ตามรอยพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 11 ธันวาคม 2005.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,015








    ตามรอยพุทธภูมิ

    [​IMG]







    ตอน อิสิปตนมฤคทายวัน (สารนาถ) ที่แสดงปฐมเทศนา (Isipatanamigadayavan : The First Sermon Place)
    โดย ดร.พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์


    ครั้นพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา 7 สัปดาห์
    ในสัปดาห์ที่ 7 เสด็จกลับไปประทับที่ต้นอชปาลนิโครธอีกครั้ง ณ ที่นั้น พระองค์ทรงดำริว่า พระธรรมที่ได้ตรัสรู้นั้นลึกซึ้ง ยากที่ผู้มีธุลีในดวงตาจะเข้าใจตามได้ ขั้นแรกทรงน้อมพระทัยไปในทางที่จะไม่แสดงธรรม ครั้งนั้น ท้าวสหัมบดีพรหมทราบพระปริวิตกของพระพุทธเจ้า จึงได้ลงมาทูลอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม และอาศัยพระมหากรุณาของพระองค์เองด้วย

    ที่ทรงตระหนักถึงการบำเพ็ญบารมีมาในอดีตชาติ โดยจุดมุ่งหมายเพื่อจะพาหมู่สัตว์ข้ามห้วงโอฆะกันดารจากทุกข์ในสังสารวัฏเป็นหลัก พระองค์ทรงพิจารณาเห็นความต่างแห่งอัธยาศัยของสรรพสัตว์ทั้งหลายว่า เป็นดุจดอกบัว 3 เหล่า 1 คือ บัวพ้นน้ำเป็นพวกอุคฆติตัญญูบุคคล บัวปริ่มน้ำเป็นพวกวิปปจิตัญญูบุคคล บัวกลางน้ำเป็นพวกนัยบุคคล ทั้ง 3 กลุ่มพอจะแนะนำสั่งสอนได้ จึงตกลงพระทัยที่จะแสดงธรรม ในขั้นแรกทรงพิจารณาว่า ควรจะเสด็จไปโปรดใครก่อน

    ก็ทรงระลึกถึงอาฬารดาบส และอุทกดาบส ผู้ทรงเคยเป็นอาจารย์สมัยที่แสวงหาโมกษธรรมอยู่ แต่ทรงทราบด้วยพระญาณว่า อาจารย์ทั้งสองได้เสียชีวิตแล้ว จึงระลึกถึงนักบวชเบญจวัคคีย์ผู้ที่เคยมาอุปัฏฐากพระองค์ในครั้งบำเพ็ญทุกรกิริยา นักบวชเบญจวัคคีย์เป็นผู้ที่มีกิเลสในดวงตาเบาบาง ซึ่งละพระองค์เมื่อครั้งเลิกทำทุกรกิริยา หนีไปพำนักอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี

    พระองค์จึงตัดสินพระทัยเสด็จไปแสดงธรรมโปรด โดยดำเนินจากพุทธคยามุ่งสู่พาราณสี ในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 8 การพบเบญจวัคคีย์ พระพุทธเจ้าเดินทางจากพุทธคยาโดยไม่เร่งรีบ เสด็จตามสบาย เป็นเวลาทั้งสิ้น 11 วัน ได้ระยะทางประมาณ 240 กิโลเมตรตามทางรถยนต์ปัจจุบัน ในเวลาบ่ายคล้อยของวันเพ็ญเดือน 8 ก็เสด็จถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พบกับเบญจวัคคีย์ 5 ท่าน คือ โกณทัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ จุดที่ทรงพบกันนั้น

    ปัจจุบันสร้างสถูปเอาไว้เรียกว่า เจาคันฐีี อยู่ทางตอนใต้ของสารนาถประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ เมื่อพบกันในขั้นแรก เบญจวัคคีย์ไม่เชื่อว่าพระองค์จะตรัสรู้ แถมเรียกพระองค์ด้วยคำที่ไม่แสดงการเคารพ ด้วยทักออกชื่อและใช้โวหารเรียกว่า อาวุโส (แปลว่า เธอ เป็นถ้อยคำที่ผู้สูงอายุเรียกผู้ด้อยพรรษากว่า) พระองค์เตือนว่า อย่าทักพระองค์ด้วยคำว่า อาวุโส และบอกว่า พระองค์ตรัสรู้แล้ว เบญจวัคคีย์ปฏิเสธถึง 3 หน แต่พระองค์ทรงย้ำและขอให้เบญจวัคคีย์ระลึกดูว่า เรื่องนี้ตลอดเวลาที่เบญจวัคคีย์ยังอยู่รับใช้พระองค์ที่พุทธคยาเคยตรัสมาก่อนหรือไม่ เบญจวัคคีย์ทบทวนระลึกดูแล้วเห็นจริงว่า พวกเขาไม่เคยได้ยินพระองค์ตรัสเรื่องการตรัสรู้เลย

    อนึ่ง เพราะความที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระวาจาจริง ไม่เคยตรัสเหลาะแหละ มีพระวาจาที่น่าเชื่อถือได้ เบญจวัคคีย์จึงตระหนักว่า น่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้แล้วเป็นแน่ จึงได้น้อมใจยอมรับฟังพระธรรมเทศนาจากพระองค์ ในเย็นวันเพ็ญ เดือน 8 ก่อนพุทธศักราช 45 ปีนั้นเอง

    ปฐมเทศนา พระธรรมเทศนากัณฑ์แรก คือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร2
    ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้ผ่านเนื้อความเต็มสูตร มีดังนี้ สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่อิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกับเบญจวัคคีย์ว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ที่สุด 2 อย่างนี้อันบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุขในกามทั้งหลาย เป็นธรรมอันเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ การประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตนเป็นความลำบาก ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทาสายกลางไม่เข้าไปใกล้ที่สุด 2 อย่างนั้น นั่นตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่งทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาสายกลางที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพานนั้น เป็นไฉน ? ปฏิปทาสายกลางนั้น ได้แก่
    อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แหละคือ ปัญญาอันเห็นชอบ ความดำริชอบ เจรจาชอบ
    การงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ พยายามชอบ ระลึกชอบ ตั้งจิตชอบ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือปฏิปทาสายกลางนั้น ที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่งทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขอริยสัจ คือ ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความประจวบด้วยสิ่งที่ไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์
    ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ โดยย่นย่ออุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขสมุทัยอริยสัจ คือ ตัณหาอันทำให้เกิดอีก ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน มีปกติเพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขนิโรธอริยสัจ
    คือ ตัณหานั่นแลดับโดยไม่เหลือด้วยมรรคคือ วิราคะ สละ สละคืน ปล่อยไป ไม่พัวพัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แหละคือ ปัญญาเห็นชอบ... ตั้งจิตชอบ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ญาณ ปัญญา วิทยา แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้ (คือ) ทุกขอริยสัจ (ญาณทัสสนะอาการที่ 1) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขอริยสัจนี้นั้นแล ควรกำหนดรู้ (ญาณทัสสนะอาการที่ 2) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขอริยสัจนี้นั้นแล เราก็ได้กำหนดรู้แล้ว (ญาณทัสสนะอาการที่ 3) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้ (คือ) ทุกขสมุทัยอริยสัจ (ญาณทัสสนะอาการที่ 4) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขสมุทัยอริยสัจนี้นั้นแล ควรละเสีย (ญาณทัสสนะอาการที่ 5)
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขสมุทัยอริยสัจนี้นั้นแล เราได้ละแล้ว (ญาณทัสสนะอาการที่ 6) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้ (คือ) ทุกขนิโรธอริยสัจ (ญาณทัสสนะอาการที่ 7) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขนิโรธอริยสัจนี้นั้นแล ควรทำให้แจ้ง (ญาณทัสสนะอาการที่ 8)
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขนิโรธอริยสัจนี้นั้นแล เราทำให้แจ้งแล้ว (ญาณทัสสนะอาการที่ 9) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า นี้ (คือ) ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ (มรรค) (ญาณทัสสนะอาการที่ 10) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจนี้นั้นแล ควรให้เจริญ (ญาณทัสสนะอาการที่ 11) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดวงตา ... แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยฟังมาก่อนว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจนี้นั้นแล เราให้เจริญแล้ว (ญาณทัสสนะอาการที่ 12) ญาณทัสสนะมีรอบ 3 (รอบ) มีอาการ 12 ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปัญญาอันรู้เห็นตามเป็นจริงของเราในอริยสัจ 4 นี้มีรอบ 3 มีอาการ 12 อย่างนี้ ยังไม่หมดจดดีแล้วเพียงใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรายังยืนยันไม่ได้ว่า เป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลกในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณะ พราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เพียงนั้น.

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อใดแล ปัญญาอันรู้เห็นตามเป็นจริงของเราในอริยสัจ 4 นี้มีรอบ 3 มี อาการ 12 อย่างนี้หมดจดดีแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้นเราจึงยืนยันได้ว่า เป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลกในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณะ พราหมณ์ เทวดาและมนุษย์. อนึ่ง ปัญญาอันรู้เห็นได้เกิดขึ้นแล้วแก่เราว่า ความพ้นวิเศษของเราไม่กลับกำเริบชาตินี้เป็นที่สุด ภพใหม่ไม่มีต่อไป. ก็แลเมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้อยู่ ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ได้เกิดขึ้นแก่ท่านพระโกณฑัญญะว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับ เป็นธรรมดา. ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงประกาศธรรมจักรให้เป็นไปแล้ว เหล่าภุมมเทวดาได้บันลือเสียงว่า นั่นพระธรรมจักรอันยอดเยี่ยม พระผู้มีพระภาคทรงประกาศให้เป็นไปแล้ว ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลกจะปฏิวัติไม่ได้ เทวดาชั้นจาตุมหาราช ได้ยินเสียงของพวกภุมมเทวดาแล้วก็บันลือเสียงต่อไป

    เทวดาชั้นดาวดึงส์ ได้ยินเสียงของพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชแล้วก็บันลือเสียงต่อไป เทวดาชั้นยามา ... เทวดาชั้นดุสิต ... เทวดาชั้นนิมมานรดี ... เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวดี ... เทวดาที่นับเนื่องในหมู่พรหม ได้ยินเสียงของพวก เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวดีแล้วก็บันลือเสียงต่อไปว่า นั่น พระธรรมจักรอันยอดเยี่ยม พระผู้มีพระภาคทรงประกาศให้เป็นไปแล้ว ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลกจะปฏิวัติไม่ได้ ชั่วขณะกาลครู่หนึ่งนั้น เสียงกระฉ่อนขึ้นไปจนถึงพรหมโลก ด้วยประการฉะนี้แล ทั้งหมื่นโลกธาตุนี้ได้หวั่นไหวสะเทือนสะท้าน ทั้งแสงสว่างอันยิ่งใหญ่หาประมาณมิได้ ได้ปรากฏแล้วในโลกล่วงเทวานุภาพของเทวดาทั้งหลาย ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงเปล่งพระอุทานว่า ท่านผู้เจริญโกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ท่านผู้เจริญโกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ เพราะเหตุนั้นคำว่า อัญญาโกณฑัญญะนี้ จึงได้เป็นชื่อของท่านพระโกณฑัญญะ ด้วยประการฉะนี้

    รุปสาระพระปฐมเทศนา พระพุทธเจ้าทรงแสดงถึงการประพฤติปฏิบัติที่สุดโต่งเกินไป 2 ประการ คือ การหมกมุ่นในกามคุณ (กามสุขัลลิกานุโยค) และการทรมานตนให้ลำบาก (อัตตกิลมถานุโยค) ไม่ควรปฏิบัติ และสิ่งที่ควรปฏิบัติ คือทางสายกลางที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา และแสดงอริยสัจ 4 ด้วยการหยั่งรู้อริยสัจ 4 อย่างละเอียด ทำให้พระองค์บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้าอย่างสมบูรณ์ ครั้นจบพระธรรมเทศนา โกณทัญญะได้พิจารณาตามพระธรรมเทศนา ก็เกิดธรรมจักษุ หรือดวงตาเห็นธรรมว่า
     
  2. mr.sanyalak sanyalak

    mr.sanyalak sanyalak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +182
    " อนุโมทนา สาธุ "
     
  3. นิรมิต

    นิรมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +171
    " อนุโมทนา สาธุ "
     
  4. มะลิ

    มะลิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +596
    ( -/|\-) อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  5. tassanai_k

    tassanai_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,518
    โมทนาด้วยครับ
     
  6. นิรมิต

    นิรมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +171
    ขออนุโมทนา สาธุ
     
  7. thank you

    thank you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +1,747
    ขอยกยองในความตั้งใจที่จะหาเรื่องดีๆมาให้ทุกๆคนได้ทราบกัน
    คุณรู้ตัวไหมว่าถ้าคุณบวชพระศึกษาธรรมจริงจังแล้วจะช่วยคนได้มากกว่านี้นะ
    ชมคุณจริงๆว่าหาเรื่องมาแต่ละเรื่องดีๆทั้งนั้น
    สาธุ
     
  8. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    อนุโมทนาครับ.......
     
  9. Seel

    Seel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,604
    สาธุครับ
     
  10. เส้นทางบุญ

    เส้นทางบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +156
    เตรียมเดินทาง..ตามรอยพุทธภูมิได้แล้ว

    มีหนังสือแนะนำนะ น่าสนได้รายและเอียดเบื้องต้นครบ..ทั้งไปเอง และให้คนอื่นพาไป...
    หนังสือ คู่มือสู่สังเวชนียสถาน...

    http://www.se-ed.com/shop/detail.aspx?iCode=9789749409787

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  11. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,595
    ค่าพลัง:
    +6,346
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...