คำทำนายดวงโลกของ "หลวงปู่เทพโลกอุดร" เป็นจริงหรือ ?

​

หลังจาก ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ ส.ว.ฉะเชิงเทรา ทำนายเอาไว้ว่าเข้าเดือนกรกฎาคมจะมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุของระดับประเทศ เพราะมีดาวสำคัญๆ อาทิ ดาวพระเคราะห์ตึงดวงกรุงเทพฯ และดวงโลก ดังนั้นต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุเช่น เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว เป็นต้น

พอย่างเข้าวันที่ ๑ กันยายน เป็นต้นไป ถึงแม้ดวงเมืองจะกำลังดีอยู่ แต่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว การเงินการคลังเริ่มมีปัญหา ช่วงนี้ดาวราหูไม่สามารถทำร้ายดวงกรุงเทพฯ ได้ เพราะดวงตกวินาศ เมื่อถึงวันที่ ๒๙ กันยายน ราหูย้ายเข้าราศีกุมภ์ไปร่วมกับดาวร้าย มฤตยูและเนปจูน มันจะทำร้ายดวงเมืองกรุงเทพฯ
ด้าน โหรลักษณ์ เรขานิเทศ เจ้าของฉายา "โหรฟันธง" ได้ทำนายว่า ดวงเมืองในระยะนี้มีทั้งโหดมันฮา มีเรื่องร้ายๆ เช่น ภัยจากสึนามิ รอบสอง ภัยจากตึกถล่ม ภัยจากน้ำที่เซาะทำลายแผ่นดินจะปรากฏชัด น้ำจะท่วมเป็นรอยต่อมาจากปี ๒๕๔๘-๒๕๔๙ ถ้าหาข้อมูลที่เคย ฟันธงเอาไว้ว่าน้ำจะท่วมไปทั่ว ตรงนี้ยังน่ากลัวอยู่ ฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่ตามมาในปี ๒๕๔๙ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๘ จนถึง ดือนมีนาคม ๒๕๔๙ จะมีภัยพิบัติที่น่ากลัวเกิดขึ้นจากธรรมชาติ ในเรื่องนี้อาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดสึนามิรอบสองขึ้นก็ได้

คำทำนายจากโหราศาสตร์ดังกล่าว มีความเหมือนตามคำทำนายของ หลวงปู่พระครูเทพโลกอุดร ที่ก่อนหน้านี้หลวงปู่ยังได้ทำทาย เอาไว้ว่า ในปี ๒๕๔๗ จะเกิดคลื่นยักษ์เป็นภัยธรรมชาติ และจะมีคนตายเป็นจำนวนมากบวกกับจะมีโรคระบาดที่มาจากสัตว์ก็คือ โรคไข้หวัดนก
มาถึงวันนี้เราจึงสอบถาม คุณแม่มณีจันทร์ เลิศหิรัญปัญญา ซึ่งเป็นผู้ที่บอกเล่าถึงคำนายของหลวงปู่พระครูเทพโลกอุดรในปี ๒๕๔๙
คุณแม่มณีจันทร์ กล่าวว่า หลวงปู่พระครูเทพโลกอุดร ทำนายดวงเมืองปี ๒๕๔๙-๒๕๕๐ ว่าจะเกิดภัยพิบัติ โรคระบาดต่างๆ ก็จะมา แต่ท่านบอกว่าลมจะมาก่อน ลมที่ว่าจะแรงมาก ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ประเทศอื่นๆ ก็จะเจอเหมือนกัน ส่วนประเทศ ที่จะเจอลมพายุที่รุนแรมมากที่สุดก็คือประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย อินเดีย โดยเฉพาะแถบสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก จะโดนหนักที่สุด
เรื่องลมแรงนี้ทางประเทศไทยจะโดนหนักที่สุดก็จะเป็นแถบภาคใต้ ส่วนภาคเหนือจะมีแผ่นดินไหว

คำทำนายทางภาคใต้ยังอธิบายต่ออีกว่า ถ้าไม่ผิดพลาด เข้าเดือน ๗ จะมีลมพัดเข้ามาทางภาคใต้กับภาคเหนือ โดยมีแนวโน้มว่า ทางภาคใต้ยังต้องเจอมรสุมอย่างหนักก่อน ส่วนภาคอีสานจะเจอลมบางส่วน แต่คนกรุงเทพฯ ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีอันตราย เพราะน้ำพวกนี้จะกัดเซาะจนทำให้อาคารหรือตึกทรุดลงมา ขณะเดียวกันรอยต่อของปี ๒๕๔๙-๒๕๕๐ ในภาคใต้จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ รอบสอง ถือว่าใหญ่กว่าเดิมถึงสามเท่า คนที่จะอยู่ได้ไม่ฟั่นเฟือนคือคนที่มีสติ และไม่ต้องไปยึดติดกับวัตถุสิ่งของ
ในนิมิตที่ได้เห็นอีกก็คือ โรคป่วยที่มากับน้ำ เนื่องจากคนเราแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เมื่อนำสัตว์ไปฝังไว้ในดิน พอนานไปก็ทำให้น้ำในดิน เกิดการเน่าเหม็น เกิดเป็นเชื่อโรค หรืออีกอย่างน้ำที่ว่านี้จะมีโรคตามมา อาจเหมือนกับฝนตกแล้วมีเชื้อโรคที่มาโดนผิวหนังของมนุษย์ และจะทำให้เนื้อเน่า

ปี ๒๕๔๙ การลงทุนอะไรก็ขอให้ชะลอตัวกันไว้ก่อน เพราะข้าวของสินค้าจะมีราคาแพง โจรก็เกิดขึ้นมาก ลมแรงหนาวมาก คนจนชั้นรากหญ้ากับชั้นกลางจะอดอยาก และลำบากมากที่สุด ส่วนคนรวยมีเงินก็คงไม่เดือดร้อนอะไร
"วันนี้ที่กล้าพูดคำทำนายของหลวงปู่ เพราะว่าวันนี้คำทำนายเมื่อ ๒-๓ ปีก่อน ได้ประจักษ์ให้เห็นแล้ว มันเกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ โรคไข้หวัดนก แผ่นดินไหวในหลายประเทศ มาวันนี้ก็อยากที่จะช่วยโลกของเรา ช่วยคนให้รู้ทันเหตุการณ์ร้ายๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ขอให้เตรียมตัวกันไว้ก่อน จุดประสงค์จริงๆ ไม่ใช่ทำให้ทุกคนแตกตื่น แต่ต้องการให้คนเข้าหาธรรมะกันให้มากที่สุด ภัยธรรมชาติที่เราเห็นเป็นเพราะเทวดาได้ลงโทษเราแล้ว" คุณแม่มณีจันทร์ กล่าวทิ้งท้าย

ประชาชนทั่วไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถานธรรมพระบรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดร เลขที่ ๘๒ หมู่ ๙ ต.เก่างิ้ว อ.พล จ.ขอนแก่น ๔๐๑๒๐ (ติดถนนมิตรภาพทางไป อ.บ้านไผ่) หรือโทร.๐-๔๗๘๘-๓๐๗๙, ๐-๕๘๖๑-๕๗๑๙

มองดวงอย่างธรรมะ


พระครูภาวนาวิทยาคม (หลวงพ่อเยื้อน ขันติยโล) เจ้าอาวาสวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องของการ ทำนายถ้ามองตามหลักพระพุทธศาสนา เนื่องจากพระพุทธองค์เองก็เคยได้กล่าวในเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน แต่ความเป็นจริงแล้วการทำนายดวง ทำนายโชคชะตามาจากศาสนาพราหมณ์ ซึ่งจะว่าไปแล้วดวงชะตาของคนเราก็มีอยู่ ๑๒ ราศี ดวงคนเราก็คงไม่หนีไปจากนี้เช่นกัน

การทำนายดวงของคนเราจะมีคนเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็คงอยู่ที่ตัวเรา เพราะทำนายดวงตาม ๑๒ ราศี ก็มีความเป็นไปได้สูง ของแบบนี้ หากคนเราประมาทขึ้นมาเมื่อไรก็สามารถทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปได้ เหมือนมีพระสงฆ์บางรูปทักว่าอย่าประมาท บางคนไม่เชื่อ แต่ก็กลับเกิด ขึ้นจริงๆ เรื่องดวงแบบนี้คงไม่มีใครกล้ารับประกันหรอกว่าจะเกิดหรือไม่เกิด หลายสิ่งหลายอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของคนเราด้วย "บางคนดวงดีกลับไม่ดีก็เพราะการกระทำ บางคนดูดวงแล้วก็เป็นทุกข์ ตรงนี้ก็อยากบอกว่าคนเราจะรู้ดวงตัวเอง หรือไม่รู้ หรือโลก เราจะเปลี่ยนไปอย่างไร อาตมาก็อยากให้พวกเราทำใจเป็นปกติ เพียงแต่ให้เชื่อในสิ่งที่เป็นไปได้ การดูดวงโชคชะตาก็เป็นการเตือนให้เรา ระวังมากกว่า อย่างน้อยให้เราได้รู้ว่าถ้าเราไม่ประมาทจะเป็นสิ่งที่ดี และชะตาชีวิตมันก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ตามกรรมด้วย



คมชัดลึก

 

" ภัยธรรมชาติที่เราเห็นเป็นเพราะเทวดาได้ลงโทษเราแล้ว "
แล้วเทวดาไม่บาปหรอ แล้วพระอินทร์ไม่จัดการเทวดาเลวๆหรอ

 

คนที่ทำให้เกิดก็คือมนุษย์นี่ครับ น้ำท่วมเอยไข้หวัดนกเอย
สุดท้ายจากคำทำนายก็จะเป็นจริงเพราะไม่แก้ที่เหตุเพราะไม่รู้ว่าเหตุเกิดจากอะไร...

 

sa-thu....then there will be nothing to be worry about,right?
lets die together....to die is not to escape from all the problems that occure nowaday but the nature's rule is obviously occured!

 

ผมว่าทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎของมัน เราไม่ควรประมาท ปฏิบัติ สีล สมาธิปัญญา ให้พร้อมครับ

 

อืม!...ครับเข้ามาปฏิบัติทำสมาธิภาวนากันเถอะแล้วจะรู้เอง...

-------------------------------------------------------

วิธีสร้างบุญบารมี...ของสมเด็จพระญาณสังวร...

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=19673

เว็บไซต์ประวัติและธรรมเทศนาหลวงปู่หลวง กตตฺปุญฺโญพระสุปฏิปันโนสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

http://members.thai.net/varanyo/pooluang.asp<O</O<O</O

ลักษณะพุทธศาสนา...สมเด็จพระญาณสังวร<O</O<O</O

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=168173<O</O<O</O

สัพพาสวสังวรสูตร...สมเด็จพระญาณสังวร<O</O<O</O

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=168329

 

คำทำนายดวงโลกของ "หลวงปู่เทพโลกอุดร" เป็นจริงหรือ

ข้อมูลอยู่ 3 เรื่องคือที่น่าเป็นห่วง<O</O
<O</O

1) เรื่องโลกร้อนขึ้นมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้มีผลการบันทึกอุณหภูมิที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ไว้ดังนี้ เมื่อ 5 ปีที่แล้วขั้วโลกเหนือมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ -150 องศาเซลเซียสสูงสุดอยู่ที่ประมาณ -100 องศาเซลเซียส ส่วนขั้วโลกใต้มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ -180 องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ประมาณ -120 องศาเซลเซียสในปัจจุบันพบว่าขั้วโลกเหนือมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ -110 องศาเซลเซียสสูงสุดอยู่ที่ประมาณ -70 องศาเซลเซียส ส่วนขั้วโลกใต้มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ -130 องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ประมาณ -90 องศาเซลเซียสซึ่งดูจากอุณหภูมิของขั้วโลกทั้งเหนือและใต้แล้วจะเห็นว่าโลกเรานี้มีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 40 ถึง 50 องศาเซลเซียส<O</O
<O</O

2) เรื่องการศึกษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิบนโลกโดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้จากผลของ Greenhouse Gas Effect บวกกับ การสลายของชั้นโอโซน<O</O
พบว่าในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมานี้อุณหภูมิของขั้วโลกทั้งสองจะสูงขึ้นไม่เกิน 3 องศาเซลเซียสหมายความว่าที่โลกร้อนขึ้นที่ขั้วโลกมากมายขนาด 40 ถึง 50 องศาเซลเซียสนี้ไม่ได้เกิดจาก Greenhouse Gas Effect กับการสลายของชั้นโอโซนแล้วมันเกิดจากอะไรล่ะ<O</O
<O</O

3) เกิดทฤษฎีโลกบวมมีการพูดถึงทฤษฎีนี้กันมากขึ้นในวงการวิทยาศาสตร์ทางธรณีโดยที่เชื่อกันว่าการเกิดขึ้นของดาวโลกคล้ายกันกับดาวพฤหัสคือที่ใจกลางของดวงดาวเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์แต่มีกำลังไม่มากมายเหมือนดวงอาทิตย์มีแค่พอรักษาสภาพหินหลอมละลาย(Magma)ที่ใต้เปลือกโลกไว้ไม่ให้แข็งตัวเป็นการรักษาสมดุลย์ของโลกไว้แต่ในปัจจุบันไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจกลางโลกทำให้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นเกิดเสียสมดุลย์ขึ้นทำเกิดความร้อนใต้เปลือกโลกเพิ่มขึ้นจนส่งผลให้ขั้วโลกทั้งสองมีอุณหภูมิสูงขึ้นอีกตั้ง 50 องศาเซลเซียสและทฤษฎีนี้กำลังบอกเราว่าเมื่อใจกลางโลกร้อนขึ้นก็จะทำให้หินหลอมละลาย(Magma)ขยายตัวทำให้เกิดแรงดันกระทำต่อเปลือกโลกทำให้โลกเราเกิดอาการบวมขึ้นแล้วถึงจุดหนึ่งเปลือกโลกก็จะเกิดการปริแตกซึ่งน่ากลัวมากการเกิดสึนามิเมื่อปลายปี 2547 นั้นได้สนับสนุนทฤษฎีโลกบวมนี้อย่างชัดเจนเพราะสาเหตุของสึนามินี้เกิดจากแตกของแผ่นเปลือกโลกข้างๆเกาะสุมาตราเป็นแนวยาวประมาณ 200 กิโลเมตรและเปลือกโลกฝั่งหนึ่งของรอยแตกได้ตกลงประมาณ 4 เมตรจึกทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่มีพลังการทำลายล้างสูงมากนอกจากนี้ยังมีข้อมูลของภูเขาไฟที่ดับไปแล้วหลายสิบลูกทั่วโลกที่เกิดการประทุขึ้นมาใหม่ก็สนับสนุนทฤษฎีนี้เช่นกัน<O</O
<O</O
[b-wai] [b-wai] [b-wai]
หวังว่าพวกเราคงจะเห็นความไม่เที่ยงของโลกและคงจะตาสว่างพอที่จะพร้อมเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ทางจิตของพระพุทธองค์ได้แล้วนะครับ<O</O
<O</O

 

ก้อดีนะ
บางทีจะได้เป็นการกวาดล้างคนไม่ดีให้หมด ๆ ไปจากโลกนี้ซะที

 

ผมกราบเรียนถามหลวงปู่ศิษย์พระอาจารย์มั่นว่ามีพระครูเทพฯจริงหรือไม่
ท่านเข้าชาณอยู่2วินาทีแล้วตอบว่าไม่มี

 

ข้อความข้างบนไม่ได้ลบหลู่นะครับ
เพียงเพื่อเสนอแนวคิดที่ได้จากการเรียนถามครูบาอาจารย์มาให้ท่านพิจารณาอย่างใช้ปัญญาพิสูจน์ให้เห็นจริงนะครับ

 

ข้อความข้างบนไม่ได้ลบหลู่นะครับ
เพียงเพื่อเสนอแนวคิดที่ได้จากการเรียนถามครูบาอาจารย์มาให้ท่านพิจารณาอย่างใช้ปัญญาพิสูจน์ให้เห็นจริงนะครับ ถ้าไม่แน่ใจอะไร

 

ที่คาดว่าน่าจะได้อาริยะสงฆ์แล้วก็จะทราบได้

 

กลัวว่ามันจะไม่กวาดแค่คนเลว นะสิ

มันคงกวาดลงทะเลหมดหละ ถ้าอะไรมาขวางมันไว้

ทำให้มองเห็นว่า การเกิดไม่ใช่บุญ ไม่ใช่ที่สุดของจิต มากขึ้น

แต่ก็ยังบวชไม่ได้ เพราะใจไม่บวช คงต้องรอให้บวชใจได้ก่อนถึงจะบวชได้

 

อ่านเรื่องนี้ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ปี2545ดิฉันได้มีโอกาสพบพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านเป็นพระปฏิบัติดีตามแนวทางองค์พระศาสดาโดยแท้หลายท่านคงรู้จักถ้าดิฉันกล่าวถึงตอนนี้ท่านชรามากแล้วท่านเคยพูดไว้ว่าคนเราจะเสียชีวิตกับภัยธรรมชาติมากขึ้นและจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นด้วย ก็น่าคิดนะคะดิฉันว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติมากกว่าเทวดาหรือใครลงโทษนะ (พระท่านคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในวันหน้าเหมือนจะบอกให้เราๆเร่งทำความดีอย่าประมาณเพราะจริงๆแล้วชีวิตคนเราสั้นนัก)

 

ทุกสิ่ง...ดำเนินไปตามกรรม....

 

ความคิดผมนะ
เรามาเดี๋ยวก็ไป ไม่นานเดี๋ยวก็มา
ตราบใดที่ยังไป-มาก็ไม่พ้น เดินตามรอยพุทธะเท่านี้ก็ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น
กัมมัสสโกมหิ เราย่อมมีกรรมเป็นของเราเอง

 

คงต้องมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยซะละมั้ง น่ากลัวขนาดนี้ //หลวงปู่เทพฯ ไม่มีแล้ว คงจะเกิดเป็นมนุษย์(พระ)แล้วกระมังครับ

 

ถ้างั้นผมว่าไม่ดีนะ
เพราะผมเองยังเลวอยู่มาก กลัวจะโดนหางเลขกะเค้าด้วยน่ะซี

 

อนาคตรู้ไว้ก็ดี แต่สิ่งใดไม่ใช่หน้าที่ ก็อย่าเพิ่งไปใส่ใจนักนะครับ

ถ้าอยากให้อะไรๆ ดีขึ้น ขอให้รวมกำลังใจ ปฏิบัติธรรมให้เข้มข้นขึ้น

 

เช้าวันที่ 25 ธันวาคม 2547 ก่อนเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ 1 วันหลวงปู่ที่เรานับถือ สายหลวงปู่มั่น ท่านเล่าว่าเมื่อคืน มี เทวดามาหา 4 องค์ เล่าให้ฟังว่าต่อไปจะเกิดน้ำท่วมทางภาคใต้และภาคเหนือคนจะตายเป็นเบือเลย พอหลวงปู่เล่าจบท่านก็พูดว่าเป็นกรรมของผู้ที่หมกม่นอยู่ในกามราคะ ที่ต้องรับกรรมแล้ว หลังจากพูดจบหลวงปู่ท่านเงียบเฉย ไม่สะทกสะท้าน แต่เราซึ่งเป็นลูกศิษย์พอวันที่ 26 ธ.ค. 47 ตอนก่อนเที่ยงเท่านั้นแหล่ะ รู้สึกสลดหดหู่ในใจได้แต่ปลงธรรมสังเวช