่ำเหมือนกับเหล็กแดงทั้งวันทั้งคืน อะไรไม่ต่างกันละ

ตัวเทวทัตแดงเป็นเหล็กแดงทีเดียว ไหม้เป็นเหล็กแดงทีเดียว แต่ไม่ตาย กรรมบังคับให้ทนอยู่ได้ นั่นไปตกอเวจีละ ทำถึงขนาดนั้น อนันตริยกรรมเข้า พอแตกกายทำลายขันธ์ กุศลอื่นไม่มีกำลัง สู้อเวจีไม่ได้ อเวจีดึงดูดวูบทีเดียว สู่โยคเผด็จของตน ไปเกิดในอเวจีโน่น หย่อนขึ้นมากกว่านั้น ไม่ถึงกับฆ่ามารดา บิดา ทำลายโลหิตพระพุทธเจ้า ไม่ถึงยุยงพระสงฆ์ ทำลาย พระสงฆ์ ยุยงให้สงฆ์แตกจากกัน ปิตุฆาต มาตุฆาต อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์ ยังสงฆ์ให้แตกจากกันเหล่านี้ ไม่ถึงขนาดนั้น หย่อนกว่านั้นลงมาเพียงแต่ว่าเกือบๆ จะฆ่ากันแหละ แต่ว่าไม่ถึงกับฆ่า ไม่ถึงตาย เมื่อแตกกายทำลายขันธ์จากมนุษย์โลก ไปอยู่มหาตาปนรกโน้น

มหาตาปนรกโน่น มหาตาปน่ะ ร้อนเหลือร้อน แต่ว่าหย่อนกว่าอเวจีหน่อยขึ้นมา

ถ้าว่าไม่ถึงขนาดนั้นทำชั่วไม่ถึงขนาดนั้น หย่อนกว่ามหาตาปนรก ก็ไปอยู่ตาปนรก นั่นก็ร้อนพอร้อน แต่ว่าร้อนหย่อนกว่านั้นขึ้นมาหน่อย หย่อนกว่านั้นขึ้นมายิ่งกว่าเรื่อยขึ้นไป

ถ้าว่าทำหย่อนขึ้นไปกว่านั้น ความชั่วหย่อนขึ้นไปกว่านั้น เข้าไปอยู่ในมหาโรรุวนรก ร้อง ได้ร้องครางกันเถอะ ไม่มีเวลาหยุดกันละ มหาร้องไห้ทีเดียว

ถ้าหย่อนกว่านั้นขึ้นมา อยู่ในโรรุวนรก ก็ร้องไห้ไปเถอะ ไม่มีหยุดเหมือนกัน แต่ว่าถ้าหย่อนกว่า ถ้าไม่ถึงขนาดโรรุวนรก หย่อนกว่านั้นขึ้นมา ก็ไปอยู่สังฆาฏนรก ถ้าหย่อนกว่านั้นขึ้น มาอีก ก็ไปกาฬสุตตนรก หย่อนกว่านั้นขึ้นมาอีก ก็ไปสัญชีวนรก รวม 8 ขุม นี่นรกขุมใหญ่ หรือ มหานรก

ถ้าหย่อนกว่านั้นขึ้นมา ก็ไปอยู่ในบริวารนรก เรียกว่า อุสสทนรก อยู่รอบมหานรกทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 4 ขุม แต่ละมหานรก จึงมีนรกบริวาร หรืออุสสทนรก 16 ขุม มหานรก 8 ขุม ก็มีนรกบริวารรวม 128 ขุม หย่อนกว่านั้นขึ้นมาอีก ก็ไปอยู่ในบริวารนรกซึ่งอยู่รอบนอกของมหานรกออกมาอีก ทั้ง 4 ด้าน เรียกว่า ยมโลกนรก แต่ละด้านของมหานรก ก็จะมียมโลกนรกด้านละ 10 ขุม นรกบริวารรอบนอกของมหานรกทั้ง 8 ขุม จึงมี 320 ขุม

มหานรก 8 ขุม กับนรกบริวารรอบในคือ อุสสทนรกอีก 128 ขุม และนรกบริวารรอบนอก คือ ยมโลกนรกอีก 320 ขุม รวมเป็น 456 ขุม นี่อายตนะนรกดึงดูดอย่างนี้

ถ้าว่าหย่อนขึ้นมากว่านี้ ไปเกิดเป็นเปรต ไฟไหม้ติดตามตัวไป อสุรกายหย่อนกว่านั้นขึ้นมา นี่พวกอบายภูมิทั้งนั้น นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย 4 อย่าง นี่อบายภูมิทั้งนั้น

ถ้าไม่ถึงขนาดนั้น ความชั่วด้วยกาย ชั่วด้วยวาจา ชั่วด้วยใจ ความชั่วด้วยกายวาจาไม่ถึงนรก แตกกายทำลายขันธ์ ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่เราเห็นตัวปรากฏอยู่นี่ นั่นมนุษย์แท้ๆ มนุษย์ทั้งนั้น อ้ายสัตว์เดรัจฉานน่ะ ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเสีย อ้ายตัวข้างในเป็นมนุษย์ทั้งนั้นแหละ อ้ายกายละเอียดข้างใน แต่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานน่าเกลียดน่าชังนั่น เพราะทำชั่วของตัวไปเกิดมันดึงดูด อายตนะของสัตว์เดรัจฉานดึงดูด ดึงดูดอย่างไรล่ะ อ้าวก็ดึงดูดเข้าไปเกิดในท้องสุนัขน่ะซี ท้องหมูบ้าง ท้องสุนัขบ้างตามยถากรรมของมันซี ท้องเป็ด ท้องไก่โน้น ดึงดูดเข้าไปอย่างนี้แหละ ดึงดูดเข้าไปได้แรงนักทีเดียว ความดึงดูดนั่น ให้รู้จักอายตนะดึงดูดอย่างนี้ อ้ายที่มันดึงดูดในพวกเหล่านี้

แต่นี้ชั่วไม่ได้ทำ ทำแต่ดี ทำแต่ดีก็อายตนะฝ่ายดีดึงดูด บริสุทธิ์ด้วยกาย บริสุทธิ์วาจา บริสุทธิ์ด้วยใจ ไม่มีร่องเสียเลย อายตนะอื่นดึงดูดไม่ได้ อายตนะมนุษย์ดึงดูด ดึงดูดอย่างไรล่ะ เกิดเป็นมนุษย์กันถมไป นี่อย่างไรล่ะ เห็นโด่ๆ มันดึงดูดเข้าไปติดอยู่ในขั้วมดลูกมนุษย์นั่นแหละ มันดึงดูดอย่างนั้นแหละ นี่อายตนะมนุษย์ดึงดูดเข้ามาติดอยู่ในขั้วมดลูกของมนุษย์ นี่เพราะทำความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ถ้าว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น อายตนะทิพย์ดึงดูด ติดอยู่ในกำเนิดทิพย์เป็นกายทิพย์ เป็นกายทิพย์เป็นลำดับขึ้นไป จาตุมหาราช ดาวดึงสา ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตตี อายตนะดึงดูดทั้งนั้น นี่ในกามภพ 11 ชั้น คือ อบายภูมิ 4 สวรรค์ 6 เป็น 10 มนุษย์อีก 1 รวมเป็น 11 ใน 11 ชั้นนี่ เรียกว่า กามภพ ทั้งนั้น

ถ้าว่าจะไปในรูปภพ จะไปเกิดในรูปภพ อายตนะของรูปภพดึงดูดเพราะได้ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน แล้วฌานนั้นไม่เสื่อม เห็นเป็นดวงใสวัดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 วา หนาคืบหนึ่ง กลมเป็นวงเวียน กลมเป็นกงเกวียน กลมเป็นวงเวียนทีเดียว รอบตัวหนาคืบหนึ่ง กลมข้างนอก แต่ว่าไม่กลมรอบตัว กลมเป็นวงเวียน เป็นกงจักรทีเดียว เป็นวงเวียนทีเดียว เป็นแผ่นกระจกชัดๆ หนาคืบหนึ่ง วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง 2 วา กลมนั่นปฐมฌาน ติดอยู่กลางกายมนุษย์ ที่ทุติยฌานอยู่ในกลางดวงปฐมฌาน มีตติยฌานอยู่ในกลางดวงทุติยฌาน มีจตุตถฌานอยู่ในกลาง ดวงตติยฌาน เป็นลำดับขึ้นไป

ฌานเหล่านี้เมื่อไม่เสื่อม แล้วแตกกายทำลายขันธ์ อายตนะของรูปพรหมก็ดึงดูดเป็น ชั้นๆ ไป พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา มหาพรหมา นี่ ปฐมฌานดึงดูด ปริตตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา นี่ทุติยฌานดึงดูด ปริตตสุภา อัปปมาณสุภา สุภกิณหา นี่ตติยฌานดึงดูด เวหัปผลา อสัญญีสัตตา นี่จตุตถฌานดึงดูดไปติดอยู่ในรูปพรหม อายตนะรูปพรหมดึงดูดไปทางอื่นไม่ได้ อายตนะเหล่านี้ไม่ยอมเด็ดขาด มีกำลังกว่า

ถ้าว่าสูงขึ้นไปกว่านี้ อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ นี่อายตนะของอรูปพรหม ได้อรูปฌาน ดวงโตเท่ากัน แต่ว่าอากาสา-นัญจายตนะก็กลมขนาดเดียวกัน วิญญาณัญจายตนะก็กลมขนาดเดียวกัน แต่ว่าละเอียดกว่าอากิญจัญญายตนะก็กลมขนาดเดียวกัน เนวสัญญานาสัญญายตนะก็กลมขนาดเดียวกัน แต่ว่าไม่กลมรอบตัวนะ กลมๆ อย่างเดียวกับรูปฌาน นี่เมื่อได้อรูปฌานไม่เสื่อม แตกกายทำลายขันธ์ อรูปพรหมดึงดูดไปเกิดอื่นไม่ได้เด็ดขาด อยู่ในอรูปภพนี่แหละ ออกจากภพนี้ไม่ได้

นี่อายตนะดึงดูดอย่างนี้นะ ถูกอายตนะดึงดูดอย่างนี้ เขาเรียกว่าโลกายตนะที่กล่าวแล้วนี้โลกายตนะทั้งนั้น โลกันต์โน่น โน่นก็เป็นโลกายตนะ อเวจีตลอดถึง เนวสัญญานา สัญญายตนะขอบภพข้างบน นี่โลกายตนะดึงดูด ไปไม่ได้หลุดไปไม่พ้น"

จากข้างต้นจะทำให้เรารู้ว่า อายตนะ 12 นั้นมีโทษมากเพราะดึงดูดสรรพสัตว์ให้ถูกขังไว้ ดังนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงแนะนำเราให้ค้นหาธัมมายตนะ คือ อายตนนิพพาน ที่จะพาเราให้พ้นไปจากสังสารวัฏนี้

สละความยินดีในอายตนะ 6 แล้วได้บุญมาก

หลวงพ่อวัดปากน้ำได้แนะนำให้เราทำใจให้ออกจากอายตนะเหล่านั้น ซึ่งมีโทษมาก ท่านกล่าวเอาไว้ว่า

"ทานในพระปรมัตถ์ 6 คือ
มีอายตนะ 6 คือ ยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ถอนความยินดีในอารมณ์เหล่านี้ออกเสียได้ สละความยินดีในอารมณ์เหล่านี้เสียได้ก่อนเราเกิดมาเขาก็ยินดีกันอยู่อย่างนี้ ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ กำลังที่เราเกิดมาเขาก็ยินดี ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เหล่านี้ ครั้นเราจะตายเขาก็ยินดี ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์อย่างนี้เหมือนกัน

ความยินดีเหล่านี้ หากถอนอารมณ์ออกเสียได้ ไม่ให้มาเสียดแทงเราได้ พิจารณาว่านี้เป็นอารมณ์ของชาวโลก ไม่ใช่อารมณ์ของธรรม ปล่อยอารมณ์เหล่านั้นเสีย ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ให้เข้าไปเสียดแทงใจ ทำใจให้หยุด ให้นิ่ง นี่เขาเรียกว่า ให้ธรรมารมณ์เป็นทาน ย่อมมีกุศลใหญ่ เป็นทางไปแห่งพระนิพพานโดยแท้ และเป็นทานอันยิ่งใหญ่ทางปรมัตถ์"

สละโลกายตนะเข้าหาธัมมายตนะ

หลวงพ่อวัดปากน้ำได้แนะนำให้สละความยินดีในอายตนะ 12 เหล่านั้นเสีย เพราะเป็นทางมาของโลภะ โทสะ โมหะ การสละความยินดีเหล่านั้น ก็ใช้หลักการเดิมคือการทำใจให้หยุดนิ่ง แล้วแสวงหาธัมมายตนะคือพระนิพพานนั้น

"ราคะ โทสะ โมหะเกิดมาจากจักขุบ้าง รูปบ้าง ความรู้ทางจักขุบ้าง ความสัมผัสทางจักขุบ้าง มันเกิดมาทางนี้ต้องแก้ไขทางนี้ แก้ไขทางอื่นไม่ได้ ต้องแก้ไขทาง ตา หู จมูก สิ้น กาย ใจ ไม่ให้ยินดียินร้าย ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ที่มากระทบถูกต้องอายตนะทั้ง 6 นั้น

ให้ทำใจให้หยุด หยุดเสียอันเดียวเท่านั้นดับหมด พอหยุดได้เสีย ก็เบื่อหน่าย
เบื่อหน่ายใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
เบื่อหน่ายในทางความรู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เบื่อหน่ายในการสัมผัสทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

เบื่อหน่ายหมดต้องทำใจให้หยุดอยู่ ณ ศูนย์กลางกาย สะดือทะลุหลัง ขวาทะลุซ้าย กลางกั๊ก ใสเหมือนดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ หยุดนิ่งหยุดทีเดียว พอหยุดก็รู้ว่าใจของเราหยุดแล้ว ที่ว่าใจหยุดก็เข้ากลางของกลาง นิ่งอยู่ที่เดียว กลางของกลางๆ ๆ ไม่ถอย แล้วเข้ากลางของกลาง หนักเข้าไป พอใจหยุดก็เข้ากลางของกลาง ซ้ายขวาหน้าหลังล่างบนไม่ไป กลางของกลางหนักขึ้นทุกทีไม่มีถอยออก กลางของกลางหนักขึ้น พอถูกส่วนเข้าก็จะเห็นดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ นั่นเป็นดวงปฐมมรรค หนทางเบื้องต้นมรรคผลนิพพาน" <!--MsgFile=23-->

พระธรรมเทศนาโดยพระมงคลเทพมุนี(สด จันทสโร)วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

ที่มา http://forums.212cafe.com/samatha/board-2/topic-7.html

 

ชาวประจวบฯ แห่ชมเงาต้นตาลหลวงปู่โต ​

​

ประจวบฯ 13 มี.ค. - ชาวประจวบคีรีขันธ์แห่พิสูจน์เงาต้นตาลกลางทุ่งสามร้อยยอด ลักษณะคล้ายรูปปั้นหลวงพ่อโต

ต้นตาล 3 ต้น สูงประมาณ 10-15 เมตร อยู่กลางทุ่งสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับรูปปั้นหลวงพ่อโต วัดตาล 7 ยอด ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นว่าเงาของต้นตาลมีลักษณะคล้ายกับรูปปั้นของหลวงพ่อโตเป็นอย่างมาก ทำให้ชาวบ้านทั้งจากอำเภอสามร้อยยอด และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนจะใช้กล้องโทรศัพท์มือถือ และกล้องดิจิตอลถ่ายภาพไปเป็นที่ระลึก โดยสามารถดูได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30-24.00 น. -สำนักข่าวไทย

2009-03-13 04:04:30

ระยองขุดพบพระเครื่องเร่งแจ้งกรมศิลป์พิสูจน์ความเก่าแก่​

​

ระยอง 13 มี.ค.- พระครูพิทักษ์ ถาวรคูณ เจ้าอาวาสวัดกะเฉด ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เปิดเผยถึงการขุดพบพระเครื่อง 5 องค์ ขณะก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า ที่ไม่สามารถเปิดเผยให้รู้ก่อนตอนแรก เพราะกลัวว่าชาวบ้านจะแห่กันขุดค้น ทำให้การก่อสร้างไม่รุดหน้า

แต่หลังจากเทคานพื้นศาลาการเปรียญเสร็จแล้ว จึงแจ้งให้ทราบและมีชาวบ้านพากันกราบไหว้บูชา ซึ่งพระเครื่องทั้ง 5 องค์เป็นเนื้อสำริด ขุดพบในความลึก 4 เมตร เป็นพระอินทร์ทรงช้าง 3 เศียร จำนวน 2 องค์ ส่วนอีก 3 องค์ เป็นพระพิฆเนศ พระยอดธง และพระปรางค์นั่งสมาธิ คาดว่ามีอายุหลายร้อยปี หรืออยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบเพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง เพราะเชื่อว่ายังมีพระเครื่องอยู่อีกจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

2009-03-13 14:51:23

เหนืออากาศย่ำแย่ ลำปางหนักทั้งฝุ่นหมอก-ร้อนสุด​

​

ภูมิภาค 12 มี.ค.- ปัญหาหมอกควันภาคเหนือยังไม่เบาบาง โดยเฉพาะลำปางฝุ่นละเอียดสูงเกินมาตรฐาน ซ้ำอากาศร้อนสูงสุดในภาคเหนือถึง 40 องศาฯ ด้าน มทภ.3 ห่วงปัญหากระทบท่องเที่ยวสงกรานต์ เร่งประชุมเข้มหาทางแก้

นายสุวิทย์ ขัติยวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 ลำปาง เปิดเผยว่า คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือกลับมาย่ำแย่อีกครั้ง พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ จ.พะเยา ตรวจวัดล่าสุด (12 มี.ค.) อยู่ในระดับ 279.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเป็นจังหวัดที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วน จ.ลำปางนั้น มีค่าอยู่ที่ 210.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานทั้งสองจังหวัด และอยู่ในภาวะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุสำคัญที่ทำให้หมอกควันไฟปกคลุมมากขึ้นมาจากไฟป่าและการจุดไฟเผาในที่โล่งแจ้ง ทำให้ปริมาณหมอกควันสะสมมาตลอด ทั้งนี้ สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปางรายงานสภาพอากาศทั่วไปว่า ระยะ 1-2 วันนี้ หมอกควันไฟยังคงปกคลุมหนาแน่น และมีอุณหภูมิความร้อนเฉลี่ยสูงถึง 40 องศาเซลเซียส วัดได้ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง สูงสุดของภาคเหนือ

ด้าน พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานประชุมหน่วยงานจังหวัดเชียงรายที่ค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่มานานนับเดือน หากไม่เร่งควบคุมอาจกระทบการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ ซึ่งการแก้ปัญหาต้องดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย และกำชับให้ ผบ.ฉก.ม.3 เป็นประธานคณะกรรมการประสานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นฝ่ายไทย (ทีบีซี) ประสานฝ่ายพม่า เพื่อขอความร่วมมือในการระงับไฟป่าและการเผาวัชพืชในเขตประเทศพม่า.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 16:26:30

น่านอากาศเปลี่ยนเร็วร้อนระอุสลับเย็น ซ้ำฝุ่นหมอก​

​

น่าน 13 มี.ค.-นพ.นิวัตชัย สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลในช่วงหน้าร้อนปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 15 หรือเฉลี่ยวันละ 140-200 ราย มีทั้งป่วยด้วยโรคทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว

โดยช่วงกลางวันมีอุณหภูมิประมาณ 35-40 องศาฯ ส่วนกลางคืนอุณหภูมิ 15-20 องศาฯ ทำให้ผู้สูงอายุและเด็กเล็กปรับตัวไม่ทัน อีกทั้งยังต้องประสบปัญหาหมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่ ประชาชนที่มีภูมิต้านทานน้อยจึงป่วยง่าย สำหรับการรักษาสุขภาพช่วงอากาศร้อนจัดให้ดื่มน้ำสะอาด สลับกับน้ำผลไม้ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป ส่วนผู้ป่วยโรคไตและโรคหัวใจควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

2009-03-13 17:44:32

เชียงรายกวาดล้างแรงงานเถื่อนเกือบ 200 คน​

​

เชียงราย 12 มี.ค.- พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย แถลงการสนธิกำลังทหารพราน และชุดเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง กวาดล้างแรงงานต่างด้าวและสิ่งผิดกฎหมายทั้ง 18 อำเภอ

สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองสัญชาติพม่าและลาว 169 คน เป็นชาย 96 คน หญิง 73 คน ซึ่งบางส่วนเข้ามาทำงานรับจ้างอยู่ในพื้นที่ และบางส่วนรอนายหน้ามารับช่วงส่งเข้าทำงานเขตชั้นใน นอกจากนี้ ยังคุมตัวนายอภิชาติ ยอดมณีบรรพต อายุ 30 ปี พร้อมรถกระบะ ทะเบียน บต 4929 พะเยา ขณะนำพาแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมือง 8 คน โดยแรงงานทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะเร่งผลักดันออกกลับไปยังภูมิลำเนา.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 16:34:46

กทม.-แปดริ้ว ลุยปราบยุงลายสกัดไข้เลือดออกระบาด​

​

ฉะเชิงเทรา 12 มี.ค.- รอง ผอ.สำนักอนามัย กทม.ลงพื้นที่ฉะเชิงเทราร่วมแผนรณรงค์เข้มกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเขตบางน้ำเปรี้ยว หลังพบการระบาดของไข้เลือดออกสูง

พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และนายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันและควบคุมปัญหาโรคไข้เลือดออก ที่โรงเรียนสุเหร่า คลอง 14 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับเขตหนองจอก กทม. เนื่องจาก อ.บางน้ำเปรี้ยว พบปัญหาผู้ป่วยไข้เลือดออกมากที่สุด นพ.สรลักษณ์ มิ่งไทยสงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว กล่าวว่า ปีนี้พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 68 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 17-32 ปี โดยเฉพาะ อ.บางน้ำเปรี้ยว พบการระบาดมากที่ ต.ดอนฉิมพลี และส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายแล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ผู้ป่วยไข้เลือดออกปีนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นวัยรุ่นอายุ 17 ปี และยังพบว่าสถานการณ์ของโรคยังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเร่งออกรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย นอกจากนี้ จะประสานความร่วมมือกับ กทม.ในการป้องกันโรคระบาดอื่น ๆ เช่น วัณโรค โรคท้องร่วง

ด้าน พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า สำหรับเขต กทม.พบว่ามีปริมาณยุงลายชุกชุมมากกว่าเดิมโดยเฉพาะช่วงใกล้ค่ำ และพฤติกรรมของยุงเปลี่ยนไปจากออกหากินในเวลากลางวัน ยังออกหากินในเวลากลางคืน อีกทั้งมียุงชนิดอื่น ๆ เช่น ยุงรำคาญ เพิ่มตามมา จึงต้องประสานความร่วมมือจังหวัดใกล้เคียงที่มีพื้นที่ติดกันรณรงค์อย่างเข้มข้น.-สำนักข่าวไทย

2009-03-12 17:59:09

ไฟไหม้โกดังเก็บกระดาษห้างดังเมืองพัทยา​

​

ชลบุรี 13 มี.ค. - เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษของห้างดังกลางเมืองพัทยา

เจ้าหน้าที่สกัดเพลิงที่ลุกไหม้โกดังเก็บเศษกล่องกระดาษ ขวด และพลาสติก ของห้างโมเดิร์น บริเวณถนนเลียบชายหาด หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลังคามุงด้วยสังกะสี ประกอบกับมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเก็บอยู่ภายใน โดยใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้

ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้สะเก็ดไฟตกใส่เศษกระดาษ หรืออาจมีใครทิ้งก้นบุหรี่ ซึ่งเจ้าหน้าที่วิทยาการจะเข้าเก็บหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง. - สำนักข่าวไทย

2009-03-13 15:10:47

ไฟไหม้ป่าเขาดอยนางแล จ.เชียงราย รอสำรวจพื้นที่เช้านี้​

​

เชียงราย 14 มี.ค. - เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนเทือกเขาดอยนางแล ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงได้ เพราะอุปสรรคด้านภูมิประเทศ ต้องรอจนกว่าจะถึงเช้าวันนี้

เกิดไฟไหม้ป่าหลายจุดบนเทือกเขานางแล ในพื้นที่ของหน่วยอุทยานแห่งชาติลำน้ำกกที่ 2 หรือน้ำตกโป่งพระบาท ซึ่งจุดเกิดเพลิงไหม้เป็นดอยสูง บริเวณด้านหลังของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่ บ้านดอยปู่ไข่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

หลังเกิดเหตุ เทศบาลตำบลบ้านดู่ และท่าอากาศยานเชียงราย ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิง 3 คัน มาฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นดอยสูงลาดชัน สลับกับลำห้วย ประกอบกับเหตุเกิดขึ้นตอนกลางคืน ทำให้รถดับเพลิงไม่สามารถขึ้นไปฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงได้ จึงทำได้เพียงจัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้ามายังหมู่บ้าน ตลอดทั้งคืนนี้ไปจนถึงรุ่งเช้า เพื่อรอเข้าสำรวจพื้นที่เกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง. -สำนักข่าวไทย

2009-03-14 04:02:49

พบแล้วศพเหยื่อเรือล่มอันดามันรายสุดท้าย ​

​

ภูเก็ต 14 มี.ค. - พบศพเหยื่อรายสุดท้ายจากเหตุเรือท่องเที่ยวล่มกลางทะเลอันดามันแล้ว หลังค้นหากันมานาน 6 วัน

เมื่อเวลาประมาณ 20.10 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เรือตรวจการณ์ ต.814 หรือ เรือคุณพุ่ม ได้นำศพของนายศรทัศน์ จำปา กุ๊กชาวไทย ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวอับปางกลางทะเลอันดามัน มาขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต หลังพบศพลอยห่างจากจุดเรืออับปางประมาณ 60 กิโลเมตร โดยมีนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ พล.ร.ท.ณรงค์ เทศวิศาล ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 3 มารอรับศพ ซึ่งนับเป็นศพสุดท้ายจากจำนวนผู้สูญหาย 7 คน ในเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ นายปรีชาได้รับคำสั่งโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ส่งท้ายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต -สำนักข่าวไทย

2009-03-14 02:10:04

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ภูเขาไฟปะทุในโคลอมเบีย อพยพประชาชน 3,000 คน​

​

โบโกตา 14 มี.ค.-สื่อมวลชนและสถาบันธรณีวิทยาโคลอมเบีย รายงานว่าภูเขาไฟกาเลราสทางตอนใต้ของประเทศเกิดปะทุขึ้นเมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ประชาชนราว 3,000 คนที่อาศัยบริเวณโดยรอบต้องอพยพออกจากบ้านเรือน แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

รายงานระบุว่าเถ้าถ่านจากภูเขาไฟกาเลราสที่ปะทุเมื่อเวลา 15.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 03.55 น. วันนี้ ตามเวลาในไทย ปกคลุมไปทั่วบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย การอพยพประชาชนก็ดำเนินไปอย่างสงบและเป็นระเบียบ เพราะมีการเตรียมที่หลบภัยฉุกเฉินไว้นับแต่เกิดการปะทุครั้งก่อนเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ภูเขาไฟกาเลราส ซึ่งมีความสูง 4,270 เมตร ปะทุเป็นระยะ ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ครั้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อปี 2536 มีผู้เสียชีวิต 9 คน .-สำนักข่าวไทย

2009-03-14 09:57:43

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ห้างใหญ่ที่สุดของบังกลาเทศเพิ่มเป็น 7 คน​

​

ธากา 14 มี.ค.- เจ้าหน้าที่บังกลาเทศต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่บนหลังคาของห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดของประเทศขณะเกิดเพลิงไหม้ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 7 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 50 คน

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเปิดเผยว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 คน ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังเกิดเพลิงลุกไหม้ที่ชั้น 18 ของอาคาร นอกจากนี้ยังพบศพผู้ชาย 3 ราย จากลิฟต์หลังจากสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ส่วนอีก 3 ราย รายงานไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด ทางการต้องระดมรถดับเพลิงถึง 15 คัน ช่วยเหลือในการดับเพลิงซึ่งลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระแสลมแรง นอกจากนี้ยังต้องระดมกำลังทหารและตำรวจมาช่วยในการดับไฟ โดยใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด กระทรวงมหาดไทยบังกลาเทศได้สั่งตั้งคณะทำงานสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสถาปนิกที่ออกแบบอาคารยืนยันว่า อาคารแห่งนี้มีอุปกรณ์ดับเพลิงอย่างเพียงพอ แต่รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยกล่าวว่า การควบคุมเพลิงเป็นเรื่องยาก เพราะหน่วยดับเพลิงขาดอุปกรณ์ เช่น บันไดที่สูงถึงชั้น 18 ซึ่งเป็นต้นเพลิง. -สำนักข่าวไทย

2009-03-14 08:20:36

ยูเอ็นห่วงศรีลังกาเป็นสงครามกลางเมือง​

​

14 มี.ค. - สหประชาชาติเตือนสงครามระหว่างกองทัพศรีลังกาและกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬ อาจลุกลามจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง

นางนาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทั้งกองทัพศรีลังกาและกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬ ยุติการทำสงครามและการปะทะรุนแรงในพื้นที่คาบสมุทรจ๊าฟนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศทันที และว่าสงครามที่เกิดขึ้นที่คร่าชีวิตพลเรือนไปนับหมื่นคนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ และอาจรุนแรงจนถึงระดับหายนะ หรือเกิดเป็นสงครามกลางเมืองได้

ด้านรัฐบาลศรีลังกาแสดงความผิดหวังต่อแถลงการณ์ของข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยระบุว่า เป็นแถลงการณ์ที่ขาดความรับผิดชอบ ขณะที่กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ ทั้งนี้ กองทัพศรีลังการะบุว่า ใกล้ที่จะเอาชนะกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬได้อย่างเด็ดขาดแล้ว โดยเชื่อว่าสงครามน่าจะสิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้. -สำนักข่าวไทย

2009-03-14 05:06:22

9 ประเทศเห็นพ้องแผนสกัดอาวุธไปยังฉนวนกาซา​

​

ลอนดอน 14 มี.ค. -สหรัฐ แคนาดา และอีก 7 ประเทศแถบยุโรป เห็นพ้องแผนการที่จะใช้วิธีการต่าง ๆ สกัดอาวุธที่จะส่งไปยังฉนวนกาซา ทั้งโดยการดักสกัดจับทางทะเล แบ่งปันข้อมูล และใช้แรงกดดันทางการทูต

ผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง 9 ประเทศ เปิดประชุมร่วมกันที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ประกอบด้วย สหรัฐ แคนาดา อังกฤษ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ โดยเห็นพ้องว่า การสกัดอาวุธที่จะส่งไปยังฉนวนกาซา เป็นความพยายามของนานาประเทศที่จะนำไปสู่การหยุดยิงถาวรในฉนวนกาซา และโน้มน้าวให้อิสราเอลยกเลิกมาตรการจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการฟื้นฟูฉนวนกาซา

อิสราเอลและฮามาสสั่งหยุดยิงเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา หลังเปิดฉากรุกรบกันนานถึง 22 วัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนปาเลสไตน์เปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า มีชาวกาซาเสียชีวิตจากการสู้รบดังกล่าวไปถึง 1,434 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 960 คน ส่วนอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 13 คน และอ้างว่าที่ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารก็เพื่อบังคับให้กลุ่มฮามาสหยุดยิงจรวดและปืน ค. ใส่เมืองตอนใต้ของอิสราเอล. -สำนักข่าวไทย

2009-03-14 07:40:17

เฮลิคอปเตอร์ตกที่โคลอมเบีย บาดเจ็บ 4 คน​

​

โคลอมเบีย 14 มี.ค.-เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจโคลอมเบีย ตกใส่บ้านเรือนของประชาชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน

อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่กรุงโบโกต้า เมืองหลวงของโคลอมเบีย หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ ของตำรวจตกลงใส่บ้านประชาชน แต่ไม่ได้ทำให้มีผู้ใดเสียชีวิต แต่ผู้โดยสารบนเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะตกลงมา นักบินได้พยายามที่จะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางการกำลังสอบสวนว่า อะไรเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ขณะที่พลเอกโรดอล์ฟโฟ ปาโลมิโน กล่าวชื่นชมนักบินว่าเป็นผู้ที่มีทักษะและความสามารถ เนื่องจากหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุร้ายแรงและยังสามารถรักษาชีวิตคนบนเครื่องไว้ได้.-สำนักข่าวไทย

2009-03-14 11:07:44

เหตุน้ำมันรั่วในออสเตรเลียเลวร้ายกว่าที่คิดถึง 10 เท่า​

​

ซิดนีย์ 14 มี.ค.

 

หึหึ ..รู้นะว่าหมายถึงใคร
ไปเล่นที่บอร์ดการเมืองดีกว่านะครับ

 

พระรามพระลักขณ์และนางสีดา ในทสรถชาดก โดยคุณ ศรีวรุณะอิสโร

​

จาก เล่ม ๖๐ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ความท้ายชาดกนี้ว่า..

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะ ในเวลาจบสัจจะ กุฎุมพีดำรงในโสดาปัตติผล ทรงประชุมชาดกว่า

พระทสรถมหาราช ครั้งนั้นได้มาเป็น สุทโธทนมหาราช
พระมารดา ได้มาเป็น พระมหามายา
สีดา ได้มาเป็น มารดาของราหุล
เจ้าภรตะ ได้มาเป็น อานนท์
เจ้าลักขณ์ ได้มาเป็น สารีบุตร
บริษัทได้มาเป็น พุทธบริษัท
รามบัณฑิต ได้มาเป็น เราตถาคต

เนื้อความเต็มๆ ในอรรถกถา อ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างนี้ครับ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/jataka.php?i=271564

จาก เล่ม ๑๗ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ หน้า ๕๕๓ ความว่า...

เรื่องรามเกียรต์นี้ จะมีเรื่องยาวและมีในหนังสือผูก ในภาคอีสานมาก สมัยพระเจ้าตากสิน จึงเอาเค้าเรื่องมาแต่อีสานมาแต่ง เป็นรามเกียรต์ ฉบับกรุงธนบุรี และต่อมาสมัยต้นรัตนโกสินทร์ก็แต่งเป็นกลอนเป็นกวี เมื่อสร้างวัดพระแก้วฯ จึงมีการวาดภาพ เรื่องรามเกียรติ์บนผนังระเบียงคต

ก็เพราะเห็นเป็นเรื่องของ "พระพุทธเจ้า" และที่สำคัญ เรื่องรามเกียรต์นี้ ก็หาใช่ว่า จะไปลอกแบบหรือเอาเค้ามาจาก"มหากาพย์มหาภารต" ของอินเดีย แต่ ข้างฝ่ายอินเดีย จะเอาไปจากฝั่งไทยก็ไม่แน่ จึงเอาไปแบบตกๆ หล่นๆ

***************************************************

เมื่อพระรามบัณฑิต ครองอยู่กรุงพาราณสี ซึ่งจากการศึกษาเรื่อง"ความจริงของแผ่นดิน เปิดตำนานพระพุทธศาสนาในถิ่นไทย" ของข้าพเจ้า ที่กำหนดว่า "พาราณสีคือพื้นที่จังหวัดสระบุรี"

จึง ไม่แปลกและสอดคล้องกับ ตำนานเมืองลพบุรี ซึ่งว่ากันว่า เป็นเมืองของ"ลิง"ผู้จงรักภักดีของพระราม นามว่า "หนุมาน"

นั่นคือ พระชาติหนึ่ง ที่ พระพุทธเจ้าของเรา ได้เสวยพระชาติเป็น"พระราม" ก็ ได้ประสูติและครองเมืองอยู่ที่ "จังหวัดสระบุรี" ของประเทศไทย นี่เอง

ดินแดน แผ่นดินไทย จึงเป็นแผ่นดินอันอุดมมงคล ในชมพูทวีป ในโลกนี้

***************************************************

นารายณ์อวตาร (จากพระนิพนธ์เรื่อง รามเกียรติ์)

ฝ่ายท้าวทศรถนั้น มีเพื่อนเป็นพญานกชื่อสดายุ พระองค์ไม่มีโอรสธิดาเห็นว่าจะไม่มีใครสืบราชสมบัติ จึงทำพิธีขอโอรสที่มีฤทธิ์แต่ไม่สำเร็จ จึงไปนิมนต์ฤาษีกไลโกฎ ฤาษีกไลโกฎได้พาฤาษีอีก 4 องค์ ขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรแล้วทูลว่า โลกมีความเดือดร้อนเพราะพระอิศวรและพระนารายณ์ได้ประทานศรแก่ยักษ์ คงมีแต่ท้าวทศรถเท่านั้นที่จะช่วยเหลือโลกได้ แต่พระองค์ไม่มีโอรส จึงควรให้พระนารายณ์อวตารไปปราบเหล่ายักษ์นั้น

พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์อวตารไปเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถ ชื่อ พระราม จักรเป็นพระพรต สังข์และบัลลังก์นาคราชเป็นพระลักษณ์ และคทาเป็นพระสัตรุต รวมทั้งให้พระลักษมีเป็นนางสีดา เกิดเป็นธิดาทศกรรฐ์และพระนางมณโฑ

" เจ้าไปเกิดเป็นกษัตริย์............สุริวงศ์จักรพรรดิ์มหาศาล
ทรงพระนามพระรามอวตาร........ในสถานกรุงศรีอยุธยา
จักรเป็นพระพรตยศยง..............ถัดองศ์พระนารายณ์เชษฐา
ฝ่ายสังข์บัลลังก์นาคา..............เป็นพระลักษณ์อนุชาฤทธิรอน
อันซึ่งคทาวราวุธ...................เป็นพระสัตรุตชาญสมร
องค์พระลักษมีมีบังอร..............ไปเกิดในนครลงกา
ชื่อว่าสีดานงลักษณ์................เป็นบุตรทศพักตร์ยักษา........"

ซึ่งความในพระนิพนธ์ข้างต้น อาจขัดกับความใน "ทศรถชาดก" อยู่ที่ว่าทั้ง "พระรามบัณฑิต พระลัขณ์ และนางสีดา"เป็น ลูกของท้าวทศรถ แต่ในพระนิพนธ์ว่า นางสีดา เป็นลูกของทศกัณฑ์กับนางมณโฑ แต่จะไปตรงกับ รามเกียรต์อีสาน ที่มีชื่อตามใบลานว่า "พระยาหาบพระนาสวน"

อย่างไรก็ดี หากเป็นตามเค้าโครงดังนี้ ก็แปลความหมายได้ว่า

พระนารายณ์ที่มาเกิดเป็นพระราม และพระราม ต่อมาๆ ก็ได้มาเกิดเป็น “เจ้าชายสิทธัตถะ” และที่สุดได้ตรัสรู้เป็น “พระพุทธเจ้าของเรา”

พระลักษมี ที่มาเกิดเป็นนางสีดา และนางสีดา ต่อมาๆ ก็ได้มาเกิดเป็น “พระนางพิมพายโสธรา” และที่สุด ได้ออกบวช และบรรลุเป็น “พระอรหันตเถรี” แต่หาก พิจารณาจาก พระนิพนธ์ ในตอน พิธียกศร ที่ว่า

พิธียกศร

ต่อมาเห็นว่านางสีดา มีอายุสมควรจะมีคู่ครองได้ จึงตั้งพิธียกศรมหาธนูโมลี ซึ่งเป็นศรที่พระอิศวรใช้ฆ่าตรีบุรัมตาย ฤาษีวิสิษฐ์และฤาษีสวามิตร จึงพาพระรามและพระลักษณ์ไปยกศร โดยพระอินทร์ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธาน แต่ไม่มีกษัตริย์องค์ใดยกศรได้ นอกจากพระราม แล้วพระรามพานางสีดา กลับมายังกรุงศรีอยุธยา

จึงอาจเป็นได้ว่า พระรามพานางสีดาเข้าเมือง จึงนับเนื่องเป็นลูกหรือธิดาของท้าวทศรถ ซึ่งหากนับตามศักดิ์ คือลูกสะไภ้นั่นเอง

ดังนั้น จึงอาจเป็นข้อคลาดเคลื่อน ซึ่งอาจเกิดจากการแปลหนังสือ "ขอม" มาเป็นไทยภายหลัง หรือตอนที่รัชกาลที่ ๑ ให้แปลพระไตรปิฎกจากอักษร "ลาวและรามัญ" เป็นหนังสือ "ขอม" จะคลาดเคลื่อนหรือไม่ ก็เป็นไปได้

แต่ ก็ถือว่า เป็นความคลาดเคลื่อนที่เล็กน้อย ที่อาจละวางได้ โดยยึดสาระหลัก ที่ว่า..เรื่องรามเกียรติ์ นับเนื่องเป็นชาดก คือ เป็นเรื่องของพระโพธิสัตว์ ที่เกิดมาใช้ชาติ ชาติหนึ่ง

จากคุณ : <!--MsgFrom=6-->ศรีวรุณะอิสโร - [ <!--MsgTime=6-->21 พ.ค. 49 01:18:43 <!--MsgIP=6-->]

ที่มา http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?

***************************************************

ความเชื่อเรื่องน้ำส้มสายชู ของคนลพบุรี

ในสมัยโบราณคนลพบุรีมีความเชื่อว่า ไม่ให้นำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองลพบุรี ความเชื่อเรื่องนี้ผู้ใหญ่เล่าต่อกันมาให้ลูกหลานฟังจนติดหู แม้ในปัจจุบันความเชื่อนี้จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม

ความสำคัญ

ความเชื่อเรื่องไม่ให้นำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองลพบุรี มีที่มาเกี่ยวกับตำนานการสร้างเมืองลพบุรีว่า หลังจากที่พระรามปูนบำเหน็จความชอบให้หนุมานทหารเอก ที่ช่วยปราบวงศ์ยักษ์ได้สำเร็จ โดยการให้มาครองเมืองลพบุรีนั้น ยังมียักษ์ตนสุดท้ายหลงเหลือมาอาจหาญลองดีต่อกรกับพระรามอีก ยักษ์ตนนี้ชื่อ "ท้าวกกขนาก" คอยทำร้ายและจับชาวเมืองกิน

ร้อนถึงพระรามต้องเสด็จมาปราบท้าวกกขนาก พระรามทรงใช้เขากระต่ายมาทำเป็นคันศร ใช้หนวดเต่ามาขึงเป็นสายศรและใช้หญ้าปล้องทำเป็นลูกศรแผลงไปฆ่าท้าวกกขนาก ฤทธิ์ศรทำให้ท้าวกกขนากกระเด็นจากกรุงลงกาในชมพูทวีปมาตกบริเวณเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี แต่ยักษ์ตนนี้ยังไม่ตายเพียงแต่สลบไปเพราะฤทธิ์ศรของพระรามเท่านั้นพระรามทรงสาปให้ศร

ดังกล่าวปักอกตรึงยักษ์ตนนี้ไว้บนยอดเขาชั่วกัลป์ จะได้ไม่ไปทำอันตรายใครๆ ได้ ศรที่ปักอกท้าวกกขนากนั้นจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี และถ้าปล่อยให้ลูกศรหลุดจากอกได้เมื่อไรท้าวกกขนากก็จะกลับฟื้นคืนชีวิต ลุกขึ้นมาจับคนกินหมดทั้งเมือง ด้วยความรอบคอบพระรามจึงทรงสั่งให้ไก่แก้วมาคอยเฝ้าท้าวกกขนากไว้ ถ้าเห็นศรเขยื้อนขึ้นเมื่อใด ให้ไก่แก้วขันขึ้นเป็นสัญญาณให้หนุมานเจ้าเมืองได้ยิน

หนุมานจะเหาะมาตอกศรกลับตรึงให้แน่นตามเดิม ตามตำนานยังเล่าอีกว่าขณะที่หนุมานตอกศร จะเกิดเป็นประกายไฟกระเด็นไปเผาผลาญบ้านเรือนของชาวเมืองลพบุรี เชื่อกันว่าด้วยเหตุนี้เองจะทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นในจังหวัดลพบุรีทุกๆ สามปี นอกจากนี้ศรพระรามที่ปักอกท้าวกกขนาก จะหลุดถอนออกได้โดยง่ายถ้าถูกราดด้วยน้ำส้มสายชู

ทำให้ชาวเมืองลพบุรีในสมัยก่อน ไม่มีใครกล้านำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองลพบุรี เพราะเกรงว่านางนงประจันต์ หรือนงพระจันทร์ ซึ่งเป็นลูกสาวคนสวยของท้าวกกขนาก จะแอบมาขอซื้อน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปช่วยยักษ์ผู้เป็นบิดาของนาง แต่นางก็ไม่เคยซื้อน้ำส้มสายชูได้เลย เพราะชาวเมืองลพบุรีสมัยก่อนไม่ยอมนำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองเด็ดขาด

ที่มา http://www.prapayneethai.com/th/belief/center/view.asp?id=0101

 

ภาพจำลองและการคำนวนเวลา
อันดามัน http://www.marine.tmd.go.th/develop01.html
อ่าวไทย1 http://www.marine.tmd.go.th/develop02.html
อ่าวไทย3 http://www.marine.tmd.go.th/develop03.html

 

ภูเขาไฟในช่วงนี้มีทั้งระเบิด ประทุและเตือนภัยในระดับ สอง สามเพิ่มขึ้นมากผิดปกติซึ่งก็ไปบังเอิญ(หรือไม่) กับคำทำนายจากหลายศาสนาและหลายอารยธรรมครับ
<table style="height: 100%;" width="100%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><td><table class="border1" width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td colspan="11" class="es_header_disaster" align="left"><table width="100%" align="left" cellpadding="2" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="es_header_disaster" width="90%" align="left"> Current active volcanoes</td> </tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table> </td></tr><tr><td><table class="border1" width="100%" align="left" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody><tr bgcolor="#ebebeb"> <td width="20%">Name of Volcano</td> <td>Location</td> <td>Volcano Number</td> <td>Volcano Type</td> <td colspan="2" align="center">Details</td> <td> </td> <td width="10%">Status</td> </tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Arenal</td><td>Costa Rica</td><td>1405-033</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Asama</td><td>Japan</td><td>0803-11=</td><td>Complex volcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Bezymianny</td><td>Russia</td><td>1000-25=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Yellow</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Chaiten</td><td>Chile</td><td>1508-041</td><td>Caldera</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Red</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Colima</td><td>Mexico</td><td>1401-04=</td><td>Stratovolcanoes</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Dieng</td><td>Indonesia</td><td>0603-20=</td><td>Complex volcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Alert Level 2</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Fuego</td><td>Guatemala</td><td>1402-09=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Guagua Pichincha</td><td>Ecuador</td><td>1502-02=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Jebel al-Tair</td><td>Yemen</td><td>0201-01=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Karymsky</td><td>Russia</td><td>1000-13=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Kilauea</td><td>USA</td><td>1302-01-</td><td>Shield volcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Koryaksky</td><td>Russia</td><td>1000-09=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Mt. Erebus</td><td>Antarctica</td><td>1900-02=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Mt. Etna</td><td>Italy</td><td>0101-06=</td><td>Stratovolcanoes</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Ol Doinyo Lengai</td><td>Tanzania</td><td>0202-12=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Yellow</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Pacaya</td><td>Guatemala</td><td>1402-11=</td><td>Complex volcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Poas</td><td>Costa Rica</td><td>1405-04=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Popocatepetl</td><td>Mexico</td><td>1401-09=</td><td>Stratovolcanoes</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Yellow</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Rabaul</td><td>Papua New-Guinea</td><td>0502-14=</td><td>Pyroclastic shield</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Alert Level 2</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Sakura-Jima</td><td>Japán</td><td>0802-08=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Alert Level 3</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Santa Maria</td><td>Guatemala</td><td>1402-03=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Semeru</td><td>Indonesia</td><td>0603-30=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Alert Level 2</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Sheveluch</td><td>Russia</td><td>1000-27=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Soufriere Hills</td><td>Montserrat</td><td>1600-05=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Alert Level 3</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Stromboli</td><td>Italy</td><td>0101-04=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Suwanose-Jima</td><td>Japan</td><td>0802-03=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Tungurahua</td><td>Ecuador</td><td>1502-08=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Ubinas</td><td>Peru</td><td>1504-02=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Orange</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td>Yasur</td><td>Vanuatu</td><td>0507-10=</td><td>Stratovolcano</td><td colspan="2" align="center">Read</td><td width="1%" bgcolor="#000000">Eruption</td><td bgcolor="#25343b">Alert Level 3</td></tr> </tbody></table>
</td></tr> </tbody></table> <script type="text/javascript"> ajax_loadContent('data1','event_data/event_disaster.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data2','event_data/event_short.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data3','event_data/event_long.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data4','event_data/event_tsunami.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data5','event_data/event_eq.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data6','event_data/event_ts.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data7','event_data/event_geostorm.php?lang=eng'); ajax_loadContent('data_vo','event_data/event_volcano.php?lang=eng'); </script> <script language="javascript"> function emailantispam(email1, email2, email3, email4){ emailE = email1 + email2 + '@' + email3 + email4; document.write('' + emailE + '') }; </script> <!-- <hr size="1"> <center> | About Our mission Cooperation Contact us | </center> -->