เป็นคนมีเซ้น มีองค์ มีร่าง หรือคิดไปเองค่ะ รบกวนผู้รู้ตอบให้หน่อยค่ะ

ส้มก็เคยมีค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเรียกว่าเซ้นหรือเปล่า ใครมีประสบการณ์ทางนี้ช่วยบอกด้วยนะคะว่าคิดมากไปเองรึป่าว

คือแต่ก่อนส้มเป็นคนไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้เรยค่ะ

แต่ส้มเพิ่งเคยเห็นตอนช่วงตรุษจีนตอนอายุประมานสัก17ปี

แต่ก่อนหน้าตรุษจีน บ้านส้มเคารพพ่อแก่ค่ะ แต่ส้มไม่เคยเห็น ส้มเรยบอกว่าถ้ามีจริงก็ออกมาให้เห็นหน่อย คือช่วงนั้นเป็นคนอารมร้อนค่ะก็จะพูดอะไรไม่ค่อยคิด

พอถึงช่วงตรุษจีนก็จุดธูปไหว้ค่ะ แร้วส้มก็นั่งเล่นอยู่ข้างๆหิ้งค่ะ แร้วพอหันมาอีกทีส้มก้อเห็นคนแก่ใส่ชุดสีขาวผมขาว กำลังกินของเซ่นไหว้ค่ะ พอสักแปปก็เดินเข้าไปในหิ้งค่ะ ส้มตกใจมากค่ะ แต่ก็นิ่งๆไว้ไม่ได้ทำอะไรต่อ

หลังจากที่ส้มเห็นแร้ว ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกค่ะ คือช่วงเวลากลางคืนดึกๆหน่อย ส้มจะเห็นคนแก่คนเดิมออกมาจากหิ้ง แร้วเหมือนออกมาดูแลบ้านอ่ะค่ะ แล้วก็เดินกลับเข้าหิ้งเหมือนเดิม ภาพที่เห็นค่อนข้างชัดค่ะไม่เลือนรางมาก

หลังจากวันนั้น ส้มก็มีฝันแปลกค่ะ คือฝันว่าพี่สาวของส้ม(ซึ่งช่วงนี้เรียนกันคนละจังหวัด)ส้มฝันว่าพี่สาวกำลังจะตายค่ะ แต่ไม่รู้ว่าตายด้วยวิธีไหน ในฝันส้มพยายามช่วยทุกวิถีทาง แร้วก้อมีผู้หญิงมาพูดกะส้มว่าเค้าจะเอาชีวิตพี่สาวไปยังไงก็ต้องเอาไปถึงเวลาแร้วประมานนี้อ่ะค่ะ ส้มก็เรยพูดไปในฝันว่าให้เอาส้มไปแทน แร้วก้อเหมือนมีเป็นหลอดเลือดอันใหญ่อ่ะค่ะ อันหนึ่งเขียนชื่อพี่สาวส้ม แร้วอันหนึ่งเขียนชื่อส้ม หลอดของส้มเลือดเต็มหลอดค่ะ ส่วนของพี่สาวไม่มีแล้วค่ะ ส้มก็เรยบอกผู้หญิงในฝันว่าให้เอาความดีของส้มไปแทน(ความดีก้อคือเลือดในหลอดอ่ะค่ะเห็นเค้าพูดแบบนี้)เค้าก็เรยบอกว่าถ้าเอาของส้มแทน ส้มก็จะต้องตาย ส้มก้อบอกว่าส้มยอมค่ะ แล้วเค้าก้อบอกว่าแล้วเค้าจะมารับส้มวันที่ 11007หรืออะไรสักอย่างค่ะ จำไม่ได้แล้วนานแล้วเหมือนกัน แล้วก็ฝันต่อไปอีกว่าพอตื่นขึ้นไป วันนั้นจะเกิดเรื่องใหญ่ค่ะ คือแบบเกิดเรื่องเหมือนกับว่าคนจะตายกันวันนั้นเยอะมากค่ะ

พอตอนเช้าส้มก็ตื่นขึ้นมาค่ะ แล้วก็โทรหาพี่สาวเป็นอันดับแรกเลย แล้วก็เล่าให้ฟังพี่สาวก็บอกว่าฟุ้งซ่านประมานนี้อ่ะค่ะ แต่ส้มก็บอกว่าให้ระวังไว้ แต่คิดว่าคงไม่เป็นอะไรเพราะว่าส้มตายแทนในฝันไปแล้ว แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นตอนช่วงบ่ายค่ะ พี่สาวส้มโทรมาหาว่ารถมอไซของพี่สาวยางแบนตรงทางโค้งค่ะ แต่โชคดีไม่มีรถตามมาเรยไม่เกิดอะไรขึ้นค่ะ ทำส้มนิ่งไปพักนึงเรยไม่คิดว่ามานจะเกิดขึ้นจริง แล้วพอวางจากพี่สาวสักพัก แถวๆข้างบ้านส้มก้อมีรถคว่ำขึ้นไปตรงเกาะกลางถนนเรยคร่า รู้สึกว่าจะเจ็บหลายคนอยู่เหมือนกัน แล้วอีกสักพักก็มีข่าวว่ามีรถตกเหว วันนั้นรู้สึกจะมีเรื่องเยอะค่ะ ส้มก็เรยเชื่อฝันตอนกลางคืนไปเลยค่ะ แต่ส้มแค่ไม่เข้าใจวันที่เค้าจะมารับส้มก้อเท่านั้นเอง ส้มไม่รู้ว่าหมายถึงวันที่เท่าไรเดือนอะไรอ่ะค่ะ

หลังจากนั้นส้มก้อได้เห็นประมานนี้อีกสักพักค่ะ

พอหลังจากได้เห็นสิ่งแปลกๆสักพัก ส้มก็เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมา คือถ้าส้มเข้าไปในห้อง ICU ส้มสามารถบอกได้ค่ะว่าคนนั้นเค้าจะรอดหรือตาย ซึ่งตอนแรกส้มคิดว่าส้มคิดไปเองค่ะ แต่หรืออาจจะคิดไปเองจริงๆ คือว่าถ้าส้มเข้าไปใกล้ๆผู้ป่วยคนไหน แล้วบางทีส้มจะปวดหัวแบบปวดหัวแรงมากแบบไม่เคยเป็นมาก่อนค่ะ แล้วส้มก็เรยพูดกับแม่ว่า คนนี้ไม่รอดแน่นอน ซึ่งไม่รู้ทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้นเหมือนกันค่ะ พอ2-3วันต่อมา คนนั้นก็เสียไปจิงๆค่ะ
ส้มก็ไม่รู้ว่าส้มคิดไปเองหรือสามารถดูได้จริงๆเหมือนกันค่ะ

แล้วต่อมาส้มก็รู้จักพี่คนนึงเค้าเพิ่งรับร่างทรงค่ะ เค้าก้อบอกว่าส้มมีร่างเหมือนกัน แต่ยังไม่ถึงเวลารับ จะถึงเวลาตอนอายุประมาน25ปี ค่ะ ตอนนี้ส้มอายุ20คร่า ถ้ามีจริงคงอีกนาน

แต่มีเรื่องน่าแปลกอีกอย่างนึงค่ะ เค้าว่ากันว่าคนมีร่างส่วนใหญ่จะเป็นคนดี แต่ทำไมส้มถึงฟังพระสวดไม่ได้คะ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามที่มีพระสวดส้มไม่สามารถอยู่ตรงนั้นได้ค่ะ จะรู้สึกปวดหัวมากๆเรย แต่ว่าส้มชอบอ่านหนังสือธรรมะนะคะ ส้มคิดว่าฟังไม่ได้อ่านได้ก็น่าจะแทนกันได้ค่ะ

อีกอย่างนึงความรู้สึกที่ส้มเกิดขึ้นบ่อยๆก็คือ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ชายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการพูดหรือการกระทำต่างๆเพื่อนส้มทักหลายคนเรยค่ะว่าเป็นผู้ชายปลอมตัวมาหรือเปล่า อันนี้ส้มก็ไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงค่ะ

บางคนเค้าเล่ากันมาว่าถ้านั่งสมาธิส้มจะได้เห็นอะไรมากกว่านี้ แต่ส้มบอกตามตรงค่ะส้มไม่กล้านั่งค่ะ เพราะเคยทำมาแล้วครั้งนึง แล้วแม่มาเรียกแต่ส้มเหมือนไม่สามารถขยับตัวได้อ่ะค่ะ มานหนัก แล้วก็เหมือนตัวเองตกจากที่สูง มานทรมานมากเรย ลืมตาก็ไม่ได้ประมานนี้อ่ะค่ะ ตอนนี้ส้มก็เรยกลัวไม่นั่งสมาธิอีกเลยค่ะ มีวิธีแก้มั้ยคะ

สรุปแล้วส้มเป็นคนมีเซ้น มีร่าง มีองค์มั้ยคะ หรือว่าส้มคิดมากไปเองคะ รบกวนผู้รู้ตอบด้วยนะคะ ส้มข้องใจมานานแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

;aa12

 

ขอถาม คุณส้ม อยากจะมีสัมผัสพิเศษ หรือค่ะ
ขอถาม คุณส้ม อยากจะมีองค์ หรือค่ะ

ถ้าคำตอบ คือ ไม่ นั่นหมายถึง คุณส้มไม่มีค่ะ
ถ้าคำตอบ คือ อยากจะมี อยากจะเป็น นั่นหมายถึง คุณส้มมีค่ะ

ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจ วางได้ก็วาง เพราะอย่างไร สุดท้าย มันก็ว่างเปล่า

 

ไม่จัดว่าคุณส้มมีสัมผัสพิเศษนะคับ
ท่านกำลังทำให้คุณส้มเชื่อว่ามีจริงอยู่คับ
ทีนี้ก็แล้วแต่คุณส้มเถิด ว่าอยากจะรับหรือไม่

 

คนที่ไม่เคยสัมผัสกับสิ่งนี้ ก็มักจะกล่าวว่าอยู่ที่ใจตน แต่ในสภาวะความเป็นจริง กลับกลายเป็นบททดสอบอย่างหนึ่งที่เหนือสามัญวิสัย

หลายคนที่มีอาการอย่างนี้ เมื่อนั่งพระกรรมฐานวิปัสสนา จะมีอาการคล้ายคลึงกันหมด นั่งแล้วกระสับกระส่าย จิตรัญจวนสะท้านไปหมด ที่สำคัญลมหายใจแรงและถี่ เพราะมีพลังแฝงบางอย่างที่ส่งออกมา หากผู้ปฏิบัติไม่มีจิตที่เข็มแข็งพอ หรือไม่มีวิธีการที่กำหนดจิตที่ถูกต้องและเหมาะสม อาการเหล่านี้ ก็จะปรากฎขึ้น จนไม่กล้านั่ง และกลัวไปในที่สุด

สิ่งที่เล่าความมา มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในแง่ของการมีจิตสัมผัสสที่แม่นยำโดยอาศัยบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากพลังจิตของเรายังไม่อยู่ในสภาวที่เป็นทิพย์ ความถี่ของพลังแห่งการสัมผัสจะต้องมีการปรับเปลี่ยนวิถีให้ตรงกันก่อน โดยขอให้เจ้าตัวมั่นสวดมนต์ภาวนา และปฏิบัติธรรมด้วยการเจริญ ศีล สมาธิ ภาวนา

สำหรับกรณีนี้ ให้ จขกท. ไปกราบไหว้ท่านท้าวมหาพรหมธาดา หรือพระพรหมเอราวัณที่ประดิษฐานที่สี่แยกราชประสงค์ ขอนำความแจ้งพระองค์ได้รับทราบถึงเรื่องราว และขอให้พระองค์จงปกปักรักษา ตลอดจนจะมุ่งมั่นเจริญตามรอยแห่งพรหมวิหารสี่ ทุกอย่างจะดีขึ้นทันตาเห็น

ขอให้โชคดี

 

ทั้งหมด ล้วนมีราก จากกิเลส
วางได้ ก็วาง
วางไม่ได้ ก็ดิ้นรนกันต่อไป สิ้นสุดได้ เมื่อ ละวาง

 

เคยได้ยินมาว่า อาการเหมือนตกจากที่สูง ขณะที่นั่งสมาธิ หรือนอนหลับแล้วรู้สึก
มาจาก จิตรวมตัว แล้วยังไม่ชำนาญ ก็จะดิ่งเร็ว ถ้าจิตตกใจกลัวก็จะหลุดจากอาการนั้น
ถ้าเกิดขึ้น ก็ให้รู้สึกตัว ดูไปเฉยๆ เมื่อรู้สึกบ่อยๆ ก็จะชำนาญ เลิกกลัว แล้ว ก็จะรู้สึก
ดิ่ง นิ่มๆ ได้เอง

สุดท้าย สิ่งต่างๆที่ไม่ใช่เรา แต่จะมาเกี่ยวเราเข้าไป มายึดเราไว้ ล้วนแต่เป็น บ่วง
จะเต็มใจ ติดบ่วง หรือจะตัดใจ ออกจากบ่วง ก็แล้วแต่จะตัดสินใจ
ได้เกิดมาในดินแดน แห่งพระพุทธศาสนา มีโอกาสเลือก กัลยาณมิตร
มีโอกาสได้ยินได้ฟัง ธรรมะ ก็เลือกเอาตามสติปัญญา ว่าเดินทางไหน

 

ผู้ที่ไม่มีกิเลส คือผู้ที่ไม่เกิด
ในเมื่อเกิดมาแล้ว ก็ต้องยอมรับสภาวะในสิ่งที่เป็น
เพียงแต่ให้รู้ว่า ทุกข์-สุขเวทนาก็ดี ล้วนเป็นสิ่งปรุงแต่ง พิจารณาว่าไม่แก่นสาร
ทุกอย่างเกิดขึ้น คงอยู่ และก็ดับไป ตามกฏไตรลักษณ์

ฉันใดก็ฉันนั้น สุขวิปัสโก ย่อมไม่แยแสและใยดีโลกียะ
โลกุตระจึงเหมาะสมกับบางคนเข้าถึงแก่นโดยตรงที่ไม่ต้องการลดเลี้ยว
ปล่อยว่างด้วยการลด ละ เลิก ฟังดูเหมือนง่าย แต่ทำดูเหมือนยาก
ทุกอย่างอยู่ที่จิตเรา วาระมาถึงก็ปฏิบัติกันไป

ขอเจริญในธรรม

 

การนั่งสมาธิ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยครับ
แต่ถ้ายังกลัวอยู่ ผมแนะนำให้ไปพบ
พระวิปัสสนาให้ท่านแนะนำวิธีให้
ไม่ต้องกลัวครับไม่มีอันตราย
และการฟังพระสวดก็เช่นเดียวกัน
มีแต่สิ่งดีๆ ลองพยายามดูใหม่นะครับ

 

ชีวิตของเราเกิดมาเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากเป็นตัวของตัวเอง ทุกอย่างในโลกที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นก็คือการเรียนรู้ ชีวิตต้องรู้จักเรียนรู้ เลิก ละ และปล่อยวาง คือวางเปล่าค่ะ

 

ก่อนอื่น ส้มต้องเข้าใจว่า สัมผัสที่พิเศษออกไป นี้เป็นเรื่องปกติ คนเราฝันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะว่า จิตออกไปรับรู้สิ่งภายนอก อันไม่ใช่สัมผัสด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่ออกไปรู้ด้วยใจ เมื่อใจออกไปรู้เรื่องภายนอก ก็เกิดกระบวนการที่จะต้องใช้ ข้อมูลที่เรามีอยู่เพื่อมาบอกว่า สิ่งที่เรารู้เราเห็นนั้นเทียบได้อย่างไร กับ อายตนะหู จมูก ลิ้น กาย เมื่อเอามาเทียบกัน
ก็อาจจะเห็นเป็นเรื่องเป็นราวไป เช่นคนฝันก็เห็น เป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ไป ก็ลืมเรื่องมีองค์ไปได้เลย เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ที่อาจจะมีติดมาแต่ปางก่อน ยกตัวอย่างเช่น นักเทนนิสที่เป็นแชมป์โลก เกิดวันหนึ่งเขาสมองเสื่อมจำอะไรไม่ได้ แล้วเกิดไปถือไม้เทนนิสเข้า เขาก็อาจจะตีได้ทันที เพราะความสามารถนั้นมีอยู่ติดกับจิต
เนื่องจากว่า ความคิดหรือ จิตที่แล่นออกไปนี้ เราไม่เห็นของจริง ก็ต้องระวังว่ามันจะไปปนเปกับความคิด ปนเปกับ การปรุงแต่งของจิต แล้วเมื่อมีกิเลสเข้ามา คือ กลัวว่ามันจะเป็นไปตามที่เราเห็น กลัวว่ามันจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ แบบนี้ก็จะทำให้เราต้านทานต่ออำนาจกิเลสไม่ได้ และนำไปสู่ ความเห็นผิดทั้งปวงอย่างแน่นอน

หนทางที่จะต้องปฏิบัติต่อไปคือ พยายามหยุดความคิดให้เป็น เมื่อเห็นอะไรก็ให้รีบละ เพราะตามธรรมดา เราทำอะไรอยู่ เช่น ยิ้ม ดูหนัง เมื่อเราเลิกสนใจในสิ่งนั้น สิ่งนั้นมันก็ดับไป เพราะฉะนั้น เมื่อเราเห็นอะไรประหลาด เราก็เลิกดูมัน เห็นคนป่วยในห้อง ไอซียู เราก็เลิกดู ใครจะเป็นจะตายไม่เอามาตัดสิน ก็หันไปทำเรื่องอื่น จะฝันอย่างไรตืนขึ้นมาก็เลิกคิดเลิกนึก แล้วหันเอาความสนใจมาอยู่ที่ชีวิตแบบเรียบง่าย สวดมนต์ก่อนนอนเบาๆ
เที่ยว และ มีชีวิตร่าเริงอย่่างปกติทั่วไป เท่านั้นพอนะ แล้วอาการเหล่านี้จะหายไป ดังเช่น นักเทนนิส เมื่อไม่ถือไม้เทนนิส ก็ไม่มีอะไรจะต้องตี

 

ขอบคุณครับที่นำมาเล่าให้ฟังส่วนตัวยังไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้

 

<TABLE style="WIDTH: 505pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=674 border=0 x:str><COLGROUP><COL style="WIDTH: 48pt" span=6 width=64><COL style="WIDTH: 113pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 5522" width=151><COL style="WIDTH: 104pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 5083" width=139><TBODY><TR style="HEIGHT: 23.25pt" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 505pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" width=674 colSpan=8 height=31>ในการปฏิบัติทุกอย่างเป็น ปัจจัตตัง คือการรู้เฉพาะตนผู้ปฏิบัติ เราปฏิบัติเองเรารู้เอง</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>อย่าให้มารคือความคิดว่าไม่ใช่ ไม่จริง ทำไม่ได้หรอก มาขัดขวางบารมีหรือหนทางหลุดพ้น</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ของตัวเราเองจนกว่าเราจะได้ปฏิบัติด้วยตัวเองจริงๆ อย่าให้ใครมาหลอกเราแม้แต่ตัวเราเอง</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ทุกวันนี้มารมันเยอะขึ้น ทั้งอุบายของความเสื่อมและความเจริญเพิ่มขึ้น ทำให้แยกแยะได้ยาก</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>การปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นก็ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติในยุคนี้สามารถทำได้ง่ายขึ้น

นี้เป็นคำสอนของพระโพธิสัตว์ที่จะลงมาจุติเป็นพระพุทธเจ้า


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณทุกคนนะคะ ส้มก็อยากปล่อยวางค่ะ แต่มันจะแบบอึดอัดค่ะ เหมือนกับว่าเรากำลังจะเห็นอะไร แล้วเราทำไม่สนใจ มันจะอึดอัดๆอ่ะค่ะ แหะๆๆ

เดี๋ยวนี้ส้มย้ายมาอยู่บ้านในสวนแล้ว ก็เรยไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไรค่ะต่างจากตอนอยู่ในเมือง แต่บ้านสวนส้มครั้งแรกที่ส้มมากับแม่ พอนอนคืนแรก ตื่นเช้า ส้มก็บอกกับแม่ว่า ที่ดินตรงนี้ในสมัยก่อนเป็นที่ของคนมีฐานะ บ้านเป็นบ้านไม้หลังใหญ่2ชั้น มีตากับยายและลูกหลาน บริวารมากมายและพื้นที่สวนกว้างขวางไม่ได้มีแค่นี้(ซึ่งส้มมีแค่ประมาน5ไร่อ่ะค่ะ)แต่ในฝันส้มมันรวมหลายสวนเป็นสวนเดียวค่ะ แล้วส้มก็ได้คุยกะคุณตาคนนั้นเค้าก็บอกว่าจริงๆที่ดินเค้ามีเยอะกว่านี้ แต่ลูกหลานได้แย่งกันไปหมด นี่เหลือน้อยลงแล้ว เหลือแค่นี้ โดยคุณตาพาไปดูรอบๆสวนค่ะ แต่ในฝันมันมากกว่าที่ของส้ม แล้วส้มก็เรยบอกคุณตาว่า งั้นส้มขอฝากเป็นลูกเป็นหลานด้วยคนแล้วกันค่ะ ก็ตื่น

แล้วก็แต่ก่อนที่ดินผืนที่ส้มอยู่ เคยมีศาลพระภูมิค่ะ แต่ว่าเจ้าของคนเก่าเค้ารื้อทิ้งไป โดยไม่ได้ทำพิธีอะไร พอส้มมาที่ครั้งแรก ส้มก็บอกแม่ว่า ส้มเห็นชายไม่ใส่เสื้อ ใส่อะไรบนหัว แล้วก็นุ่งคล้ายๆโจงกระเบน ที่ส้มเห็นมันจะสะท้อนแสงหน่อยอ่ะค่ะ ดูตัวทองๆ แล้วก็ตอนที่แม่ส้มยังไม่ตั้งศาลพระภูมิ ไม่ว่าแม่ส้มจะเดินไปตรงไหนของสวน ส้มก็เห็นผู้ชายคนนี้คอยเดินไปดู ตามไปตลอด ส้มเห็นชัดทุกครั้งเลยค่ะ แต่ตอนนี้ตั้งศาลพระภูมิแล้วส้มก็ไม่เคยเห็นค่ะ

แล้วก็หลังที่สวนของส้มจะมีคลองเล็กๆค่ะ แล้วก็มีต้นไผ่เป็นกอใหญ่ค่ะ มันเป็นบรรยากาศน่ากลัวค่ะ(คนอื่นเค้าพูดกันแบบนี้นะคะ)แต่ว่าสำหรับส้มกับคิดว่าเป็นคลองที่น่าอยู่ ส้มยังบอกแม่เลยว่าส้มอยากสร้างห้องพระไว้ตรงคลอง มันรู้สึกว่ามันเหมาะบอกไม่ถูกค่ะ พอส้มลงไปถึงคลอง แล้วมองย้อนกลับขึ้นมา มันเหมือนกับว่าที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ของส้มอ่ะค่ะ เหมือนกับว่าถ้าเราขึ้นไปแล้ว เราจะเจอบ้านหลังหนึ่งที่ไม่ใช่ของเรา อันนี้ส้มอาจคิดไปเองแต่ความรู้สึกเป็นทุกครั้งค่ะ แม่ส้มก็เลยไม่ค่อยอยากให้ส้มเดินไปที่คลองอีก

แล้วก็เรื่องล่าสุดที่ส้มเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ คือเวลาส้มได้คุยกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเวลาแปปเดียวหรือว่านาน ส้มสามารถคล้ายๆดูดวงให้เค้าได้ค่ะ ว่าต่อไปจะเป็นยังไง แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรแบบแน่ชัด แต่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรประมานนี้อ่ะค่ะ แล้วก็แม่นค่ะมีคนบอกมาหลายคนแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าส้มมั่วถูกรึป่าวเหมือนกันนะคะ แหะๆ

ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ บางครั้งส้มก็อยากปล่อยวางตามที่บอกค่ะ แต่เวลาส้มไหว้บอกว่าส้มไม่อยากเห็นเรื่องพวกนี้แล้ว จุดธูปไหว้พ่อแก่ที่ส้มบูชาอ่ะค่ะ คืนนั้นส้มก็ชอบฝันว่าคนที่ส้มรู้จักกำลังเหมือนเดือดร้อนอะไรสักอย่าง ส้มก็จะเถีงเค้าว่าคนนั้นส้มรู้จักเค้าสบายดีอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ เค้าจะบอกส้มว่าให้ตื่นไปดู แล้วให้บอกตามที่เค้าบอก แล้วคนๆนั้นจะปลอดภัย พอส้มตื่นขึ้นมาแล้วโทรหาคนนั้นก็คือเค้าเกิดเรื่องจริง ส้มก็เรยไม่รู้จะทำยังไงค่ะ เลยปล่อยให้เป็นไปธรรมชาติดีกว่า

ยังไงส้มขอรบกวนถามอีกนิดนะคะ ว่าถ้าเราอยากจะศึกษาทางนี้อย่างจริงจัง ต้องทำอย่างไรคะ การรับขันธ์หรือรับร่างอันนี้ส้มก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรหรอกนะคะ แต่ส้มคิดว่าถ้าเบื้องบนเค้าเลือกเราแล้ว เราก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากฝึกสมาธิเพิ่มเติม แต่ส้มก็อยากฝึกทางนี้อย่างจริงจังค่ะ เพราะมีเรื่องอะไรแปลกๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน จนส้มอยากรู้ว่าส้มเป็นอะไรกันแน่ค่ะ ขอบคุณนะคะ

;aa14

 

ผมว่าคุณรู้ตัวเองดี เพียงแต่ต้องการความแน่ใจ หรือคำชี้แนะนั้นว่าตรงใจตนเองหรือไม่มากกว่า
ดังนั้น จะสะกิดใจหรือให้คำชี้แจงใดๆ ก็คงเปล่าประโยชน์ คิดอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น
เพียงแต่ให้คำนึงถึง ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

น่าจะเป็นนักเขียนได้ดี เห็นสาธารยายออกมาในรูปแบบที่อ่านง่านย แม้จะวกวนบ้างก็ตาม ควรเขียนกลั่นกรองจากประสบการณ์จริง เขียนลงนิตยสารหรือหนังสือได้ก็จะดี

แต่หากจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องประมาณนี้ ส่งอีเมล์หรือเบอร์โทรผ่านทาง pm มาได้นะครับ

 

ประการแรก คือ คงต้องฝึกสมาธิกรรมฐานก่อนเป็นลำดับแรก เพราะเป็นพื้นฐานของจิตใจและทั้งหมด
เป็นการก้าวเดินที่จะเริ่มต้น ในการฝึกจิต.... แล้วต่อไป ส้มก็จะรู้และเข้าใจเอง ..เพราะอย่างน้อยก็
มีของเก่าติดตัวมาแล้ว คงไม่ยาก ที่จะค้นหาครับ

 

จิตภานา ไม่ว่าจะเป็นสติภาวนา สมถะภาวนา หรือวิปัสสนาภาวนา ก็ล้วนแล้วแต่มุ่งหวังให้จิตใจสงบและเยือกเย็น รวมถึงมีปัญญาญาณที่สามารถมองทะลุแจ้งแทงตลอด สิ่งที่ได้รู้ได้เห็นไม่ใช่สลักสำคัญแต่อย่างไร

สำหรับ จขกท. เป็นผู้มีปัญญาอยู่แล้ว เรื่องอย่างนี้จะลองตั้งคำถามไปเพื่ออะไร หรือว่าจะทำเร็ทติ้ง

 

เรียกว่ามี เดจาวู ครับ

 

ก็แล้วแต่คุณนะครับ


ถ้าปรารถนาเป็น พระอรหันตสาวกของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ก็ละขันธ์
ขันธ์เป็นของหนักของผู้ปรารถนานิพพานในชาตินี้ (ก็ควรบวชพระได้ด้วยนะ)


แต่ถ้าปรารถนายุคพระศรีอาร์ฯ หรือ ปรารถนาพุทธภูมิ ขันธ์นั้นรับได้ หากรู้วิธี
บำเพ็ญ หากไม่รู้วิธีบำเพ็ญ เทพมักบอกให้รับไว้ก่อน รับรองเราว่าดูแลเราได้
แต่บางที เทพทำพลาดแล้วชิ่งหนีไปก็มี อันนี้ควรหาครูที่เป็นมนุษย์ที่แนะนำการบำเพ็ญ
ด้วยวิธีรับขันธ์ได้แก่เราได้ ก็จะลดความเสี่ยง แล้วความก้าวหน้าในธรรมจะเร็วอย่างยิ่งครับ


พิจารณาเองนะครับ

 

องค์นี้จะดูแลเทพเทวดาข้างบน
ซึ่งจะทำงานคานสมดุลกับพระมหาโพธิสัตว์คู่บารมี กล่าวคือ ขณะที่พระกษิติครรภ์โปรดสัตว์นรกอยู่ องค์นี้ก็จะติดต่อกับเบื้องบน โปรดเทพเทวดา ให้ร่วมบำเพ็ญบุญบารมีด้วย การเข้าทรง ศาลเจ้า โรงเจ ฯลฯ ล้วนอยู่ในการดูแลขององค์นี้อยู่


หากกลัวหลงทางเพราะการรับขันธ์หรือทรงเทพ ก็อาศัยองค์นี้ เป็นครูด้วยอีกองค์ก็ได้ครับ