ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก...

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย L.sooksun.E, 2 มีนาคม 2009.

  1. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    ขอบคุณที่มา http://www.watprom.iirt.net/chant_13.html


    <TABLE height=667 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="52%" bgColor=#cc33cc height=3>คำนำ


    <CENTER class=Section1></CENTER>
    หนังสือเล่มที่ท่านอ่านอยู่ขณะนี้ ได้อ่านแล้วทำให้เกิดจากแรงบันดาลใจ อยากจะเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้อ่าน รับรู้และเข้าใจ จึงได้นำหนังสือนี้มาปรึกษาพระคุณเจ้าว่า ใคร่จะพิมพ์เผยแพร่ต่อไป จะได้หรือไม่ พระคุณเจ้าได้บอกว่า นับเป็นธรรมทานที่ยากยิ่ง ก่อให้เกิดสุขโดยทั่วและยาวนาน จึงเป็นจุดเร่งความคิดผลิดหนังสือเล่มนี้ให้สู่ท่านทั้งหลาย ด้วยอำนาจแห่งความตั้งใจที่ได้สร้างหนังสือนี้ ขอให้ผลบุญนี้ ส่งเสริมให้ครอบครัวมีความสุข มีความเจริญและประสบผลสำเร็จในสิ่งปรารถนา และขออุทิศส่วนกุศลจากการสร้างหนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก คาถาชินบัญชรและรวบรวมคาถาของพระเกจิอาจารย์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนานี้ ให้แก่เทพทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน บิดา มารดา บรรพบุรุษ ครูอาจารย์ผู้มีพระคุณ ญาติสนิทมิตรสหาย เจ้าที่เจ้าทาง เจ้ากรรมนายเวร ทั้งอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ท่านพญายมราช ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย และดวงวิญญาณที่ไร้ญาติทั่วไป ขอจงร่วมอนุโมทนาในบุญกุศลโดยถ้วนทั่วกัน เทอญ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>





    </TD><TD align=middle width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>


    </TD>




    </TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>




    </TD><TD width="52%" bgColor=#cc33cc height=3>ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ต้นฉบับเดิม
    ต้นฉบับเดิมเปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก จารเป็นอักษรขอม จารึกไว้ในใบลาน โบราณาจารย์จึงได้แปลเป็นอักษรไทย หลวงธรรมาธิกรณ์ (พระภิกษุแสง)ได้มาแต่พระแท่นศิลาอาสน์ มณฑลพิษณุโลก <O:p></O:p>





    มีคำกล่าวในหนังสือนำนั้นว่า ผู้ใดมียอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกไว้ประจำบ้านเรือน มีอานิสงส์ยิ่งกว่าได้สร้างพระเจดีย์ทองคำสูงเทียมเทวโลกและป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ทำมาหากินเจริญ ฯลฯ<O:p> </O:p>




    <O:p></O:p>


    ต่อมามีผู้นิยมสร้างหนังสือนี้ขึ้น โดยเชื่อว่าผู้ใดสร้าง ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้เป็นธรรมทาน และสวดมนต์สักการะบูชาเป็นประจำ จะมีผลานิสงส์สุดที่จะพรรณ นาให้ทั่วถึงได้ นับเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ จะมีความสุขสิริสวัสดิ์เจริญต่อไปทั้งปัจจุบันกาลและอนาคตภายภาคหน้า ตลอดทั้งบุตรหลานสืบไป ด้วยอำนาจของความเคารพในพระคาถานี้


    <O:p></O:p>
    ประวัติต้นฉบับเดิมกล่าวว่า หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ มีคำกล่าวไว้ในหนังสือนำว่าเป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้ใดได้สวดมนต์ภาวนาทุกเช้าค่ำแล้ว เป็นการบูชารำลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้นั้นจะไม่ไปตกอบายภูมิ แม้ได้บูชาไว้กับบ้านเรือน ก็ป้องกันอันตรายต่าง ๆ จะภาวนาพระคาถาอื่น ๆ สัก ๑๐๐ ปี อานิสงส์ก็ไม่สูงเท่าภาวนาพระคาถานี้ครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยมยักษ์ ที่มีอิทธิฤทธิ์ จะเนรมิตแผ่นอิฐเป็นทองคำก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่มนุษย์โลกสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก อานิสงส์ก็ยังไม่เท่าภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ และมีคำอธิบายคุณความดีไว้ในต้นฉบับเดิมนั้นอีกนานับปการ ฯ <O:p></O:p>


    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ ถ้าผู้ใดบริจาคทรัพย์สร้างถวายพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ญาติ-มิตรสหาย หรือสวดจนครบ ๗ วัน ครบอายุปัจจุบันของตน จะบังเกิดโชคลาภทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง จะพ้นเคราะห์ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยและภัยพิบัติทั้งปวง ฯ


    ผู้ใดตั้งจิตเจริญภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกวันละสามจบจะไม่มีบาปกรรม ทำสิ่งใดจะได้สมความปรารถนา สวดวันละเจ็ดจบ กระดูกลอยน้ำได้ <O:p></O:p>









    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2009
  2. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <TABLE height=667 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><CENTER><TR><TD width="52%" bgColor=#cc33cc height=3>พิธีไหว้พระ

    และสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก

    ก่อนเข้าห้องบูชาพระ ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดและนุ่งห่มให้เรียบร้อย เข้านั่งที่ด้วยความสำรวมกายใจ ตั้งจิตให้แน่วแน่เพ่งตรงยังพระพุทธรูป ระลึกถึงพระรัตนตรัย ค่อยกราบ ๓ หน แล้วสงบจิตระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา ซึ่งเป็นพระอรหันต์ของบุตร <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    จากนั้นจึงจุดเทียนบูชา ให้จุดเล่มด้านขวาของพระพุทธรูปก่อนแล้วจุดเล่มด้านซ้ายต่อไป จุดธูป ๓ ดอก เมื่อจุดเทียนธูปที่เครื่องสักการบูชาเสร็จแล้วเอาจิต (นึกเห็น) พระพุทธองค์มาเป็นประธานพึงนั่ง ชายพึงนั่งคุกเข่า หญิงนั่งท่าเทพนม ประนมมือ ตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย นมัสการพระรัตนตรัย นมัสการพระพุทธเจ้า ไตรสรณคมน์และนมัสการพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วจึงเจริญภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก จะเพิ่มความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น จะเกิดพลังจิตและมีความมั่นคงในชีวิต พึงทราบด้วยว่า การเจริญภาวนาทุกครั้งต้องอยู่ในสถานที่อันสมควร ขอให้ทำจิตตั้งมั่นในบทสวดมนต์ จะมีเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายร่วมอนุโมทนาสาธุการขออย่าได้ทำเล่น จะเกิดโทษแก่ตนเอง <O:p></O:p>
    ยิ่ง ทำ ยิ่ง ได้<O:p>ยิ่ง ให้ ยิ่ง มี<O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>

    </TD></TR></CENTER><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD width="52%" bgColor=#cc33cc height=3>อานิสงส์การสร้างและสวด


    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นธรรมทาน


    โบราณท่านว่า ผู้ใดได้พบยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้แล้ว ท่านว่าเป็นบุญตัวอันประเสริฐนัก เมื่อพบแล้วให้พยายามท่องบ่นสวดภาวนาอยู่เป็นนิตย์ตราบเท่าชีวิต จนทำลายขันธ์จากมนุษย์โลก แล้วก็จะไปยังเกิดในสัมปรายภพสวรรค์สุคติภพด้วยพระอานิสงส์เป็นแน่แท

    ถ้าผู้ใดจะสวดขออานุภาพให้ผู้ป่วยไข้อาการจะดีขึ้น จะสวดแผ่กุศลอุทิศไปให้ บิดา มารดา หรือครูบาอาจารย์ อุปัชฌาย์ ผู้มีพระคุณของท่านแล้ว ให้เขียน จิ เจ รุ นิ และชื่อท่านนั้น ๆ ใส่กระดาษก่อนสวดทุกครั้ง เมื่อสวดกี่จบครบตามที่เราต้องการแล้วให้นำกระดาษนั้นเผาไฟ และกรวดน้ำโดยคารวะ บอกชื่อฝากพระแม่ธรณีนำกุศลอันนี้ให้ท่านผู้นั้น ได้ตามความปรารถนาของเราทุกครั้ง
    • ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บจากเจ้ากรรมนายเวร
    • กิจการงานเจริญรุ่งเรือง อุดมด้วยโภคทรัพย์
    • ผู้ใดอุทิศบุญกุศล อันเกิดจากการสร้าง ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ให้ ปู่ย่า ตา ยาย บิดา มารดา ฯ บุตร หลาน ที่อยู่เบื้องหลังมีความเจริญรุ่งเรือง<O:p>
    • บิดา มารดา จะมีอายุยืน
    • สามีภรรยา รักใคร่ดีต่อกัน บุตรหลานเป็นคนดี
    • ปฏิสนธิวิญญาณบุตร เกิดมาเฉลียวฉลาด ปัญญาดี เลี้ยงง่าย สุขภาพดี
    • วิญญาณของบรรพบุรุษจะสู่สุคติภพ
    • เสริมบุญบารมีให้ตนเอง
    • แคล้วคลาดจากอันตรายต่าง ๆ
    • เมื่อสิ้นอายุขัยจะไปสู่สุคติภูมิ
    ขอตั้งสัตยาธิษฐาน ขอความเจริญรุ่งเรือง จงบังเกิดแก่ท่านผู้สร้าง ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ เพื่อความงอกงามในพระบวรพระพุทธศาสนาสืบไป.




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </O:p></O:p></O:p>
     
  3. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <TABLE height=667 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><CENTER><TR><TD width="52%" bgColor=#cc33cc height=3>คำบูชาพระรัตนตรัย


    โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อิเมหิ สักกาเรหิ , ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
    โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    อิเมหิ สักกาเรหิ , ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
    โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อิเมหิ สักกาเรหิ , ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>


    คำนมัสการพระรัตนตรัย

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
    พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ ๑หน)
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ ๑ หน)<O:p>
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สังฆัง นะมามิ (กราบ ๑ หน) <O:p>


    คำนมัสการพระพุทธเจ้า

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ<O:p>

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    <O:p>



    คำนมัสการไตรสรณคมน์<O:p> </O:p>


    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<O:p> </O:p>
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<O:p>




    คำนมัสการพระพุทธคุ



    พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ<O:p>



    </TD><CENTER><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3></TD></CENTER></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสามระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ
    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลี กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ


    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>



    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก<O:p> ต้นฉบับเดิ

    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๑.อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วะตะ โส ภะคะวา.
    อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วะตะ โส ภะคะวา.
    อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะ สัมปันโน วะตะ โส ภะคะวา.
    อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วะตะ โส ภะคะวา.
    อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วะตะ โส ภะคะวา .<O:p>
    อะระหันตัง สะระณัง คัจฉามิ.<O:p>
    อะระหันตัง สิระสา นะมามิ.
    สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
    สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ.
    วิชชาจะระณะสัมปันนัง สะระณัง คัจฉามิ.
    วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ.<O:p>
    สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ.
    สุคะตัง สิระสา นะมามิ.
    โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ.
    โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ. <O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๒.

    อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วะตะ โส ภะคะวา.
    อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะทัมมะสาระถิ วะตะ โส ภะคะวา.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วะตะ โส ภะคะวา.
    อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วะตะ โส ภะคะวา.<O:p>
    อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ.<O:p>
    อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ.<O:p>
    ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ.<O:p>
    ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ.
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ.<O:p>
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ.
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
    พุทธัง สิระสา นะมามิ. อิติปิ โส ภะคะวา ฯ



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๓.

    อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะ-ปาระมิ จะ สัมปันโน.
    อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะ-ณะปาระมิ จะ สัมปันโน.
    อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะ-ลักขะณะ ปาระมิ จะ สัมปันโน.
    อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะ-ลักขะณะปารมิ จะ สัมปันโน.
    อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะ-ลักขะณะปาระมิ จะสัมปันโน.



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๔.

    อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะวีธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
    อิติปิ โส ภะคะวา อาโปธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา เตโชธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา วาโยธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิโส ภะคะวา วิญญาณะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา จักกะวาฬะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๕.

    อิติปิ โส ภะคะวา จาตุมมะหาราชิกาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ตาวะติงสาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระตีธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อะรูปาวะจะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา โลกุตตะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๖.

    อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุสะมาธิ-ญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๗.

    อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา วิญญานัญจายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๘.

    อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปัตติมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคามิมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคามิมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปัตติผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคามิผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคามิผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.<O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๙.

    กุสะลา ธัมมา อิติปิ โส ภะคะวา อะอา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ชัมพู<O:p>ทีปัญจะ อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นะโม พุทธายะ
    นะโม ธัมมายะ นะโม สังฆายะ ปัญจะ พุทธา นะมามิหัง อา ปา มะ จุ ปะ,ที มะ สัง อัง ขุ, สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ, อุปะสะชะสะเห ปาสายะโส ฯ
    โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ
    นา วิ เว,อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ, อิสวาสุ, สุสวาอิ กุสะลา ธัมมา จิตติวิอัตถิ.



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๑๐.

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง อะอา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ สาโพธิปัญ<O:p> </O:p>จะ อิสสะโร ธัมมา.
    กุสะลา ธัมมา นันทะวิวังโก อิติ สัมมาสัมพุทโธ สุคะลาโน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. <O:p></O:p>
    จาตุมมะหาราชิกา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน อุอุ ยาวะชีวัง พุทธังสะระณัง คัจฉามิ.
    ตาวะติงสา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ยามา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา พรหมาสัททะ ปัญจะสัตตะ สัตตาปาระมี อะนุตตะโร ยะมะกะขะ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ตุสิตา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา ปุยะปะกะ ปุริสะทัมมะสาระถิ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.<O:p>
    นิมมานะระตี อิสสะโร กุสะลา ธัมมา เหตุโปวะ สัตถา<O:p>เทวะมะนุสสานัง ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี อิสสะโร กุสะลา ธัมมา สังขาระขันโธ ทุกขัง<O:p> </O:p>ภะคะวะตา ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
    พรหมา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นัตถิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.<O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๑๑. นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ พุทธิลาโภกะลา กะระกะนา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ. <O:p></O:p>

    นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ วัตติ วัตติ มะยะสุ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ. <O:p></O:p>
    อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง พรหมะสาวัง มะหาพรหมะสาวัง จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติ-สาวัง เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง อิสีสาวัง มะหาอิสีสาวัง มุนีสาวัง มหามุนีสาวัง สัปปุริสะสาวัง มหาสัปปุริสะสาวัง พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกาอิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ. <O:p></O:p>
    สาวัง คุณัง วะชะ พะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง ธัมมัง สัจจัง นิพพานัง โมกขัง คุยหะกัง ทานัง สีลัง ปัญญา นิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ยะสัง ตัปปัง สุขัง สิริ รูปัง จะตุวีสะติเทสะนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ <O:p>



    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3>
    </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>
    ๑๒. นะโม พุทธัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม อิติปิโส ภะคะวา. <O:p></O:p>

    นะโม ธัมมัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะ-ขันโธ เวทะนาขันโธ<O:p> </O:p>
    สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม. สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง. <O:p></O:p>
    นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ยาวะตัสสะ หาโยโมนะ อุอะมะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัต-ตา อุอะมะอะ วันทา <O:p></O:p>
    นะโม สังฆัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ <O:p></O:p>
    นะโม พุทธายะ นะอะกะติ นิสะระณะ อาระปะขุทธัง มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ฯ <O:p>



    </TD></TR></CENTER></TBODY></TABLE>
    </O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2009
  4. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <TABLE height=667 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="37%" bgColor=#ffffff colSpan=3 height=29>
    พระคาถาชินบัญชร
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
    วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร
    </TD></TR><TR><TD width="37%" colSpan=3 height=3>
    </TD></TR><CENTER></CENTER><CENTER><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3> </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26> เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาชินบัญชรให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงและบูชา เจ้าประคุณสมเด็จด้วยคำว่า <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    ปุตตะกาโม ละเภ ปุตตัง ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง อัตถิ กาเย กายะญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะ วา อิติปิ โส ภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มะระณัง สุขัง อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ <O:p>

    </TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3> </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3> </TD><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="53%">๑. ชะยาสะนาคะตา พุทธา
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง
    ๒. ตัณหังกะราทะโย พุทธา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง
    ๓.สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง
    ๔.หะทะเย เม อะนุรุทโธ
    โกณทัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง
    ๕. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง
    กัสสะโป จะ มะหานาโม
    ๖. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง
    นิสินโน สิริสัมปันโน
    ๗. กุมาระกัสสะโป เถโร
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง
    ๘.ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา
    ๙.เสสาสีติ มะหาเถรา
    เอเตสีติ มะหาเถรา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ
    ๑๐.ระตะนัง ปุระโต อาสิ
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ
    ๑๑.ขันธะโมระปะริตตัญจะ
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ
    ๑๒. ชินะ นานาวะระสังยุตตา
    วาตะปิตตาทิสัญชาตา
    ๑๓.
    อะเสสา วินะยัง ยันตุ
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ
    ๑๔. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ
    สะทา ปาเลนตุ มัง
    ๑๕.
    อิจเจวะ มันโต
    ชินานุภาเวนะ
    ธัมมานุภาเวนะ
    สังฆานุภาเวนะ

    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต
    </TD><TD width="47%">เชตะวา มารัง สะวาหะนัง
    เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
    อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    มัตถะเก เต มุนิสสะรา.
    พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    อุเร สัพพะคุณากะโร
    สารีปุตโต จะ ทักขิเณ

    โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
    อาสุง อานันทะราหุโล
    อุภาสุง วามะโสตะเก
    สุริโยวะ ปะภังกะโร
    โสภี โต มุนิปุงคะโว
    มะเหสี จิตตะวาทะโก
    ปะติฏฐาสิ คุณากะโร
    อุปาลี นันทะสีวลี<O:p>
    นะลาเฏ ติละกา มะมะ.
    วิชิตา ชินะสาวะกา
    ชิตะวันโต ชิโนระสา
    อังคะมังเคสุ สัณฐิตา
    ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง
    วาเม อังคุลิมาละกัง
    อาฏานาฏิยะสุตตะกัง
    เสสา ปาการะสัณฐิตา
    สัตตะปาการะลังกะตา
    พาหิรัชฌัตตุปัททะวา.
    อะนันตะชินะเตชะสา
    สะทา สัมพุทธะปัญชะเร
    วิหะรันตัง มะหีตะเล *
    สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.<O:p>
    สุคุตโต สุรักโข
    ชิตุปัททะโว
    ชิตาริสังโฆ
    ชิตันตะราโย
    จะรามิ ชินะปัญชะเรติ. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="1%" bgColor=#cc33cc height=3> </TD></TR><TR><TD width="2%" bgColor=#cc33cc height=3> </TD></CENTER><TD vAlign=top width="91%" bgColor=#cc33cc height=26>

    *บางตำราใช้ เกเสนเต,เกสะโต,ก็มี
    ** ฉบับสิงหลไม่มีวรรคนี้
    ***.มะหีตะเล บาลีออกเสียงเป็น มะฮีตะเล<O:p>
    พุทธะมังคะละคาถา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></O:p></O:p></O:p></O:p>
     
  5. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    คำกรวดน้ำ<O:p> ของยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก<O:p> </O:p></O:p>
    <O:p><O:p></O:p></O:p>
    อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญของข้าพเจ้า ได้สร้างและสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ ขอให้ค้ำชู อุดหนุน คุณบิดามารดา พระมหากษัตริย์ ผู้มีพระคุณ ญาติกา ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร มิตรรักสนิท เพื่อนสรรพสัตว์น้อยใหญ่ พระภูมิเจ้าที่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พญายมราช นายนิริยบาล ท้าวจะตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริคุตอำมาตย์ ชั้นจาตุมมะหาราชิกาเบื้องบน สูงสุดจนถึงภวัคคะพรหม และเบื้องล่างต่ำสุด ตั้งแต่โลกันตมหานรกและอเวจีขึ้นมา จนถึงโลกมนุษย์ สุดรอบขอบจักรวาล อนันตจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัย และเทพยดาทั้งหลาย ตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยมยักษ์ คนธรรพ์ นาคา พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุขขอให้ได้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศให้ไปนี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบัน และอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>พุทธัง อะนันตัง ธัมมัง จักกะวาลัง <O:p>สังฆัง นิพพานะปัจจะโย โหนตุ.<O:p> </O:p>
    </O:p></O:p>
     
  6. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <CENTER>บทแผ่เมตตาโดยไม่มีประมาณ</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    อะหัง อะเวโร โหมิ ( ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ปราศจากเวร )



    อัพยาปัชโฌ โหมิ ( ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    อะนีโฆ โหมิ ( ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ (ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    มะมะ มาตาปิตุ ( ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า )

    อาจาริยา จะ ญาติมิตตา ( จะ ครูอาจารย์ และญาติมิตร )

    สะพราหมะจาริโน จะ ( ผู้ประพฤติธรรมทั้งปวง )

    อะเวรา โหนตุ ( จงปราศจากเวร )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( จงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    อะนีฆา โหนตุ ( จงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปะริหรันตุ ขอให้ท่านจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ

    อิมัสมิง อาราเม สัพเพ โยคิโน ขอให้ท่านโยคี ( ผู้ทรงสมาธิ) ทั้งปวงในเขตนี้ )

    อะเวรา โหนตุ ( จงปราศจากเวร )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( จงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    อะนีฆา โหนตุ ( จงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ ( ขอให้ท่านจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    อิมัสมิง อาราเม สัพเพ ภิกขู ( ขอพระภิกษทั้งหลายทั้งปวงที่อยู่ในเขตนี้ )

    สามะเณรา จะ ( และสามเณร )

    อุปาสะกา อุปาสิกายา จะ ( ทั้งอุบาสกและ อุบาสิกา )

    อะเวรา โหนตุ ( จงปราศจากเวร )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( จงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    อะนีฆา โหนตุ ( จงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ( ขอให้ท่านจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    อัมหากัง จะตุปัจจายะทายะกา ( ขอทายกทายิกา ผู้ให้ปัจจัย๔ แก่พวกเราทั้งหลาย )

    อะเวรา โหนตุ ( จงปราศจากเวร )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( จงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    อะนีฆา โหนตุ ( จงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ( ขอให้ท่านจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    อัมหากัง อารักขา เทวาตา ( ขอเทวดาผู้อารักขาเราทั้งหลาย )

    อิมัสมิง วิหาเร ( ในวิหารแห่งนี้ )

    อิมัสมิง อาวาเส ( ในอาวาสแห่งนี้ )

    อิมัสมิง อาราเม ( ในอารามแห่งนี้ )

    อารักขา เทวาตา ( ขอเทวาผู้รักษาสถานที่เหล่านี้ )

    อะเวรา โหนตุ ( จงปราศจากเวร )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( จงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    อะนีฆา โหนตุ ( จงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปะริหรันตุ ( ขอให้ท่านจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    สัพเพ สัตตา ( ขอสัตว์ทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ ปาณา ( ขอสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย )

    สัพเพ ภูตา ( ขอภูติทั้งหลาย )

    สัพเพ ปุคคะลา ( ขอบุคคลทั้งหลาย )

    สัพเพ อัตตภาวา ปริยาปันนา ( ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลาย )

    สัพพา อิตถีโย ( ขอสตรีทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ ปุริสา ( ขอบุรุษทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ อริยา ( ขอพระอริยเจ้าทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ อนริยา ( ขอผู้ยังไม่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ เทวา ( ขอเทวาทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ มนุสสา ( ขอมนุษย์ทั้งหลาย ทั้งปวง )

    สัพเพ วินิปาติกา ( ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลาย ทั้งปวง )

    อะเวรา โหนตุ ( จงปราศจากเวร )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( จงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน)

    อะนีฆา โหนตุ ( จงปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ )

    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ( ขอให้ท่านจงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    ทุกขา มุจจันตุ ( ขอสัตว์ทั้งหลายจงปราศจากความทุกข์ )

    ยถา ลัทธาสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ( จงอย่าพลัดพรากจากสมบัติที่ได้มา )

    กัมมัสสะกา ( ตนย่อมเป็นเจ้าของกรรมนั้น )

    ปุรถิมายะ ทิสายะ ( ขอสัตว์ทั้งปวง ในทิศบูรพา ( ทิศตะวันออก )

    ปัจฉิมายะ ทิสายะ ( ในทิศปัจฉิม ( ทิศตะวันตก )

    อุตตรายะ ทิสายะ ( ในทิศอุดร ( ทิศเหนือ )

    ทักขิณายะ ทิสายะ ( ในทิศทักษิณ ( ทิศใต้ )

    ปุรถิมายะ อนุทิสายะ ( ในทิศอาคเนย์ ( ทิศตะวันออกเฉียงใต้ )

    ปัจฉิมายะ อนุทิสายะ ( ในทิศพายัพ ( ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ )

    อุตตระ อนุทิสายะ ( ในทิศอิสาน ( ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ )

    ทักขิณายะ อนุทิสายะ ( ในทิศหรดี ( ตะวันตกเฉียงใต้ )

    เหฎฐิมายะ ทิสายะ ( ในทิศเบื้องล่าง )

    อุปาริมายะ ทิสายะ ( ในทิศเบื้องบน )

    สัพเพ สัตตา ( ขอสัตว์ทั้งหลาย )

    สัพเพ ปาณา ( ขอสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย )

    สัพเพ ภูตา ( ขอภูติทั้งหลาย )

    สัพเพ ปุคคะลา ( ขอบุคคลทั้งหลาย )

    สัพเพ อัตตภาวา ปริยาปันนา ( ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลาย )

    สัพพา อิตถีโย ( ขอสตรีทั้งหลาย )

    สัพเพ ปุริสา ( ขอบุรุษทั้งหลาย )

    สัพเพ อริยา ( ขอพระอริยเจ้าทั้งหลาย )

    สัพเพ อนริยา ( ขอผู้ยังไม่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย )

    สัพเพ เทวา ( ขอเทวา ทั้งหลาย )

    สัพเพ มนุสสา ( ขอมนุษย์ทั้งหลาย )

    สัพเพ วินิปาติกา ( ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลาย )

    อะเวรา โหนตุ ( อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย )

    อัพยาปัชฌา โหนตุ ( อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย )

    อะนีฆา โหนตุ ( อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย )

    สุขี อัตตานัง ปะริหรันตุ ( จงมีความสุข บริหารตนให้พ้นจากทกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ )

    ทุกขา มุจจันตุ ( ขอสัตว์ทั้งหลายจงปราศจากความทุกข์ )

    ยถา ลัทธา สัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ( จงอย่าพลัดพรากจากสมบัติที่ได้มา )

    กัมมัสสะกา ( ตนย่อมเป็นเจ้าของกรรมนั้น )

    อุทธัง ยาวะ ภะวัคคา จะ ( และสัตว์ที่อยู่สูงขึ้นไปจนถึงภวัคคภูมิ )

    อโธ ยาวะ อวิจจิโต ( และสัตว์ที่อยู่เบื้องล่างจนถึงอเวจีมหานรก )

    สมันตา จักกะวาเลสุ ( สัตว์ทั้งหลายในจักรวาล )

    เย สัตตา ปถวิจารา ( ไม่ว่าสัตว์ใดที่อุบัติบนพื้นปฐพี )

    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ ( ขอจงปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน )

    นิทุกขา จะ นุปัททวา ( ปราศจากทุกข์ และอุปัทวันตราย )

    อุทธัง ยาวะ ภะวัคคา จะ ( ขอสัตว์ที่อยูสูงขึ้นไปถึงภวัคคภูมิ )

    อโธ ยาวะ อวิจจิโต ( และสัตว์อยู่เบื้องล่างในอเวจีมหานรก )

    สมันตา จักกะวาเลสุ ( สัตว์ทั้งหลายในจักรวาล )

    เย สัตตา อุทักเขจารา ( ขอสัตว์ทั้งหลายผู้เกิดในน้ำ )

    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ ( ขอจงอย่าได้เบียดเบียนใครเลย อย่าได้มีเวรกับใครเลย )

    นิทุกขา จะ นุปัททวา ( ปราศจากทุกข์ ปราศจากอุปัทวันตราย )

    อุทธัง ยาวะ ภะวัคคา จะ ( ขอสัตว์ในโลกธาตุอื่น ที่อยูเบื้องบนคือภวัคคภูมิลงมา )

    อโธ ยาวะ อวิจิโต ( ตั้งแต่อเวจีมหานรกขึ้นไป )

    สมันตา จักกะวาเฬสุ ( ขอสัตว์ทั้งหลายในจักรวาลโดยรอบๆ )

    เย สัตตา ปถวิจารา ( ไม่ว่าสัตว์ใดที่อุบัติบนพื้นปฐพี )

    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ ( ขอจงอย่าได้เบียดเบียนใครเลย อย่าได้มีเวรกับใครเลย )

    นิทุกขา จะ นุปัททวา ( ปราศจากทุกข์ ปราศจากอุปัทวันตราย ทั้งสิ้นเทอญฯ )




    __________________
    ขอบคุณที่มา http://www.mindcyber.com/home/index.php?news=404
    <!-- / message --><!-- sig -->http://palungjit.org/showthread.php?p=1921417#post1921417
    ;aa37<SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
    <SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
    <SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
    <SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2009
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ขอบคุณครับ ผมเริ่มท่องบทนี้มาจะหนึ่งอาทิตย์เเล้ว รู้สึกดีมากครับ อนุโมทนาครับ
     
  8. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50

    อนุโมทนาด้วยนะ... เราก็พยายามจะท่องยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกกับคาถาชินบัญชรทุกคืน ส่วนบทแผ่เมตตาไม่มีประมาณ เพิ่งจะเริ่มท่องเมื่อไม่กี่วันนี้ล่ะ *-*

    สาธุ ;aa37
     
  9. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
  10. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <CENTER>คาถาใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ

    </CENTER><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างหรือปล่าว

    ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา
    เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป
    โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
    ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป
    แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่
    อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้
    ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต
    อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

    (
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

    "
    หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา
    ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า
    ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
    และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี
    ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา
    ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน
    คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
    ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
    ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
    ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
    จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว
    ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ
    ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ
    โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก
    ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
    หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
    ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้
    ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
    ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร "

    คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ
    แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน
    การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง

    (
    คาถา บทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย
    และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา
    เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ ไม่เว้นแม้กระทั้ง
    พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น
    เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า






    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
    ตั้งนะโม ๓ จบ ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา หรือ
    วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ ๙ จบ
    ( ขอพระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริตรและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)

    [​IMG]http://tunajai.multiply.com/journal/item/2
    www.agalico.com
     
  11. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <CENTER>คาถาเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์

    </CENTER>

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->คาถาเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์
    หลวงพ่อชุมพล ๑๓ กันยายน ๒๕๔๘


    ตั้งเครื่องสักการะขึ้นมา (คำว่าเครื่องสักการะนั้นอาจเป็นธูปเทียนหรือดอกไม้หรือพวงมาลัยหรือน้ำหนึ่งแก้วก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรเลยให้เอาดวงจิตที่อ่อนน้อมเป็นเครื่องสักการะ ขอเพียงให้ทำด้วยความเคารพ เอาใจเป็นใหญ่) จากนั้นอธิษฐานดังนี้


    เครื่องสักการะนี้ ข้าพเจ้าขอประดิษฐาน เพื่อถวายเป็นเกียรติแก่ พระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์และบริวาร พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์และบริวาร พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์และบริวาร (อาจเพิ่มพระโพธิสัตว์ที่เราเคารพเป็นพิเศษไปอีกได้ตามสะดวกและตามศรัทธา เช่นหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้และบริวาร หลวงพ่อปานวัดบางนมโคและบริวาร ครูบาศรีวิชัยและบริวารเป็นต้น ก็ได้)


    บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาในอดีตชาติก็ดีปัจจุบันชาติก็ดี ที่จะให้ผลแก่ข้าพเจ้าเพียงไร ข้าพเจ้าขออุทิศกุศลนั้น ให้แก่พระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง จงทุกประการเทอญ

    อนึ่งบุญใดที่พระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง ได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติ ข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนา ขอให้ข้าพเจ้า จงมีส่วนแห่งบุญนั้น จงทุกประการเทอญ

    สิ่งใดข้าพเจ้า ได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ข้าพเจ้าขอกราบแทบเท้าขอขมา ขอท่านจงโปรดเมตตา ยกโทษอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    สิ่งใดที่ท่านได้เคยล่วงเกินข้าพเจ้า มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น

    ข้าพเจ้าขออุทิศกุศล ไปกับกระแสเมตตาจิต ของพระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวง สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลอนันตจักรวาล จงมีส่วนแห่งกุศล ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาจงทุกประการเทอญ

    ข้าพเจ้าขอพรว่า เมื่อใดที่ข้าพเจ้า อุทิศกุศล แผ่เมตตา และอธิษฐานจิต ขอให้ศักดิสิทธิ์มีฤิทธิ์ คล้ายประหนึ่งว่า ท่านทั้งหลายได้โปรดเมตตาบันดาลให้เป็นไปด้วยเทอญ


    (การเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวงหมายถึงเราได้ทำการผูกมิตรกับท่านผู้ที่อยู่ในสายการสร้างบารมีทั้งหมดทั้งสิ้นเลย ฉะนั้นคาถาเชื่อมจิตกับพระโพธิสัตว์ทุกองค์นี้ถ้าใครใช้ทุกวันจะทำให้ผู้นั้นมีจิตพิเศษกว่าคนธรรมดาทั่วไป เวลาอธิษฐานอะไร ถ้าไม่ผิดทำนองคลองธรรม จะสัมฤทธิ์ผลง่ายกว่าคนทั้งหลาย เวลาประกอบกิจการอันเป็นกุศลที่อยู่ในขอบข่ายการสร้างบารมีก็จะสำเร็จง่าย เพราะพระโพธิสัตว์ทุกองค์และบริวารทั้งปวงจะมาช่วย)

    ...........................ตามด้วยบทนี้...................

    นโม พุทธสิกขีพระพุทธเจ้า (หรือใครจะปรับเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ชอบใจเป็นพิเศษ หรือเคยเป็นบิดามารดาในอดีตชาติก็ใช้ได้นะครับ)
    นโม สรรพพุทธานัง
    นโม สรรพธัมมานัง
    นโม สรรพสังฆานัง
    นโม อิติ อิติ โพธิสัตว์

    โอม ฉัพพรรณรังสีพระพุทธเจ้า
    โอม ท่านท้าวจาตุรมหาพรหม
    โอม ท่านท้าวพยายมราช
    โอม ท่านท้าวสักกะเทวราช
    โอม ท่านท้าวจาตุรมหาราช
    ลูกขออุทิศส่วนกุศลด้วย อิทัง ปุญญะพะลัง

    ผลบุญใดที่ลูกได้สั่งสมมารวมทั้งสวดพระนามพระผู้มีพระภาคเจ้า
    ลูกขอแผ่ส่วนกุศลไปกับฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการขององค์สมเด็จพระพิชิตมารศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

    ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก เจ้ากรรมนายเวร และญาติมิตร มีความสุขสำเร็จในชีวิต ได้หลุดพ้นจากวัฎสงสาร โดยสิ้นเชิง ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ ลูกขอน้อมนอบนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก เจ้ากรรมนายเวรญาติมิตรและจิตลูกสว่างสะอาดสดใส หลุดพ้นไซร้สู่บ้านพระนิพพานพร้อมด้วยบริวารทุกท่านเทอญ สัมปะติจฉามิ สัมปะจิตฉามิ นิพพานสุขัง
    <!-- / message -->
     
  12. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    <CENTER>คาถาจักรพรรดิ์

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    สวดไปตามลำดับ



    จุดธูปบูชาพระ



    บทบูชาพระ


    พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ


    ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ



    สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ




    กราบพระ 6 ครั้ง ด้วยจิต โดยกล่าวดังนี้



    พุทธัง วันทามิ (กราบ)



    ธัมมัง วันทามิ (กราบ) <O:p



    สังฆัง วันทามิ (กราบ)



    ครูอุปัชฌาอาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)



    มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ)



    พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)
    <O:p



    บทสมาทานศีล 5




    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง)


    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ


    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ


    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ



    ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ



    ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ



    ตติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ



    ตติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ



    ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ



    ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ


    อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ


    อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ


    มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ


    สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ



    อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ ( 3 ครั้ง)



    สีเลนะ สุคติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา



    สีเลนะ นิพพุตติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย




    บทอาราธนาพระ



    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 ครั้ง)



    พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ



    ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ



    สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ



    คาถาหลวงปู่ทวด



    น้อมระลึกถึงปู่ทวดแล้วว่าคาถาดังนี้


    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภะคะวา (3 ครั้ง)


    คาถาหลวงปู่ดู่



    น้อมระลึกถึงปู่ดู่แล้วว่าคาถาดังนี้


    นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (3 ครั้ง)



    บทขอขมาพระรัตนตรัย


    โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา


    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ


    โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา


    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ


    โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา


    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ



    บทสวดมหาจักรพรรดิ


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 ครั้ง)



    (โดยสวดตามกำลังวันที่สวด เช่นสวดอาทิตย์ให้ 6 จบ จันทร์ 15 อังคาร 8 พุธ 17 พฤหัส 19 ศุกร์ 21 เสาร์ 10 )


    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ


    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา


    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ


    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา


    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง


    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย


    อะหังวันทามิ สัพพะโส


    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ



    สำรวมจิตเป็นสมาธิ 2 นาที อธิษฐานจิตไปยังบุคคลที่เราต้องการแผ่บุญ


    แล้วกล่าวคำอธิษฐานดังนี้


    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระเจ้าจักรพรรดิ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ ทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต บารมีรวมหลวงตาม้า บารมีรวมหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด ขอให้หลวงปู่ดู่รวมบารมีทั้งหมดทั้งมวลน้อมส่งไปยัง..คุณฟ้า titawan...
    ขอได้โปรดกล่อมเกลาปรับสภาพร่างกายจิตใจของ..คุณฟ้า titawan..ให้ดีขึ้น
    ขอให้ร่างกายแข็งแรง หายเจ็บป่วย


    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระเจ้าจักรพรรดิ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ ทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันโดยมีบารมีรวม หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้โปรดแผ่บุญกุศลทั้งหมดให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ที่ครองกาย.คุณฟ้า titawan.. ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เล่นงานคุณฟ้า titawan..อยู่ ให้ได้รับบุญกุศล และปรับภพภูมิดวงจิตดวงวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของคุณฟ้า titawanโดยเฉพาะที่ดวงจิตนี้ที่กำลังเล่นงานอยู่ขณะนี้ ให้ได้ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น ขอให้ละจากบุพกรรมทั้งปวงเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและจงอย่าได้จองเวร จองกรรมกันอีกต่อไป ขอให้ทุกดวงจิตจงได้อโหสิกรรมให้กับคุณฟ้า titawan.ด้วยเทอญ



    จากนั้นแผ่เมตตาโดยสวดบทสัพเพฯ


    (เป็นการเชิญพระเข้าตัวส่งไปยังเป้าหมาย)


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา



    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง



    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส


    ( 5 จบ)



    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ



    (ขณะที่ท่องบทสัพเพให้กำหนดเป็นภาพพลังงานบุญแผ่ออกจากกายหลวงปู่ ส่งผ่านมาที่ตัวเรา แล้วให้เราน้อมจิตแผ่บุญนั้น ออกไปยังเป้าหมายที่กำหนด )


    แต่ถ้ารู้สึกใจไม่ปลอดโปร่งก็สวดบทสัพเพฯเล็งไปยังเป้าหมายคือเจ้ากรรมนายเวรของคุณฟ้าไปเรื่อยๆจนกว่าฝ่ายนั้นจะอ่อนกำลัง...ยอมรับพลังกุศล ..ไม่จำเป็นต้องสวดแค่ 5 จบ มากกว่านั้นก็ได้จ้า


    ปล. ขอบคุณ พี่โรส (azalia) ด้วยนะคะ ที่นำบทสวดมาลงให้พร้อมทั้งอธิบายวิธีการสวด
     
  13. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    งัน ปอ ลา มก เลง ทอ เนง ซอ พอ ฮอ"
    =ใช้โปรดสัตว์นรก เจ้ากรรมนายเวร ให้พ้นทุกข์
    ผู้สวดต้องทำความดีอย่างต่อเนื่องพร้อมด้วยกาย วาจา ใจ อย่าท้อถอย หากภาวนาเป็นแสนล้านครั้งได้ยิ่งดี
    อ้างอิงจากเว็บ www.guanim.com/html/Suad/China/Cother.html และเว็บพลังจิต
     
  14. noble.myself

    noble.myself Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +32
    ศรัทธาและเลื่อมใสมากคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...