ทำไม เกย์ บวชเป็นพระไม่ได้ครับ

พอดีได้ไปอ่านข่าวๆ หนึ่ง เขาลงเนื้อความไม่ค่อยดี จึงอยากจะใคร่รู่

ถ้าว่าบุคคลนั้นๆ อยากจะศึกษาพระธรรม ทำไมถึงบวชไม่ได้

 

...

​

ในพระอภิธรรมปิฏกจัดเป็นอาภัพบุคคลไม่สามารถทำฌานให้เกิดได้จึงไม่สามารถบันลุมรรคผลได้ แต่ไม่ห้ามสวรรค์-นรก​

บัณเฑาะก์-กะเทย

"บัณเฑาะก์" มาจากคำว่า "ปณฺฑก" หมายถึง ผู้ที่มีเครื่องหมายของบุรุษหรือสตรีเพศขาดตกบกพร่องไป หรือที่เราท่านทั้งหลายเรียกบุคคลประเภทนี้ว่า “กะเทย" แบ่งออกเป็น ๕ จำพวก ได้แก่
๑.นปุงสกบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่ไม่ปรากฏเพศ (คือ มีรูปร่างลักษณะสัณฐานเป็นชาย แต่ไม่มีอวัยวะเพศ) มีเพียงแต่ช่องปัสสาวะเท่านั้น อีกทั้งไม่สามารถประกอบกิจได้ดั่งบุรุษเพศโดยทั่วไป
๒.อาสิตตกะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่เมื่อมีความกระวนกระวายด้วยอำนาจกามราคะขึ้นแล้ว กระทำโอษฐ์กามกับบุรุษอื่น ครั้นดูดกินซึ่งน้ำอสุจินั้นแล้ว จึงระงับความกระวนกระวายลงได้
๓.อุสสูยบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยซึ่งเมื่อได้โอกาสแอบดูบุรุษและสตรีร่วมเสพกามรสกัน
๔.โอปักกะมิกะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่เป็นโดยการถูกตอน เพื่อไม่ให้เกิดความกำหนัดยินดี อาทิ พวกขันทีในสมัยโบราณ (กะเทยจำพวกนี้ มิได้เป็นมาแต่กำเนิด)
และ ๕.ปักขะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยซึ่งเมื่อเวลาข้างแรม (กาฬปักษ์) มาถึง มักเกิดความยินดี และกระวนกระวายในกามด้วยอำนาจอกุศลกรรม
ทั้งนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ และราชบัณฑิต) ได้อธิบายความหมายของคำว่า "บัณเฑาะก์" ไว้ในพจนานุกรรมเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสน์ ชุด "คำวัด" ไว้ว่า
บัณเฑาะว์ (บัน เดาะ) ได้แก่คน ๓ ประเภท คือ ๑.ชายผู้ประพฤตินอกรีตในทางเสพกาม (ผู้มีราคะจัด) ๒.ชายผู้ถูกตอน หรือ ขันที และ ๓.กระเทยโดยกำเนิด (ผู้ไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิง) บัณเฑาะก์ ในทางพุทธศาสนาถือว่า เป็นอภัพบุคคล คือ บุคคลผู้ไม่สมควรอุปสมบทเป็นภิกษุ ถูกห้ามบวช และห้ามพระอุปัชฌาย์บวชให้เด็ดขาด ถ้าพระอุปัชฌาย์ฝ่าฝืน ย่อมมีความผิด ถึงให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์


<TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=644 border=0><TBODY><TR><TD width=644 colSpan=2></TD></TR><TR><TD width=560>

ปาราชิกุทเทสนี้นั่นแล. แต่ประมวลกันเข้าแล้ว พึงทราบปาราชิกทั้งหมด ทีเดียว ว่ามี ๒๔ อย่าง. ๒๔ อย่าง คืออะไรบ้าง ? คือ ที่มาในพระบาลี ๘อย่างก่อน คือของพวกภิกษุ ๔ เฉพาะของพวกนางภิกษุณี ๔. อภัพบุคคล๑๑ จำพวก. บรรดาอภัพบุคคล ๑๑ จำพวกเหล่านั้น บัณเฑาะก์ สัตว์ดิรัจฉาน และอุภโตพยัญชนก ๓ จำพวก เป็นพวกอเหตุกปฏิสนธิ จัดเป็นพวกวัตถุวิบัติ. พวกวัตถุวิบัติเหล่านั้น ไม่ถูกห้ามสวรรค์ แต่ถูกห้ามมรรค.จริงอยู่ บัณเฑาะก์เป็นต้นเหล่านั้น จัดเป็นอภัพบุคคลสำหรับการได้มรรคเพราะเป็นพวกวัตถุวิบัติ ถึงการบรรพชาสำหรับพวกเขา ก็ทรงห้ามไว้.เพราะฉะนั้น บัณเฑาะก์เป็นต้นแม้เหล่านั้น จึงจัดเป็นผู้พ่ายแพ้ (เป็นปาราชิก).บุคคล ๘ จำพวกเหล่านี้ คือ คนลักเพศ ภิกษุเข้ารีตเดียรถีย์ คนฆ่ามารดา คนฆ่าบิดา คนฆ่าพระอรหันต์ สามเณรผู้ประทุษร้ายนางภิกษุณี คนทำโลหิตุปบาทภิกษุผู้ทำสังฆเภท ชื่อว่าถึงฐานะเป็นอภัพบุคคล เพราะเป็นผู้วิบัติ ด้วยการกระทำของคน เพราะฉะนั้น จึงจัดเป็นผู้พ่ายแพ้ด้วย. บรรดาบุคคล ๘ จำพวกนั้นสำหรับบุคคล ๓ จำพวกเหล่านี้ คือ คนลักเพศ ภิกษุเข้ารีตเดียรถีย์ สามเณรผู้ประทุษร้ายนางภิกษุณี ไม่ถูกห้ามสวรรค์ แต่ถูกห้ามมรรคแท้. อีก ๕ จำพวกถูกห้ามแม้ทั้ง ๒ อย่าง. เพราะว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นจำพวกสัตว์ที่จะต้องเกิดในนรก ไม่มีระหว่าง. อภัพบุคคล ๑๑ จำพวกเหล่านี้ และบุคคลผู้เป็นปาราชิก ๘ ข้างต้น จึงรวมเป็น ๑๙ ด้วยประการฉะนี้ แม้บุคคลเหล่านั้นรวมกับนางภิกษุณีผู้ยังความพอใจให้เกิดในเพศคฤหัสถ์ แล้วนุ่งห่มอย่างคฤหัสถ์จึงรวมเป็น ๒๐. จริงอยู่ นางภิกษุณีนั้น ถึงจะไม่ได้กระทำการล่วงละเมิดด้วยอัชฌาจาร ก็จัดว่า ไม่เป็นสมณีได้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ ; เพราะเหตุนั้นปาราชิกเหล่านี้ จึงมี ๒๐ ก่อน. อาจารย์บางพวกกล่าวว่า อนุโลมปาราชิก

http://www.palungjit.org/tripitaka/index.php?page=34&cat=2&u_sort=uptime&u_order=desc


</PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>

 

แปลว่า ถึงจะใฝ่ทางนี้เพียงใด ก็ไม่มีโอกาศใช่ไหมครับ

นี่ผมก็พึ่งสึกจางบวชเณรมา

ทำไมในเมื่อเขาไม่ได้อยากเกิดมาเป็นอย่างนี้ แต่กลับไม่มีโอกาศครับ

 

ห้ามบัณเฑาะ คือ กระเทยบวชพระ ท่านห้ามไว้แต่โบราณกาล
แต่ไม่ได้ห้ามเกย์ครับ มีศีลอยู่ว่า แม้เอาอวัยวะเพศเข้าไปในของ
ฝ่ายหญิงหรือชายก็นับเป็นอาบัติปาราชิก นี่แสดงให้เห็นว่ามีเกย์
ในพุทธศาสนามานานแล้ว และไม่ได้ห้ามเกย์บวช แต่ห้ามทำผิด
เรื่องกาม (เอาอวัยวะไปใส่ในส่วนใดๆ ของร่างกายชาย)


ดังนั้น สรุปตรงนี้ น่าจะห้ามกระเทยบวช แต่ไม่ห้ามเกย์บวชครับ

 

ถ้าผมจะบวชเป็นพระก็ยังมีสิทธิบวชได้ใช่ไหมครับ ??

 

กรรม....ซิโยม เพราะเขาละเมิดศีล...กาเมสุมิฉา ฯ เคยผิดลูกเมียเขา เจ้าชู้มากคู่หลายเมีย มาแล้วในชาติก่อน พอพ้นจากนรกต้องเกิดเป็นกระเทยใช้กรรมเขาเอง.....ไม่มีใครทำหรือกลั่นแกล้งไม่ให้บวชแต่กรรมมันไม่ให้โอกาสถึงมรรคผล จึงต้องใช้กรรมนั้นก่อน อย่างยุติธรรม

 

เท่าที่ ได้ยินมา
ห้าม เฉพาะ กระเทยที่แปลงเพศแล้วครับ
ถ้า ยังไม่แปลงเพศ ไม่ห้ามครับ
ดังนั้น เกย์ ตุ๊ด แต๋ว บวชได้ครับ
แต่ ห้าม ทำผิด พระธรรมวินัย ให้ อาบัติสังฆาทิเสส
เพราะ ถ้า อาบัติ กฏ นี้ ห้าม สวรรค์ ห้ามนิพพาน ครับ

(ลักเพศ ใน สมัยก่อน หมาย ถึง ผู้ มีสองเพศ)

ขออนุโมทนา จขกท ที่ ยัง มิจิตใจ อยากพ้น ทุกข์ เพราะ กรรม ที่ตัวเองทำมา ครับ

 

กรณีผิดสังฆาทิเสสแล้ว พระพุทธเจ้าท่านทรงให้แก้ได้ด้วย "ปริวาสกรรม" ครับ


เป็นอันว่าสามารถแก้ "ห้ามสวรรค์" ห้าม "นิพพาน" ได้อีกทางหนึ่ง

 

มี "ท่าน" หนึ่งบอกมาว่า สำหรับคนที่มีใจไม่ตรงกับกาย
(ใจเป็นชาย กายเป็นหญิง หรือใจเป็นหญิง กายเป็นชาย)
จะเป็นเครื่องกั้นตอนจะบรรลุมรรคผล เช่น จะคิดว่านิพพาน
แล้ว จะได้กายอย่างนี้ อย่างนั้นไหม ทำให้ห้ามมรรคผลครับ


ส่วนกรณีเกย์นั้น ใจเป็นชายอยู่ แต่อาศัยบุรุษเพศเป็นวัตถุบำเรอกาม
จะมีปัญหากรณีกามกิเลสแสดงผล แต่ไม่มีปัญหาเรื่องความกังวลในรูปกายครับ

 

ปกป้องเณรและเด็กวัดนะ

 

เดี๋ยวนี้พระเณรเดินกันจีวรปลิวพลิ้วไสวเยอะแยะ มีทุกวัด แม้จะเป็นแบบนี้แต่หากคิดจะนิพพานก็สามารถจะไปได้ ใช้อาการที่เกิดมาเป็นแบบนี้แหละตัดความรู้สึกอยากเกิดไปเลย

 

ต้องเข้าใจว่า
พระจะต้องยังศรัทธาให้เกิดกับประชาชน
พระที่ทำให้ประชาชนเสียศรัทธา
ก็เท่ากับทำลายพระพุทธศาสนา
พระจึงต้องเป็นบุคคลที่มีความเพรียบพร้อมประพฤติปฏิบัติอย่างละเอียด รอบคอบทุกๆขณะจิต
ถ้านำคนที่มีกริยาไม่เหมาะสม มาบวช ก็เหมือนการทำให้เสียภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนา
แต่คนเหล่านี้ก็สามารถจะปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิได้ตามปกติ
คือศึกษาพระพุทธศาสนาได้ทุกอย่าง แค่บวชไม่ได้ อันนี้ต้องเข้าใจ

 

สรุปบวชได้ไหมครับ งงแล้ว

 

ถึงจิตใจจะเป็นเกย์ แต่จิตใจใฝ่ธรรมมะ

มิได้มุ่งทำลายศาสนา แต่อย่างใด ก็บวชมิได้หรือครับ

แค่อยากสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไป

 

ส้มว่าอยู่ที่ใจค่ะ ถ้าคุณอยากบวชด้วยความเลื่อมใสไม่มีประโยชน์ใดอื่นแฝง เกย์ก็บวชได้ค่ะ แต่อย่าทำผิดศีลค่ะ ทำอะไรอยู่ที่ใจค่ะ ทำดีอย่าลังเล อย่าสนใจคำพูดใคร เพราะเราคิดดีอยู่แล้วค่ะ อย่ากังวลไปค่ะ ถ้าการกระทำของเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จงก้าวเดิน ปฎิบัติธรรมต่อไปค่ะ**--**

 

ถ้าเป็นบางวัดก็บวชได้ แต่เป็นบางวัดท่านต้อง อยู่ปฎิบัติก่อนบวชเป็นเดือน ๆ เลย หากทำตัวไม่ดีก็มีสิทธิ วัดไม่ให้บวชได้ หากเป็นเกย์และไม่ทิ้งนิสัยความชอบเดิม คงถูกจับสึกแน่นอน ถ้าละทิ้งนิสัยแล้วปฎิบัติตนเป็นพระที่ดี ผมก็อนุโมทนาสาธุครับ

 

บวชได้ไม่ผิดธรรมวินัย ห้าม เฉพาะ กระเทยที่แปลงเพศแล้วครับ
ถ้า ยังไม่แปลงเพศ ไม่ห้ามครับ
ดังนั้น เกย์ ตุ๊ด แต๋ว บวชได้ครับ
แต่ ห้าม ทำผิด พระธรรมวินัย ให้ อาบัติสังฆาทิเสส
เพราะ ถ้า อาบัติ กฏ นี้ ห้าม สวรรค์ ห้ามนิพพาน ครับ

(ลักเพศ ใน สมัยก่อน หมาย ถึง ผู้ มีสองเพศ)

 

บวชพระยาก บวชใจเลยดีกว่าโยม เอาศีล 5 ให้ครบพอ ปิดกั้นทางลงนรกแล้ว

เดี๋ยวนี้ผ้าเหลืองลงนรกมากกว่าผ้าขาวอีก

 

ขอบคุณครับ

 

ศึกษาพระธรรมวินัย และพระไตรปิฏก....ก็คงจะกระจ่าง คับ